« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 30, 2024, 11:59:02 »
แล้ว hardware ญี่ปุ่นละครับใช้อะไรทำไมหน่วง โบราณทุกรุ่นเลย
รถญี่ปุ่นเขาไม่สนตรงส่วนนี้ครับ เขาไปพัฒนาเรื่อง safty sense อะไรนั่นแทน ส่วนติดต่อคนขับ(UI) ทางยุ่นแมบไม่มองเลย เพิ่งมาใส่ใจในช่วงปีสองปีนี้เองครับ ซึ่งตามคนอื่นไม่ทันแล้ว และคิดว่าไม่มีแผนกนี้เป็นของตัวเอง อย่าง front ใน Camry ก็ให้ Pioneer พัฒนา ง่อยมาก
อย่าว่างั้นงี้เลย ปอเช่ก็ห่วย บัคกระจาย แฮงตลอด
ผมก็แอบเซ็งเหมือนกันว่าจะไปตามเทรนจีนทำไม ที่เอาทุกอย่างไปไว้ที่หน้าจอแล้วชูจุดขายจากรถเป็นเทคโนโลยีแทน ซึ่งค่ายรถไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา หรืออื่นๆที่ทำรถสันดาปมานานเขาไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย เขาคิดเรื่องการขับขี่ ความปลอดภัย ใช้งานได้ง่าย ทนทาน เอามือคลำๆก็รู้ว่ากดปุ่มนี้เป็นอะไรโดยที่ไม่ต้องละสายตาจากถนน เผลอๆไม่มีแผนก IT Inno ที่เอาไว้วิจัยหรือทำเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
กลายเป็นพอไม่ทำคนก็ไม่ซื้อ บอกจีนให้เทคโนโลยีเยอะกว่า กลายเป็นคุณจะซื้อรถหรือเทคโนโลยีกันแน่ แล้วถ้าระบบเกิดข้อผิดพลาดถ้าเป็นปุ่มเรายังพอจะทำอะไรได้บ้าง แต่ไปอยู่ในหน้าจอหมดเลย เอาง่ายๆแค่จอค้างขึ้นมาก็น่าจะทำอะไรไม่ได้แล้ว จะว่าหัวโบราณก็ได้นะ
เห็นด้วยครับ ผมไม่ชอบการที่เอาทุกอย่างไปยัดไว้ในจอ
ชอบการกด/หมุน ปุ่ม มากกว่า มันง่ายเร็ว และมี feedback เวลาเราปรับ ไม่ต้องกังวลว่า จิ้มตรงปุ่มไหม พวกจอนี้กว่าจะเล็งจิ้ม area เล็ก เข้าเมนู จิ้มต่ออีกสองสามครั้ง
ฝั่งญี่ปุ่นนี่พอเข้าใจ รถตลาดราคาไม่ได้สูงมาก เอาปุ่มออกใส่จอมันช่วยลดต้นทุนได้
แต่ไปฝั่งยุโรป Mercedes / BMW รวมถึง Porsche ก็เริ่มยัดจอใส่เข้าไป Interior Trim ก็เริ่มปรับจาก Texture / ลายไม้ อลูมินัม กลายเปน Gloss Black เข้ามา
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเราเป็นส่วนน้อยที่ไม่ชอบหรือเปล่า... หรือถ้ามองอีกมุมคือต้องเอาใจลูกค้าจีนด้วยเพราะทางนั้นกำลังซื้อก็สูงอยู่
ฝั่งญี่ปุ่นระบบพวกนี้มาช้ากว่าชาวบ้านอยู๋ประมาณ 1 Gen ถ้าเดาคือระบบมันถูก design ไว้ตั้งแต่เริ่มวิจัยตัวรถ
Tech / UI ที่ใช้มันคือยุคเดียวกับตอนที่รถเริ่มเปิด Project ซึ่งพอถึงเวลาขายจริงก็ผ่านไป 1-2 ปีแล้ว และมีรถจีนที่ทำเร็วเลยรู้สึกว่ามัน Outdated.