[apinui]

เป็นเรื่องคุยกันในลานจอดรถที่ทำงานผมอีกแล้วครับ ถ้าจะประหยัด ใช้งานทุกวัน เลือกรถใหม่ป้ายแดงเอาไปติด LPG หรือเลือก EV มาใช้ดี ....

ฝ่ายนึงเสนอว่า ซื้อป้ายแดงมาคันนึง Altis รุ่น 1.6 G ราคาป้ายแดง 894,000 บาท รวมแก็สแบบหัวฉีด+ถังโดนัท 4หมื่น ใช้งานทุกวันไม่ต้องแย่งที่ชาร์จ ประกันถูก อะไหล่หาง่ายสไตร์เจ้าตลาด ไม่ต้องกังวลเรื่องซ่อมใช้ได้ทั้งทางใกล้ทางไกล 

ฝ่ายนึงค้านมาว่า EV สิ ไม่ต้องไปดัดแปลงรถ ซื้อมาขับได้เลย ชาร์จบ้าน ถ้าเดินทางไกลก็วางแผน ส่วนเรื่องซ่อมเรื่องอะไหล่ ในอนาคตจะดีขึ้น ถ้าซื้อมาใช้ ภาพรวมยังไงก็ประหยัดกว่า

ก็เลยอยากความถามความเห็นเพื่อนๆครับ ถ้าต้องการประหยัดในภาพรวม หมายถึงภาพรวมจริงๆนะครับ ไม่ใช่แค่ประหยัดค่าเชื่อเพลิง แต่เป็นภาพรวมทั้งหมดของรถคันนึงที่เราต้องจ่าย ในรถยนต์ที่งบประมาณไม่เกิน 1 ล้าน

[Salmon]

ไฟฟ้าเอาไว้ใช้เป็นรถทำงาน ทุกวัน
น้ำมันหรือแก๊ส เอาไว้ออก ตจว ครับ

แต่ถ้ามีคันเดียวคิดว่าใช้แก๊สครับ
จากความเห็นของผมมีรถไฟฟ้าคันเดียวในบ้านมา 1 ปี แล้ว ขายรถน้ำมันออกหมดแล้ว

[kiwiwi]

ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเมื่อถึง 7ปี เวลาจะขายรถไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร
แต่รถแก๊สขายต่อได้ ถึงจะโดนกดราคา หรือจะใช้ต่อก็ใช้ได้ยาวๆโดยพิสูจน์​จาก Taxi แล้ว แต่รถไฟฟ้าล่ะ ใช้ต่ออาจจะได้ แต่เมื่อมันเริ่มพังล่ะ มีอะไหล่มั๊ย แพงมั๊ย มีคนซ่อมได้มั๊ย ยังเป็นคำถามที่น่าสนใจอยู่เลย

ถ้ามองไกลๆ บอกได้เลยว่ารถแก๊สคุ้มกว่าเยอะครับ

[Devil13]

เห็นมีบางกลุ่มเอา kick กับ hev ติดแก็ส อันนั้นสุดกว่า
เรื่องประหยัดคิดเป็นต่อกิโล / บาท ไฟฟ้าชนะเลิศ เพราะคิดแล้ววิ่ง 1 กิโลจ่ายไม่ถึง 1 บาท
แต่เรื่องอื่น ก็แล้วแต่จะคิด
รถไฟฟ้าต่อประกันชั้น 1แพงมากๆ แพงกว่ารถยุโรปบางคันอีก
ส่วนจะชอบแบบไหนก็ตามนั้นครับ ตั้งแต่มีข่าวรถบัสทัศนศึกษา ผมขออยู่ห่างๆรถแก๊สไว้ดีกว่า

[-Brian]

แก๊สคุ้มกว่าครับ

รถไฟฟ้าไม่ได้ประหยัดทั้งเงิน ไม่ประหยัดเวลาชีวิตอีกด้วยครับ

แต่ถ้าเงินเหลือ และมีรถในบ้านหลายคัน ไฟฟ้าก็ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานในเมืองดีครับ

[axister]

คิดรวมทุกอย่างในระยะเวลาเปลี่ยนแบตหลังหมดประกัน

แก๊สถูกกว่าเยอะครับ 3-4 เท่า หรืออาจจะมากกว่า

ระบบแก๊สนิ่งหรือไม่พัฒนาต่อ/พัฒนาน้อย ราคามันนิ่งแล้ว

ส่วนแบต มันอยู่ในช่วงพัฒนาแบบก้าวกระโดด อนาคตแบตจะถูกลง แต่พอเทียบกับเทคโนโลยีที่ขายปัจจุบัน แรงดันแบตมันเปลี่ยนแน่ๆ คงเอา tech อนาคตมาแทนตรงๆไม่ได้ครับ และยิ่งพัฒนาไวเท่าไหร่ แบตสเปคปัจจุบันก็จะถูกทิ้งร้าง ต่อให้อายุมันจะ 10ปี ++  แต่หลังจาก 10ปี มันก็ต้องเอาแบตสเปคเดิมมาใส่แทนครับ หรืออนาคตจะมีธุรกิจ restore แบตหรือเจ้าของค่ายรถยนต์จะทำ spec reburfish มาให้ก็อีกเรื่องนึง ตรงนี้ประเมินยากจริงๆครับ

แต่จากการก้าวกระโดดในหลายๆปีที่ผ่านมา ยากที่เค้าจะพัฒนาของเก่าเพื่อรถที่จะพังในอีก 10ปีข้างหน้า tesla เองยังไม่ขยับไป tech 800v แบบ cybertruck ใน model mass พวก tm3 tmY เลยครับ เพราะเวลายกเครื่องทีมันต้องไปทั้งระบบ สายไฟต้องปรับขนาดรองรับให้ได้ รวมถึงแรงดันแบตก็ต้อง support กัน บลาๆ อีก 108 เรื่องครับ

[punn]

ตามจขกทว่ามา ภาพรวมคือใช้รถโดยรวมนะครับ ไม่ได้ซื้อมาเพื่อขาย 

เทคโนฯรถ ev ตอนนี้ผมว่าเหมาะกับคนทำงานเป็นจุดๆ เดินทางไกลข้ามถิ่นบ้างเป็นครั้งคราวหรืออยู่ในจุดที่ใช้ประจำ
ถ้าไลฟ์สไตล์แบบนี้ผมว่า ev ประหยัดกว่า

รถน้ำมันติดแก๊สก็เหมาะกับคนเดินทางบ่อย กับใช้หลักๆในกรุงเทพ ปริมณฑล

คือถ้าใช้กิโลเท่ากันยังไงรถ ev มันก็ประหยัดกว่านะครับ
เพราะไม่ต้องเซอร์วิสส่วนของเหลวมากเท่ารถน้ำมันเข้าไปอีก

--------

ส่วนตัวใช้ทั้งรถติดแก๊สมาแล้วและยังใช้อยู่ กับรถ ev ก็ใช้ส่วนตัวอยู่
ปัญหา lpg คือต่างจังหวัดปั๊มเริ่มลดน้อยลงทุกวัน มันไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
กับแก๊สแพงกว่าในกรุงเทพด้วย แรงรถก็น้อยกว่าตอนใช้น้ำมัน(ถ้าจูนเน้นเอาประหยัด)
ต้องตรวจสภาพทุกปีแล้ว (จากเมื่อก่อน 5 ปีครั้ง) เสียเวลามาก ถังก็ต้องเปลี่ยนทุก 10 ปี(เหมือนจะยืดต่อได้)
แต่ตอนนี้ร้านที่รับตรวจบอกว่าเข้มขึ้นเยอะมาก

ไม่แน่ใจว่ารถใหม่พอติดแก๊สแล้วต้องตรวจสภาพแก๊สแน่ๆ
แล้วยังต้องไปตรวจสภาพรถหรือเปล่าในการต่อภาษีนะครับ?
(รถไม่เกิน 7 ปี ไม่ต้องตรวจสภาพ)

ส่วนรถ ev บ้านก็คือปั๊มใช้ทุกวันคือไม่ต้องเสียเวลากับปั๊มเลย
ราคาต่อให้ไม่ต้อง tou ก็ตกกิโลละบาท ถ้า tou ก็ 60 ตังค์ต่อกิโล
กับความแรงที่ให้ได้ทั้งปลอดภัยหรืออันตรายก็แล้วแต่คนขับ ซึ่งฟีลลิ่งนี้ถ้าคิดเป็นมูลค่าด้วย
มันเป็นอะไรที่เข้าแล้วออกยากครับ ฮา

[Tien.W]

ถ้า ..
- อยู่บ้านตัวเอง
- เป็นพนักงาน office เช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้าน ไม่นอกเส้นทาง
- ไม่ขับรถไป ตจว ชอบบินไปแล้วเช่ารถขับ

ผมว่า EV  คุ้ม เพราะจับชาร์จที่บ้านด้วย อย่างพวก dolphin นี่ ต้นทุน บาท / กม. ถูกกว่า มอไซค์แม่บ้านอีก ดังนั้น ผ่านไป 6 - 7 ปี ถ้าจะขาย เอาราคาซากมาบวก ผมว่า มันถูกกว่านะ

..............

แต่ถ้า รถคันเดียว วิ่งไปทั่ว ทำงานหลากหลายที่ ต้องหาลูกค้า ต้องไป ตจว. อยู่คอนโด แบบนี้ รถติดแก๊ส ดูจะคุ้มกว่าครับ

[frame@kk]

ด้วยความที่มีรถเดิม ผมใช้ Note เอาไว้รับส่งลูก ให้แฟนใช้วิ่งซื้อของตกวันละ  60 กินโล ค่าน้ำมันตก กิโลละ 2.5 - 2.75 บาท
คิดว่าจะซื้อ EV มาใช้ พอนั่งคำนวนดูแล้วมันจะตกกิโลละ 1 บาท แต่พอลองคำนวนค่า LPG มันดันตก 1.5 - 1.75 บาท
แต่ไม่ต้องเปลี่ยนรถ ค่าประกันเท่าเดิม ค่าซ่อมเพิ่มอีกนิดหน่อย ค่าอะไหล่ส่วนควบเท่าเดิม สรุปจบที่ LPG ครับ
น้ำมันเติมไว้เต็มถังเดือนนึงก็ไม่หมด เติมแต่แก๊สอย่างเดียว ส่วนตัวถ้าใช้ EV ก็ต้องติดที่ชาร์จเพิ่มที่บ้าน
ประกันชั้น 1 ตลอดเผื่ออุบัติเหตุ ใช้ชั้น 2 ไม่ได้แน่ๆ ค่ายางก็แพงกว่ากัน พอมองจุดคุ้มทุนที่ต้องลงทุน มันยังช้าไปสำหรับผมครับ
แต่ถ้าเป็นพวกรถตู้หรือรถครอบครัว อย่าง M6 อันนี้ก็น่าสนใจอยู่ครับ ที่เวลาจะใช้จะมีจุดหมายปลายทางที่จัดเจน สามารถวางแผนไปได้
ก็คงจะเป็นตัวเลือกในครั้งถัดไปที่จะซื้อรถเพิ่มครับ
ส่วนตัวคือถ้าต้องเพิ่มภาระในการผ่อนรถใหม่ เพื่อประหยัดขึ้นกิโลละ 2 บาทผมก็ยอมประหยัดน้อยหน่อยแล้วใช้คันเดิมต่อก่อนครับ

[DiKiBoyZ]

คิดจากค่าใช้จ่ายตามจริง ในราคาเท่าๆ กัน

็HR-V (ตัวก่อน e:HEV) กับ ATTO3

1. ราคารถพอกัน (จ่ายเหมือนกัน)
2. ราคาประกัน HR-V ถูกกว่า ATTO3 เกือบครึ่งต่อครึ่ง
3. ค่าใช้จ่าย Km/บาท ATTO3 ไม่ถึง บาท แต่ HR-V 2-3 บาท อันนี้ชัดเจน (เอา HR-V ไปติดแก็ส ก็ยัง บาทกว่าๆ อยู่เลย)
4. ค่าเชื้อเพลิง
    กรณีน้ำมัน ต่อครั้ง HR-V เติมน้ำมัน เกือบ 1,500 ต่อถัง วิ่งได้ 500km แต่ ATTO3 ชาร์จไฟที่บ้านเต็มไม่เกิน 400 บาท + 100 บาท(ชาร์จเพิ่ม) ถูกกว่า อยู่ดี
    กรณีเติมแก็ส LPG ราวๆ 800บาท ถัง 50 กว่าลิตร (ถ้า NGV ก็แพงกว่าไม่เกิน 200) ไฟฟ้า ก็ยังถูกกว่าอยู่ดี
5. ค่าบำรุงรักษา รถแก็ส ก็คือ รถน้ำมัน ก็ต้องเข้าศูนย์ ตามรอบ 6 เดือน หรือ 10,000km เฉลี่ยราวๆ 3,000 กว่าบาท (มีบางรอบ 5,000-6,000 พัน) ส่วน ATTO3 แรกๆ จะไม่เสีย(ถ้าไมล์ไม่เกิน แนวๆ เกินแล้วมีค่าปรับ 555) หลังๆ มีเสียบ้าง แต่ไม่ได้เยอะ(มีโดนตอดบ้าง) แต่รอบเช็คระยะทุกๆ 1 ปี(12 เดือน) ไม่ใช่ทุก 6 เดือน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ HR-V ก็เสียเยอะกว่า
6. ราคาขายต่อ แบบว่า ผ่านไป 7-10 ปี คิดว่า รถติดแก็ส จะราคาเท่าไหร่ครับ ผมว่าไม่ต่างจากรถ ไฟฟ้า เท่าไหร่นะ ถ้าอยากได้ราคาดีหน่อย น้ำมันล้วน ครับ อย่าติดแก็ส

***สรุป***

เอาเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายนะ ยังไงๆ BEV ก็ประหยัดกว่า ครับ ต่อให้ค่าประกันแพงกว่า แต่เอาค่าน้ำมัน ที่เติมแต่ละเดือน หยอดกระปุกไว้จ่ายค่าประกัน ยังมีเหลือในกระปุก เลย

ส่วน สำหรับบางคน คุ้มค่าไหม ดีไหม ตอบโจทย์ไหม เสียเวลาชีวิต(ในการชาร์จ) เยอะไหม ก็แล้วแต่ว่า แต่ละคนให้น้ำหนักเรื่องไหนมากกว่ากัน

ผมไม่ได้บอกว่า อะไรดี หรือ ไม่ดี แต่มาตอบตามสิ่งที่เจอมา และ ตอบตามคำถาม จขกท.

[PaPaMan]

ขึ้นอยู่กับบริบทการใช้งานของแต่ละคนครับ ถ้าใช้รถเยอะ ยังไง bev ก็ถูกกว่า


แต่ถ้าคุณใช้รถปีละประมาณ 10,000 โล ค่าน้ำมันที่จ่ายแพงกว่าค่าไฟฟ้าปีละ 2 หมื่นบาทเอาไปหักกลบกับค่าประกันรถ bev ได้เลย ซึ่งค่าประกันมันไม่ได้ลดลงตามระยะทางที่ใช้น้อยลงนะครับ มันยังต้องจ่ายเท่าๆเดิมอยู่ แบบนี้รถติดแก็สหรือรถน้ำมันจะคุ้มกว่าขึ้นมาทันที นี่ยังไม่นับตอนขายรถนะครับ


สรุปว่าในราคารถที่เท่าๆกัน รถไฟฟ้าจะคุ้มค่ากว่ารถน้ำมันก็ต่อเมื่อคุณใช้รถปีละ 30,000 โลขึ้นไปครับ

[nobody123]

เห็นด้วยและชอบเลข 30,000 กม. มากครับ (ย้ำจากความเข้าใจส่วนตัวนะครับ ผมว่าท่านก่อนหน้าเทียบรถน้ำมัน ไม่ได้เทียบรถแก๊ส)
เพิ่มเติมว่า กดยูทูปไปพบคนในสหรัฐ ใช้รถเจ้าดังสหรัฐ ปีละแสนกว่าโลได้ แบตเสื่อม จ่ายเอง (เพราะไม่ได้เสื่อมเพราะ Fault แต่เสื่อมเพราะไป DC charge บ่อย ๆ เงื่อนไขไม่คุ้มครอง)
ก็คือ ใช้ตามปกติของพี่ผิวสีเขา แล้วแบตเสื่อม แต่บริษํทไม่ให้เปลี่ยน

ก็ขอชื่นชม Volvo อีกละ กรณีเดียวกัน Volvo ให้เปลี่ยนแบตฟรี ครับ
(ต่ำกว่า 30% มีคนโดนละ เปลี่ยนฟรี ดีจัง)

เจ้าที่ดี ก็ชมนะครับ
เจ้าไม่ดี เช่น ไม่เปลี่ยนแบตให้ (ก็เห็นอยู่ว่าแบตเสื่อม หลายเจ้าด้วย ไม่อยากออกชื่อ) หรือออกแบบมาผิดแล้วส่งของผิดให้ถึงผู้บริโภค (หลายเจ้า ครอบครัวผมโดนไปแล้วเจ้านึง ฟอร์ดโฟกัส MkIII ของภรรยา บ่นอุบเลย ขายทิ้งสิครับ) ถึงตอนแรกชื่นชม วันหลังก็ต้องบอกความจริงกัน

[poomsira]

ถ้าเป็น Gas LPG - CO2 emissions ต่อ ก.ม. สูงที่สุด  carbon tax ใน phase แรกอาจจะไม่กระทบ แต่ในอนาคตน่าจะทำให้ราคา LPG แพงขึ้น

[XMSL]

เรื่องเปรียนเทียบค่าใช้จ่ายจริงๆน่าจะมีคนทำวิจัยอยู่เยอะนะครับ แต่ไม่เห็นใครนำมาเผยแพร่แบบเชิงวิชาการจริงๆ ส่วนเรื่องราคา LPG รมว.พลังงานกำลังทบทวนกฎหมายและราคาพลังงานทั้งแก๊สทั้งน้ำมัน ยังงัยก็เผื่อใจว่าราคา LPG สำหรับยานยนต์อาจจะไม่เหมือนเดิมด้วยนะครับ.

[GOBBS]

ตามข้างบนครับ
ตัวเลขที่ 3หมื่น กม. ต่อปีคือตัวแปรว่าจะไปไฟฟ้าหรือแก๊ส เคยลองคำนวนเล่นๆมาแล้วสรุปได้ตรงนี้ละ
อันนี้คิดที่ 10ปี คิดค่าประกัน ค่าดูแล ตรวจสภาพ กับตีรถไฟฟ้าเป็นขายซาก ตีรถแก๊สราคาตกตามจริงครับ
...............
ไม่คิดรวมเรื่องเวลาชาร์ท ความสะดวก นั่นนู่นี่นะครับ ใช้แก๊สเองบางย่านก็ไม่สะดวกเหมือนกันนะ

[helloweentz]

แก็ส จูนดีดี ซ่อมบำรุงน้อย  ประหยัดมาก แต่ความเสี่ยงเยอะกว่า

EV อย่างน้อยๆ 5 ปี ประหยัด ใช้แบบสบายใจ

คนละแบบครับ

[rtong]

ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเมื่อถึง 7ปี เวลาจะขายรถไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร
แต่รถแก๊สขายต่อได้ ถึงจะโดนกดราคา หรือจะใช้ต่อก็ใช้ได้ยาวๆโดยพิสูจน์​จาก Taxi แล้ว แต่รถไฟฟ้าล่ะ ใช้ต่ออาจจะได้ แต่เมื่อมันเริ่มพังล่ะ มีอะไหล่มั๊ย แพงมั๊ย มีคนซ่อมได้มั๊ย ยังเป็นคำถามที่น่าสนใจอยู่เลย

ถ้ามองไกลๆ บอกได้เลยว่ารถแก๊สคุ้มกว่าเยอะครับ

คิดเหมือนกัน ว่า ราคาขายต่อรถ EV ที่ร่วงหนักมาก  รวมถึงเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตและอุปกรณ์อื่นๆ
การที่บริษัทประกันภัยเริ่มไม่รับหรือต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงกว่า  สุดท้าย สิ่งที่ต้องจ่าย  เทียบกับค่าน้ำมันแล้ว  รถ EV น่าจะเจ็บตัวมากกว่า ไม่ประหยัดเงินในกระเป๋า

ถ้าจะซื้อรถยนต์  EV คงต้องเป็นคนที่รักษ์โลกจริงๆ

[Symphonic]

ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเมื่อถึง 7ปี เวลาจะขายรถไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร
แต่รถแก๊สขายต่อได้ ถึงจะโดนกดราคา หรือจะใช้ต่อก็ใช้ได้ยาวๆโดยพิสูจน์​จาก Taxi แล้ว แต่รถไฟฟ้าล่ะ ใช้ต่ออาจจะได้ แต่เมื่อมันเริ่มพังล่ะ มีอะไหล่มั๊ย แพงมั๊ย มีคนซ่อมได้มั๊ย ยังเป็นคำถามที่น่าสนใจอยู่เลย

ถ้ามองไกลๆ บอกได้เลยว่ารถแก๊สคุ้มกว่าเยอะครับ

คิดเหมือนกัน ว่า ราคาขายต่อรถ EV ที่ร่วงหนักมาก  รวมถึงเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตและอุปกรณ์อื่นๆ
การที่บริษัทประกันภัยเริ่มไม่รับหรือต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงกว่า  สุดท้าย สิ่งที่ต้องจ่าย  เทียบกับค่าน้ำมันแล้ว  รถ EV น่าจะเจ็บตัวมากกว่า ไม่ประหยัดเงินในกระเป๋า

ถ้าจะซื้อรถยนต์  EV คงต้องเป็นคนที่รักษ์โลกจริงๆ

จริงประเด็นนี้ผมเคยพูดเอาไว้ว่า การมองค่าใช้จ่ายหรือการเปรียบเทียบของรถ BEV นั่น
อย่าเอา Scenario ของรถ ICE เป็นตัวตั้งแลเวเทียบแค่ค่าพลังงานกับค่าบำรุงรักษาวัสดุสิ้นเปลือง
เพราะต้นทุนโสหุ้ย และ pattern ของค่าใช้จ่ายของรถทั้งสองแบบมันต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ

[sk-non]

ช่วงน้ำท่วมใหญ่ติด LPG กับ civic FD
ใช้ไป 2ปีกว่า ประมาณ 90,000 กม
สำหรับผมไม่คุ้มวิ่งน้อย
แรกๆ 11 กม/ลิตร หลังๆเหลือ 9กม/ลิตร
สิ่งที่ไม่ชอบ
อู่ให้เปลี่ยนกรองแก๊สทุก 20,000 กม
ผมลากไป 40,000 กม ค่อยเปลี่ยน
คือเช็คระยะปกติ กับไปอู่เปลี่ยนกรอง
เท่ากับว่าต้องเสียเวลาไปทำรถเพิ่มขึ้นอีก
แถมต้องไปหาที่ตั้งวาล์ว เพราะเริ่มกินแก๊ส
(ผมตั้งศูนย์ honda ขี้เกียจไปหา)
ผมเปิดมา ปะเก็นมีปัญหา เสียค่าปะเก็นอีก
มีค่าน้ำมันเลี้ยงถังเฉลี่ยเดือนละ 2-300 ไว้สตาร์ท
แรกมีไปจูนแก๊ส 2-3 ครั้ง เพราะรู้สึกมันสะอึกบางเกียร์
ตอนหลังซื้อสายจูน มาจูนเองเลย
หลังจากนั้นมีเครื่องยนต์ฉีดตรง เติม E20
ผมขับได้ 13-14 กม/ลิตรในเมือง
แล้วน้ำมันช่วงนั้น 20 กว่าบาท
เลิกใช้ LPG ไปเลย

ตอนนี้ใช้ ev เกือบ 70,000 กม
นอนในรถเปิดแอร์เฉลี่ยวันละ 1-2 ชม
รวมๆ ก็หลายร้อย ชม แล้ว

[เทียน]

ใช้รถเยอะแค่ไหน?

ถ้าเยอะมาก แก๊ซจะคุ้มกว่ามาก

ใช้น้อย ไฟฟ้าประหยัดได้มากกว่า

ผมใช้น้ำมันล้วน ยังคุ้มกว่าไฟฟ้าที่เสียแล้วต้องซ่อมเลย Model 3 ชุดระบายความร้อนเสียหมดไปแสนสอง ส่วนต่างที่ประหยัดมาหายหมด

[InBkk]

ผมเองก็ใช้ EV ถึง 2 คันนะ และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ใช้ EV แน่ๆ

แต่ถ้าให้ตอบคำถามว่า ต้องการประหยัดแบบภาพรวมจริงๆ ผมว่ารถเจ้าตลาดทนแก๊ส+LPG อาจจะประหยัดกว่า

[เนื้อน่องไม่หนัง]

ถ้ามีที่ชาร์จที่บ้าน ผมคิดว่า BEV น่าจะประหยัดกว่านะครับ ยิ่งถ้าวิ่ง 30k/ ปีด้วย
แต่อาจดู อย่างอื่นประกอบกันอีกเช่นว่าเดินไกลที่ต้องชาร์จนอกบ้านบ่อยไหม
ข้อดีอีกอย่างคือ การตอบสนองที่ดีกว่า ICE ครับ

ตัวผมเองชอบรถเดิมๆ ไม่แต่งไม่ทำอะไรกับรถ
พอใช้ LPG แล้วเริ่มมีปัญหา บางทีช่างประจำเขาจบงานให้เราไม่ได้ หลายๆครั้งเวลาใช้งานมันไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
แต่พอเปน BEV อย่างน้อยยังมีศูนย์บริการที่พอจะพึ่งได้อยู่

ถ้าต้องเดินทางไกลยาวๆบ่อยๆ หรือไม่มีที่ชาร์จของตัวเอง ผมจะไป Hybrid แทนครับ
ถ้ามีที่ชาร์จ และส่วนใหญ่วิ่งอยู่ในระยะที่กลับบ้านมาชาร์จได้ ผมจะไป BEV อาจเป็น Dolphin STD / EXT
ส่วน LPG/NGV ส่วนตัวผมขอเป็นตัวเลือกสุดท้ายครับ

[tOntrAnETY]

จาก ปสก ส่วนตัว ใช้รถ ติด LPG มา 2 คัน คันละ เกิน 100000km


แล้ว ปัจจุบัน มาใช้รถ EV  ต้องบอกว่า รถ EV ประหยัดกว่า ไม่เจอซ่อมจุกจิก
ตอนนี้ใช้มาเกิน 1 แสนโล นานละ ยังปกติเลย


โดยสรุป
ถ้าพูดถึง ในแง่ของการใช้พลังงาน EV ประหยัดกว่า ครับ ปัจจุบัน เติมไฟฟรีจาก Solarcell ทุกวันได้ด้วยครับ

[Auto]

ถ้ามีรถอยู่แล้วติดแก๊สคือประหยัด      แต่ถ้าซื้อรถไฟฟ้ามาแทนอันนี้ไม่ประหยัด
แต่ถ้าต้องซื้อรถใหม่  ซื้อรถมาติดแก๊สไม่ประหยัด  สู้ซื้อรถไฟฟ้าไปเลยไม่ได้อันนั้นประหยัดกว่า 

งงไหม

   คือถ้ามีรถใช้งานอยู่แล้วก็ต้องเอาไปติดแก๊สไม่ควรซื้อใหม่  เพราะราคาซื้อกับความประหยัดไม่ประหยัดแน่ ๆ   
   แต่ถ้าไม่มีรถใช้งานหรือต้องเปลี่ยนรถอยู่แล้ว  ก็เปลี่ยนไปซื้อรถไฟฟ้าเลยดีกว่า  แทนที่จะซื้อรถแบบอื่น