Volvo เป็นรถในฝันของผมตั้งแต่เด็กๆครับ
ผมค่อนข้าง "บ้า" แบรนด์นี้พอสมควร ตอนวัยรุ่นช่วงยี่สิบกลางๆ นี่ถึงขนาดว่ายอมบินไปสแกนดิเนเวียซ้ำๆ ถึง 3 รอบ
เพื่อที่จะไปเช่า Volvo XC60 , XC90 และ V90CC ขับ และเยี่ยมชม Volvo Museum ที่ Gothenburg
สุดท้ายเมื่ออะไรหลายๆอย่างพร้อม แน่นอนครับว่าผมเลือก Volvo XC60 เข้ามาเป็นสมาชิกในบ้าน
ผมอยู่กรุงเทพฯครับ
ปัจจุบันถ้าลองไล่ๆดู Volvo มีศูนย์บริการอยู่ที่
1. Wearnes หัวหมาก
2. Scandinavian รามอินทรา + บางนา
3. 14 พระราม2
4. พระนครสวีดิช วิภาวดี
5. GT วิทยุ
6. Newton ตลิ่งชัน
7. Merck พระราม3
8. MWONE บางบัวทอง (นับรวมให้ว่าเป็นกรุงเทพ)
ฟังดูแล้วเหมือนจะเยอะครอบคลุมพื้นที่กทม.ใช่ไหมครับ เมื่อเทียบกับปริมาณยอดขายรถวอลโว่ ที่อยู่ในกลุ่มกลางๆตารางเทียบกับแบรนด์ตะวันตกอื่นๆ
ทีนี้ลองมาฟังข้อเท็จจริงหลังจากที่ผมได้เข้ามาเป็น "ครอบครัววอลโว่" เกือบๆ 3 ปีดูนะครับ
ผมออกรถจากศูนย์ ก. เมื่อปี 2022 ครับ หลังจากออกรถได้ 5 เดือน ผมจับอาการได้ว่ารถมีเสียงกุกๆๆที่เบรคคู่หลังเมื่อชะลอเบรค ทนใช้ไปอยู่ประมาณอาทิตย์นึง
รู้สึกละว่าไม่ปกติ และไม่ปลอดภัยแน่ๆ ตัดสินใจเรียกรถสไลด์ยกไปส่งที่ ศูนย์ ก. ช่างได้ทำการถอดล้อมาดูแล้วขัดๆจานเบรคก่อนบอกว่า "ปกติ"
ผมเอารถกลับไปใช้อีกพักใหญ่ๆ ก็ยังคงมีเสียงกุกๆๆ เบาๆ ครางๆ เมื่อชะลอเบรค โผล่มาเป็นระยะๆ จนนานวันเข้า แทนที่จะชินมันกลับยิ่งเพิ่มความรำคาญ
ผมโทรไปที่ ศูนย์ ก. อีกครั้งนึง เพื่อต้องการ "ทำนัด" เข้าเช็คอาการ
ช่างจาก ศูนย์ ก. แจ้งว่า คิวในการเข้ารับบริการนั้นประมาณ 6 สัปดาห์
.
.
ครับ ให้รอ 6 สัปดาห์ กับเรื่อง "เบรค" ที่เป็นหนึ่งในความปลอดภัยสำคัญที่สุดของรถ
.
.
ผมไม่รอครับ หาข้อมูลศูนย์อื่นๆในพื้นที่ กทม. ก็เลือกที่จะติดต่อ ศูนย์ ข. ไป เล่าอาการให้เสร็จสรรพ
ช่างจาก ศูนย์ ข. บอกว่า อาการนี้ค่อนข้างสำคัญ ให้ผมเอารถเข้าไปเลยจะช่วยลัดคิวดูให้อย่างด่วน
ผลปรากฎว่า รถผมผ้าเบรคแตกครับ ร่อนเป็นแผ่นๆเลย คือเพียงคุณถอดล้อ ถอดผ้าเบรคออกมาก็เจอสาเหตุละ
.
.
Volvo ศูนย์ ข. เคลมเปลี่ยนผ้าเบรคคู่หลังให้ผมครับ โดยผ้าเบรคเดิมที่เป็นปัญหานั้นเป็น part ที่ Made in China (นี่พูดจริงไม่ได้บุลลี่)
ใครที่ใช้ XC60 ลองไปก้มดูผ้าเบรคหลังรถตัวเองดูนะ ว่าจริงมั้ย
แต่ผ้าเบรคใหม่ที่ผมได้เปลี่ยนมานั้นเป็น part Made in Italy
ช่างจาก ศูนย์ ข. แจ้งว่า อาการผ้าเบรคติดรถบวมเมื่อเจอความชื้น แล้วแตกร่อน เป็นอาการประจำของรุ่นนี้
.
.
ผมฟังก็เคืองนะ เคืองแรกคือ น่าแปลกที่ศูนย์แรกหาไม่เจอ และ จบการรักษาด้วยคำพูดว่า "ปกติ"
เคืองที่สองคือ ในเมื่อวอลโว่รู้ทั้งรู้ว่าไอ้ของติดรถมามันเป็นปัญหา ทำไมไม่recallรถกลับไปแก้ไข
ผมได้ทำจดหมายร้องเรียนไปยังวอลโว่ประเทศไทย รวมถึงร้องเรียนศูนย์ ก. ก็ไม่ได้คำตอบอะไรนอกจากต่อสายให้ช่างของศูนย์โทรมาขอโทษ
และชี้แจงว่า เราจะเปลี่ยนให้ก็ต่อเมื่อรถคันนั้นๆมีปัญหาแต่ไม่สามารถ recall ได้ทั้งหมด
ผมได้ลองปรึกษาทนายดูว่าสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้บ้างมั้ย แต่ก็ถูกผู้ใหญ่ในบ้าน "ยั้ง" มา เพราะเกรงว่าเรายังใช้รถแบรนด์เขาอยู่
อ่ะ เรื่องนี้ก็ถือว่าจบไป แต่ผมก็ไม่กลับไปเหยียบศูนย์ ก. อีก
.
.
รถผมมี VPSP 5-5-5 ครับ มันก็อุ่นใจนะ เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักๆเลยแหละที่ผมเลือกวอลโว่
ผมรู้สึกว่า "บุคคลิก" ของกลุ่มผู้ใช้รถยี่ห้อนี้ค่อนข้าง Unique ดี คือมันไม่เหมือนผู้ใช้ Mercedes-Benz หรือ BMW
บรรยากาศในโชว์รูม รวมไปถึงปฏิสัมพันธ์ของพนักงานขายมันก็ต่างกับสองค่ายเยอรมัน
อันนี้ที่รู้เพราะว่า ผมมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม เยี่ยมเยียน ค่ายเยอรมันอยู่บ้างตอนที่จะตัดสินใจซื้อรถ
.
.
วันนี้รถผมก็จะเข้าปีที่3ละ กับเลขไมล์ 20,000 กิโลเมตร ถือว่าวิ่งน้อยมาก
แต่มันก็มีปัญหาครับ
.
.
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รถผมมีอาการไฟท้ายค้างครับ
คือปกติเมื่อเราปลดล้อครถเนี่ย ไฟ Daytime ทั้งหน้าและหลังจะติดอยู่ประมาณ 1 นาทีแล้วดับไป
แต่รถผมนั้นเจ้าไฟท้ายติดอยู่เป็นวันเลยครับ ค้างอยู่แบบนั้นแหละจนพ่อบ้านผมทนไม่ไหว เลยมาแจ้งผม เออ..ผมก็เพิ่งสังเกต
ลองล้อครถ กระจกมองข้างก็พับเรียบร้อย แต่ไฟท้ายก็ไม่ดับ
ปลดล้อคด้วยแอพ ปลดล้อคด้วยรีโมท ปลดล้อคด้วย Keyless ยังไงก็ไม่ดับ
ต้องติดเครื่องแล้วดับเครื่องลงรถล้อคประตูมันถึงจะยอมดับให้
อาการนี้ไม่ได้เป็นทุกครั้ง แต่เป็นหลายครั้ง เป็นจนระแวง เป็นจนถ่ายรูปเป็นไทม์ไลน์ได้เลย
.
.
ผมได้ติดต่อ ศูนย์ ข. เพื่อขอเอารถเข้าไปเช็ค ปรากฎว่าต้องรอคิวประมาณ 2 สัปดาห์ครับ
ผมไม่รอ ผมรู้สึกว่าเฮ้ย...รถมันเกิดปัญหานะ จะให้รอ 2 สัปดาห์ แล้วถ้าไฟมันหมด มันช้อต มันจะไม่ยิ่งไปกันใหญ่หรอ!?
เลยตัดสินใจ walk in เอารถเข้าไปเลยครับ คือทำใจไว้แล้วตั้งแต่ก่อนไปว่า ยังไงก็คงต้องทิ้งรถไว้แน่ๆ เพราะเราเป็นเคส walk in
.
.
ปรากฎว่า ช่างจากศูนย์ ข. บอกว่าได้เช็ค error code แล้วไม่พบข้อผิดปกติใดๆ และได้วินิจฉัยเบื้องต้นว่า เป็นที่ผมไม่ได้อัพเดตซอฟต์แวร์ครับ
ช่างเลยจัดการอัพเดตซอฟแวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด โดยให้ผมนั่งรอประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วเอารถกลับบ้านได้เลย
ผมก็อ่ะ...ตามนั้น รู้สึกตัวเองโง่และตื่นตูมพอสมควร
.
.
แต่...ที่สุดแล้วอาการมันก็ไม่หายครับ เป็นเหมือนเดิมทุกประการ แน่นอนครับ ปัญหาไม่ใช่เรื่องซอฟต์แวร์ละ
ผมค่อนข้างหัวเสียพอสมควรเลย เพราะจากบ้านผมไปที่ ศูนย์ ข. นั้นไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะ
จริงๆแล้วบ้านผมอยู่ใกล้ศูนย์ ค. ในระยะที่ "เดิน" ถึงภายใน 10 นาที แต่ผมรู้สึกดีกับ ศูนย์ ข. เลยเลือกจะเดินทางไป
มันเสียเวลา เสียความรู้สึก และที่สำคัญ เสียความมั่นใจในรถและในศูนย์อ่ะ
.
.
.
ประเด็นแรก เป็นประเด็นที่ผมคาใจมากๆ คือ "ขอบเขตความสามารถในการให้บริการที่ดี" ของศูนย์วอลโว่นี่มันเพียงพอต่อจำนวนรถที่ขายออกไปหรือเปล่า???
อย่างเคสศูนย์ ก. ที่ให้ผมรอคิวเข้าตรวจเช็คนานถึง 6 สัปดาห์ กับปัญหาในเรื่องของ "เบรค" นี่ผมว่ามัน bud-sop มากเลยนะ
ถ้าจะให้เปรียบเทียบ มันเหมือนกับผมจ่ายเงินซื้อบริการที่ดีและสะดวกสบายพร้อมความน่าเชื่อถือทางการแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพ
แต่พอเวลาเจ็บป่วยมา ผมได้รับบริการแบบโรงพยาบาลเลิดสิน หรือ ราชวิถีอ่ะ
คือ...กรูจะตายอยู่แล้ว ยังต้องให้พ่อให้แม่ให้น้องแหกตาไปรับบัตรคิวตอนตี5 แล้วนอนรอบนเปลหรือสลบพิงผนังบนรถเข็นรอหมอมาตรวจตอนเที่ยง
นี่คือสิ่งที่ผมควรได้รับจริงๆหรอ?
.
.
ประเด็นที่สอง คือ เรื่องความสามารถในการวิเคราะห์อาการของศูนย์บริการ
ถามจริงๆนะ ช่างมีความชำนาญในการวิเคราะห์อาการรถขนาดไหน? ก่อนจะปล่อยลงงานนี่ผ่านการอบรมมากี่ชั่วโมง? อัพเดตความรู้หรือเทรนนิ่งทุกๆกี่เดือน?
หรือทุกอย่างยึดโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ไปเสียหมด?
คือ การที่เอารถไปเข้าศูนย์แล้วโบ้ยไปที่ซอฟต์แวร์ไม่ได้อัพเดต มันไม่ต่างกับการที่ไปหาหมอแล้วให้พารามากินอ่ะครับ
นี่ผมยังไม่รู้เลยเนี่ยว่าต้องวิ่งไปกลับศูนย์อีกกี่รอบ ปลง
.
.
แล้วนี่รถอายุแค่ 3 ปีนะ เลขไมล์ 20,000 กิโลเมตรเองนะ ยังเจอเหตุการณ์เสียจุกจิกแบบนี้
แล้วถ้ารถหมด VPSP ไม่หายนะเลยหรอ
ผมเคยตั้งกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการวางแผนอนาคตของเจ้ารถคันนี้
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=88885.msg1529097#msg1529097ตอนนี้ใจผมกว่า 50% ค่อนข้างมั่นใจว่าจะปิดจบงวดผ่อน สักประมาณงวดที่ 52/60 แล้วชิงขายตอนที่มี VPSP ดีกว่า น่าจะสวยสุด
ปวดตับ ปวดไต ปวดใจ จริงๆ
.
.
ผมหล่ะสงสัยจริงๆ รถสวีเดน รถเยอรมัน ที่วิ่งเป็นแท้กซี่กันเกลื่อนยุโรป รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์
ทำไมมันถึกมันทนจังเลย ทำไมพอมาอยู่บ้านเรานี่มันป่วยกระเสาะกระแสะ ไม่เข้าใจจริงๆ