« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2024, 10:44:43 »
ตามคห.ท่านอื่นๆว่ามา เหตุการณ์ทุกอย่าง ถ้าไม่มีการผ่านหูผ่านตามา เวลาเกิดขึ้นจริง รอดยากครับ
ขึ้นเครื่องบิน ยังมีการสาธิตการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยและวิธีการปฏิบัติเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน
ผมว่า ก.คมนาคม หรือค่ายรถ หรือแม้แต่บ.ประกันภัย น่าจะบรรจุเรื่องพวกนี้ไว้ในการอบรมหรือส่งมอบรถนะครับ
ยากครับ
จริงๆ เรื่องเครื่องบิน มันเฉยๆ มากๆ เพราะถ้าเครื่องบนตก หรือ มีปัญหาจริงๆ คนที่จะช่วยคุณได้ มีแค่กัปตันเท่านั้น ผู้โดยสารมีหน้าที่แค่เฉยๆ ไว้ ทำตามเขาบอก
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ ที่ตัวเองขับ ตัวเองเท่านั้น ที่จะเอาตัวรอดให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม แถม ณ สถานการณ์จริง ไม่รู้ว่ารถมันจะพริก ตะแคง กลิ้ง หรือ โดนอัดจากน้ำ ไปทิศทางไหนอีก
มันเหมือน ต้อง แก้ไขหน้างานเลย ใครมีสติสูงที่สุด คือ รอด (ถ้าไม่รวมเรื่องโชค)
#ผมแชร์ประสบการณ์ตรง#
ผมเคยอยู่บนรถทัวร์ที่คว้ำ พริกตะแคง อยู่กลางถนน ท้ายรถพาดอยู่บนสะพาน ระหว่างเส้นทาง ขอนแก่น->อุบลฯ
จังหวะนั้น ผมคิดได้อย่างเดียว คือ ออกจากรถให้ได้ และ ด้วยที่มองลงไป มีพื้นที่ตรงเท้า (รถตะแคง เราจะเหยียบบนหน้าต่าง) เพราะรถพาดอยู่บนสะพาน
และด้วยกระจกที่ร้าว ผมกระทืบกระจกออก (เพราะไม่มีฆ้อนตีกระจก) โดยใช้ซองฟิล์มเอ็กเรย์(ที่ผมไปรับที่ รพ.แห่งหนึ่ง) รองตรงเท้า แล้วกระทืบๆ จนแตก (มีเสียงบางคนตะโกนมาว่า อย่าทุบกระจก)
จนสุดท้าย ผมก็มุดออกมาตรงรูที่ทุบกระจกออกนั้นละ ถึงรอดมาได้
ถ้าโชคร้ายสุดๆ รถตกสะพาน คงหนักกว่านี้เยอะครับ