« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2025, 23:15:23 »
วันนี้มีเรื่องเล่าชาวสันดาป ให้ได้ปวดหัวและถกเถียงในสังคม ลุงและวัยรุ่นรถคันแรกคุยกันในลานจอดรถอีกแล้วครับ
เข้าเรื่องเลยละกัน ... เมื่อหลายวันก่อน รุ่นน้องที่ทำงาน ชวนปรึกษาว่า จะเอา Civic 1.5T ไปจูนสำนักไหนดี สัก 200 แรงม้า
ผมถาม ... จูนอย่างเดียวหรือทำอย่างอื่นเพิ่มด้วย ..
น้องบอก จูนอย่างเดียว อาจเปลี่ยนปลายท่อ และกรองอากาศด้วย
ผมบอก ถ้าใส่ 2 อย่างนี้ก็แรงขึ้นแล้วไม่ต้องไปจูนมันหรอก รถอายุสั้นเปล่าๆ ...
เท่านั้นละครับ คำถามมา
- มันอายุสั้นยังไงพี่ จูนเพิ่ม มันก็แรงเพิ่ม จาก 178ม้า เป็น 200-220ม้า จูนเนอร์เก่งๆเค้าก็ทำกันไม่เห็นพัง
ผมถามกลับ "เอ็งรู้จักค่า safety factor ไหม" มันทำหน้า งง ??
ผมอธิบายต่อ ... เครื่องยนต์รถยนต์ทุกรุ่นเค้าจะมี safety factor ไว้เพื่อให้มันสามารถใช้งานได้ยาวนาน เช่น เครื่อง 1.5T เนี่ย ฮอนด้าเค้าก็ทำได้ 200ม้า ออกมาจากโรงงาน แต่เค้าปล่อยให้ใช้แค่ 178 ก็เพราะมันต้องเผื่อการใช้งานที่ยาวนาน คงทน เค้าเลยจูนให้มันออกมาสู่มือลูกค้าเท่านี้ ดู accord สิ เครื่องตัวเดียวกันทำไมมัน 190ม้าล่ะ
ส่วนจูนเนอร์ที่เค้าจูนๆกันน่ะ มันไม่สนว่ารถเราจะพังๆไหม มันก็จูนปลดลิมิตให้เครื่องยนต์มันเค้นเต็ม 100% ที่ได้มาคือแรงม้า ที่ตามมาคือมันสึกหลอเยอะ
ดังนั้น ไอ้ที่เอารถไปจูน ขยายแค่ไอดีไอเสีย นั่งดีดนิ้วในคอมฯไม่กี่ที โชว์กราฟแรงม้ากันน่ะ มันไม่ได้เก่งอะไรหรอก มันแค่ไปปลดลิมิตของรถที่โรงงานเค้าตั้งไว้แค่นั้น
มันทำหน้างง แบบไม่ยอมรับ และเถียงต่อ เครื่องดีเซลเค้าจูดเพิ่มกันเป็น 100 ม้าเลยนะพี่ ผมก็บอก ก็มันปลดลิมิตเหมือนกันนั่นแหละ เพิ่มบูส เพิ่มน้ำมัน เครื่องดีเซลแม่งมีแค่นี้ใครจูนก็แรงทั้งนั้นแหละ สุดท้ายเป็นไง ยกก็แพ้ แช่ก็พัง รถเดิมขับถึงบ้าน รถจูน พังอยู่ข้างทาง
สุดท้ายผมบอกเค้าไปว่า ใส่กรอง เปลี่ยนท่อ แค่นี้พอแล้วไปจูน 2-3หมื่น เสียดายเงิน ที่มีอยู่เหยียบสุดหรือยัง
......
เล่าจบแล้ว เพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรกับการจูนรถครับว่า มันคือการปลดลิมิต หรือปลดค่า safety factor ของเครื่อง มันไม่ได้พิเศษอะไรเลย
แลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ
