โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ รถอายุเท่าไหร่ที่เหมาะสมกับการอุดหนุนและนำรถไปทำลาย ครับ

e:smart Hybrid

สำหรับผม ผมมองว่าอายุรถที่เหมาะสม ควรจะเป็นรถที่อายุเกิน 20 ปีครับ และเป็นรถในยุคก่อน Euro 4 ครับ (0 Euro 1-3) และรถสาธารณะ เช่น Taxi รถบัส อายุ 10 ปีขึ้นไป

ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่เอารถอายุ 10 ปีไปทำลาย เพราะอย่างใน ตปท. เช่น ออสเตรเลีย เขาก็ใช้รถกันจนถึง 15 ปีกันเลยครับ ซึ่งถ้าเทียบปีนี้ ก็ เช่น นิสสัน มาร์ช

คิดอย่างไรกันครับ

https://www.headlightmag.com/Cash-For-Clunke612/

ในเมกา เมื่อ 16 ปีที่แล้วครับบ



เนื้อน่องไม่หนัง

ผมเห็นข่าวแต่ยังไม่ได้ดูเลยครับว่ารายละเอียดของ แนวคิดต้องการอะไร เข้าใจว่าหลักๆคือช่วย ผู้ผลิตรถยนต์ในไทย..
เอาจริงๆไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร่กับการอุ้มผู้ผลิต ที่ผ่านมาก็รุ้สึกว่าอุ้มมาเยอะมากแล้ว อุ้มจนพอเจอเศรษฐกิจ+ รถจีนดี ก็เลยลำบากเลย

ประชากรก็ไมไ่ด้มีรายได้ขนาดที่จะออกรถใหม่ได้ ยิ่งเศรษฐกินแบบนี้ สินเชื่อปล่อยยากขึ้น ควรสนันบสนุนให้คนออมเงินและเตรียมตัวรับแรงกระแทกดีกว่า

Cash for Clunkers ใน US จุดประสงค์หลักน่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจครับ และลดการใช้น้ำมันเพราะเป็นช่วงน้ำมันแพงด้วย
ก่อนหน้านั้น US ก็ชอบรถเครื่องโต SUV/Pickup/Minivan น่าจะใส่เครื่อง 3.5 v6 เป็นตัวเริ่มต้น ซึ่งมันซดแหลกลาน
ตลาดรถมือสองใน US ก็ราคาไม่ดี (อะไหล่ไม่แพง แต่ค่าแรงแพง)
ในตอนนั้นกลายเป็นขายดีขึ้นเพราะคนไปซื้อรถมือสองเก่าๆราคาถูกๆ เพื่อมาเอาเป็นส่วนลด รถใหม่แทน

ซึ่งในไทย รถมือสอง ราคาค่อนข้างสูง อาจเพราะคนซื้อรถป้ายแดงไม่ไหวมีเยอะ ตลาดมือสองเลยราคาดีอยู่ ถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นได้ คือรัฐต้องชดเชยหนักกว่าปล่อยเต้น
ผมคิดว่าไม่คุ้มครับ แทนที่จะเอามาแยกอะไหล่ สร้างเม็ดเงินเล็กๆน้อยๆได้บ้าง กลายเป็นต้องทำลายทิ้งแทน



helloweentz

รถ 10 ปี บางคัน ยังใหม่ๆ เพราะดูแลดี

ใช้เงื่อนไข รถ 15 ปี ขึ้นไป และ ค่ามลพิษสูตรกว่าค่ามาตรฐาน จะดี
BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ



punn

จริงๆประเด็นเรื่องอายุรถสำหรับ user คือเรื่องรอง
มันอยู่ที่ราคากลางของรถรุ่นนั้นๆ ถ้ามันจูงใจเหมาะสม user ก็ยินดีเปลี่ยนด้วยตัวเองอยู่แล้ว

คิดว่ารัฐบาลปัจจุบันนี้อ้างอิงประชาชน ไม่น่ามีข้อลงโทษสำหรับรถเก่าโผล่ขึ้นมาเหมือนในต่างประเทศ

ต่อให้จูงใจยังไงให้ซื้อถ้าราคาไม่ได้ user ก็ไม่เปลี่ยนอยู่ดี
และดูจากการลดกำไรของผู้ผลิต ก็น่าจะได้แค่ไม่เกินแสนนึงคือราคากลางแลกเปลี่ยนรถใหม่

ประเด็นคือแสนบวกลบคันไหนของแต่ละท่านที่คิดว่าเหมาะสมจะเปลี่ยนเป็นคันใหม่?

---------

อีกประเด็นคือกลัวจะทำราคาเหมือนรถจีน สงสัยรถที่กำลังจะออกโมเดลใหม่ ไม่รู้เลยนะครับว่ารุ่นไหน
ถ้าทางผู้ขายยอมลดกำไรสักแสน แล้วรัฐบาลอุดหนุนอีกแสน นี่น่าจะเป็นกลไกที่อาจจะเตรียมไว้

แต่ก็จะทำให้ราคารถใหม่ที่จะเปิดตัวแพงขึ้นล่วงหน้า เพื่อเตรียมหักลดราคาส่วนนี้
พอแคมเปญนี้หมดก็มาลดราคาทีหลังตรงๆ แบบรถจีนช่วงแรก ที่ตั้งราคาแพงเผื่อเอาไว้แล้ว  :-X

---------

กลับมาประเด็นจขกท ผมก็คิดว่าประมาณ 15 ถึง 20 ปีขึ้นไป ในทางประกันรถพวกรถตลาดทุนก็ได้ประมาณแสนอยู่แล้ว
ถ้ามีแคมเปญแนวๆนี้ก็จะจูงใจให้อยากเปลี่ยนมากขึ้นครับ
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ



Stp

ส่วนตัวมองประมาณ 15 ปี หรือ 200,000 กม. ขึ้นไป
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D



REX

ผมไม่รู้คนในรัฐบาล ที่จุดประกายความคิดนี้ออกมา
เป้าหมายคือ อะไร
1. กระตุ้นตลาด เพื่อให้ การซื้อขายรถยนต์ ที่ซบเซา กลับมาคึกคัก
2. แก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศ

ถ้าเพื่อโจทย์ข้อแรก
ปัญหามันคือ คนไทยจนลง ต่างชาติแย่งอาชีพคนไทย ของราคาถูกจากจีน ตีตลาดทาง online
แบงค์ก็ไม่กล้าปล่อยกู้ การดาวท์ รถใหม่ก็ลดลง
- การกระตุ้นให้คนเปลี่ยนรถ เงินที่เหลือแค่นี้ จะไหลออกไปรถใหม่อีก  ตลาดอื่นก็จะซบลงมากขึ้น เซียงกง ร้านซ่อมรถเก่า เตรียมพัง
- ไม่น่าแก้ไขตรงจุด

ถ้าหวังแก้ข้อ 2
มาตราการที่ เสียเงินชาวบ้านน้อยสุด เช่น
รถกระบะแต่งซิ่ง รถที่เก่าจนเห็นว่าพ่นควันท่อไอเสีย
ยังไม่เริ่มทำอันดับแรกเลย  เหมือนจะข้ามขั้น ลำดับการแก้ไขปัญหา



TJA

สงสัยรัฐบาลนี้กลัวหนี้ครัวเรือนจะลด



PaPaMan

ไม่สมควรทำครับ เพราะรถที่คนใช้อยู่ทุกวันนี้คุณบอกเค้าหรือป่าวว่าใช้ได้กี่ปี แล้วคุณเก็บภาษีเค้าไปเท่าไหร่ ราคารถบ้านเราเทียบกับประเทศอื่นแพงกว่าเค้าเท่าไหร่ ดังนั้นคนไทยจึงใช้รถกันยาวนาน


เห็นด้วยครับที่จะกำหนดอายุการใช้งานรถ แต่คุณต้องปรับโครงสร้างภาษีใหม่นะ เอาให้ถูกแบบต่างประเทศแล้วบอกไปเลยว่าต่อไปนี้รถที่จดทะเบียนใหม่จะมีอายุการใช้งานกี่ปี (คิดว่า 15 ปีกำลังดี) ถ้าจะใช้นานกว่านั้นก็ได้แต่โดนภาษีหนักและห้ามวิ่งในเขตเมืองอะไรแบบนี้


ทีนี้ถ้าราคารถใหม่มันไม่มีภาษีหยุมหยิม และไม่ได้มองว่ารถยนต์เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย (ยกเว้นรถบางประเภท) คนทั่วไปก็อยากจะเปลี่ยนรถใหม่ด้วยความเต็มใจกันเมื่อครบอายุ


อย่าเอาอายุรถอย่างเดียวมาอ้างว่าปล่อยมลพิษเยอะ ต้องดูบริบทอย่างอื่นด้วย เช่นการบำรุงรักษา บางคนใช้รถน้อย ปีนึงวิ่ง 5,000 โล ถามว่ามันจะปล่อยมลพิษมากกว่ารถใหม่ๆที่วิ่งปีละ 20,000 โลเหรอครับ


แล้วทีนี้ก็ต้องมาหาทางอุ้มบรรดาอู่ซ่อมรถต่ออีกล่ะ...


ปล. เบื่อนักการเมือง ... วันๆทำแต่เรื่อง ...  :-\ :-\



apinui

พึ่งไปดูรายละเอียด ก็ มุมนึงเห็นด้วยมากครับ แต่มันควรต้องปรับเรื่องของภาษีเพิ่มด้วยนะ

ไม่แน่ใจว่าต่างประเทศการต่อภาษีรถใหม่จะถูก แต่จะแพงขึ้นเรื่อยๆถ้ารถมีอายุเยอะขึ้น ... ตรงนี้ควรทำมากกว่า

ไม่ต้องไปแลกอะไรหรอก ถ้ายิ่งเก่าภาษียิ่งแพง ประชาชนก็จะหาทางเปลี่ยนรถเองนั่นแหละเพราะ มันจะเริ่มไม่คุ้มกับการใช้งานแล้ว ไหนจะต้องซ่อม และภาษีที่แพงขึ้นอีก

และก็อายุที่เหมาะสมก็ 15 ปีขึ้นไปกำลังดี

ปรับภาษีรถใหม่ให้ถูกลง คนจะซื้อแต่รถใหม่ๆใช้เอง ถ้ายิ่งเก่าค่าใช้จ่ายยิ่งสูง ประชาชนก็จะขายทิ้งเองแหละ ไม่ต้องไปออกโปรอะไรให้วุ่นวายหรอก



Symphonic

อายุเป็นเพียงตัวเลข เคยได้ยินมั้ยครับ

ไม่เห็นด้วยอย่างแรงที่จะไปจำกัดอายุรถ

ให้ไปเข้มงวดเรื่องตรวจสภาพดีกว่าครับ

ตรวจจริงจังเข้มงวด สิ่งที่จะได้คือ ความปลอดภัยบนถนน และมลพิษที่ลดลง
เข้มงวดเรื่องตรวจสภาพ บังคับให้ปรับปรุงแก้ไขก่อนต่อทะเบียน รถสภาพแย่ๆ
ที่เจ้าของจ่ายค่าซ่อมไม่ไหวก็จะถูกทิ้งเอง

ถ้าไปจำกัดอายุรถแบบทื่อๆ สิ่งที่จะเกิดคือ

 คนจะไม่เอารถไปจดทะเบียน ลากป้ายแดงใช้มันไป 4-5 ปี

จริงมั้ย

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าสมมุติว่ากำหนดอายุรถไว้ 10 ปี 
รถใครที่อายุ 8-9 ปี ก็จะเริ่มไม่ซ่อมกันแล้ว
สภาพเน่า ไฟติดๆ ดับๆ ควันดำ ก็ถูลู่ถูกังใช้มันไป
จะเสียเงินซ่อมมันไปทำไมในเมื่อมันจะใช้ได้อีกแค่ปี สองปีน่ะครับ

ปล. อ้างถึงกรณีญี่ปุ่น
Fact คือ เขาไม่ได้จำกัดอายุรถนะ  ภาษีรถเก่าก็ไม่ได้แพงขึ้นด้วย
แต่เขาเข้มงวดเรื่องตรวจสภาพ ตรวจจริงจัง เกณฑ์การตรวจสูง
รถเก่า สภาพไม่ดีจะไม่ผ่านเกณฑ์หลายข้อ ค่าซ่อมแซมให้ผ่านเกณฑ์
ก็จะสูงขึ้นตามสภาพรถ  พอไม่คุ้มค่าซ่อมก็จะทิ้งคันเก่า ไปซื้อคันใหม่กันเองครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 02, 2025, 16:21:01 โดย Symphonic »



I'm Ti

ซื้อรถใหม่ กับ เบิก Catalytic ใหม่ 20,000 กว่าบาท ผมยอมเบิกใหม่ดีกว่า  ;D



เนื้อน่องไม่หนัง

ถ้าอยากคุมมลพิษ
เห็นด้วยว่าควรตรวจสภาพให้เข้มข้นกว่านี้ครับ
ตรวจมลมลพิษ ถ้ารถเดิมๆ เซอวิสตามที่ควรจะเป็นมี Cat สภาพใช้งานได้ ก็ไม่ควรจะมีปัญหาอะไร
ส่วน ตัด cat อุด egr จูนควันดำสร้างมลพิษ ต้องบังคับแก้ไข
หรือหาวิธีตรวจตรวจเป็นตัวเลขให้ชัดเจนไปเลย

ผมคิดว่าคนใช้รถเก่าไม่ควรโดนบีบให้ซื้อใหม่ครับ
รายได้ประชากรในประเทศไมไ่ด้สูงขนาดนี้ คนสามารถเปลี่ยนรถได้บ่อยๆ ถ้ารถเก่า แต่สภาพดี ก็ไม่ควรจะมีปัญหาอะไรครับ



albacore

ถ้าที่อ่านตามข่าว
มลพิษกับการกินน้ำมันเป็นผลพลอยได้หรือใช้หาความชอบธรรมให้กับนโยบายนี้เฉยๆ

มันเหมือนรัฐบาลรับเทิร์นรถจากประชาชนโดยให้ราคาตามเงื่อนไข แต่ไม่ได้เอารถไปวนในระบบ เลยเลือกรถที่ทำให้มีผลทางสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นเป็นตัวตั้ง
 ส่วนใครที่เข้าข่ายแล้วจะร่วมก็คงต้องดูว่าราคาที่รัฐให้คุ้มกับราคาขายต่อหรือแพงกว่าราคาที่ศูนย์รับเทิร์นหรือเปล่าเท่านั้นเอง มันไม่ได้มีการบังคับ ใครที่ยังรักรถตัวเองก็สามารถใช้ต่อไปได้
 ถ้าเงื่อนไขนี้ รถที่น่าเข้าก็ต้องเป็นรถไม่เก่ามากแต่สภาพขับไม่ดี ตัวถังไม่ดี เครื่องต้องซ่อมหนัก(ซึ่งจริงก็เหมาะอยู่เพราะถือว่าอันตรายต่อการจราจรอยู่แล้ว) ศูนย์ไม่รับเทิร์นหรือให้น้อยกว่ารัฐให้ คนถึงจะยอมไป
รัฐเองถ้าราคาซื้อคืนไม่สูงพอ คนก็ไม่เข้าร่วม ก็ไม่เกิดการสร้างงานในอุตสาหกรรม
ให้ราคาสูงก็จะคุ้มกับการอุ้มอุตสาหกรรมหรือเปล่า แล้วรถที่จะซื้อใหม่ รวมevนำเข้าภาษี0%หรือไม่ ถ้ารวมแล้วจะพยุงอุตสาหกรรมยังไง
 หรือรัฐก็ต้องหักหัวคิวค่าการตลาดกับทางค่ายรถมาช่วยค่าใช้จ่ายตรงนี้

 มันก็ซับซ้อนนิดนึง



love street

ผมว่ารถสภาพไท่ดีที่มีอายุรถเกิน 20 ปีถึงจะเหมาะสมครับ ถ้าอายุเกิน 20 ปีแต่ยังวิ่งดี ปัญหามีไม่เยอะก็ใช้ไปเรื่อยไปได้ ความจริงถ้ารัฐตรวจสภาพรถแบบจริงจังเหมือนญี่ปุ่นแล้วบังคับซ่อมเมื่อไม่ผ่านเกณฑ์ เริ่มตั้งแต่ปีที่ 10 จะดีกว่า ถ้ารถของคนนั้นเขาไม่ดี ซ่อมเยอะ เขาก็เปลี่ยน แต่ถ้าซ่อมแค่จุดสองจุดก็กระตุ้นธุรกิจอะไหล่ยนต์ได้



Devil13

สำหรับผมรถเก่าที่ควรไปทำลาย คือรถเมถ์เก่าๆที่ควันดำๆ
รถบัสที่ไม่ได้มาตรฐาน รถประกอบเอง เอากลุ่มนี้ก่อน



basst

แค่ปล่อยข่าวแหละ อยากให้ธุรกิจรถกลับมาฟื้น รถที่ควรเอาไปทำลายก่อนเลยคือรถเมล์แดง 30+ ปีแล้ว



Maj.Worakrit

ผมว่า  10 ปี เหมาะสมแล้วครับ เพราะเทคโนโลยี ปัจจุบันหมุนไวมาก
ไม่ว่าจะเป็นการใช้พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้น หรือซอฟแวร์ต่างๆ
รถที่เกิน 10 ปี มักไม่ได้อัพเดทอะไรแล้ว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมอยากให้เปิดกว้าง ตรงที่สามารถใช้สิทธิ์เก่าแลกใหม่ ได้กับรถทุกประเภท
ไม่ใช่กำหนดแค่รถบางประเภท เพราะบริบทแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ปล.แว่วๆมาว่า จะจำกัดเฉพาะกลุ่มไฮบริด และ PHEV ยังไงรอดูรายละเอียดอีกทีครับ



DiKiBoyZ

คุณลองคิดถึงคนที่ทั้งชีวิต ซื้อรถได้แค่คันเดียว 1 คันถ้วนๆ ดูซิครับ

เขาจะต้องเปลี่ยนรถทุก 10 ปี เขาทำได้หรือป่าว ด้วยสภาพรายได้ เศรษฐกิจ และ ฐานะ อย่างบ้านเราทุกวันนี้

ผมไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดแบบนี้นะครับ แต่ผมมองในมุมมองโดยรวม

เอาง่ายๆ แค่รถเมล์ สมัยรัตนโกสินทร์ ยังวิ่งกันอยู่เลย ซึ่งสามารถบังคับ ใช้กฏหมาย ของ ขสมก. และ ผู้กระกอบการได้ เขายังทำไม่ได้

คิดว่ารถเมล์แดง ตอนนมาตรฐาน EURO อะไรครับ ?

ผมอยู่อิตาลีมา สิ่งที่เขาทำ(เหมือนบังคับโดยอ้อม) คือ รถเก่า => ภาษีรายปีแพงขึ้น มากขึ้น (แต่บ้านเราภาษีถูกลงเมื่อ 5 ปีผ่านไป)

เพราะ รถเก่า ถ้าคุณซื้อตอนทีมันเกิดมาเป็น EURO 3 แต่ ณ วันนี้เขาเป็น EURO 4-5 กันแล้ว

แสดงว่า คุณมีรถ EURO3 ก็ต้องรับผิดชอบสังคมด้วยการจ่ายภาษีแพงกว่ารถ EURO4-5 ครับ

ข้อสุดท้าย ในหลายๆ ประเทศ รายได้ต่อหัว vs ราคารถ มันถูกกว่า ราคารถในบ้านเราเยอะครับ บ้านเรานี้ถือว่าซื้อรถแพงมากกกกเมื่อเทียบกับรายได้ (ยิ่งถ้าเทียบค่าจ้างรายวันนะ นี่ยิ่งชัดเจนมาก)



Weetting

มันมีรายละเอียดเยอะครับ

ปิดช่องโหว่ไม่ครบหรอก 


เอาจริงกรมชนส่งมีราคากลางอยู่     ใครอายุรถเกิน 20 ปีขึ้น แล้วขาย รัฐจะให้เงินส่วนลดซื้อคันใหม่เพิ่ม 5-8 หมื่น   (รถก็คัดเกรดไป วิ่งได้วิ่งไม่ได้ เป็นซาก บลาๆบลาๆ) 

ใครใคร่ขายก็ขาย ไม่ขายก็ไม่ขาย

แสดงทัศนแบบนี้แล้วกันครับ  นายหน้าที่ดิน หรือเซลล์คอนโดทำเลที่เน้นปล่อยเช่า
จะเห็นเลยว่าเกิน 7 ใน10 ครั้ง คนมาซ์้อที่ดินจะขับรถเก่าๆเนี่ยละมาซื้อ เค้ามองว่าเป็นแค่พาหนะขอแค่รถวิ่งได้ เงินเดือนที่หามาได้จะไปแปลงเป็นที่ดิน เป็นอสังหา   ถ้าบีบให้ต้องทำลายรถจริง กลุ่มอสังหาก็เดือดร้อนไปอีก
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day



SM.

ควบคุมพวกรถสาธารณะให้ได้ก่อนดีกว่าครับ ทั้ง taxi รถเมล์ อายุเกินก็เยอะ ไหนจะถังแก๊สด้านในอีก

การจะเอารถเก่าแลกใหม่ ยังต้อง clear เส้นทางการทำงานอีกหลายเรื่อง

อยากให้รัฐบาลคิดอะไรให้ครบถ้วนก่อน ไม่ใช่คิดไปทำไป ขายนโยบายไปเรื่อยๆ โดยยังไม่ได้ศึกษาอะไรให้ดี ให้ละเอียดก่อน