[nobody123]

เมื่อถูกสื่อภรรยาอดีตเจ้าของ Apple กล่าวถึง Elon Musk อย่างตรงไปตรงมา ในบทความ Decline and Fall of Elon Musk
Elon Musk ตอบโต้โดยเอาอดีต ＊ความสัมพันธ์เจ้าของสัมนักพิมพ์＊ (ภรรยา Steve Jobs) กับ Steve Jobs มาเล่นมุก
(ซึ่งเป็นมุกเกี่ยวกับคนสำคัญของโลกที่เสียชีวิตลง ผมไม่ขำเลย 0% หลายมุกเลย)
คือถ้าคุณดูข่าวสหรัฐ Musk หลุดโลก ด่า F*ck F*ck F*ck หลายครั้ง บางทีครั้งเดียว บางทีซัดไปสาม F*ck
ผลก็คือ ยอดขายรถ Tesla ฮวบ 60% เทียบอัตราการเจริญเติบโต EV ในยุโรป
ข่าวยังระบุ กระแสเกลียดงชัง Musk ยังคงมีต่อ แม้เขาจะต้องออกจากทีม Trumpt แล้ว เดือนนี้
(ตอนแรกก็เข้าขากัน เหมือนจะดี ตอนนี้ Trump ตัดหางปล่อยวัดแล้ว และทีมสส. สบายใจ ที่ไปได้ซะที)
สื่อใหญ่ตะวันตกรายงานว่า สิ่งที่ Musk กระทำไปแล้ว อาจ Irreversible (ยอดขายไม่ฟื้น) ใน
1.      สหรัฐ
2.      ยุโรป
กล่าวคือ รถ Tesla อาจจะขายได้ไม่ดีอีกต่อไป ในสองทวีปนี้ เป็นอย่างน้อย เพราะ CEO หลุดมาตรฐานสำนึกในจิตใจคนอื่น
โดย Reuters ระบุว่า BYD ยอดขาย/ยอดจดทะเบียนแซง Tesla ในยุโรป เป็นครั้งแรก ไปเรียบร้อยแล้วครับ
นี่ขนาดที่ BYD ไม่ได้เป็นคู่แข่งรายใหญ่ในยุโรปมาก่อน (ก่อนหน้านี้ คู้แข่งรายใหญ่ คือ MG)
ดังนั้น การที่ Musk จะออกจากรัฐบาลเดือนนี้ ซึ่งหลายคนพอใจให้ออกไปซะที ก็ไม่ได้ช่วยอะไร Tesla เลย
ณ จุดนี้ ข่าวว่ากันว่าอย่างนี้นะครับ อนาคต ผมไม่ทราบ

[apinui]

ถ้าเอากระแส คนเกลียด Musk กับคน เกลียดจีน

ไม่ว่าจะยุโรป หรือ อเมริกา ผมว่า ยังไงเค้าก็เกลียดจีนมากกว่า Musk แน่นอน ที่ยอดขาย BYD ขึ้นมาแซงอาจจะรถเค้าราคาถูกกว่าคนใช้เลยหลับหูหลับตาซื้อๆไปก่อนก็ได้

[Floppy-T]

ผมคนนึง ไม่ชอบ Elon เท่าไร เรื่องความสุดโต่งที่เกินไปหน่อย

แต่ก็อาจจะเป็นกลยุทธการสร้างกระแส การสร้างชื่อให้ตัวเอง แต่ก็ยอมรับในผลิตภัณฑ์แกนะ

ส่วน Product จีน ยังไม่มั่นใจเรื่อง Durability แบบนิสัยจีนๆครับ

ยอดขึ้น คนสนใจก็คงจะเพราะ สวย และราคาจับต้องได้ง่ายกว่า ส่งผลให้ยอดขึ้นสูงในภาวะเศรษฐกิจโลกอ่อนแอ