ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์  (อ่าน 15161 ครั้ง)

ออฟไลน์ thanawanch

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 31
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มกราคม 16, 2018, 13:58:14 »
ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ครับ
ผมยังไม่เคยขายให้เต็นท์ เคยแต่จะขาย เอาไปที่เต็นท์ให้ตีราคา แต่ราคายังไม่ได้เลยไม่ได้ขาย
ขอถามเพิ่มเติมว่า สี่แสนห้านี่คือเต้นท์เอาธนบัตรเป็นปึกๆมานับจ่ายให้เราเลยเหรอครับ
อย่างนี้ก็สะดวกดีนะครับ

มีให้เลือกครับว่าจะรับเป็นเช็คหรือเงินสด พ่อผมรับเงินสดเลย ก็นั่งนับมันตรงนั้นเลยครับ

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 739
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มกราคม 16, 2018, 15:39:58 »
ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ครับ
ผมยังไม่เคยขายให้เต็นท์ เคยแต่จะขาย เอาไปที่เต็นท์ให้ตีราคา แต่ราคายังไม่ได้เลยไม่ได้ขาย
ขอถามเพิ่มเติมว่า สี่แสนห้านี่คือเต้นท์เอาธนบัตรเป็นปึกๆมานับจ่ายให้เราเลยเหรอครับ
อย่างนี้ก็สะดวกดีนะครับ

มีให้เลือกครับว่าจะรับเป็นเช็คหรือเงินสด พ่อผมรับเงินสดเลย ก็นั่งนับมันตรงนั้นเลยครับ

ขอบคุณครับ เยี่ยมเลย ถ้าให้เลือกผมก็คงเลือกเงินสดเหมือนกัน เช็คกลัวเด้ง :D
เสร็จแล้วขับเอาเข้าธนาคารที่ใกล้ๆทันที
ยินดีกับรถคันใหม่ด้วยครับ
วอลโว่ ยุคใหม่ๆ ระบบความปลอดภัยจัดเต็มมาก คือ เมืองนอกมีเท่าไหร่ สั่งเข้าไทยแทบไม่ตัดออกเลย xc60 คุ้นๆว่ามีระบบหักหลบเองด้วย พัฒนาไปอีก step จากระบบเบรคเอง
เบนซ์มือสองก็น่าสน อู่นอกเพียบ จ่ายค่าตัวรถน้อยกว่า แต่ระบบความปลอดภัยยังไม่เท่าวอลโว่ กับรถมือสอง ช่วงล่าง ลูกหมาก ฯลฯ ถ้าไม่ได้พึ่งทำมา อาจไม่ได้ฟีลแน่นๆแบบรถใหม่
ได้อย่าง เสียอย่าง  8)

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มกราคม 16, 2018, 20:55:09 »
ยินดีกับรถใหม่ด้วยครับ Volvoให้ออปชั่นจัดเต็มจริงๆ คอยดูว่านโยบายอะไหล่จะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าเป็นเหมือนสมัยก่อนก็คงลำบากเพราะค่าซ่อมแพงเหลือหลาย ทำเอารถมือสองราคาร่วงแบบจุกเลยครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,555
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มกราคม 16, 2018, 22:21:44 »
ความคิดพ่อก็น่าสนนะครับ รถใหม่ใช้งานคันนึง รถหรูมือสองสภาพดีๆคันนึง เป็นความคิดที่เข้าท่ามากครับ
มีรถสำรองใช้ด้วย

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,456
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มกราคม 17, 2018, 07:46:48 »
ขอบคุณครับ อ่านสนุกดีด้วย

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 995
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มกราคม 17, 2018, 08:18:21 »
ราคาดีเหลือเชื่อ คงเป็นจังหวะที่ทางเต็นท์ มีลูกค้าฝากหาอยู่ ไม่กี่วันได้ส่วนต่างเลยรีบคว้าไว้

ความคิดคุณพ่อก็ดีนะครับ  แต่เป็นผมไม่เอารถเก่า

เอาเป็นฟอร์จูนเนอร์ใหม่คันนึง ปีหน้าเอาcamryใหม่คันนึง สลับกันใช้ 8)

ออฟไลน์ arlao

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มกราคม 17, 2018, 11:19:35 »
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ

ล่าสุดเมื่อสักครู่ พ่อผมเปรยขึ้นมาบนโต๊ะอาหาร
"พ่อว่า เรื่องรถคันใหม่...ถ้าเป็นพ่อจะซื้อ PPV ป้ายแดงคันนึง เอาไว้ใช้งานลุยได้ ไม่ต้องถนอมอะไรมาก แล้วให้เฮีย(เต็นท์รถ)แกหารถเบนซ์มือสองปีใหม่ๆให้คันนึง  เอาไว้จอดโชว์ ขับเท่ห์ตามอารมณ์แกไป มันน่าจะคุ้มเงินกว่าการที่แกเอาเงินไปเทโครมสามล้านห้า ขับๆไปห้าปีหายไปสองล้าน ถ้าจะขับรถยุโรปมันต้องเบนซ์มือสอง มูลค่ารถหน่ะมันลดแต่มูลค่าดาวบนฝากระโปรงมันเท่าเดิมคนเค้าไม่สนหรอกมือ1มือ2 แกลองเอาไปคิดดูแล้วกัน  แต่ถ้าแกยังยืนยันจะทำตามฝัน พ่อก็ไม่ว่า แต่ต้องหามูลค่าเพิ่มจากรถให้ได้ 5ปีวิ่งไปเลยสองแสน ถ้าอย่างนั้นหน่ะคุ้ม"

เครียดเลยผม  :'(  ผมไม่ได้แคร์เรื่องอิมเมจอะไรเลยนะ รู้แค่ว่าผมชอบวอลโว่อ่ะ เคยเช่า xc90 ขับที่สแกนดิเนเวีย 3000กว่าโลแล้วรู้สึกว่ามันถูกสร้างด้วยความ "ประณีต" อ่ะครับ แล้วพอดีกับที่ผมจองxc60 ไปมันได้ free maintenance 5 ปี ตอนนี้ยังจุกๆอยู่เลยครับ

ขอบคุณที่แชร์ครับ ผมก็เริ่มต้นจากรถยุโรปมือสอง ซ่อมไปใช้ไป ซื้อๆขายๆ ใช้แต่ยุโรปมือสองมาตลอด

ที่เจ้าของเต๊นท์ว่ามามันจริงทุกประการเลยครับ จากประสบการณ์ตรง ขอแชร์เจ้าของกระทู้นิดนึงที่จะเล่นยุโรป

ความสุขในการใช้มันจะจบลงอย่างสิ้นเชิงหลังประกันหมดครับ มันเป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

จะใช้ต่อเดี๋ยวเสียๆ ยิ่งถ้าใช้รถเยอะปีนึงมากกว่า 30,000 โล นี่ค่าซ่อมมาเป็นเงาเลยครับ แล้วที่ปวดใจคือพอหมดประกันเราก็ไปหาอู่นอกตามสูตร อู่นอกพวกนี้ชื่อดังคิวยาวมาก จอดรถเราริมถนน ทิ้งๆขว้างๆ จะซ่อมทีเหมือนต้องไปง้อ ไปอ้อนวอนให้ซ่อมให้ หลังๆมานี่หนักเลยค่าซ่อมไม่ได้ถูกกว่าศูนย์เท่าไหร่ ถ้าชื่อดังมากๆ

ครั้งจะไปลองอู่เล็กๆเพิ่งเปิด เราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นหนูให้เค้าลองหรือเปล่า สุดท้ายจะขายก็ขาดทุนยับ

ผมเพิ่งบังคับให้ที่บ้านตัดใจ ขายทิ้งให้หมดเพราะรถยุโรปเก่าจะใช้ก็เสีย ไม่ซ่อมก็เสีย แล้วมาลองใช้ญี่ปุ่นป้ายแดง คนขับผมนี่มีเวลาล้างรถเยอะเลย อยู่นั่งรอขับให้ ผิดกับเมือก่อนวิ่งผลัดกันเอารถไปซ่อม บีเอ็มก็อยู่อีกมุมเมืองนึง เบนซ์ก็อยู่อีกมุมเมืองนึง ออดี้โฟคล์ก็อยู่อีกมุมนึง ผมประหยัดทั้งค่าซ่อม ค่าแท๊กซี่ ค่าน้ำมันปีๆนึงเป็นครึ่งล้านครับ

ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ถ้าจะใช้รถแค่หมดประกันแล้วยอมขายขาดทุนไป ก็จะเป็นอีกเรื่องนึงครับ
ขอบคุณมากเลยครับสำหรับข้อคิดนี้

อ่านๆดูแล้วไง40กลางๆอย่างผมคิดเหมือนๆคุณพ่อจขกท.เลยครับ5555
มีคันที่ไว้ขับทนมือทนติงไม่จุกจิกซ่อมง่ายศูนย์ไมไกล อีกคันเป็นของเล่นซึ่งทำใจแล้วว่าราคาตกฮวบจ่ายได้ไม่เดือดร้อน

ออฟไลน์ Mike

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,566
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มกราคม 17, 2018, 11:42:12 »
ชอบ ประโยคนี้ "ดีกว่าไปรอเอาความสุขแค่วันที่ขายรถอ่ะ ผมคิดงั้น"  ::)
 
รถไม่เฉี่ยว ไม่ชน มีจริงนะ รถบ้านผมนี่แระ
อย่าง XV นี่ขับระวังมาก ท่องพุทธโธ ธมโม สังโฆ ตลอดๆเวลาขับ
อะไหล่รอนาน งานซ่อมห้าง ไม่ต้องพูดถึง
Next Gen Ford Everest 2.0 Titanium+ 4x4
Honda HRV e:HEV RS 22
SUBARU XV 2.0i-P 16
HONDA City SV 12
FORD Ranger Hi Rider 4DR XLT 2.2 TDCi 12
FORD Ranger Hi Rider OpenCab LIMITED 2.5 TDCi 08
ISUZU Dragon Eye SpaceCab SLX 2.8 00
TOYOTA Hilux Mighty X 94
MITSUBISHI Cyclone 94
TOYOTA Hilux Super Star 88

ออฟไลน์ h0661036

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 926
Re: เรื่องเล่าในวันที่เอารถไปขายเต็นท์
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มกราคม 17, 2018, 12:44:31 »
เจ้าของกระทู้ก็ชั่งน้ำหนักดู เหตุผล หรืออารมณ์ ตอนผมซื้อรถ ผมก็อยากได้ 320d  แต่ผมไปซื้อ camry 2.0 g แทน ทุกวันนี้เห็น 320d วิ่งบนถนนก็แอบมองประจำ วิธีคิดก็คงเหมือนคุณพ่อคุณ