น้ำหนักบรรทุกทำให้อัตราเร่งช่วงรอบูสท์นานและหน่วงขึ้นบ้างแต่พอบูสท์มามันก็เร็วและดึง สู่หลัก 1.5กม. ด้วยความเร็ว 172 กม./ชม. ต่างจากตัวขับสองนั่งสี่คนราว 6 กม./ชม. ดังนั้นเครื่อง 2.4 มีฤทธิ์ได้มากขนาดไหนเมื่อคบกับเกียร์ลูกใหม่..คุณคงทราบกันแล้ว
ช่วงล่างเวลาบรรทุกหนักกลับจะนิ่งกว่าเดิมบนทางตรง หักเลี้ยวแรงๆมีย้วยอยู่ รู้สึกว่ายังไงก็ชอบช่วงล่างของบอดี้ที่แล้วมากกว่าเพราะมันนุ่มพอแล้วและเกาะอย่างมั่นคง..ตัวนี้มันนุ่มจนขาดความมั่นใจหลายดอก
ความสบายในห้องโดยสาร ถือว่าโอเค เบาะหน้าสบาย แผงประตูสวยแต่ทำให้ใช้กระจกไฟฟ้ายาก คอนโซลเบียดเข่าบ้าง การเก็บเสียงด้านท้ายยังมีเข้ามาบ้าง ส่วนเสียงเครื่อง คันนี้กลับไม่ดังเท่าคันก่อนๆ โดยเฉพาะที่ 1,600 รอบ
ด้วยราคาที่ถูกสุดในกลุ่ม อุปกรณ์ความปลอดภัยโอเค ระบบเตือนเบรกใช้งานได้ดี ถึงแม้ภายในดูแล้วไม่หรูเท่า Everest กับ Fortuner ก็ถือว่าแฟร์กับเงินที่จ่ายน้อยกว่ากันมาก สำหรับตีนผีแนะนำใส่โช้คแข็งขึ้นหน่อยกับกันโคลงหลังน่าจะดีครับ ผมขับช่วงล่างแบบเดิมๆแล้วรู้สึกว่ามันมั่นใจแค่ไม่เกิน 140 และถ้ารวมหักเปลี่ยนเลนกระทันหันด้วยก็จะลงมาเหลือ 110-120
ถ้าคุณต้องการรถที่ขับทางไกลช่วงล่างแน่นปั้ก เอาอยู่ ผมจะแนะนำ Ford Everest มากกว่า..ส่วนรถที่ช่วงล่างมั่นกว่า Pajero Sport แต่ไม่เท่า Everest แต่ได้เรื่องแรงและอัตราเร่ง..ก็คงต้องเป็น Trailblazer 2.8 ล่ะครับ ส่วนคนที่ไม่ชอบทุกยี่ห้อ ชอบแต่โตโยต้า..ลองหาทางทำอะไรกับช่วงล่างหลังของ Fortuner ดู ถ้าสามารถทำช่วงล่างหลังให้นิ่งได้มันจะน่าใช้ขึ้นเยอะและตอบโจทย์ทุกข้อได้กลางๆไปถึงดี แต่ถ้าให้ใช้เดิมๆ ผมขอโทษที ไม่ไหวกับช่วงล่างหลัง แม้ด้านหน้าจะโอเคก็ตาม