โพลล์

ยอดขาย 500+ คัน/เดือน : คุ้มค่าหรือยัง กับการขึ้นไลน์ดีเซล สำหรับ B-SUV ในไทย

คุ้มแล้ว
20 (66.7%)
600+ คันเถอะ
1 (3.3%)
700+ คันเถอะ
1 (3.3%)
800+ คันเถอะ
1 (3.3%)
มากกว่านี้ -..-
7 (23.3%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 29

ผู้เขียน หัวข้อ: ยอดขาย 500+ คัน/เดือน : คุ้มค่าหรือยัง กับการขึ้นไลน์ดีเซล สำหรับ B-SUV ในไทย  (อ่าน 6186 ครั้ง)

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์




โดยส่วนตัว,,, ผมว่ายอดดีมากนะ

ดีกว่า,,, เก๋ง C-segment หลายๆ รุ่น


และยังดีกว่า,,, เก๋ง B-segment หลายรุ่น


***ขอให้แยกประเด็น,,, อยากก็เรื่องนึง, ความคุ้มค่าก็เรื่องนึงนะคับ***

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
ก็รู้นะ,,, ฟอร์ดอ้างโน่นนี่ ที่ไม่ยอมกลับมาทำตลาดดีเซลในบ้านเราเหมือนแต่ก่อน

แต่แค่คิดเล่นๆ ,,, อย่างคนไม่มีความรู้ ในไลน์ผลิตและขายรถยนต์นะคับ
....ผมว่า,,, ถ้าได้ซัก 600+ คัน/เดือน ก็น่าลองดีเซลแล้วนะ

ช่วงแรก,,, อาจจะเอาล๊อตแรกมาจากที่อื่น ซัก 50-60 คัน
....แพงกว่าหน่อย,,, มาชิมรางค์ก่อน ไรงี้ จะได้หรือป่าวหนอ
....ถ้าตอบรับดี,,, ก็ขึ้นไลน์ไปเลย  ;D

-------------------- ตื่น ตื่น ----------------------


ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,645
    • อีเมล์
ผมมีความเห็นแบบนี้ครับ ต้องคิดหลายด้านมาก เช่นยอดต่อเดือนคงต้องประเมินต่อปีไปด้วย เพราะยอดขายบางยี่ห้อในสามคันนี้คงที่ บางยี่ห้อกำลังตก หรือเพิ่งเปิดก็ขายเยอะในช่วง 3 เดือนแรกอะไรแบบนี้ตัวเลขเลยดูดี

เจ้าที่เค้าคิดว่าตัวเองมีเทคโนโลยี่เรื่องเครื่องดีอยู่แล้ว ผู้ผลิตอาจจะมองว่า อัตราการกินน้ำมัน หรือ ค่าเชื้อเพลิง ต่อ กิโลเมตรที่ต่างกันไม่มากในรถขนาดที่ไม่ใหญ่มาก (น่าจะ) ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจริงๆเท่าไหร่นัก

หรืออาจเป็นเพราะกลุ่มเป้าหมายซึ่งน่าจะเป็นสุภาพสตรี (ไม่น้อย) อาจจะไม่ชอบรถดีเซลเพราะติดภาพว่าเป็นกระบะ

หรือที่เห็นถกกันมานานแล้วว่า ต้นทุนเครื่องดีเซล จริงๆแล้วสูงกว่ามาก จนทำให้มีปัญหาในการตั้งราคาที่เป็นได้ และถึงจุดคุ้มทุนช้ากว่า และมีโอกาสขาดทุนในท้ายที่สุดสูง

หรือการผลิตหรือสร้างเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ต้องนำเข้าชิ้นส่วนเป็นหลัก หา supplier ที่เหมาะสมในไทยยังไม่ได้ จะมีปัญหากับราคาอะไหล่ สำหรับบริการหลังการขายที่จะตามมาหลอกหลอนอีก และการผ่านมาตรฐานไอเสียที่เพิ่มขึ้น ทำชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องยากขึ้น และต้นทุนสูงขึ้นอีก แถมไม่สัมพันธ์กับเชื้อเพลิงที่ไมีในประเทศอีก (ในกรณีนำเข้ามาทั้งคัน)

ที่คิดได้ก็มีเท่านี้ครับ สรุปคือ ผมว่า ยาก ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 10, 2014, 13:33:33 โดย dht_tubes »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
รวมเอา Fiesta ไปด้วยคุ้มอยู่แล้วครับ

เครื่องมันใช้ด้วยกันได้อยู่ จะใส่รถคันไหนก็ได้ Fiesta, Ecosport ก็ได้ สองรุ่นนี้รวมกันก็น่าจะเพียงพอที่จะประกอบดีเซลแล้วครับ

แต่ถ้าเอาไอ้ตัวที่กินน้ำมันมาก็ไม่ต้องนะครับฟอร์ด เครื่องห่วย ๆ อย่าเอามา เอาตัวที่ประหยัด 20-30 km/l นั่นน่ะ เกียร์ไม่ต้องทดแรง เน้นประหยัด ทนทาน

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,961
    • อีเมล์
ผมว่าปัญหาคือ เครื่องดีเซล ในเครื่องต่ำกว่า 2.0 ของฟอร์ด
ไม่ว่าจะ เฟียสต้า หรือ ecosport
มันไม่มีเกียร์ออโต้ วางจำหน่ายน่ะสิครับ

เครื่อง 1.0 ecoboost (เบนซิน) ก็ยังเพิ่งจะออกเกียร์ออโต้มาเลย ทั้งที่ ขายเกียร์ธรรมดามาก่อนเป็นปีๆ

ผมว่า จากการวิจัยของทีมการตลาด b-sec หรือ b-suv เกียร์ธรรมดา  ไม่ได้เป็นตัวทำตลาดหลักของเซกเมนท์นี้ในไทย
คงยากที่จะเอามาวางขายในบ้านเรา ถ้ายังไม่มี ดีเซลเกียร์ออโต้

ปอลิง ผมแอบเห็น เครื่องตัวนี้ ในโฟกัส ในปี 2015 เจ้าเครื่องตัวนี้ ไม่แน่ อาจจะมีลุ้น ในบอดี้อื่นๆด้วย
1.5L TDCi diesel 120 PS six-speed PowerShift automatic (2015)

http://www.autoevolution.com/news/new-ford-focus-receives-15-ecoboost-and-tdci-diesel-engines-twin-clutch-in-2015-77432.html

ออฟไลน์ HME

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 719
Captiva + Cruze รวมกันทุกรุ่นเครื่อง ยังไม่ถึง 500 คันต่อเดือนเลยครับ

ดังนั้นถ้าทำจริงขอเดาว่าคุ้มครับ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,640
  อยู่ที่ตัวเลขของบริษัทรถยนต์ครับ   ถ้าบริษัทใหญ่ตัวเลขยิ่งมาก  บริษัทรองรองเล็ก ๆ ยอดขาย แค่นิดเดียวก็ดีใจตายแล้ว    เพราะฉะนั้นประมาณการตัวเลขต้องขึ้นกับขนาดผลประกอบการบริษัทด้วย   OVERHEAD + PROFIT  นั่นเอง

  แต่มีหลักคิดง่าย ๆ อยู่อย่างนึงคือ  มันจะทำขายเฉพาะในไทยอย่างเดียวไมได้  ยอดจำหน่ายมันนไม่พอครับ   ต้องทำขายไปอาเซียนและในเอเชียด้วย     คือสรุปถ้าตลาดทั้งเอเชียเอามารวมกันแล้ว ยอดจำหน่ายไม่พอกับที่จะทำออกมา  ก็พับฐานไปอีก    เพราะรถคันนึงมีอะไรมากกว่าที่ท่านคิด     ไม่ใช่ดูแค่ยอดจำหน่ายบ้านเราอย่างเดียว     

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
ถ้านำเข้ามาจากที่อื่นในอาเซียนก็พอเป็นไปได้ แต่ถ้าขึ้นไลน์ประกอบไทยไม่คุ้มครับ ลองดูยอดfocus tdciตัวเก่า ครูช แคปติวา รุ่นดีเซลเป็นตัวอย่างสิครับ  เอามาจริงก็ขายยากเพราะราคาจะต้องแพงกว่ารุ่นเบนซินแน่ๆเพราะเครื่องดีเซลต้นทุนแพงกว่า แม้ว่ามันอาจจะแรงประหยัดทนดีจริงๆแต่คนส่วนมากก็ไม่สู้กับราคา ถ้ายอดเพิ่มไม่ถึง200คันผมว่าก็ไม่คุ้มแล้ว ลงทุนทีก็ไม่น้อยนะครับ

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,434
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
ผมกลับมองว่า diesel เป็น "ก๊อกสอง" เพื่อดึงจุดขายมากกว่า (มองในมุมผู้ผลิต) ในเมื่อ เบนซินยังขายดีอยู่

ยิ่งขายดีมาก ยิ่งไม่จำเป็นที่ต้องเอาดีเซลมาเพิ่มต้นทุนอบรมช่างซ่อมบำรุงเลย

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,961
    • อีเมล์
หรือการผลิตหรือสร้างเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ต้องนำเข้าชิ้นส่วนเป็นหลัก หา supplier ที่เหมาะสมในไทยยังไม่ได้ จะมีปัญหากับราคาอะไหล่ สำหรับบริการหลังการขายที่จะตามมาหลอกหลอนอีก และการผ่านมาตรฐานไอเสียที่เพิ่มขึ้น ทำชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องยากขึ้น และต้นทุนสูงขึ้นอีก แถมไม่สัมพันธ์กับเชื้อเพลิงที่ไมีในประเทศอีก (ในกรณีนำเข้ามาทั้งคัน)

ที่คิดได้ก็มีเท่านี้ครับ สรุปคือ ผมว่า ยาก ครับ

ฟอร์ด เหมือนว่าจะ ไม่ได้ผลิตเครื่องยนต์ ในประเทศ มั้งครับ

ส่วนมาตรฐานไอเสีย บ้านเราเอาที่อื่นเค้ามา(ยูโร) ถ้าผ่านมาจากยูโร ก็ผ่านบ้านเราได้ ไม่ยาก
เชื้อเพลิงในประเทศ ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ปัญหา แค่มาปรับเทสทดสอบก่อนประกอบจริงก็ผ่านแล้ว

ผมว่าปัญหา ไม่ใช่อยู่ที่ผู้ผลิต
อยู่ที่ ต้นทุน อัตราภาษี นโยบายรัฐบาล กำลังซื้อในภูมิภาคมากกว่า

ปอลิง เคยมีข่าวลือในทำนอง รัฐต้องอุ้มดีเซลอยู่
เลยไม่อยากให้ใช้ดีเซลกันมาก

แต่ ส่วนตัวผม เห็นว่า ถ้าจริง แสดงว่า เป็นตรรกะเพี้ยนเยอะเลย เพราะ ตัวเปลือง น่าจะเป็นกระบะเครื่อง 3พัน พวกนั้นมากกว่า
และ ยังไม่รวมถึง อัตราภาษีที่เพี้ยนด้วยนะ รถยนต์ส่วนบุคคลเหมือนกัน แต่รถเก๋งเสียภาษีสรรพสามิตแพงกว่ารถกระบะ 4 ประตู

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
เอาข้อมูลมาให้พิจารณาร่วมครับ
ณ วันที่ Ford เอาเครื่อง Ecoboost มาลงใน Fiesta ผลปรากฏว่า.........
Fiesta Ecoboost ยอดขายต่อเดือนไม่ถึง 10% ของยอดขายรวม Fiesta ทั้งหมด

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,635
เครื่อง Ecoboost คนยังไม่รู้จักเยอะเลยครับที่มันขายไม่อออก  ลองดูเพจฟอร์ดไทยดู ยังมีคนส่วนมากถามอยู่เลยว่า 1.0 จะไปขับที่ไหน  ขึ้นดอยได้มั้ย เยอะเลย ขนาดคนที่ซื้อไปมาโพสบอกว่าแรง ยังมีคนไม่เชื่อเอาดิ  ไม่แปลกใจที่มันขายได้ไม่มาก

ควรโฆษณาเป็น 1.0 เทอร์โบ มากกว่าใช้ชื่อ Ecoboost จะ สำหรับไทย


ส่วนดีเซล รอให้ฟอร์ดทำเครื่องใหม่มาดีกว่า เพราะ 1.4  1.6  2.0 นี่มันเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 2000 ต้นๆ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Jump

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 720
รวมยอดส่งออก ไปใน afta +fta country
น่าจะเหลือๆ
LIKE A BOSS!!


ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,721
    • อีเมล์
 ผมมองว่าต้องขึ้นกับเป้าหมายของแต่ละผู้ผลิตว่าวางไว้เท่าไหร่ครับ เพราะตัวเลขที่วางเอาไว้ต้องผ่านการประเมินจากข้อมูลทุกด้านมาเป็นอย่างดีแล้ว

 สำหรับ BUV เครื่องดีเซล ถ้ามองว่ายอดรวมกับเครื่องเบนซินด้วยแล้วได้เฉลี่ยๆ 500 คัน/เดือน ซึ่งหมายถึงปีละ 6,000 คัน ถือว่าอยู่ได้

 แต่ถ้าดีดตัวเลขคัดเอาเฉพาะรุ่นดีเซล และนำตัวเลขที่ได้ไปดูความเหมาะสมเพื่อตัดสินใจจะเพิ่มในไลน์ผลิต

   ตัวเลข 20% ของยอดรวม เท่ากับ 1,200 คันต่อปี ( เดือนละ 100 คัน ) ถ้าคิดว่าไม่ถึง ผมไม่ทำครับ อย่างมากก็เอาไว้ส่งออกอย่างเดียว ทำราคาได้ง่ายกว่า ( โครงสร้างภาษีดีเซลเสียเปรียบเบนซิน )

   BUV ดีเซล ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นจากค่าย Ford ครับ

   แต่น่าลุ้นว่าจะเป็น Mazda หรือ Honda มากกว่า

 บ้านเรามีโครงสร้างภาษีดูว่าให้ความสำคัญกับระบบ Hybrid ไปแล้ว โอกาสดีเซลจึงน้อยลงไปทุกวัน

 ผมไม่แคร์ว่าจะเป็น Hybrid หรือ ดีเซล หรือ E85 แต่ขอความชัดเจนและวางกันเป็นระยะยาว ผู้ผลิตจะได้มั่นใจและเดินแผนถูกทาง ไม่ใช่กลัวจะโดนหักหลังครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนที่ผ่านๆมา

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
ผมว่าปัญหาคือ เครื่องดีเซล ในเครื่องต่ำกว่า 2.0 ของฟอร์ด
ไม่ว่าจะ เฟียสต้า หรือ ecosport
มันไม่มีเกียร์ออโต้ วางจำหน่ายน่ะสิครับ

เครื่อง 1.0 ecoboost (เบนซิน) ก็ยังเพิ่งจะออกเกียร์ออโต้มาเลย ทั้งที่ ขายเกียร์ธรรมดามาก่อนเป็นปีๆ

ผมว่า จากการวิจัยของทีมการตลาด b-sec หรือ b-suv เกียร์ธรรมดา  ไม่ได้เป็นตัวทำตลาดหลักของเซกเมนท์นี้ในไทย
คงยากที่จะเอามาวางขายในบ้านเรา ถ้ายังไม่มี ดีเซลเกียร์ออโต้

ปอลิง ผมแอบเห็น เครื่องตัวนี้ ในโฟกัส ในปี 2015 เจ้าเครื่องตัวนี้ ไม่แน่ อาจจะมีลุ้น ในบอดี้อื่นๆด้วย
1.5L TDCi diesel 120 PS six-speed PowerShift automatic (2015)

http://www.autoevolution.com/news/new-ford-focus-receives-15-ecoboost-and-tdci-diesel-engines-twin-clutch-in-2015-77432.html

ตอนแรก,,, ผมก็บอกใครต่อใครแบบนี้เหมือนกันคับ เรื่องเกียร์
....แต่หลังจาก,,, เห็น 1.0 Ecoboost + Powershift ในไทย เป็นที่แรกของโลก
....เริ่มไม่แน่ใจ,,, บอกตรงๆ

-------------------------------------------

เครื่อง Ecoboost คนยังไม่รู้จักเยอะเลยครับที่มันขายไม่อออก  ลองดูเพจฟอร์ดไทยดู ยังมีคนส่วนมากถามอยู่เลยว่า 1.0 จะไปขับที่ไหน  ขึ้นดอยได้มั้ย เยอะเลย ขนาดคนที่ซื้อไปมาโพสบอกว่าแรง ยังมีคนไม่เชื่อเอาดิ  ไม่แปลกใจที่มันขายได้ไม่มาก

ควรโฆษณาเป็น 1.0 เทอร์โบ มากกว่าใช้ชื่อ Ecoboost จะ สำหรับไทย


ส่วนดีเซล รอให้ฟอร์ดทำเครื่องใหม่มาดีกว่า เพราะ 1.4  1.6  2.0 นี่มันเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 2000 ต้นๆ

โครงการดีเซลของฟอร์ด,,, ผมว่าคงต้องรออีกนาน, ตอนนี้ฟอร์ดคงเพลินกับ Ecoboost มาก 555+ xD
....และเท่าที่รู้,,, 1.4 1.6 หรือ 2.0 ฟอร์ดก็ไม่ได้ทำเองหนิคับ, เอามาจาก PSA
....โดยส่วนตัว,,, ผมว่า 1.6 และ 2.0 ก็ยังไม่ตกยุคนะ, 1.6 ก็แมพไป 110+ ม้าแล้ว ไม่ต่างกับเบนซินเท่าไหร่

-----------------------------------------

รวมยอดส่งออก ไปใน afta +fta country
น่าจะเหลือๆ

ส่งออสมา,,, เค้าไม่มีดีเซลทั้ง Fiesta และ Ecosport, ถ้าเข้าใจไม่ผิด 2 รุ่นนี้ ขนไปจากบ้านเราใช่ไหมคับ

http://www.ford.com.au/suvs/ecosport/specifications/spec-options

แต่ก็แอบงง,,, ทั้ง Fiesta และ Ecosport มีดีเซลวิ่งทดสอบในบ้านเราไม่ใช่หรือคับ
....แล้วเอาไปขายไหนหว่า,,,

ออฟไลน์ veronic

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 408
    • อีเมล์
คำตอบง่ายๆครับ ทางเลือกในตลาด :'(