ผู้เขียน หัวข้อ: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ  (อ่าน 28587 ครั้ง)

ออฟไลน์ somjeat

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
สวัสดีครับ


ผมไปลองขับดีเซลมาตัวท็อป ชอบมาก อัตราเร่งดี แม้ว่าข้างหลังจะแคบ (ใช้รถคนเดียว) แล้วก็จองไฟแนนซ์ผ่านแล้ว จองไป 10,000 แต่ยังไม่รับรถแต่ยังติดใจเรื่องปัญหาต่างๆ มันจะลุกลามเหมือน เฟียสต้ารึป่าว
ส่วนตัว YARIS ATIV ก็ไปลองมาแล้ว แอร์เย็นสบาย สดชื่น แต่เร่งอืดมาก กลัวว่าไปต่างจังหวัดแล้วจะแซงลำบาก ก็เลยว่าจะตัดทิ้ง


แต่จากที่ผมได้อยู่ในกลุ่มทางเฟสของมาสด้า 2 สักระยะหนึ่ง ก็พบว่า มีปัญหา เช่น เข่มาตัน, DPF PDF ตัน, egr ตัน ปัญหาเหล่านี้จะเกิดกับ
คนที่ออกรถช่วง 2015-2016 แต่ 2017 ยังไม่พบปัญหาที่มาลงเฟสกัน


เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่ายังไงครับ ผมไปตัวไหนดี 
-ปัญหาต่างๆของมาสด้า 2 ดีเซล เค้าได้แก้ไปจริงๆหรือยัง? ผมถามเซลก็บอกว้าแก้แล้ว เปลี่ยนอุปกรณ์แล้ว แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อ เพราะถ้าแก้โดยเปลี่ยนอุปกรณ์จริงก็ต้อง recall รถในปี 15-16 ไปแก้ด้วย
-ผมเติมดีเซลพรีเมี่ยมได้ไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ
-ถ้าต้องทิ้งจองจะขอเงินคืนยังไงครับ

ปล.มีงบสำหรับรถยนต์ไม่เกิน 800k ครับ

ขอบพระคุณครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2017, 16:03:09 โดย somjeat »

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,399
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 16:06:59 »
ผมไม่ได้ใช้นะครับแต่ผมว่ายังโอเคอยู่ครับ ยังไม่ตกรุ่นอีก 2ปีได้ ตัวรถด้านสมรรถนะโอเคทุกอย่างสำหรับผม

ถ้าเทียบกับ ativ นี่มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ ผมเชียร์ให้เอานะครับแต่ถ้าไม่เอาแล้วในงบ 8แสน มีรุ่นที่น่า

สนอีกเยอะครับ

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,010
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 16:14:38 »
งบ 8 แสน
ลอง Mazda 3 ตัวล่าง + ส่วนลดน่าจะหาได้นะผมว่า
เครื่อง 2.0 ไม่ต้องกลัวตอนแซง

ออนไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,639
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 16:21:10 »
     ถ้าเน้นเอารถออก ตจว ก็ตัด ATIV  ไปเถอะครับแม้คุณจะขับคนเดียวก็ตาม             ผมว่าไปมาสด้า 2 นี่เข้าทางลองอัดหนัก ๆ หน่อยก้ได้ปัญหา DDF  อะไรพวกนี้มันจะหายไปเพราะพวกนี้มันเกิดกับรถที่ใช้ในเมืองวิ่งรอบต่ำ ความร้อนไม่พอที่จะไล่เขม่าออกไป         ถ้าคุณวิ่งทางไกลขับเร็วหน่อย ๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรกับตัวนี้ครับ 

ออฟไลน์ Inno Man

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 16:40:31 »
หากเน้นไป ตจว ก็ต้องขยับไป C Segment   เกิน 800 k นิด  ไม่ M3 ก็ Civic ตััวล่าง ( น่าจะมีส่วนลดลงบ้าง )

ออฟไลน์ coolcarrera

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 517
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 16:53:56 »
dpf จะตันถ้าวิ่งย่องๆในเมืองตลอดครับ
ถ้าวิ่งทางไกลไม่น่ามีปัญหานะ มีข้อแม้ว่าต้องให้อุณหภูมิถึง และกระบวนการ regen มันเสร็จสมบูรณ์ได้ตลอด

และที่มันตันเพราะน้ำมันดีเซลส่วนใหญ่ในไทยยังเป็น euro 4 อยู่
แต่ระบบ dpf ทั้งหลายอยู่ที่ราวๆ euro 5 แล้ว ฉะนั้นถ้าจะเติมพรีเมี่ยมให้ได้ผล ก็ต้องไปเติมเจ้าที่ระบุว่าเป็น euro 5
คิดว่าสามารถทำแบบนั้นได้ตลอดมั้ยครับ

นั่นคือคำตอบว่าระบบดีเซลที่มากกว่า euro 4 นั้นเหมาะสมกับประเทศไทยหรือยัง

ลองชั่งใจดูครับ
E3, D15 Carb, 2E
F22B VTEC, J30A VTEC
1TR, 1NZ
D4CB
1GD, R18

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,997
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 17:29:15 »
ผมก็เคยมีแผนจะเอา M2 ดีเซลมาใช้นะครับ แต่ตอนนี้ ยกเลิก มองหาคันอื่นแล้วครับ
แต่ก็ยังประทับใจเรื่องความประหยัด อาจจะเอาตัวเบนซินแทน คือเหตุผลหลักในการคิดจะซื้อคือความประหยัดน้ำมันครับ
เท่าที่ผมศึกษาจากเว็บ ปัญหา เครื่องดีเซลของมาสด้า ไม่ได้เกิดกันในระยะสั้นๆ แต่ต้องใช้เวลา พอสมควรครับ
คือต้องเกิดการสะสมในระยะหนึ่ง ซึ่ง ในปี 2017 ที่ปัญหาน้อยอาจจะสะสมยังไม่พอ(ความคิดส่วนตัวครับ) หรือว่า คนที่ใช้อยู่
อาจจะระมัดระวังขึ้น  แต่ถ้าต้องซื้อรถและต้องระแวง และต้องหาน้ำมันระดับพิเศษ(อาจจะหายากใน ตจว) ผมคงไม่ซื้อครับ
คงเลือกตัวเบนซิน หรือไม่ก็ดูยี่ห้ออื่นครับ


ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 18:11:34 »
ผมว่าไม่น่าซื้อครับ

ปัญหามีอยู่แน่นอน และเค้าทำมาหลายวิธีแล้ว ยังไม่ได้ข้อสรุป
และหลายวิธีมาก ที่ทำแล้วเป็นอีก เช่น การไล่เขม่า อุดegr หรือแม้จะรีแมป เปลี่ยนสปิงวาว

ผมเคยซื้อรถที่เคยคิดว่าจะมีทางแก้ พวก firmware เพราะมีเฟริมใหม่มา คิดว่าจบปัญหา สรุปตลอดอายุรถมีปัญหาตลอด โทษตัวเองอย่างเดียว


เคสทางออกมาสด้า2 ผมชอบดีเซล เงินมี แต่ผมออกเบนซิน พอจบกว่า ปัญหาอื่นคิดว่าไม่มีอะไรร้ายแรงสำหรับเบนซินเลย นอกจากแบตเสียเร็ว  ก็สบายใจดีนะ อืดหน่อย แต่ยอมเปลี่ยนบุคลิกในราคาที่ถูกกว่า

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,768
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 18:12:24 »
ผมไปสิงอยู่ในคลับเขานานประมาณนึงถ้าต้องออก MZ2 คงออกตัวเบนซิน

ออฟไลน์ ariazero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 618
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 18:18:15 »
ขอแยก Case ให้นะครับ

1. ใข้รถประมาณ 5000-15000 กม. ต่อปี
-ใช้ในเมือง 60-80% ขับไปทำงาน เสาร์-อาทิตย์ Shopping ตามห้าง
-ออกต่างจังหวัตบ้างบางครั้ง(2-15 ครั้งต่อปี) ใช้ขับไปทำงาน
-แต่ไม่ขับข้ามจังหวัต ในระยะ ประมาณ ไปกลับ 20-100 กม.
-แล้วจะใช้แรงรถเพื่อเร่งแซง ตอนไปต่างจังหวัดสำหรับเที่ยวกับครอบครัว Yaris Ativ พอครับ

2. ใช้รถประมาณ 12000-25,000 กมต่อปี
-ใช้ในเมือง 50% ขับไปทำงาน เสาร์-อาทิตย์ Shopping ตามห้าง และออกข้ามจังหวัด ใช้รถประมาณ
-ออกต่างจังหวัดปานกลาง(15 ครั้งต่อปี)
-สมดุลระหว่าง งานและเที่ยว
-แต่ไม่ขับข้ามจังหวัต ในระยะ ประมาณ ไปกลับ 20-100 กม.
-แล้วจะใช้แรงรถเพื่อเร่งแซง ตอนไปต่างจังหวัดสำหรับเที่ยวกับครอบครัว

คำตอบผมก็Yaris Ativ ครับ ผมว่ายังสบายๆ เก็บส่วนต่าง เติมน้ำมัน หารถที่ชอบคันต่อไป เอาให้เหมาะMatch (แบบผมจะเอามันครับ)  ใช้รถคนเดียวยังหนุ่มยังแน่น(เดา) มีเวลาเปลียนรถอีกเยอะ

3.ใช้รถเยอะมาก 25,000+-10,000,000 ล้านโล ต่อปี
-งานคือเงิน แต่ก็เที่ยวคือคุณ ใช้รถเป็นหลัก ขับรถเยอะ ไปไหนมาไหนกับรถ ต้องการความคล่องตัว
-เน้นออกเที่ยว สมดุลในชีวิต WOrk Life Balance แบบเน้นขับไปเที่ยว รักการขับรถ ขับๆ
-เห็นคันนี้แล้วแบบ ใช่อ่ะ ลองแล้วแบบประทับใจไม่อยากให้มันเป็นแค่ One Night Stand :'(
-จะเร่งแซงบี้ขยี!! แต่ยังรับไม่ได้กับปัญหาของ Brand นั้นๆ...กดไปเต็มๆ C-segment เอ้ย Mazda 2 ครับ อย่ากลัว

4. เมื่อคุณชอบ Mazda 2 อย่าลังเลที่จะซื้อครับ ถ้าคุณยังมีความลังเล ให้ซื้อรถที่คุณต้องขับ ไม่ใช่รถที่ใช่อ่ะ
สำหรับผม  จองแล้วเหมือนเราไปหมั้นเขาแล้ว ขอแต่งกับเขาก็ต้องรับสภาพ คุณผู้หญิง Size Mini  แต่ Sexy หน่อยนะครับ (มุมมองผมกับ Mazda 2 นะ......มีภรรยาเด็กต้องหมั่นตรวจเช็ค...ร่างกาย)  ::)

5. เมื่อ คุณยังลังเลว่าอะไรสำคัญกับการขับขี่ของคุณ แบบ เอ้ะ จุด A ไป จุด B หรือยังไง ? เอาไงแน่? กดรถBrandที่คุณมองเห็นมันบ่อยที่สุดบนถนนเลยครับผมว่า

แต่ รถไม่ใช่"มนุษย์"ผมว่าปัญหามันเท่าๆกันเลยแค่ ขึ้นอยู่กับว่า คันนี้ สำคัญขนาดไหน เพราะรถคุณขับคนเดียวและก็เงินของคุณ

ขอให้โชคดีครับ







'8X Familia, '91 TFR ,
'94 Sunny B13, '98 520i (E28), '99 Sunny B14,
'08 Vios, '08 C200, '08 Vitara
'15 Vios, '17Accord G9 MC, '17 X1 18i

ออฟไลน์ Nonnics

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 315
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 18:25:24 »
งบนี้ได้altis 1.6 หรือ1.8 ตัวเริ่มต้นหลังหักส่วนลดเลยนะครับ

ได้seg.เหนือกว่า ขนาด ความปลอดภัยดีกว่า

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,472
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 18:31:42 »
dpf จะตันถ้าวิ่งย่องๆในเมืองตลอดครับ
ถ้าวิ่งทางไกลไม่น่ามีปัญหานะ มีข้อแม้ว่าต้องให้อุณหภูมิถึง และกระบวนการ regen มันเสร็จสมบูรณ์ได้ตลอด

และที่มันตันเพราะน้ำมันดีเซลส่วนใหญ่ในไทยยังเป็น euro 4 อยู่
แต่ระบบ dpf ทั้งหลายอยู่ที่ราวๆ euro 5 แล้ว ฉะนั้นถ้าจะเติมพรีเมี่ยมให้ได้ผล ก็ต้องไปเติมเจ้าที่ระบุว่าเป็น euro 5
คิดว่าสามารถทำแบบนั้นได้ตลอดมั้ยครับ

นั่นคือคำตอบว่าระบบดีเซลที่มากกว่า euro 4 นั้นเหมาะสมกับประเทศไทยหรือยัง

ลองชั่งใจดูครับ

น้ำมันดีเซล euro 5 ก็มี ปตท.ไฮฟอซ กับ บางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S

แต่คนใช้รถเครื่องดีเซล จำนวนไม่น้อย เขายกย่องวีเพาเวอร์ แต่เขายี๊ ปตท.อ่ะครับ

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,151
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 18:51:45 »
ของแฟนผม 2 ปีกว่าแล้ว กระทืบตลอด ไม่มีปัญหาเครื่องสั่นนะครับ ผมว่าออกเลยครับ ไม่ต้องกังวล

กว่าอาการเครื่องสั่นของคุณจะมา มาสด้าคงหาวิธีรับมือได้แล้ว

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,609
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 21:01:24 »
ถ้ากลัว 2 ดีเซลมีปัญหา

2 เบนซินก็เป็นทางเลือกที่ดีนะครับ อืดไปนิด แต่อย่างน้อยอัตราเร่งก็เร็วกว่า ATIV แน่ๆ แถมประหยัดด้วยครับ

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,148
  • I'm............................
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 02, 2017, 23:55:36 »
ในฐานะที่ใช้รุ่น 2016 มา 1 ปีกับอีกไม่กี่วันจะครบอีก 1 เดือน ระยะทาง 28,3xx กม.

- รถผมใช้ใน ตจว. เป็นหลัก มีเข้าแค่ในตัวเมืองจังหวัดที่ติดอย่างมากก็ไฟแดง
- เติมน้ำมัน ปตท. หลักๆ เติมทั้งธรรมดาและพรีเมี่ยมถ้ามีโอกาส
- เคยมีปัญหาเรื่องไฟ Engine โชว์ไป 1 รอบ ด้วยสาเหตุคือแรงดันวาล์วตกไป 1 จุด
- และนอกนั้นก็ไม่เจออะไรนอกจากข้อดีข้อเสียทั่วไปของรุ่น และกลอนประตูดังบางครั้ง

ซึ่งจากข้อมูลรถผมนี้ไม่ได้บอกว่าถ้าใช้งานแบบนี้ทำตามนี้แล้วรถจะไม่เจออาการเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้นนะครับ แค่มาบอกเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่า...
1. รถผมยังไม่เคยเจอ และยังไม่สามารถไว้วางใจได้ว่าจะเจอหรือไม่?
2. จากที่ติดตามปัญหาและเฝ้าระวังกับรถตัวเองจนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถฟันธงถึงสาเหตุและแนวทางการแก้ไขของปัญหาเครื่องสั่นนี้ได้ ว่าจริงๆ แล้วเกิดจากเขม่าที่เผาไม่หมดจากในระบบ DPF​ แล้วนำมาเผาใหม่
EGR จริงหรือไม่? ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการวิเคราะห์ของช่างที่เคยเจอเคสและคนใช้รถทั่วไป แะสภาพการใช้รถแต่ละคันพร้อมน้ำมันที่เติมก็ต่างกันไปในแต่ละเคส ซึ่งอะไหล่ที่เปลี่ยนไปให้นั้นส่วนมากมีในส่วนของสปริงวาล์วหรือหัวฉีดตามแต่เคสไป ด้วยการสันนิษฐานของกลุ่มด้านบนต่างบอกว่าเขม่าที่เผาไม่หมดนี้ทำให้เกิดการอุดตันหรือปัญหากับชิ้นส่วนเหล่านี้จนต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ละเคสไม่เหมือนกัน
3. ในตอนนี้ทาง MST มีมาตรการในแนวทางการแก้ไขเบื้องต้นด้วยการอัพเดตโปรแกรมซอฟแวร์ ECU ของเครื่องตัวนี้เมื่อไม่นานนี้เอง ซึ่งยังคงต้องติดตามผลกันต่อไปว่าหลังอัพแล้วจะยังคงเจอปัญหาอีกหรือไม่ โดยรถที่เข้าข่ายสามารถตรวจสอบได้จาก 0 บริการ
4. นอกจากนี้ ด้วยปัญหาที่พบมาตั้งแต่ปีที่แล้วด้วยรถรุ่นปีแรก 2015 จนสั่งสมมาทุกวันนี้และมีรถ 2016 ทยอยเจอปัญหาเดียวกัน บวกกับมีโปรแกรมนี้มาใหม่แล้ว ดังนั้น 2017 จึงยังไม่สามารถฟันธงได้ในทันทีว่าปัญหาจะแก้ไปได้รึยัง และในรถปีนี้มีคันไหนบ้างที่ได้ใช้โปรแกรม ECU ใหม่ ยังคงต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
5. ตามคู่มือระบุในเรื่องนี้เพียงแค่ว่าหากรถไม่สามารถนำเขม่าใน DPF มาเผาได้ รถจะมีไฟเตือนเพื่อให้คุณขับความเร็วเดินทางเป็นระยะเวลา 15-20 นาทีเพื่อกระตุ้นการเผาเขม่า แต่จากทุกเคสที่ผ่านมา มีในส่วนของรถคันที่จะเตือนด้วยไฟสัญญาณตัวนี้ก่อนที่จะเกิดอาการดังกล่าว และใช้รถปกติหากไม่มีไฟใดๆ ขึ้นมา
6. เรื่องน้ำมันก็ยังฟันธงไม่ได้เช่นกัน มีหลายเคสที่เกิดขึ้นและแต่ละเคสเติมน้ำมันหลากหลาย
7. ถอนจอง อันนี้ต้องคิดชั่งใจดีๆ ถึงข้อเสียที่ยังต้องระวัง และคิดไตร่ตรองว่าข้อเสียนี้ถือว่าเป็น defect ที่เราสามารถยอมรับได้หรือไม่ หากเทียบกับความชอบและความต้องการส่วนบุคคล แล้วลองตัดสินใจอีกทีครับ

สรุปเบื้องต้นคือ
1. ถ้าเป็นคนที่ได้ใช้อัตราเร่งของดีเซลที่เพิ่มมาเป็นประจำ ความคุ้มค่าก็ยังถือว่าสูงครับ
2. จากปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เอาเข้าจริงแล้วแม้ว่าตัวปัญหานั้นจะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการใช้รถโดยตรง จากการแซงในยามคับขัน แต่จะไม่สร้างความวิตกกังวลต่อการพิจารณาการซื้อรถใหม่ได้มากเท่านี้เลย หาก Mazda มีการ take action ที่ไวและทันต่อเหตุการณ์มากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ปล่อยให้เรื้อรังเคลมแบบขอไปทีในช่วงปีที่ผ่านมา
3. หากพิจารณาแล้วไม่สบายใจ ไม่มีความสุขหากได้เลือกมา ก็แนะนำว่าควรถอนจองครับ เพราะผู้ใช้ตัวจริงที่ยังไม่เจอแบบผมก็ไม่สามารถรับรองหรือแนะนำใครได้จริงๆ ว่าจะไม่เกิดปัญหานี้อีก หากโปรแกรมที่ทำไปนั้นพร้อมทั้งารเคลมอะไหล่ตามเคสที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ด้วยระยะเวลาที่มีมากพอว่ามันจะหายโดยสมบูรณ์จริงๆ ครับ
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 08:16:16 »
WW
dpf จะตันถ้าวิ่งย่องๆในเมืองตลอดครับ
ถ้าวิ่งทางไกลไม่น่ามีปัญหานะ มีข้อแม้ว่าต้องให้อุณหภูมิถึง และกระบวนการ regen มันเสร็จสมบูรณ์ได้ตลอด

และที่มันตันเพราะน้ำมันดีเซลส่วนใหญ่ในไทยยังเป็น euro 4 อยู่
แต่ระบบ dpf ทั้งหลายอยู่ที่ราวๆ euro 5 แล้ว ฉะนั้นถ้าจะเติมพรีเมี่ยมให้ได้ผล ก็ต้องไปเติมเจ้าที่ระบุว่าเป็น euro 5
คิดว่าสามารถทำแบบนั้นได้ตลอดมั้ยครับ

นั่นคือคำตอบว่าระบบดีเซลที่มากกว่า euro 4 นั้นเหมาะสมกับประเทศไทยหรือยัง

ลองชั่งใจดูครับ

น้ำมันดีเซล euro 5 ก็มี ปตท.ไฮฟอซ กับ บางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S

แต่คนใช้รถเครื่องดีเซล จำนวนไม่น้อย เขายกย่องวีเพาเวอร์ แต่เขายี๊ ปตท.อ่ะครับ
ผมเติมPTT Hyforce กับAudi ตลอดหลายปีนี้ก็ไม่มีปัญหาใดๆเลยครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,530
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 09:47:02 »
ผมไม่ได้ใช้ Mazda 2 ดีเซลนะ

แต่ทดลองใช้มา 2 เดือนกับ บางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S (ซึ่งแพงกว่า PTT อีก) เมื่อเทียบกับ บางจากดีเซลธรรมดา ชัดเจนกว่าไม่มีกลิ่นฉุนจากการเผาเขม่าของ DPF เลยครับ ขนาดผมวิ่งนอกเมืองยังต้องได้กลิ่นฉุนเผาเขม่าสัปดาห์ละครั้ง ผมเติมน้ำมันใันแค่เดือนละครั้ง กะว่าจะยอมจ่ายแพงกับตัวพรีเมี่ยมแล้วละ เพื่ออนามัยของตัว DPF

ปัญหาของ Mazda SkyActiv-D คือการพัฒนาแบบ Global ที่มองเรื่องมลพิษ แต่ดันลืมไปว่าไม่ใช่ทุกประเทศที่พร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ บ้านเราดันมาอยู่ใน Mazda 2 ซึ่งเป็นรถใช้งานพื้นฐานของบางคน ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นปัญหา

dpf จะตันถ้าวิ่งย่องๆในเมืองตลอดครับ
ถ้าวิ่งทางไกลไม่น่ามีปัญหานะ มีข้อแม้ว่าต้องให้อุณหภูมิถึง และกระบวนการ regen มันเสร็จสมบูรณ์ได้ตลอด

และที่มันตันเพราะน้ำมันดีเซลส่วนใหญ่ในไทยยังเป็น euro 4 อยู่
แต่ระบบ dpf ทั้งหลายอยู่ที่ราวๆ euro 5 แล้ว ฉะนั้นถ้าจะเติมพรีเมี่ยมให้ได้ผล ก็ต้องไปเติมเจ้าที่ระบุว่าเป็น euro 5
คิดว่าสามารถทำแบบนั้นได้ตลอดมั้ยครับ

นั่นคือคำตอบว่าระบบดีเซลที่มากกว่า euro 4 นั้นเหมาะสมกับประเทศไทยหรือยัง

ลองชั่งใจดูครับ

น้ำมันดีเซล euro 5 ก็มี ปตท.ไฮฟอซ กับ บางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S

แต่คนใช้รถเครื่องดีเซล จำนวนไม่น้อย เขายกย่องวีเพาเวอร์ แต่เขายี๊ ปตท.อ่ะครับ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ GOBBS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,036
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 10:28:16 »
ในฐานะคนใช้ 2 ดีเซลปี 15 หนูลองรถรุ่นแรกๆ
ยังไม่มีปัญหาครับ
ถ้าคุณใช้นอกเมืองบ่อย ขับทางไกล มีโอกาสได้กดยาวๆ โอกาสการเกิดเขม่าตันจะน้อยลงมากๆ ครับ แบบผมตอนนี้ ใช้ใน กทม. น้อยมาก วิ่ง ตจว.บ่อย
แต่ถ้าไม่ วิ่งในเมืองเป็นหลัก คงต้องมองเบนซินครับ
....
ในคลับ ในเฟส พยายามอ่านบาง log in  ดีๆนะ
บางคนเป็นเจ้าของกิจการขายของแต่ง รื้อรถ(ขอไม่ใช้คำว่าซ่อมรถ) บางคนโดนล้างหัวมา อะไรๆก็ อุด EGR ..... ใจเย็นๆนะ ถ้ารถหมดประกันจะทำอะไรก็ทำ แต่ถ้ายังก็ยั้งๆไว้ก่อน
คนเขม่าตัน รถตื้อ น้อยกว่าคนปกติเยอะมากครับ ....
แต่ทางมาสด้า ก็ตอบสนองเหตการณ์ค่อนข้างเฉื่อยนะ ในฐานะเจ้าของรถ จะต้องให้มันเยอะขึ้นมากๆ เหมือน CX5 รึไงนะ?
...............
เรื่องน้ำมัน
บอกเลยว่า บางจากตัวใหม่เจ๋งมากครับ ปกติผมใช้แต่ตัวเดิม(ตัวเดิม ตัวราคาถูกก็ euro5นะถ้าจำไม่ผิด ยังงงเลยว่าจะไปวิ่งหาน้ำมันฝรั่งกันทำไม) วิ่งมาจะหกหมื่นโลก็ยัง ok. นะ
มาลองตัวใหม่ ดีขึ้นชัดเลย ทั้งๆที่ตัวเดิมไม่ได้แย่ ... ข้อเสียแค่ราคามันกระโดดไปหน่อยหนะครับ แล้วบางปั้มไม่มี
แต่พูดถึง 2 มันก็โครตประหยัดอยู่แล้ว เติมดีๆไปก็ดีนะ
............
สำหรับผม ถ้าคุณวิ่งทางไกล มันยังเป็นรถเล็กที่น่าใช้ที่สุดครับ ยิ่งถ้าคุณไปขึ้นเขา ทางแคบๆ เชียงราย แม่สลอง รถเบาๆ คล่องๆ ช่วงล่างดีๆ แรงบิดเหลือๆ แบบนี้ คุณจะรักมันครับ....แต่ถ้าไม่ ดีเซลอาจจะไม่ใช่คำตอบครับ
อีกอย่าง บางคนอาจจะบอกว่า งบเท่านี้ไปเล่น C seg สิ
ผมว่า แล้วแต่ชอบมากกว่านะ C seg โล้นๆ แล้วก็ไม่มีของต้องขน ไม่มีคนนั่งหลัง แล้วถ้า Bseg คันนั้นมันช่วงล่าง ok. ขับทางไกลดี นั่งสบาย
ผมก็ไม่รู้ว่าจะเอา C seg มาให้เปลืองน้ำมัน และสุดท้ายต้องเสียเงินมาใส่ option เพิ่มอีกทำไมนะ....คนเราต่างกันนะครับ
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,530
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 10:39:11 »
น้ำมันดีเซลบางจากตัวธรรมดา ยังเป็น Euro 4 ครับ

ตัวที่เป็น Euro 5 ที่ประกาศอย่างเป็นทางการคือ ดีเซลพรีเมี่ยม กับ เบนซิน E20

ในฐานะคนใช้ 2 ดีเซลปี 15 หนูลองรถรุ่นแรกๆ
ยังไม่มีปัญหาครับ
ถ้าคุณใช้นอกเมืองบ่อย ขับทางไกล มีโอกาสได้กดยาวๆ โอกาสการเกิดเขม่าตันจะน้อยลงมากๆ ครับ แบบผมตอนนี้ ใช้ใน กทม. น้อยมาก วิ่ง ตจว.บ่อย
แต่ถ้าไม่ วิ่งในเมืองเป็นหลัก คงต้องมองเบนซินครับ
....
ในคลับ ในเฟส พยายามอ่านบาง log in  ดีๆนะ
บางคนเป็นเจ้าของกิจการขายของแต่ง รื้อรถ(ขอไม่ใช้คำว่าซ่อมรถ) บางคนโดนล้างหัวมา อะไรๆก็ อุด EGR ..... ใจเย็นๆนะ ถ้ารถหมดประกันจะทำอะไรก็ทำ แต่ถ้ายังก็ยั้งๆไว้ก่อน
คนเขม่าตัน รถตื้อ น้อยกว่าคนปกติเยอะมากครับ ....
แต่ทางมาสด้า ก็ตอบสนองเหตการณ์ค่อนข้างเฉื่อยนะ ในฐานะเจ้าของรถ จะต้องให้มันเยอะขึ้นมากๆ เหมือน CX5 รึไงนะ?
...............
เรื่องน้ำมัน
บอกเลยว่า บางจากตัวใหม่เจ๋งมากครับ ปกติผมใช้แต่ตัวเดิม(ตัวเดิม ตัวราคาถูกก็ euro5นะถ้าจำไม่ผิด ยังงงเลยว่าจะไปวิ่งหาน้ำมันฝรั่งกันทำไม) วิ่งมาจะหกหมื่นโลก็ยัง ok. นะ
มาลองตัวใหม่ ดีขึ้นชัดเลย ทั้งๆที่ตัวเดิมไม่ได้แย่ ... ข้อเสียแค่ราคามันกระโดดไปหน่อยหนะครับ แล้วบางปั้มไม่มี
แต่พูดถึง 2 มันก็โครตประหยัดอยู่แล้ว เติมดีๆไปก็ดีนะ
............
สำหรับผม ถ้าคุณวิ่งทางไกล มันยังเป็นรถเล็กที่น่าใช้ที่สุดครับ ยิ่งถ้าคุณไปขึ้นเขา ทางแคบๆ เชียงราย แม่สลอง รถเบาๆ คล่องๆ ช่วงล่างดีๆ แรงบิดเหลือๆ แบบนี้ คุณจะรักมันครับ....แต่ถ้าไม่ ดีเซลอาจจะไม่ใช่คำตอบครับ
อีกอย่าง บางคนอาจจะบอกว่า งบเท่านี้ไปเล่น C seg สิ
ผมว่า แล้วแต่ชอบมากกว่านะ C seg โล้นๆ แล้วก็ไม่มีของต้องขน ไม่มีคนนั่งหลัง แล้วถ้า Bseg คันนั้นมันช่วงล่าง ok. ขับทางไกลดี นั่งสบาย
ผมก็ไม่รู้ว่าจะเอา C seg มาให้เปลืองน้ำมัน และสุดท้ายต้องเสียเงินมาใส่ option เพิ่มอีกทำไมนะ....คนเราต่างกันนะครับ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,472
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 11:49:36 »
น้ำมันดีเซลบางจากตัวธรรมดา ยังเป็น Euro 4 ครับ

ตัวที่เป็น Euro 5 ที่ประกาศอย่างเป็นทางการคือ ดีเซลพรีเมี่ยม กับ เบนซิน E20

ในฐานะคนใช้ 2 ดีเซลปี 15 หนูลองรถรุ่นแรกๆ
ยังไม่มีปัญหาครับ
ถ้าคุณใช้นอกเมืองบ่อย ขับทางไกล มีโอกาสได้กดยาวๆ โอกาสการเกิดเขม่าตันจะน้อยลงมากๆ ครับ แบบผมตอนนี้ ใช้ใน กทม. น้อยมาก วิ่ง ตจว.บ่อย
แต่ถ้าไม่ วิ่งในเมืองเป็นหลัก คงต้องมองเบนซินครับ
....
ในคลับ ในเฟส พยายามอ่านบาง log in  ดีๆนะ
บางคนเป็นเจ้าของกิจการขายของแต่ง รื้อรถ(ขอไม่ใช้คำว่าซ่อมรถ) บางคนโดนล้างหัวมา อะไรๆก็ อุด EGR ..... ใจเย็นๆนะ ถ้ารถหมดประกันจะทำอะไรก็ทำ แต่ถ้ายังก็ยั้งๆไว้ก่อน
คนเขม่าตัน รถตื้อ น้อยกว่าคนปกติเยอะมากครับ ....
แต่ทางมาสด้า ก็ตอบสนองเหตการณ์ค่อนข้างเฉื่อยนะ ในฐานะเจ้าของรถ จะต้องให้มันเยอะขึ้นมากๆ เหมือน CX5 รึไงนะ?
...............
เรื่องน้ำมัน
บอกเลยว่า บางจากตัวใหม่เจ๋งมากครับ ปกติผมใช้แต่ตัวเดิม(ตัวเดิม ตัวราคาถูกก็ euro5นะถ้าจำไม่ผิด ยังงงเลยว่าจะไปวิ่งหาน้ำมันฝรั่งกันทำไม) วิ่งมาจะหกหมื่นโลก็ยัง ok. นะ
มาลองตัวใหม่ ดีขึ้นชัดเลย ทั้งๆที่ตัวเดิมไม่ได้แย่ ... ข้อเสียแค่ราคามันกระโดดไปหน่อยหนะครับ แล้วบางปั้มไม่มี
แต่พูดถึง 2 มันก็โครตประหยัดอยู่แล้ว เติมดีๆไปก็ดีนะ
............
สำหรับผม ถ้าคุณวิ่งทางไกล มันยังเป็นรถเล็กที่น่าใช้ที่สุดครับ ยิ่งถ้าคุณไปขึ้นเขา ทางแคบๆ เชียงราย แม่สลอง รถเบาๆ คล่องๆ ช่วงล่างดีๆ แรงบิดเหลือๆ แบบนี้ คุณจะรักมันครับ....แต่ถ้าไม่ ดีเซลอาจจะไม่ใช่คำตอบครับ
อีกอย่าง บางคนอาจจะบอกว่า งบเท่านี้ไปเล่น C seg สิ
ผมว่า แล้วแต่ชอบมากกว่านะ C seg โล้นๆ แล้วก็ไม่มีของต้องขน ไม่มีคนนั่งหลัง แล้วถ้า Bseg คันนั้นมันช่วงล่าง ok. ขับทางไกลดี นั่งสบาย
ผมก็ไม่รู้ว่าจะเอา C seg มาให้เปลืองน้ำมัน และสุดท้ายต้องเสียเงินมาใส่ option เพิ่มอีกทำไมนะ....คนเราต่างกันนะครับ

ใช่ครับ
ผมใช้บางจากเป็นประจำ ทั้งดีเซลและ E20 ( แต่เจ้าอื่นๆ ก็เติม ถ้ามีชิงโชค 555 )
แต่บางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S หาเติมยากมากๆ เมื่อเทียบกับดีเซลพรีเมี่ยมชองยี่ห้ออื่นๆ ครับ

ออฟไลน์ nl2br

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,021
    • ร้านค้าออนไลน์
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 13:30:35 »
อย่าซื้อเลยครับ รอให้แก้ปัญหาได้จริงๆก่อน ผมว่าร้อยละ 90 สั่นแน่นอน อุด egr ก้อไม่ช่วย เพราะมีคนอุด egr  ตั้งแต่ป้ายแดง ก้อมาสั่นช่วง 80000 km
ตอนนี้เห็นในคลับไปยื่นซองที่มาสด้าสำนักงานใหญ่ เด๋วถ้าไม่คืบหน้าคงมีประท้วง
ใครที่ยังไม่สั่นก้อถือว่าโชคดีไปครับ
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่

ออฟไลน์ Nyquist

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,031
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 14:17:15 »
อย่าซื้อเลยครับ รอให้แก้ปัญหาได้จริงๆก่อน ผมว่าร้อยละ 90 สั่นแน่นอน อุด egr ก้อไม่ช่วย เพราะมีคนอุด egr  ตั้งแต่ป้ายแดง ก้อมาสั่นช่วง 80000 km
ตอนนี้เห็นในคลับไปยื่นซองที่มาสด้าสำนักงานใหญ่ เด๋วถ้าไม่คืบหน้าคงมีประท้วง
ใครที่ยังไม่สั่นก้อถือว่าโชคดีไปครับ

ใช่แล้วครับ คนที่ทั้งอุด ทั้ง remap ก็ยังเจอ แบบนี้น่ากังวลครับ

แต่ถ้าคุณเคยใช้ Ford หรือ Chev มาก่อนปัญหาแค่นี้ชิลๆครับ ฮาๆๆ

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,530
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 14:45:25 »
จริงๆ อาจจะหายากตั้งแต่หาปั๊มบางจากละมั้งครับ เพราะบางโซนก็มีติดๆ กัน ในขณะที่บางโซนก็แทบไม่มีเลย 555

อย่างน้อยก็ไม่เหมือน Caltex เจ้านี้ยอมจริงๆ เคยจะหาลองพรีเมี่ยม หาที่เติมยากมาก เว็บก็ทำห่วย เบอร์ Call Center เปลี่ยนไปแล้วก็ไม่แก้ไข

น้ำมันดีเซลบางจากตัวธรรมดา ยังเป็น Euro 4 ครับ

ตัวที่เป็น Euro 5 ที่ประกาศอย่างเป็นทางการคือ ดีเซลพรีเมี่ยม กับ เบนซิน E20

ใช่ครับ
ผมใช้บางจากเป็นประจำ ทั้งดีเซลและ E20 ( แต่เจ้าอื่นๆ ก็เติม ถ้ามีชิงโชค 555 )
แต่บางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S หาเติมยากมากๆ เมื่อเทียบกับดีเซลพรีเมี่ยมชองยี่ห้ออื่นๆ ครับ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ GaB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 273
  • #StickShiftLife
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กันยายน 03, 2017, 22:57:50 »
เคยคิดว่า Jazz Hybrid ครบ 5 ปีในปีหน้า แล้วจะขายมาเอา M2 Diesel เพราะเคยลองขับแล้วติดใจอัตราเร่งมากๆ แต่เจอปัญหาแต่ละข้อแล้ว สงสัยใช้ Jazz ต่อไปอีกซักพักดีกว่า

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กันยายน 04, 2017, 01:54:10 »
ตอนแรกน่าซื้อครับ หลังๆปัญหาบานเลย ปล่อยผ่านดีกว่า
ขับทางไกล ลองดู Mazda3 2.0e ตอนนี้น่าจะมีส่วนลดอยู่

ออฟไลน์ somjeat

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กันยายน 04, 2017, 10:18:23 »
 น้ำมันดีเซล EURO V ปั๊มหน้าบ้านกับแถวที่ทำงานมีครับ ปตท กับ บางจากตัวใหม่
คือคันเก่าผมเคยใช้เฟียสต้าและขายไปแล้ว จากที่ได้อ่านความเห็นเพื่อนๆแล้ว ผมก็จะลองขอเงินจองคืนดูแล้วไป ซื้อ ativ แทนครับ คิดดูแล้วผมไปต่างจังหวัดแค่เดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ละครั้งก็ไม่เกิน 600 โล และเสาร์-อาทิตย์ ก็ไปห้างอยู่ในกทม ไม่อยากเสี่ยง กลัวอาจมีปัญหา

ขอบคุณสำหรับข้อมูลและความรู้ดีๆครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,483
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กันยายน 04, 2017, 10:53:21 »
น่าซื้อครับ ผมว่าเหมาะกับเงื่อนไขที่ จขกท ว่ามานะครับ

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กันยายน 04, 2017, 11:55:45 »
ผมตัดใจเครื่องดีเซลไปแล้วครับ เดือนหน้าออกตัวท๊อบเบ็นซิลแทน คือทำใจกับอัตราเร่งได้ครับ ยังไงภายในก็สวยเหมื่อนกัน

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: Mazda 2 ดีเซล 2017 ยังน่าซื้ออีกหรือไม่ครับ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กันยายน 04, 2017, 16:28:41 »
รถแบบนี้ อย่ารีบครับ ค่อยๆดูอีกสักครึ่งปี

ถ้ายังมีคนในคลับบ่น ก็อย่าไปซื้อเลยรอให้เงียบ จบสวยๆดีกว่า

ซื้อแล้วเสี่ยง เวลามีปัญหา โทษหมายังไม่ได้เลยครับ