ผมว่าปัญหาจริงๆอยู่ที่ PRICE GAP ของ ประเทศใน ASIAN และ AUS ครับ ผมเทียบให้ดูแบบนี้นะครับ
ราคาใน US และ CN - ราคารวมค่าขนส่ง C-SEGMENT อยู่ที่ 0.75 - 0.98 ล้านบาท และ D-SEGMENT อยู่ที่ 0.85 - 1.27 ล้านบาท ราคาทั้ง 2 SEGMENT จะเป็นช่วงต่อกัน แต่สองประเทศนี้ทำได้เพราะยอดผลิตเขาอยู่ระดับ 200,000 - 300,000 คัน และตลาดนี้เขาแข่งขันโดยสมบูรณ์จึงเห็นราคาที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคครับ
ราคาใน JP- C-SEGMENT อยู่ที่ 3 ล้านเยน หรือ 0.89 ล้านบาท และ D-SEGMENT อยู่ที่ 4-5 ล้านเยน หรือ 1.19 - 1.48 ล้านบาท ซึ่งราคา D-SEGMENT ในญุี่ปุ่น ถ้าไปตาม FORUM รถเขา จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "มันแพงเกินไป มันไม่ใช่ A..... ที่ชั้นเคยรู้จักแล้ว", "ชั้นได้ยินมาว่าคนรวยในไทยขับรถคันนี้นะ", "ตอนนี้ C... พัฒนามามากแล้ว จนเหมือน A... เลยล่ะ" โดยตลาดบ้านเค้าก็หดตัวพอๆกับบ้านเราครับ
ราคาใน ASIAN และ AUS - อยากบอกว่าเราไม่ใช่ผู้โชคร้ายเพียงคนเดียวครับสำหรับตลาดพวงมาลัยขวาและตลาดที่ CAMRY/ACCORD ยังเป็นเครื่องแสดงสถานะทางสังคม ผมว่าเค้ารู้สึกไม่ต่างจากเราที่ราคา C-SEGMENT อยู่ที่ 0.80 - 1.2 ล้านบาท และ D-SEGMENT อยู่ที่ 1.49 - 1.79 ล้านบาท ซึ่งมันเป็นผลจาก ยอดการผลิต และ การแข่งขัน ที่น้อยจนเกิดการผูกขาดทางราคาได้ครับ
เกริ่นมาซะยาว มาถามว่าอะไรจะมาอุดตลาดล่ะ
คำตอบคือ ถ้าเป็นรถเก๋งคือไม่มี แต่ถ้าเอาภาพตลาดจริงคงเป็น C-SUV ซึ่งอยากบอกว่ายุ่นมองประเทศไทยเป็นประเทศมีอันจะกิน ราคาอยู่ช่วง 1.35-1.79 ล้าน โดยตั้งราคาอิงตามคู่แข่งคือพวก PPV ที่ราคาแพงขึ้นทุกวัน แต่ประเทศเพื่อนบ้านเรา (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์) เขาขับ C-SUV ได้ที่ราคา 1.1 - 1.4 ล้านบาท เพราะ เขามีพวกรถ 7 ที่นั่ง MPV ค้ำคอที่ราคานี้อยู่ตั้งเกินไม่ได้ขายไม่ออก ซึ่งถ้าผู้ผลิตจะเอามาทำตลาดที่ราคานี้ผมว่ายอดขายทะลุกว่านี้อีกครับ