ถ้าจะให้แนะนำก็
1. อย่าเคลือบแก้ว รักษายากมาก ยกเว้นที่แข็งจริง ๆ บางแบรนด์เท่านั้น
2. ผมล้างเอง น้ำฉีด ใช้มือเปล่าไล้สีเบา ๆบริเวณเปรอะเยอะ ๆ ระวังเล็บด้วย จากนั้นใช้ถุงมือล้างรถ + แชมพู มียี่ห้อหน่อย
ล้างออกให้เรียบร้อย เช็ดด้วยผ้าชาร์มัว ใช้ลมเป่ารอยต่อและร่องต่าง ๆ เช็ดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ตรงที่มีน้ำกระเซ็น...
ลงแวค (ใช้gc mg ก็ได้ ) บาง ๆ แห้ง เช็ดออก....
ออกวิ่งถนนโล่ง ๆ รีดน้ำส่วนที่เป่าออกไม่หมด เข้าโรงรถเก็บ....เสร็จ
มือเปิดประตูควรติดกันเล็บข่วนสีด้วย...
เคลือบแก้วไม่ได้รักษายากอย่างที่เข้าใจกันครับ เพียงแต่มันไม่ได้แข็งเป็นแก้วอย่างที่ทราบจากโฆษณา
มันยังเกิดรอยได้อยู่ถ้าเช็ดถูอย่างไม่ถนอม หรือล้างด้วยแชมพูที่แรงมากๆแก้วก็ค่อยๆบางลงจนหมดไปได้ครับ
แต่ข้อดีของมันก็คือช่วยให้เคลียร์โค้ทของเราไม่ถูกทำลายไปก่อนเวลาอันควร
ถ้ารถที่ทำเคลือบแก้วแล้วผิวรถเป็นรอยมากก็แค่ขัดแก้วออกแล้วลงใหม่ เคลียร์โค้ทของรถเราก็ยังหนาอยู่เหมือนเดิม
เคลือบแก้วใช้ได้ แต่ควรเลือกใช้อย่างเข้าใจจุดประสงของการที่สร้างมันขึ้นมาครับ
ส่วนการหาความรู้เรื่องการดูแลรักษารถ ลองเข้าไปอ่านใน TWCC
www.thaiwashercarclub.comมีความรู้เยอะมาก รีวิวเพียบ อ่านกันเป็นเดือนๆก็ไม่หมด