อยากให้พี่ๆในบอร์ดช่วยให้ความรู้เรื่องการดูแลสีรถหน่อยครับ

~สาวก_BMW_~

เนื่องจากว่าพักหลังๆมานี้ฝนตกค่อนข้างบ่อย ทำให้ต้องล้างรถทุกๆ 1-2 อาทิตย์ต่อครั้ง รถผมสีน้ำตาลอายุ 1 ปีพอดี แต่ผมไม่รู้วิธีการดูแลที่ถูกต้องเท่าที่ควร
เท่าที่สังเกต ตอนนี้รถผมเริ่มมีรอยขนแมวชัดเจนมากขึ้น และตัวผมเองก็อยากรู้วิธีดูแลรักษาสีรถอย่างจริงจังมากขึ้น จึงอยากให้พี่ๆมาแชร์วิธีการดูแลรักษาสีรถ+ภายในพวกคอนโซล เบาะ วัสดุบุในจุดต่างๆหน่อยครับ
1.อยากให้พี่ๆชี้แจงขั้นตอนวิธีการล้างรถในวันหยุดของพี่ๆหน่อยครับ ว่าควรเริ่มจากล้างส่วนไหน ใช้น้ำยาชนิดไหน ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง มีทริคอะไรบอกมาได้เลยครับ 
2.วิธีเคลือบสี(อันนี้อยากรู้มากๆ) ต้องทำอย่างไรถึงจะถูก เคลือบอย่างไรให้เงา ใช้อุปกรณ์และน้ำยาอะไรบ้าง ส่วนไหนต้องเน้นเป็นพิเศษ หรือมีทริคพิเศษอะไรเพิ่มเติมได้ครับ
3.การรักษาเบาะ อันนี้หลังจากใช้รถมา 1 ปี เวลาเราเข้า-ออก จากรถกางเกงเราจะเสียดสีกับปีกเบาะตลอด ทำให้มันดูเสื่อมไว + เบาะเป็นรูมีฝุ่นค่อนข้างเยอะ ควรดูแลอย่างไร ใช้น้ำยาชนิดไหนเคลือบครับ
4.พวกคอนโซลต่างๆ + วัสดุบุข้างประตู ที่เป็นพวกเปียโนแบล็ค ถ้าสุ่มสี่สุ่มห้าเช็ดนี่รอยขนแมวถามหาเอาง่ายๆ พี่ๆดูแลจุดนี้อย่างไรบ้างครับ
ปล.ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจากนี้ บอกมาได้เลยนะครับ ผมเสียดายสีรถมาก จริงๆถ้ามันเงาไร้รอยมันจะสวยมาก
ปล2.พวกเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง + เครื่องเคลือบ จำเป็นไหมครับ
ปล3.ถ้ามีรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ นำมาลงด้วยก็จะดีมากครับ ผมจะได้ไปหาซื้อมาใช้บ้าง
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ



ps000000

ผมไปแอบอ่านที่เว็บนี้ บ่อยๆ ครับ

http://www.thaiwashercarclub.com/forum/index.php

แต่ตอนนี้ไม่มีแรงทำ เพราะป่วยหนัก ถ้าหาย คงซื้อเครื่องขัด สักตัว



sukhontha

ถ้าจะให้แนะนำก็
1.  อย่าเคลือบแก้ว  รักษายากมาก  ยกเว้นที่แข็งจริง ๆ บางแบรนด์เท่านั้น
2.  ผมล้างเอง  น้ำฉีด ใช้มือเปล่าไล้สีเบา ๆบริเวณเปรอะเยอะ ๆ ระวังเล็บด้วย  จากนั้นใช้ถุงมือล้างรถ  + แชมพู มียี่ห้อหน่อย
     ล้างออกให้เรียบร้อย  เช็ดด้วยผ้าชาร์มัว  ใช้ลมเป่ารอยต่อและร่องต่าง ๆ  เช็ดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ตรงที่มีน้ำกระเซ็น...
     ลงแวค  (ใช้gc  mg  ก็ได้ ) บาง ๆ   แห้ง เช็ดออก....
     ออกวิ่งถนนโล่ง ๆ  รีดน้ำส่วนที่เป่าออกไม่หมด   เข้าโรงรถเก็บ....เสร็จ

     มือเปิดประตูควรติดกันเล็บข่วนสีด้วย...



iamnobody

ถ้าไม่รักการดูแลสีรถจริงๆ ไปซื้อแพ็กเกจตามร้านดีกว่าครับ

แต่ถ้าคิดแล้วว่าชอบทำเองก็ลองเริ่มศึกกษาจาก thaiwashercarclub ดู แต่ตอนแริ่มค่อยๆ ซื้อครับ พวก wax หรือน้ำยาต่างๆ ซื้อขวดแบ่งเอาได้จะประหยัดกว่าเยอะ
แต่ต้องทำใจว่าถ้าเริ่มแล้วบานปลายแน่นอนครับ ผมหมดไปเกิน 5 หมื่นแล้วในเวลา 3 ปี ถ้าเอาเงินเท่านี้ไปซื้อแพ็กเกจเผลอๆ จะถูกกว่าด้วยครับ

ปกติถ้าดูแลรถถูกวิธี กว่าจะต้องขัดลบรอยขนแมวจริงๆ ก็ 1-2 ปีทำสักครั้งครับ
แต่รายละเอียดมันเยอะมากลองเริ่มศึกษาจากในเว็บไปสักพักก็ได้ครับจะได้มีพื้นฐาน
(ว่าถ้าไปเห็นงานของพวกสายขัด พวก wer sanding นี่อาจจะตาค้างได้เลยครับ55)



Starplatinum35

F10 ผมหุ้มฟิลมใสกันรอยทั้งคันครับ
2015 BMW 525d m sport Project'A stage 1
2012 nissan GT-R R35 GT700+EcuTek +E85 flex fuel
2016 MB CLA 250 AMG
2017 MB E220d AMG
2017 BMW 320d GT



neung23

ซื้อ wax เคลือบสีสามัญทั่วไปติดรถไว้ขวดนึง พอไปคาร์แคร์ ก็บอกให้เขาลงให้ เดือนละครั้ง สองครั้งแล้วแต่กำลังงบฯ

Chemical Guys Jetseal 209
Wolfgang DGPS 3.0
Meguiars 21 < รถไม่มีเคลือบแก้วลงได้ มันมีผงขัดอ่อนๆ ช่วยกำจัดคราบติดแน่นได้พอสมควรเลยคับ

ผมว่าแค่นี้ก็สบายๆแล้วนะคับ สาม-สี่ ปี ก็หาร้านหรือพวกที่รับขัดสีแบบมืออาชีพๆหน่อยขัดใหญ่ซักทีนึง
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport



YAmodels

ถ้าจะให้แนะนำก็
1.  อย่าเคลือบแก้ว  รักษายากมาก  ยกเว้นที่แข็งจริง ๆ บางแบรนด์เท่านั้น
2.  ผมล้างเอง  น้ำฉีด ใช้มือเปล่าไล้สีเบา ๆบริเวณเปรอะเยอะ ๆ ระวังเล็บด้วย  จากนั้นใช้ถุงมือล้างรถ  + แชมพู มียี่ห้อหน่อย
     ล้างออกให้เรียบร้อย  เช็ดด้วยผ้าชาร์มัว  ใช้ลมเป่ารอยต่อและร่องต่าง ๆ  เช็ดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ตรงที่มีน้ำกระเซ็น...
     ลงแวค  (ใช้gc  mg  ก็ได้ ) บาง ๆ   แห้ง เช็ดออก....
     ออกวิ่งถนนโล่ง ๆ  รีดน้ำส่วนที่เป่าออกไม่หมด   เข้าโรงรถเก็บ....เสร็จ

     มือเปิดประตูควรติดกันเล็บข่วนสีด้วย...
เคลือบแก้วไม่ได้รักษายากอย่างที่เข้าใจกันครับ เพียงแต่มันไม่ได้แข็งเป็นแก้วอย่างที่ทราบจากโฆษณา
มันยังเกิดรอยได้อยู่ถ้าเช็ดถูอย่างไม่ถนอม หรือล้างด้วยแชมพูที่แรงมากๆแก้วก็ค่อยๆบางลงจนหมดไปได้ครับ
แต่ข้อดีของมันก็คือช่วยให้เคลียร์โค้ทของเราไม่ถูกทำลายไปก่อนเวลาอันควร
ถ้ารถที่ทำเคลือบแก้วแล้วผิวรถเป็นรอยมากก็แค่ขัดแก้วออกแล้วลงใหม่ เคลียร์โค้ทของรถเราก็ยังหนาอยู่เหมือนเดิม
เคลือบแก้วใช้ได้ แต่ควรเลือกใช้อย่างเข้าใจจุดประสงของการที่สร้างมันขึ้นมาครับ

ส่วนการหาความรู้เรื่องการดูแลรักษารถ ลองเข้าไปอ่านใน TWCC www.thaiwashercarclub.com
มีความรู้เยอะมาก รีวิวเพียบ อ่านกันเป็นเดือนๆก็ไม่หมด



cuptea

ส่วนตัว ล้างเองจะควบคุมเรื่องขนแมวได้ดีกว่าเข้าร้านล้างรถ
ที่ทำอยู่
ฉีดน้ำให้ทั่วรถ เพื่อให้คราบติดแน่นคลายตัว
ใช้สายยางฉีดน้ำและใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ลูบเบาๆ เอาคราบออกทั่วรถ และขยี้ผ้าทำความสะอาดระหว่างล้าง
ใช้ฟองน้ำทำความสะอาดรถ กับแชมพูล้างรถ อาจจะผสมwax
ฉีดน้ำทำความสะอาดทั่วคัน และเช็ดแห้งด้วยชามัวร์

ส่วนวิธีขัดเคลือบสี ก็ที่เวป TWCC มีเยอะมาก





Artist

ต้องเข้าใจก่อนครับว่า รถรักษาดียังไง มันก็เกิดรอยขนแมว หรือ swirl ได้อยู่ดี เพียงแต่เกิดช้าหรือเกิดน้อย ถ้ารถเคลือบมาดีๆ

รอยพวกนี้ก็เกิดจากฝุ่นควัน เวลาเราขับรถไปแล้วมันสีกับตัวรถเพราะแรงลม หรือเกิดจากการเช็ดถูก็ตาม..

ทีนี้ถ้าอยากให้รอยขนแมวหรือ swirl หายไปมันต้องมีการขัดสีบ้าง 2-3 ปีครั้งนึง (ไม่ต้องทำบ่อยเดี๋ยวสีบางหมด) เพือเอารอยพวกนี้ออก แล้วลงแว๊กซ์เคลือบทับตามปกติ

เท่านี้รถก็จะเงางามเหมือนเดิมครับ

มีอีกวิธีก็ติดฟิล์มทั้งคัน มันช่วยกันรอยได้ดี แต่ข้อเสียคือแพง และรถจะไม่เงางามเท่ารถที่ไม่ติดครับ



adis

ในเรื่องการล้าง เทคนิคสำคัญคือ ใช้ผ้าให้ถูกครับ คิอต้องแยกผ้าในการทำหน้าที่กันเด็ดขาด อย่าไปปนกันแลัผ้าต้องสะอาดด้วย
อันดับแรกเวลาล้างก็คือฉีดน้ำเอาพวกเศษสกปรกออกไปก่อนทั้งคันโดยฉีดจากหลังคาลงมาด้านล่าง จากนั้น ให้เริ่มฉีดนำทำความสะอาดซุ่มล้อและล้อก่อนครับ เพราะส่วนนี้จะสกปรกมากที่สุด ที่เศษทราย เศษสกปรกมากที่สุด จึงต้องขจัดมันออกไปก่อนส่วนอื่น
ในบริเวณซุ้มล้อและล้อนี้ ใช้ผ้าเฉพาะของมันผืนนึงไปเลยครับ ใช้เสร็จก็หมดหน้าที่มัน
ต่อไปก็เริ่มล้างตัวถังจากส่วนหลังคาลงมาก่อนครับ ใช้ผ้าอีกผืนนึง ใช้เสร็จก็หมดหน้าที่มัน  การล้างบริเวณนี้หากไปเจอเศษยางมะตอยหรือเศษอไรที่มันออกยากหน่อย ห้ามไปถูมันแรง ๆ หรือเอาเล็ยไปแกะไปขูดครับ ทิ้งไว้ก่อน ค่อยมาเก็บงานทีหลังด้วยน้ำยาเคลือบสีได้ครับ

การล้างนี้จะใช้แชมพูหรือไม่ก็อยู่ที่รถเราสกปรกมากแค่ไหน ถ้าไม่ได้สกปรกหรือมีคราบอะไรมาก ก็ไม่ต้องแชมพูก็ได้ครับ
แชมพูที่ผมจะแนะนำโดยส่วนตัวนะครับ คืออย่าไปใช้ประเภททูอินวัน หรือพวกที่ผสมน้ำยาเคลือบ เพราะเวลาซับน้ำหรือเช็ดแห้ง มันจะยากต้องออกแรงเยอะครับ

หัวใจของขั้นตอนนี้คือ ก่อนล้าง ผิวรถต้องไม่มีเศษทรายอยู่ ต้องฉีดน้ำเอาเศษพวกนี้ออกไปก่อน และ ผ้าที่ใช้ต้องสะอาดแยกประเภทการใช้งาน อย่าไปใช้ปนครับ

เมื่อล้างทำความสะอาดแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนที่มักจะทำให้เกิดรอยขนแมวได้อีกก็คือการเช็ดแห้ง แนะนำให้ใช้ผ้าชามัวร์คุณภาพดีครับ
เราใช้มันซับน้ำนะครับ ไม่ได้เอามาถูให้รถแห้ง แค่เอาชามัวร์มาซับ ๆ น้ำออกเท่านั้น  ถ้าเราใช้แชมพูที่มันไม่ทั้งคราบ ก็จะซับน้ำง่ายไม่ต้องออกแรงถูครับ รถก็ไม่ช้ำ เมื่อใช้ชามัวร์ซับแล้ว จริง ๆ รถก็จะสะอาดและแห้งแล้วล่ะครับ แต่ถ้าต้องการใช้มันแห้งมากขึ้น และรถเงามากขึ้นก็ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อดี ๆ เช็ดเบา ๆ อีกรอบก็ได้ครับ
  ผมมีสูตรน้ำยาล้างรถที่ใมช้มาสิบกว่าปีแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรกับสีรถเลย คือผมใช้แชมพูสระผมผสมกับน้ำยาล้างจานนะครับ อย่างละครึ่ง
กวนให้เข้ากํนแล้วใช้ล้างได้ดี ไม่ทั้งคราบน้ำไว้ เวลา่ซํบน้ำนี่ง่ายมากครับ ไม่เสียเวลาด้วย น้ำยาล้างจานจะมีสารลดแรงตึงผิวผสมอยู่เยอะหน่อยและมีสารขจัดคราบมันด้วย 

  การทำความสะอาดภายใน ผมก็มีสูตรครับ ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มผสมน้ำในอัตรา 1 ต่อ  10 ทำความสะอาดภายในทั้งหมดรวมทั้งขอบยางประตู ยางใบปัดน้ำฝนครับ แว้กผมไม่ใช้เลย น้ำยาปรับผ้านุ่มก็มีสารลดแรงตึงผิว มันจึงซึมเข้าผิวได้ง่ายและแห้งเร็ว มีารฆ่าเชื้อโรค รถจะไม่มีกลิ่นอับ
ช่วยรักษาสภาพยางด้วยครับ

การเคลือบสีรถ มันจะมีประเภทน้ำยาหลัก ๆ อยู่สองชนิด คือ ชนิดสารธรรมชาติหรือคาร์ฺนัวบ้า กับประเภทสารสังเคราะห์พวกซิลิคอน
มีข้อดีข้อเสียต่างกันครับ ประเภทคาร์นัวบ้าจะใช้ง่าย ให้ความเงาแบบฉ่ำลึก แต่จะติดผิวรถได้ไม่นาน คือไม่เกินสองเดือนครับ
ส่วนประเภทสารสังเคราะห์ จะให้ความเงาแบบประกาย ไม่ฉ่ำ ใช้เคลือบยากหน่อยเพราะน้ำยาจะเหนียว มักจะใช้เครื่องขัดเอาครับ ขัดมือก็ได้แต่เหนื่อยหน่อย   ข้อดีคือจะะอยู่กับผิวรถได้นานกว่า ครับ ประมาณ 4 - 6 เดือน
แต่ทั้งสองประเภทนี้ก็จะมีแยกไปอีกเป็นชนิดที่ผสมผงขัด กับไม่ผสมผงขัด รถใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีรอยอะไร ก็ควรใช้ชนิดไม่ผสมผงขัดครับ
ถ้ามีรอยขนแมวบาง ๆ อยู่บ้างก็ควรใช้ชนิดผสมผงขัดเพราะมันจะช่วยลบรอยได้
และแนะนำว่าถ้าจะเคลือบเองให้ใช้น้ำยาประเภทคาร์นัวบ้าขัดด้วยมือจะดีกว่าครับ ขัดเครื่องจะมีโอกาสเกิดรอย swirl ได้ง่ายถ้าไม่ชำนาญพอครับ ผมใช้วิธีขัดด้วยมือครับ ไม่ใช้เครื่อง

  การเคลือบสีก่อนจะลงมือเคลือบต้องล้างรถให้สะอาดก่อน หรืออาจจะเตรียมผิวรถด้วยดินน้ำมันก็ได้ แต่ถ้าไม่ชำนาญก็ควรลองทำกับรถมอเตอร์ไซด์ก่อนก็ไ้ดครับ มีหลายท่านลงดินน้ำมันแล้วปรากฎว่ารถเป็นรอยจากดินน้ำมันต้องมาแก้ขไขทำใหม่อีก การใช้ดินน้ำมันต้องมีน้ำยาหล่อลื่นด้วยครับ  ส่วนตัวผมไใ่เคยใช้ดินน้ำมันนะ แต่ผมเตรียมผิวรถด้วยจอห็สันเบบี้ออยครับ 5555 ใช้เหยาะบนผ้าขนหนูสะอาด ๆ สี่ห้าหยดแล้วทาบนผิวรถทีละส่วนแล้วถูตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์อีกที  ผมทำบ่อยครับ บางทีทำแล้วก็ไม่ลงน้ำยาเคลือบ เพราะรถมันเงางามแล้ว แต่เดือนหรือสองเดือนครั้งผมก็จะลงเคลือบด้วยน้ำยาประเภทคาร์ฺนัวบ้าไม่ผสมผงขัดครับ ส่วนประเภทผสมผงขัดผมลงปีละครั้งสองครั้ง

  ข้อสำคัญของการเคลือบคือ คุณต้องดูและเลือกประเภทของน้ำยาให้ถูกเสียก่อนครับ อ่านวิธีการใช้ข้างขวดให้ละเอียดด้วย
น้ำยาบางยี่ห้อเค้าเขียนไว้เลยว่าเหมาะกับรถสีเก่า ดูให้ดี ๆ นะครับ อย่าเชื่อคนขายมาก  และผ้าหรือฟองน้ำที่ใช้ต้องสะอาดครับ

  ผมใช้วิธีนี้ล่ะครับในการดูแลรถ ขอบอกว่ารอยขนแมวแทบไม่มีเลยครับ รถก็อายุ 7 ปี แระครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 01, 2016, 16:45:40 โดย adis »



Quadrifoglio Verde

ในเรื่องการล้าง เทคนิคสำคัญคือ ใช้ผ้าให้ถูกครับ คิอต้องแยกผ้าในการทำหน้าที่กันเด็ดขาด อย่าไปปนกันแลัผ้าต้องสะอาดด้วย
อันดับแรกเวลาล้างก็คือฉีดน้ำเอาพวกเศษสกปรกออกไปก่อนทั้งคันโดยฉีดจากหลังคาลงมาด้านล่าง จากนั้น ให้เริ่มฉีดนำทำความสะอาดซุ่มล้อและล้อก่อนครับ เพราะส่วนนี้จะสกปรกมากที่สุด ที่เศษทราย เศษสกปรกมากที่สุด จึงต้องขจัดมันออกไปก่อนส่วนอื่น
ในบริเวณซุ้มล้อและล้อนี้ ใช้ผ้าเฉพาะของมันผืนนึงไปเลยครับ ใช้เสร็จก็หมดหน้าที่มัน
ต่อไปก็เริ่มล้างตัวถังจากส่วนหลังคาลงมาก่อนครับ ใช้ผ้าอีกผืนนึง ใช้เสร็จก็หมดหน้าที่มัน  การล้างบริเวณนี้หากไปเจอเศษยางมะตอยหรือเศษอไรที่มันออกยากหน่อย ห้ามไปถูมันแรง ๆ หรือเอาเล็ยไปแกะไปขูดครับ ทิ้งไว้ก่อน ค่อยมาเก็บงานทีหลังด้วยน้ำยาเคลือบสีได้ครับ

การล้างนี้จะใช้แชมพูหรือไม่ก็อยู่ที่รถเราสกปรกมากแค่ไหน ถ้าไม่ได้สกปรกหรือมีคราบอะไรมาก ก็ไม่ต้องแชมพูก็ได้ครับ
แชมพูที่ผมจะแนะนำโดยส่วนตัวนะครับ คืออย่าไปใช้ประเภททูอินวัน หรือพวกที่ผสมน้ำยาเคลือบ เพราะเวลาซับน้ำหรือเช็ดแห้ง มันจะยากต้องออกแรงเยอะครับ

หัวใจของขั้นตอนนี้คือ ก่อนล้าง ผิวรถต้องไม่มีเศษทรายอยู่ ต้องฉีดน้ำเอาเศษพวกนี้ออกไปก่อน และ ผ้าที่ใช้ต้องสะอาดแยกประเภทการใช้งาน อย่าไปใช้ปนครับ

เมื่อล้างทำความสะอาดแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนที่มักจะทำให้เกิดรอยขนแมวได้อีกก็คือการเช็ดแห้ง แนะนำให้ใช้ผ้าชามัวร์คุณภาพดีครับ
เราใช้มันซับน้ำนะครับ ไม่ได้เอามาถูให้รถแห้ง แค่เอาชามัวร์มาซับ ๆ น้ำออกเท่านั้น  ถ้าเราใช้แชมพูที่มันไม่ทั้งคราบ ก็จะซับน้ำง่ายไม่ต้องออกแรงถูครับ รถก็ไม่ช้ำ เมื่อใช้ชามัวร์ซับแล้ว จริง ๆ รถก็จะสะอาดและแห้งแล้วล่ะครับ แต่ถ้าต้องการใช้มันแห้งมากขึ้น และรถเงามากขึ้นก็ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อดี ๆ เช็ดเบา ๆ อีกรอบก็ได้ครับ
  ผมมีสูตรน้ำยาล้างรถที่ใมช้มาสิบกว่าปีแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรกับสีรถเลย คือผมใช้แชมพูสระผมผสมกับน้ำยาล้างจานนะครับ อย่างละครึ่ง
กวนให้เข้ากํนแล้วใช้ล้างได้ดี ไม่ทั้งคราบน้ำไว้ เวลา่ซํบน้ำนี่ง่ายมากครับ ไม่เสียเวลาด้วย น้ำยาล้างจานจะมีสารลดแรงตึงผิวผสมอยู่เยอะหน่อยและมีสารขจัดคราบมันด้วย 

  การทำความสะอาดภายใน ผมก็มีสูตรครับ ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มผสมน้ำในอัตรา 1 ต่อ  10 ทำความสะอาดภายในทั้งหมดรวมทั้งขอบยางประตู ยางใบปัดน้ำฝนครับ แว้กผมไม่ใช้เลย น้ำยาปรับผ้านุ่มก็มีสารลดแรงตึงผิว มันจึงซึมเข้าผิวได้ง่ายและแห้งเร็ว มีารฆ่าเชื้อโรค รถจะไม่มีกลิ่นอับ
ช่วยรักษาสภาพยางด้วยครับ

การเคลือบสีรถ มันจะมีประเภทน้ำยาหลัก ๆ อยู่สองชนิด คือ ชนิดสารธรรมชาติหรือคาร์ฺนัวบ้า กับประเภทสารสังเคราะห์พวกซิลิคอน
มีข้อดีข้อเสียต่างกันครับ ประเภทคาร์นัวบ้าจะใช้ง่าย ให้ความเงาแบบฉ่ำลึก แต่จะติดผิวรถได้ไม่นาน คือไม่เกินสองเดือนครับ
ส่วนประเภทสารสังเคราะห์ จะให้ความเงาแบบประกาย ไม่ฉ่ำ ใช้เคลือบยากหน่อยเพราะน้ำยาจะเหนียว มักจะใช้เครื่องขัดเอาครับ ขัดมือก็ได้แต่เหนื่อยหน่อย   ข้อดีคือจะะอยู่กับผิวรถได้นานกว่า ครับ ประมาณ 4 - 6 เดือน
แต่ทั้งสองประเภทนี้ก็จะมีแยกไปอีกเป็นชนิดที่ผสมผงขัด กับไม่ผสมผงขัด รถใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีรอยอะไร ก็ควรใช้ชนิดไม่ผสมผงขัดครับ
ถ้ามีรอยขนแมวบาง ๆ อยู่บ้างก็ควรใช้ชนิดผสมผงขัดเพราะมันจะช่วยลบรอยได้
และแนะนำว่าถ้าจะเคลือบเองให้ใช้น้ำยาประเภทคาร์นัวบ้าขัดด้วยมือจะดีกว่าครับ ขัดเครื่องจะมีโอกาสเกิดรอย swirl ได้ง่ายถ้าไม่ชำนาญพอครับ ผมใช้วิธีขัดด้วยมือครับ ไม่ใช้เครื่อง

  การเคลือบสีก่อนจะลงมือเคลือบต้องล้างรถให้สะอาดก่อน หรืออาจจะเตรียมผิวรถด้วยดินน้ำมันก็ได้ แต่ถ้าไม่ชำนาญก็ควรลองทำกับรถมอเตอร์ไซด์ก่อนก็ไ้ดครับ มีหลายท่านลงดินน้ำมันแล้วปรากฎว่ารถเป็นรอยจากดินน้ำมันต้องมาแก้ขไขทำใหม่อีก การใช้ดินน้ำมันต้องมีน้ำยาหล่อลื่นด้วยครับ  ส่วนตัวผมไใ่เคยใช้ดินน้ำมันนะ แต่ผมเตรียมผิวรถด้วยจอห็สันเบบี้ออยครับ 5555 ใช้เหยาะบนผ้าขนหนูสะอาด ๆ สี่ห้าหยดแล้วทาบนผิวรถทีละส่วนแล้วถูตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์อีกที  ผมทำบ่อยครับ บางทีทำแล้วก็ไม่ลงน้ำยาเคลือบ เพราะรถมันเงางามแล้ว แต่เดือนหรือสองเดือนครั้งผมก็จะลงเคลือบด้วยน้ำยาประเภทคาร์ฺนัวบ้าไม่ผสมผงขัดครับ ส่วนประเภทผสมผงขัดผมลงปีละครั้งสองครั้ง

  ข้อสำคัญของการเคลือบคือ คุณต้องดูและเลือกประเภทของน้ำยาให้ถูกเสียก่อนครับ อ่านวิธีการใช้ข้างขวดให้ละเอียดด้วย
น้ำยาบางยี่ห้อเค้าเขียนไว้เลยว่าเหมาะกับรถสีเก่า ดูให้ดี ๆ นะครับ อย่าเชื่อคนขายมาก  และผ้าหรือฟองน้ำที่ใช้ต้องสะอาดครับ

  ผมใช้วิธีนี้ล่ะครับในการดูแลรถ ขอบอกว่ารอยขนแมวแทบไม่มีเลยครับ รถก็อายุ 7 ปี แระครับ

+1 สุโค่ยไปเรยครับ
FIAT 131 SuperBrava 1600 T/C 1981
VOLVO 850 GLT 1997
Mercedes W204 C250 CDI AVANTGARDE 2011