ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา  (อ่าน 3458 ครั้ง)

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 526
    • อีเมล์
ถ้าคุณซื้อรถใหม่ป้ายแดง ราคาคันละล้านกว่าบาท แต่ถอยออกมาใช้ได้ไม่ทันจะข้ามเดือน ปรากฏว่าต้องเอาเข้าอู่ซ่อมอาทิตย์เว้นอาทิตย์ คุณจะทำอย่างไร
ก. ก้มหน้ารับกรรมถือเป็นโชคร้ายของเรา แล้วให้ศูนย์บริการ ซ่อม แก้ไขอาการไปเรื่อย ๆ
ข. ยอมรับข้อเสนอของบริษัทที่จะรับผิดชอบด้วยการขยายระยะเวลารับประกันออกไปอีก
ค. ยืนยันขอเปลี่ยนรถคันใหม่ เพราะตั้งใจซื้อรถมาใช้ไม่ได้ซื้อมาให้ซ่อม
ง. ขอเงินคืนแล้วไปซื้อ รถยี่ห้ออื่น ดีกว่า
จ. ขอให้รัฐระงับการขายรถรุ่นที่มีปัญหา
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องทนกล้ำกลืนเลือก ข้อ ก.หรือ ข. ทั้งที่ใจจริงอยากจะเลือกข้อ ค. หรือ ง. แต่ไม่รู้จะเจรจาต่อรองกับบริษัทอย่างไร ก็ในเมื่อบริษัทยืนกรานอย่างเดียวว่าซ่อมได้และจะซ่อมให้ ไม่มีทางที่บริษัทจะเปลี่ยนรถ หรือคืนเงินให้คุณได้ เพราะรถคันหนึ่งราคาเป็นแสนเป็นล้าน ไม่ใช่สินค้าขายตรงทางทีวี ที่ไม่พอใจสินค้าก็ยินดีคืนเงิน
ก็เพราะรถยนต์ในบ้านเราราคาคันหนึ่งไม่ใช่ถูกนี่แหละ ที่ทำให้ผู้บริโภคหลายคนตั้งคำถามย้อนกลับว่า ก็แล้วทำไมจะต้องยอมเขาล่ะ กับสินค้าราคาไม่เท่าไรเขายังรับผิดชอบ แล้วนี่เราเสียเงินเป็นล้านเป็นแสนแล้วทำไมต้องมาทนใช้รถที่มีปัญหา
หลายคนจึงลุกขึ้นมาทวงสิทธิของตนในฐานะผู้บริโภค จนบริษัทรถยนต์ต้องรับผิดชอบคืนเงิน หรือเปลี่ยนรถให้ใหม่ตามที่เรียกร้อง ดังนั้น ผู้บริโภคจึงไม่จำเป็นต้องทนแบกรับปัญหาในลักษณะนี้อีกต่อไป
ในเรื่องการซื้อขาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๗๒ “ในกรณีที่ทรัพย์สินซึ่งขายนั้นชำรุดบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อันมุ่งจะใช้เป็นปกติก็ดี ประโยชน์ที่มุ่งหมายโดยสัญญาก็ดี ท่านว่าผู้ขายต้องรับผิด
ความที่กล่าวมาในมาตรนี้ย่อมใช้ได้ ทั้งที่ผู้ขายรู้อยู่แล้วหรือไม่รู้ว่าความชำรุดบกพร่องมีอยู่”
ดังนั้น หากรถใหม่ป้ายแดงที่ซื้อมาใช้ได้สามวันดี สี่วันซ่อม โดยเฉพาะการซ่อมเกี่ยวกับเครื่องยนต์ในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญของรถ ก็จะเข้าลักษณะของการขายทรัพย์ซึ่งชำรุดบกพร่อง ทำให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมที่จะใช้ประโยชน์จากรถยนต์ใหม่ ซึ่งทางบริษัทผู้ขายจะต้องรับผิดชอบ
ในประเทศไทยเราก็มีกรณีผู้บริโภคฟ้องร้องบริษัทเพื่อขอคืนรถและขอเงินคืน ซึ่งศาลก็ได้พิพากษาให้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายชนะคดีมาแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าเรื่องของการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าที่ชำรุดบกพร่องนั้น เป็นสิ่งที่กระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าของที่เราซื้อมานั้นจะมีราคาเท่าใดก็ตาม ซึ่งผู้ซื้อจะต้องใช้สิทธิฟ้องร้องภายในหนึ่งปี นับแต่วันที่ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่อง (ม. ๔๗๔ ปพพ.)
สำหรับผู้บริโภคโดยทั่วไป การเรียกร้องให้บริษัทต้องรับผิดชอบจนถึงฟ้องร้องเป็นคดีความนั้น ก็เป็นวิธีการที่ไม่ง่ายนัก เพราะต้องใช้เงิน ใช้ความรู้ ใช้เวลามากพอสมควร
อย่างไรก็ตาม มีหลายกรณีที่การแก้ไขปัญหาจบลงโดยไม่ต้องถึงโรงถึงศาล ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคพอที่จะสรุปแนวทางเบื้องต้น ได้ดังนี้
๑ เก็บหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับซ่อมแซมรถใหม่ของคุณไว้ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงความชำรุดบกพร่องที่เกิดขึ้นจริง
๒ ในกรณีที่ความชำรุดบกพร่องนั้นมีมากจน อย่างที่ภาษากฎหมายเขาว่า “อันเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อันมุ่งจะใช้เป็นปกติก็ดี ประโยชน์ที่มุ่งหมายโดยสัญญาก็ดี” เช่น รถใหม่ป้ายแดงใช้ได้ไม่ถึงเดือน มีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ เข้าศูนย์สามสี่ครั้งก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ แบบนี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องทนให้เขาซ่อมแล้วซ่อมอีก
๓ ดำเนินการเจรจา เพื่อให้บริษัทผู้ขายรถยนต์รับผิดชอบแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด และควรทำเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในบริษัทโดยตรง เพื่อจะได้มีหลักฐาน และเป็นการแสดงความตั้งใจของเราที่ต้องการให้บริษัทแก้ไขปัญหา หากเป้าหมายของคุณคือการขอเปลี่ยนรถใหม่ หรือขอเงินคืน อย่าเสียเวลาเจรจาปากเปล่ากับพนักงานขาย ลูกค้าสัมพันธ์ หรือช่างของศูนย์บริการเพราะการตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนรถหรือคืนเงิน ไม่อยู่ในอำนาจการตัดสินใจของเขา และป่วยการที่จะพยายามขอเจรจากับผู้มีอำนาจด้วยการขอเข้าพบหรือโทรศัพท์มาติดต่อ เพราะจะถูกกัน การส่งหนังสือจึงเป็นวิธีการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดในการแก้ปัญหาลักษณะนี้
๔ เนื้อหาหนังสือที่คุณทำจะต้องพูดถึง ความชำรุดบกพร่องที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ พร้อมกับสำเนาหลักฐานการซ่อมต่าง ๆ เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง และคุณต้องการให้บริษัทรับผิดชอบอย่างไร จะให้เปลี่ยนรถใหม่ หรือจะขอเงินคืน ควรระบุให้ชัดเจน และควรกำหนดระยะเวลาให้ทางบริษัทตัดสินใจ เช่น ภายใน ๗ วัน หรือ ๑๕ วันนับแต่ได้รับจดหมาย
๕ นอกจากจะส่งหนังสือนี้ให้กับทางบริษัทผู้ขาย คู่สัญญาของคุณแล้ว ก็ควรจะทำสำเนาส่งถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แก่ บริษัทแม่เจ้าของผลิตภัณฑ์ บริษัทไฟแนนซ์ที่คุณเช่าซื้อรถ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคทั้งภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และภาคเอกชนอย่างมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อที่ทุกฝ่ายที่จะได้ทราบเรื่อง โดยเฉพาะบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะมีส่วนในการตัดสินใจว่าจะให้ตัวแทนจำหน่ายของเขารับผิดชอบต่อลูกค้าอย่างไร
๖ ควรส่งหนังสือนี้ โดยใช้รูปแบบของจดหมายลงทะเบียนแบบตอบรับ เพื่อที่จะได้มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า หนังสือของคุณส่งถึงมือของผู้รับแน่นอน
๗.เมื่อการเจรจากับคู่กรณีไม่เป็นผล ก็มีหลายกรณีที่ผู้บริโภค ต้องใช้พลังทางสังคมเข้ามาช่วย โดยการให้ข่าวกับสื่อมวลชน หรือ ปิดป้ายประท้วงรอบรถคันที่มีปัญหาแล้วขับไปในที่ต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลกับสาธารณชน ซึ่งก็เป็นสิทธิที่ผู้บริโภคจะสามารถกระทำได้ ในลักษณะให้ประสบการณ์ของตนเป็นอุทธาหรณ์เตือนผู้บริโภคอื่น ๆ ให้เกิดความระมัดระวัง ไม่ใช่เป็นการใส่ความให้บริษัทได้รับความเสียหาย
ความสำเร็จของการแก้ปัญหานั้นขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่น ไม่ท้อถอยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ เพราะการใช้สิทธิขอเปลี่ยนรถใหม่ หรือขอเงินคืนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องพบกับอุปสรรคบ้าง แต่เมื่อผู้บริโภคลุกขึ้นมาใช้สิทธิเช่นนี้กันมากขึ้น ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยยกระดับของความรับผิดชอบของผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์ในบ้านเราให้สูงขึ้น

ออฟไลน์ nimnim_thailand

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 380
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 23, 2022, 19:36:37 »
ปรึกษาทนายง่ายที่สุด

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 23, 2022, 19:45:18 »
ผมอ่านได้2บรรทัดครับ

ขออภัย555 แต่ไม่น่าใช่รถป้ายแดงละ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,872
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 23, 2022, 20:08:13 »
ถ้าอนาคต จะมีพรรคการเมืองไหนกล้าที่จะชูนโยบายคุ้มครองผู้บริโภคเต็มรูปแบบ ก็ลองเลือกพรรคนั้นๆดู

แต่ปัจจุบันยังไม่มี และไม่มีวี่แววว่าจะมี

ดังนั้น ก็คงต้องก้มหน้ารับกรรม
ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็ทำเป็นเรื่องใหญ่ออกสื่อ

พวกเราเป็น พลเมืองชั้น 3 คงทำได้เท่านี้จริงๆครับ

ออฟไลน์ aekoy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 23, 2022, 20:08:48 »
ผมซื้อรถ Demo ที่ใช้ไปแล้ว 5-6 พัน km รถถูกใช้มาแล้ว 5-6 เดือน ยังเป็นรถบ้ายแดงจดทะเบียนเป็นชื่อผมชื่อแรก เท่าที่ใช้มาจะ 10 ปีแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมใช้รถน้อยเลยไม่ค่อยสนใจระยะทางที่รถถูกใช้มาก่อน เพื่อนผมอีกคนก็ซื้อแบบนี้ตามผมเหมือนกันรถก็ปกติดี รถใหม่มีโอกาสผิดพลาดได้เสมอครับ เขาถึงต้องมีการรับประกันครับ ย้อนไปดูรถยุด 90 รับประกันแค่ 1 ปีทั้งนั้น เดี๋ยวนี้รับประกันยาว 3-5 ปี ถ้ายังแก้ไม่หายอย่างน้อยควรมีรถสำรองให้ใช้ครับ
Volvo 850 T-5R
SAAB 9000 Aero
BMW E30 M10 coupe M/T 1987
Volvo V60
Toyota AE111

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,977
    • อีเมล์
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 23, 2022, 20:58:28 »
หลายคนรู้ไหมครับว่า เหล่าผู้ที่รถมีปัญหาตั้งแต่ป้ายแดงน่ะ "ข้อเรียกร้องเค้ามากเกินไป"

แทบจะทุกคนเลยมั้งที่ ลากป้ายแดงหลายเดือน ใช้ไปแล้วหลายพันโล รถมีปัญหา เข้าศูนย์ ศูนย์แก้ไขให้ แต่เจ้าของรถบอก ไม่สบายใจที่จะใช้ต่อ ขอคืนเต็มจำนวน เพราะรถยังใหม่ ..

รู้กันไหมว่า แทบทุกคนอะ เรียกแบบนี้กันหมด ค่ายรถก็รับประกันเพิ่มให้บ้าง ฟรีค่าแรงค่าอะไหล่ให้ ก็ไม่ยอม จะเปลี่ยนรถท่าเดียว แถมบางเคสมีเรียกค่าเสียหายด้วย

อย่างเคสฟอร์ด เค้าขอซื้อรถคืน ก็ไม่ยอมคืน เคสนี้รู้เลยว่าต้องการมากกว่าที่ควรจะได้ ต้องการมากกว่าความรับผิดชอบ  ลูกค้าแบบนี้เยอะ และมีทุกค่าย

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,750
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 23, 2022, 21:05:58 »
ยังไม่เคยเจอรถมีปัญหาครับ ก่อนเลือกรถก็พยายามเลี่ยงรุ่นที่มีปัญหาอยู่แล้ว
ทำใจไว้ประมาณนึงแล้วว่า เซนรับแล้วโอกาศเปลี่ยนคันคงยากขึ้น
ถ้าปัญหาพวกเครื่องยนต์ระบบส่งกำลังคงอยากให้เปลี่ยนคันใหม่ แต่ถ้าไม่ได้ ยกเครื่องใหม่แถมประกันเพิ่มให้ก้อโอเค
แต่พวกส่วนควบต่างๆ ถ้าเสียเปลี่ยนอะไหล่ตามอาการไป ผมรับได้
ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ถ้ายอมรับและดูแลให้ ก็ไม่มีปัญหาครับ

ออฟไลน์ bobsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,610
    • อีเมล์
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 23, 2022, 23:01:57 »
หลายคนรู้ไหมครับว่า เหล่าผู้ที่รถมีปัญหาตั้งแต่ป้ายแดงน่ะ "ข้อเรียกร้องเค้ามากเกินไป"

แทบจะทุกคนเลยมั้งที่ ลากป้ายแดงหลายเดือน ใช้ไปแล้วหลายพันโล รถมีปัญหา เข้าศูนย์ ศูนย์แก้ไขให้ แต่เจ้าของรถบอก ไม่สบายใจที่จะใช้ต่อ ขอคืนเต็มจำนวน เพราะรถยังใหม่ ..

รู้กันไหมว่า แทบทุกคนอะ เรียกแบบนี้กันหมด ค่ายรถก็รับประกันเพิ่มให้บ้าง ฟรีค่าแรงค่าอะไหล่ให้ ก็ไม่ยอม จะเปลี่ยนรถท่าเดียว แถมบางเคสมีเรียกค่าเสียหายด้วย

อย่างเคสฟอร์ด เค้าขอซื้อรถคืน ก็ไม่ยอมคืน เคสนี้รู้เลยว่าต้องการมากกว่าที่ควรจะได้ ต้องการมากกว่าความรับผิดชอบ  ลูกค้าแบบนี้เยอะ และมีทุกค่าย

อยากทราบว่าขอซื้อคืนแล้วไม่ยอม ทางศูนย์ขอซื้อคืนในราคาเท่าไหร่ครับ
อยากรู้แค่นี้จริงๆ

ส่วนรถที่มีปัญหาการเรียกร้องค่าเสียหายก็ไม่แปลกตรงไหนนี่ครับ
เสียเวลาเสียค่าเดินทางเอารถไปเข้าศูนย์บ่อยๆมันไม่น่าสนุกครับ

เห็นด้วยเรื่องคำว่ารถป้ายแดง รถป้ายแดงในที่นี้ ตามความเข้าใจของคนโดยทั่วไปคือซื้อรถใหม่
แล้วรถใหม่ที่มีปัญหาจนไม่อาจยอมรับได้ มันไม่น่าเกิน 1-3 เดือน ครับ
พวกลากจดไม่นับ




ออฟไลน์ คุณ นมๆ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 716
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 23, 2022, 23:19:48 »
ถ้าอะไรที่เล็กๆน้อยๆรับได้ หรือชัวร์ว่าพังจุดนี้จริงๆ ผมเลือกข้อ 1 แม้แต่เครื่องพังแล้วเครมเครื่องใหม่ให้ผมก็ยอมนะ เพราะยังไงมันก็เครื่องใหม่ ต่อสายไฟ ต่อสายน้ำมันก็จบ

แต่ถ้าระบบไฟรวน ครั้งแรกครั้งสองแก้จบยังให้อภัย แต่ถ้าครั้งที่3ผมจะร้องเปลี่ยนคัน

ปล.ผมสงสัยหลายๆเคสที่ไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องอ้างว่าเปลี่ยนเครื่องแล้วทำราคาขายต่อลด ก็ใช่แต่ศูนย์เค้าก็ตีเลขเดิมให้เลยไม่ใช่เหรอ ครับเล่มยังไม่ได้ชื่อมาจากลิ้นชักเลย ผมเลยคิดว่ามันไม่น่าจะมีผลกับราคานะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 23, 2022, 23:23:59 โดย อวยไหบิด »

ออฟไลน์ Kanarath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 02:10:56 »
หลายคนรู้ไหมครับว่า เหล่าผู้ที่รถมีปัญหาตั้งแต่ป้ายแดงน่ะ "ข้อเรียกร้องเค้ามากเกินไป"

แทบจะทุกคนเลยมั้งที่ ลากป้ายแดงหลายเดือน ใช้ไปแล้วหลายพันโล รถมีปัญหา เข้าศูนย์ ศูนย์แก้ไขให้ แต่เจ้าของรถบอก ไม่สบายใจที่จะใช้ต่อ ขอคืนเต็มจำนวน เพราะรถยังใหม่ ..

รู้กันไหมว่า แทบทุกคนอะ เรียกแบบนี้กันหมด ค่ายรถก็รับประกันเพิ่มให้บ้าง ฟรีค่าแรงค่าอะไหล่ให้ ก็ไม่ยอม จะเปลี่ยนรถท่าเดียว แถมบางเคสมีเรียกค่าเสียหายด้วย

อย่างเคสฟอร์ด เค้าขอซื้อรถคืน ก็ไม่ยอมคืน เคสนี้รู้เลยว่าต้องการมากกว่าที่ควรจะได้ ต้องการมากกว่าความรับผิดชอบ  ลูกค้าแบบนี้เยอะ และมีทุกค่าย

อยากทราบว่าขอซื้อคืนแล้วไม่ยอม ทางศูนย์ขอซื้อคืนในราคาเท่าไหร่ครับ
อยากรู้แค่นี้จริงๆ

ส่วนรถที่มีปัญหาการเรียกร้องค่าเสียหายก็ไม่แปลกตรงไหนนี่ครับ
เสียเวลาเสียค่าเดินทางเอารถไปเข้าศูนย์บ่อยๆมันไม่น่าสนุกครับ

เห็นด้วยเรื่องคำว่ารถป้ายแดง รถป้ายแดงในที่นี้ ตามความเข้าใจของคนโดยทั่วไปคือซื้อรถใหม่
แล้วรถใหม่ที่มีปัญหาจนไม่อาจยอมรับได้ มันไม่น่าเกิน 1-3 เดือน ครับ
พวกลากจดไม่นับ

เห็นด้วยครับ คนปกติทั่วไปอ่านก็เข้าใจได้ว่า รถป้ายแดงในที่นี้คือรถใหม่ ไม่ใช่พวกลากจด

แถมเจ้าของกระทู้ก็บอกอยู่ว่า รถใหม่ป้ายแดง ใช้ไม่ทันข้ามเดือน

ออฟไลน์ Niti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
  • Live is short. Live it!
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 06:25:40 »
การคุ้มครองผู้บริโภคบ้านเรายังทำได้ไม่ดีครับ

ทำได้เมื่อไหร่ มาตรฐานทั้งฝั่งผู้ขายและผู้บริโภคน่าจะดีขึ้น
-------------------------------------------------------------
In: 350Z DE / New Fortuner TRD / Harrier XU60*2 / Alphard AH30
Out: Miata NC RHT / 86 / IS250
-------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ panupong508

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 08:01:29 »
มีข้อสงสัยมานาน  คือทุกวันนี้ ซื้อของอะไรก็ตามแต่ ซื้อไปแล้วมีปัญหา ร้านก็เปลี่ยนชิ้นใหม่ให้ อย่างที่บอก ซื้อไปเสียใช้ไม่ได้ให้เอาไปเปลี่ยน อาจจะไม่คืนเงิน แต่เปลี่ยนชิ้นใหม่ให้เลย ถือว่าเป็นการรู้กัน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย  แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมกับรถยนต์ถึงเปลี่ยนคันใหม่ไม่ได้  ต้องไปฟ้องร้องกันอุดตรุด  คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกมาสร้างบรรทัดฐานในเรื่องนี้ให้ชัดเจนเสียที จะได้บังคับใช้ได้เหมือนๆกันทั่วประเทศ  ไม่ต้องมาลุ้นตัวโก่งว่าผลจะออกมาอย่างไร  บางเคสเจอศูนย์ที่ใจสปอต เรื่องก็จบง่ายหน่อย ถ้าไปเจอศูนย์ขี้งกก็ชีช้ำไป  ทุกวันนี้จะออกรถทีต้องดูรีวิวศูนย์บริการประกอบด้วย  ศูนย์ดี ทำเลดี แต่มีพนักงานงี่เง่าก็ไม่ไหวครับ

ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,870
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 09:37:22 »
ถ้าใช้ไปไม่เกิน3เดือน ยังไม่ได้ป้ายขาวแล้วมีปัญหาที่ 1.วิ่งต่อไม่ได้ 2.ต้องเอาไปเข้าศูนย์มากกว่า2ครั้งใน3เดือน หรือปัญหาเดิมแก้2ครั้งแล้วยังไม่จบ ผมคงขอเปลี่ยนรถครับ

ซึ่งศูนย์ไม่น่ายอม ผมก็จ้างทนายฟ้องเอาแหละ รถป้ายแดงถ้าต้องมาเข้าๆออกๆศูนย์เหมือนรถมือสองจะซื้อป้ายแดงทำไม เสียเวลาทำมาหากิน

ออฟไลน์ CMaN20

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 09:43:35 »
มีข้อสงสัยมานาน  คือทุกวันนี้ ซื้อของอะไรก็ตามแต่ ซื้อไปแล้วมีปัญหา ร้านก็เปลี่ยนชิ้นใหม่ให้ อย่างที่บอก ซื้อไปเสียใช้ไม่ได้ให้เอาไปเปลี่ยน อาจจะไม่คืนเงิน แต่เปลี่ยนชิ้นใหม่ให้เลย ถือว่าเป็นการรู้กัน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย  แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมกับรถยนต์ถึงเปลี่ยนคันใหม่ไม่ได้  ต้องไปฟ้องร้องกันอุดตรุด  คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกมาสร้างบรรทัดฐานในเรื่องนี้ให้ชัดเจนเสียที จะได้บังคับใช้ได้เหมือนๆกันทั่วประเทศ  ไม่ต้องมาลุ้นตัวโก่งว่าผลจะออกมาอย่างไร  บางเคสเจอศูนย์ที่ใจสปอต เรื่องก็จบง่ายหน่อย ถ้าไปเจอศูนย์ขี้งกก็ชีช้ำไป  ทุกวันนี้จะออกรถทีต้องดูรีวิวศูนย์บริการประกอบด้วย  ศูนย์ดี ทำเลดี แต่มีพนักงานงี่เง่าก็ไม่ไหวครับ

ที่คุณพูดถึงมันคือของมูลค่าหลักร้อย หลักพันครับ หรืออาจจะถึงหมื่น. แต่ผมถ่มหน่อยว่าของราคาหลักล้าน (ไม่ใช้รถนะ) มีอะไรที่เค้าเปลี่ยนให้มั่งถ้าพัง?

ผมยกตัวอย่างเครื่องจักร ราคาหลักล้านเหมือนกันนะครับ มันมาพร้อมwarrentee  (เหมือนรถยน) ถ้าในห่วงเวลามีอะไรเสีย ก็ซ่อมที่จุดๆนั้น ถ้าซ่อมไม่ได้หรือเสียบ่อย ก็อาจจะขยายการรับประกัน หรือสุดๆจริงๆซ่อมไม่หาย ก็อาจจะมีเปลี่ยนตัวใหม่ให้เลย (แต่เคสแบบนี้ก็ยาก และอาจจะต้องดูที่สัญญาด้วย).

แค่จะบอกว่าไม่ใช้แค่ในไทยครับ แต่ผมว่าที่อื่นก็ไม่ได้เปลี่ยนรถให้ง่ายๆเหมือนกันหรอก.
# BMW    520d E60   
# BENZ   E250CDI W212
# BMW    520d G30
# VOLVO  XC90 D5 Y2020

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,750
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 10:06:40 »
มีข้อสงสัยมานาน  คือทุกวันนี้ ซื้อของอะไรก็ตามแต่ ซื้อไปแล้วมีปัญหา ร้านก็เปลี่ยนชิ้นใหม่ให้ อย่างที่บอก ซื้อไปเสียใช้ไม่ได้ให้เอาไปเปลี่ยน อาจจะไม่คืนเงิน แต่เปลี่ยนชิ้นใหม่ให้เลย ถือว่าเป็นการรู้กัน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย  แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมกับรถยนต์ถึงเปลี่ยนคันใหม่ไม่ได้  ต้องไปฟ้องร้องกันอุดตรุด  คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกมาสร้างบรรทัดฐานในเรื่องนี้ให้ชัดเจนเสียที จะได้บังคับใช้ได้เหมือนๆกันทั่วประเทศ  ไม่ต้องมาลุ้นตัวโก่งว่าผลจะออกมาอย่างไร  บางเคสเจอศูนย์ที่ใจสปอต เรื่องก็จบง่ายหน่อย ถ้าไปเจอศูนย์ขี้งกก็ชีช้ำไป  ทุกวันนี้จะออกรถทีต้องดูรีวิวศูนย์บริการประกอบด้วย  ศูนย์ดี ทำเลดี แต่มีพนักงานงี่เง่าก็ไม่ไหวครับ

ที่คุณพูดถึงมันคือของมูลค่าหลักร้อย หลักพันครับ หรืออาจจะถึงหมื่น. แต่ผมถ่มหน่อยว่าของราคาหลักล้าน (ไม่ใช้รถนะ) มีอะไรที่เค้าเปลี่ยนให้มั่งถ้าพัง?

ผมยกตัวอย่างเครื่องจักร ราคาหลักล้านเหมือนกันนะครับ มันมาพร้อมwarrentee  (เหมือนรถยน) ถ้าในห่วงเวลามีอะไรเสีย ก็ซ่อมที่จุดๆนั้น ถ้าซ่อมไม่ได้หรือเสียบ่อย ก็อาจจะขยายการรับประกัน หรือสุดๆจริงๆซ่อมไม่หาย ก็อาจจะมีเปลี่ยนตัวใหม่ให้เลย (แต่เคสแบบนี้ก็ยาก และอาจจะต้องดูที่สัญญาด้วย).

แค่จะบอกว่าไม่ใช้แค่ในไทยครับ แต่ผมว่าที่อื่นก็ไม่ได้เปลี่ยนรถให้ง่ายๆเหมือนกันหรอก.

คิดว่าโดยปรกติคือรับประกัน เสียซ่อมแต่หลังๆจะมี เสียภายใน 7วัน14วัน เปลี่ยนชิ้นใหม่เลยเหมือนเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า แต่ไม่ใช้มาตรฐานที่จะมีให้ทุกเจ้า
ในกรณีของรถอาจมีส่วนของพวกกรรมสิทธิ เอกสารต่างๆ ที่ไม่ได้ง่ายเหมือนซื้อของทั่วไป ถ้ากู้ก็มีเรื่องไฟแนนซ์ ค่าโอน อะไรอีก จะทำจริงๆคงได้แหละ แต่น่าจะยุ่งยากมีค่าใช้จ่ายเยอะ แถมของราคาสูงด้วย
ถ้าเครื่องเกียร์มีปัญหา ขอเปลี่ยนคันได้ก็จะดีมาก แต่ถ้าเจอคนบางกลุ่มที่คาดหวังไว้สูงลิบเช่นเจอรอยขนแมวก่อนรับรถแล้วไม่ให้แก้เอาคันใหม่ มีเหนื่อยแน่...
ดีที่สุดคือ เชคก่อนรับรถ สตาร์ทเครื่องลองฟังชั่นถ้าไม่โอก็เปลี่ยนรอคันใหม่

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 11:05:39 »
จำไว้ว่า คำ่ารับประกันตามเวลาของแต่ละบริษัท มันมีอะไรมากกว่านั้น

ไม่ใช่ว่า บอกรับประกันคุณภาพ 3 ปี คำๆ นี้ไม่ได้เหมือนกันทุกค่าย

ค่ายแย่ๆ ก็เอารถลูกค้าไปดอง รออะไหล่นาน

ค่ายดีๆ ก็เบิกอะไหล่ได้ไว ทำงานเป็นระบบ ช้าได้ แต่อัพเดตให้ลูกค้ารู้ด้วย อย่าปล่อยให้ลูกค้ารออย่างไร้ความหวัง

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 12:23:16 »
ซื้อรถก็ต้องเผื่อใจไว้บ้าง อย่าซื้อรถที่แพงเกินไป

ถ้ามีปัญหา ทางเลือกสุดท้ายมี2ทาง
1. ทน
2. ขาย

เรื่องไปต่อสู้ พอหอมปากหอมคอพอครับ ผมเคยเจอรู้ว่าไม่คุ้ม เสียเวลาเสียสุขภาพจิต
ขายหรือทน แล้ว กาหัวยี่ห้อมันให้แม่น อย่าไปฟังใครอีก
คนไม่เจอมันพูดได้ทั้งนั้นแหละ

ถ้าบริษัทมันดีจริง คงไม่เป็นแบบ fiestaหรอก ถ้าคืดว่าดีจริงแก้ปัญหาได้ทำไมเลิกขาย



ออฟไลน์ AKh

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 70
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 21:39:45 »
ท่านเป็นผู้เขียนหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ควรให้เครดิตผู้เขียนด้วยครับ https://mgronline.com/qol/detail/9480000013613

ออฟไลน์ panupong508

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 24, 2022, 22:14:37 »
มีข้อสงสัยมานาน  คือทุกวันนี้ ซื้อของอะไรก็ตามแต่ ซื้อไปแล้วมีปัญหา ร้านก็เปลี่ยนชิ้นใหม่ให้ อย่างที่บอก ซื้อไปเสียใช้ไม่ได้ให้เอาไปเปลี่ยน อาจจะไม่คืนเงิน แต่เปลี่ยนชิ้นใหม่ให้เลย ถือว่าเป็นการรู้กัน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย  แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมกับรถยนต์ถึงเปลี่ยนคันใหม่ไม่ได้  ต้องไปฟ้องร้องกันอุดตรุด  คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกมาสร้างบรรทัดฐานในเรื่องนี้ให้ชัดเจนเสียที จะได้บังคับใช้ได้เหมือนๆกันทั่วประเทศ  ไม่ต้องมาลุ้นตัวโก่งว่าผลจะออกมาอย่างไร  บางเคสเจอศูนย์ที่ใจสปอต เรื่องก็จบง่ายหน่อย ถ้าไปเจอศูนย์ขี้งกก็ชีช้ำไป  ทุกวันนี้จะออกรถทีต้องดูรีวิวศูนย์บริการประกอบด้วย  ศูนย์ดี ทำเลดี แต่มีพนักงานงี่เง่าก็ไม่ไหวครับ

ที่คุณพูดถึงมันคือของมูลค่าหลักร้อย หลักพันครับ หรืออาจจะถึงหมื่น. แต่ผมถ่มหน่อยว่าของราคาหลักล้าน (ไม่ใช้รถนะ) มีอะไรที่เค้าเปลี่ยนให้มั่งถ้าพัง?
ผมยกตัวอย่างเครื่องจักร ราคาหลักล้านเหมือนกันนะครับ มันมาพร้อมwarrentee  (เหมือนรถยน) ถ้าในห่วงเวลามีอะไรเสีย ก็ซ่อมที่จุดๆนั้น ถ้าซ่อมไม่ได้หรือเสียบ่อย ก็อาจจะขยายการรับประกัน หรือสุดๆจริงๆซ่อมไม่หาย ก็อาจจะมีเปลี่ยนตัวใหม่ให้เลย (แต่เคสแบบนี้ก็ยาก และอาจจะต้องดูที่สัญญาด้วย).

แค่จะบอกว่าไม่ใช้แค่ในไทยครับ แต่ผมว่าที่อื่นก็ไม่ได้เปลี่ยนรถให้ง่ายๆเหมือนกันหรอก.
   ใช่ครับ ที่พูดถึงมูลค่าหลักล้าน  ซึ่งเป็นเงินหลักล้านที่ผู้บริโภคก็จ่ายเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะของหลักร้อยหลักล้านก็จ่ายเช่นเดียวกันครับ อย่าเอามูลค่ามาอ้างเพื่อปัดความรับผิดชอบให้ดูดีครับ และเรื่อง วารันตีรับประกันแล้วไงครับ  ถ้าเครื่องไม่ไหม้ ควันไม่โชย ไฟไม่ลุก จะอ้างปัดความรับผิดบอกว่าเป็นความผิดผู้บริโภคหรือครับ หรือจะบอกว่าเป็นเพราะความซวยของลูกค้าเอง อย่างงี้ก็ได้เหรอ?

ออฟไลน์ final

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 582
    • อีเมล์
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 25, 2022, 07:53:47 »
หลายคนรู้ไหมครับว่า เหล่าผู้ที่รถมีปัญหาตั้งแต่ป้ายแดงน่ะ "ข้อเรียกร้องเค้ามากเกินไป"

แทบจะทุกคนเลยมั้งที่ ลากป้ายแดงหลายเดือน ใช้ไปแล้วหลายพันโล รถมีปัญหา เข้าศูนย์ ศูนย์แก้ไขให้ แต่เจ้าของรถบอก ไม่สบายใจที่จะใช้ต่อ ขอคืนเต็มจำนวน เพราะรถยังใหม่ ..

รู้กันไหมว่า แทบทุกคนอะ เรียกแบบนี้กันหมด ค่ายรถก็รับประกันเพิ่มให้บ้าง ฟรีค่าแรงค่าอะไหล่ให้ ก็ไม่ยอม จะเปลี่ยนรถท่าเดียว แถมบางเคสมีเรียกค่าเสียหายด้วย

อย่างเคสฟอร์ด เค้าขอซื้อรถคืน ก็ไม่ยอมคืน เคสนี้รู้เลยว่าต้องการมากกว่าที่ควรจะได้ ต้องการมากกว่าความรับผิดชอบ  ลูกค้าแบบนี้เยอะ และมีทุกค่าย

เอาจริงๆรถอายุไม่ถึงปีแต่ต้องเข้าศูนย์ทำอะไรนอกเหนือจากบำรุงรักษาตามปกติ ผมถือว่าห่วยครับเพราะคำว่ารถมันต้องพร้อมใช้งานต้องสมบุกสมบันไม่ใช่ใจเสาะงอแงง่าย

ออฟไลน์ pratuang

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 225
    • อีเมล์
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กันยายน 25, 2022, 17:14:03 »
ต้องทำใจอย่างเดียวเลยครับ หาศูนย์ที่บริการดีๆๆหน่อยครับ เมืองไทยไปติดต่อหน่วยราชการยุ่งยากครับ เสียเวลา จะฟ้องเองก็ต้องเสียเงินค่าทนายอีก และไม่รู้จะเสียเงินมากไปอีก ยืดเยื้อกว่าจะจบ ปวดสมองเปล่าๆๆๆครับ กฎหมายบ้านเราพูดตรงๆๆๆ มีแต่เสียเงิน

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,460
Re: ข้อแนะนำเวลาซื้อรถป้ายแดงแล้วมีปัญหา
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กันยายน 28, 2022, 08:18:10 »
ถ้าถูกหวยจริงๆ ก็คงต้องทำใจหน่อยครับ แต่ปกติก็พยายามเอายี่ห้อตลาด รุ่นตลาดๆ ไว้ เพราะคิดว่าการแก้ปัญหาน่าจะไม่ยุ่งยากครับ