เป็นไฟหรี่ก็มีข้อดีอยู่นะครับ ถ้าเป็น DRL จะติดอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณภาพไม่ดีนานๆไปก็จะขาด เพราะคนส่วนใหญ่ขับรถตอนกลางวัน ซึ่ง DRL จิงๆจำเป็นแค่ตอนเช้าช่วง 6-7 โมงเช้า และ 6-7 โมงเย็น นอกเหนือจากเวลานี้ไม่ค่อยมีประโยชน์ในเมืองร้อนที่แดดจัด และถ้าขาดแล้วเปลี่ยนแค่ DRL อย่างเดียวได้ก็ยังไม่หนัก แต่ถ้าไม่ได้ต้องเปลี่ยนทั้งโคมอาจจะเสียดายเงิน ถ้าเป็นไฟหรี่ก็จะเปิดวันนึงแค่ไม่กี่ชั่วโมง อายุการใช้งานน่าจะยืนยาวกว่า มีดีมีแย่ครับ
ผมมีความเห็นอีกมุมหนึ่งครับ
ถ้าตัดประเด็นเรื่องความทนทาน DRL ออกไป เพราะมันอยู่ที่การออกแบบและเงื่อนไขการเทสของผู้ผลิตรายนัันๆแล้ว
การมี DRL ถ้าไม่นับเรื่อง Styling ที่ช่วยเสริมให้รถยนต์มีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นมากขึ้น แต่เนื้อแท้ของมันสร้างความปลอดภัยไม่เพียงแต่ช่วงฟ้าสาง หรือโพล้เพล้ที่
มีบรรยากาศคล้ายประเทศที่อยู่ในเขตหนาวเท่านั้น แต่หน้าร้อนๆ แสงแดดแรงจ้าแบบประเทศเราสามารถช่วยได้เยอะมากครับ เพราะสามารถให้ผู้ใช้ทางร่วมกันสามารถ
กะระยะคันนั้นๆได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่จำเป็น ให้นึกถึงตอนขับรถกลางวันแดดจัดมีไอมิราจบนถนนขึ้นมา เจ้า DRL ช่วยได้เยอะมากครับ หรืออีกตัวอย่างนึงที่ช่วยให้เห็นภาพอย่างดี
คือรถจักรยานยนต์ที่บังคับให้เปิดไฟหน้ามาจากโรงงานเลย สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างที่ช่วยสร้างความปลอดภัยได้มากครับ
เหตุผลที่ทางผู้ผลิตไม่ใส่มา เพราะ DRL ถือว่าเป็นโหลดของเครื่องยนต์ที่ต้องใช้พลังงานประมาณหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นเหตุผลที่ตัดออกน่าจะมาจากการที่กด Emission ไม่ลงมากกว่า
ครับ สังเกตุไหมครับเป็นทั้ง NOTE และตัวนี้เลย
ผมคิดว่าคุณ Gk น่าจะมีองค์ความรู้โดยเฉพาะทางเทคนิคลึกๆในแบรนด์นี้มากกว่าผู้อ่านเยอะทั่วไปพอสมควร ลองเช็คจากต้นทางดูน่าจะเจอสาเหตุที่แท้จริงนะครับ