Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ ตุลาคม 24, 2017, 08:44:03
-
Toyota C-HR เวอร์ชั่นไทย จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร
และ เบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย
ไตรมาส 1 ปีหน้า 2018
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/toyota-c-hr-thai-version-coming-soon/
-
ตอนเเรกนึกว่าขนาดจะเล็กกว่าคู่แข่งแต่กลายเป็นว่ากว้างยาวกว่าคนอื่นแต่ออกจะเตี้ยไปหน่อย
-
1.8 นี่น่าจะแรงกว่า 1.2 Turbo
-
การรอคอยใกล้จะสิ้นสุดแล้ว ลุ้นราคากับอ๊อฟชั่นครับ
-
สิ่งที่พี่โตขี้เหนียวไม่ยอมใส่ให้รถที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านคือ
"ที่พักแขนกลางของเบาะหลัง" :( :( :( :( :( :(
-
Altis 5 ประตู ดูเท่ห์
เฟี๊ยวฟ๊าว ร้องว๊าวว!!
-
บล็อคนี้ก็OKนะ
-
เครื่อง Hybrid คงประหยัดกว่า 1.8 เยอะ
แต่ติดใจที่มันไม่แรงกว่า แอบว้า.....
-
ทุกอย่างถูก Set up ให้กลายเป็นรถขายดีถล่มถลายแล้ว เหลือแค่ราคานี่แหละที่จะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง
-
สเปคมาแบบนี้ คงเล่นเพียวเบนซินกันหมด แต่เข้าใจ คงเพราะว่าถ้าเอาเครื่องแรงลงใน hb ราคาคงแรงตามจนขายได้ไม่คุ้มผ
ตัวถังใหญ่กว่า HRV แต่เครื่องเท่ากัน เดาว่าราคาน่าจะแพงกว่า HRV ไม่เกิน 3 หมื่น ในรุ่นเริ่มต้น
ยกเว้นว่าอยากขายมากๆ ตั้งราคาเท่ากันไปเลย รับลองคนซื้อคิดหนักแน่นอน
-
มีใครทราบไหมครับว่า แบตที่ใช่กับ hb เป็น Lithium กับ Nickle นี่อายุการใช้งานมันต่างกันหรือมีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไงบ้างครับ
-
น้องชายขอรับคันเก่าที่ใช้อยู่ช่วงต้นเดือนมกรา จำเป็นต้องหารถใช้ อยากรอดูคันนี้มาก
จะทำอย่างไรดีหนอ :(
-
ใครที่ร้องหา EV อยู่ ลองซื้อมาใช้หรือลองดูยอด Hybrid ก่อนนะ ว่ามันจะไปได้ขนาดไหน
-
มาช้าจัง แล้วมาเลย์นี่ก็ต้องรอด้วยสินะเนี่ย :P
-
หลังจากที่รอดู 2-3 ปี เห็นที่หลายๆประเทศจนจะเบื่อเค้าก้มาซะที แต่ 1.8Hybrid ดูไม่ค่อยน่าสนเท่าไหร่นะเหมือนจะอยากชาย 1.8 ธรรมดามากกว่า
-
1.8 ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท
-
ดูจากตัวเลข แรงม้า 1.8ธรรมดา141hp ม้าเยอะกว่าhybrid122hp
อัตราเร่งจะห่างกันมากไหมครับ
-
หลังจากที่รอดู 2-3 ปี เห็นที่หลายๆประเทศจนจะเบื่อเค้าก้มาซะที แต่ 1.8Hybrid ดูไม่ค่อยน่าสนเท่าไหร่นะเหมือนจะอยากชาย 1.8 ธรรมดามากกว่า
มันเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2016 นับมาก็ปีกว่าๆ เองนะครับ แต่กว่าจะออกก็ร่วม 2 ปีพอดี
-
งงกับ Toyota รุ่น Hybrid มักจะแพงกว่ารุ่นธรรมดาทั้งที่เสียภาษีถูกกว่าเยอะ (หรือเพราะราคาตั้งมันสูงกว่า :o)
-Camry
-Aplphard/Vellfire
-
1.8 ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท
แพงไป ...
แล้วสถานการณ์ยอดขาย To ในไทยวันนี้ ไม่ดีเลย ผมว่า C-HR ออกมาครั้งแรก ไม่แพงแน่ๆ
TMT วันนี้ ต้องการ Product ชิ้นพิเศษชิ้นนึงที่... กู้สถานการณ์ยอดขาย กลับมาให้ดีเหมือนเดิมให้ได้
-
แปลกใจที่เครื่อง HB กำลังลดลงจาก Prius Gen2 จาก 136 แรงม้าทำไมเหลือแค่ 122 เองล่ะ เลยเอาโบรชัวร์เก่าของพรีอุสในบ้านเรามากางดู พบว่าสเปคเป็นเครื่องเดียวกับที่ลงในบทความ แต่ที่ดูน่าแปลกคือทำไมสเปคมอเตอร์ไฟฟ้าดูแย่ลง
อันนี้ในบทความ
เบนซิน 1.8 Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2ZR-FXE DOHC 4 สูบแถวเรียง Atkinson cycle 16 วาล์ว VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Ni-MH
อันนี้ตามโบรชัวร์ครับ
เครื่องยนต์ 2ZR-FXE VVT-i 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร Atkinson Cycle และมอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า แรงม้าสูงสุด 100 กิโลวัตต์ 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุดเครื่องยนต์ 142 นิวตันเมตร ที่ 4000 รตน แรงบิดสูงสุดมอเตอร์ไฟฟ้า 207 นิวตันเมตร
-
เคยเห็นของจริง คันประมาณ juke ผมคิดว่าไม่น่าจะโค่น HRV ... ราคาไม่น่ากดให้ถูกได้แบบที่คนคาดหวัง
-
ออฟชั่นอย่าเอาไปให้ไฮบริดหมดละ แต่ก็เข้าใจว่ายังไงก็ตัวท็อป
-
เห็นข่าว Next-gen Honda HR-V จะมาในปี 2020 แต่ทำไมรุ่น MC ไม่มาสักที :D :D :D
-
เบนซิน 1.8
2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี.กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
เบนซิน 1.8 Hybrid
2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที
ถ้าเทียบเฉพาะเครื่อง ทำไมม้าหายไป40กว่าตัวเลย แรงบิดหายไปอีก35 เป็นเพราะต้องการประหยัดสุดๆ หรือ ระบบมอเตอร์ไฟฟ้ามันกินกำลังไป หรืออื่นๆ
-
ขอที่ยืนเหลือไว้ให้ Kicks ด้วยครับ
-
1.8+CVT ตัวพื้นฐาน ขอแค่ความปลอดภัยครบทุกระบบ (VSC+ABS+BA+2 Airbag)
ล้อแม็ก ยาง Pilot Sport ขอบ 17" 8.99 แสน เผลอๆ จะได้ผมเป็นลูกค้าอีกคน
ว่าแต่ Ground Clearance กี่เซนต์ครับ แหะๆ ต่ำกว่า 15 เข้าสวนข้าเจ้าบ่ด๊ายยย....
-
ถ้ามาแล้ว option น้อยกว่า ATIV คนคงด่ากันทั่วเมืองแน่
ถุงลม 7 ใบ VSC ฯ จัดมา แถม
BSM ด้วย ส่วนอื่นๆ เก็บไว้ตามแบบพี่โต จอมกั๊ก
-
เบนซิน 1.8
2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี.กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
เบนซิน 1.8 Hybrid
2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที
ถ้าเทียบเฉพาะเครื่อง ทำไมม้าหายไป40กว่าตัวเลย แรงบิดหายไปอีก35 เป็นเพราะต้องการประหยัดสุดๆ หรือ ระบบมอเตอร์ไฟฟ้ามันกินกำลังไป หรืออื่นๆ
ตัวเครื่อง hybrid มันเป็น atkinson อ่ะครับ
เน้นประสิทธิภาพและความประหยัด
-
gc chr= 155 mm. น้อยมาก ส่ว่น cx3 =160mm.
-
เบนซิน 1.8
2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี.กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
เบนซิน 1.8 Hybrid
2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที
ถ้าเทียบเฉพาะเครื่อง ทำไมม้าหายไป40กว่าตัวเลย แรงบิดหายไปอีก35 เป็นเพราะต้องการประหยัดสุดๆ หรือ ระบบมอเตอร์ไฟฟ้ามันกินกำลังไป หรืออื่นๆ
พวกเครื่องยนต์ในระบบ hybrid จะเป็น Atkinson cycle ซึ่งเน้นที่ความประหยัด (ไม่เข้าใจหลักการอ่ะ อ่านแล้วงง) เลยต่างกับเครื่องยนต์ธรรมดา
-
สิ่งที่พี่โตขี้เหนียวไม่ยอมใส่ให้รถที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านคือ
"ที่พักแขนกลางของเบาะหลัง" :( :( :( :( :( :(
นั้นสิ ไม่รู้เป็นโรคอะไร
เหมือนจัดโปรกับเบาะหลังพับได้
ถ้ามีก็มีทั้งคู่ ไม่มีก็ไม่มีทั้งคู่เลย
-
อยากรู้ว่าจะขายดีเหรอครับ ข้างหลังก็แคบ เห็นคนด่า CX-3 กับ Juke ซะยับเรื่องความแคบ
CHR มองๆแล้วน่าจะได้แค่ความสด ภายในดูล้ำสมัยผิดวิสัยพี่โต ประโยชน์ใช้สอยไม่น่าจะได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่
-
รอกันต่อไป ::) ::) ::) ::)
-
เบนซิน 1.8
2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี.กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
เบนซิน 1.8 Hybrid
2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที
ถ้าเทียบเฉพาะเครื่อง ทำไมม้าหายไป40กว่าตัวเลย แรงบิดหายไปอีก35 เป็นเพราะต้องการประหยัดสุดๆ หรือ ระบบมอเตอร์ไฟฟ้ามันกินกำลังไป หรืออื่นๆ
พวกเครื่องยนต์ในระบบ hybrid จะเป็น Atkinson cycle ซึ่งเน้นที่ความประหยัด (ไม่เข้าใจหลักการอ่ะ อ่านแล้วงง) เลยต่างกับเครื่องยนต์ธรรมดา
เครื่องยนต์แบบทั่วไปเป็น otto cycle ดูด-อัด-ระเบิด-คาย
- ระยะชัก ดูด-อัด, ระเบิด-คาย ยาวเท่ากัน
- Crankshaft จะต้องหมุน 2 รอบ ถึงจะครบวงจรการทำงานของลูกสูบทั้ง 4 จังหวะ ดูด-อัด-ระเบิด-คาย
ดังนั้นลูกสูบในจังหวะ ดูด-อัด จะกินแรงเฉื่อยของ crankshaft มาทำงานตรงนี้
เครื่องยนต์แบบ Atkinson cycle ดูด-อัด-ระเบิด-คาย
- ระยะชัก ดูด-อัด จะสั้นกว่า ระยะชักในจังหวะ ระเบิด-คาย นั่นคือกินน้อยแต่ได้งานมากกว่า
- การทำงานของลูกสูบ สามารถครบ 4 จังหวะได้ในการหมุนของ crankshaft เพียงรอบเดียว
แต่กลไกในส่วนของ ก้านสูบและ crankshaft มันมากกว่า otto จึงไม่เน้นรีดความแรง แต่รีดเอาประสิทธิ
ภาพในการใช้เชื้อเพลิงมากกว่าครับ
-
งงที่บอกว่าได้งานมากขึ้น กำลังอัดก็สูงขึ้น แต่ทำไมแรงม้าแรงบิดลดลง
หรือจงใจลดความแรงเพื่อความคงทนของกลไก
-
ทำไม ทำไมเครื่องไฮบริดมันแรงน้อย :(
-
เบนซิน 1.8
2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี.กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
เบนซิน 1.8 Hybrid
2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที
ถ้าเทียบเฉพาะเครื่อง ทำไมม้าหายไป40กว่าตัวเลย แรงบิดหายไปอีก35 เป็นเพราะต้องการประหยัดสุดๆ หรือ ระบบมอเตอร์ไฟฟ้ามันกินกำลังไป หรืออื่นๆ
พวกเครื่องยนต์ในระบบ hybrid จะเป็น Atkinson cycle ซึ่งเน้นที่ความประหยัด (ไม่เข้าใจหลักการอ่ะ อ่านแล้วงง) เลยต่างกับเครื่องยนต์ธรรมดา
เครื่องยนต์แบบทั่วไปเป็น otto cycle ดูด-อัด-ระเบิด-คาย
- ระยะชัก ดูด-อัด, ระเบิด-คาย ยาวเท่ากัน
- Crankshaft จะต้องหมุน 2 รอบ ถึงจะครบวงจรการทำงานของลูกสูบทั้ง 4 จังหวะ ดูด-อัด-ระเบิด-คาย
ดังนั้นลูกสูบในจังหวะ ดูด-อัด จะกินแรงเฉื่อยของ crankshaft มาทำงานตรงนี้
เครื่องยนต์แบบ Atkinson cycle ดูด-อัด-ระเบิด-คาย
- ระยะชัก ดูด-อัด จะสั้นกว่า ระยะชักในจังหวะ ระเบิด-คาย นั่นคือกินน้อยแต่ได้งานมากกว่า
- การทำงานของลูกสูบ สามารถครบ 4 จังหวะได้ในการหมุนของ crankshaft เพียงรอบเดียว
แต่กลไกในส่วนของ ก้านสูบและ crankshaft มันมากกว่า otto จึงไม่เน้นรีดความแรง แต่รีดเอาประสิทธิ
ภาพในการใช้เชื้อเพลิงมากกว่าครับ
ขอบคุณมากครับ พอเข้าใจเลยครับ
-
ผมไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมมาครับ
เครื่องยนต์ที่ออกแบบมาใช้งานกับระบบ Hybrid นั้น แม้จะใช้ชื่อว่าเป็นวัฏจักร Atkinson
แต่ก็ไม่ได้มีลักษณะการทำงานแบบด้านบน 100% ครับ
Atkinson ที่เป็นเครื่องยนต์ Hybrid จะออกแบบ Variable Valve timing ให้วาล์วไอดี
ปิดในขณะที่ลูกสูบกำลังดันขึ้นในจังหวะอัด เพื่อให้ลูกสูบถีบไล่ไอดีคืนกลับไปยังท่อร่วมไอดี
ซึ่งบางเครื่องออกแบบให้วาล์วไอดีปิดตอนที่ลูกสูบเลื่อนขึ้นได้ระยะ 20-30% ของระยะชักเลยทีเดียว
ซึ่งนั่นเท่ากับว่า เครื่องจะเอาน้ำมันมาใช้เทียบเท่ากับ 70-80% ของความจุของเครื่องยนต์ รวมถึง
กำลังอัดก็จะต่ำกว่าการปิดวาล์วไอดีที่ตำแหน่งลูกสูบอยู่ที่จุดต่ำสุดก่อนจะเลื่อนขึ้นในจังหวะอัดด้วย
แต่เมื่อน้ำมันจุดระเบิดเผาไหม้แล้ว ลูกสูบจะเลื่อนลงเต็ม ๆ ระยะชัก ซึ่งมันก็เข้ากับหลักการของ
Atkinson เพียงแต่ไม่ได้ไปดัดแปลงกับกลไกของก้านสูบเลยครับ นั่นจึงทำให้เครื่องแบบ
Atkinson มีแรงม้า แรงบิด น้อยกว่า otto
อันนี้ตามที่ผมเข้าใจนะ สมมุติว่า เครื่องยนต์ 1.8L otto ตามปกติก็รีดกำลังม้าได้ตามนั้น
แต่ถ้าเครื่อง 1.8L แบบ Atkinson ทำให้วาล์วไอดีปิดหลังจากที่ลูกสูบดันขึ้นเป็นระยะ 30%
ของ stroke ดังนั้น เครื่อง 1.8L Atkinson นี้จะมีความจุห้องเผาไหม้เท่ากับเครื่อง 1.44L เอง (1.8L x 80%)
ซึ่งถ้าเทียบกับเครื่อง 1.8L otto แล้ว แรงม้า แรงบิดก็ย่อมน้อยกว่าเป็นธรรมดา เพราะมันกินน้อยกว่า
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเทียบเครื่อง 1.8L Atkinson (20%) กับเครื่อง 1.44L otto
อันนี้แม้จะกินไอดีเท่ากัน แต่เครื่อง Atkinson จะได้เปรียบตรงที่ได้งานที่เกิดจาก Stroke ในจังหวะระเบิดที่ยาวกว่าครับ
ซึ่งพอผมหาข้อมูลได้มาแบบนี้ นั่นเท่ากับว่าความจริงแล้ว เครื่องธรรมดาที่มี variable valve ปัจจุบันนี้
มันก็เป็นได้ทั้ง Atkinson ในจังหวะที่ไม่ได้ต้องการเรี่ยวแรงมาก และเป็นได้ทั้ง otto ในจังหวะที่ต้องเค้นกำลังจากเครื่องยนต์
พี่ ๆ ลองพิจารณาดูนะครับ ผิดถูกยังไง ช่วยกันวิจารณ์ด้วยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=uhtMEvfZkdM
-
ผมไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมมาครับ
เครื่องยนต์ที่ออกแบบมาใช้งานกับระบบ Hybrid นั้น แม้จะใช้ชื่อว่าเป็นวัฏจักร Atkinson
แต่ก็ไม่ได้มีลักษณะการทำงานแบบด้านบน 100% ครับ
Atkinson ที่เป็นเครื่องยนต์ Hybrid จะออกแบบ Variable Valve timing ให้วาล์วไอดี
ปิดในขณะที่ลูกสูบกำลังดันขึ้นในจังหวะอัด เพื่อให้ลูกสูบถีบไล่ไอดีคืนกลับไปยังท่อร่วมไอดี
ซึ่งบางเครื่องออกแบบให้วาล์วไอดีปิดตอนที่ลูกสูบเลื่อนขึ้นได้ระยะ 20-30% ของระยะชักเลยทีเดียว
ซึ่งนั่นเท่ากับว่า เครื่องจะเอาน้ำมันมาใช้เทียบเท่ากับ 70-80% ของความจุของเครื่องยนต์ รวมถึง
กำลังอัดก็จะต่ำกว่าการปิดวาล์วไอดีที่ตำแหน่งลูกสูบอยู่ที่จุดต่ำสุดก่อนจะเลื่อนขึ้นในจังหวะอัดด้วย
แต่เมื่อน้ำมันจุดระเบิดเผาไหม้แล้ว ลูกสูบจะเลื่อนลงเต็ม ๆ ระยะชัก ซึ่งมันก็เข้ากับหลักการของ
Atkinson เพียงแต่ไม่ได้ไปดัดแปลงกับกลไกของก้านสูบเลยครับ นั่นจึงทำให้เครื่องแบบ
Atkinson มีแรงม้า แรงบิด น้อยกว่า otto
อันนี้ตามที่ผมเข้าใจนะ สมมุติว่า เครื่องยนต์ 1.8L otto ตามปกติก็รีดกำลังม้าได้ตามนั้น
แต่ถ้าเครื่อง 1.8L แบบ Atkinson ทำให้วาล์วไอดีปิดหลังจากที่ลูกสูบดันขึ้นเป็นระยะ 30%
ของ stroke ดังนั้น เครื่อง 1.8L Atkinson นี้จะมีความจุห้องเผาไหม้เท่ากับเครื่อง 1.44L เอง (1.8L x 80%)
ซึ่งถ้าเทียบกับเครื่อง 1.8L otto แล้ว แรงม้า แรงบิดก็ย่อมน้อยกว่าเป็นธรรมดา เพราะมันกินน้อยกว่า
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเทียบเครื่อง 1.8L Atkinson (20%) กับเครื่อง 1.44L otto
อันนี้แม้จะกินไอดีเท่ากัน แต่เครื่อง Atkinson จะได้เปรียบตรงที่ได้งานที่เกิดจาก Stroke ในจังหวะระเบิดที่ยาวกว่าครับ
ซึ่งพอผมหาข้อมูลได้มาแบบนี้ นั่นเท่ากับว่าความจริงแล้ว เครื่องธรรมดาที่มี variable valve ปัจจุบันนี้
มันก็เป็นได้ทั้ง Atkinson ในจังหวะที่ไม่ได้ต้องการเรี่ยวแรงมาก และเป็นได้ทั้ง otto ในจังหวะที่ต้องเค้นกำลังจากเครื่องยนต์
พี่ ๆ ลองพิจารณาดูนะครับ ผิดถูกยังไง ช่วยกันวิจารณ์ด้วยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=uhtMEvfZkdM
ดูจากข้อมูล ผมขอเสริมแบบที่ผมเข้าใจง่ายๆแล้วกันครับผิดถูกยังไงต้องขออภัยครับ
AK เป็นการเอาแรงเฉื่อย(พลังงาน)ที่เสียไปในระบบ otto เดิมกลับมา
AK ไม่ปิดวาล์วไอดีทันที และ การยืดช่วงชักตอนระเบิด ทำให้การเหวี่ยงของข้อเหวี่ยงสมูทขึ้น เพราะมีการชลอก่อนเปลี่ยนทิศทางแนวแรง ทำให้สูญเสียแรงเฉื่อยน้อยลง (ข้อพิสูจน์คือความร้อนกระบอกสูบน้อยลง )
ข้อเสียของ AK
-กำลังต่อซีๆน้อยลงเมื่อเที่ยบกับ otto
-ชิ้นส่วนมากขึ้น การดูแลมากกว่า ต้นทุนผลิตเครื่องสูงกว่า ขนาดใหญ่หว่าเมื่อเทียบม้าเท่ากัน
เหตุที่ AK ให้กำลังน้อยกว่า
-เพราะกว่าจะครบ 1 cycle มันยืดยานใช้เวลานานกว่า ต้องแบ่งเวลามาตักตวงกำลังที่ไม่อยากเสียไปนั้นกลับมา ซึ่งก็ได้กลับมาซัก 10%=ส่วนที่ประหยัดขึ้น
-ช่วงรอบที่เหมาะสมกับเครื่องประเภทนี้เป็นช่วงไม่มาก ความยืดหยุ่นน้อยกว่า
-มันจึงเหมาะกับการทำงานร่วมกับมอเตอร์เพื่อแก้ปมด้อยไงครับ แล้วยังได้การประหยัดพลังงานต่อที่สองจากระบบ hybrid อีกที
ส่วนถ้าเทียบความแรงกับ otto สรุปตามในหนัง
AK 1.8= otto 1.5
ความประหยัด
AK 1.8= otto 1.4
แต่ใน chr hybrid ผมเชื่อว่า
ความแรงขับในเมืองบุคลิกน่าจะเทียบเท่าเครื่อง 2.0 ส่วนขับเกิน 80 น่าจะเทียบเท่าเครื่อง 1.6
-
จากวิดีโอ
ช่วง intake AK ลูกสูบจะลงไปต่ำกว่าแบบ OT แต่เพราะวาล์วไอดีปิดช้ากว่าเลยยังใช้น้ำมันเท่ากับแบบ OT
นาทีที่ 2.13 บอกว่า AK..transfer more power.. หมายถึงว่า นอกจากลูกสูบจะถูกดันจากแรงระเบิดแล้วยังเคลื่อนต่อไปอีกด้วยแรงเฉื่อยจากกลไกทำให้ได้ระยะไกลขึ้น (การที่ลูกสูบเคลื่อนไปได้ไกลขึ้น ความร้อนกับความดันในกระบอกสูบจึงน้อยกว่า)
ดังนั้นใช้น้ำมันแบบ 1.4L เท่ากัน แต่ AK จะดันลูกสูบได้เท่า 1.8L ซึ่งได้ power output แบบ 1.5L(เพราะแรงจากจุดระเบิดก็เท่าเครื่อง 1.4 นั่นแหละรวมกับแรงเฉื่อยจากกลไก แถมก้านสูบก็ไม่หมุนเพลาล้อโดยตรง ต้องกระจายแรงไปในกลไกอีก ดังนั้นถึงปริมาตรกระบอกสูบจะเป็น 1.8 แต่กำลังออกมาจริงเลยเท่ากับ 1.5)
สรุป เครื่อง AK 1.8 จึงมีแรงม้าแรงบิดน้อยกว่าเครื่อง 1.8 ธรรมดา
ปล.ถ้าเทียบกับ 1.4 ติดเทอร์โบ อันไหนคุ้มกว่า
-
คุณ symphonic และ ต่อเนื่อง 2 ท่าน ยอดๆๆๆ ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย
เพิ่งรู้ว่ามีเครื่องทำงานครบ4จังหวะใน1รอบ