ถามเป็นความรู้หน่อยครับ ว่ารถไฮบริดแบบไม่เสียบชาร์จ เช่น โตโยต้า กับ ไฮบริดเสียบชาร์จได้ มันแตกต่างกันยังไงบ้างและข้อดีข้อด้อยของแต่ละแบบ
เอาแบบภาพรวมก่อนนะครับ
ขึ้นชื่อว่าไฮบริด มันคือระบบเครื่องยนต์ที่ทำงานร่วมกันระหว่าเครื่องยนต์น้ำมันกับมอเตอร์ไฟฟ้า
ปัจจุบันนี้รถไฮบริดทุกระบบ การออกวิ่งจากหยุดนิ่ง จะเป็นการวิ่งด้วยไฟฟ้าทั้งสิ้น และจะวิ่งไปจน
สุดกำลังไฟในแบต (ที่ว่าสุดคือไฟเหลือน้อยถึงระดับนึง ไม่ถึงกับหมดเกลี้ยง) พอเลยจุดนั้นไปแล้ว
ระบบจะให้เครื่องยนต์น้ำมันจะติดขึ้นมามำหน้าที่ขับเคลื่อนและปั่นไฟไปด้วย แต่ในเวลานั้นก็ไม่ได้
หมายความว่า มอเตอร์จะไม่ทำงานเลย มันยังมีจังหวะการทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์ไปตลอด
การเดินทาง ซึ่งหลักการของระบบไฮบริดเป็นอย่างนี้
ด้วยระบบไฮบริดแบบไม่ชาร์จไฟนั้น ไฟฟ้าในแบตมันเกิดจากการชาร์จไฟกลับตากพลังงานจลน์
ของตัวรถที่เกิดจากการสิ่งของรถ
ทีนี้พวกรถไฮบริดแบบไม่ชาร์จไฟนั้นมันมักจะมีแบตที่ลูกเล็ก จุไฟไม่มาก พอรถวิ่งออกตัวด้วยแบตตัวนี้
มันก็ไปได้ไม่ไกล
ส่วนรถไฮบริดแบบชาร์จไฟนั้น ความเป็นไฮบริด การทำงานผสานกันระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์
นั้นก็ไม่ต่างจากพวกไฮบริดแบบไม่ชาร์จไฟ แต่พวกชาร์จไฟได้จะมีแบตที่ลูกใหญ่ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
ซึ่งพอให้วิ่งได้ด้วยไฟฟ้าหลายสิบ กม. อยู่ ซึ่งเมื่อไฟหมดลง เครื่องยนต์ก็จะเข้ามาทำงานประสานกับ
มอเตอร์ที่ก่อนหน้าทำงานอยู่คนเดียว และทำงานกันเป็นทีมตามรูปแบบรถไฮบริดตามปกติครับ
สิ่งที่จะต้องรู้และทำความเข้าใจกับรถไฮบริดแบบชาร์จไฟก็คือ
1. แบตใหญ่มีความจุเท่าไหร่ ชาร์จนานแค่ไหน แล้วจะวิ่งไฟฟ้าเพียวๆ ได้ระยะทางเท่าไหร่
2. ระบบไฮบริดนั้นมีรูปแบบการทำงานเป็นอย่างไร ผสมผสานกันยังไงระหว่างเครื่องยนต์และ
มอเตอร์ทั้งสองตัว เพราะทุกวันนี้ แค่ชื่อว่าไฮบริด แต่ระบบ HSD (Toyota) กับ i-MMD (Honda)
และ e-Power (Nissan) ก็ยังมีวิธีการทำงานและรายละเอียดไม่เหมือนกันครับ