ผู้เขียน หัวข้อ: เทคโนโลยีกล้อง ADAS  (อ่าน 2170 ครั้ง)

ออฟไลน์ BIGGIGGOG

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 7
เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2023, 15:50:03 »
น่าจะชื่อนี้ไหมนะครับ ที่มีติดอยู่ด้านบนกระจกหน้ารถช่วงหลัง ๆ มานี่

คือเห็น Eyesight ของซูบารุมี 2 กล้องมาซักพักใหญ่ ๆ แล้ว และเหมือนจะเป็นเจ้าเดียวด้วยที่มี 2 กล้องแบบนี้ และขยายไปถึง Eyesight X ที่มี 3 กล้องด้วย เทียบกับรถระดับเดียวกัน รถไฟฟ้า รวมไปถึงรถระดับสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ก็ยังมีแค่กล้องเดียวอยู่ (แต่อาจจะปรับองศาเลนส์ให้กว้างขึ้นเหมือน Honda)

เลยสงสัยว่าเทคโนโลยีนี้มันไม่นิยม ไม่คุ้ม หรือมีอะไรที่ดีกว่ายังไงหรือไม่ครับ

อย่าง Eyesight นี่ผมประทับใจมาก เอาความเข้าใจ + ตรรกะบ้าน ๆ เข้าว่า คือกล้องเยอะก็น่าจะดีกว่ากล้องเดียว อะไรทำนองนี้ครับ

ออฟไลน์ RERFz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 569
    • อีเมล์
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2023, 15:58:10 »
เข้าใจง่ายๆ

1 พวกกล้องตัวเดียวเหมือน ลืมตาข้างเดียววิ่ง (ไม่มีข้อดีอะไรเลย นอกจากประหยัดงบ)
2 พวกกล้องสองตัว เหมือน ลืมตาสองข้างวิ่ง กะระยะได้แม่นยำกว่ากล้องเดียวอยู่แล้ว
3 ส่วน กล้องตัวเดียว (หรือมากกว่า) + Radar เหมือน ลืมตาวิ่งแล้วยื่นแขนไปวัดระยะด้วย ยังไงก็แม่นยำ น่าเชื่อถือได้มากสุดแล้ว

ส่วนจะสมูทไหม อยู่ที่วิศวกรเขียนโปรแกรม จะให้มีระยะหน่วง ระยะ damping มากแค่ไหน
หรือถ้าแบบยุคเก่า เขียนแบบ เร่งเบรคระยะเท่าเดิมเป็นไม้บรรทัด ก็จะหัวทิ่มเล็กน้อย

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2023, 16:51:27 »
กล้อง มันก็คือ กล้องครับ

ผมใช้กล้องบันทึก(DVR) ที่มีฟังก์ชั่น ADAS มาตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน (ตอนนั้นมาแค่มี และ มันกากมาก)

รถที่มีระบบ Active Safety ที่มีกล้อง หลักๆ เลยคือ เพื่อแยกวัตถุหน้ารถ ว่า มันคืออะไร เช่น คน รถ รถเข็น จักรยานยนต์ เป็นต้น

บางคันมี 1 ตัว บางคันมี 2 ตัว บางคันมีหลายตัว ยันปัจจุบันจะเอา Lidar มาใช้แทนแล้ว

จะตัวเดียว หรือ 2 ตัว ไม่ใช่ปัญหา ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกล้อง และ software ครับ

ถ้ากล้องดี vs software ฉลาด มันก็ดี แต่ถ้ากล้องรอบคัน vs software ไม่ฉลาดเอาซะเลย มันก็ไม่ได้ดีเด่อะไร

สุดท้าย กล้อง มันก็มีจุดอ่อน จุดด้อย คือ เมื่อเจอ ควัน ฝุ่น ฝนตก หมอกลง และ พื้นที่มืดมากๆ (ต่อให้มี IR ช่วยในโหมดกลางคืน แต่มันทำให้ความแม่นยำน้อยลง) และ การวัดระยหรือการกระยะ ไม่ดีเท่ากับ radar ครับ

ดังนั้น รถส่วนมาก ถึงยังต้องมี radar ด้านหน้า(ได้ระยะที่ไกล และวัดระยะ ได้ดีกว่ากล้อง) และเซ็นเวอร์ ด้านข้างและด้านหลัง ทำงานร่วมด้วย(ถ้าจะ autopilot เต็มขั้น)

ถ้าเลือกได้ ผมเลือกรถที่มีทั้ง radar และ กล้อง ทำงานร่วมกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2023, 09:12:24 โดย DiKiBoyZ »

ออฟไลน์ Sympho

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 996
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2023, 18:01:55 »
HRV ใช้กล้องเดี่ยว

เนียนๆเลยครับ ผมใช้งานได้จริงทุกฟังก์ชั่น

กี่กล้องไม่สำคัญเท่า Software ที่ใช้คำนวน รถจีนยังมีบ่นๆกันอยู่

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 701
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2023, 20:47:42 »
ของหลายๆยี่ห้อใช้ เรดาห์+กล้อง ครับ
ซึ่งเรดาห์มันกะระยะได้แม่นกว่าอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องทัศนะวิสัยต่ำอย่างตอนหมอกหนาหรือฝนตกหนักด้วย
หรือบางยี่ห้อไปขั้นกว่า ใช้ระบบ LiDAR ด้วย ยิ่งแม่นเข้าไปอีก

อีกอย่างคือ ถ้าใช้กล้องแค่อย่างเดียว มันต้องพึ่งความฉลาดของ software เป็นหลัก
ถ้า software โง่ มันจะ detect ไม่ได้ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร แล้วก็อาจจะไม่เบรค
เหมือนของยี่ห้อนึงที่ระบบนึกว่ารถบรรทุกข้างหน้าคือทองฟ้า รถเลยพุ่งเข้าไปชนทำคนขับตาย
ส่วนใช้กล้องข้อดีคือต้นทุนถูกกว่าครับ

ออฟไลน์ Dante Haversham

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 137
    • อีเมล์
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2023, 10:21:02 »
HRV ใช้กล้องเดี่ยว

เนียนๆเลยครับ ผมใช้งานได้จริงทุกฟังก์ชั่น

กี่กล้องไม่สำคัญเท่า Software ที่ใช้คำนวน รถจีนยังมีบ่นๆกันอยู่

ไม่ทราบว่า HRV ตัวปัจจุบัน มีเรดาห์อยู่หลังโลโก้ด้วยมั้ยครับ

ออฟไลน์ escudaeza

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 399
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2023, 11:07:21 »
HRV ใช้กล้องเดี่ยว

เนียนๆเลยครับ ผมใช้งานได้จริงทุกฟังก์ชั่น

กี่กล้องไม่สำคัญเท่า Software ที่ใช้คำนวน รถจีนยังมีบ่นๆกันอยู่

ไม่ทราบว่า HRV ตัวปัจจุบัน มีเรดาห์อยู่หลังโลโก้ด้วยมั้ยครับ

จากรูปในหน้าเว็บ hrvมีแต่กล้องครับ


ถ้าเป็นรุ่นที่มีเรดาห์ด้วย จะเป็นประมาณนี้ครับ
Mazda CX8 2.5 SP 2019

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2023, 11:20:15 »
เรดาร์หลังโลโก้ ฝ่าถนนโคลน/ฝุ่น อย่าลืมเช็ดหน้าสัมผัสบริเวณเรดาร์นะครับ ประสิทธิภาพจะกลับมาเหมือนเดิม
ส่วนถ้าเรดาร์อยู่หลังกระจก ที่ปัดน้ำฝนมันทำให้อยู่แล้ว

ออฟไลน์ Dante Haversham

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 137
    • อีเมล์
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2023, 15:59:16 »
HRV ใช้กล้องเดี่ยว

เนียนๆเลยครับ ผมใช้งานได้จริงทุกฟังก์ชั่น

กี่กล้องไม่สำคัญเท่า Software ที่ใช้คำนวน รถจีนยังมีบ่นๆกันอยู่

ไม่ทราบว่า HRV ตัวปัจจุบัน มีเรดาห์อยู่หลังโลโก้ด้วยมั้ยครับ

จากรูปในหน้าเว็บ hrvมีแต่กล้องครับ


ถ้าเป็นรุ่นที่มีเรดาห์ด้วย จะเป็นประมาณนี้ครับ


อึ๋ย นี่เข้าใจว่ามีเรดาห์มาด้วยตลอด เพราะเห็นหลายคอมเม้นท์บอกว่าทำงานได้เนียนดี นี่กลายเป็นกล้องตัวเดียว กากกว่า ATIV อีกนะครับเนี่ย

ออฟไลน์ Sympho

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 996
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2023, 16:12:13 »
HRV ใช้กล้องเดี่ยว

เนียนๆเลยครับ ผมใช้งานได้จริงทุกฟังก์ชั่น

กี่กล้องไม่สำคัญเท่า Software ที่ใช้คำนวน รถจีนยังมีบ่นๆกันอยู่

ไม่ทราบว่า HRV ตัวปัจจุบัน มีเรดาห์อยู่หลังโลโก้ด้วยมั้ยครับ

จากรูปในหน้าเว็บ hrvมีแต่กล้องครับ


ถ้าเป็นรุ่นที่มีเรดาห์ด้วย จะเป็นประมาณนี้ครับ


อึ๋ย นี่เข้าใจว่ามีเรดาห์มาด้วยตลอด เพราะเห็นหลายคอมเม้นท์บอกว่าทำงานได้เนียนดี นี่กลายเป็นกล้องตัวเดียว กากกว่า ATIV อีกนะครับเนี่ย

กล้องเดี่ยว ตัวเดียวเลยครับ

แต่ผมถึงบอกไงว่า มันไม่เกี่ยวหรอกว่าจะ 1 หรือ 2 เพราะผมใช้งานได้จริงๆ ไม่เอ๋อ พวกมาลัยไม่ชก จับรถคันหน้าได้ตลอด ไฟสูงออโต้ตัดต่อไวมาก 

ออฟไลน์ nl2br

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,019
    • ร้านค้าออนไลน์
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2023, 17:30:59 »
มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของกล้อง บวก sensor radar/lidar ครับ ถ้ากล้องเดี่ยวแต่เป็น 3d เทียบกับกล้องธรรมดา 2 ตัว ผมเอากล้องเดี่ยว
ถ้าอยากได้ของเทพก็ต้องกล้อง 3d แค่ราคากล้องหมื่น+ ไหนจะ radar/lidar อีกก็หลายตังค์ ไหนจะตัวประมวลผลที่จะเอามารันระบบอีกครับ
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,145
  • I'm............................
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2023, 11:14:57 »
ของ Honda ที่เป็นกล้องเดี่ยวตัวเดียว แต่การทำงาน ACC มันก็ smooth เกินคาดนะ
Ativ กล้องคู่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เนียนเท่า

ผมใช้รถที่มีแค่เรดาร์ไม่มีกล้อง ในส่วนของ FCW / AEB ผมว่ามันก็วืดกับมอเตอร์ไซค์บ่อยๆ อยู่นะ

ส่วนเรื่องความสะอาด ไม่ว่าจะเรดาร์หรือกล้อง โดนฝนคือหยุดทำงานหมดครับ
กล้องยังดี ปัดน้ำฝนได้ เรดาร์นี่ต้องรอแห้งหรือลงไปเช็ดเลยนะ
สรุป มีทั้งคู่ดีสุดครับ แต่ถ้ามีอย่างเดียวก็ขอ AI โปรแกรมดีๆ
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,492
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2023, 13:37:05 »
ผมใช้ Model Y รถซื้อ FSD ไว้ แต่ยังใช้ไม่ได้ในไทย ใช้ได้แค่ EAP ตอนใช้ EAP นี่มีให้เสียวทุกครั้งที่ใช้ บางทีก็เปลี่ยนเลนโดยรถพลาดไม่เห็นรถมาด้านซ้าย, บางครั้งมันเห็นกรวยก่อสร้าง มันหยุดกลางถนนเลย พักหลังเลยไม่ได้ใช้ครับ

เมื่อก่อนขับ S90 แบบ Pilot Assist ที่ต่างจังหวัด เส้นถนนขึ้นสะพานเค้าตีผิด รถจะวิ่งลงแม่น้ำ
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ kati348

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 237
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2023, 15:33:20 »
ทั้งกล้องและเรดาร์มันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป แม้แต่กล้องเองยังมีหลายแบบหลายราคา ไม่ใช่จะมีหลายตัวแล้วจะดีกว่ามีตัวเดียว

ใช้กล้องมีข้อดีคือ มันเห็นเป็นถาพ ดังนั้น ถ้า S/W ฉลาดพอมันก็จะเหมือนตาเรามองเห็น แต่ข้อเสียคือถ้ามีอะไรมาบัง เช่นฝุ่น หมอก ฝน ทำให้กล้องมองไม่เห็น มันก็จบ

ส่วนเรดาร์มันก็คือการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกไปแล้วรอสะท้อนกลับ ข้อดีคือมันกะระยะและความเร็ววัตถุได้แม่น แต่คงระบุชนิดของวัตถุไม่ได้ หรือได้แต่ยากหน่อย ข้อเสียคือหากเจอวัตถุที่มีการดูดคลื่น หรือมีการกระเจิงของคลื่น ก็อาจทำให้การวัดระยะไม่เเม่นได้เช่นกัน

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2023, 16:13:11 »
ของ Honda ที่เป็นกล้องเดี่ยวตัวเดียว แต่การทำงาน ACC มันก็ smooth เกินคาดนะ
Ativ กล้องคู่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เนียนเท่า

ผมใช้รถที่มีแค่เรดาร์ไม่มีกล้อง ในส่วนของ FCW / AEB ผมว่ามันก็วืดกับมอเตอร์ไซค์บ่อยๆ อยู่นะ

ส่วนเรื่องความสะอาด ไม่ว่าจะเรดาร์หรือกล้อง โดนฝนคือหยุดทำงานหมดครับ
กล้องยังดี ปัดน้ำฝนได้ เรดาร์นี่ต้องรอแห้งหรือลงไปเช็ดเลยนะ
สรุป มีทั้งคู่ดีสุดครับ แต่ถ้ามีอย่างเดียวก็ขอ AI โปรแกรมดีๆ

ฝนตก หมอกลง รถผมไม่เคยหยุดทำงานครับ(ใช้งาน 6 ปี)

ขับทั้งกลางวัน กลางคืน เป็นส่วนใหญ่ ด้วยซ้ำ ออกต่างจังหวัด

มีบางครั้ง ขับออกต่างจังหวัด แล้วเจอพวกแมลง อยู่ตามไฟข้างถนน เราวิ่งผ่าน มันและติดกระจก(เหมือนโดนปาไข่)

เปิดที่ปัดน้ำฝน แล้วปัดไม่ค่อยสะอาด มันก็ฟ้องว่ากล้องส่องถนนไม่ชัดเจนที่หน้า แล้ว ระบบ lane departure ไม่ทำงาน เพราะมันมองไม่เห็นเส้นถนน

แต่ระบบป้องกันการชนด้านหน้า(ทำงานด้วยเรดาร์) ยังทำงานปกติ ไม่เคยไม่ทำงาน (ยกเว้นผมปิดมัน)

ออฟไลน์ ToRToNGPaT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,939
    • Wongnai : ติดตามต้อง
Re: เทคโนโลยีกล้อง ADAS
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2023, 19:24:06 »
ใช้รุ่นที่มีกล้องเดียวอยู่ (HR-V / WR-V) โดยรวมผมง่ามันก็ทำงานได้ดีนะ

ที่เจอแปลก มีครั้งเดียวคือเวลาพื้นถนนเปียกตอนกลางคืน แล้วเส้นถนนมันสะท้อนกับไฟส่องทางจนมันเปิดเงาๆ ระบบ LKAS จับเลนถนน มันจะจับได้บ้างไม่ได้บ้าง มันทำงานแบบทำๆหยุดๆ และแค่นั้น
My Car = My Friend

2023 Honda HR-V 1.5 e:HEV RS E-CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องหมูแดง)
2023 Honda WR-V 1.5 RS CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องถุงแดง)


Review ของกินอร่อยๆ เรียนเชิญที่ Wongnai : ติดตามต้อง