ถึงกะต้องเข้าไปดูกระทู้เดิม แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า รถ จขกท คือ Everest โฉมที่แล้ว 2.2
แล้วรอบที่แล้วรถโช๊คเสีย เมียคุณก็สั่งเปลี่ยนรถ
ถือได้ว่า เทียคุณแก้ปัญหาเก่งครับ
นั่นแหล่ะครับทั่นผู้ชม เทอมักดูปัญหาจากคนนอก แก้ ๆ ให้มันจบ เอาเวลาไปทำอย่างอื่น อย่ามัวแต่วนอยู่ในอ่างน้ำ
แต่เรามันตามอารมณ์ ความชอบ เป็นหลัก แต่อันที่จริงรถ 8 ปี ซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ บางตัว ผมว่าจบนะ
แต่เผอิญชื่อเสีย Ford ไม่ค่อยดี (ถึงแม้ผมจะไม่เจอปัญหาหนัก เหมือนคนอื่นก็ตาม) ก็ไม่รู้ว่า จะเริ่มมางอแงหลังจากนี้หรือไม่
ไม่ค่อยกล้าเสี่ยง เกิดตัดสินใจผิดหูชาอีก
ผมแนะนำเอาเอเวอเรสต์คันเก่าไปเทรินเป็นnext gen ใช้อีก2แสนโลครับ
คือ ในสายตาเทอ มองว่า 8 ปี เริ่มซ่อมจุกจิก แปลว่า ไม่ทน ไม่มีคุณภาพ ยี่ห้อนี้ ไม่ได้ไปต่อ
(เทอใช้ แคมบี้ปี 12 ครับ รถ 11 ปี แข็งแรงทนทาน อะไหล่ไม่แพง ไม่เสียจุกจิก คุ้มค่า ตั้งแต่ใช้มายังไม่โดนอะไร เลยยกเป็น Benchmark สำคัญ)
ความต้องการท่าน จขกท ----รถที่ถูกใจ ขับแล้วมีความสุข มั่นใจสมรรถนะ มีเงินซ่อมได้ไม่เดือดร้อน
ความต้องการ ของผบ. ----รถอะไรก้อได้ นั่งอย่างเดียว แอร์เย็นเพลงเพราะ ซ่อมน้อยๆ หรือไม่ต้องซ่อมเลย 15 ปี
ผมว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่รถ แต่อยู่ที่มุมมอง ถ้าคุยกันด้วยเหตุผลและ fact ได้ เชิ่อว่าปัญหาจะหมดไปหรือคลี่คลายครับ ที่แน่ๆ รถ 7-8 ปี วิ่งปีละ 2 หมื่นกว่ากิโล มันต้องมีซ่อมบ้าง ที่แจ้งการซ่อมมาก้อเรื่องธรรมดาทั้งนั้น เท้าเราไม่เท่ากัน สไตล์การขับขี่ เส้นทางที่ใช้ บลาๆๆ
ถ้าค่าซ่อมที่เป็นปัญหา ท่านผบ. จ่าย ก้อเข้าใจได้
สรุปคือถ้าคุยแล้วไม่สามารถเคลียร์ได้ ก้อคงไม่พ้นคำว่า ยอมให้มันจบๆไป เท่านั้นเองครับ
ใช่เลยครับ สำหรับความเห็นในเรื่องมุมมอง ความต้องการของผม และ ผบ.
ผมพยายามนั่งคุยว่า รถ 8 ปี ใช้ 2 แสนโล การซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ที่เสียบ้าง เป็นเรื่องปกติ มันต้องมี
ผมขนาดยกตัวอย่าง รถเก่าเทอ civic dimension ปี 2000 รถ 23 ปี ยังเห็นวิ่งกันเกลื่อนถนน
ดังนั้น รถทั่วไป วิ่ง 15-20 ปี เป็นไปได้แต่ก็ต้องมีการซ่อมแซม เปลี่ยนอะไหล่ เป็นธรรมดา
แต่รถที่เทอเอามาเปรียบเทียบ ทั้ง พี่ฮอน พี่โต เป็นรถที่โคตรทน ถึก อะไหล่ ไม่แพง ไม่จุกจิก
ให้ผมเอา พี่ Ford ไปเปรียบเทียบบอกกล้าซ่อมใช้ต่อยาว ๆ มั้ยหล่ะ "ถ้ากล้าก็เอาสิ๊"
สรุบ เดี๋ยวไปคุยกันบนเตียงอีกที