...
2. บรรยากาศ การเรียนการสอน มันไม่ด้กระตุ้นให้เด็ก ค้นพบตัวเอง ว่า อยากเรียนอะไรกันแน่
3. หลักสูตรของเรา ในระดับ ประถม ยันมัธยม ไม่ได้เปิดกว้างให้เด็ก หัดลองเรียน วิชาที่ตนอยากลอง ได้ตามต้องการ
เคยมีความพยายามทำแบบนี้กันอยู่ แต่ก็ยังไม่เห็นจะได้ผลดีเท่าใดนัก
4. เวลาเด็กมีปัญหา เด็กต้องการที่พึ่ง ต้องการความช่วยเหลือ ครู สมัยนี้ จะมีสักเท่าไหร่กันเชียว ที่เป็นที่พึ่งของเด็กๆได้จริง?
ในต่างจังหวัด อันห่างไกล ผมไม่ห่วง เพราะถ้าไม่รักเด็ก เขาไม่ทนอยู่่กันไปตามยถากรรม รอการช่วยเหลือ แบบนี้หรอก
แต่ที่น่าห่วง กลับเป็น ครู ใน กทม หรือ หัวเมืองใหญ่ๆ เนี่ยแหละ!
...
ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของพี่จิมมี่ครับ แล้วก็ขอเสริมจากประสบการณ์นิดนึงนะครับ เนื่องจากขณะนี้ ผมศึกษาอยู่ในต่างประเทศ ผมเห็นด้วยว่าหลักสูตรที่เรียนนั้น ควรจะให้นักเรียนนั้นมีโอกาสที่จะเลือกในวิชาที่ตนชอบบ้าง เพื่อที่จะได้ค้นพบตัวเองว่าชอบอะไร จะเรียนอะไรต่อ จบไปแล้วทำอะไรได้บ้าง
ในเวลาที่นักเรียนมีความเครียด ต้องการที่พึ่ง รร.ที่ผมเรียนอยู่นี้ เขาก็จะมี Counselor หรือผู้ที่ให้คำปรึกษานั่นแหละครับ ซึ่งผู้ที่จะทำตำแหน่งนี้ได้ จะต้องเข้าใจเด็กด้วย ว่าเขามีความทุกข์เรื่องอะไร ให้คำปรึกษาว่าควรจะทำอย่างไร แล้วบุคคลที่จะทำหน้าที่นี้ ต้องมีความเป็นมิตรกับเด็กมาก ไม่ทำให้เด็กเครียดหนักกว่าเดิม
จากการสังเกตนักเรียนที่นี่ที่เขาเรียนกัน ทุกคนมีทางเลือกว่าจะเรียนหลักสูตรไหน ตามความสามารถ ไม่ยากจนเกินไป การเรียนก็จะเรียนได้อย่างสบายๆ มีกฎระเบียบที่อธิบายอย่างชัดเจน ถ้าทำผิดกฎ ก็จะมีบทลงโทษ ที่สมเหตุสมผล นักเรียนเข้าใจ ยกตัวอย่างการใช้โทรศัพท์ระหว่างเวลาเรียนนั้น ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ก็ไม่สามารถใช้ได้ ถ้าแอบใช้ แล้วจับได้ ครั้งแรก คือ การตักเตือน ครั้งต่อไป โทรแจ้งผู้ปกครอง ครั้งที่สามคือ ไม่ให้นำโทรศัพท์มารร.
ซึ่งผมเองนั้น ก็ปิดเครื่อง แต่เนื่องจากผมเอาโทรศัพท์ (BB เนี่ยล่ะ) ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง แล้วมันคงโดนปุ่ม แล้วเครื่องมันเปิดเอง ทีนี้ ดันมีคนโทรผิดมาตอนเรียนอีก เสียงก็ไม่ได้ปิด เพื่อนบางคนได้ยิน หันมามอง (ดีนะครูไม่ได้ยิน) เท่านั้นแหละ เหงื่อตกด้วยความละอาย.. หลังจากวันนั้น ผมนำใส่กระเป๋านักเรียน ใส่ปลอกหุ้มมันซะ จะได้ไม่โดนปุ่มอะไรเข้าอีก..
เพื่อนผมใช้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในเวลาเรียน ครูก็เข้าไปตักเตือน พร้อมกับบอกนักเรียนที่เหลือว่า จำไว้ว่าโทรศัพท์นั้น ไม่อนุญาตให้ใช้ในห้องเรียน แม้กระทั่งดูนาฬิกา แต่ถ้ามีเหตุจำเป็น ก็บอกครู เขาจะอนุญาต แล้วเราก็คุยตรงนั้นเลยครับ คือ อย่างน้อย เขาก็ยังมีการอธิบาย ซึ่งเหตุการณ์ในคลิปนี้ ไม่ทราบว่าก่อนหน้านั้น มีการตักเตือนกันอย่างไรบ้าง แต่ก็ไม่ควรละเมิดสิทธิโดนการขว้าง ให้เสียหายอย่างนี้
ตามที่พี่จิมมี่บอกครับ เด็ดขาด มันไม่ต้องใช้ความรุนแรงครับ