สัญญาณกันขโมย คือระบบการป้องกันการโจรกรรมระบบหนึ่ง ที่มีหลักการทำงานคือ จะเชื่อมต่อเข้ากับตัวรถ หากเกิดมีความผิดปกติของปัจจัยภายนอกที่มากระทำกับตัวรถ ที่ตัวสัญญาณกันขโมยที่ตัวรถเชื่อมต่ออยู่สามารถรับได้ ตามระดับการป้องกันของสัญญาณกันขโมยนั้นๆ ตัวมันจะส่งสัญญาณไฟหรือเสียงดัง เพื่อเตือนให้ผู้ใช้หรือบุคคลใกล้เคียงในละแวกนั้น ได้มาตรวจสอบถึงความผิดปกติที่ตัวสัญญาณได้รับ เพื่อป้องกันการโจรกรรมต่อไป
สัญญาณกันขโมยโดยทั่วๆ ไปตามความเข้าใจของผมนะครับ จะแบ่งโดยหลักๆ อยู่ 2 แบบ
1. สัญญาณกันขโมยแบบที่ติดตั้งมากับรถ คือสัญญาณกันขโมยที่ถูกติดตั้งมาจากไลน์การผลิตเลย (หรืออาจจะเป็นติดตั้งนอกการผลิตตัวรถ แต่ก็ยังเป็นอุปกรณ์มากับรถ)
ซึ่งสัญญาณกันขโมยเหล่านี้ จะมีระดับการป้องกันแตกต่างกันไปแล้วแต่ผู้ผลิตรถยนต์ โดยส่วนมากแล้ว ผู้ผลิตมักจะติดตั้งในระดับการป้องกันที่ค่อนข้าง "ต่ำ"
คือพอให้สามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการงัดแงะทางประตูหรือกระโปรงรถได้ แค่นั้น
หรือผู้ผลิตบางรายอาจจะติดตั้งในระดับการป้องกันที่ค่อนข้าง "พอใช้" คือเพิ่มการป้องกันที่เกิดจากการทำลายระบบหรืออุปกรณ์ต่างๆ ของรถได้ ขึ้นมา
2. สัญญาณกันขโมยแบบติดตั้งเองภายนอก คือสัญญาณกันขโมยที่ผู้ใช้รถนำไปติดตั้งเพิ่มเติมเองจากภายนอก หรือ ติดตั้งเพิ่มเติมจากสัญญาณกันขโมยเดิม ซึ่งโดยตามท้องตลาดสัญญาณกันขโมยเหล่านี้ก็จะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มีหลายระดับการป้องกัน สามารถหาติดเองจากของข้างนอกทั่วไป หรือ ผู้ผลิตรถยนต์บางรายก็ผลิตออกมาเพื่อเป็นอุปกรณ์เสริมเอง ก็มี
ระดับการป้องกันส่วนมากที่ผู้ใช้นิยมติดตั้งกันก็จะเป็นระดับที่ค่อนข้าง "พอใช้" หรือ "ดี" ไปเลย คือจะสามารถป้องกันจากการทำลายระบบหรืออุปกรณ์ของรถ หรือตัวสัญญาณเองจะออกแบบให้มีการเข้าถึงตัวรถได้ยากยิ่งขึ้น ประมาณนี้
สิ่งที่ควรจะคำนึงถึงอย่างหนึ่งก็คือ ระบบสัญญาณกันขโมย ไม่ว่าจะมีระดับการป้องกันที่ดีเพียงใด แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้วิวัฒนาการการโจรกรรมมันเริ่มพัฒนาขึ้นมาก ดังนั้น การที่จะป้องกันการโจรกรรมจากระบบสัญญาณกันขโมยอย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอ ผู้ใช้รถควรที่จะระวังการป้องกันรถด้วยตัวเอง เช่น การหาที่จอดรถ การเก็บสิ่งของมีค่าไว้ในรถ ด้วยวิธีที่ปลอดภัยควบคู่กันไปด้วยนะครับ