ผู้เขียน หัวข้อ: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น  (อ่าน 2243 ครั้ง)

Bornplanet

  • บุคคลทั่วไป
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมกับศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมผู้ใช้รถยนต์ของคนไทย 1,000 คนจากทั่วประเทศ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 พบว่า คนไทยให้ความสนใจเลือกซื้อรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่มากขึ้นกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

โดยผลสำรวจระบุว่าผู้บริโภคชาวไทยที่มีความสนใจในรถยนต์พลังงานทางเลือก (zEV) ให้เหตุผลถึงความต้องการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมถึง 83.85% ขณะที่ 52.41% สนใจรถยนต์ zEV เพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ที่ผู้บริโภคชาวไทยสนใจมากที่สุดถึง 44.82% อีกทั้งยังให้การตอบรับเชิงบวกต่อรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ด้วยเหตุผลด้านความคุ้มค่า ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย

สะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น ที่สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการขึ้นเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนไทย ควบคู่ไปกับการสร้าง ecosystem ด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค

ผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้รถยนต์ต่อความคิดเห็นเรื่องรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ปีที่ 2 นี้ เผยให้เห็นถึงความตื่นตัวและการเปิดรับรถยนต์พลังงานทางเลือกเพิ่มมากขึ้นของคนไทย เมื่อเทียบกับผลสำรวจที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ทำขึ้นร่วมกับสถาบันนิด้าในปีก่อนหน้า โดยพบว่าเหตุผลที่ผู้บริโภคชาวไทยสนใจเลือกซื้อรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เพื่อเป็นการช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงถึง 83.85% เพิ่มขึ้นจาก 77.68% ในปี พ.ศ. 2563

ขณะเดียวกันเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญ โดย 52.41% ให้เหตุผลที่สนใจเลือกซื้อรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ เนื่องมาจากนวัตกรรมล้ำสมัยที่มาพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า โดยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 26.88% ของปีก่อนหน้านี้ สำหรับรูปแบบรถยนต์ zEV ที่คนไทยสนใจมากที่สุดในปี พ.ศ. 2564 ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (hybrid electric vehicle : HEV) ซึ่งมีผู้บริโภคให้ความสนใจต้องการซื้อถึง 44.82% เพิ่มขึ้นถึง 13.87% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตามด้วยรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (plug-in hybrid electric vehicle : PHEV) ที่มีผู้ให้ความสนใจ 27.94% และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (battery electric vehicle : BEV) ที่ 27.24% ตามลำดับ

จากผลสำรวจยังพบว่า 3 ปัจจัยหลักที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อรถพลังงานทางเลือกใหม่ของคนไทย ได้แก่ ความคุ้มค่าของราคา (33.77%) ความปลอดภัย (23.59%) และนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย (11.45%) ขณะเดียวกันเหตุผลอันดับแรกที่ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนใจจากการซื้อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมาเป็นใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ มาจากความกังวลเรื่องราคาน้ำมัน โดย 35.34% ให้เหตุผลว่าราคาค่าชาร์จไฟที่ถูกกว่าราคาน้ำมันทำให้เปลี่ยนใจมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า

ขณะที่ 18.95% มองว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีความปลอดภัยที่สูงกว่า และ 12.73% ให้ความสำคัญกับเรื่องของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ 67.62% เชื่อว่าราคาที่จับต้องได้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่อย่างรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้นและเร็วขึ้น และอีก 49.16% คิดว่านโยบายสนับสนุนจากภาครัฐเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สามารถกระตุ้นการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ผลสำรวจพบว่าคนไทย 63.57% เคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่มาก่อนแล้ว โดยใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ในการค้นหาข้อมูลสูงถึง 77.17% ตามด้วยเว็บไซต์ 54.19% และสื่อโทรทัศน์ 31.21% ส่วนบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของคนไทยมากที่สุด ได้แก่ คู่ครอง (26.71%) ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากแบรนด์ (18.11%) และพ่อแม่ (17.66%) ตามลำดับ

นอกจากนี้ คนไทยยังให้การตอบรับเชิงบวกต่อรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเป็นอย่างดี โดย 55.28% มองว่ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมีราคาคุ้มค่า 49.16% มองว่ามีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ 32.08% ชื่นชอบในการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม

ข้อมูลจาก https://www.prachachat.net/motoring/news-834953

ทุกท่านคิดอย่างไรครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,056
Re: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 08, 2022, 20:35:08 »
อ่านดีๆนะครับ ผลที่เห็นเป็นของ "ผู้บริโภคชาวไทยที่มีความสนใจในรถยนต์พลังงานทางเลือก "

จะมาสรุปว่าคนไทยสนใจมากขึ้น ไม่คิดว่าถูกนะครับ

How to lie with statistics

ผลการวิจัยนี้ (อย่างน้อยก็ด้วยข้อมูลที่ให้มาประกอบ) บอกได้แค่ว่า คนที่สนใจรถไฟฟ้า สนใจด้วยเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม+ประหยัดพลังงาน และนวัตกรรมมากขึ้น

และในบรรดาคนที่สนใจรถ hybrid มาแรงสุด และเพิ่มจากปีที่แล้วเยอะ (สงสัยเลยว่าเลขปีที่แล้วสัดส่วนตรงนี้เป็นยังไง .. เดาว่า plug-in เยอะกว่าปีนี้มั้ง)

ปล. ไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับข้อสรุป แต่แนวทางวิเคราะห์ "แถ" ได้น่าเกลียดมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 08, 2022, 20:42:13 โดย Turin »

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 685
Re: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 08, 2022, 21:27:05 »
ต้องใช้ผลโพล3เจ้า ต่างขั้ว จึงพอจะเชื่อถือได้
ถ้าเก๋งยกสูงไฮบริดจีนแดงขายแตะ1ใน5กับppvยุ่นได้เมื่อไหร่นั่นแหละของจริง

ถ้าประกาศลดภาษีรถถ่านมีผลแล้ว ลดจาก2แสน-1ล้าน 5ปี
ผลโพลคงต่างจากข้างบนแน่

น่าจะใช้ผลโพลที่รถขายไก่ สามแฉกจ้างทำมากกว่า บุกเบิกทั้งคู่ ลงทุนไม่น้อย ของปักกิ่งกับรถเจ้าแรกของโลก

ที่โบ๋คือ gm ไครเลอร์ ฟอร์ด ยังไม่ประกาศจะวางขายรถถ่านในอาเซี่ยนซะที ทั้งที่ขายรถแถวนี้มานานมาก คนชอบก็เยอะ อย่างออฟโรดถ่าน ลดภาษีแล้วน่าจะขายได้
เลี้ยวสี่ล้อ วิ่งปู ยกสูง6นิ้ว คอออฟโรดอยากสัมผัส ขนาดvx200ยังเกือบสิบล้าน รถถ่านออฟโรดราคาไล่กัน
ไหนจะไซเบอร์ทรัค ถ้ากระจกแกร่งจริง ถูกกว่าซื้อรถกันกระสุน



ขนาดแมวยังง่อยขึ้นดอยไม่ไหว กลายเป็นจระเข้บกไปแล้ว
ยังดีที่ยอมรับ บอกรถไม่ได้เสียเป็นธรรมชาติของรถ
ควรดูเต่าเป็นระยะจะได้พักรถ

จะเข้ามาขายอีกสามรุ่น ต้องมาลุ้นขึ้นดอยอีกรึเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 08, 2022, 22:13:46 โดย bahamu »

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,148
  • I'm............................
Re: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 08, 2022, 21:33:10 »
ไม่ได้เรียนสถิติมานะครับ (ถึงแม้จะเกือบเคยก็เถอะ)

แต่อ่านแล้ว มันเหม่งๆ ตรงเปิดมากลุ่มตัวอย่างก็เป็นคนที่สนใจรถ xEV อยู่แล้วไปเลย
ซึ่งแนวโน้มกลุ่มมันก็ต้องมาทางเปิดรับมากขึ้นอยู่แล้ว

ลองไปคัดคนใช้ทั่วไปแบบไม่เฉพาะเจาะจงดูสิครับ
ทุกวันนี้คนรอบตัวยังตั้งคำถามกับเวลาชาร์จและระยะทางที่ได้กันอยู่เลย
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ zeriw009

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 676
Re: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 09, 2022, 07:43:57 »
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ล้วงลึกรถ EV ย่อมสนใจเป็นเรื่องปกติครับ เหตุผลหลักเพราะราคาน้ำมันบ้านเราปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถ EV เหมือนจะเป็นทางออกที่คนส่วนใหญ่คิดว่าน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้  ส่วนน้อยที่จะคิดถึงเรื่องของทรัพยากรและมลพิษ
㋡  ㋡ ขายรถที่สวยสมบูรณ์แบบในตอนนี้ อีก 50 ปี จะเอาอะไรมาขาย

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,475
    • อีเมล์
Re: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 09, 2022, 09:01:21 »
คนไทยและคนทั่วโลก ก็น่าจะสนใจรถไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆแหละครับ แต่คนจะยิ่งตื่นตัวและตื่นตูมถ้ามีข่าว หรือ บทความอะไรทำนองนี้มากระตุ้นให้ยิ่งไปกันใหญ่

แต่คนที่ออกมากระตุกกระแส พร้อมจริงๆรึยังครับ ของที่ขายถูกออกแบบมาสำหรับการใข้งานจริงในประเทศไทย การบริการพร้อมไหม ข้อดี ข้อจำกัดต่างๆบอกผู้บริโภคครบหมดรึยัง

ถ้าทำได้ครบวงจรอย่างแท้จริง ก็น่าลุ้น น่าลงเรือไปด้วยกัน

ออฟไลน์ Niti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
  • Live is short. Live it!
Re: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 10, 2022, 07:37:58 »
ด้วย trend ต่างๆ มันก็ควรเป็นเช่นนั้นครับ

ภาครัฐเองก็ควรจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เพียงพอสำหรับเรื่องนี้ด้วยนะผมว่า
-------------------------------------------------------------
In: 350Z DE / New Fortuner TRD / Harrier XU60*2 / Alphard AH30
Out: Miata NC RHT / 86 / IS250
-------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,462
Re: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 10, 2022, 20:26:34 »
ผมว่าคนก็เปิดรับมากขึ้นนะครับ กระแสรถไฟฟ้ามาตลอดเลย แถมค่ายรถก็ส่งรถไฮบริด รถไฟฟ้ามาเรื่อยๆ จะให้เลี่ยงไม่รับรู้ ก็คงไม่พ้น

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,377
Re: ผลสำรวจคนไทยเปิดรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” มากขึ้น
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 14, 2022, 10:57:51 »
เคยไปอรมจากท่านอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ม. ดังกลางเมือง ท่านบอกว่าการทำโพลต้องมีเป้าว่าต้องการผลอย่างไร

ไม่มีใครทำดพลแล้วสรุปไม่ได้แน่นอน เพราะมันไม่ใช่มืออาชีพ แต่ถ้าข้อมุลมี bias มันก็ไม่ใช่มืออาชีพเหมือนกัน

ปล. ผมว่าคิดว่าเปิดรับมากขึ้นนะ เพราะเดิมมันแพงมาก แบบไม่ต้องคิด แต่ปัจจุบันพอเริ่มจะเอื้อมถึงบ้าง

อย่างไรก้ตาม เมื่อถึงจุดๆ นึง มันก็เลี้ยงไม่ได้ เพราะน้ำมันที่ขุดๆ ออกมา มันก็มีวันที่หมดเหมือนกัน