ายรถยนต์เตรียมเฮ คลังเล็งปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ทั้งระบบต่ำกว่า 30% หวังรักษาฐานการผลิตในประเทศ สู้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ตามกรอบอาฟต้าที่เสียภาษีแค่ 5% คาดราคารถในประเทศลดลงได้อีก ส่วนกรมศุลกากรเตรียมเปิดประมูลรถยึดเดือนหน้า
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้กรมสรรพสามิตไปศึกษาลดภาษีสรรพสามิตในสินค้าต่างๆ ที่เก็บอยู่ เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการในประเทศ ให้สู้กับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศได้ เช่น การลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ซึ่งมีการผลิตในไทยจำนวนมาก ก็ต้องมาพิจารณาว่าจะลดภาษีสรรพสามิตลงได้มากน้อยขนาดไหน และลดลงได้เมื่อไร
รมช.คลัง กล่าวว่า การทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) ทำให้อัตราภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์และสินค้าอีกหลายรายการของกรมสรรพสามิต มีอัตราเป็น 0% ในอนาคต ส่งผลทำให้สินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว มีราคาถูกกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศ หากกรมสรรพสามิตไม่ลดภาษีสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีให้ต่ำลง ก็จะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการภายในประเทศ มีปัญหาไปถึงการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้
นายพฤฒิชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้ลดภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ จาก 15% เหลือ 0% เพื่อทำให้ราคาขายภายในประเทศถูกลง เป็นผลดีทั้งผู้ผลิตแอร์ และผู้บริโภคในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ผลิตแอร์ในประเทศก็ประสบปัญหาแอร์นำเข้าจากต่างประเทศมี ราคาที่ถูกกว่าแอร์ที่ผลิตในประเทศ การลดภาษีสรรพสามิตทำให้แอร์ที่ผลิตในประเทศ สามารถแข่งขันกับแอร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศได้
ทั้งนี้ รถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศภายใต้ข้อตกลงอาฟต้า เสียภาษีนำเข้า 5% ขณะภาษีสรรพสามิตรถยนต์อยู่ที่ 30-50% หากเป็นรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงที่มีเอทานอลไม่น้อยกว่า 20% จะมีอัตราภาษีน้อยกว่ารถยนต์ปกติ 5%
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่าในเดือนหน้ากรมศุลกากรจะมีการเปิดประมูลรถยนต์ของกลางประมาณ 100 คันโดยรถที่นำมาประมูลครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถที่ยึดมาได้ โดยยังมีรถที่ยังดำเนินคดีไม่เสร็จ และรถหรูราคาแพงที่แยกออกไว้ก่อน เพื่อดำเนินการประมูลในภายหลังเมื่อดำเนินคดีเรียบร้อย
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำเรื่องถึงนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ที่ดูแลกรมศุลกากรเพื่อขอให้มีนโยบายนำรถยนต์ของกลางออกมาประมูลขายได้อีก ครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้คลังเคยมีนโยบายไม่ให้ประมูลขายรถยนต์ของกลาง โดยให้มีการทำลายแทน แต่ก็มีปัญหาถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เข้าตรวจสอบ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการทำลายของกลาง ทำให้กรมศุลกากรมีปัญหาของกลางรถยนต์ค้างอยู่ในโกดังจำนวนมาก
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่าการประมูลขายรถยนต์ของกลางจะทำให้กรมศุลกากรเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2552 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะรถยนต์ของกลางที่จะประมูลครั้งแรก เป็นรถยนต์ทั่วไปราคาไม่สูง ซึ่งมีทั้งรถจากญี่ปุ่นและยุโรป
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/first_page_detail.aspx?cid=30635