บริษัทเอกชนไทย เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงการได้สิทธิบัตร แบตเตอรี่แวนเนเดียม รีด็อกซ์ โฟลว์ หลายฉบับ
ครอบคลุมถึงการเก็บพลังงานและการทำเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อนำมาเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับใช้ในการประจุพลังงานไฟฟ้าในรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ
และได้รับความสนใจจาก ปตท. ถึงระดับได้ลงนามใน MOU เพื่อต่อยอดการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่แวนเนเดียม รีด็อก โฟลว์ สำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์แล้ว
นายกฤษฎา กัมปนาทแสนยากร ประธานกรรมการ บริษัทเซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า
บริษัท เซลเลนเนียม มีสิทธิบัตรแบตเตอรี่แวนเนเดียม รีด็อกซ์ โฟลว์ หลายฉบับครอบคลุมถึงการเก็บพลังงานและการทำเป็นเซลล์เชื้อเพลิงด้วยคาร์โบไฮเดรต
โดยในการศึกษาวิจัย นำแบตเตอรี่แวนเนเดียม รีด็อกซ์ โฟลว์ มาใช้ในรถยนต์นั้น ทางเซลเลนเนียมได้รับผิดชอบในการหารถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามาร่วมทดสอบสมรรถนะการใช้งาน
เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาแบตเตอรี่ดังกล่าว ให้สามารถใช้ในการประจุพลังงานไฟฟ้าในรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานหมุนเวียน
เช่น ลมแสงอาทิตย์ และเชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อใช้ในแหล่งชุมชนห่างไกลที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงอีกด้วย
ด้านนายไชยเจริญ อติแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันวิจัยเทคโนโลยี ปตท. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ในขณะนี้ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือร่วมกับนายกฤษฎา กัมปนาทแสนยากร บริษัทเซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด
ในการร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนาการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ รีด็อกซ์ โฟลว์ (Vanadium Redox Flow Battery : VRFB)
ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดย เซลเลนเนียม ใช้ในการกักเก็บและจ่ายพลังงานไฟฟ้า โดยการอัดประจุไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่หรือการจ่ายกระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่
เป็นกระบวนการปฏิกิริยาทางเคมีของสารละลายอิเล็กโทรไลต์ (elecctrolytc) ที่บรรจุภายในแบตเตอรี่
การศึกษาดังกล่าว ปตท. ได้ติดตั้งแบตเตอรี่แวนเนเดียม รีด็อกซ์ โฟลว์ ขณะกำลังการจ่ายกระแสไฟฟ้า 5 กิโลวัตต์ ปริมาณความจุในการกักเก็บพลังงาน 60 หน่วย (kwh)
เพื่อใช้กักเก็บและจ่ายพลังงานไฟฟ้า ณ สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยมีการประเมินผลด้านสมรรถนะ ประสิทธิภาพต้นทุนการใช้งาน และประโยชน์ต่างๆ ทำให้ทราบถึงศักยภาพและความเหมาะสมในการนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้งาน
โครงการนี้ยังช่วยแก้ปัญหาวิกฤติพลังงานของชาติและหันมาใช้พลังงานทดแทน รวมทั้งเป็นการช่วยขับเคลื่อนการผลิตการใช้พลังงานหมุนเวียนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งสอดรับกับนโยบายพลังงานทดแทน 15 ปี (พ.ศ.2551-2565) ที่รัฐกำหนดให้มีการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.4 ในปี 2551 เป็นร้อยละ 20 ของพลังงานเชิงพาณิชย์ในปี 2565
ล่าสุด สถาบันวิจัยเทคโนโลยี ปตท. ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพร้อมในการประเมินทดสอบรถยนต์ได้เตรียมนำมาทดสอบใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ใช้กักเก็บพลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ในอนาคต
ที่มาหนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้น
ความหวังอยู่ไรๆ ว่าจะได้มีรถ อีวี ใช้ในประเทศไทย