ผู้เขียน หัวข้อ: เข้าศูนย์ฮอนด้า ค่าแรง1.6ชั่วโมง700บาท แต่ทำจิงๆ30นาทีเสร็จ เราโดนโกงมั้ย?  (อ่าน 15404 ครั้ง)

ออฟไลน์ nachi

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
หรือว่าเปนปรกติคับ ครั้งก่อนๆค่าแรง450บาท ช่างก็ทำไม่เกิน1ชั่วโมง แต่มาเที่ยวนี้ทำไมค่าแรงพุ่งไป700บาท
แต่ทำแป๊บเดียวก็รับรถแล้ว

ออฟไลน์ tubtup

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
    • อีเมล์
แพงครับ ปกติจะบอกว่าใช้เวลาไปเท่าไหร่ และจะมีหน่วยบอกว่า ชั่วโมงล่ะเท่าไหร่ เอามาคูณกันเป็นราคา แล้วก็รวมกับค่าอะไหล่ที่เปลี่ยนไป สรุปยวดรวม
ถ้าไม่เข้าใจก็ถามไปตอนจ่ายเงินเลยครับ

ออฟไลน์ nachi

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
แพงครับ ปกติจะบอกว่าใช้เวลาไปเท่าไหร่ และจะมีหน่วยบอกว่า ชั่วโมงล่ะเท่าไหร่ เอามาคูณกันเป็นราคา แล้วก็รวมกับค่าอะไหล่ที่เปลี่ยนไป สรุปยวดรวม
ถ้าไม่เข้าใจก็ถามไปตอนจ่ายเงินเลยครับ

ตอนแรกน้องรับรถบอกนานคับ ผมเข้าตอน3โมงครึ่ง น้องบอกเสด5โมง แต่ผมไปนั่งแป๊บๆ 4โมงน้องบอกมารับรถได้
ก็เลยไม่ได้ไปทักท้วง ด้วยผมมองไปมุมนี้ว่าเค้าทำงานเสดเร็ว แต่มุมนึงก็คิดว่าน้องเค้าประเมินกว้างๆไว้ก่อนรึป่าว
แต่รายการเปลี่ยนมันมีแค่น้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง กะแหวนรอง นอกนั้นเปนตรวจเช็คธรรมดา  สรุปเสียเพิ่มไป250
เลยลองมาถามพี่ๆดูว่าแบบนี้ควรไปทักท้วงหรือสอบถามเค้าเพิ่มเติมดีมั้ย เพราะผมไม่แน่ใจว่าเคสนี้ปรกติมั้ย กลัวเค้าว่าเราเรื่องมาก

ออฟไลน์ ole7

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
โดนแบบนี้หลายค่ายหลายศูนย์เลยครับ เพื่อนผมเข้าศูนย์ฟอร์ดตอน 8 โมงเช้า มาทำรถตอน 11 โมงเปลี่ยนอะหลั่ย 30 นาที โดนค่าแรงไป 3 ชม. ครึ่ง ลมแทบจับไม่ใช่ไม่มีจ่ายนะ แต่โมโหจนพูดไม่ออก ค่าแรง พันเศษๆอะหลั่ยต่างหาก

ออฟไลน์ jani

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 160
เพิ่งโดนเหมือนกันครับ อะไหล่ 395 บาท. ค่าแรง 790 บาท
ทำใจครับ

ออฟไลน์ nachi

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
เค้าคงคิดว่าไหนๆก็เอาค่าล้างรถ ค่าน้ำมันเสริมพลังเครื่องยนต์กะเราไม่ได้ เลยมาฟันกะค่าแรงซะเลย
แม่ผมเลยบอกว่ามองในแง่ดีว่า เค้าทำให้เราเสดเร็ว จะเสียเงินไปบ่้าง100-200ก็ถือซะว่าเปนค่าความสะดวกเรา
จะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น  ไปเถียงไปโวยเค้า จะกลายเปนเสียความรู้สึกกันทั้ง2ฝ่าย แถมแม่บอกปีนึงเข้า2ครั้ง
ช่างมันเถอะ ทำเสดไว เราก็กลับบ้านไวไม่ต้องนั่งสัปปะหงกอยู่ในศูนย์

ออฟไลน์ basboths

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 479
    • อีเมล์
ถ้าใช้ mazda จะยิ่งหนาวครับ  ;)

ของผม mazda 2 เช็คระยะ 40000 km ค่าแรง 900 บาท ครับ  :(

ออฟไลน์ ADS

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 227
รายการเช็คตามระยะมี ระบุว่าต้องเปลี่ยนและตรวจเช็คอะไรบ้าง  เขาก็คิดชั่วโมงการทำงานตามนั้น
แล้วคูณค่าแรงเข้าไป ประเด็นคือ ถ้ามีอะไรที่ต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป แต่ .... อะไรที่ต้องตรวจเช็ค
ตามระยะก็ แค่ มองๆ เอา  การตรวจเช็คบางรายการนั้นต้องมีการถอดเพื่อให้เห็นอะไหล่นั้นๆ อย่างชัดเจน
ก็คงไม่ได้ทำ เลยเสร็จเร็ว  ถึงได้มีข่าวอยู่บ่อยๆ ว่าทำไมรถเช็คตามระยะทุกอย่างแล้วดันมาเสีย ทำไมไม่
มีการเตือน ทั้งๆ ที่ก็ตรวจเช็คไปแล้ว  น่าจะประมาณนี้ครับ

ของผมพอพ้นประกัน ผมก็ไม่เข้าศูนย์เลย ไปหาอู่ที่เป็นช่างที่มาจากศูนย์ยี่ห้อนั้นๆ และดูการทำงานของช่าง
ไปด้วย  แต่ไม่สะดวกแน่นอนสำหรับผู้ใช้รถทั่วไป  ก็คงต้องจ่ายเพื่อซื้อความสะดวก  ที่สำคัญศูนย์ต้องตอบ
ได้ทุกคำถามที่เราสงสัยด้วยความยุติธรรม  เราต้องกล้าถาม กล้าท้วงติงครับ
อดีต       Austin ... VW เต่า ... VW ตู้ ... Lancer Champ ... Galant GLS ... CRV G1 ... Nissan Super Neo
ปัจจุบัน   Accord G6 ... CRV G3 ... BMW F30 316i

ออฟไลน์ bobsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,609
    • อีเมล์
หลักการคิดค่าแรงของศูนย์จะถูกกำหนดตามคู่มือของยี่ห้อนั้นครับว่าเปลี่ยนอะไหล่ตัวนี้หรือแก้ไขจุดนี้จะใช้เวลาเท่าไหร่
เขาไม่ได่้จับเวลาตามจริงครับ  ซึ่งอันที่จริงลูกค้าน่าจะพอใจที่รถเสร๋็จเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในคู่มือนะครับ
อีกอย่างคือตอนที่แจ้งว่าเวลาไหนเสร็จมักจะบอกเผื่อ เพราะหากเสร็จไม่ทันลูกค้าก็จะบ่นนะครับ

คิดดูครับว่าจะมีศูนย์ไหนมานั่งจับเวลาที่แท้จริงปวดหัวแย่ครับ หรือถ้ามันซ่อมนานมากๆลูกค้าก็จะเสียค่าแรงบานเลย  :(

ออฟไลน์ bobsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,609
    • อีเมล์
ขอเสริมอีกนิดว่า อู่นอกโดยเฉพาะค่ายุโรปทำทีเป็นคิดค่าแรงถูกๆให้ลูกค้าดีใจ
แต่พวกบวกค่าอะไหล่จนลูกค้าหัวแบะมีเยอะมากนะครับสมัยนี้

ออฟไลน์ polarman

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 129
    • อีเมล์
ศูนย์ต่างๆน่าจะมีคู่มือ คิดชั่วโมงการทำงานอยู่ สมมุติ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 0.5 ชั่วโมง เปลี่ยนปั๊มน้ำ 3.0 ชั่วโมง ฯลฯ

เพราะฉะนั้น เมื่อมีการแจ้งซ่อมและป้อนข้อมูลการซ่อมประเภทต่างๆลงไป ระบบก็จะคิดค่าแรงตามที่คู่มือกำหนดไว้
ซึ่งถ้าเสร็จช้ากว่า ก็จะไม่สามารถคิดค่าแรงเพิ่มขึ้นได้เช่นเดียวกันครับ

ออฟไลน์ nachi

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
ตั้งแต่เข้าศูนย์มา ครั้งนี้เสดไวมาก ผมคิดว่าอาจจะเปนอย่างที่พี่ๆท่านบนบอกไว้คือ เค้าอาจไม่ตรวจครบทุกอย่างตามลิสตรวจเช็ค ซึ่งไม่รู้ว่าไปตอนศูนย์ใกล้จะปิดรึป่าว อันนี้มองในมุมใจร้ายนิดนึง คือช่างเค้ารีบๆๆๆรกกๆๆๆให้เสดๆไป แต่คิดว่ารถผมออกมาขับได้ปกติก็พอละ เพียงแต่สงสัยนิดหน่อย เพราะปกติผมจะไปยืนด้อมๆมองๆตอนช่างเค้าทำ ยืนดูห่างๆซึ่งช่างเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ว่ากันตามกฏของศูนย์ ลูกค้าควรอยู่ห้องรับรอง หลังจากครั้งที่แล้วผมก็เลยไม่ได้ไปยืนดูช่างเค้าทำ เกรงใจเค้าด้วยเพราะเราไปเดินเพ่นพ่านเกะกะเค้า เด๋วผู้จัดการมาเห็น ช่างก็จะโดนบ่น ขนาดเที่ยวนี้ผมไปแต่ไม่ได้เข้าห้องรับรอง แม่บ้านยังมาเชิญให้เข้าไปเลย แต่ผมขอตัวเพราะแม่ไม่ค่อยสบาย นั่งห้องแอร์ไม่ได้ ยังไงเที่ยวหน้าอาจจะลองไปแว๊บๆตอนช่างกำลีงทำรถเราดูเหมือนเดิมดีมั้ย เราไม่ซีเรียสอะไรนะ ขอให้ตรวจเช็ครถเราครบตามรายการ เราก็จ่ายได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 16, 2014, 01:08:59 โดย nachi »

promt

  • บุคคลทั่วไป
บอกตรงๆ ไม่ไว้ใจช่างศูนย์ครับถ้าไม่ได้ดู

อย่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนี่  ดูดไม่ทันหมดก็กรอกแล้ว

เราไปดูพอให้ช่างเกรงใจบ้าง

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,032
ผมคิดว่าน่าจะคิดตาม Man Hour นะครับ
ซึ่งก็จะมีค่าแรงกลางของแต่ละสายอาชีพและบริษัท เช่น MH ละ 400 บาท
ตัวอย่าง เช่นตามประมาณการมาตรฐาน การเช็คระยะ 1 แสนโล ใช้ 2 MH
แต่การทำงานจริงๆ อาจใช้คนทำงาน 2 คน แต่งานเสร็จภายในเวลา 1 ชั่วโมงก็เป็นได้ครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นราคามาตรฐานการประมาณ เร็วไม่ว่าแต่ขอให้ได้มาตรฐานละกัน ฮ่าๆ
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ึ700 บาท สำหรับถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนกรอง ตรวจเช็คทั่วไป แพงจริง

คราวหน้าถ้ายังเข้าศูนย์ ก็ไม่ต้องเช็คครับ เอาแค่ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนกรอง จ่าย 450 บาท ดูความแตกต่างครับ

ศูนย์บริการทุกวันนี้ มีแต่ต้องโกยครับ เงินเดือนพนักงานก็แพง ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างก็แพง เครื่องมือช่าง ค่ำบำรุงสถานที่ ค่าใช้จ่ายสารพัดเยอะแยะ ดังนั้นอะไรเก็บได้ก็เก็บทุกเม็ดล่ะครับ

ผมว่าคนลงทุนทำศูนย์ 100-200 ล้านบาท คงไม่อยากมาเก็บค่าแรง 50 บาทต่อคันหรอกครับ เหมือนกับหลาย ๆ อาชีพนั่นแหละ จบสถาปัตย์เขียนแบบสองหน้า 3 หมื่น 5 หมื่น มองในเนื้องานเหมือนไม่มีอะไร บางจคนคุยกันสองวันเขียนแบบสองวัน เก็บเงินละ ทั้ง ๆ ที่แบบก็โหลๆ เอามาจากแปลนอื่นดัดแปลงเอา  ซึ่งถ้ามองกันจริง ๆ ต้นทุนชีวิตมันเยอะกว่านั้นไปเยอะครับ

ยามเงินเดือนละ 15000 คิดแล้วตกวันละ 500 บาท ถามว่าให้คุณไปเป็นยามเช้าถึงเย็นรับ 500 บาท เอาไหม ? กลายเป็นว่าจ้าง 1000 นึงบางคนยังไม่เอาด้วยซ้ำ เพราะต้นทุนคิดไม่เท่ากันครับ คุณอาจจะเรียนมาสูง มีงานดีกว่านี้ทำ เงินเดือนเยอะกว่า ก็เลยเรียกเงินเดือนเยอะกว่า ต้องเรียกเงินเดือนมากกว่านี้

ถ้าการเข้าศูนย์แพง ก็ลองหาอู่ หาปั๊มถ่ายน้ำมันเครื่องลดค่าใช้จ่ายไปครับ หรือถ้ามันจำเป็นต้องเข้าศูนย์ เรียกร้องจาก สคบ.ดูครับ น่าจะมีทางออกสวย ๆสำหรับทุกคัน

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,912
    • อีเมล์
ความจริงมันคิดเป็นJobครับ  ไม่ได้คิดตามเวลาที่ทำจริง  ตัวเลขที่แสดงก็เป็นตัวเลขมาตรฐานที่ศูนย์กำหนดไว้ไม่ได้เอามาคิดตรงๆ


ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,728
  • Nine & Knight
เกรงว่าเก็บแต่ไม่ได้ทำจริง ตรวจเช็ค 30 รายการ ทำจริงอาจจะแค่ 10 ที่เหลืออยู่ที่ปลายปากกา


อยากจะเอาเงินเค้าแพงๆก็ต้องมีอะไรให้คู่ควรแก่การจ่ายหน่อยครับ จะอ้างว่าลงทุนเยอะ ค่าครองชีพสูงมาผลักภาระให้ผู้บริโภคอย่างเดียวไม่ได้ต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่าด้วย ถ้าอยากได้กำไรเพิ่มอย่างแรกคือลดต้นทุน อาจด้วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ลดงานซ้ำซ้อน ลดคนด้วยการเพิ่มคุณภาพหรือใช้เครื่องมือหรือวิธีการช่วยทั้งนี้ต้องไม่กระทบกับคุณภาพ  อย่างที่สองคือเพิ่มราคาขายด้วการเพิ่มความคุ้มค่าไม่ใช่การขึ้นราคาเพียงอย่างเดียว เช่น การบริการ ลงทุนเครื่องมือใหม่ๆทันสมัย  

อย่างเช่นไปศูนย์นี้ให้เราไปนั่งรอในห้องพัดลม น้ำหรือของกินก็ไม่มี เน็ตก็ไม่มี ทีวีเก่าๆ หนังสือก็มีแต่หนังสือพิมพ์เดือนที่แล้ว รอไป 2 ชั่วโมงบอกว่าเสร็จละบิลมา 2,000 ทำไรกะรถตรูมั่งว๊า   กับอีกศูนย์ขับเข้าศูนย์ รปภ ทักทายตั้งแต่ป้อมยันแม่บ้านบริการยิ้มแย้มดีมาก ช่างมาบอกรายการที่จะตรวจสอบพร้อมเชื้อเชิญให้ไปดูที่เค้าตรวจสอบเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและโชว์เครื่องมือเทพอันทันสมัยด้วย ถ้าอยากนั่งรอก็ไปพักที่ห้องรับรองแอร์เย็นฉ่ำ น้ำ+ของกินเพียบถ้าไปช่วงเที่ยงมีข้างกล่องให้อีกตะหาก Wifi ลื่นปรื๊ด หนังสือพิมพ์ก็มีอ่านเพียบนิตยาสารรถก็เยอะ เดินไปดูรถเล่นเซลล์ก็บริการดีไม่ได้แค่คิดว่ามาดูรถเล่นฆ่าเวลาเอารถมาตรวจระยะ พอครบ 2 ชั่วโมงมีบิลพร้อมรายการตรวจสอบอย่างละเอียดอันไหนเป็นตัวเลขก็บอกพร้อมสเปค อย่างแรงดันลมยาง แบตเตอรี่ และแนะนำรายการที่ควรทำ   ราคาออกมา 2,500     อย่างนี้ผมว่ารู้สึกดีกว่า 0 แรกอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ tsubasa

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,321
ผมเข้าใจว่า ค่าแรงคิดเป็นจ็อบ ตามงานที่คุณเข้าไปเซอร์วิสนะ
ปกติศูนย์บริการจะประเมินค่าใช้จ่ายก่อนนี้ครับ
ไม่สบายใจ ก็สอบถามศูนย์บริการนั่นเลยดีกว่า เพื่อความชัดเจน

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
ปกติงานแต่ละประเภท มันจะมีเวลาประเมินไว้เป็น job ไม่ใช่เหรอครับ
ทำเสร็จเร็จยังไงก็ต้องจ่ายตาม job นั้นๆ ไม่มาหักลบให้ หรือผมเข้าใจผิดหว่า ??
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,433
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
ช่างเขาเก่ง เลยทำเร็วกว่าเวลามาตรฐาน ก็ให้ค่าฝีมือไป

ปล. ค่าแรงจริงๆ ตกถึงช่างกี่บาท? ...สักบาท?

ออฟไลน์ peterW

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 580
ปกติ  การคิดค่า ซ่อม ที่ศูนย์ เขาคิด ค่าซ่อม เป็น  ค่าแรงต่อชั่วโมง x  จำนวนหน่วยชั่วโมงที่ได้ถูกกำหนดโดย ทางผู้ผลิตของแบรนด์ต่างๆ
โดยที่ จำนวนชั่วโมง ที่ซ่อม ไม่ได้มาจากการ จับเวลาจริง  แต่มาจากการที่ผู้ผลิตรถ ได้คิดแล้ว ว่า จำนวนชั่วโมงเท่านี้ เหมาะสมในการซ่อมเคสนี้ๆ ตามประเภทงานไป

รถญี่ปุ่น   หน่วยค่าแรงต่อชั่วโมง จะถูกกว่า ของ รถยุโรป (อันนี้ไม่บอก ก็พอเดาออก)

หน่วยชั่วโมงงาน ดูได้จาก โปรแกรม  ( workshop information system)  ที่ศูนย์ ซึ่งจะถูกกำหนดมาล่วงหน้าจากต่างประเทศ

ยกตัวอย่างเช่น  คุณจะเปลี่ยนผ้าเบรค   ในโปรแกรม สมมุติกำหนดไว้ ที่ 3 หน่วยชั่วโมง  เวลาคิดค่าแรงลูกค้า ก็ เอา
ิจำนวนชั่วโมง (3) x ค่าแรงต่อชั่วโมง (400 บาท) = 1200 บาท ยังไม่ vat
ส่วน ทางศูนย์ ช่างจะเปลี่ยนผ้าเบรค ใช้เวลาแค่ 1 ชัวโมงเสร็จ หรือ ใช้เวลา 5 ชั่วโมงเสร็จ หรือ ใช้เวลา 1 วันเสร็จ  ก็ต้องคิดแค่ 3 หน่วยชั่วโมงงาน เท่านั้น

ซึ่ง ถ้าเป็นระบบซ่อมห้าง ยังไง เข้าห้าง ไม่ว่ายี่ห้อไหน มันต้องแพงอยู่แล้ว  แต่ถ้าไม่เข้าบ่อย ไม่เจออะไรหนักๆ ในรถแบรนด์นั้นๆ  มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า มันยอมรับได้

และ ระบบการเปลี่ยนอะไหล่  จะเน้นเล็งแก้ทั้งระบบ   ไม่มาเปลี่ยนทีละชิ้น แล้วดูว่าหายไหม  เพราะ  ลูกต้าจะกลับมาด่าว่า ทำไมซ่อมแล้วไม่หาย จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์และพิจารณาเปลี่ยนชิ้นที่ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อพยายามอย่างดีที่สุด ให้อาการหาย ภายในการเข้าห้างเพียง 1 ครั้ง เพื่อซ่อมอาการนี้

การเช็คระยะ ยิ่งระยะกิโลมากขึ้น  ก็อาจมีการตรวจเช็คอุปกรณ์มากขึ้น หน่วยจำนวนชั่วโมงค่าแรงของการเช็คระยะ ก็อาจจะแพงกว่า ตอนเช็คระยะก่อนหน้า

ของผม Honda Accord G9 เพิ่งเช็คระยะมา เสียไป 2000 กว่าบาท (น้ำมันสังเคราะห์ 0w-20)   ค่าน้ำมันเครื่องอย่างเดียว 1800 บาท
จำไม่ได้ว่า ที่บิลมันคิดกี่ชั่วโมง จำได้แต่ว่า เขาไม่คิดเงิน ฟรีแค่ 2 ครั้ง  

ถ้าเป็นของรถยุโรปค่ายเยอรมัน เข้าห่าง แค่เช็คระยะ ส่วนใหญ่  +- 10,000 บาท  ยังไม่รวมเคสที่ไม่ปกติ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 16, 2014, 10:12:36 โดย peterW »

ออฟไลน์ keamglad

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
    • อีเมล์
มันก็คิดเป็น Job ประเมินเป็น man hour ตามมาตรฐานอยู่แล้ว

เหมือนบางอยางใช้ 2 ชม หรือ 2 man hours ก็ไม่ได้แปลว่าจะใช้เวลาสองชั่วโมง

เค้าอาจจะใช้สองคนมารุมทำแล้วเสร็จแค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้ครับ

พวกนี้ประเมินเป็นงาน เป็นค่าแรงตามมาตรฐานของเค้่าตามนั้นแหละครับ


ส่วนฮอนด้าก็ราคาประมาณนี้ละครับ 7-9 ร้อยบาทต่อเปลี่ยนนมค ต่อครั้ง

ออฟไลน์ wip

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 199
    • อีเมล์
ที่ว่าทำ1 ชม. คือช่างทำคนเดียวครับ ถ้าช่างหลายคนมันก็ลดเวลาลง 700  ค่าแรงแต่ล่ะศูนย์ไม่เท่ากัน  ทำไมไม่เท่ากันสงสัยไหมครับ  ก็มาจากความพอใจของทุกๆคนที่เข้าไปใช้บริการ ทางฮอนด้าประเมินมาว่าควรได้ค่าแรงเท่านี้

วิธีคิด ชม. งานคือเขาเอาช่างที่ชำนาญงานมา 1คน แล้วจำเวลาในการทำงานนั้นๆดูตั้งแต่เตรียมอุปกรณ์จนเสร็จสิ้นทุกอย่าง คิดเป็น ชม.งานออกมา  ตามศูนย์ต้องเร่งเวลาให้ทันท่านๆที่เข้ามาใช้บริการ จึงใช้ช่างหลายคนทำงานเวลาจึงลดลง
ลองไม่ใช้ช่างหลายคนต่อ1ช่องบริการสิครับ วันหนึ่งจะได้กี่คัน

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,634
ึ700 บาท สำหรับถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนกรอง ตรวจเช็คทั่วไป แพงจริง

คราวหน้าถ้ายังเข้าศูนย์ ก็ไม่ต้องเช็คครับ เอาแค่ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนกรอง จ่าย 450 บาท ดูความแตกต่างครับ

ศูนย์บริการทุกวันนี้ มีแต่ต้องโกยครับ เงินเดือนพนักงานก็แพง ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างก็แพง เครื่องมือช่าง ค่ำบำรุงสถานที่ ค่าใช้จ่ายสารพัดเยอะแยะ ดังนั้นอะไรเก็บได้ก็เก็บทุกเม็ดล่ะครับ

ผมว่าคนลงทุนทำศูนย์ 100-200 ล้านบาท คงไม่อยากมาเก็บค่าแรง 50 บาทต่อคันหรอกครับ เหมือนกับหลาย ๆ อาชีพนั่นแหละ จบสถาปัตย์เขียนแบบสองหน้า 3 หมื่น 5 หมื่น มองในเนื้องานเหมือนไม่มีอะไร บางจคนคุยกันสองวันเขียนแบบสองวัน เก็บเงินละ ทั้ง ๆ ที่แบบก็โหลๆ เอามาจากแปลนอื่นดัดแปลงเอา  ซึ่งถ้ามองกันจริง ๆ ต้นทุนชีวิตมันเยอะกว่านั้นไปเยอะครับ

ยามเงินเดือนละ 15000 คิดแล้วตกวันละ 500 บาท ถามว่าให้คุณไปเป็นยามเช้าถึงเย็นรับ 500 บาท เอาไหม ? กลายเป็นว่าจ้าง 1000 นึงบางคนยังไม่เอาด้วยซ้ำ เพราะต้นทุนคิดไม่เท่ากันครับ คุณอาจจะเรียนมาสูง มีงานดีกว่านี้ทำ เงินเดือนเยอะกว่า ก็เลยเรียกเงินเดือนเยอะกว่า ต้องเรียกเงินเดือนมากกว่านี้

ถ้าการเข้าศูนย์แพง ก็ลองหาอู่ หาปั๊มถ่ายน้ำมันเครื่องลดค่าใช้จ่ายไปครับ หรือถ้ามันจำเป็นต้องเข้าศูนย์ เรียกร้องจาก สคบ.ดูครับ น่าจะมีทางออกสวย ๆสำหรับทุกคัน
เรื่องนี้จริงครับ แต่ปัญหาคือการมาหาอู่นอกเดี๋ยวนี้แม่ม ฟันมากกว่าเข้าไปในศูนย์   อู่รู้จักกันมาก่อนบางที่ผมยังต้องถอยออกมาเลยไม่เอารถไปว่อมที่มัน  บางทีต้องอลงหาอู่เปิดใหม่ไปเรื่อย ๆ    สุดท้ายไปเช็คศูนย์โตโยต้าเหมือนเดิมครับ    อะไรรายการไหนพอจ่ายได้ไม่ได้แพงกว่าอู่ข้างนอกเท่าไหร่เข้าศูนย์ใกล้บ้านเลย สะดวกกว่าบริการดีกว่า  มีที่นั่งรอดีกว่า   
ไปเจอบางอู่ ที่รอก็ไม่ค่อยมีอันนั้นพอทน กลับมาล้างรถเอง  อะไหล่เทียม เทียบ เจอหมด  ค่าแรง + ฟันค่าอะไหล่  สรุปกัลับไปที่ศูนย์ดีกว่าไม่ช้ำใจ

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
ช่างที่ผมรู้จัก คิดค่าแรงเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน ที่ 150 บาทครับ อิอิอิ
แต่ใช้ แม่แรงยก ใช้ขาตั้งนะครับ ไม่มีแท่นยกแบบศูนย์

ถามว่า รับได้ไหมครับ ค่าแรงถูก แต่ดูแล้ว เหมือน "ชั่งกิโล" มากกว่า

ผมว่าการคิดแบบ Man Hour ถูกต้องแล้วครับ ถ้ามันมีมาตรฐานจริงๆ

มีเด็กรู้จักอยู่คนหนึ่งไปทำเป็นช่างสีที่ ศูนย์มิตซู ได้เงินเดือน 12,000บาท (เพิ่งเข้าทำงานนะครับ)
แล้วผมถามว่า ค่าแรงศูนย์จะไม่แพงได้อย่างไร

เพื่อนผมเปิดอู่สีอยู่ ค่าแรงลูกน้อง ยังให้รายวันอยู่แล้วครับ วันละ300-350บาท

ดังนั้นผมว่าอยู่ที่ความสบายใจครับ จะเข้าศูนย์ หรือ เข้าอู่นอก

โดยส่วนตัวผม
ผมซื้ออะไหล่เอง (ทั้งแท้และแบบเทียบ) แล้วให้อู่นอกมากเปลี่ยน ตกลงเรื่องค่าแรงอย่างเดียวครับ สบายใจ ไม่ต้องกลัวเรื่องโดนฟันค่าอะไหล่ ค่าแรงช่างก็คิดเต็มที่ (เพราะไม่ได้กำไรจะอะไหล่อยู่แล้ว) ยังถูกกว่าให้ศูนย์ซ่อมอีกครับ อิอิอิ