ต้องแยกเรื่องว่า น้ำดัน เพราะ DPF จริงเหรอ....??
ถ้า น้ำดัน เพราะการออกแบบหรือดีไซต์ ของเครื่องยนต์เอง ตัด DPF ออกก็เท่านั้นครับ
ส่วนตรวจสภาพ น่าจะไม่มีผล เพราะคงไม่มี ตรอ. ไหนไปมุดดู DPF หรอก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคันไหนมี DPF และ DPF อยู่ตรงไหน
ปล.เป็นผมไม่ตัด เหมือนแคท หรือ EGR ผมไม่เคยคิดจะตัดหรือทำอะไรกับพวกนี้เลย เขาทำมาดีแล้ว
ผู้ใช้หลายคน ทดสอบแล้วว่า ตัด DPF และอุด EGR แก้ปัญหาน้ำดันได้จริงครับ .... เพื่อนผมใช้ m2 ดีเซลหลายคน ตัดและอุดตั้งแต่ป้ายแดง นี่หลายปีแล้วยังวิ่งปริว ไม่มีปัญหาอืด เร่งไม่ขึ้นและน้ำดันเลย ..
ส่วนตรวจสภาพผ่านไหม ผมคิดว่าผ่านครับ เพราะคนตรวจเค้าก็ไม่รู้หรอกครับว่า อะไรคือ DPF และมันอยู่ตรงไหน ..
เวลาตรวจ รถควันไม่ดำ ระบบไฟฟ้าในรถใช้ได้ครบ ก็ผ่านแล้วครับ ..
รถคันอื่นที่มี DPF ดันไหมครับ.....
เท่าที่ทราบ รถในกลุ่มยี่ห้อนี้ ตัด DPF ออก เหมือนจะหลายคันเลยมั้ง ก็ยังเจอน้ำมันดันอยู่เลย ความหมายคือะไรครับ....?
มันก็สวนทางกับที่คุณบอกมา เพราะคนที่ตัดแล้วดีก็ดีไป แต่คนที่ตัดแล้วเจอ มันก็แปลกๆ เนอะ ว่าไหมครับ....
ผมแค่อยากลองให้หาสาเหตุ และ แยกเรื่องออกจากกัน ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวกันอยู่บ้างในบางจุด แต่ไม่ทั้งหมด
เรื่องของเรื่องมันมีแนวทางแก้ไขอยู่ครับ
มาสด้า 2 ดีเซล รุ่นแรกคันของเพื่อนอายุน่าจะห้าปีแล้ว ยังไม่เคยไปทำอะไรเครื่องเลย โชคดีไม่เจออาการน้ำดัน เลยสงสัยเหมือนกันว่าสาเหตุจริงมาจากอะไรกันแน่
ผมว่ามันอยู่ที่การใช้งาน การขับขี่ การดูแลรักษาด้วยแหละครับ
ที่น้ำดันกันเยอะมัน CX-5 ครับ
ส่วน mz2 ผมเห็นหลายคนซื้อตั้งแต่ออกมาใหม่ๆ หลายปีแล้ว ไม่เคยอุด ไม่เคยตัด dpf น้ำไม่เคยดันครับ
จะมีบางคันน้ำมันเครื่องเกิน
เครื่องยนต์คนละตัว (มี DPF เหมือนกัน) อาการก็อาจจะต่างกัน ผมถึงบอกว่า การตัดทิ้งมันอาจจะไม่ทางแก้ หรือ บางคนอาจจะมองว่าเป็นการตัดปัญหาทิ้งไปซะ ก็คงแล้วแต่ละครับ
คงต้องการให้พูดว่า ระบบ DPF ที่มาสด้าทำมามันห่วยสินะครับ .. ก็คงพูดกันตรงๆไปเลยว่ามันก็ห่วยจริงๆนั้นแหละ ...
เมื่อมันห่วย คนที่ใช้มาสด้า ก็หาวิธีแก้ไข และที่ดีที่สุดสำหรับบางคนก็คือการเอามันออกไปและปิดระบบมันซะ ... ง่ายๆแค่นั้น ...
ส่วนจะแก้ปัญหาได้ทุกคันไหม ก็คงไม่ทุกคัน แต่ก็มีหลายคันที่หาย .... และก็มาหลายคันเลยที่ไม่ทำอะไรเลย แต่ก็ไม่พัง ....
เค้าทำออกมาตามมาตราฐานที่รัฐฯกำหนด แต่ระบบที่ทำมามันห่วย ก็แค่นั้น ...
อย่างแรก ผมไม่เคยบอกว่า การมี DPF ไม่ดี หรือ ห่วย หรือ อะไร ผมแค่อยากให้ลองมองปัญหาและแก้ไขในจุดที่แก้ไขได้ก่อน
ถ้าบอกว่า น้ำดัน เพราะระดับน้ำมันเครื่องเกิน แล้วละก้อ(ที่เขาพยายามบอกว่าคือสาเหตุนี้) มาจาก ระดับน้ำมันเครื่องเกินเพราะตอนเผา DPF ไม่เสร็จ(ตอนเผา DPF มันจะฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเผา) แล้วคนขับเองไม่รู้หรือไม่ทันดูว่ามันกำลังเผา DPF อยู่(มันมีไฟแจ้งที่หน้าปัด) ขับๆ แล้วดับเครื่องเลย(เขาถึงได้แซวว่าไปขับวนหมู่บ้านให้มันเผาเสร็จก่อน) เลยทำให้น้ำมันเชื้อเพลิง(ดีเซล) ไปผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง
ถ้าจากกรณีนี้ ถ้าผมมี Mazda Diesel ผมจะเช็คระดับน้ำมันเครื่อง บ่อยๆ แล้วถ้าจำเป็น ก็จะเปลี่ยนถ่านน้ำมันเครื่องที่รอบเร็วขึ้น ป้องกันทั้งน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ(เพราะน้ำมันดีเซลมาผสม) และ ป้องกันน้ำดันเพราะน้ำมันเครื่องเกิน ได้ด้วย
อีกอย่าง รัฐไทยไม่ได้บังคับว่าต้องมี DPF ครับ และถ้าท่านรู้ จะรู้ว่า กระบะที่ผลิตไทยหลายๆ รุ่นที่ส่งออกต่างประเทศ อย่างโซนยุโรป เขากำหนดมาตรฐาน Euro สูงกว่าที่ขายในไทยซะอีก
สุดท้าย ผมไม่เคยบอกว่า DPF ไม่ดี ผมกลับมองว่ามันดีซะอีก เพราะ ลดปริมาณการปล่อยก๊าซไอเสีย สังเกตุได้ว่าควันจะไม่เหม็นเท่ารถที่ไม่มี DPF ผมชอบ อยากให้มีทุกคัน ซะด้วยซ้ำ ผมถึงบอกว่าไม่ควรจะไปตัดมันทิ้งนั้นละ