ถ้าใช้ในเมืองไม่เยอะขับความเร็วนิ่งๆบ่อยๆ Cx3 2.0 ก้ไม่กินเท่าไหร่ครับแต่แน่นอนมันกินกว่าcity
อยู่แล้ว ถ้าชอบcx3 ก้เอาครับวัดใจเรื่องศูนย์หน่อย ใช้4-6 ปีขายเหมาะครับถ้ายาวกว่านั้นเอา city hb
จะสบายใจกว่า แต่ขับทางไกลบ่อย cx3 ก้มั่นใจกว่าcity พอสมควรครับ เรื่องสนิมของ city hb ต้องรอดู
เพราะส่วนที่เกิดสนิมขึ้นในรุ่นsedan นั้นเป็นส่วนที่จะไม่เหมือนกันในรุ่น hb ถ้าแก้ก้คงไม่มี ถ้าทำแย่ก้อาจจะ
ไปเกิดกับจุดอื่นๆอีกครับ
จริงๆ ชอบ CX-3 นะครับภายในดูดี ไปลองนั่งลองขับของเพื่อนมาก็ขับสนุก แต่ติดตรงที่กลัวศูนย์นี่แหละครับ ที่บ้านไม่เคยใช้ค่ายนี้เลยด้วย
เคยคิดไว้เหมือนกันมวยคู่นี้
cx3 809000 มีส่วนลดแล้วห่างจากcityนิดเดียว
ข้อดี แรงกว่า ขับสนุกกว่า ทรงสวยกว่า
ข้อเสีย น้ำมันเกีร์ที่เปลี่ยนไม่ได้ ศูนย์บริการผีมากค่าแรงแพงสุดๆ อะไหล่แพง กินน้ำมันกว่า1.0tเยอะอยู่ ที่HLMเทสได้14km/l
city rs 739000
ข้อดี ศูนย์hondaพึ่งพาได้ อัตราเร่งดีใช้ได้ แต่cvtไม่ได้ขับสนุกแบบ6at รถกว้างกว่าcx3เยอะมาก ประหยัดน้ำมัน ที่HLMเทสได้19km/l
ข้อเสีย สนิมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขึ้นชิ้นส่วนอื่นไม่เท่าไหร่ ขึ้นตัวถังเมื่อไหร่งานงอกแน่ๆ
ใช่เลยครับ ผมนี่คิดแล้วปวดหัวเลยมาถามความเห็นดูครับ
ถ้ายังไม่จำเป็นต้องรีบซื้อรถทันที ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้ใจเย็นๆ แล้วเก็บเงินดาวน์ให้เยอะขึ้นกว่าเดิมก่อนครับ
ถ้าเงินดาวน์เยอะขึ้น หากคุณต้องการซื้อ Corolla Cross ยอดผ่อนต่อเดือนก็แทบไม่ต่างจาก CX3 หรือ City HB RS เท่าไหร่หรอกครับ
อีกอย่างนึง Toyota ยังไงก็ไว้ใจได้มากที่สุดอยู่แล้วครับ ถ้าหากคุณต้องการใช้รถ 7 ปี หรือ 10 ปี ขึ้นไป
เรื่องเก็บเงินดาวน์เพิ่มนี่ก็น่าคิดครับ เพราะว่าตอนนี้ผมก็ไม่ได้รีบใช้รถเท่าไหร่ครับมีรถแฟนอยู่อีกคันด้วย คิดว่าจะใช้ยาวๆเหมือนกันครับ
ในมาตราฐานของ HLM ทดสอบใช้ในชีวิตจริง ลบสัก 4 เหลือ มาสด้า 10 โลลิตร
city 15 โลลิตร ชีวิตที่ขับๆ ติดๆ ไฟแดงสุขุมวิทนะ
ตัวผมเองใช้ 116i ได้ 12 โลลิตร
ศูนย์บริการ แนวคิดการให้บริการ toyota honda isuzu คือเป็นมิตรต่อผู้ใช้เสมอ
ได้ครับนาย เช็คให้ครับผม
ค่ายอื่นเหมือนมีเป้าของศูนย์บริการ หาช่องพลัสเซล เก่งจริงๆ ส่วนตัวไม่ชอบระบบคูปองฟรี่ค่าแรง
ที่พร้อมยกเลิกหากลูกค้าผิดตามข้อตกลงเงื่อนไข ชีวิตจริงลูกค้ามันจิปาถะ เข้าตรงบ้างไม่ตรงบ้าง
รถวิ่งตลอดบ้าง
เรื่องสนิม ผมไม่ซีเรียสนะ ยังไงไม่ก็ไม่หักใน 3 ปี หรือ 5 ปี แน่ แต่ผลของมันอยู่ที่ราคาขายต่อ
ถ้าซื้อสด แนะนำ 4 ปี ก็เปลี่ยนรถ ก็ต้องฮอนด้า
เรื่องอัตราสื้นเปลืองนี่ตอนแรกผมก็ไม่ได้กังวลมากแต่พอเข้าไปดูในกรุ๊ป CX-3 เจอบางท่านขับรถติดได้ 3.3-3.5 กม/ลิตร ไม่ทราบว่าเขาขับแถวไหนนะครับ ครับผมเลยคิดหนักเลย แต่จริงๆ ผมไม่ค่อยได้เข้าเมืองไปเจอรถติดแบบนี่เท่าไหร่ แต่ก็อยากได้รถที่ประหยัดๆครับ
รถคันแรก วิ่งทางไกลยาวๆลพบุรี-ปทุม
เหลือแค่ CX3 กับ City HB
มันเลือกยากเหมือนกันนะ ใช้ดีคนละแบบ
ส่วนตัวขอเลือก CX3 ครับ
ถนนพหลฯ ปทุม-ลพบุรี มันเหมาะกับช่วงล่าง CX3 มากกว่า
ถนนที่ไม่เรียบ รอยปะเยอะ เดี๋ยวคอนกรีต เดี๋ยวราดยางแบบลอนคลื่น
CX3 ช่วงล่างที่สูงกว่าหน่อยๆและพื้นฐานที่ดีกว่า
น่าจะให้การตอบสนองหรือให้สมรรถนะด้านการขับขี่ที่ดีกว่า City HB ในเส้นทางที่ใช้งานแบบนี้ครับ
เลือกยากจริงๆครับ อาจจะต้องไปลองขับ City HB ก่อน
8 แสน กับ ล้าน มันก็แทบไม่ต่าง ค่างวด ต่างกันหลักพัน
ไม่รู้สิ ถ้าเป็นผม ชอบ cross ก็ไป cross
วิ่งทางไกล รถใหญ่ได้เปรียบกว่า ตำแหน่งที่นั่ง ความกว้างขวาง ความผ่อนคลาย รวมถึง ช่วงล่างครับ
CX3 ถึงช่วงล่างจะดี แต่แอบห่วงเรื่องค่า service การดูแลหากรถเกิดปัญหา แล้วก็ภายในไม่ได้กว้างกว่า City เลยครับ (จำได้ว่า City อึดอัดน้อยกว่าด้วย)
..........
สมัยหัดขับรถ 25 ปีที่แล้ว พ่อโยนกุญแจรถคันละล้านที่เพิ่งถอยมาให้ บอกให้เอาไปใช้ ก็ใช้มาตลอดสิบกว่าปี ก็ไม่มีอะไร ถ้าจะมีข้อเสียก็คือ มันจะถูกเราจับเป็น reference วันนึง พอไปขับรถเล็กกว่า class ต่ำกว่า จะเกิดอาการรับไม่ได้ ใช้รถราคาถูกกว่าคันเดิมไม่ได้ อะไรแบบนี้
จริงครับ ปกติที่บ้านใช้ PJS กับ Jazz GE อยู่ พอไปลอง CX-3 ก็รู้สึกแน่ๆ เหมือนกันครับ
แต่ผมเป็นคนขับเลยไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ จะกังวลก็ู้โดยสารด้านหลังนี่แหละครับ