ผู้เขียน หัวข้อ: ขอแบ่งปัน สิ่งที่น่าสนใจ กับการขับรถเอง ในญี่ปุ่น  (อ่าน 2189 ครั้ง)

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 401
    • อีเมล์
ขออนุญาต disclosure ก่อนครับ
1. ผมเป็นคนไทย ที่มองเห็นทั้งข้อดี ข้อเสียการจราจรในไทย
2. ผมไม่คิดจะดูแคลนพฤติกรรม การขับรถในไทย แต่อยากจะแบ่งปัน ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางครั้งนี้ของผมในญี่ปุ่น
3. ยังมีอีกหลายท่านสมาชิกที่มีประสบการณ์ และชั่วโมงบินมากกว่าผม ผมสื่อสารในฐานะคนที่อยากจะเล่า อาจมีข้อมูลผิดพลาด ต้องขออภัยด้วยครับ

นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่ผมเลือกที่จะขับรถเองที่นี่
Kyushu มีสถานที่ค่อนข้างไกลกันมาก ผมชอบ trekking และชมธรรมชาติ จึงคิดว่าการขับรถเอง น่าจะตอบโจทย์

เนื่องจากมาช่วง Golden week จึงไม่มีรถให้เลือกมากนัก
เดิมตั้งใจจะจอง Elgrand แต่หมด จึงได้ Prius mark IV มาแทน ซึ่งสองครั้งก่อนหน้าคือ Mark III

ลึก ๆ ลุ้น Mark V แต่ email ไปทาง Budgets แจ้งว่าหมด
ตัวรถเอง ผมว่าการขับขี่ทำได้ดี ซับแรงสะเทือนดี วัสดีดีกว่าที่คิด แต่อัตราเร่งออกไปทางช้ามาก ปัจจุบัน ผมใช้ XC60 กับ V40 ผมยังไม่ค่อยพอใจกับอัตราเร่ง แต่พอใจกับ อัตราสิ้นเปลืองมาก ตก 24 km/l ที้ความเร็วเฉลี่ย 80-90 km/l

จุดที่น่าชื่นชมในการขับรถที่นี่
1.  การให้ทาง
     การขอทางเมื่อรวมเลน หรือเลี้ยวเข้าสถานที่ต่าง แทบจะ 100% ที่ผมจะได้ในทันทีที่ขอ บางครั้งการให้ทางรถแค่คันเดียว มันทำให้การจราจรทั้งหมดมันคลี่คลายได้

2. การขอบคุณ
     มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ที่เราให้ทาง หยุดรถให้คนอื่นไป แล้วเขาแสดงให้เรารู้ว่า ขอบคุณนะ แม้จะทำตามมารยาท แต่มันเหมือน pay it forward คือการส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนอื่น ผมมองว่าบางอย่างที่เราไม่จำเป็นต้องทำ แต่เราเลือกที่จะทำ มันคือความใส่ใจ และมันความได้รับคำขอบคุณ

3. คนเดินเท้าคือคนสำคัญ
     เรื่องนี้ทุกคนทราบกับดีอยู่แล้ว ผมข้ามถนนไปทำงานที่ไทยทุกวัน เดือนนึงมีไม่ถึง 1% ที่จอดให้ข้าม บางทีต้องรอ 2-3 นาทีเที่ยง ๆ ขนาดทางข้าม รถยังจอดทับ บางทีบีบแตร ผมเคยโดยชนเบา ๆ ที่ขาครั้งนึง โดยไม่ได้รับคำขอโทษ ทำหน้าไม่สนโลก ผมเห็นแล้วปล่อยผ่าน ปลงครับ

4. ไม่ทำอะไรที่เป็นจุดเกรงใจ
     บ่อยครั้งที่การให้ทาง จะมีจุดเกรงใจ จะไปก่อนหรือหลังดี สำหรับผมเอง ชอบถอย และรอ เพราะขี้เกรงใจ และหลายครั้งที่มักถูกเอาเปรียบ บางครั้งถูกบีบแตร่ เพราะให้ทางนานไป ที่ญี่ปุ่นเขาคิดทุกอย่าง เพื่อลดจุดเกรงใจ ผมชอบ เพราะมันลดความอืดอัดในความรู้สึกของผมเอง ให้ระบบทำงาน

5. ถนนที่ออกแบบเพื่อลดอุบัติเหตุ
     ผมเข้าใจว่าประเทศนี้พัฒนาแล้ว การลงทุนเพื่อลดอุบัติเหตุสำคัญ เพราะประชากรทุกคนมีค่า เขาเลือกทำอุโมง ผ่านเขา, เลือกแยกถนนสวนเลนออกจากกัน บางครั้งขึ้นทางนึง ลงอีกทางนึก, เลือกมีไฟแดงทุก 50-100 เมตรเพื่อให้ทุกจุดมีทางม้าลายที่คนเดินถนนจะข้าม เมื่อไฟข้ามเป็นสีเขียว

จุดที่น่าสนใจ
1. Kyushu คนไม่เคร่งครัดเท่า Kanto, Hokkaido มี 20% ที่ผมเห็นผิดกฎ เช่น จอดข้างทาง, ผ่าไฟแดง, ขับมุด ๆ ปาด ๆ มีความคล้ายเมืองไทยที่สุด
2. คนญี่ปุ่นออกตัวรถเร็ว เลี้ยวแรง อันนี้ผมงงมานานแล้ว แต่เข้าใจว่า เวลาเขาเป็นเรื่องสำคัญ และเขาคงอืดอัดที่อาจทำให้คนที่ขับตามมาเดือนร้อน
3. ทางด่วนขับเร็วเกินจริงมาก มี 130-140 แน่ ๆ
4. Big bikes ที่นี่ดูเป็นมาเฟีย อยากจอดตรงไหนก็จอด รถติดก็ไม่สน
5. คนที่นี่ไม่ใข้แตรเลย แต่ที่ไทยผมเองก็ไม่ใช้ ทน ๆ เอา

ผทเองชอบการจราจรของที่นี่ มันทำให้ผมคิดเสมอว่าทำไม ประเทศเขาถึงพัฒนาแล้ว มันเริ่มจากจิตสำนึกที่ถูกปลูกฟังตั้งแต่เด็ก, infrastructure ที่ดี, กฎหมายที่เข้มงวด, เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า, ภาษีที่จัดเก็บและถูกบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ผมกลับมามองบ้านที่ผมอยู่ มันดูอย่างที่จะเริ่ม ผมไม่ใช่คนเก่ง แต่ก็มอวไม่ออกว่าทำอย่างไร เราถึงจะพัฒนาไปถึงจึดนั้นไป ในระยะเวลาที่ผมยังมีโอกาสตะได้เห็นด้วยตาตัวเอง

ผมเองก็ไม่ใช้คนที่ทำถามกฎจราจรได้ดี แต่ผมก็พยายามจะเป็นผู้ใช้ถนนให้ดี ให้ได้มากที่สุด บ่อยครั้งผมจะหงุดหงิด กับทุกอย่างบนท้องถนน ผมเองก็คงเป็นทำผิดอยู่บ้าง บางครั้งก็รู้ตัว แต่มีอีกหลายครั้งที้ผมอาจไม่รู้ตัว ระบบจะทำอย่างไร ที่จะทำให้การไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ได้รู้ว่ามันต้องรู้ และมันต้องทำเพราะทุกคนอยู่ในสังคมที่กำลังพัฒนานี้ด้วยกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2023, 04:59:32 โดย Odrecranon »

ออฟไลน์ Altima

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,149
การขอทางคืออะไรครับ ผมไม่เข้าใจ

จะเลี้ยวเข้าตรงไหนอะไรก็ตามคุณต้องรอรถให้ผ่านหมดก่อนแล้วถ้าปลอดภัยก็ค่อยไป

ถ้าหมายถึงแบบนั้นแล้วบอกว่าคนญี่ปุ่นหยุดให้คุณไป อันนี้อันตรายกว่าเยอะครับ

ออฟไลน์ Isomars

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 127
การขอทางคืออะไรครับ ผมไม่เข้าใจ

จะเลี้ยวเข้าตรงไหนอะไรก็ตามคุณต้องรอรถให้ผ่านหมดก่อนแล้วถ้าปลอดภัยก็ค่อยไป

ถ้าหมายถึงแบบนั้นแล้วบอกว่าคนญี่ปุ่นหยุดให้คุณไป อันนี้อันตรายกว่าเยอะครับ

เจ้าของกระทู้น่าจะหมายถึงกรณีที่การจราจรหนาแน่นหรือเปล่าครับ ถ้าแบ่งกันไป 1 เว้น 1 จะช่วยทำให้ Flow ขึ้น

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,750
ผมเคยขับแถว Kawaguchiko ชอบในความเคารพกฏของเขามาก
ก่อนไปขัเคยเห็นเรื่อง การที่คนญี่ปุ่นหยุดสนิท ที่ป้ายหยุด หยุดก่อนข้ามทางรถไฟ จนขับแล้วเกรงไปหมด

ส่วนนึงคิดว่า Speed Limit ที่จริงจัง มันทำให้คนขับรถช้าลง พอช้าลง ระยะห่างต่อคันมากขึ้น คนขับกันใจเย็นขึ้น เลยขับง่ายขึ้นเยอะ

ข้อเสียเวลาขับรถที่ ต่างประเทศคือ กลับมาขับที่ไทยแล้ว หงุดหงิดกว่าเดิม..

การขอทางคืออะไรครับ ผมไม่เข้าใจ
จะเลี้ยวเข้าตรงไหนอะไรก็ตามคุณต้องรอรถให้ผ่านหมดก่อนแล้วถ้าปลอดภัยก็ค่อยไป
ถ้าหมายถึงแบบนั้นแล้วบอกว่าคนญี่ปุ่นหยุดให้คุณไป อันนี้อันตรายกว่าเยอะครับ
น่าจะหมายถึงเวลาวิ่งมาคู่กันรถเยอะๆ การเปิดไฟเลี้ยวเพื่อจะเปลี่ยนเลน ส่วนใหญ่จะชะลอให้เราเข้า

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,645
    • อีเมล์
ขอบคุณที่มาแชร์ให้อ่านกันครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,702
ขออนุญาตแชร์ด้วย ในฐานะที่เคยขับรถที่นั่นอยู่พักนึงและสอบใบขับขี่ด้วย

1. ครูสอนขับรถที่ญี่ปุ่น สอนให้ชิดซ้ายมาก ๆ เวลาเลี้ยวซ้าย โดยให้เหตุผลว่า
    ป้องกันมอเตอร์ไซค์มุด   อ่า... ที่นั่นมุดกันด้วยเหรอ
2. ที่ทางแยกตามถนนเล็ก ๆ มีป้ายหยุด หรือมีทาสีที่พื้นให้หยุด (止まれ)
    อันนี้คือต้องหยุดจริง ๆ สัก 1-2 วิ ก่อนเคลื่อนตัวรถออก ไม่งั้นถูกปรับได้
    และตอนสอบครั้งแรก ผมไม่ผ่านเพราะข้อนี้  ชีวิตจริง เวลาเราหยุดตามแยก
    แบบนี้ รถข้างหลังเราก็ไม่ไล่เรานะ
3. ก่อนขับรถข้ามทางรถไฟ ต้องหยุดสนิท มองซ้าย-ขวา 1-2 วินาที 
    ทุกคัน ย้ำว่าทุกคัน ที่ขับตาม ๆ กันมา ต้องหยุดทุกคัน ทีละคัน จริง ๆ
    เคยเห็นทางข้ามรถไฟบางที่ มีตำรวจไปซุ่มดูและเรียกรถที่ไหล  ๆ ข้ามทางรถไฟ
    แบบไม่หยุดด้วย
4. ทางด่วนใน Tokyo แอบน่ากลัวเหมือนกัน เพราะทางลงจากทางด่วน
    มีทั้งลงทางเลนซ้าย และบางทางลงอยู่ทางเลนขวา
5. สัญชาตญานในการระวังภัยจากรถที่ขับผิดกฏจราจรของคนญี่ปุ่นต่ำมาก ๆ
    อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีคนที่ขับรถผิดกฏจราจรก็ไ้ด้   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    อยากขอเตือนคนไทยมาก ๆ เวลาจะเลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดงที่ไม่มีไฟเขียวให้เลี้ยวขวา
    ซึ่งส่วนมากจะไม่มี   วิธีการคือ เราจะเลี้ยวขวาได้ก็ต่อเมื่อรถฝั่งตรงข้ามที่ได้ไฟเขียว
    วิ่งตรงข้ามทางแยกจนหมดจริง ๆ แล้วถึงเลี้ยวขวา  และต่อให้รถฝั่งตรงข้ามที่วิ่งตรง
    ข้ามแยกมีรถจำนวนมากแบบวิ่งตามกันไม่หยุด  เราจะมีโอกาสได้เลี้ยวขวาเพียง
    จังหวะเดียวคือ เมื่อรถฝั่งตรงข้ามได้ไฟเหลืองก่อนไฟแดง รถผั่งตรงข้ามจะหยุด
    แล้วฝั่งเราจะมีเวลาเพียง 2-3 วิ ที่จะเลี้ยวขวา ก่อนรถอีกฝั่งเปลี่ยนมาได้ไฟเขียว
    กรณีนี้ ต้องรอ คือ รอ นะครับ เพราะบางครั้งเราเห็นว่ารถฝั่งตรงข้ามที่ได้ไฟเขียว
    วิ่งตรงข้ามแยก มีจังหวะรถทิ้งระยะห่าง  ถ้าเป็นบ้านเรา เราอาจตัดสินใจเลี้ยวขวาตัด
    ออกไปเลย  แต่ที่ญี่ปุ่น คนที่ขับรถฝั่งตรงข้ามเรา เขาจะไม่คาดคิดว่าจะมีรถเลี้ยวขวาตัดเขา
    เขาจึงไม่ได้เตรียมการที่จะเบรค เรียกว่า no idea เลยดีกว่า จึงมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก
    และไม่ต้องห่วงด้วยว่า ถ้าเราอยู่หัวแถวรอเลี้ยวขวา แล้วเรารออยู่นั่น ไม่ไปสักที จะโดน
    รถคันหลังไล่  เท่าที่ขับมา ไม่เคยถูกไล่เลยครับ ทุกคนรู้ว่าต้องรอ คือ รอ ครับ

ที่เคยอยู่ที่นั่นมา มันทำให้ความคิดผมเปลี่ยนจากเดิมเคยคิดว่าการที่สังคมใด ๆ จะดีหรือไม่ดี
ผมเคยโทษแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้บริหาร ผู้ปกครอง  แต่พอได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น มันทำให้เห็นอีกมุมว่า
แท้จริงแล้ว สังคมจะดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ทุก ๆ คนในสังคมนั่นแหละ   เพราะด้วยความคิดแบบเดิม
ของผม ถ้าคนในสังคมเกเร พร้อมที่จะแหกกฏทุกครั้งที่ผู้รักษากฏ เผลอ หรืออย่างที่เคยเล่นตลกกันว่า

A: ทำไมถึงฝ่าไฟแดง
B: ผมไม่เห็นครับ
A: ไม่เห็นไฟแดงเนี่ยนะ
B : ป่าวคับ ไม่เห็นว่ามีตำรวจ

เราจะต้องมีกำลังพลเท่าไหร่ที่ไปไล่จับกุมคนกระทำผิด ต่อให้ระดมเจ้าหน้าที่ทำอย่างนั้นได้จริง
มันจะมีต้นทุนทางสังคมอีกเท่าไหร่ที่จะต้องจ้างเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2023, 09:17:58 โดย Symphonic »

ออฟไลน์ หมูป่า

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 72
จริงๆกฎจราจรคล้ายกันหมดล่ะครับ ในเรื่องป้ายหยุด ในยุครุ่นพ่อ รุ่นปู่ พวกเราช่วงปี 2500 เค้าก็หยุดจริงๆ มีคำที่ใช้สอนกันว่า "หยุด ดู ไป" ในยุคนั้นทำกันมาแบบนี้ หรือจะเป็นทางรถไฟที่มีป้ายหยุด ก็คือต้องหยุดสนิท ลดกระจกลงเพื่อฟังเสียงรถไฟ หากทางรถไฟว่างถึงจะออกตัวขับผ่านไป

ที่เราละเลยกันในยุค 40 ปีหลังก็คือตำรวจจราจร ไม่ได้จับออกใบสั่งในกรณีแบบนี้เลยทำให้ผู้ใช้รถไม่หยุด เพราะตอนสอบใบขับขี่ที่กรมขนส่ง ถ้าใครไม่หยุดที่ป้ายหยุดเค้าก็ให้สอบตกนะครับ

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,187
เคยเช่ารถขับที่ฮอกไกโดครับ จะบอกว่าการขับรถที่นั่นง่ายมากๆ และขับแล้วก็แฮปปี้สุดๆ


ข้อดีที่นึกออกคือ
- ที่ญี่ปุ่นแทบไม่เจอมอไซด์เลย ซาเล้งรถเข็นก็ไม่มีมันทำให้ขับรถง่าย
- รถที่จอดเกะกะข้างทางก็ไม่มี เวลาจะจอดรถต้องไปที่จอดรถเท่านั้น หรือจะจอดข้างทางได้ก็นอกเมืองไปเลย ซึ่งรถที่วิ่งก็จะน้อยลงมาก
- เคารพกฏจราจรสุดๆ แต่เวลาขับบนทางด่วน แรกๆผมก็ขับ 100 ตามกฏ แต่รถเจ้าถิ่นขับกัน 120 สุดท้ายผมก็เลย 120 ตาม ก็ไม่มีปัญหาอะไร ที่สำคัญบนทางด่วนที่นั่นรถที่แซงขวาแล้วจะกลับเข้าซ้ายทุกคัน
- คนญี่ปุ่นขี้เกรงใจ เวลาเปิดไฟเลี้ยวจะขอเปลี่ยนเลนก็จะได้เสมอ มันจึงทำให้เราไม่ค่อยอยากเปลี่ยนเลนพร่ำเพรื่อ
- เวลาที่เราขับตามรถที่ขับช้าบนถนนเลนสวนเค้าจะหลบซ้ายให้เราแซง เวลาที่ผมขับช้าเพราะไม่แน่ใจเส้นทางแล้วถูกรถที่เร็วกว่าตามท้ายผมก็เลยทำแบบเดียวกัน รถที่แซงไปก็จะเปิดไฟฉุกเฉินกระพริบ 2 ครั้งเลยทำให้ผมเข้าใจว่าเป็นคำขอบคุณเลยเอามาใช้ที่เมืองไทยด้วยเลย แต่เคยมีครั้งนึงที่ตามหลังมนุษย์ป้าขับรถ K-car ช้ามาก ช้่าแบบไม่สนโลกแล้วก็ไม่หลบให้ด้วยกว่าจะแซงได้ต้องขับตามอยู่นานเลย
- เวลาที่เราไม่แน่ใจว่าแยกไฟแดงข้างหน้าต้องเลี้ยวซ้ายหรือไปตรง ให้ขับเลนซ้ายได้เลย เพราะที่นั่นไม่มี "เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด" อยู่เลนซ้ายสุดคือเลี้ยวซ้ายหรือไปตรงก็ได้ คันหลังไม่กดดันคุณแน่นอนถ้าคุณอยู่เลนซ้ายแล้วจะไปตรง
- ที่สี่แยกถ้าเราจะเลี้ยวซ้ายแล้วได้สัญญาณไฟเขียวต้องดูด้วยว่าถนนทางซ้ายที่เราจะเลี้ยวไปมีคนจะข้ามหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องให้คนข้ามถนนก่อน เพราะคนข้ามจะได้ไฟเขียวพร้อมๆกับเราเลย และที่นั่นคนเดินเท้าสำคัญกว่ารถ
- ผมจะเกร็งเสมอเวลาที่ต้องเป็นคันหน้าสุดที่ไฟแดง โดยเฉพาะถ้าต้องเลี้ยวขวาหรือกลับรถ ขอเป็นคันถัดไปดีกว่า
- รถ super car ที่นั่นขับเร็ว ออกตัวอย่างไวแทบทุกคัน (แล้วก็เบรคอย่างไวตรงแยกข้างหน้า) น่าจะเก็บกด 5555

ออฟไลน์ S6

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,134
ทางด่วนระหว่างเมืองขับช้าๆกัน แต่จุ่ๆ เอ๊ะทำไมขับกันเร็วขึ้นเหยียบกัน 120 เราก็ขับตามเลย พอซักพักก็ช้าลง 80 เเละก็เร็วเป็นช่วงๆ
อ๋อ หลบกล้องจับความเร็วกันนี่เอง ฮั่นแน่
ในตัวเมืองช่วงเย็นรถติด นี่ก็มีความกดดันแปลกๆ ขับกันช้าๆนะ แต่พอโดนปาดหน่อย พี่แกหน้าฉุนเฉียวใส่ทันที

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,253
ในตัวเมืองช่วงเย็นรถติด นี่ก็มีความกดดันแปลกๆ ขับกันช้าๆนะ แต่พอโดนปาดหน่อย พี่แกหน้าฉุนเฉียวใส่ทันที

ก็ปกติเขาไม่ปาด
จะเปลี่ยนเลน ก็ต้องเปิดไฟเลี้ยวบอกคันข้างหลังก่อน
เดี๋ยวเขาก็จะให้ทางเอง
ไม่ใช่เบียดออกไปก่อนแล้วค่อยเปิดไฟเลี้ยวครับ

ออฟไลน์ S6

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,134
ในตัวเมืองช่วงเย็นรถติด นี่ก็มีความกดดันแปลกๆ ขับกันช้าๆนะ แต่พอโดนปาดหน่อย พี่แกหน้าฉุนเฉียวใส่ทันที

ก็ปกติเขาไม่ปาด
จะเปลี่ยนเลน ก็ต้องเปิดไฟเลี้ยวบอกคันข้างหลังก่อน
เดี๋ยวเขาก็จะให้ทางเอง
ไม่ใช่เบียดออกไปก่อนแล้วค่อยเปิดไฟเลี้ยวครับ

ใช้คำผิด รถเราออกมาจากซอยเข้าถนนหลัก รถทางตรงเขาขับมาช้าๆ เราจะออก เขารีบบีบแตร และทำหน้าฉุนเฉียวใส่

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,750
ในตัวเมืองช่วงเย็นรถติด นี่ก็มีความกดดันแปลกๆ ขับกันช้าๆนะ แต่พอโดนปาดหน่อย พี่แกหน้าฉุนเฉียวใส่ทันที

ก็ปกติเขาไม่ปาด
จะเปลี่ยนเลน ก็ต้องเปิดไฟเลี้ยวบอกคันข้างหลังก่อน
เดี๋ยวเขาก็จะให้ทางเอง
ไม่ใช่เบียดออกไปก่อนแล้วค่อยเปิดไฟเลี้ยวครับ

ใช้คำผิด รถเราออกมาจากซอยเข้าถนนหลัก รถทางตรงเขาขับมาช้าๆ เราจะออก เขารีบบีบแตร และทำหน้าฉุนเฉียวใส่

ผมไม่ได้อยู่เหตุการนะ แต่ถ้าเดา
คือมันอาจไป ขวางเขาหน่ะครับ เข้าอาจไม่ได้มาเร็ว แต่การที่เราออกไป แล้วเขาต้องเหยียบเบรค/ ยกคันเร่ง บางทีมันไม่โอเคครับ เอาให้เซพ คงต้องรอให้ว่างแล้วออก แล้วทำความเร็วนิดนึง
ย้ำอีกอีกทีว่าผมเดาถึงเหตุที่เขาไม่พอใจนะครับ

อย่างที่ไทย เวลาผมขับ ถ้ามีรถจะออกจากซอย แล้วเรากำลังไหลๆมา ถ้ายกคันเร่งหรือเตะเบรดเบาๆชะลอลงหน่อยได้ก็จะทำให้
แต่ถ้ากำลังขับมาแล้วต้องเหยียบเบรค เพื่อชลอให้คุณท่านเขาออก ส่วนใหญ่ผมจะไม่ทำ
กลุ่มที่ระคาญมากๆคือ บางคันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเข้าหน้าเรา ทั้งๆที่หลังเราไม่มีรถว่างประมาณ ครี่งสนามบอล.. แล้วพอคุณพรี่เขาออกมา ก็วิ่งช้าเหลือเกิน...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2023, 13:06:41 โดย Qwerty »

ออฟไลน์ CookiE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 875
ผมว่าทุกที่ ทุกประเทศ มีทั้งคนขับรถมีมารยาทและไร้มารยาทครับ

ตอนไปขับที่ญี่ปุ่นครั้งแรก เตรียมตัวไปอย่างดีว่าคนเขาขับกันมีมารยาท

พอไปขับจริงเท่านั้นละ ไอจุดที่ไม่มีกล้องนะ คนญี่ปุ่นขับแย่กว่าคนไทยอีก 🤣