ผู้เขียน หัวข้อ: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96  (อ่าน 8120 ครั้ง)

ออฟไลน์ frongkittikun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
    • อีเมล์
พอดีติดตามเว็บนี่มานานพอสมควร + กำลังจะได้รถเลยถือโอกาสสมัครสมาชิก รุ่นใหม่ไฟแรงซะเลยครับ
ได้อ่านกระทู้เก่าๆมาเยอะครับ เกี่ยวกับ bmw vs benz เข้าเรื่องเลยครับ
ผมอายุ 18 แต่อยู่ ม5 ผมสะสมรองเท้า converse usa ตั้งแต่สมัยราคาโคตรถูกมี 3 คู่ และขายไปได้เงินมาเกือบแสน +กับเงินเก็บตลอด 18ปี และของขวัญชิ้นสุดท้ายจากป้าของผม
ทำให้ผมมีเงินประมาณ 2.5แสน - เกือบ 3แสน และอาศัยอยู่เชียงราย แต่มาเรียนเชียงใหม่
ผมมีเงินแค่นี้ ไม่ได้บวกเพิ่มแล้ว อยากทราบว่าจะเอามาใช้ไปเรียน คันไหนดีครับ
เขาว่ากันว่า e220 ซ่อมถูกกว่า e34  บางท่านก็ว่า e34 จุกจิก สำหรับผมที่ไม่มีประสบการณ์
แต่ได้ลองนั่งทั้งสองรุ่นแล้ว e220 นั่งสบายห้องกว้าง e34 นั้นขับมันมากครับ ส่วนน้ำมัน รถติดเห็น e220 7-9 โล/L e34 6สูบหนักกว่าแน่แต่รุ่นที่ผมจะเอาดันวาง m52 ซึ่งวางใน e36 เบากว่า m50 เครื่องเดิมถึง20kg และมีรอบต้นที่ดีกว่า จึงทำให้ค่าน้ำมัน พอๆกันหรือ สูสีกัน สำหรับความชอบ ผมชอบทั้งสอง ตัดสินใจไม่ได้สักที นี้ก็จะได้รถแล้ว ช่วยแนะนำผมทีครับ เอาตัวไหนมาใช้ดีครับ คงใช้ไปนานๆ เพราะทางบ้านผมอยากได้อะไรต้องเก็บเงินเอง แต่รถที่ผมจะซื้อนั้นแน่นอนครับ ผมหารถที่จบแล้วได้แน่นอน  ช่วยแนะนำทีครับ
หรือ add line ช่วยปนะนำให้ความรู้เพิ่มเติมผมได้นัครับ
ID line : frongkittikun
ที่ปมเลือกรถเก่าเพราะผมชอบ ครับ ความชอบล้วนๆ ส่วนค่าบำรุงรักษานั้นผมพอจะหาได้ ขอบคุณครับ
ได้โปรด อย่าให้ผมขับรถใหม่เลย

ออฟไลน์ J_Serie5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 04:50:11 »
จากประสบการณ์ตรง ผมมีE34 2 คัน คันนึงเครื่องเดิม M50 และอีกคัน E34 เครื่อง 1jzturbo แนะนำได้ดังนี้ครับ

1. ถ้าอยากจบง่าย หาซื้อ E220 หรือ E34 ที่วาง 1jz หรือ 2jz มาแล้วจะจบง่ายที่สุดครับ ได้มาก็เปลี่ยนอะไหล่และน้ำมันในระบบหล่อลื่นทั้งคัน
2. ทั้ง E34 และ E220 เครื่องเดิมอย่าไปยุ่งเลยครับ ด้วยอายุเครื่องที่มากแล้ว เหมือนคนแก่สุขภาพไม่ดีน่ะครับ ซ่อมจุกจิก ต่อให้เปลี่ยนอะไหล่มือ1 ก็ยังจุกจิกตามอายุของมัน แต่ถ้าไม่เชื่อ และมีเงินมาก ก็เล่นเครื่องเดิมครับ แล้วจะรู้จักคำว่า เลือดไหลออกจากตัวไม่หยุดเป็นยังไง (เงินไหลออกจากกระเป๋าไม่หยุด)
3. มีเงินเหลือแค่ไหนในการซ่อมบำรุง? ถ้าเงินมีน้อยใช้เดือนชนเดือน ไม่มีเวลาไปอยู่อู่ ก็อย่าหาภาระมาเพิ่มครับ แต่ถ้าเงินและเวลาไม่ใช่ปัญหา ก็เล่นได้ครับ


และถ้าใจไม่รัก และไม่ว่างขนาดทำเก็บเกือบทั้งคันแบบผม อย่าเล่นเลยครับ (เสี่ยงกินข้าวลิง ถ้าซ่อมไม่ถึง)
List รายละเอียดที่ทำ
1 เปลี่ยนซีลฝาวาล์ว
2 ซ่อม turbo 2 รอบ รอบนึงใช้ได้เกือบ2ปี อาการเดิมประจำ turbo แกนเริ่มสึก คลอน ทำให้ควันไหลตอนรอบเดินเบา และกำลังเครื่องตก
3 ใบ turbo ห่อ ต้องเปลี่ยนใบ
4 gas lpg เจอปัญหาเรื่องหม้อต้มแก๊สพังเร็ว ใช้ kme gold , kme gold black ทั้งหมดรวม 3 ลูก แต่ละลูกอยู่ได้ไม่เกิน 50,000 กิโล แรงดันตก เปลี่ยนชุดซ่อมแล้วก็ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ ตอนนี้เลยมาจบที่ magic3 gold
5 เดินท่อไอเสียใหม่
6 สั่งทำหม้อน้ำอลูมิเนียมใหม่ทั้งใบ ระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ และทำหน้าที่ oil cooler ในตัว + พัดลมดูดหลังหม้อน้ำ 2 ตัว 
7 หัวเทียน Denso iridium IK24 ( เบอร์ 8 )
8 แปลงคอยจุดระเบิดมาใช้ของ K20A แก้ปัญหาเรื่องความร้อน หลังทำวิ่งดีกว่าเดิมมาก โดนไปเกือบหมื่น
9 กรองเปลือย+air duct (ก่อนหน้านี้ใช้แผ่นอะคลีลิคสั่งทำ hand made ตอนนี้พังไปแล้ว กำลังจะสั่งทำใหม่จากแผ่นอลูมิเนียม)
10 intercooler ขนาดกลาง ยาวเกือบเต็มหน้ากันชน
11 วาล์วน้ำแต่ง 78.5 C
12 ไดสตาร์ทรื้อเปลี่ยนไส้ในใหม่
13 ไดชาร์จของใหม่มือ 1
14 เปลี่ยนสายคันเร่งใหม่
15 เดินสาย ground ใหม่
16 ติดกล่องไฟสำรอง
17 แบตเตอรี่แห้ง 75 Ah
18 เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ etc.
19 เปลี่ยนเครื่องเสียงใหม่ ลำโพงหน้า sub ตีตู้ etc.
20 เปลี่ยนอุปกรณ์ gas lpg ใหม่หมด
21 เบ้าโช้ค หน้าหลัง
22 จานเบรคหน้าหลัง
23 ผ้าเบรคหน้าหลัง ทน800c
24 โช้คอัพ custom
25 สปริงแต่ง
26 adapter ล้อ หน้าหลัง
27 ขยายซุ้มล้อ ตีโป่งนิดๆ
28 ทำเพลาใหม่ทั้งเส้น
29 ทำระบบแอร์ใหม่หมดยกชุดมือ1
30 ค้ำโช้คบน
31 ยาง goodyear assymetric2
32 ตั้งวาล์ว
33 เปลี่ยนท่อน้ำมันใหม่หมด
34 เปลี่ยนกรองเบนซิน
35 เปลี่ยนปั๊มติ๊กน้ำมัน
36 เปลี่ยนฟิล์มทั้งคัน
37 ติดเกจวัดบูส และวัดอุณหภูมิน้ำ
38 ติดตัววัด volt
39 ปั๊มน้ำ
40 สายพานหน้าเครื่อง
41 สายพานไทม์มิ่ง
และอื่นๆอีกมากมาย เพราะผมกะทำเก็บทั้งคันไว้ขับสนุกๆ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเบิกของมือ1 ซึ่งน้อยคนที่จะทำเก็บแบบนี้ ส่วนใหญ่เจอเสียจุกจิกไม่กี่รายการก็ยอมแพ้ขายทิ้งแล้วครับ

ข้อดี
แรง ประหยัด ซ่อมถูก สมรรถนะดีมาก 
ข้อเสีย
เสียเวลาที่ต้องไปทำรถอยู่กับอู่มากๆ เปลืองเงินมากเพราะทำเก็บหลายอย่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 23, 2016, 04:54:06 โดย J_Serie5 »

ออฟไลน์ luxifer

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 366
    • mcshop (Mc Jeans official online store)
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 07:09:25 »
จากประสบการณ์ตรง ผมมีE34 2 คัน คันนึงเครื่องเดิม M50 และอีกคัน E34 เครื่อง 1jzturbo แนะนำได้ดังนี้ครับ

1. ถ้าอยากจบง่าย หาซื้อ E220 หรือ E34 ที่วาง 1jz หรือ 2jz มาแล้วจะจบง่ายที่สุดครับ ได้มาก็เปลี่ยนอะไหล่และน้ำมันในระบบหล่อลื่นทั้งคัน
2. ทั้ง E34 และ E220 เครื่องเดิมอย่าไปยุ่งเลยครับ ด้วยอายุเครื่องที่มากแล้ว เหมือนคนแก่สุขภาพไม่ดีน่ะครับ ซ่อมจุกจิก ต่อให้เปลี่ยนอะไหล่มือ1 ก็ยังจุกจิกตามอายุของมัน แต่ถ้าไม่เชื่อ และมีเงินมาก ก็เล่นเครื่องเดิมครับ แล้วจะรู้จักคำว่า เลือดไหลออกจากตัวไม่หยุดเป็นยังไง (เงินไหลออกจากกระเป๋าไม่หยุด)
3. มีเงินเหลือแค่ไหนในการซ่อมบำรุง? ถ้าเงินมีน้อยใช้เดือนชนเดือน ไม่มีเวลาไปอยู่อู่ ก็อย่าหาภาระมาเพิ่มครับ แต่ถ้าเงินและเวลาไม่ใช่ปัญหา ก็เล่นได้ครับ


และถ้าใจไม่รัก และไม่ว่างขนาดทำเก็บเกือบทั้งคันแบบผม อย่าเล่นเลยครับ (เสี่ยงกินข้าวลิง ถ้าซ่อมไม่ถึง)
List รายละเอียดที่ทำ
1 เปลี่ยนซีลฝาวาล์ว
2 ซ่อม turbo 2 รอบ รอบนึงใช้ได้เกือบ2ปี อาการเดิมประจำ turbo แกนเริ่มสึก คลอน ทำให้ควันไหลตอนรอบเดินเบา และกำลังเครื่องตก
3 ใบ turbo ห่อ ต้องเปลี่ยนใบ
4 gas lpg เจอปัญหาเรื่องหม้อต้มแก๊สพังเร็ว ใช้ kme gold , kme gold black ทั้งหมดรวม 3 ลูก แต่ละลูกอยู่ได้ไม่เกิน 50,000 กิโล แรงดันตก เปลี่ยนชุดซ่อมแล้วก็ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ ตอนนี้เลยมาจบที่ magic3 gold
5 เดินท่อไอเสียใหม่
6 สั่งทำหม้อน้ำอลูมิเนียมใหม่ทั้งใบ ระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ และทำหน้าที่ oil cooler ในตัว + พัดลมดูดหลังหม้อน้ำ 2 ตัว 
7 หัวเทียน Denso iridium IK24 ( เบอร์ 8 )
8 แปลงคอยจุดระเบิดมาใช้ของ K20A แก้ปัญหาเรื่องความร้อน หลังทำวิ่งดีกว่าเดิมมาก โดนไปเกือบหมื่น
9 กรองเปลือย+air duct (ก่อนหน้านี้ใช้แผ่นอะคลีลิคสั่งทำ hand made ตอนนี้พังไปแล้ว กำลังจะสั่งทำใหม่จากแผ่นอลูมิเนียม)
10 intercooler ขนาดกลาง ยาวเกือบเต็มหน้ากันชน
11 วาล์วน้ำแต่ง 78.5 C
12 ไดสตาร์ทรื้อเปลี่ยนไส้ในใหม่
13 ไดชาร์จของใหม่มือ 1
14 เปลี่ยนสายคันเร่งใหม่
15 เดินสาย ground ใหม่
16 ติดกล่องไฟสำรอง
17 แบตเตอรี่แห้ง 75 Ah
18 เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ etc.
19 เปลี่ยนเครื่องเสียงใหม่ ลำโพงหน้า sub ตีตู้ etc.
20 เปลี่ยนอุปกรณ์ gas lpg ใหม่หมด
21 เบ้าโช้ค หน้าหลัง
22 จานเบรคหน้าหลัง
23 ผ้าเบรคหน้าหลัง ทน800c
24 โช้คอัพ custom
25 สปริงแต่ง
26 adapter ล้อ หน้าหลัง
27 ขยายซุ้มล้อ ตีโป่งนิดๆ
28 ทำเพลาใหม่ทั้งเส้น
29 ทำระบบแอร์ใหม่หมดยกชุดมือ1
30 ค้ำโช้คบน
31 ยาง goodyear assymetric2
32 ตั้งวาล์ว
33 เปลี่ยนท่อน้ำมันใหม่หมด
34 เปลี่ยนกรองเบนซิน
35 เปลี่ยนปั๊มติ๊กน้ำมัน
36 เปลี่ยนฟิล์มทั้งคัน
37 ติดเกจวัดบูส และวัดอุณหภูมิน้ำ
38 ติดตัววัด volt
39 ปั๊มน้ำ
40 สายพานหน้าเครื่อง
41 สายพานไทม์มิ่ง
และอื่นๆอีกมากมาย เพราะผมกะทำเก็บทั้งคันไว้ขับสนุกๆ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเบิกของมือ1 ซึ่งน้อยคนที่จะทำเก็บแบบนี้ ส่วนใหญ่เจอเสียจุกจิกไม่กี่รายการก็ยอมแพ้ขายทิ้งแล้วครับ

ข้อดี
แรง ประหยัด ซ่อมถูก สมรรถนะดีมาก 
ข้อเสีย
เสียเวลาที่ต้องไปทำรถอยู่กับอู่มากๆ เปลืองเงินมากเพราะทำเก็บหลายอย่าง
เห็นลิสรายการแล้วเหนื่อยแทนเลยครับ แต่ก็อยากเห็นหน้าตารถจขคห เช่นกันน่าจะสวยมากรบกวนโชว์รูปให้ดูหน่อยครับ
Everyday Lifestyle

ออฟไลน์ TRcdi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 670
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 07:55:12 »
ที่บ้านเคยมีทั้ง E280 w124  และ 525i e34
รักทั้ง 2 คันครับ
e34    ใช้ 16 ปี
w124 ใช้ 18 ปี

ที่ใช้นาน ก็เพราะมันดี รักมาก ตัดใจขายยาก  :-*

ความดีงามคนละแบบเลย อยู่ที่ชอบแบบไหน
แค่ลองขับก็จะรู้ใจตัวเองทันที

แต่ในความคิดผมถ้าใช้งานทั่วไป ซ่อมจบไม่ลำบาก
w124 จะมีภาษีดีกว่า นั่งสบายกว่า หรูนานกว่า
แต่ e34 ก็ไม่ได้ลำบากอะไร และขับมันส์กว่า

แต่อย่างที่คุณ J_series5 บอก
ยังไงรถเก่า ก็ต้องมีจุกจิก  ....
ถ้าพร้อมที่จะซื้อรถมาเป็นครู (วิชาซ่อมรถ)
เป็นเพื่อน พร้อมลำบากไปด้วยกัน (กินข้าวลิง) 
ก็จัดได้ครับ อิอิ รถมันมีสเน่ห์ในแบบของมัน

แต่ถ้าอยากได้คู่ขาที่ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ไม่ทรยศ
ก็อยากแนะว่าหา vios , march มือสองใหม่ๆ มาใช้

เพราะผมผ่านช่วงนั้นมาแล้ว ซ่อมรถๆๆๆๆ
ไปยืนดูช่างซ่อมรถๆๆๆๆ ร้อน ยุงกัด (แต่สนุก)
ทำเสร็จ ขับออกมาดับอีก  อ่าว ซ่อมรถๆๆๆๆ
วนลูบอยู่หลายปี

ขับด้วยความตื่นเต้น ..ว่ามันจะดับกลางทางมั้ย 55
ถ้าให้ย้อนกลับไปทำแบบนั้น ผมไม่เอาละ
เรื่องเงินไม่เท่าไหร่ แต่หมดเวลาไปเยอะ ยิ่งวัยเรียน
จะทำให้เสียสมาธิได้ เพราะคิดถึงแต่เรื่องซ่อมรถ
แต่งรถ

ไม่ได้เจตนาจะขู่ให้ถอยนะครับ 
แชร์ประสบการณ์กันเฉยๆ   ;D

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,060
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 08:34:15 »
124 จบง่ายกว่าเยอะ แถมยังทน-ถึก กว่า 34 พอควร ... ยิ่งถ้า 34 คันที่มองวางเครื่องไปแล้วด้วย ยิ่งต้องมาลุ้นว่าระบบสมบูรณ์ขนาดไหน อะไรโดนแปลงไปบ้าง (ถึงใช้งานไม่มีผล แต่อาจมีผลกับการหาอะไหล่)

เครื่องตองหนึ่งของ 124 ดูแลง่ายกว่า M50/M52 .. ชุดอะไหล่ช่วงล่าง 124 ยกทั้งชุดถูกกว่า 34 พอควร แถมทำเสร็จใช้ต่อได้อีกยาวๆ

สำหรับการเป็นรถคันแรก 124 น่าคบกว่า เหมาะเป็น "ครู" มากกว่าครับ

ปล. ผมแฟนบีเอ็มนะ 2 คันนี้ผมเลือกใช้เองอาจเป็น 34 แต่ถ้าเจอ 124 สวยๆ คงคิดหนัก
ปล2. คหสต. ฐานความรู้ในเน็ต 124 แน่นกว่า 34 หาข้อมูล/คำแนะนำดีๆได้ง่ายกว่า (ลองส่อง benzowner.net เทียบกับ bmwsociety หรือ e34thailand ดูครับ)

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,814
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 09:19:57 »
W124 ผมใช้ตั้งแต่สมัย มหาลัย จนทำงานหลายปีเรย
ทนครับ  เบาะหนังยังเป๊ะอยุ่เรย  ก่อนขายไปก้อเปลี่ยนเครื่อง
กับmotor ปัดน้ำฝนไหม้

ผมใช้ยุโรปค่อนข้างนานครับ เพราะรุ้สึกรักผุกพัน
ส่วนรถญี่ปุ่นเปลี่ยนบ่อย ตามกระแส

ผมว่ารถญี่ปุ่นมือไหม่สมัยนี้น่าเล่นกว่ายุโรปมือ2นะ

พวกคัมรีแอคคอต หากงบน้อยก่อพวกชิตี้วีออสมาสด้า2
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 09:42:25 »
W124 ผมว่าซ่อมง่ายกว่าครับ ยิ่งได้เครื่อง M104 มานี่ซ่อมง่ายมากๆเลยครับ มองตัว E280 ไว้เลยครับ ต่ำกว่านี้ค่อนข้างอืดมากครับ

แต่เอาจริงๆผมว่าเอาเงินไปดาวน์รถญี่ปุ่นมือหนึ่งดีกว่าครับ รถ 20 ปีแล้ว จุกจิกมากๆครับ ซื้อมาแล้วซ่อมไปซ่อมมาเผลอๆจ่ายเท่าค่ารถเลยนะครับ

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,339
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 10:06:36 »
ที่บ้านผมขาย E34 ไปได้หลายปีแล้ว  แต่บ้านเพื่อนผมยังใช้อยู่ (และยังซ่อมอยู่)  บอกเลยครับ ถ้าใจไม่รัก กระเป๋าตังไม่หนัก แนะนำให้หลีกหนีไกลๆครับ
การขับขี่ดีแน่ แต่ค่าใช้จ่ายนี่เหนื่อยครับ

ที่บ้านผมขายไป เพราะหลังๆมันเริ่มจะตายกลางทางบ่อยขึ้น เลยไปหาคันใหม่ที่ทนทานไว้ใจได้มากกว่า (จบที่พี่โต) :-\

W124 ผมว่าน่าเล่นกว่า  ซับซ้อนน้อยกว่าครับ

ออฟไลน์ bmmac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 319
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 10:31:38 »
124 คือ คำตอบสุดท้าย โช๊คคู่ละ2,300 เอาเดิมๆ ก่อน รถนิ่งแล้วค่อยขยับอัพเกรดอุปกรณ์

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,492
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 10:38:03 »
ไม่เข้าใจ  ทำไมแต่ละท่านเน้นให้หนี สะระพัดเหตุผล  เช่น มันเก่า  ซ่อมบาน ฯลฯ

  สำหรับผม  ถ้าไม่ใช่การแต่ง  อะไหล่มี  ซ่อมได้  มันไม่ลำบากนัก

   รถผมอะไหล่ยากกว่า  ความละเอียดอ่อนสูงกว่า  รถที่คุณจะเลือกเสียอีกอีก  ยังเฉย ๆ เลย  ไม่เคยกินข้าวลิง  ค่าซ่อม  ถูกกว่ารถใหม่ ๆ บางคันอีกบาน...
   

    9000cse  ปี 94  อายุ  22 ปี  ค่าดูแลปกติมากถ่ายน้ำมันเครื่อง เกียร์  ห้าหมื่นโล  ดูชุดลูกรอกสายพาน ชำรุกก็เปลี่ยน   คันนี้  ซื้อมาแสนสอง  ครบ 5 ปีแล้ว  ใช้งานไป สามแสนโล  หมดค่าดูแล ราว หกหมื่น  (เจ้าของแถมเกียร์มาให้ลูกหนึ่ง พอเกียร์วีด ก็จัดการเปลี่ยน แค่นั้น)
    93 ss  ปีนี้ครบ 3 ปี พอดี ใช้มาหกหมื่นโล ช่วงล่างเดิม ๆทั้งหมด เครื่องเกียร์  แค่ถ่ายน้ำมัน ตามระยะ เท่านั้น มีจุกจิกเรื่อง accessories  ซึ่งค่อนข้างละเอียดอ่อน  รำคาญบ้าง  ค่าดูแลส่วนนี้ อยู่ราว ๆสองสามหมื่น เฉลี่ยปีละหมื่นเอง
    95   เพิ่งได้ปีเศษ  ยังไม่เสียอะไรมาก  ยกเว้นทำตามความอยาก  รวม ๆนี่หมดไปสองสามหมื่นเหมือนกัน ยังไม่ได้ซ่อมอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน กับการใช้งาน สองหมื่นโล....

    สรุป  ผมได้ใช้รถที่หลายคนอยากลอง แต่ไม่กล้า...

    คุณก็อาจจะเป็นเช่นผมได้  ถ้ามีฝีมือด้านช่างหน่อย  ปีสองปี  รู้หมดแล้ว  ให้กำลังใจครับ....

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,944
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 10:51:55 »
ไม่มีข้อมุลทางเทคนิคมาแนะนำครับ

แต่เชียร์ W124 เพราะผมว่า ถ้าชอบขับเดิมๆ เอาไปแต่งเป็น E500 Limited ได้ สวยเรียบๆแต่ไม่ธรรมดา

2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ P_191

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
    • อีเมล์
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 11:04:52 »
เป็นผมจะเลือก 124 แต่ขอเป็นe280 ปีใหม่ๆหน่อย
E34 สภาพสวยๆ น่าจะหายากกว่า

แต่ทั้งนี้ ถ้าจะมีไว้ขับใช้งานคันเดียวผมว่าเลือกรถยี่ปุ่นใหม่ๆดีกว่า
เข้าใจว่าความชอบมันบังคับไม่ได้
แต่ความชอบมันรอได้ครับ รอเมื่อเราพร้อม

ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,540
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 11:26:03 »
เคยใช้ทั้งคู่ e34 ได้มือสองมาปีเดียวซ่อมไปสองแสนกว่าแล้วก็ตอดเรื่อยๆไม่มีวันจบ บางทีขับไม่ถึงบ้านก็ต้องวนกลับไปแก้บ่อย มีให้ซ่อมทั้งคันตั้งแต่ล้อยันหลังคา ถ้ารถไม่ได้เก็บมาอยากจะบอกว่ารถอายุยี่สิบปีมีให้แก้แน่ๆทุกเดือนแล้วก็สองแสนไม่พอแน่นอน แก่เกินแกงแล้วสำหรับตะกูล m50 ยกเว้น 1jz gte 1uz พวกนี้อะยังพอทน  ถ้าเดิมๆหละไปไหนไกลๆลำบากจิตตกเปล่าเอาค่าซ่อม เอาเวลาซ่อมเข้าอู่ไปเที่ยวใช้ชีวิตให้คุ้มดีกว่า ถอยวีออสมือสองสภาพสดๆมายังดีซะกว่า 41 รายการที่คุณเห็นอะยังน้อยไปครับ สำหรับผมต้องบอกว่าที่ไม่ได้เปลี่ยนคือตัวถังเท่านั้น ประตูตกแผงบวม ยังต้องเปลี่ยนเลย หรือของที่ไม่น่ามีปัญหาก็มีได้เช่น ทำช่วงล่างช่างขันตึงมือไปนิดเกลียวรูดแล้วต้องเสียเวลาวิ่งไปต๊าปเกลียวใหม่อีกหลายจุดเลยเพราะรถมันเริ่มผุกร่อนแล้ว นึกแล้วสยองถ้าย้อนได้เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า ซ่อมแพงกว่ารถอีก ทุกวันนี้มีคนยกให้ฟรีผมก็ไม่เอาอะภาระเปล่าๆ
ส่วน w124 ที่บ้านถอยมาตั้งแต่ป้ายแดงซ่อมไปรวมๆก็คงซีเซกเมนต์คันนึงละ จอดไว้เพราะขายไม่ลง ขึ้นชื่อว่าอึดทึกทนมากรุ่นนึงรวมๆทนกว่า e34 มากโขเลยทีเดียว อยากบอกว่าเลิกมองทั้งคู่เถอะครับ ยกเว้นเอาไว้เป็นรถคันที่สองหรือสำรองไว้จอดดูเล่น

ออฟไลน์ frongkittikun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
    • อีเมล์
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 11:44:17 »
ขอบคุณพี่ๆมากครับที่ช่วยแนะนำผมนะครับ
พอดีผมมีคนรู้จักครับ ประมาณมาสนิทกับพี่ชายของช่างเบ้น ทำอู่อยู่ที่ หาดใหญ่ สนามบินมั้งครับ ขออนุญาติแจ้งชื่อครับ พี่เสือ หลายคนขับเบ้น อยู่ หาดใหญ่น่าจะรู้จักกันดี ในการหารถผมแจ้งพี่เขาไป ว่าเดียวจัดการให้ รถbenz ซ่อมจบซ่อมถึงใช้ไปยาวๆ ส่วน e34
คันนี้ของพี่ในขับ ทำใหญ่ทั้งคัน ของแต่งเล็กๆ เช่นเบาะ M หรือ ล้อ M ซึ่งหายากทำใหม่ทั้งคัน พี่ในกลุ่มมีแต่คนเชียร์ครับ และเชียงใหม่ที่ผมอยู่ มีคนใช้ 525i หรือ e34 ที่ผมไปลองขับมา เขาบอกว่า สุดยอดจริงๆ ผมแกล้งถ้ามซื้อเขาก็ไม่ยอมขาย ครับ  แอบเสียใจ + กับเพื่อนแม่ผมขับ e34 ด้วยเช่นกัน และลุงผมก็ขับ w124 ทำให้ผมชังเลใจว่าจะเอาแบบไหน ลุงผมรถเยอะมากครับแต่ ขี้งก
ใครอยากเห็น e34 หาใน ขายดี ได้ครับ สีบอร์นเงิน ครับ ลงไว้ 3แสน

ออฟไลน์ J_Serie5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 12:06:52 »
จากประสบการณ์ตรง ผมมีE34 2 คัน คันนึงเครื่องเดิม M50 และอีกคัน E34 เครื่อง 1jzturbo แนะนำได้ดังนี้ครับ

1. ถ้าอยากจบง่าย หาซื้อ E220 หรือ E34 ที่วาง 1jz หรือ 2jz มาแล้วจะจบง่ายที่สุดครับ ได้มาก็เปลี่ยนอะไหล่และน้ำมันในระบบหล่อลื่นทั้งคัน
2. ทั้ง E34 และ E220 เครื่องเดิมอย่าไปยุ่งเลยครับ ด้วยอายุเครื่องที่มากแล้ว เหมือนคนแก่สุขภาพไม่ดีน่ะครับ ซ่อมจุกจิก ต่อให้เปลี่ยนอะไหล่มือ1 ก็ยังจุกจิกตามอายุของมัน แต่ถ้าไม่เชื่อ และมีเงินมาก ก็เล่นเครื่องเดิมครับ แล้วจะรู้จักคำว่า เลือดไหลออกจากตัวไม่หยุดเป็นยังไง (เงินไหลออกจากกระเป๋าไม่หยุด)
3. มีเงินเหลือแค่ไหนในการซ่อมบำรุง? ถ้าเงินมีน้อยใช้เดือนชนเดือน ไม่มีเวลาไปอยู่อู่ ก็อย่าหาภาระมาเพิ่มครับ แต่ถ้าเงินและเวลาไม่ใช่ปัญหา ก็เล่นได้ครับ


และถ้าใจไม่รัก และไม่ว่างขนาดทำเก็บเกือบทั้งคันแบบผม อย่าเล่นเลยครับ (เสี่ยงกินข้าวลิง ถ้าซ่อมไม่ถึง)
List รายละเอียดที่ทำ
1 เปลี่ยนซีลฝาวาล์ว
2 ซ่อม turbo 2 รอบ รอบนึงใช้ได้เกือบ2ปี อาการเดิมประจำ turbo แกนเริ่มสึก คลอน ทำให้ควันไหลตอนรอบเดินเบา และกำลังเครื่องตก
3 ใบ turbo ห่อ ต้องเปลี่ยนใบ
4 gas lpg เจอปัญหาเรื่องหม้อต้มแก๊สพังเร็ว ใช้ kme gold , kme gold black ทั้งหมดรวม 3 ลูก แต่ละลูกอยู่ได้ไม่เกิน 50,000 กิโล แรงดันตก เปลี่ยนชุดซ่อมแล้วก็ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ ตอนนี้เลยมาจบที่ magic3 gold
5 เดินท่อไอเสียใหม่
6 สั่งทำหม้อน้ำอลูมิเนียมใหม่ทั้งใบ ระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ และทำหน้าที่ oil cooler ในตัว + พัดลมดูดหลังหม้อน้ำ 2 ตัว 
7 หัวเทียน Denso iridium IK24 ( เบอร์ 8 )
8 แปลงคอยจุดระเบิดมาใช้ของ K20A แก้ปัญหาเรื่องความร้อน หลังทำวิ่งดีกว่าเดิมมาก โดนไปเกือบหมื่น
9 กรองเปลือย+air duct (ก่อนหน้านี้ใช้แผ่นอะคลีลิคสั่งทำ hand made ตอนนี้พังไปแล้ว กำลังจะสั่งทำใหม่จากแผ่นอลูมิเนียม)
10 intercooler ขนาดกลาง ยาวเกือบเต็มหน้ากันชน
11 วาล์วน้ำแต่ง 78.5 C
12 ไดสตาร์ทรื้อเปลี่ยนไส้ในใหม่
13 ไดชาร์จของใหม่มือ 1
14 เปลี่ยนสายคันเร่งใหม่
15 เดินสาย ground ใหม่
16 ติดกล่องไฟสำรอง
17 แบตเตอรี่แห้ง 75 Ah
18 เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ etc.
19 เปลี่ยนเครื่องเสียงใหม่ ลำโพงหน้า sub ตีตู้ etc.
20 เปลี่ยนอุปกรณ์ gas lpg ใหม่หมด
21 เบ้าโช้ค หน้าหลัง
22 จานเบรคหน้าหลัง
23 ผ้าเบรคหน้าหลัง ทน800c
24 โช้คอัพ custom
25 สปริงแต่ง
26 adapter ล้อ หน้าหลัง
27 ขยายซุ้มล้อ ตีโป่งนิดๆ
28 ทำเพลาใหม่ทั้งเส้น
29 ทำระบบแอร์ใหม่หมดยกชุดมือ1
30 ค้ำโช้คบน
31 ยาง goodyear assymetric2
32 ตั้งวาล์ว
33 เปลี่ยนท่อน้ำมันใหม่หมด
34 เปลี่ยนกรองเบนซิน
35 เปลี่ยนปั๊มติ๊กน้ำมัน
36 เปลี่ยนฟิล์มทั้งคัน
37 ติดเกจวัดบูส และวัดอุณหภูมิน้ำ
38 ติดตัววัด volt
39 ปั๊มน้ำ
40 สายพานหน้าเครื่อง
41 สายพานไทม์มิ่ง
และอื่นๆอีกมากมาย เพราะผมกะทำเก็บทั้งคันไว้ขับสนุกๆ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเบิกของมือ1 ซึ่งน้อยคนที่จะทำเก็บแบบนี้ ส่วนใหญ่เจอเสียจุกจิกไม่กี่รายการก็ยอมแพ้ขายทิ้งแล้วครับ

ข้อดี
แรง ประหยัด ซ่อมถูก สมรรถนะดีมาก 
ข้อเสีย
เสียเวลาที่ต้องไปทำรถอยู่กับอู่มากๆ เปลืองเงินมากเพราะทำเก็บหลายอย่าง
เห็นลิสรายการแล้วเหนื่อยแทนเลยครับ แต่ก็อยากเห็นหน้าตารถจขคห เช่นกันน่าจะสวยมากรบกวนโชว์รูปให้ดูหน่อยครับ

ผมไม่ขอลงรูปนะครับ แค่มาแชร์ประสบการณ์ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิก hlm ครับ

คุณ  sukhontha ครับ ที่ผมไม่แนะนำเพราะผมรู้ไงครับ ว่ารถเก่าขนาดนี้ มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง และน้อยคนที่จะซ่อมแบบจัดเต็มก่อนที่อะไหล่ส่วนต่างๆมันจะเสียแบบที่คุณและผมทำ  การที่ต้องประสบเหตุรถเสียกินข้าวลิงข้างทาง มันไม่ใช่เรื่องดี ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนมันอันตรายมากๆครับ ทั้งเสียงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือโดนปล้นแล้วฆ่า สมัยนี้ไว้ใจยากครับ ถ้าคนรอบข้างอยู่ในสายตำรวจหรือสายทหาร ลองสอบถามดูนะครับ ว่าคดีต่างๆที่ไม่เป็นข่าวมันมีมากแค่ไหน ด้วยความหวังดีครับ

สำหรับ E34 ดูแนวทางการซ่อมตาม link นี้สำหรับเครื่องเดิม M50 ถ้ารับได้กับการที่ต้องทุ่มทั้งเงินและเวลาในการเปลี่ยนทุกอย่าง "มากกว่าที่เห็นใน link นี้" ก็เล่นได้ครับ
http://netisak.lpru.ac.th/bmw_e34_diy/diy_menulist.php

แล้วก็ในส่วนของ " ข้อดี แรง ประหยัด ซ่อมถูก สมรรถนะดีมาก " ผมหมายถึงเครื่อง 1jzturbo นะครับ ไม่ได้หมายถึงเครื่อง M50 และที่ซ่อมถูกเพราะผมรู้จักร้านอะไหล่แถววัดโสม+ร้านที่ขายอะไหล่ซ่อมบำรุงเครื่อง toyota แท้ เลยได้ราคาพิเศษครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 23, 2016, 12:15:01 โดย J_Serie5 »

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,949
    • อีเมล์
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 13:05:09 »
      ถ้าอยู่กรุงเทพ อู่ซ่อมเบนซ์กับบีเอ็มมีเยอะนะ  แต่ที่เชียงใหม่อู่ซ่อมเบนซ์กับบีเอ็มมีกี่แห่งล่ะที่ฝีมือดีหน่อยนะ

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 13:11:58 »
เฉพาะ E34 นะครับ (ในรูป)
ผมใช้ประจำวันใช้วิ่งใกล้ๆ

ของผมตัว 1990ของที่บ้าน เอามาทำใหม่ เครื่องเดิมไม่มีโนส ลง M50 โนสเกียร์ jatco 5 สปีด
เดินไฟครบๆ แต่ก็เล่นกล่องควบคุมไป 3 กล่องละ หน้าคอนแทกต์ไม่ค่อยดี
รายการทำสีและเปลี่ยนอะไหล่เปลี่ยนไปเยอะครับ ใน 2-3 ปีร่วมร้อยรายการ
เกินครึ่งเบิกใหม่
อย่างว่าครับรถมันเก่าแล้ว ก็เสียได้เรื่อยๆ นี่เข้าปีที่ 4 หลังจากบูรณะ
อาการก็นิ่งๆละครับ ล่าสุด มอเตอร์เซนทรัลล๊อคเสียอีก 2 ตัว

ช่วงล่างนิ่งดีครับ ขับอืดๆ กินน้ำมันในเมืองรถติดมากๆ ราว 4-5 กิโลลิตร
สภาพด้านในถึงเก็บมาแล้ว แต่กลิ่นฉนวนที่บุภายใน และพื้นรถเริ่มเหม็นครับ

เรื่องเครื่องก็แนะนำครับว่าอย่าเล่น M50 เหมือนผม เพราะถึงเป็นการลงใหม่
ก็ไม่ได้การันตีว่าทันจะไม่มีปัญหา

ซ่อมไปเยอะครับไม่คุ้มเลย สรุป
ไม่ค่อยเชียร์ให้เล่นครับถ้าเงินที่จะใช้มาลงกับรถยังไม่นิ่งครับ
: )

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,875
  • เส้นขอบฟ้า
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 13:30:15 »
สองคันนี้ถ้าเครื่องเดิมๆแนะนำ W124 ครับ แต่ถ้าวางเครื่องญี่ปุ่นก็คันไหนก็ได้ที่ชอบๆ

แต่ใจจริงอยากให้น้องใช้รถญี่ปุ่นก่อนนะงบ 3 แสนได้หลายคันเลยนะ

ออนไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,700
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 14:09:30 »
ด้วยช่วงวัยของน้อง

ผู้ใหญ่ส่วนมากคงไม่สนับสนุนความคิดนี้เท่าไหร่ครับ

แต่ถ้ามองว่าตัวเองก็เคยอยู่ ณ จุดนั้น

พี่คงเลือก W124 มากกว่า

เพราะอะไหล่คือจุดสำคัญมาก

ถ้าไม่แพง ประหยัดและซ่อมจบ มันจะทำให้รถน่าใช้ขึ้น

ต้องทำใจอย่าง รถเก่าประมาณนี้จากที่พี่เคยซ่อมมาก มันมีปัญหาแน่ๆ ครับ

แต่มันคือ ครู ที่ให้ ประสบการณ์ชั้นดีเลย

ถ้าใจรักก็จัดเลยครับ

อีกยี่ห้อนึงที่น่าสนใจ คือ Citroen นะครับ

รถขับหน้าที่มี Aerodynamic ดีมาก เครื่อง 4 สูบบ้านๆ แต่วิ่งดีเพราะทรงลู่ลม ช่วงล่างที่ลดแรงเสียดทาน

เป็นตัวเลือกที่ถ้าคิดจะซ่อมอยู่แล้วน่าสนใจ

เพราะอะไหล่ยี่ห้อมันดูเหมือนยาก แต่กลุ่มเขาแข็งมาก อู่ช่างเฉพาะถ้ารู้จักหาก็สบายครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,060
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 14:38:21 »
ด้วยช่วงวัยของน้อง

ผู้ใหญ่ส่วนมากคงไม่สนับสนุนความคิดนี้เท่าไหร่ครับ

แต่ถ้ามองว่าตัวเองก็เคยอยู่ ณ จุดนั้น

พี่คงเลือก W124 มากกว่า

เพราะอะไหล่คือจุดสำคัญมาก

ถ้าไม่แพง ประหยัดและซ่อมจบ มันจะทำให้รถน่าใช้ขึ้น

ต้องทำใจอย่าง รถเก่าประมาณนี้จากที่พี่เคยซ่อมมาก มันมีปัญหาแน่ๆ ครับ

แต่มันคือ ครู ที่ให้ ประสบการณ์ชั้นดีเลย

ถ้าใจรักก็จัดเลยครับ

อีกยี่ห้อนึงที่น่าสนใจ คือ Citroen นะครับ

รถขับหน้าที่มี Aerodynamic ดีมาก เครื่อง 4 สูบบ้านๆ แต่วิ่งดีเพราะทรงลู่ลม ช่วงล่างที่ลดแรงเสียดทาน

เป็นตัวเลือกที่ถ้าคิดจะซ่อมอยู่แล้วน่าสนใจ

เพราะอะไหล่ยี่ห้อมันดูเหมือนยาก แต่กลุ่มเขาแข็งมาก อู่ช่างเฉพาะถ้ารู้จักหาก็สบายครับ
รบกวนช่วยแนะนำกลุ่ม+อู่ Citroen ได้ไหมครับ ผบ. กำลังอยากได้ DS3 .. ผมยังไปไม่ถูกเรื่องอู่และอะไหล่ครับ

ออฟไลน์ Quadrifoglio Verde

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 553
  • Remember Life is Hanging in the Balance !
    • อีเมล์
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 15:03:20 »
ถ้าไม่ชอบ BM เป็นบ้าเป็นหลัง ไป W124 ดีกว่าครับ
FIAT 131 SuperBrava 1600 T/C 1981
VOLVO 850 GLT 1997
Mercedes W204 C250 CDI AVANTGARDE 2011

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,548
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 16:59:01 »
ขอแนะนำว่าอย่าเอาเงินเก็บทั้งหมดไปซื้อรถเลยครับ ซ่อมทีจะเซงเปล่าๆ จริงๆ....

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 17:35:08 »
เป็นผมผมเลือก W124 นะอะไหล่เยอะกว่า ราคาถูกกว่า แต่ผมอยู่กรุงเทพไปซื้ออะไหล่หลังวัดโสมบ่อยเลยไม่แพงแบบที่เค้าว่าๆกัน แต่ก็อย่างที่คนอื่นแนะนำ รถมันเก่าทั้งคู่แต่ละคันผ่านหลัก2แสน-3แสนกิโลมาแล้วทั้งนั้น ต้องซ่อมบ่อยๆอยู่แล้วง่ายๆทุก3เดือนเดี๋ยวมันก็ต้องมีอะไรเสียบ้างหละ
W124 E220 ที่บ้านตอนได้มาแรกๆสภาพค่อนข้างจะดีมาก แต่ก็จัดซ่อมชุดใหญ่ไปเลยในตอนแรก อันไหนดูท่าไม่ดีเปลี่ยนหมดโดนไป50,000 หลังจากนั้นใช้ยาวไปอีก2ปีไม่มีอะไรเสียเลย แต่ปัจจุบันจะหาแบบสภาพดีๆเลยคงยากแล้ว

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,381
    • อีเมล์
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2016, 18:07:03 »
ถ้าแค่ 2 ตัวเลือก เลือก 124 ครับ ใน club จับ ดมแก๊ส เห็นว่าใช้ดีครับ ควรไปให้ถึง 320 จึงจะไม่อืด แต่ งบนั้น ต้องหาครับ
แต่ถ้าเป็นผม อยากให้ขับ EK 2 ประตูจัง พวกเครื่อง B ขับสนุก ช่วงล่างดี และ ไม่แพง ใด้ปีใหม่กว่า

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,768
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2016, 10:25:19 »
W124 มันดูป๋าใช้ได้

ออนไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,700
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2016, 10:35:33 »
ด้วยช่วงวัยของน้อง

ผู้ใหญ่ส่วนมากคงไม่สนับสนุนความคิดนี้เท่าไหร่ครับ

แต่ถ้ามองว่าตัวเองก็เคยอยู่ ณ จุดนั้น

พี่คงเลือก W124 มากกว่า

เพราะอะไหล่คือจุดสำคัญมาก

ถ้าไม่แพง ประหยัดและซ่อมจบ มันจะทำให้รถน่าใช้ขึ้น

ต้องทำใจอย่าง รถเก่าประมาณนี้จากที่พี่เคยซ่อมมาก มันมีปัญหาแน่ๆ ครับ

แต่มันคือ ครู ที่ให้ ประสบการณ์ชั้นดีเลย

ถ้าใจรักก็จัดเลยครับ

อีกยี่ห้อนึงที่น่าสนใจ คือ Citroen นะครับ

รถขับหน้าที่มี Aerodynamic ดีมาก เครื่อง 4 สูบบ้านๆ แต่วิ่งดีเพราะทรงลู่ลม ช่วงล่างที่ลดแรงเสียดทาน

เป็นตัวเลือกที่ถ้าคิดจะซ่อมอยู่แล้วน่าสนใจ

เพราะอะไหล่ยี่ห้อมันดูเหมือนยาก แต่กลุ่มเขาแข็งมาก อู่ช่างเฉพาะถ้ารู้จักหาก็สบายครับ
รบกวนช่วยแนะนำกลุ่ม+อู่ Citroen ได้ไหมครับ ผบ. กำลังอยากได้ DS3 .. ผมยังไปไม่ถูกเรื่องอู่และอะไหล่ครับ

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53675.0

ถามท่านนี้เลยคับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,483
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2016, 10:42:03 »
W124 ครับ

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,566
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2016, 11:13:42 »
อายุยังน้อยแนะนำของยากเลยละกันE30 coupe คับ
หาสภาพดีๆผุน้อยๆใช้ไปอีก10-20ปีขายไม่ขาดทุน
เตรียมงบไว้สามแสนคับ รุ่นนี้มีเสน่ห คลาสสิคไม่มีวันตาย ผมใช้E36 46 สุดท้ายทำE30เก็บคับ

ออฟไลน์ h0661036

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 926
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2016, 13:10:14 »
ที่อยากได้นี่ คือเคยไปขับหรือยังครับ   อย่างที่บ้านผมมี  E220 w124  ซื้อมาช่วงปี 2538   ผมเอามาใช้หัดขับรถครั้งเดียวแล้วส่งคืนทันที

   ข้อดีคือช่วงล่าง firm มาก   แต่อย่างอื่นเช่นพวงมาลัยหมุนลำบาก  ออกตัวช้ามาก  ข้างในห้องโดยสารเริ่มมีกลิ่นอับ  กลัวกินข้าวลิงกลางทางด้วย  ทุกวันนี้ขับ vios  สบายใจกว่ามากครับ

   
     ถ้าซื้อมาใช้แล้วก็รบกวนมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ

ออฟไลน์ frongkittikun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
    • อีเมล์
Re: กำลังจะได้รถคันแรกครับ e34 bignose vs e220 w124 y96
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2016, 13:34:57 »
ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้วนะครับ e34 ครับในงบผมสามารถทำให้จบเลยได้ลุยไปเลยทีเดียว ซึ่งเบ้นครับผมว่า ผมวัยรุ่นก็ต้องมีซิ่งบ้าง ส่วนใหญ่ผมขับช้า เน้นปลอดภัย แต่ e34 รู้สึกว่า สมรรถนะจะดีกว่า สำหรับผม ผมขับมาแล้วครับ ทั้งสองคัน ส่วนe30 ชอบมากเลยครับ แต่อย่างว่าผมเก็บเงินเอง ไม่ไหวครับ เหตุผลที่ผมไม่เอารถใหม่ ก็เพราะ ผมขอบคลาสสิคมากกว่าครับ ยอมรับในการซ่อม ตอนแรกจะเอาตั้งแต่ อายุ16 ตัว celica ta22-23 แต่อย่างว่าอะไหล่แทบแทงกันเลยครับ