ผู้เขียน หัวข้อ: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่  (อ่าน 4661 ครั้ง)

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,993
    • อีเมล์
Re: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2022, 20:09:47 »
อ่านความเห็นหลายท่านแล้ว เหมือนจะมองว่ามาสด้า ล้าหลังไม่พัฒนารถไฟฟ้า หรือ EV แล้วสุดท้ายจะหายไปจากตลาด

ผมเลยนึกข้นมาได้ยี่ห้อนึงว่า ถ้ามาสด้าจะหายไปตามความเห็นหลายท่านด้านบน แล้วรถยี่ห้อ SUBURU จะไปอยู๋ตรงไหน และถ้าจะต้องหายไปจริงด้วยเหตุผลนี้ SUBARU ควรจะต้องไปก่อนมาสด้าหลายปีเลยล่ะ

ตอนนี้ SUBARU เหมือนจะมี EV แค่รุ่นเดียวที่ขายในญี่ปุ่นคือ Solterra ซึ่งมันก็คือ Bz4x นั่นแหละ ส่วนลายอัพอื่นๆ ไม่มีแม้แต่ไฮบริจเลยนะ

SUBARU อาจไม่อยู่ให้เราเห็นในอนาคตนี้แล้วใช่ไหมครับ  ;D ;D ;D


ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,146
  • I'm............................
Re: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2022, 20:57:52 »
Mazda โลกไม่น่าห่วงเลยครับ ที่ออสก็ยังได้รับการตอบรับดี
แถม บ.แม่ เค้าก็มีเครื่องไม่น้อยแล้วทั้ง BEV , PHEV , M Hybrid พัฒนาเองด้วย
ประสิทธิภาพบางแบบอาจจะยังไม่ดีแต่ก็ดีกว่าไม่เริ่ม
จะช้าก็มีแค่ Mazda 2 ที่หลายคนว่ามันเก่า แต่ปกติเดิมมันก็ขายได้ดีไม่กี่ประเทศอยู่แล้ว

ห่วงที่ MST ไทยมากกว่า ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองเดินเกมส์ช้าลงขนาดนี้
2022 แทนที่จะรีบดัน 2.0G M Hybrid ตามญี่ปุ่นมา ไม่ทำ ประมาทเทรน xEV เกินไป ตอนนี้เทรนลูกค้าเค้าหวังให้อัตราการใช้น้ำมันมันดีกว่าที่เป็นอยู่ ซัก 1-2 km/l ลูกค้าหลายกลุ่มก็พอใจที่จะซื้อจากความดีส่วนอื่นของรถแล้ว
ได้โอกาสปรับออพชั่น ก็ดันกั๊ก Stop&Go ทั้งที่หลายค่ายเริ่มเพิ่มมาให้ในราคาถูกกว่าบ้างแล้ว
แล้วตอนนี้ก็ดันมาเจอปัญหา part ขาดอีก บันเทิง

2023 นี่ขอเลยนะ 3 กับ CX-30 ควรจะมี M Hybrid และ i-Activsense ด้านหน้าเต็มระบบมาให้ครบทุกรุ่นย่อยได้แล้ว
2 ก็อย่าได้ใจดันราคาไปสูงกับสิ่งที่ได้นัก ถุงลม 6 ใบ , i-Activsense ด้านหน้าก็ควรจะมาได้แล้วในราคาไม่เกินตอนนี้ เครื่องไม่ได้เด่นอะไรแล้วนอกจากประหยัดที่คู่แข่งก็ตามทันไม่ยากแถมได้แรงกว่าไปแล้วบางรุ่น
CX-3 ถ้ายังจะขายต่อก็ไปเปิดตาราง spec Nissan Kicks มาเทียบแล้วก็ให้ของมาเพิ่มสู้เค้า
CX-5 , CX-8 , BT-50 อันนี้ตามมีตามเกิดคุมอะไรไม่ได้มากก็มาเล่นด้านโปรแทน

แล้ว 0 หนะ อย่าคิดแค่แถม MUS 5 ปีมาเป็นครั้งคราว ไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันด้วย
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 625
Re: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2022, 21:38:44 »
:) แต่ละแบรนด์เขามีกลุ่มลูกค้าของเขาเอง บางคนเช่นผม ไม่เคยพิศวาศ 1.5t+cvt เพราะมันจืดเวลาขับ
2500 cc 190 ม้า ดูสเปคก็รู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจเซทมาเพื่อเน้นม้า
อ้ออีกอย่าง แรงม้าหรือแรงโม้เนี่ย เอาไว้คุยเกทับกันเฉยๆ เพราะเวลาคิดแรงม้าคิดที่รอบสูงสุด ในชีวิตจริง ใครใช้รอบสูงสุดตลอดบ้าง
พื้นที่ใต้กราฟ หรือแรงม้าที่กระจายอยู่ระหว่างรอบต่างหากที่สำคัญ จะเห็นได้ว่าเครื่องใหญ่ Linearlity ของเครื่องนั้นดีกว่าเทอร์โบมากโข ไม่ต้องรอรอบ กดตรงไหนก็ไป
ไม่กระโจนเป็นพักๆ หรือแรงหายเป็นพักๆ ดังนั้นรถแต่ละคันต้องได้ลองขับ ถึงจะรู้บุคลิก สเปคชีทนั้นเอาไว้โม้ให้กันดูเฉยๆ  คนที่มีอายุ ผ่านรถมาหลายคัน จะคบเครื่องใหญ่
เพราะมันขับไม่เหนื่อย ไม่ต้องเค้นรอบขอรับ 8)

CVT เข้าใจได้เรื่องจืด
Linear เข้าใจว่าในเมืองอาจมีรอยตาอ
แต่พื้นที่ใต้กราฟ กับแรงม้า นี่ NA แพ้เทอร์โบว์หลุดรุ่ยเลยนะครับ
ยิ่งเทอร์โบยุคใหม่ ลูกกระจึ๋ง มีไฟฟ้า ติดบูสต์ 80-90% ตั้งแต่รอบไม่ถึง 1500
Turbo แรงบิดมาเป็น flat torque ขณะที่ NA มี peak กระจึ๋งเดียว

เทียบง่ายๆ ที่บ้านมี camry 2.5 2021 209 ม้า 250 nm 8at หนัก ตันครึ่ง
เทียบ f30 2.0t 184 ม้า 270 nm 8at ตันครึ่งเช่นกัน

กด f30 ดึงกว่า แม้ 0-100 พอๆกัน
Flat torque ทำให้ ขับ 2 คันไปสังขละ camry นั่ง 3 เล่นเกียร์ตลอด แรงไปอยู่รอบสูงหมด กองอยู่กระจึ๋งเดียว แถมเกียร์ไม่ได้ช่วยเลย อัตราทดอย่างห่าง
F30 นั่ง 4 ดึงรอบ 2500 ลากขึ้นเขาสบาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2022, 21:45:19 โดย imvile »
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ rtong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,182
    • อีเมล์
Re: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2022, 23:34:23 »
  ไม่ต้องกลัว คิดว่าแบรนด์รถญี่ปุ่น ไม่หายไปเหมือน Kodak หรอก  แต่มันจะค่อยๆดปลี่ยน ส่วนตัวยังมองว่าถึงกระแสรถ EV จะมาแรง แต่เรื้องความทนทานก็เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหลายแบรนด์ต้องรอการพิสูจน์
  ส่วน Mazda subaru  Suzuki และแม้แต่ Isuzu เอง ปัจจุบัน Toyota ก็ถือหุ้นอยู่  เชื่อว่าอย่างน้อยๆรัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องช่วยเหลือค่ายรถเพราะมันคืออุสาหกรรมหลักของประเทศ ไม่ปล่อยให้ล้มแน่ๆ
  อยากไวสุดก็คือ เอารถ EV Toyota มาแต่งหน้าทาปากขายเ
เลย

ออฟไลน์ phraeboy_mz2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,235
  • My Beloved Pal !
    • อีเมล์
Re: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2022, 01:03:56 »
จขกท ตั้งหัวข้อโพสซะเว่อวังเกินไปแถมหัวข้อก้ไม่ชัดเจน ไม่เห็นบอกว่าหายไปเพราะเหตุใด มันต้งมีเหตุผลสิว่าหายไปจากตลาดโลกเพราะอะไร อาจขยายความเพิ่มไปว่า เพราะการไม่เน้นพลังงานทางเลือกอย่าง EV ,HYBRID etc, จะทำให้ม่าสด้าหายไปมั่ย  พิมแบบนี้สาวกมาสด้ามีเคืองนะ มันจะไปหายไปได้ยังไง รถเขาก้ขายได้เรื่อยๆ ถึงมาสด้าจะไม่ใช่ค่ายที่ใหญ่โตมากนักแต่ก้ไม่ใช่ค่ายโนเนมที่พอผลิตภัณฑขายไม่ไเก้ยุบไป เดวในอนาคตเขาก้ปรับตัวเองแหละเพียงแต่เขาอินดี้ไปหน่อยเท่านั่นเอง แต่เดวกระแสรถพลังงานทางเลือกมาแรงเขาก้หาทางเข้าร่วมอยู่แล้ว

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,877
Re: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2022, 07:23:37 »
วงการอุตสาหกรรมรถยนต์​ญี่ปุ่นเขาคุยกันเองอยู่แล้วแหละครับ
ผมแค่ไม่แน่ใจว่าคอนดัคเตอร์​หรือหัวเรือใหญ่คือใคร ที่คอยพาวงโอเปร่าทั้งวงเดินไปข้าหน้า


ออฟไลน์ Sakutaro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
Re: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2022, 11:48:26 »
:) แต่ละแบรนด์เขามีกลุ่มลูกค้าของเขาเอง บางคนเช่นผม ไม่เคยพิศวาศ 1.5t+cvt เพราะมันจืดเวลาขับ
2500 cc 190 ม้า ดูสเปคก็รู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจเซทมาเพื่อเน้นม้า
อ้ออีกอย่าง แรงม้าหรือแรงโม้เนี่ย เอาไว้คุยเกทับกันเฉยๆ เพราะเวลาคิดแรงม้าคิดที่รอบสูงสุด ในชีวิตจริง ใครใช้รอบสูงสุดตลอดบ้าง
พื้นที่ใต้กราฟ หรือแรงม้าที่กระจายอยู่ระหว่างรอบต่างหากที่สำคัญ จะเห็นได้ว่าเครื่องใหญ่ Linearlity ของเครื่องนั้นดีกว่าเทอร์โบมากโข ไม่ต้องรอรอบ กดตรงไหนก็ไป
ไม่กระโจนเป็นพักๆ หรือแรงหายเป็นพักๆ ดังนั้นรถแต่ละคันต้องได้ลองขับ ถึงจะรู้บุคลิก สเปคชีทนั้นเอาไว้โม้ให้กันดูเฉยๆ  คนที่มีอายุ ผ่านรถมาหลายคัน จะคบเครื่องใหญ่
เพราะมันขับไม่เหนื่อย ไม่ต้องเค้นรอบขอรับ 8)

CVT เข้าใจได้เรื่องจืด
Linear เข้าใจว่าในเมืองอาจมีรอยตาอ
แต่พื้นที่ใต้กราฟ กับแรงม้า นี่ NA แพ้เทอร์โบว์หลุดรุ่ยเลยนะครับ
ยิ่งเทอร์โบยุคใหม่ ลูกกระจึ๋ง มีไฟฟ้า ติดบูสต์ 80-90% ตั้งแต่รอบไม่ถึง 1500
Turbo แรงบิดมาเป็น flat torque ขณะที่ NA มี peak กระจึ๋งเดียว

เทียบง่ายๆ ที่บ้านมี camry 2.5 2021 209 ม้า 250 nm 8at หนัก ตันครึ่ง
เทียบ f30 2.0t 184 ม้า 270 nm 8at ตันครึ่งเช่นกัน

กด f30 ดึงกว่า แม้ 0-100 พอๆกัน
Flat torque ทำให้ ขับ 2 คันไปสังขละ camry นั่ง 3 เล่นเกียร์ตลอด แรงไปอยู่รอบสูงหมด กองอยู่กระจึ๋งเดียว แถมเกียร์ไม่ได้ช่วยเลย อัตราทดอย่างห่าง
F30 นั่ง 4 ดึงรอบ 2500 ลากขึ้นเขาสบาย

:)ท่านยกตัวอย่างได้เห็นภาพขอรับ แต่ท่านน่าจะลืมไปว่า เครื่อง 2.0t ของท่านนั้นไม่ใช่คู่ชกกับ 2.5 na
โดยปกติแล้ว เครื่องเทอร์โบจะได้เปรียบเชิงกลมากกว่าเครื่อง Na คิดแบบบ้านๆเลยต้องคูณแฟคเตอร์ 1.7 สำหรับรถแรงสูง 1.5 สำหรับรถบ้าน
ดังนั้น f30 2.0t นั้นถ้าเปรียบ ต้องชกกับเครื่อง na3000-3400 cc ถึงจะถูกต้อง ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็เครื่อง E300 V6 ที่มีสองบล็อคคือ 3000 กับ 3400 ส่วนสเปคนั้น
ต้องไปดู จำคร่าวๆแค่ว่าเป็นเครื่อง na แต่มี flat torque  ::) ::)  8) 8)

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,236
    • อีเมล์
Re: แล้ว มาสด้า จะหายไปจากตลาดทั่วโลกหรือไม่
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2022, 16:31:38 »
ให้หายไปตลาดโลก คงไม่หายหรอกครับ

แต่จะขายได้ขนาดไม่รู้

ค่ายนี้ ทำอะไรช้ามาก ตลาดวาย ไปกับเพื่อนร่วมชาติบางยี่ห้อไปแล้วมั้ง

เทคโนโลยีสุดแสนจะธรรมดา ลากขายกันเป็นทศวรรต

ผมยังไม่เห็นอะไรใหม่ หรือ ล้ำหน้ากว่าใคร ในทุกยุคทุกสมัยเลย จากค่ายนี้เลยจริงๆ

เหมือนเอาแค่ตัวเองพอขายได้ ก็ขายเท่านั้นเลย ปรับโน่น ปรับนี่ ก็ขายต่อ