ผู้เขียน หัวข้อ: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?  (อ่าน 14921 ครั้ง)

ออฟไลน์ techin153

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 35
    • อีเมล์
ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« เมื่อ: มีนาคม 20, 2013, 22:24:22 »
ในกรณีถ้าสมมุติว่า ผมขับรถยนต์มาในฝั่งของผมอยู่ดีๆซึ่งไฟเขียวอยู่ แล้วมีมอเตอร์ไซค์ฝ่าไฟแดงออกมา แล้วทำให้ผมขับชนมอเตอร์ไซค์เต็มๆจนทำให้คนขับมอเตอร์ไซค์เสียชีวิตคาที่!  :o ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ฝ่ายไหนเป็นคนผิดครับ? (ตามปกติแล้วเขาจะให้รถใหญ่เป็นฝ่ายผิดเสมอใช่ไหมครับ ซึ่งผมว่ามันไม่ยุติธรรมเลย  >:( ทั้งๆที่ฝ่ายมอเตอร์ไซค์เป็นคนฝ่าไฟแดงออกมาเองในขณะที่ฝั่งผมเป็นไฟเขียวปกติ) แล้วถ้ารถของผมติดกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐานจะช่วยเป็นพยานอะไรได้ไหมครับ? กรณีโดนฟ้องร้องคดี และค่าเสียหายต่างๆนาๆ (เรื่องค่าเสียหายคงต้องช่วยเหลืองญาติทางผู้ตายอยู่แล้ว) และผมจะโดนเข้าคุกไหม? และถ้าผมติดคุกผมจะต้องโดนจำคุกกี่ปีครับ?  :'(
ปล.ผมไม่ได้ไปขับรถชนใครตายมานะครับ 55555 :D แค่ข้องใจเฉยๆถ้าสมมุติว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมากับตัวจริงๆ

**และกรณีที่มอเตอร์ไซค์ตัดหน้าเรากระชั้นชิดด้วยครับ** เหตุการณ์แบบนี้มักจะเจอกันบ่ายมากกกกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 20, 2013, 22:26:56 โดย techin153 »

ออฟไลน์ phurichza

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 31
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 20, 2013, 22:48:24 »
ถ้าเราไปชนเขา เราน่าจะผิดนะ ขับรถโดยประมาท แต่มอเตอร์ไซต์ก็ต้องผิดด้วยเนื่องจากขับรถฝ่าไฟแดง แต่ถ้า เขามาชนเรา เราไม่ผิด แต่มอมอเตอร์ไซต์ผิดเต็มๆ (หมายถึงมอเตอร์ไซต์วิ่งมาชนด้านข้างที่รถเรา) แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบที่ จขกท. ว่า ยังไงๆ รถเก๋งก็น่าจะไม่ถึงขนาดติดคุกนะ น่าจะลดหย่อนได้ เพราะเราทำถูกกฏจารจร แต่อาจจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียชีวิต

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,490
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 21, 2013, 02:53:57 »
ผมเคยเจอเหตุการณ์นี้แต่คนขี่มอเตอร์ไซด์ไม่ตายนะครับ แต่บาดเจ็บสาหัส ตอนนั้นตกใจมาก รถไฟเขียวฝั่งผมเลี้ยวขวา ผมเป็นคันที่ 2 มีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งมาเฉี่ยวหน้ารถผมเสียหายนิดเดียว แต่ตัวคนนั่งและคนซ้อนกระเด็นไปกระแทกฟุตบาท คนขี่เลือดอาบแล้วก็นิ่งไปเลยครับ ไม่ได้ใส่หมวกด้วย ตอนนั้นตี 3 กว่า

ผมโทรเรียก EMS 1669 ก่อนเลย จากนั้นก็โทรเรียกประกัน แป๊บเดียวรถร่วมมาแล้ว ผมก็รออยู่ที่เกิดเหตุรอประกันกับร้อยเวร จากนั้นก็โทรหาคนรู้จักให้เช็คกับตำรวจ / รพ.ให้หน่อยว่าคนเจ็บเป็นยังไงบ้าง ทางรพ.บอกว่าคนเจ็บไม่เป็นอะไรมาก ผมก็โล่งใจละ พอประกันมาผมคุยกับประกัน ประกันก็บอกว่าเอาง่ายๆ รับผิดไปดีกว่า เพื่อมนุษยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ Fail มากๆ ครับ ใครโดนแบบผมแล้วมั่นใจว่าตัวเองไม่ผิด อย่าไปทำแบบนี้นะครับ

พอตำรวจมาผมก็ให้การไปตามที่เกิดขึ้นว่ามอไซด์ฝ่าไฟแดงมาชนนะ แต่ผมไม่มีพยาน เพราะรถคันหน้าผมไปไหนแล้วก็ไม่รู้ กล้องที่แยกนั้นก็ไม่มี ผมเลยบอกตำรวจไปว่าผมรับผิด ไปถึงโรงพักจะเสียค่าปรับ 400 บาท ปรากฏว่า คนเจ็บอีกคนอยู่ ICU ผมงานเข้าเลยครับ ตอนให้คนรู้จักโทรเช็ครพ. ทางรพ. บอกมาแค่คนซ้อน เค้าก็นึกว่ามีคนเดียว ตอนนั้นตี 5 แล้ว โทรหาคนรู้จักให้เคลียร์ก็ไม่ได้แล้ว ญาติคนเจ็บที่นอนอยู่ ICU ก็มาโมโหผมอีก มาเป็นสิบคน จะเรียกเป็นแสนเลย ผมเกือบโดนรุมกระทืบกลางโรงพัก ตำรวจกันผมให้เข้าไปอีกห้องนึง

จากนั้นผมก็คิดว่างานเข้าแล้ว คุยกับประกันไป ประกันบอกเราเสียเปรียบมากที่พูดไปว่าเราไปชนเค้า แถมฝ่ายพิสูจน์หลักฐานดันพิสูจน์ได้จากแผลตรงกันชนซ้ายว่าเราไปชนกับมอไซด์ ยังไงก็ต้องตามน้ำแล้ว พอเช้าผมก็กลับบ้านนอนละ รถโดนยึดอยู่ที่สน.

โทรหาคนรู้จักตอนสายๆ เค้าบอกแบบนี้สายเกินไปแล้ว ยังไงเราต้องเสียแล้ว แต่จะทำให้เสียน้อยที่สุด ก่อนอื่นก็ซื้อกระเช้าไปเยี่ยมก่อนเลย ตรงนี้ต้องเก็บบิลไว้เป็นหลักฐานด้วย เผื่อขึ้นศาล เพราะต้องเอาให้ศาลดูว่าเราไม่ทอดทิ้ง จากนั้นญาติผู้เสียหายโทรมาตลอดเลยครับ ทุกวันจนต้องให้ลูกน้องจัดการแทน ซื้อกระเช้าไปเยี่ยมทุกอาทิตย์ รถผมที่โดนยึดทางร้อยเวรกรุณาปล่อยมาก่อน เพราะเห็นว่ามีประกัน

ระหว่างรักษาคนเจ็บบอกจะย้ายจากพยาไท 1 ไปบำรุงราษฏร์อีก ค่าห้องวันละหมื่น ประกันไม่ยอมแน่ ผมก็ไม่ยอมเพราะไม่ได้อยู่ ICU แล้ว และเช็คประวัติคนเจ็บก็ไม่เคยไปหาหมอที่บำรุงราษฏร์ อันนี้คุยกันอยู่นาน ผมก็ปัดให้ไปคุยกับประกันแทน สุดท้ายก็ยอมอยู่พยาไท ผ่านไป 4 เดือน คนเจ็บออกจากรพ. คราวนี้ต้องเรียกร้องเงินแล้ว ผมโดนหนักเลย ค่ารักษาพยาบาลประกันจ่ายไปแล้ว 5 แสนกว่า ทุนประกันผมที่รับผิดชอบต่อร่างกายบุคคลภายนอกแค่ล้านเดียว ทางนั้นเรียกค่าทำขวัญมาอีก 5 แสน ทางประกันไม่จ่าย ผมก็ยื้อไปสักพัก คนเจ็บเอาพรรคพวกที่เป็นตำรวจมาคุยกับผมที่ออฟฟิศเลย นายดาย นายสิบ มา 5 คน ทางร้อยเวรก็บี้ผมสุดๆ ประมาณว่าช่วยคนเจ็บเต็มที่

สุดท้ายผมต้องไปรบกวนตำรวจที่รู้จักอีกแล้ว เข้าไปคุยกับผู้กำกับเลย ผู้กำกับบอกจะดูแลให้เป็นธรรม จากนั้นร้อยเวรมาอยู่ฝั่งเดียวกับผม การต่อรองง่ายขึ้นเยอะเลยครับ ไม่กี่วัน ร้อยเวรคุยให้รับยอดค่าทำขวัญที่ประกันจะจ่ายให้ 1.5 แสน โดยที่ผมไม่ต้องจ่ายเพิ่ม จากนั้นก็มาต่อที่เรื่องคดี ร้อยเวรที่ทำคดีก็ต้องทำเป็นไม่รู้ว่ามีการบาดเจ็บสาหัสเกิดขึ้น เพราะถ้ารู้ต้องส่งผมฟ้องศาลในข้อหา ขับขี่โดยประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส ศาลจะลงโทษจำคุก 6 เดือน รอลงอาญา และต้องบำเพ็ญประโยชน์ แต่พอให้คนในคุยให้ก็จบครับ ไม่เสียให้ตำรวจค่ามองไม่เห็นเลยสักบาท เท่าที่ทราบมา ถ้าผมไม่ให้คนช่วย ตอนต่อรองค่าทำขวัญผมจะโดนหนักกว่านี้ เพราะตำรวจจะไปขอแบ่งจากฝั่งนั้นหน่อยนึง และตอนทำคดี ถ้าผมไม่อยากให้เป็นคดี ผมต้องจ่ายอย่างน้อย 5 หมื่นครับ ถ้าไม่จ่ายต้องขึ้นศาล โดนตัดสินจำคุก แต่รอลงอาญา และต้องบำเพ็ญประโยชน์

นี่แค่ไม่ตาย ยังปวดหัวขนาดนี้เลยครับ ถ้าตายนี้งานเข้าแน่นอน
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,728
  • Nine & Knight
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 21, 2013, 08:58:20 »
เรื่องแบบนี้ได้ยินมาเยอะเช่นกัน ถ้าเราไม่ผิดอย่าไปยอมเด็ดขาดนะครับพวกที่ให้รับผิดเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมถ้าเรายอมเท่ากับว่าทำร้ายตัวเองและทำร้ายคนที่ทำถูกกฎในสังคม แรกๆก็คุยดีอยู่หรอกแต่เรื่องยุ่งยากจะตามมาเป็นพรวน ติดกล้องหน้าไว้เป็นหลักฐานก็ดีนะครับ อีกอย่างอยากให้เลิกความคิดที่ว่ารถใหญ่ผิดเสมอดีกว่าครับอันนี้เท่ากับส่งเสริมให้ขับมอไซด์ไม่กลัวอันตรายเกิดเหตุมาทีญาติพี่น้องนึกว่าได้รับโบนัสกัน
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Public P

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 239
    • อีเมล์
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 21, 2013, 09:21:42 »
ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ผู้เสียหาย,
ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย,นำวิธีพิจารณาในศาลอุทธรณ์มาใช้ในชั้นฎีกา
     คำพิพากษาศาลฎีกาที่  2147/2553
     บริเวณที่เกิดเหตุเป็นสามแยกติดตั้งสัญญาณจราจรไฟ และขณะเกิดเหตุ
สัญญาณจราจรไฟเป็นสัญญาณจราจรไฟสีเขียวให้เลี้ยวขวา เมื่อได้รับสัญญาณจราจร
ไฟเขียวให้เลี้ยวขวารถทุกคันที่จะเลี้ยวขวาย่อมเคลื่อนที่แล่นเข้าสู่ทางร่วมทางแยก
ผ่านช่องเดินรถของรถที่แล่นสวนทางมาไปได้ การที่จำเลยขับรถล้ำเข้าไปในช่องเดินรถ
ของรถที่แล่นสวนมาก็เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเลี้ยวขวาแล่นผ่านช่องเดินรถ
ของรถที่แล่นสวนทางมาเท่านั้น แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องจากการกระทำของผู้ตาย
ที่ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดงแล่นเข้าชนรถโดยสารที่จำเลยเป็นผู้ขับ
โดยที่ไม่ว่าจำเลยหรือผู้ใดก็ไม่อาจคาดคิดได้ จำเลยจึงไม่เป็นฝ่ายประมาท การกระทำของ
จำเลย จึงไม่เป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตาม
ป.อ. มาตรา 291
     อนึ่ง  เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ตายเป็นฝ่ายประมาทเนื่องจากเป็นฝ่ายขับรถ
จักรยานยนต์แล่นสวนทางมาโดยฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดงเป็นเหตุให้ชนเข้ากับ
ด้านหน้าข้างขวาของรถโดยสารที่จำเลยเป็นผู้ขับ ผู้ตายจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ย. ภริยา
ของผู้ตายจึงมิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายด้วย  ดังนั้น  ย.  จึงไม่มีสิทธิขอเข้าร่วม
เป็นโจทก์ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจ
ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาฏีกาย่อยาว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่  2147/2553
โจทก์    พนักงานอัยการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โจทก์ร่วม   นางยินดี  เพชรมีศรี
จำเลย    นายสำรอง  หนูอินทร์
อาญา    ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  (มาตรา 291)
วิธีพิจารณาความอาญา  ผู้เสียหาย ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย นำวิธี
     พิจารณาในศาลอุทธรณ์มาใช้ในชั้นฎีกา  (มาตรา 2 (4), 195 วรรคสอง, 225)

     โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 91, 291
พระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 78, 157, 160
     จำเลยให้การปฏิเสธ
     ระหว่างพิจารณา นางยินดี  เพชรมีศรี ภริยาของนายเดชา เพชรมีศรี ผู้ตาย
ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์  ศาลชั้นต้นอนุญาตเฉพาะความผิดตามประมวลกฎหมาย
อาญา  มาตรา 291
     ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
     โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
     ศาลอุทธรณ์ภาค 8  พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมาย
อาญา  มาตรา  291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (4), 157
เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวล
กฎหมายอาญา  มาตรา 291 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวล
กฎหมายอาญา  มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษา
ศาลชั้นต้น
     จำเลยฎีกา
     ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  "ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า ถนนเกิดเหตุมี 2 ช่องเดินรถ
รถแล่นสวนทางกัน ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณสามแยกติดตั้งสัญญาณจราจรไฟ ขณะเกิดเหตุ
สัญญาณจราจรไฟเป็นสัญญาณจราจรไฟสีเขียวให้เลี้ยวขวา จำเลยขับรถโดยสารล้ำ
กึ่งกลางของทางเดินรถเพื่อจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางแยกไปอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เป็นเหตุให้ด้านหน้าข้างขวาของรถโดยสารชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายเป็นคนขับ
แล่นสวนทางมาโดยฝ่าฝืนสัญญาณไฟสีแดง ผู้ตายถึงแก่ความตาย สำหรับความผิด
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522 มาตรา 78, 160 ซึ่งศาลชั้นต้น
พิพากษายกฟ้องไปนั้น  คู่ความมิได้อุทธรณ์ ความผิดตามข้อหาดังกล่าวเป็นอันยุติ
ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8
โดยที่ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาว่าผู้ตายเป็นฝ่ายประมาท คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกา
ของจำเลยเพียงว่า จำเลยเป็นฝ่ายประมาทหรือไม่  เห็นว่า  เมื่อได้รับสัญญาณจราจร
ไฟเขียวให้เลี้ยวขวา  รถทุกคันที่จะเลี้ยวขวาย่อมเคลื่อนที่แล่นเข้าสู่ทางร่วมทางแยก
ผ่านช่องเดินรถของรถที่แล่นสวนทางมาไปได้ การที่จำเลยขับรถล้ำเข้าไปในช่องเดินรถ
ของรถที่แล่นสวนมาก็เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเลี้ยวขวาแล่นผ่านช่องเดินรถ
ของรถที่แล่นสวนทางมาเท่านั้น แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องจากการกระทำของผู้ตาย
ที่ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดงแล่นเข้าชนรถโดยสารโดยที่ไม่ว่าจำเลยหรือผู้ใด
ก็ไม่อาจคาดคิดได้ การกระทำของจำเลยหากจะเป็นความก็คงเป็นความผิดตาม
พระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522 ที่ขับรถล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถเท่านั้น
จำเลยจึงไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
     อนึ่ง  เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ตายเป็นฝ่ายประมาท ผู้ตายจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
นางยินดี  เพชรมีศรี ภริยาของผู้ตายจึงมิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายด้วย  ดังนั้น นางยินดี
จึงไม่มีสิทธิขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ และศาลล่างทั้งสองก็ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาดังกล่าว
จึงชอบที่ศาลล่างทั้งสองจะยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของนางยินดีเสีย ปัญหานี้
เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบ
มาตรา 225"
     พิพากษากลับ  ให้ยกฟ้องและให้ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์

ออฟไลน์ คนกรุง

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 233
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 21, 2013, 11:06:18 »
ถ้าท่านใหญ่พอ ผู้ใหญ่เบ่งได้ท่านไม่ติดคุก แต่ถ้าท่านไม่ใหญ่พอแค่รากหญ้า ผู้ใหญ่เบ่งไม่ได้ท่านติดครับ  :-\

ออฟไลน์ K_wat

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 171
    • อีเมล์
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 21, 2013, 11:22:09 »
 ไอ้หมูแฮมขับไปชนคนบนฟุตบาท แค่ลงอาญาครับผม สำหรับประเทศนี้ภาษาอีสานบอกว่า "เงินหลาย กฎหมายอ่อน"

ออฟไลน์ mathician

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 667
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 23, 2013, 22:05:40 »
อ่านที่คนนั้นเล่ามา น่ากลัวมากเลยบ้านเรา ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยเนี้ย
แล้วญาติคนเจ็บนี่มันก็เห็นแก่เงินเสียจริงเลย

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 25, 2013, 00:58:11 »
อย่าไปยอมแว้นมันครับ มีกล้องก็ได้เปรียบตรงนี้ด้วย
ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ผู้เสียหาย,
ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย,นำวิธีพิจารณาในศาลอุทธรณ์มาใช้ในชั้นฎีกา
     คำพิพากษาศาลฎีกาที่  2147/2553
     บริเวณที่เกิดเหตุเป็นสามแยกติดตั้งสัญญาณจราจรไฟ และขณะเกิดเหตุ
สัญญาณจราจรไฟเป็นสัญญาณจราจรไฟสีเขียวให้เลี้ยวขวา เมื่อได้รับสัญญาณจราจร
ไฟเขียวให้เลี้ยวขวารถทุกคันที่จะเลี้ยวขวาย่อมเคลื่อนที่แล่นเข้าสู่ทางร่วมทางแยก
ผ่านช่องเดินรถของรถที่แล่นสวนทางมาไปได้ การที่จำเลยขับรถล้ำเข้าไปในช่องเดินรถ
ของรถที่แล่นสวนมาก็เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเลี้ยวขวาแล่นผ่านช่องเดินรถ
ของรถที่แล่นสวนทางมาเท่านั้น แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องจากการกระทำของผู้ตาย
ที่ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดงแล่นเข้าชนรถโดยสารที่จำเลยเป็นผู้ขับ
โดยที่ไม่ว่าจำเลยหรือผู้ใดก็ไม่อาจคาดคิดได้ จำเลยจึงไม่เป็นฝ่ายประมาท การกระทำของ
จำเลย จึงไม่เป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตาม
ป.อ. มาตรา 291
     อนึ่ง  เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ตายเป็นฝ่ายประมาทเนื่องจากเป็นฝ่ายขับรถ
จักรยานยนต์แล่นสวนทางมาโดยฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดงเป็นเหตุให้ชนเข้ากับ
ด้านหน้าข้างขวาของรถโดยสารที่จำเลยเป็นผู้ขับ ผู้ตายจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ย. ภริยา
ของผู้ตายจึงมิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายด้วย  ดังนั้น  ย.  จึงไม่มีสิทธิขอเข้าร่วม
เป็นโจทก์ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจ
ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาฏีกาย่อยาว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่  2147/2553
โจทก์    พนักงานอัยการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โจทก์ร่วม   นางยินดี  เพชรมีศรี
จำเลย    นายสำรอง  หนูอินทร์
อาญา    ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  (มาตรา 291)
วิธีพิจารณาความอาญา  ผู้เสียหาย ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย นำวิธี
     พิจารณาในศาลอุทธรณ์มาใช้ในชั้นฎีกา  (มาตรา 2 (4), 195 วรรคสอง, 225)

     โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 91, 291
พระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 78, 157, 160
     จำเลยให้การปฏิเสธ
     ระหว่างพิจารณา นางยินดี  เพชรมีศรี ภริยาของนายเดชา เพชรมีศรี ผู้ตาย
ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์  ศาลชั้นต้นอนุญาตเฉพาะความผิดตามประมวลกฎหมาย
อาญา  มาตรา 291
     ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
     โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
     ศาลอุทธรณ์ภาค 8  พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมาย
อาญา  มาตรา  291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (4), 157
เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวล
กฎหมายอาญา  มาตรา 291 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวล
กฎหมายอาญา  มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษา
ศาลชั้นต้น
     จำเลยฎีกา
     ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  "ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า ถนนเกิดเหตุมี 2 ช่องเดินรถ
รถแล่นสวนทางกัน ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณสามแยกติดตั้งสัญญาณจราจรไฟ ขณะเกิดเหตุ
สัญญาณจราจรไฟเป็นสัญญาณจราจรไฟสีเขียวให้เลี้ยวขวา จำเลยขับรถโดยสารล้ำ
กึ่งกลางของทางเดินรถเพื่อจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางแยกไปอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เป็นเหตุให้ด้านหน้าข้างขวาของรถโดยสารชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายเป็นคนขับ
แล่นสวนทางมาโดยฝ่าฝืนสัญญาณไฟสีแดง ผู้ตายถึงแก่ความตาย สำหรับความผิด
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522 มาตรา 78, 160 ซึ่งศาลชั้นต้น
พิพากษายกฟ้องไปนั้น  คู่ความมิได้อุทธรณ์ ความผิดตามข้อหาดังกล่าวเป็นอันยุติ
ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8
โดยที่ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาว่าผู้ตายเป็นฝ่ายประมาท คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกา
ของจำเลยเพียงว่า จำเลยเป็นฝ่ายประมาทหรือไม่  เห็นว่า  เมื่อได้รับสัญญาณจราจร
ไฟเขียวให้เลี้ยวขวา  รถทุกคันที่จะเลี้ยวขวาย่อมเคลื่อนที่แล่นเข้าสู่ทางร่วมทางแยก
ผ่านช่องเดินรถของรถที่แล่นสวนทางมาไปได้ การที่จำเลยขับรถล้ำเข้าไปในช่องเดินรถ
ของรถที่แล่นสวนมาก็เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเลี้ยวขวาแล่นผ่านช่องเดินรถ
ของรถที่แล่นสวนทางมาเท่านั้น แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องจากการกระทำของผู้ตาย
ที่ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดงแล่นเข้าชนรถโดยสารโดยที่ไม่ว่าจำเลยหรือผู้ใด
ก็ไม่อาจคาดคิดได้ การกระทำของจำเลยหากจะเป็นความก็คงเป็นความผิดตาม
พระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522 ที่ขับรถล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถเท่านั้น
จำเลยจึงไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
     อนึ่ง  เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ตายเป็นฝ่ายประมาท ผู้ตายจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
นางยินดี  เพชรมีศรี ภริยาของผู้ตายจึงมิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายด้วย  ดังนั้น นางยินดี
จึงไม่มีสิทธิขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ และศาลล่างทั้งสองก็ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาดังกล่าว
จึงชอบที่ศาลล่างทั้งสองจะยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของนางยินดีเสีย ปัญหานี้
เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบ
มาตรา 225"
     พิพากษากลับ  ให้ยกฟ้องและให้ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์
กฎหมายไทยเป็น common law หรือ civil law กันแน่อ่ะครับ

ออฟไลน์ CookiE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 875
Re: ขับรถชนคนตายติดคุกไหมครับ?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 04, 2013, 12:03:30 »
ถ้ามอเตอร์ไซค์ชนท้ายเรา หรือชนส่วนข้าง ๆ แล้วทางฝั่งนั้นขอโทษแบบสำนึกผิดจริง ๆ ไม่ใช่ขี่มาเร็วเพื่อจะแทรก แบบนี้ผมคงไปเคลมประกันเอง

แต่ถ้ามาชนด้านหน้าหรือฝ่าไฟแดงมา ผมคงไม่ยอมละครับ

หากพูดถึง อ้างถึงศีลธรรม ช่วยเพื่อนมนุษย์ แล้วเวลาเราไม่ผิด แต่รับผิดไป เพื่อนพ้องน้องพี่ญาติพี่น้องฝั่งนู้นเขาจะเห็นใจเราบ้างไหม ?? ไม่มีหรอกครับ สุดท้ายผมว่าจริง ๆ พวกมอเตอร์ไซค์เนี้ย ญาติพี่น้องตัวดีเลย จะเรียกเงินเยอะ ๆ เห็นคนขับรถเก๋งมีเงินมั้ง หารู้ไม่ ....

... ตูผ่อนอยู่  ;D