Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ กันยายน 24, 2011, 01:56:42
-
ไม่ทราบว่าจริงเท็จเช่นไร http://fordfocussociety.com/index.php?topic=4945.0 (http://fordfocussociety.com/index.php?topic=4945.0)
พอดีใช้ XC60 D3 อยู่ครับ
-
ไม่รู้นะครับเท่าที่ผมเติมมาให้โอกาสหลายครั้งคิดว่าคิดไปเองลองอยู่หลายครั้ง
แล้วเสียเงินแพงกว่าวิ่งไม่ออกอีกจากที่เจอมานะครับกล้าพูดว่าเติมปตทยังวิ่งดีกว่า
แต่สำหรับผมที่ชัวสุดคือ Caltex ถ้าน้ำมันดีเซลบางจากก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีครับ EURO 4
-
แล้วอย่างนี้ review ครั้งหน้าอาจจะเห็นผลต่าง
โชคดีที่เติมบางจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ส่วนตัวถ้าต่างจังหวัด นํ้ามัน v powerน่าจะเหลือในถ้งมากสถานีนํ้ามันกว่าบางจากเพราะราคาแพงกว่า ดังนั้นน้ำมันV power Diesel อาจจะมีส่วนผสมของนํ้าอยู่ด้วย
-
แล้วอย่างนี้ review ครั้งหน้าอาจจะเห็นผลต่าง
โชคดีที่เติมบางจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ส่วนตัวถ้าต่างจังหวัด นํ้ามัน v powerน่าจะเหลือในถ้งมากสถานีนํ้ามันกว่าบางจากเพราะราคาแพงกว่า ดังนั้นน้ำมันV power Diesel อาจจะมีส่วนผสมของนํ้าอยู่ด้วย
ไม่มีหรอกครับ มีนี่เรียกได้ว่า บรรลัยเลยทีเดียว สำหรับเครื่องยนต์ *-*
หรือต่อให้มีน้ำลงไปในถัง หรือควบแน่นไปในถัง น้ำมันกับน้ำก็จะแยกชั้นกันอยู่ดี และไม่ถูกปั๊มเข้าไปในถังครับ
ในแลปภาควิชาผม น้ำมันก็เก็บไว้งั้นให้นิสิตทดลอง ตอนทำการทดลองปริมาณน้ำ เอาน้ำมันมา200mL ใช้วิธีมาตรฐาน ASTM ขอบอกว่า ได้น้ำไม่ถึงหยด (จนต้องมีการเติมน้ำลงไปเอง เพื่อให้เห็นผลชัดเจน)
แต่การเสื่อมสภาพลงตามธรรมชาตินั้นมีครับ แต่ก็น้อย ไม่น่าจะเห็นถึงขนาดรู้สึกชัดเจนแบบนั้น
-
อีกเรื่องนึงครับ เรื่องซีเทน มันแค่แอบอ้างอวดเท่านั้นแหละครับ และค่าซีเทนไปเทียบกับออคเทนไม่ได้ด้วย
ซีเทน หรือ ออคเทน ก็ตามเมื่อมากถึงค่าค่าหนึ่งแล้วที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์แล้ว การเพิ่มไปมากกว่านี้ ไม่มีผลใดๆต่อการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งสิ้น (เช่นแก๊สมีออคเทนเป็นร้อย แต่ก็ห่วยกว่าน้ำมัน) แต่ค่าออคเทนของน้ำมันปัจจุบันไม่ได้เกินจากที่เครื่องยนต์ต้องการเหลือเฟือเหมือนค่าซีเทน จึงต้องมีการเลือกเติมบ้าง
แล้วซีเทนของน้ำมันปตท.ของเดิม ก็แค่ 56-58 เท่านั้น (ดีเซล56กว่า ไบโอประมาณ58)ตาม Datasheet ของปตท.เองซึ่งมันก็เกินความจำเป็นของเครื่องยนต์ไปอยู่แล้ว ดังนั้น ถึง Blue Innovation จะมีซีเทน 68 ก็ไม่ได้ส่งประโยชน์ใดๆแม้แต่นิดเดียว (ทุกคนก็ลองกันมาหมดแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับ) ที่ดีขึ้นเป็นเพราะปรับปรุงส่วนอื่น แต่เอาซีเทนมาอวดเฉยๆ จริงๆดีเซลไฮเดรตของปตท.ทำซีเทน ได้เป็น100ด้วยซ้ำ คนที่ทำเขาก็รู้เหมือนๆกันครับ และน้ำมันGTLที่ว่าดีๆของเชล ก็มีซีเทนแค่55 (ก่อนเติมAdd.) แต่หลายคนก็เห็นความแตกต่างแล้วว่าซีเทนน้อยกว่า ก็ให้ประสิทธิภาพดีกว่าได้ สังเกตุได้ว่าปั๊มจะไม่มีการพูดถึงค่าซีเทนเลย เพราะค่าซีเทนของน้ำมันปัจจุบัน เกินพอสำหรับเครื่องดีเซลทั่วๆไปอยู่แล้ว ไม่เหมือนค่าออคเทน ซึ่งเครื่องยนต์เบนซินบางรุ่นยังเลือกน้ำมันอยู่
เพราะงั้นสรุปได้เลยครับว่า เลขซีเทน ออคเทนไม่ได้ใช้สื่ออะไรได้ในยุคที่เครื่องยนต์รองรับออคเทน91ได้สบายๆ ประเด็นมันอยู่ที่อย่างอื่นครับ เพราะน้ำมัน ออคเทน91กับ95 ก็ไม่ได้กลั่นมาจากส่วนเดียวกัน (ลองหาดูก็ได้ครับ กระบวนการหลักๆ ที่ทำให้ได้เบนซิน หลักๆก็มีหน่วย FCC , Isomerization , Reformer ฯลฯ) แต่ละกระบวนการให้น้ำมันออคเทนไม่เท่ากัน เวลาใช้จริงก็เอามาผสมๆกันให้ได้ออคเทนที่ต้องการ เพราะงั้นค่าความร้อนก็เลยต่างกันไปด้วย
มองเบนซิน มองที่ออคเทน แต่ถ้ามองดีเซล ไม่ต้องไปสนซีเทนมันเลยครับ ไปสนที่มา กับ Addi. มันเถิด
ป.ล.เดี๋ยวนี้ข้อมูลในเนตมั่วๆมีเยอะมาก คนอ่านบางคนอ่านก็จะรู้ไปผิดๆ แล้วก็ไปบอกต่อ ไปใช้แบบผิดๆ ไปๆมาๆ ที่ผิดกลายเป็นถูกเอาซะงั้น อย่างเช่นในคำไทย คำว่า"โฉด" ที่ใช้ๆกัน ก็ผิดความหมายไปมากแล้ว กลายเป็นคนเข้าใจว่า โฉดคือโหด ทั้งที่จริงๆแปลว่า "โง่"
หรืออย่างสัญลักษณ์น้ำมันเครื่อง 0w-30 หลายคนก็เข้าไปใจไปว่า ความหนืดเป็น0 ที่อากาศ ... อยากให้ทุกคนหาข้อมูลเพิ่มซักนิด อย่าฟังข้อมูลจากแหล่งเดียวครับ
-
อีกเรื่องนึงครับ เรื่องซีเทน มันแค่แอบอ้างอวดเท่านั้นแหละครับ และค่าซีเทนไปเทียบกับออคเทนไม่ได้ด้วย
ซีเทน หรือ ออคเทน ก็ตามเมื่อมากถึงค่าค่าหนึ่งแล้วที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์แล้ว การเพิ่มไปมากกว่านี้ ไม่มีผลใดๆต่อการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งสิ้น (เช่นแก๊สมีออคเทนเป็นร้อย แต่ก็ห่วยกว่าน้ำมัน) แต่ค่าออคเทนของน้ำมันปัจจุบันไม่ได้เกินจากที่เครื่องยนต์ต้องการเหลือเฟือเหมือนค่าซีเทน จึงต้องมีการเลือกเติมบ้าง
แล้วซีเทนของน้ำมันปตท.ของเดิม ก็แค่ 56-58 เท่านั้น (ดีเซล56กว่า ไบโอประมาณ58)ตาม Datasheet ของปตท.เองซึ่งมันก็เกินความจำเป็นของเครื่องยนต์ไปอยู่แล้ว ดังนั้น ถึง Blue Innovation จะมีซีเทน 68 ก็ไม่ได้ส่งประโยชน์ใดๆแม้แต่นิดเดียว (ทุกคนก็ลองกันมาหมดแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับ) ที่ดีขึ้นเป็นเพราะปรับปรุงส่วนอื่น แต่เอาซีเทนมาอวดเฉยๆ จริงๆดีเซลไฮเดรตของปตท.ทำซีเทน ได้เป็น100ด้วยซ้ำ คนที่ทำเขาก็รู้เหมือนๆกันครับ และน้ำมันGTLที่ว่าดีๆของเชล ก็มีซีเทนแค่55 (ก่อนเติมAdd.) แต่หลายคนก็เห็นความแตกต่างแล้วว่าซีเทนน้อยกว่า ก็ให้ประสิทธิภาพดีกว่าได้ สังเกตุได้ว่าปั๊มจะไม่มีการพูดถึงค่าซีเทนเลย เพราะค่าซีเทนของน้ำมันปัจจุบัน เกินพอสำหรับเครื่องดีเซลทั่วๆไปอยู่แล้ว ไม่เหมือนค่าออคเทน ซึ่งเครื่องยนต์เบนซินบางรุ่นยังเลือกน้ำมันอยู่
เพราะงั้นสรุปได้เลยครับว่า เลขซีเทน ออคเทนไม่ได้ใช้สื่ออะไรได้ในยุคที่เครื่องยนต์รองรับออคเทน91ได้สบายๆ ประเด็นมันอยู่ที่อย่างอื่นครับ เพราะน้ำมัน ออคเทน91กับ95 ก็ไม่ได้กลั่นมาจากส่วนเดียวกัน (ลองหาดูก็ได้ครับ กระบวนการหลักๆ ที่ทำให้ได้เบนซิน หลักๆก็มีหน่วย FCC , Isomerization , Reformer ฯลฯ) แต่ละกระบวนการให้น้ำมันออคเทนไม่เท่ากัน เวลาใช้จริงก็เอามาผสมๆกันให้ได้ออคเทนที่ต้องการ เพราะงั้นค่าความร้อนก็เลยต่างกันไปด้วย
มองเบนซิน มองที่ออคเทน แต่ถ้ามองดีเซล ไม่ต้องไปสนซีเทนมันเลยครับ ไปสนที่มา กับ Addi. มันเถิด
ป.ล.เดี๋ยวนี้ข้อมูลในเนตมั่วๆมีเยอะมาก คนอ่านบางคนอ่านก็จะรู้ไปผิดๆ แล้วก็ไปบอกต่อ ไปใช้แบบผิดๆ ไปๆมาๆ ที่ผิดกลายเป็นถูกเอาซะงั้น อย่างเช่นในคำไทย คำว่า"โฉด" ที่ใช้ๆกัน ก็ผิดความหมายไปมากแล้ว กลายเป็นคนเข้าใจว่า โฉดคือโหด ทั้งที่จริงๆแปลว่า "โง่"
หรืออย่างสัญลักษณ์น้ำมันเครื่อง 0w-30 หลายคนก็เข้าไปใจไปว่า ความหนืดเป็น0 ที่อากาศ ... อยากให้ทุกคนหาข้อมูลเพิ่มซักนิด อย่าฟังข้อมูลจากแหล่งเดียวครับ
ชัดเจนมากเลยครับผม ตอนที่ผมเรียนที่คณะเค้าก็เคยมีพูดถึงเรื่องการตลาดของยุคน้ำมันปัจจุบันเหมือนกันครับ เค้าบอกว่าอย่าไปเชื่อโฆษณาเยอะ ลองใช้เองแล้วเปรียบเทียบเป็นอันพอครับ ส่วนตัวที่บ้านใช้แต่ VpowerDieselกับFuelSave95. ครับผม 555ใช้แต่น้ำมันหอย^^"
-
อีกเรื่องนึงครับ เรื่องซีเทน มันแค่แอบอ้างอวดเท่านั้นแหละครับ และค่าซีเทนไปเทียบกับออคเทนไม่ได้ด้วย
ซีเทน หรือ ออคเทน ก็ตามเมื่อมากถึงค่าค่าหนึ่งแล้วที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์แล้ว การเพิ่มไปมากกว่านี้ ไม่มีผลใดๆต่อการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งสิ้น (เช่นแก๊สมีออคเทนเป็นร้อย แต่ก็ห่วยกว่าน้ำมัน) แต่ค่าออคเทนของน้ำมันปัจจุบันไม่ได้เกินจากที่เครื่องยนต์ต้องการเหลือเฟือเหมือนค่าซีเทน จึงต้องมีการเลือกเติมบ้าง
แล้วซีเทนของน้ำมันปตท.ของเดิม ก็แค่ 56-58 เท่านั้น (ดีเซล56กว่า ไบโอประมาณ58)ตาม Datasheet ของปตท.เองซึ่งมันก็เกินความจำเป็นของเครื่องยนต์ไปอยู่แล้ว ดังนั้น ถึง Blue Innovation จะมีซีเทน 68 ก็ไม่ได้ส่งประโยชน์ใดๆแม้แต่นิดเดียว (ทุกคนก็ลองกันมาหมดแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับ) ที่ดีขึ้นเป็นเพราะปรับปรุงส่วนอื่น แต่เอาซีเทนมาอวดเฉยๆ จริงๆดีเซลไฮเดรตของปตท.ทำซีเทน ได้เป็น100ด้วยซ้ำ คนที่ทำเขาก็รู้เหมือนๆกันครับ และน้ำมันGTLที่ว่าดีๆของเชล ก็มีซีเทนแค่55 (ก่อนเติมAdd.) แต่หลายคนก็เห็นความแตกต่างแล้วว่าซีเทนน้อยกว่า ก็ให้ประสิทธิภาพดีกว่าได้ สังเกตุได้ว่าปั๊มจะไม่มีการพูดถึงค่าซีเทนเลย เพราะค่าซีเทนของน้ำมันปัจจุบัน เกินพอสำหรับเครื่องดีเซลทั่วๆไปอยู่แล้ว ไม่เหมือนค่าออคเทน ซึ่งเครื่องยนต์เบนซินบางรุ่นยังเลือกน้ำมันอยู่
เพราะงั้นสรุปได้เลยครับว่า เลขซีเทน ออคเทนไม่ได้ใช้สื่ออะไรได้ในยุคที่เครื่องยนต์รองรับออคเทน91ได้สบายๆ ประเด็นมันอยู่ที่อย่างอื่นครับ เพราะน้ำมัน ออคเทน91กับ95 ก็ไม่ได้กลั่นมาจากส่วนเดียวกัน (ลองหาดูก็ได้ครับ กระบวนการหลักๆ ที่ทำให้ได้เบนซิน หลักๆก็มีหน่วย FCC , Isomerization , Reformer ฯลฯ) แต่ละกระบวนการให้น้ำมันออคเทนไม่เท่ากัน เวลาใช้จริงก็เอามาผสมๆกันให้ได้ออคเทนที่ต้องการ เพราะงั้นค่าความร้อนก็เลยต่างกันไปด้วย
มองเบนซิน มองที่ออคเทน แต่ถ้ามองดีเซล ไม่ต้องไปสนซีเทนมันเลยครับ ไปสนที่มา กับ Addi. มันเถิด
ป.ล.เดี๋ยวนี้ข้อมูลในเนตมั่วๆมีเยอะมาก คนอ่านบางคนอ่านก็จะรู้ไปผิดๆ แล้วก็ไปบอกต่อ ไปใช้แบบผิดๆ ไปๆมาๆ ที่ผิดกลายเป็นถูกเอาซะงั้น อย่างเช่นในคำไทย คำว่า"โฉด" ที่ใช้ๆกัน ก็ผิดความหมายไปมากแล้ว กลายเป็นคนเข้าใจว่า โฉดคือโหด ทั้งที่จริงๆแปลว่า "โง่"
หรืออย่างสัญลักษณ์น้ำมันเครื่อง 0w-30 หลายคนก็เข้าไปใจไปว่า ความหนืดเป็น0 ที่อากาศ ... อยากให้ทุกคนหาข้อมูลเพิ่มซักนิด อย่าฟังข้อมูลจากแหล่งเดียวครับ
ถูกเกือบทั้งหมด แย้งนิดเดียวครับ
ที่ว่าแก๊สห่วยกว่าน้ำมัน ขอยกเฉพาะแอลพีจี ที่ห่วยเพราะตั้งไฟจุดระเบิดต่ำครับ มันจึงเผาได้ไม่เต็มแรง และจะเยี่ยมยอดถ้าใช้กับเครื่องที่กำลังอัดสูงๆ ยิ่งเกิน10.5ต่อ1ยิ่งดี ตั้งไฟดีๆ แรงม้าเยอะกว่าเบนซินแน่นอนครับ
-
แล้วตัวดักจับนํ้าในนํ้ามันที่0 benz ติดดั้งมาให้ก็ไม่จําเป็นใช่ไหมครับ เพราะนํ้าในหัวจ่ายจะไม่เข้ามาสู่รถได้ใช่ไหมครับ (ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือไม่ครับ)
แต่ผมว่ามันก็ต้องมีนํ้าเข้ามาบ้าง(แต่จะเกิดไอนํ้าที่ขึ้นเพราะเครื่องร้อนกับอากาศเย็น)
-
อีกเรื่องนึงครับ เรื่องซีเทน มันแค่แอบอ้างอวดเท่านั้นแหละครับ และค่าซีเทนไปเทียบกับออคเทนไม่ได้ด้วย
ซีเทน หรือ ออคเทน ก็ตามเมื่อมากถึงค่าค่าหนึ่งแล้วที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์แล้ว การเพิ่มไปมากกว่านี้ ไม่มีผลใดๆต่อการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งสิ้น (เช่นแก๊สมีออคเทนเป็นร้อย แต่ก็ห่วยกว่าน้ำมัน) แต่ค่าออคเทนของน้ำมันปัจจุบันไม่ได้เกินจากที่เครื่องยนต์ต้องการเหลือเฟือเหมือนค่าซีเทน จึงต้องมีการเลือกเติมบ้าง
แล้วซีเทนของน้ำมันปตท.ของเดิม ก็แค่ 56-58 เท่านั้น (ดีเซล56กว่า ไบโอประมาณ58)ตาม Datasheet ของปตท.เองซึ่งมันก็เกินความจำเป็นของเครื่องยนต์ไปอยู่แล้ว ดังนั้น ถึง Blue Innovation จะมีซีเทน 68 ก็ไม่ได้ส่งประโยชน์ใดๆแม้แต่นิดเดียว (ทุกคนก็ลองกันมาหมดแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับ) ที่ดีขึ้นเป็นเพราะปรับปรุงส่วนอื่น แต่เอาซีเทนมาอวดเฉยๆ จริงๆดีเซลไฮเดรตของปตท.ทำซีเทน ได้เป็น100ด้วยซ้ำ คนที่ทำเขาก็รู้เหมือนๆกันครับ และน้ำมันGTLที่ว่าดีๆของเชล ก็มีซีเทนแค่55 (ก่อนเติมAdd.) แต่หลายคนก็เห็นความแตกต่างแล้วว่าซีเทนน้อยกว่า ก็ให้ประสิทธิภาพดีกว่าได้ สังเกตุได้ว่าปั๊มจะไม่มีการพูดถึงค่าซีเทนเลย เพราะค่าซีเทนของน้ำมันปัจจุบัน เกินพอสำหรับเครื่องดีเซลทั่วๆไปอยู่แล้ว ไม่เหมือนค่าออคเทน ซึ่งเครื่องยนต์เบนซินบางรุ่นยังเลือกน้ำมันอยู่
เพราะงั้นสรุปได้เลยครับว่า เลขซีเทน ออคเทนไม่ได้ใช้สื่ออะไรได้ในยุคที่เครื่องยนต์รองรับออคเทน91ได้สบายๆ ประเด็นมันอยู่ที่อย่างอื่นครับ เพราะน้ำมัน ออคเทน91กับ95 ก็ไม่ได้กลั่นมาจากส่วนเดียวกัน (ลองหาดูก็ได้ครับ กระบวนการหลักๆ ที่ทำให้ได้เบนซิน หลักๆก็มีหน่วย FCC , Isomerization , Reformer ฯลฯ) แต่ละกระบวนการให้น้ำมันออคเทนไม่เท่ากัน เวลาใช้จริงก็เอามาผสมๆกันให้ได้ออคเทนที่ต้องการ เพราะงั้นค่าความร้อนก็เลยต่างกันไปด้วย
มองเบนซิน มองที่ออคเทน แต่ถ้ามองดีเซล ไม่ต้องไปสนซีเทนมันเลยครับ ไปสนที่มา กับ Addi. มันเถิด
ป.ล.เดี๋ยวนี้ข้อมูลในเนตมั่วๆมีเยอะมาก คนอ่านบางคนอ่านก็จะรู้ไปผิดๆ แล้วก็ไปบอกต่อ ไปใช้แบบผิดๆ ไปๆมาๆ ที่ผิดกลายเป็นถูกเอาซะงั้น อย่างเช่นในคำไทย คำว่า"โฉด" ที่ใช้ๆกัน ก็ผิดความหมายไปมากแล้ว กลายเป็นคนเข้าใจว่า โฉดคือโหด ทั้งที่จริงๆแปลว่า "โง่"
หรืออย่างสัญลักษณ์น้ำมันเครื่อง 0w-30 หลายคนก็เข้าไปใจไปว่า ความหนืดเป็น0 ที่อากาศ ... อยากให้ทุกคนหาข้อมูลเพิ่มซักนิด อย่าฟังข้อมูลจากแหล่งเดียวครับ
ถูกเกือบทั้งหมด แย้งนิดเดียวครับ
ที่ว่าแก๊สห่วยกว่าน้ำมัน ขอยกเฉพาะแอลพีจี ที่ห่วยเพราะตั้งไฟจุดระเบิดต่ำครับ มันจึงเผาได้ไม่เต็มแรง และจะเยี่ยมยอดถ้าใช้กับเครื่องที่กำลังอัดสูงๆ ยิ่งเกิน10.5ต่อ1ยิ่งดี ตั้งไฟดีๆ แรงม้าเยอะกว่าเบนซินแน่นอนครับ
ขอบคุณที่ช่วยเพิ่มข้อมูลให้ ด้วยครับ^^
-
เมื่อก่อนผมเองก็ติดภาพว่าเชลดีนะครับ แต่เอาเข้าจริงๆผมว่าเหมือนๆกัน แต่ราคาเชลมันแรงกว่าในบางครั้ง ซึ่งมันเป็นตัวที่ผมพยายามไม่เลือกเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรถ้าราคาเท่ากัน
ตอนนี้ก็เปิดใจลอง caltex กับ ปิโตนาส ผมว่าผมรู้สึกดีกว่านะ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเติมเลย พอมาเติมปั๊มมันไม่เลวเหมือนกัน และไม่เล็กเหมือนกัน