Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Bimmer Boy ที่ มีนาคม 14, 2012, 20:46:07
-
จากกระทู้เดิม
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=19642.0 (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=19642.0)
สรุปแล้วทางวอลโว่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดทางการผลิด
ตอนนี้ทางศูนย์แจ้งเงื่อนไขมาแล้วดังนี้
ข้อ 1 หากยินดีใช้คันเดิม จะทำการซ่อมสีและเปลี่ยนยางกระจกหูช้าง โดยจะแถม daytime light กับครอบกระจกมองข้างเป็นการปลอบใจ
ข้อ 2 หากต้องการเปลี่ยนคนใหม่ สามารถเปลี่ยนได้ แต่....................ค่าติดฟิลม์ 3M Crytalline ตัวท๊อปรอบค้นและค่าเคลือบแก้ว มูลค่ารวม 30,000 บาทไม่ออกให้ อย่างมากออกให้ได้แค่ค่าติดฟิลม์คันใหม่ 5,000 บาท เท่ากับว่าถ้าผมเลือกช้อยส์นี้ผมต้องเสีย 30,000 (ค่าฟิลม์กับเคลือบแก้วคันเก่า) + 30,000 (ค่าฟิลม์กับเคลือบแก้วคันใหม่) - 5,000 (ค่าติดฟิลม์ที่ศูนย์ช่วยออกให้) เท่ากับที่ผมต้องเสียประมาณ 55,000 สำหรับป้ายแดงคันนี้
หากเป็นท่าน จะเลือกทางไหนครับ ส่วนผมบอกได้ตามตรงว่าตอนนี้เซ็งมากกกกกกกก
-
แบบที่ 1 ครับ
-
เปลี่ยนคันครับ
-
เปลี่ยนคันเลยครับบบ
-
เปลี่ยนคันเช่นเดียวกัน
-
ข้อ 1 ล่ะกันครับ
เลือกข้อ 2 กลัวจะเจออะไรเพิ่มมาอีกครับ เสียดายฟิล์มด้วยครับ ผมชอบรุ่นนี้ครับ
-
เลือกข้อ 1 ครับ
เพราะไม่รู้ว่าเปลี่ยนคันแล้ว จะไปเจออะไรอีกหรือเปล่า
แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ก่อปัญหาเรื่องความปลอดภัยครับ ดังนั้น ถ้าทาง Volvo ซ่อมให้แล้วจบ ผมก็คิดว่าไม่น่ามีอะไรครับ
-
ผมว่าเปลี่ยนคันครับ
ได้มาแล้วรีบหา defects เดิมๆที่เคยเจอก่อน ตอนรับรถ
ถ้าคันใหม่มีปัญหาอีก เดี๋ยวเค้าก็จัดให้อีก(มั้ง) :)
-
เลือกข้อ 2 ครับ ;)
แต่คราวนี้ก็ตรวจเช็คดีๆๆ ก่อนเซ็นรับรถละกันครับ
-
ข้อ 1 ครับที่จริงไม่ได้มีอะไรมากมายเลย
-
จริงๆ ถ้าสำหรับผม ผมเลือกข้อ1 ด้วยเหตุผลที่ในท้ายที่สุดรถเราก็ถูกรับผิดชอบโดยทางวอลโว่ และยังไม่ต้องเสียเงินห้าหมื่นกว่าๆ
แต่ถ้าเป็นข้อ1 แล้วคุณเจ้าของกระทู้จะต้องกังวล ไม่มีความสุข แม้รถซ่อมมาแล้วก็ตาม ก็ต้องยอมเลือกข้อ 2 และเสียเงินห้าหมื่นกว่าเพื่อแลกกับความสบายใจ
ทีนี้ผมว่าอยู่ที่คุณเจ้าของกระทู้แล้วว่า เลือกข้อ 1 แล้วมั่นใจว่าจะไม่คิดมาก แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องยอมแลกเพื่อความสบายใจระยะยาวครับ
-
ถ้ามันเป็นแค่ปัญหาการพ่นสีไม่เรียบร้อย ผมคงจะแนะนำให้เลือกข้อ 1 ครับ
แต่อย่างที่บอกไปในกระทู้ที่แล้วว่า บางจุดเหมือนเป็นสนิมด้านใน
ซึ่งถ้าแค่ทำสีให้ใหม่ โดยไม่ได้จัดการเรื่องสนิม เดี๋ยวมันก็กลับมาเป็นอีก
แล้วการที่มีสนิมขึ้นมาจุดนึง ก็เป็นไปได้ว่าบนเหล็กแผ่นเดียวกันจะสามารถเกิดตรงจุดอื่นได้อีก
ปัญหานี้มันเกิดจากการเก็บ Stock ชิ้นส่วนตัวถังชิ้นนี้ทั้งชิ้น ดังนั้นโอกาสเกิดสนิมจุดอื่นก็มีครับ
พอเป็นแบบนี้แล้ว ผมคิดว่าเลือกข้อ 2 เปลี่ยนคันดีกว่า
เรื่องฟิล์มลองคุยดูครับ เพราะเรามาเห็นจุดบกพร่องของรถหลังติดไปแล้ว
ดังนั้น วอลโว่น่าจะช่วยรับผิดชอบได้ แต่เรื่องเคลือบแก้วคงจะลำบากสักหน่อย
เพราะคุณเองบอกว่าตอนนำรถไปเคลือบ เด็กที่ร้านบอกก่อนแล้วว่าสีมีตำหนิ
ถ้าจะให้วอลโว่ดูแลตรงนี้ด้วย อาจจะคุยยากหน่อยนะครับ
-
อันนี้คงต้องถามใจ จขกท. ดูล่ะครับ ว่ารับได้ไหม สำหรับผมคงเลือกข้อ 1 เพราะรอยติดหน่อย ซ่อมแล้วจบก็โอเค ยังไงซักวันหนึ่งหากเกิดชนนิดๆหน่อยๆขึ้นมาบ้าง ก็ต้องซ่อมสีเหมือนกันครับ
แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาก็เปลี่ยนโลด แต่กลัวเจอปัญหาอื่นนี่สิครับ
-
ขอเงินคืน เปลี่ยนยี่ห้อดีไหมครับ
-
ผมว่า Volvo เค้ารับผิดชอบดีนะคับ เป็นเจ้าอื่นไม่มีให้เปลี่ยนรถแน่นอน
ถ้าตัวถังมีสนิม ผมขอเลือกข้อ 2
แต่ถ้าไม่มีสนิม ผมเลือกข้อ 1
-
มีแต้มสี กะยางขอบประตูย่น เป็นผมผมเอาข้อ 1 นะ ทำสีใหม่เขาต้องเอากระดาษทรายขัดสีเดิมออกให้เรียบแล้ว พ่นใหม่ตั้งแต่พื้นสีไปถึงเคลียร์โค็ท
ถ้ามันเป็นสนิมจริงตอนทำยังงัยก็ต้องเห็น/ ส่วนยางขอบประตูย่นนี่เรื่องจิ๊บจ๊อยมากเปลี่ยนอะใหล่ก็หาย
เอาข้อ 1 เพราะได้ของแถมด้วยเป็นเดย์ไลท์ กะครอบกระจก555 ไม่ต้องเสียค่าติดฟิลม์ใหม่
ส่วนที่คุณไปเคลือบแก้วมา ตอนทำสีใหม่อย่างไรก็โดนขัดออกหมดอยู่แล้วถ้าทำทั้งคัน เว้นแต่ทำเฉพาะชิ้นที่มีปัญหา
คุณลองเลือกข้อ 1 แล้วตกลงขอของแถมเพิ่มสิ เป็นของเล่นพวกไฟกาบประตู สปอยเลอร์ 9ล9 หรือเช่นประกันเพิ่มอีก 6เดือน หรือปีนึงก็ยังดี
เอาข้อ 2 เปลี่ยนคันรู้สึกมันเป็นอะไรที่โอเวอร์มาก แถมต้องเสียเงินสองเด้งอีก
-
ถ้าเกิดกับผมผมเลือกข้อ 1 ครับ
เหตุผลคือ
1-ประหยัดเงิน55,000บาท
2-สีเค้าซ่อมให้ก็น่าจะเนียน ยางเค้าเปลี่ยนให้ก็คงจบปัญหา
3-รอยถลอกกับสีรถ ร ะ วั ง ยังไงเด๋วก็มีจนได้
4-อ่านซ้ำข้อ1-3
เก็บเงินไว้แต่งรถเพิ่มดีกว่าครับ
ปล. ผมก็ไปจองตัว V60 ไว้ยังไงช่วยpmบอกว่าศูนย์ไหนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
-
ถ้าเป็นผมคงเลือกข้อ 2 เพื่อความสบายใจครับ
แต่จริงๆ แล้ว ไม่อยากให้คิดว่า เสียเงินฟรี 55,000 บาทครับ เพราะในกรณีถ้ารถไม่มีปัญหาคุณก็เสียค่าติดฟิล์ม และเคลือบแก้วอยู่แล้ว 30,000 บาท ครับ
ดังนั้นในกรณีนี้คือรถมีปัญหา จึงต้องติดฟิล์ม และเคลือบแก้วใหม่รอบที่ 2 คือเสียเงินเพิ่ม 25,000 บาทครับ คิดแบบนี้น่าจะทำให้สบายใจขึ้นครับ ;)
-
ลองคุยกับเค้าดูหรือยังครับ ว่าสรุปว่ารอยบริเวณขอบประตูมัันเป็นอะไร และรุนแรงแค่ไหน
ถ้ามันเป็นรอยสีแต้ม ไม่ใช่รอยปูดจากสนิม - ถือซะว่าะเราบกพร่องด้วยตอนรับรถ เลือกข้อ 1 ไปเถอะครับ รอยเล็กน้อยซ่อมไม่ยาก อย่าไปซีเรียสมาก
แต่ถ้าเป็นรอยปูดจากด้านใน ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรกันแน่ - อันนี้แล้วแต่จะตัดสินใจครับเพราะว่าแค่ซ่อมสีอาจไม่พอ
ผมคงไม่ตัดสินใจให้ แต่ให้เหตุผลเพื่อช่วยในการตัดสินใจครับ
-
การเปลี่ยนคันใหม่ ไม่มีอะไรมารับประกันว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะการเป็นรอยมันอาจจะเกิดจากการขนส่งก็ได้ครับ
ผมแนะนำให้เลือกข้อ 1 ครับ แต่ผมสงสัยว่า จขกท. ใช้รุ่นอะไรครับ เข้าใจว่า S60 เขาไม่มี daytime มาให้เป็นพื้นฐานเหรอครับ หรือว่า S80 งงครับ :) :)
-
เลือกข้อ หนึ่ง ครับ
ไม่เป็นปัญหาเกียวกับ ระบบ ไฟ รึ เครื่องยนต์ ตัวถังยังไงก็แก้ได้ครับ
กลัวคันใหม่ก็เป็น เหมือนกันเพราะเป็น เหล็ก ล็อตเดียวกัน
-
ที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษน่าจะเป็น รอยบริเวณประตูมากกว่าครับ
ถ้าเป็นสนิมจริง ถึงจะทำสีใหม่ก็อาจจะเกิดสนิมขึ้นมาอีกได้
และทำสีใหม่ที่เคลือบแก้วบริเวณนั้นก็ต้องถูกขัดออกหมด
แบบนี้เท่ากับว่าต้องไปเคลือบแก้วทับบริเวณที่ทำสีใหม่อีก
ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ผมเลือกข้อ 2 ดีกว่าครับ แต่อาจจะต่อรองกับทางศูนย์ให้ได้มากกว่านี้หน่อย 5,000 ผมว่าน้อยไปนะ
-
ข้อ 2 ครับ
ต่อรองเพิ่มนิดหน่อย ค่าเสียความรู้สึก รถใหม่ + ของแถมเพิ่มตามข้อ 1 (อันนี้ง่ายกว่าเพราะของ Volvo เอง)
เคลือบแก้ว กลับไปเจ้าเดิม ขอราคาพิเศษครับ เพิ่งทำไปเอง
จริงๆ เจอสีเน่าแบบนี้ ไม่น่าจะทำให้เลยนะครับ
ฟีลม์ก็กลับไปเจ้าเดิม ไปขอราคาพิเศษเค้าเช่นกันครับ
(ลอกย้ายคันได้มั้ยครับเนี่ย 55)
-
ที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษน่าจะเป็น รอยบริเวณประตูมากกว่าครับ
ถ้าเป็นสนิมจริง ถึงจะทำสีใหม่ก็อาจจะเกิดสนิมขึ้นมาอีกได้
และทำสีใหม่ที่เคลือบแก้วบริเวณนั้นก็ต้องถูกขัดออกหมด
แบบนี้เท่ากับว่าต้องไปเคลือบแก้วทับบริเวณที่ทำสีใหม่อีก
ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ผมเลือกข้อ 2 ดีกว่าครับ แต่อาจจะต่อรองกับทางศูนย์ให้ได้มากกว่านี้หน่อย 5,000 ผมว่าน้อยไปนะ
อิอิ
แอบเห็นด้วย
เพราะทำสีไป มันก็ยากที่จะเหมือนเดิม100% แถมเคลือบแก้วก็แหว่ง(เค้าจะพ่นให้ใหม่รึเปล่าก็ไม่รู้)
ส่วนตัวผมถึงสนับสนุนให้เปลี่ยนคัน
-
ผมเลือกข้อ1 ครับ
ปัญหาเกิดจากภายนอกเล็กน้อย ไม่ต้องเสียเงินครึ่งแสนไปฟรี
แถมได้ไฟ Day-Light มาติดด้วย
-
ข้อ 1 ครับ ....
-
เลือกข้อ 1 แต่ต้องให้เค้าเปลี่ยนชิ้นที่มีการแต้มสี "ยกชิ้น" และต้องช่วยเราเคลือบแก้วใหม่ หากร้านเคลือบแก้วไม่ยอมทำเพิ่มให้ฟรี (ผมจำได้ว่าบางร้านเค้าจะมีบอกว่าให้เรากลับมาพ่นซ่อมได้หากเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนไป)
-
ผมไม่รุ้ว่าส่วนอื่นของตัวรถจะเป็นอย่างไรนะครับ เพราะจุดนั้นที่เป็นสนิมทำให้ผมเกรงว่าอาจจะมีส่วนอื่นอีกที่เป็นอย่างนี้ ถ้าเป็นทางเลือกที่ดีก้คงจบลงที่เปลี่ยนคันหละครับ แต่ต้องถามก่อนว่า จขกท พร้อมเสียเงินอีก 55000 บาทรึเปล่าครับ
-
ผมเลือกข้อหนึ่งนะครับ เพราะมันไม่ได้เสียหายอะไรมากเลย อย่างสีพ่นใหม่ก็จบ ขอบยางเปลี่ยนก็จบอีกเหมือนกัน
ในเคสสำหรับผม ผมมองว่าทาง Volvo รับผิดชอบกับลูกค้าได้ค่อนข้างดีมากนะครับ เพราะถ้าเป็นยี่ห้ออื่นผมว่าทางนั้นไม่มีทางที่จะเสนอเปลี่ยนรถใหม่ให้อย่างแน่นอน
-
เป็นผมคงเลือก 1 เหมือนกัน
แต่สงสัยว่า รถเพิ่งซื้อมา ทาง Volvo ให้ของไม่ดีมา เค้าต้องรับผิดชอบหมดสิ, แต่ชั่งเถอะ
ว่าแต่ถ่ายรูปมาให้ดูบ้างสิครับ
-
ถ้าเป็นสนิมอย่างพี่เนยว่า ถ้าเปลี่ยนกระโปรงทั้งชิ้น จะจบไหมครับ?
ปกติสนิมมันลามข้ามจากชิ้นส่วนหนึ่ง ไปอีกชิ้นส่วนได้หรือเปล่า (เช่น หยดน้ำ Fe oxide กระเด็นไปโดนอีกชิ้น ทำให้อีกชิ้นเป็นสนิมด้วยอะไรแบบนี้อ่ะครับ)
-
เปลี่ยนเถอะครับ ...
บางครั้งเงินห้าหมื่นดูเหมือนเยอะ แต่แลกกับความสบายใจในการใช้รถราคา 2 ล้านไปอีกหลายปี
อีกอย่างผมถือว่ารอยที่เราทำผมรับได้ เพราะรู้ว่าหนักมากมั๊ย ซ่อมแค่ไหน แต่ถ้ามาจากสาเหตุที่เราไม่รู้ ผมรับไม่ได้
บางทีในส่วนที่เรามองไม่เห็น เช่น ในห้องเครื่องหรือใต้ท้องรถ เป็นเหมือนกันรึเปล่าก็ไม่รู้
เอ...หรือเราคิดมากไปหว่า :D
-
ถ้าผมเป็น จขกท. ผมจะไม่เซ็งเลยครับ จะดีใจมากๆด้วยซ้ำที่วอลโว่ออกมารับผิดชอบขนาดนี้
รถยี่ห้ออื่นเป็นหนักกว่านี้เยอะ บริษัทยังไม่ยอมเปลี่ยนคันใหม่ให้เลยครับ
-
เปลี่ยนคัน เพราะ คันเก่ามันเสียความรู้สึกไปแล้ว เหมือนแก้ที่มันร้าวแล้ว จะทำยังไง คงไม่รู้สึกดีขึ้น
แต่ถ้าเลือกได้อีกนะ อยากได้เป็นเงินคืนแล้ว ไปออกยี่ห้ออื่นแทนดีกว่า........
-
ข้อ 1 ครับ
เพราะ คุณรู้ได้อย่างไรว่ารถใหม่จะไม่เจออีก อีกทั้งคันเก่า volvo ยอมรับแล้วว่าเป็นความบกพร่อง ถ้าเจอเพิ่ม ก็แก้ไขไปได้อีก
ส่วนการเพิ่มเงินในข้อ 2 ถ้าคิดให้ดี จะแค่ 25K เท่านั้นครับ จะเอาของคันแรกมารวมซ้ำไม่ได้
-
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ที่นี่อบอุ่นมากจริงๆ ผมกับแฟนตกลงกันแล้วว่าคงเปลี่ยนคันแน่นอน ผมเข้าใจทุกความเห็นนะ บางท่านว่ามันหนักบางท่านว่ามันเรื่องจิ๊บๆ สำหรับผมแล้วผมคิดว่าเราซื้อรถนี่ซื้อความเชื่อถือและแบรนด์ด้วย และการที่เราซื้อของราคาเท่านี้แบรนด์ที่ถือว่าพรีเมี่ยมย่อมคาดหวังว่าบริษัทฯจะมีขั้นตอนการตรวจสอบสินค้าที่เข้มข้นกว่ารถที่ขายในตลาด mass ผมได้คุยกับผู้จัดการศูนย์หลายครั้งก็รู้ว่าปีๆนึงขายรถปริมาณพันกว่าคันเอง ผมก็เฝ้าถามตัวเองว่าทำไมถึงพลาดปล่อยให้มี defect ถึง 3 จุด ในจุดที่มองเห็นชัดหลุดออกมาได้ ผมย้ำนะครับว่าเป็นจุดที่มองเห็นชัด หากเป็นซอกหลีบอื่นๆเช่นในห้องเครื่อง หรือซอกประตูก็คงไม่เป็นไรมากเท่านี้ คิดอีกแง่มันก็น่าคิดว่าหากเป็นปัญหาจากการ QC ของโรงงานจริง คันอื่นจะเป็นบ้างหรือเปล่า เพราะผมว่ามันเป็นที่ระบบตรวจสอบมันไม่สมบูรณ์มากกว่าความบังเอิญจึงหลุดมาขนาดนี้ ผมโวยเรื่องนี้เพื่อหวังว่าทางผู้ผลิตจะนำปัญหานี้เข้าไปปรับปรุงขบวนการตรวจสอบหรือการผลิดให้ดีขึ้น จะได้ไม่เกิดกับคนอื่นอีก การที่บริษัทฯยอมเปลี่ยนรถให้ถือว่ามีความรับผิดชอบที่ดีกว่าหลายๆที่ สำหรับผมผมรู้อยู่แล้วว่าคงต้องเสียเงินเพิ่มกับรถคันนี้แน่ แต่จะเท่าไหร่ก็ยังรอคำตอบอยู่ วันนี้ทางผู้จัดการศูนย์ก็แจ้งว่าได้ส่งเรื่องเข้าไปขอค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกครั้งนึง คงได้คำตอบในอาทิตย์นี้หรืออาทิตย์หน้า ส่วนตัวคงจะใช้คันที่เปลี่ยนใหม่ไปอีกเรื่อยๆ ดูว่าต่อไปจะมีปัญหาอะไรอีกมั้ย เพราะผมชอบการดีไซน์และออฟชั่น ผมว่าถ้าเขาตั้งใจแก้ปัญหาเรื่องการบริการที่ขึ้นชื่อของเขา ในอนาคตหวังว่ามันจะเป็นอีกแบรนด์นึงที่อยู่ในใจของคนไทยต่อไป และสุดท้ายผมหวังว่าจะไม่เจอปัญหาแจ๊กพ๊อตอะไรอย่างนี้อีก
-
ที่จริงไม่น่ารีบไปเคลือบแก้วเลยครับ เลยต้องเสียตั้งเคลือบใหม่เองอีกรอบ
เป็นผม ขอคันใหม่ครับ ข้อ 2
คันเก่าเสียความรู้สึกไปแล้ว แถมระยะยาวไม่รู้จะมาอะไรลามตามมาอีก
-
เป็นผมก็เปลี่ยนคันครับ
-
ข้อ 1 ครับ
เพราะ คุณรู้ได้อย่างไรว่ารถใหม่จะไม่เจออีก อีกทั้งคันเก่า volvo ยอมรับแล้วว่าเป็นความบกพร่อง ถ้าเจอเพิ่ม ก็แก้ไขไปได้อีก
ส่วนการเพิ่มเงินในข้อ 2 ถ้าคิดให้ดี จะแค่ 25K เท่านั้นครับ จะเอาของคันแรกมารวมซ้ำไม่ได้
ไม่ต้องห่วง คันใหม่คงตรวจกันชนิดเอาเวอร์เนียวัดกันเลยทีเดียว
-
ถ้าเลือกข้อ 2 แล้วขอของแถมจากข้อ 1 มาได้ด้วย น่าจะลงตัวที่สุดนะครับ ถือว่าของแถมช่วยค่าฟิล์มกับเคลือบแก้ว ;D
-
งง ครับ
ถ้าเลือก ข้อ 1 แล้ว เค้าทำสีให้ไหม่ .... แล้วเคลือบแก้ว ไม่ต้องไปเคลือบใหม่หรอครับ
อู่ทำสีให้ได้โดยที่ เคลือบแก้วยังอยู่หรอ ..... ????
เป็นผม เอาคันใหม่ครับ และตรวจให้ละเอียด
และการเคลือบแก้ว รถใหม่ ผมว่ายังไม่จำเป็นหรอกครับ ขับไปสัก 1 ปี แล้วมาเคลือบยังได้ มีเงินเมื่อไรค่อยทำ
ฟิลม์ ก็ไม่กี่ตังค์ เสียเงินอีกนิดดีกว่ามานั่งเสียใจ และด้วยเหตุผมตามคุณเนย เลยครับ ....
ของมันย้อมแมวมาขายแล้ว 1 ครั้ง จะให้เค้าเอาไปย้อมแมวมาขายใหม่อีกรอบหรอ ....
-
งง ครับ
ถ้าเลือก ข้อ 1 แล้ว เค้าทำสีให้ไหม่ .... แล้วเคลือบแก้ว ไม่ต้องไปเคลือบใหม่หรอครับ
อู่ทำสีให้ได้โดยที่ เคลือบแก้วยังอยู่หรอ ..... ????
เป็นผม เอาคันใหม่ครับ และตรวจให้ละเอียด
และการเคลือบแก้ว รถใหม่ ผมว่ายังไม่จำเป็นหรอกครับ ขับไปสัก 1 ปี แล้วมาเคลือบยังได้ มีเงินเมื่อไรค่อยทำ
ฟิลม์ ก็ไม่กี่ตังค์ เสียเงินอีกนิดดีกว่ามานั่งเสียใจ และด้วยเหตุผมตามคุณเนย เลยครับ ....
ของมันย้อมแมวมาขายแล้ว 1 ครั้ง จะให้เค้าเอาไปย้อมแมวมาขายใหม่อีกรอบหรอ ....
เขาว่าจะทำสีแบบ spot ครับ ไม่ได้ทำทั้งคัน นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ผมไม่แน่ใจเรื่องคุณภาพหลังงานซ่อมจึงตัดสินใจว่ายังไงขอเปลี่ยนคันแน่นอน มีจุดนึงอยู่กลางหลังคาเลย แล้วสีจะเหมือนกันไหมเนี่ย
-
ยินดีกับ จขกท. ด้วยครับ ที่ได้ทางออก
ฟังแล้วผมก็สบายใจที่ได้เปลี่ยนคันครับ
ถ้าเป็นสนิมอย่างพี่เนยว่า ถ้าเปลี่ยนกระโปรงทั้งชิ้น จะจบไหมครับ?
ปกติสนิมมันลามข้ามจากชิ้นส่วนหนึ่ง ไปอีกชิ้นส่วนได้หรือเปล่า (เช่น หยดน้ำ Fe oxide กระเด็นไปโดนอีกชิ้น ทำให้อีกชิ้นเป็นสนิมด้วยอะไรแบบนี้อ่ะครับ)
ตอบคุณ YIM ถ้าเป็นกระโปรงก็จบนะครับ
แต่เท่าที่จำได้ เหมือนว่าจุดที่เป็นมันอยู่บนหลังคาน่ะสิ
-
ผมถือว่ารับผิดชอบดีมาก
เสนอเปลี่ยนรถให้ด้วย ทั้งที่ไม่ใช่ปัญหาคอขาดบาดตาย
เยี่ยมสุดๆครับ
-
คันนี้ defect หลายชนิดเยอะเกินครับ
ขอบคิ้ว
สีแต้ม
แถมสนิม
.....
.....
ไม่รู้มีอะไรอีก เปลี่ยนครับ แล้วเช็คใหม่ ถ้าต้องการทำสีใหม่ให้เนียน เคลือบแก้วยังไงก็ต้องทำใหม่อยู่แล้ว
-
เลือกข้อ 2 ครับ
ผมกลัวสนิม และ สิ่งที่ไม่เห็นภายในครับ
-
ตอนแรกจะเอาข้อ 1 แต่ถ้าทำสีให้เป็น spot ผมขอเปลี่ยนคัน แล้วมาตรวจละเอียดๆดีกว่า
เงินที่จ่ายเพิ่มก็ถือซะว่าเป็นค่าประสบการณ์ในการตรวจรับรถครับ (แต่ถ้าไม่เคลือบแก้วก็ไม่ต้องเสียเพิ่มเลยนี่เนอะ)
ว่าแต่ เคลือบแก้วนี่มันต้องเคลือบบ่อยๆรึเปล่าครับ หรือเคลือบทีเดียวได้สัก 5 ปี 10 ปี ถ้าแบบนั้นจะเคลมทำสีได้มั้ย?
-
Volvo ดีมากเลยครับ จากเดิมที่ไม่ประทับใจยี่ห้อนี้
Honda accord 3.0 g7 ปี 2003 ผมซื้อมามีปัญหาทั้งเกียร์ เครื่อง ตัวถัง กระจกร้าว เป็นตั้งแต่ออกเลย ยังไม่ยอมเปลี่ยนคันให้เลย กับรถราคาแค่นั้น