Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 10:32:37

หัวข้อ: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 10:32:37
ไปดูคันจริง ลุกๆนั่งๆ มาพักใหญ่ เทียบกับ scirocco CRZ สังเกตเลยว่า  รับไม่ได้กับการตกแต่งภายใน

วัสดุมันเอ่อ ห่วย...มาก  หนังหุ้มเบาะก็.... แข็งๆ สากๆ  คือ รถผมก็ สามปีแล้วนะ  ผมว่ายังดูดีกว่าหลายๆ จุด

ส่วนภายนอก รูปทรงรถ ก็สวยนะ แต่ มันดูไม่ทันสมัยเลย รูปทรงยุค supra เลย ดูเผินๆ เหมือนรถแต่งใส่สเกิร์ต ทั่วไปเลย

ที่ดีเลิศ คือ เบาะ กับตำแหน่งนั่งขับ และตำแหน่งพวงมาลัย

แต่เท่านี้ ก็ไม่สมราคา 2.7 ล้านอยู่ดี  ถ้า 2.2 ตามที่เก็งกันมา ยังพอรับได้นะ วัสดุแบบนี้

ถ้าผมเป็นนักแข่งนะ คงเลือกมันแน่ แต่ผมขับทั่วไปบนถนน  มองไม่เห็นเหตุผลที่จะซื้อมันเลย  สรุป!!! CRZ win เพราะถูกสุด 555+ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Night_Angel ที่ มีนาคม 30, 2012, 10:46:19
ไปดูคันจริง ลุกๆนั่งๆ มาพักใหญ่ เทียบกับ scirocco CRZ สังเกตเลยว่า  รับไม่ได้กับการตกแต่งภายใน

วัสดุมันเอ่อ ห่วย...มาก  หนังหุ้มเบาะก็.... แข็งๆ สากๆ  คือ รถผมก็ สามปีแล้วนะ  ผมว่ายังดูดีกว่าหลายๆ จุด

ส่วนภายนอก รูปทรงรถ ก็สวยนะ แต่ มันดูไม่ทันสมัยเลย รูปทรงยุค supra เลย ดูเผินๆ เหมือนรถแต่งใส่สเกิร์ต ทั่วไปเลย

ที่ดีเลิศ คือ เบาะ กับตำแหน่งนั่งขับ และตำแหน่งพวงมาลัย

แต่เท่านี้ ก็ไม่สมราคา 2.7 ล้านอยู่ดี  ถ้า 2.2 ตามที่เก็งกันมา ยังพอรับได้นะ วัสดุแบบนี้

ถ้าผมเป็นนักแข่งนะ คงเลือกมันแน่ แต่ผมขับทั่วไปบนถนน  มองไม่เห็นเหตุผลที่จะซื้อมันเลย  สรุป!!! CRZ win เพราะถูกสุด 555+ ;D ;D ;D

CRZ สวยแต่ข้างนอก  แต่อารมย์การขับ  ยังไงก็สู้รถขับหลังช่วงล่างเทพ ไม่ได้หรอก
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:03:23
ไปดูคันจริง ลุกๆนั่งๆ มาพักใหญ่ เทียบกับ scirocco CRZ สังเกตเลยว่า  รับไม่ได้กับการตกแต่งภายใน

วัสดุมันเอ่อ ห่วย...มาก  หนังหุ้มเบาะก็.... แข็งๆ สากๆ  คือ รถผมก็ สามปีแล้วนะ  ผมว่ายังดูดีกว่าหลายๆ จุด

ส่วนภายนอก รูปทรงรถ ก็สวยนะ แต่ มันดูไม่ทันสมัยเลย รูปทรงยุค supra เลย ดูเผินๆ เหมือนรถแต่งใส่สเกิร์ต ทั่วไปเลย

ที่ดีเลิศ คือ เบาะ กับตำแหน่งนั่งขับ และตำแหน่งพวงมาลัย

แต่เท่านี้ ก็ไม่สมราคา 2.7 ล้านอยู่ดี  ถ้า 2.2 ตามที่เก็งกันมา ยังพอรับได้นะ วัสดุแบบนี้

ถ้าผมเป็นนักแข่งนะ คงเลือกมันแน่ แต่ผมขับทั่วไปบนถนน  มองไม่เห็นเหตุผลที่จะซื้อมันเลย  สรุป!!! CRZ win เพราะถูกสุด 555+ ;D ;D ;D

CRZ สวยแต่ข้างนอก  แต่อารมย์การขับ  ยังไงก็สู้รถขับหลังช่วงล่างเทพ ไม่ได้หรอก

คำพูดของคนวิจารณ์ ไม่ได้ซื้อ ก็คงประมาณนี้ครับ ผมไม่จ่ายเพิ่ม เจ็ดแสน เพื่อของแบบนี้หรอกครับ

ซีร็อคโค สมเหตุผลกว่ามาก แต่มันก็แพงกว่าพอควร ผมเอาเท่านี้ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: hutzero ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:05:00
เรื่องราคามันจำเป็น  เพราะค่าภาษีนำเข้า+แรงม้า+ความเป็นรถเก๋งฟุ่มเฟือย+ค่าบริการหลังการขายตามแบบฉบับโตโยต้า  
ก็ต้องจัดหนักหน่อย  แต่ถ้าเอามาประกอบในประเทศแบบ Prius ราคาก็จะแพงกว่า Prius หน่อยนึง  
อีกอย่างคันนี้ออกแบบมาซิ่งเต็มตัว เน้นประสิทธิภาพ  ไม่ใช่รถหรู  ภายในจึงไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่

ทุกอย่างเหมาะสมแล้วล่ะ  อย่าเหนื่อยใจไปเลยครับ  
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: k.seng ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:15:25
ราคาขนาดนี้ ... ผมกลับไปหา MINI COUNTRY MAN ALL4 แร๊นนน
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: HIGHSEA ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:22:29
สิ่งที่ 86 โดนติมากสุดคือราคา แต่ถ้าอย่างอื่นดีก็น่าช่วยลบเรื่องราคาที่แพงออกไปได้นะครับ
อย่างวัสดุภายในกับเครื่องเสียงก็มีคนบ่นเรื่องนี้ครับว่าราคานี้ น่าจะทำได้ดีกว่านี้และที่สำคัญ
การเซ็ตช่วงล่าง อยากให้คนที่เก่งเรื่องช่วงล่างไปดูแล้วอธิบายหน่อยว่ามันถูกเซ็ตมาเพื่อรองรับ
กับการขับแบบใหน
ราคานี้ ตัวเลือกเยอะมากใช่ว่า เครื่อง 2000 cc 200 ม้า ยี่ห้ออื่นจะทำไม่ได้ ยี่ห้ออื่นก็นำเข้าเหมือนกัน
รวมถึงวัสดุ การประกอบ อยากเห็นความคิดเห็นคนที่สัมผัส GTI เมื่อเที่ยบกับ 86 จัง
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: templeboy ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:26:07
มันเป็นรถที่เน้นสมรรถนะและการขับขี่แหละครับ เรื่องความหรูหรา สวยงาม สะดวกสบายนี่คงเป็นเรื่องรอง (มากๆๆๆ)

ตอนแรกผมก็เพลียกับราคาเหมือนกัน แต่ตอนนี้พอเข้าใจแล้วครับว่า ราคาต้องประมาณนี้แหละ เพื่อให้คนที่ซื้อเป็นคนที่อยากได้จริงๆ และชัดเจนว่าซื้อมาเน้นใช้ในทางไหน

ผมว่าพี่โตคงไม่อยากเห็น GT-86 เกลื่อนถนน คนซื้อมาใช้จ่ายกับข้าว ขับไปตลาดซักเท่าไหร่หรอกครับ ไอ้รถคันนี้มันเหมาะกับเสาร์อาทิตย์ไปอยู่ตามสนามแข่งมากกว่า

ตัดใจซะเถอะครับ...เพราะผมก็ต้องตัดใจเหมือนกัน อิอิ  8)
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:31:46
ผมว่ามันเป็นรถซิ่ง

เบาะ ภายใน ยังไงก็ต้องยกออกอยู่แล้วครับ เค้าคิดเผื่อเราตรงนี้ด้วยหรือปล่าว  :D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:34:49
F30 คุ้มกว่าเชื่อผม :P
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:36:31
เรื่องประสิทธิภาพผมเข้าใจ แต่ทำไม scirocco ทำได้ และ toyota ทำไม่ได้ ในเรื่องวัสดุ

เป็นรถนำเข้าทั้งคู่ เหมือนกัน ถ้าจะโทษก็คง เป็นคนตั้งราคา ของเมืองไทย ที่ดันทำราคามันไปปีนกัน

ส่วนตัว คาดหวังพอควร กับ 86 เลยค่อนข้างเสียดาย

แต่เห็น CRZ ซึ่งชอบมากเป็นการส่วนตัว ทำราคา ถูกพอควร

แต่งต่อได้อีกเรื่อยๆ ถูกกว่า scirocco หกแสน (คุยราคาลดแล้ว) ก็เลยกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว

ส่วน จริงๆ แล้ว scirocco นอนมาเลย แต่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 6 แสน อืม.... ยังคิดไ่ม่ตกครับ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:37:48
ไม่เหนื่อยเลยครับ ;D

ตัดใจง่ายดี  ผมว่า toyota ออกรถมาพักหลังๆ ทำให้ตัดใจง่ายเกือบทุกรุ่นเลย
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:43:26
ออก CT200h เรยยยย :P
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:45:59
ไม่เหนื่อยเลยครับ ;D

ตัดใจง่ายดี  ผมว่า toyota ออกรถมาพักหลังๆ ทำให้ตัดใจง่ายเกือบทุกรุ่นเลย

เหมือนจะเป็นงั้นเลยครับ เพื่อนจะออก camry ใหม่ ก็ยกเลิกโครงการไปละครับ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: firstime911 ที่ มีนาคม 30, 2012, 11:47:39
แพงไปครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ มีนาคม 30, 2012, 12:12:56
ผมว่า  GT 86 มันเป็นรถขับสนุกไม่ได้เน้นหรูหราหรือสบายอะไรมากมาย ใครชอบก็ซื้อไม่ชอบก็ไม่ซื้อ ราคาอาจจะดูแรงแต่ผมว่าคนที่ชอบจริงๆก็คงจะซื้อ
แตถ้ามองเรื่องราคาเป็นหลังหลายคนคงซี้อไม่ลงก็ไปหาตัวเลือกอีกเถอะ ยังมีอีกหลายตัวเลือกในราคานี้

ขี่จักรยานดีกว่าช่วยโลกร้อน ไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ร่างกายแข็งแรง  :D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Ishida ที่ มีนาคม 30, 2012, 12:15:42
จัด VW Golf GTi ไปเลยครับ น่าจะได้อย่างที่ต้องการ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: buggle01 ที่ มีนาคม 30, 2012, 12:21:30
ขับสนุก ยังไม่มีใครตอบได้ว่า สนุกจริงดีจริงรึป่าว

แต่การออกแบบภายในนี่ดูเหมือนรถสิบปีที่แล้วจริงๆให้ตายเถอะ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: burutrad ที่ มีนาคม 30, 2012, 12:39:52
ส่วนตัวเอา c coupe ดีกว่า
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Zx-III ที่ มีนาคม 30, 2012, 13:17:14
us ราคา 25000$นะครับ คิดเป็นไทยเท่าไรเอง ที่แพงมันคือแพงภาษีบ้านเรา ครับ อยากครับถูกต้องไปเมืองนอก เคาะราคามา2.5-2.7 ตัวเลือกมันมีเยอะครับ แถมbenz bmw ประกอบไทยนะ อย่าลืมภาษีมันต่างกัน ลองไปดูคลิปintroduce 86หลัก เน้นให้คนขับ กับ ราคาเหมาะ ซึ่งผมมองว่าราคาเมืองนอกมันเหมาะสมเเล้วครับ แต่มาเมืองไทย ภาษ๊แม่งคิดซ้ำซ้อนเลยออกมาเป็นราคานี้ แค่นั้นเอง ขายไม่ออกเดียวก็ลดเอง ดูprius ตอนออกใหม่ๆกับfreedซิ 555
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nonp ที่ มีนาคม 30, 2012, 13:21:22
ผมว่าซื้อ Fabia RS คุ้มกว่ากว่าทุกอันที่คุณเลือกครับ
เอาไปใส่เบาะหนังวัสดุดีๆ ไม่เกิน 40,000 บาทก็ครบๆ แล้ว

แม้อาจจะต้องกังวลเรื่องการบริการหลังการขายอยู่บ้านก็ตาม
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: templeboy ที่ มีนาคม 30, 2012, 13:31:26
ถ้าระหว่าง CR-Z กับ Scirocco ผมคงเอา Scirocco อย่างไม่ต้องลังเลเลยครับ ส่วนต่าง 6 แสนก็ไม่ทำให้เปลี่ยนใจได้ครับ...CR-Z ในไทยกับ Honda ยุคหลังน้ำท่วมต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกระยะหนึ่งครับ ในขณะที่ Scirocco นี่ขึ้นแท่นไปแล้วเรียบร้อยครับ

แต่ถ้าเลือกเองได้ตามใจ ผมคงไปที่ C-coupe ครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: kobshree ที่ มีนาคม 30, 2012, 13:34:26
สมรรถนะ การขับขี่ ช่วงล่วง ความแรง สู้ Golf หรือ Sirocco ได้หรือปล่าว

2007 Sirooco  2,000cc

265 แรงม้า

หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: kamphola ที่ มีนาคม 30, 2012, 13:35:10
ไม่ต้องเหนื่อยใจหรอกครับ... ผมคิดว่านี่คือราคาที่มันควรจะเป็นและเหมาะสมสำหรับเมืองไทยที่สุดแล้ว
อย่าลืมว่านี่คือ Toyota ...จะมีรถแนวสปอร์ตรุ่นไหน ยี่ห้อไหน ที่ไปเสีย ตจว. หรืออยากเข้า Service เช็คระยะ ฯลฯ ได้ทั่วประเทศบ้าง
เราต้องจ่ายเพิ่มเพื่อจุดนี้ครับ
ขนาดรถกึ่งสปอร์ตอย่าง celica รุ่นสุดท้ายเมื่อร่วมสิบปีก่อน ยัง 2 ล้านกว่าๆ ตอนนี้เงินเฟ้อไปเท่าไรแล้ว
ผมว่าราคา 2.5-2.7 ล้านที่เขาตั้งมานี้มันก็ไม่ได้เกินเลยอะไรเท่าไรครับ

ส่วนที่เพื่อนๆเสนอมา ไม่ว่าจะ C-coupe , CT-200 หรือ CRZ ที่ท่าน จขกท ยกมาเปรียบนั้นมันรถคนละแนวกัน
สำหรับ scirocco ถึงแม้ feel จะแนวๆใกล้ๆกัน และดูเหมือนคุ้มกว่าเมื่อดูจากวัสดุและแบรนด์ แต่รถพวกนี้อย่าได้ให้เก่านะครับ
ยาวๆ 6-7 ปีขึ้นไปผมว่า scirocco นอกจากจะซ่อมจุกแล้ว ท่านยังต้องรออะไหล่ หาศูนย์ยาก เสีย ตจว.ยกสถานเดียว ฯลฯ
Toyota เขารู้ว่าลูกค้าต้องเอาส่วนนี้มาชั่งน้ำหนักด้วย เขาถึงกล้าตั้งราคานี้ครับ  
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: PREM ที่ มีนาคม 30, 2012, 13:36:30
ถ้าคันที่จอดอยู่ที่งาน ราคา 1,990,000 ผมว่าโอเคเลย
แต่นี่ 2,740,000 ไปนั่ง Scirocco เทียบแล้วสัมผัสคุณภาพมันต่างกันเยอะจริงๆ

คนที่จะซื้อคงต้องชอบรถญี่ปุ่นจริงๆ ไม่ได้มองแค่ความเท่หรือแรงอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Rampage Ghost ที่ มีนาคม 30, 2012, 13:50:46
แพงไปหน่อย แต่คิดๆดู เมื่อราว 10 ปีก่อน รถซิ่ง MRS DC5 S15 มันก็ราคาประมาณนีิ้
แม้แต่ปัจจุบัน MX5 ราคาก็เท่านี้ เรื่องวัสดุทุกคันที่ว่ามา ผมว่ามันก็แบบนี้แหละ
และเป็นเพราะเน้นลดน้ำหนักด้วย ประเภทสัมผัสหรูหรานุ่มมือ ปรับไฟฟ้า ไม่มีก็ถูกต้องแล้ว
ไปดู Elise หรือ Exige รุ่นพิเศษคันนึงแพงกว่า E92 M3 วัสดุกับออปชั่น...ไม่ต้องพูดถึง
รถแนวนี้ คนที่ซื้อ น่าจะเป็นคนที่เข้าใจ
ความเห็นส่วนตัวผมนะ สำหรับ 86 แค่คิดจะซื้อ เกียร์ออโต้ ก็คิดผิดแล้วล่ะ

รอดูตัว TRD อยู่ (สงสัยต้องรอของเกรย์)
มีตังล่ะโดนแน่เลย   :D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: kobshree ที่ มีนาคม 30, 2012, 14:01:14
หรือ ไม่ก็ C COUPE

1,800 cc  204 แรงม้า

(http://www.car2fast.com/uploadz/external/55591.jpg)

หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jae_156JR ที่ มีนาคม 30, 2012, 14:05:01
ดูๆแล้วบ้านเรา ถูกล้อมกรอบเรื่องราคา ทำให้ผู้บริโภคเวลาซื้อรถ เทียบราคาเป็นหลัก !!

ทั้งที่จริงๆแล้ว Scirocco, GTI รถคนล่ะ Segment กับ 86 อย่างสิ้นเชิง

ลักษณะการใช้งานก็แต่งต่างกัน ....รถยุโรปข้างต้นเนี่ยยังใหม่นักครับ รอดูกันยาวๆ วัสดุที่ว่า เจ๋งๆข้างใน

....เจออากาศบ้านเราเข้าไป ระยะยาวไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง

พวกรถยุโรปเท่าที่เคยสัมผัส W202 คันเก่าที่บ้าน แผงสวิชตัวเปิดไฟหน้ารถ ละลาย เหมือนกับ W211 อีกคัน ละลายตรงจุดเดียวกัน

Alfa 156 ป้ายแดงๆ ไม่ถึง 2 ปี มือจับประตู 4 ด้าน คอนโซลกลาง ละลายเป็นแตงเม ก็เห็นมาแล้ว

ส่วนเรื่อง 86 เราๆท่านๆคาดหวังไว้สูงไงครับ พอเปิดราคามาแบบนี้ ก็เลยย่อมผิดหวังตามๆกัน
อย่างที่ท่านนี้บอก....ผมเห็นด้วยเลยนะ

ส่วนที่เพื่อนๆเสนอมา ไม่ว่าจะ C-coupe , CT-200 หรือ CRZ ที่ท่าน จขกท ยกมาเปรียบนั้นมันรถคนละแนวกัน
สำหรับ scirocco ถึงแม้ feel จะแนวๆใกล้ๆกัน และดูเหมือนคุ้มกว่าเมื่อดูจากวัสดุและแบรนด์ แต่รถพวกนี้อย่าได้ให้เก่านะครับ
ยาวๆ 6-7 ปีขึ้นไปผมว่า scirocco นอกจากจะซ่อมจุกแล้ว ท่านยังต้องรออะไหล่ หาศูนย์ยาก เสีย ตจว.ยกสถานเดียว ฯลฯ
Toyota เขารู้ว่าลูกค้าต้องเอาส่วนนี้มาชั่งน้ำหนักด้วย เขาถึงกล้าตั้งราคานี้ครับ  

86 กับ BRZ ผมว่ามันมีจุดขายของมันอยู่ครับ อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจอะไรไป รอดูท่าทีไปอีกซักระยะ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 14:32:08
ดูๆแล้วบ้านเรา ถูกล้อมกรอบเรื่องราคา ทำให้ผู้บริโภคเวลาซื้อรถ เทียบราคาเป็นหลัก !!

ทั้งที่จริงๆแล้ว Scirocco, GTI รถคนล่ะ Segment กับ 86 อย่างสิ้นเชิง

ลักษณะการใช้งานก็แต่งต่างกัน ....รถยุโรปข้างต้นเนี่ยยังใหม่นักครับ รอดูกันยาวๆ วัสดุที่ว่า เจ๋งๆข้างใน

....เจออากาศบ้านเราเข้าไป ระยะยาวไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง

พวกรถยุโรปเท่าที่เคยสัมผัส W202 คันเก่าที่บ้าน แผงสวิชตัวเปิดไฟหน้ารถ ละลาย เหมือนกับ W211 อีกคัน ละลายตรงจุดเดียวกัน

Alfa 156 ป้ายแดงๆ ไม่ถึง 2 ปี มือจับประตู 4 ด้าน คอนโซลกลาง ละลายเป็นแตงเม ก็เห็นมาแล้ว

ส่วนเรื่อง 86 เราๆท่านๆคาดหวังไว้สูงไงครับ พอเปิดราคามาแบบนี้ ก็เลยย่อมผิดหวังตามๆกัน
อย่างที่ท่านนี้บอก....ผมเห็นด้วยเลยนะ

ส่วนที่เพื่อนๆเสนอมา ไม่ว่าจะ C-coupe , CT-200 หรือ CRZ ที่ท่าน จขกท ยกมาเปรียบนั้นมันรถคนละแนวกัน
สำหรับ scirocco ถึงแม้ feel จะแนวๆใกล้ๆกัน และดูเหมือนคุ้มกว่าเมื่อดูจากวัสดุและแบรนด์ แต่รถพวกนี้อย่าได้ให้เก่านะครับ
ยาวๆ 6-7 ปีขึ้นไปผมว่า scirocco นอกจากจะซ่อมจุกแล้ว ท่านยังต้องรออะไหล่ หาศูนย์ยาก เสีย ตจว.ยกสถานเดียว ฯลฯ
Toyota เขารู้ว่าลูกค้าต้องเอาส่วนนี้มาชั่งน้ำหนักด้วย เขาถึงกล้าตั้งราคานี้ครับ 

86 กับ BRZ ผมว่ามันมีจุดขายของมันอยู่ครับ อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจอะไรไป รอดูท่าทีไปอีกซักระยะ

ซื้อของถ้าไม่เทียบราคา เป็นหลัก จะให้เทียบอะไรครับ

ต้องคิดก่อนว่ามีเงินเท่าไหร่ ในงบนี้ซื้อ อะไรได้บ้าง ถึงจะมาคิดว่าัคันไหนโอเค หรือไม่ ด้วยปัจจัยอะไร

เรื่องศูนย์ ก็สำคัญจริง แต่ศูนย์เยอะ ไม่ได้หมายความว่าเข้าได้ทุกศูนย์  และถ้ามีปัญหา ผมก็ยกรถสถานเีดียว ไปศูนย์ที่พอใจอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นเรื่อง ยี่ห้อตรงนี้ ตัดทิ้งไปเลย เพราะทุกคัน จะประสบปัญหาใกล้เคียงกันแน่นอน

ที่เหลือ คงเป็นเรื่องของ รายละเีอียด ว่าจ่ายเท่าไหร่ พอใจเท่าไหร่ เ่ท่านั้นเอง

และในความเห็นผม 86 จ่ายเท่านี้ พอใจน้อยสุด เท่านั้นเอง  ขออย่าให้หลุดประเด็นที่ต้องการคุยเลยครับ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: heracrase ที่ มีนาคม 30, 2012, 14:35:07
แพงเกินจริงๆ จัด320d เด็ดกว่าราคานี้
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: TJA ที่ มีนาคม 30, 2012, 14:55:21
แพงไปหน่อย แต่คิดๆดู เมื่อราว 10 ปีก่อน รถซิ่ง MRS DC5 S15 มันก็ราคาประมาณนีิ้
แม้แต่ปัจจุบัน MX5 ราคาก็เท่านี้ เรื่องวัสดุทุกคันที่ว่ามา ผมว่ามันก็แบบนี้แหละ
และเป็นเพราะเน้นลดน้ำหนักด้วย ประเภทสัมผัสหรูหรานุ่มมือ ปรับไฟฟ้า ไม่มีก็ถูกต้องแล้ว
ไปดู Elise หรือ Exige รุ่นพิเศษคันนึงแพงกว่า E92 M3 วัสดุกับออปชั่น...ไม่ต้องพูดถึง
รถแนวนี้ คนที่ซื้อ น่าจะเป็นคนที่เข้าใจ
ความเห็นส่วนตัวผมนะ สำหรับ 86 แค่คิดจะซื้อ เกียร์ออโต้ ก็คิดผิดแล้วล่ะ

รอดูตัว TRD อยู่ (สงสัยต้องรอของเกรย์)
มีตังล่ะโดนแน่เลย   :D

ตามนี้เลยครับ
ถ้าจะมาให้คะแนนรถสปอร์ตจากวัสดุ ความหรูหราเป็นเรื่องใหญ่ๆ รถอย่างโลตัสคงตายจากสารบบไปนานแล้ว
บางทีวัตถุประสงค์ของคนที่ซื้อไปก็คงจะไม่เหมือนกัน และที่สำคัญคนที่ซื้อรถราคาระดับนี้ คงไม่ได้เอาไว้ใช้เป็นรถคันเดียวของที่บ้านแน่ๆ
แฮนด์ลิ่งกับสมรรถนะคงจะยังพูดอะไรมากนักไม่ได้มั้งครับว่าดีระดับไหน เพราะในบ้านเรายังไม่มีสำนักไหนได้รถมาลองขับกันเลย
ซึ่งถ้า86มีสมรรถนะที่ดีได้สมกับที่คนคาดหวัง ค่าตัวประมาณนี้กับรถดิบๆเอาไว้โยนท้ายออกเล่นๆในวันหยุดว่างๆ ก็คงจะไม่แพงอะไรนัก   8)

.-_-.
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jae_156JR ที่ มีนาคม 30, 2012, 16:13:16
ดูๆแล้วบ้านเรา ถูกล้อมกรอบเรื่องราคา ทำให้ผู้บริโภคเวลาซื้อรถ เทียบราคาเป็นหลัก !!

ทั้งที่จริงๆแล้ว Scirocco, GTI รถคนล่ะ Segment กับ 86 อย่างสิ้นเชิง

ลักษณะการใช้งานก็แต่งต่างกัน ....รถยุโรปข้างต้นเนี่ยยังใหม่นักครับ รอดูกันยาวๆ วัสดุที่ว่า เจ๋งๆข้างใน

....เจออากาศบ้านเราเข้าไป ระยะยาวไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง

พวกรถยุโรปเท่าที่เคยสัมผัส W202 คันเก่าที่บ้าน แผงสวิชตัวเปิดไฟหน้ารถ ละลาย เหมือนกับ W211 อีกคัน ละลายตรงจุดเดียวกัน

Alfa 156 ป้ายแดงๆ ไม่ถึง 2 ปี มือจับประตู 4 ด้าน คอนโซลกลาง ละลายเป็นแตงเม ก็เห็นมาแล้ว

ส่วนเรื่อง 86 เราๆท่านๆคาดหวังไว้สูงไงครับ พอเปิดราคามาแบบนี้ ก็เลยย่อมผิดหวังตามๆกัน
อย่างที่ท่านนี้บอก....ผมเห็นด้วยเลยนะ

ส่วนที่เพื่อนๆเสนอมา ไม่ว่าจะ C-coupe , CT-200 หรือ CRZ ที่ท่าน จขกท ยกมาเปรียบนั้นมันรถคนละแนวกัน
สำหรับ scirocco ถึงแม้ feel จะแนวๆใกล้ๆกัน และดูเหมือนคุ้มกว่าเมื่อดูจากวัสดุและแบรนด์ แต่รถพวกนี้อย่าได้ให้เก่านะครับ
ยาวๆ 6-7 ปีขึ้นไปผมว่า scirocco นอกจากจะซ่อมจุกแล้ว ท่านยังต้องรออะไหล่ หาศูนย์ยาก เสีย ตจว.ยกสถานเดียว ฯลฯ
Toyota เขารู้ว่าลูกค้าต้องเอาส่วนนี้มาชั่งน้ำหนักด้วย เขาถึงกล้าตั้งราคานี้ครับ 

86 กับ BRZ ผมว่ามันมีจุดขายของมันอยู่ครับ อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจอะไรไป รอดูท่าทีไปอีกซักระยะ

ซื้อของถ้าไม่เทียบราคา เป็นหลัก จะให้เทียบอะไรครับ

ต้องคิดก่อนว่ามีเงินเท่าไหร่ ในงบนี้ซื้อ อะไรได้บ้าง ถึงจะมาคิดว่าัคันไหนโอเค หรือไม่ ด้วยปัจจัยอะไร

เรื่องศูนย์ ก็สำคัญจริง แต่ศูนย์เยอะ ไม่ได้หมายความว่าเข้าได้ทุกศูนย์  และถ้ามีปัญหา ผมก็ยกรถสถานเีดียว ไปศูนย์ที่พอใจอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นเรื่อง ยี่ห้อตรงนี้ ตัดทิ้งไปเลย เพราะทุกคัน จะประสบปัญหาใกล้เคียงกันแน่นอน

ที่เหลือ คงเป็นเรื่องของ รายละเีอียด ว่าจ่ายเท่าไหร่ พอใจเท่าไหร่ เ่ท่านั้นเอง

และในความเห็นผม 86 จ่ายเท่านี้ พอใจน้อยสุด เท่านั้นเอง  ขออย่าให้หลุดประเด็นที่ต้องการคุยเลยครับ ;D ;D ;D

ผมแค่แสดงความเห็นของผมครับ ขอโทษถ้ามุมมองของผมผิด ขอโทษจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มีนาคม 30, 2012, 16:20:45
จริงนะครับ ถ้าไม่เทียบราคาแล้วจะเทียบอะไรล่ะครับ

และผมว่าถ้าเก็บเงิน ห้าแสนที่แพงขึ้นมา เอาไปซ่อมรถยุโรป ก็เป็นความคิดไม่เลวนะ แถมห้าแสนนั้นยังเก็บไว้ใช้หลัง 5ปี แสนกิโลด้วย
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: GeMiNi ที่ มีนาคม 30, 2012, 16:33:00
ตั้งแต่ราคาเปิดมาแบบนี้ ผมเลิกมอง86แล้วล่ะครับ
กลับไปคบรถยุโรป c200std 318i s60 ไม่ก็c coupe เกรย์ราคาพอๆกัน
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: templeboy ที่ มีนาคม 30, 2012, 16:37:47
ตั้งแต่ราคาเปิดมาแบบนี้ ผมเลิกมอง86แล้วล่ะครับ
กลับไปคบรถยุโรป c200std 318i s60 ไม่ก็c coupe เกรย์ราคาพอๆกัน


เช่นกันครับ...ผมเอา wallpaper GT-86 ออกจากหน้าจอไปเลยครับ  ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: GUDJA-MAN ที่ มีนาคม 30, 2012, 16:41:36
เรื่องราคานั้น ตอนแรกผมไม่ได้มองว่าแพง

เพราะคิดไว้ตั้งแต่ต้น ว่ายังไงมันก็ราคานี้อยู่แล้ว

แต่มาดูรถจริง ก็ผิดหวังกับภายในเหมือนกันครับ

หนังหุ้มเบาะเกรดต่ำ ไม่สมกับราคาค่าตัวสักเท่าไหร่

ซื้อมาแล้วลงทุนเปลี่ยนเบาะใหม่ ก็คงพอทำให้ดูดีขึ้นบ้าง

แต่ถึงยังไงเมื่อมองภาพรวม กับตัวเงินที่จ่ายไป

ผมคิดว่าเจ้า GT86 ก็ยังน่าสนใจอยู่นะ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ มีนาคม 30, 2012, 16:58:32
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเรามองหาอะไรจากรถคันนึง
การที่แต่ละคนมองหาสิ่งอย่างจากรถในคนละมุมกัน ทำให้แต่ละคนรู้สึกกับรถแต่ละคันไม่เหมือนกัน

การซื้อ 86 คนอยากจะซื้อเพราะอะไร
1. เพราะรูปทรง -> ความชอบส่วนตัว
2. เพราะต้องการรถขับเคลื่อนล้อหลัง ที่สไลด์ท้ายเล่นได้ -> มีรถอะไรบ้างที่ราคาถูกกว่ามัน..ป้ายแดง..แล้วขับหลัง
3. เพราะต้องการรถเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่ขับหลัง -> อันนี้ลองนึกดูว่ามีรถอะไรที่ทำแบบนี้ได้บ้าง
4. เพราะมั่นใจว่ารถญี่ปุ่นยังไงก็ไม่จุกจิกเท่ารถยุโรป

ถ้าเข้าข่าย 4 ข้อนี้ 86 ต่อให้แพงอย่างไรก็มีคนซื้อ
แต่ถ้าไม่ใช่ใน 3 ข้อนี้ 86 ก็ไม่ค่อยเหลืออะไรให้พูดแล้ว
CR-Z เองก็แพงในสายตาผม เพราะสัมผัสตัวจริงมาแล้ว ก็รู้สึกว่ามันเป็นรถที่ต้องทำต่อ..ช่วงล่างมันไม่ใช่
แรงเครื่องก็ไม่ใช่ เงินส่วนต่างราว 5 แสนบาทมันเริ่มน่าสนขึ้นตรงนี้ เพราะมีแนวโน้มที่จะเอาไปปรับจน
เป็นรถที่วิ่งได้เร็วมาก และขับได้คล่องมาก

แต่คุณก็ Power-oversteer ไม่ได้ในรถขับหน้า..ว่าแต่คุณรู้จัก Oversteer กันหรือเปล่า
ถ้ารู้จัก และ ชอบ..คุณจะทำมันได้ที่ไหนบ้าง..บนถนนหลวง? ทุกที่? หรือในสนามแข่ง
ถ้าบอกว่านิสัยดี ทำเฉพาะในสนามแข่ง...เดือนนึงไปสนามกี่ครั้ง? ถ้าไปเดือนละ 2 ครั้ง
ปีนึง 24 ครั้ง..คุ้มไหม?

คุณแค่ต้องการรถที่กระทืบแล้วสนุก มีชีวิตชีวาจากแรงกระชากไปข้างหน้า
เบรกสั่งได้ เลี้ยวคม ..หรือคุณสนุกกับการเล่นกับคันเร่งและบริหารท้ายรถ?

ผมเป็นคนประเภทอย่างแรก แต่การมาของ 86 ที่ได้ยินราคาลือตอนแรกทำให้ผมสนใจมัน
เพราะถึงแม้ตัวรถจะไม่ใช่สเป็คผม แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น..หากราคา 1.9 ล้าน
ส่วนต่างกับ VW GTi หลายแสน ผมเอาไปเสกให้มันขับสนุกยังไงก็ได้

แต่เปิดราคานี้มา ผมแทบบ้าเลย เพราะถ้าราคาเท่ากัน กับคนอย่างผม
ที่ไม่ได้รักอะไรก็รถขับเคลื่อนล้อหลังขนาดนั้น เหลือเหตุผลดีๆเพียงแค่ว่า
ผมยังได้มีโอกาสเหยียบคลัทช์และสับเกียร์เอง

เรื่องแรงผมมองว่า VW ชนะ..ในแบบสแตนดาร์ดอาจไม่ต่างกันมาก แต่ VW
สามารถจูนกล่อง ปรับบูสท์และเพิ่มแรงอีก 50 ตัวได้ แล้ว 86 ล่ะ? เพิ่มม้า
อีก 50 ตัวในงบ 5-8 หมื่นได้ไหม ได้! แต่ต้องทำ Turbo set up เอง
ดันพลังเอาเอง ถ้าดันมากไป เครื่องโบ๊ะตั้งแต่ยังป้ายแดง..ยอมเสี่ยงไหม

ที่สำคัญ..ไอ้ 5-8 หมื่นนี่คือการทำแบบเลือกของ หาของ ออกแบบระบบ
และทำเองทั้งหมด..ถ้าใช้ชุด Kit นำเข้าจากญี่ปุ่น ไม่มีทางอยู่ในงบนี้แน่


โปรดสังเกตว่าผมให้มุมมองส่วนตัว ในแง่ของความสนุกจากแรงดึง
คนที่ไม่สนแรงดึง แต่ชอบ Balance และ RWD ก็คงมอง VW ว่ามันไม่ใช่
รถสำหรับเขาอยู่แล้ว ผมแค่ชี้ให้เห็นแต่ละจุดว่าใครทำอะไรต่ออย่างไรได้บ้าง

แต่บอกตรงๆว่ายังไงๆก็รู้สึกไม่คุ้มกับราคาที่จ่าย สำหรับ 86 ครับ
เป็นรถที่ผมไม่ได้เกลียดที่ตัวรถ ผมนั่งมาแล้ว ผมนั่งได้ และตำแหน่งต่างๆเป๊ะมาก
สำหรับผม แต่ถ้ามันถูกกว่านี้สัก 500,000 บาท ผมว่ามันจะเป็นสปอร์ตมหาชนได้ไม่ยาก

แต่พอเปิดมา 2.5 ล้าน..ผมว่าถ้าต้องการ enjoyment จากการขับหลัง ผมไปหา Silvia เก่าๆ
มาบูรณะทำใหม่ก็ได้ครับ (แต่ก็เหอะนะ..ไอ้ Silvia S15 ก็เป็นรถเก่าที่ถูกปั่นราคาจนไม่น่าคบเลยจริงๆ)


หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Noctis Lucis Caelum ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:11:39
ผมว่ารออีกสักพักน่าจะมีรถที่ทำได้ไกล้เคียงกันออกมานะครับ หรือไม่เช่นนั้น GT86 ยอดไม่ตรงเป่า
ก็อาจจะมีการปรับราคา ตามสไตล์โตโยต้าออกมาอยู่ดี
ส่วนตัวผมว่ารอดูท่าทีอีกสักพักดีไหมครับ แล้วค่อยสรุปว่า GT86 ทำออกมาได้ตรงใจหรือเปล่า
ราคาผมว่ามันแรงไปนะ จากที่ดูวัสดุ การประกอบ แล้ว ราคาไม่ควรแรงขนาดนั้น

หรือลองรอดู subaru BRZ ไหม ว่าทำออกมาได้น่าสนใจแค่ไหน ค่อยว่ากันอีกทีก็ได้ครับ 

หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:12:56
รถแต่ละคันถูกออกแบบมาให้มีเอกลักษณ์ของตัวมันเอง
ถ้าเราจะเทียบอย่างลึกซึ้งต้องเทียบให้ตรงจุด
ตรงโพสิชั่นที่เขาวางไว้ว่าเขาอยากจะทำรถแบบนี้มาเพื่อนแข่งขันกับรถอะไร
คู่แข่งโดยตรงของรถลักษณะนี้คือรถอะไร ยี่ห้ออะไร

แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่า รถทุกเซกเมนท์มันก็มีส่วนเหลื่อมล้ำกัน
จะเทียบกันแบบตรงๆเป๊ะบางทีมันก็ยาก เพราะฉะนั้นจุดนี้ไม่มีใครถูกใครผิด
แล้วแต่วินิฉัยของแต่ละคน แล้วแต่งบประมาณของแต่ละคน

ยกตัวอย่างเช่น  CLS กับ A7 อย่านี้สิตรงรุ่น ชกกันเต็มๆ เปรียบมวยตัวต่อตัว
แต่จะเอา A7 ไปเปรียบกับ E class หรือเปรียบกับ cayenn หรือ GTR ที่ราคามันใกล้กัน
แต่คนละเซ้กเมนท์ ถามว่าเปรียบได้ไหม ก็เปรียบได้ แต่มันไม่ตรงจุดซะทีเดียว

เพราะฉะนั้น คนที่เปรียบเทียบทุกคนที่ว่ามาข้างต้น ถูกหมดทุกคน
อยู่ที่ว่าจะมองมุมไหน ถ้าคนที่มีรถเต็มบ้าน อยากจะได้ sport อีกคันที่ไม่ได้แรงมากมาย
เน้นขับสนุก และได้อารมณ์ sport ขนาดแท้ 86 ก็น่าเป็นช้อยส์ที่ถูกต้องน่าเลือกมากๆ

แต่ถ้าคนที่ไม่ได้รวยมากมาย ต้องการใช้เงินที่คุ้มค่าที่สุด
ก็ต้องเผื่อใจไว้ทุกประเด็นเช่น พกลูกได้ ขนของได้ แต่งต่อได้
ราคาไม่ตก นั่งไม่ลำบาก เมียขับได้ และอื่นๆ..... อันนี้เขาก็ต้องเอารถทุกประเภทมาเปรียบ

ไม่มีใครผิดใครถูกครับ ..............
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:18:07
ส่วน 86 ผมเคยฟังธงไปแล้วว่าราคา 1.9 ถ้าออกศูนย์โตโยต้า
คงเป็นไปไม่ได้ แล้วก็จริงอย่าที่คาด

สู้ต่อไปทาเคชิ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Wisidsak ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:20:20
"รสนิยม" ล้วนๆ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: menglovekai ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:25:19
ผมว่าราคามัน โหดร้ายไปหน่อย เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ 

สำหรับ รถขับเล่น ผมเอา cefiro วาง 2J bo ดีกว่า  เพิ่มโช๊คเทพ ล้อเทพ เบรคเทพ  ไม่ถึงล้าน  ไม่ต้องถนอมรถ ซัดเต็มที่

ที่สำคัญ เอาตังค์ 2.6 ล้านเพื่อมาซัดวันหยุด คนอื่นๆอาจจะสบายนะ  สำหรับผม ไม่ไหวอ่ะ เสียดายของจริงๆ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: bluewish ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:28:36
คิดจริงๆนะว่าถ้าเปิดสัก 1.9 จะกัดฟันเป็นหนี้สัก 5 ปี
แต่พอราคาจริงออกมา ใส่เกียร์ถอยกดคันเร่งมิดเท้าเลย

และแล้ว ที่บ้านก็ยังไม่มีรถ Toyota สักคัน...ไม่มีมันต่อไป
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:33:30
โตโยต้าข้อเสียคือ ราคามั่นใจตลอด
(ไม่เข็ดจาก Yaris แหงๆ)
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: liveshow ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:40:27
ตัวรถน่าสนมาก แต่ราคามันก็ต้องคุยกันก่อนซื้อถ้าลดมาซัก 2-3แสน ก็ดี

ผมยังคุยกับแฟนเลยว่า คนที่สองขอเป็น สองประตู 4ที่นั่งนะ และต้องเป็นรถขับหลังนะ
แฟนผมก็ Ok และก็ถามต่อว่า เอาวีโก้ หรือนาวาร่าละ

ตึ่ง ! โป๊ะ !
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: speedpicking ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:43:34
ผมว่า รอไปอีกซักพักนึง หากมีชุด kit แต่งของค่ายต่างๆออกมา  และเรารู้ข้อมูลมากขึ้นของ เครื่องยนต์ตัวนี้

ไม่แน่นะครับ ถ้าเครื่องตัวนี้ ออกแบบมาดี  ทนต่อการจูน เช่น อาจจะเป็นลูกสูบ forge มาให้จากโรงงาน เราไม่รู้นี่ครับ (ผมไม่รู้อะนะ เพราะไม่ได้ติดตาม แต่ก็ไม่แน่)

ถ้ามันทน จน ใส้ในเดิม รับม้าได้สูงมาก มาในแนว เครื่อง J อะไรแบบนี้ ผมว่ามันจะคุ้มมากๆ
เพราะ สังเกตดูแล้ว รอบเครื่อง ของ FA20 ไม่สูงมาก แค่ 7000 rpm ก็ได้มา 200 ม้าแล้ว

เพราะอย่างลืมว่า ตัว sti ของ subaru ที่จะออกเป็น 250hp เค้าไม่ได้ยุ่งใส้ในเดิมเลย ทำเพียงแค่ระบบ intake เพียงเท่านั้น ลองนึกภาพ อย่างพวก TOP SECRET ออก GT 300 กับใส้ในเดิมๆ (ถ้าเป็นไปได้) ผมว่า ได้เห็นกันบนถนนมากกว่าตัวเดิมแน่ๆ เพราะความคุ้มค่า อาจมาอยู่ในตัวเครื่องที่ออกแบบได้ดี ก็ได้

(http://www.ft86club.com/forums/attachment.php?attachmentid=5777&stc=1&d=1332950594)
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 17:57:24
ดูๆแล้วบ้านเรา ถูกล้อมกรอบเรื่องราคา ทำให้ผู้บริโภคเวลาซื้อรถ เทียบราคาเป็นหลัก !!

ทั้งที่จริงๆแล้ว Scirocco, GTI รถคนล่ะ Segment กับ 86 อย่างสิ้นเชิง

ลักษณะการใช้งานก็แต่งต่างกัน ....รถยุโรปข้างต้นเนี่ยยังใหม่นักครับ รอดูกันยาวๆ วัสดุที่ว่า เจ๋งๆข้างใน

....เจออากาศบ้านเราเข้าไป ระยะยาวไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง

พวกรถยุโรปเท่าที่เคยสัมผัส W202 คันเก่าที่บ้าน แผงสวิชตัวเปิดไฟหน้ารถ ละลาย เหมือนกับ W211 อีกคัน ละลายตรงจุดเดียวกัน

Alfa 156 ป้ายแดงๆ ไม่ถึง 2 ปี มือจับประตู 4 ด้าน คอนโซลกลาง ละลายเป็นแตงเม ก็เห็นมาแล้ว

ส่วนเรื่อง 86 เราๆท่านๆคาดหวังไว้สูงไงครับ พอเปิดราคามาแบบนี้ ก็เลยย่อมผิดหวังตามๆกัน
อย่างที่ท่านนี้บอก....ผมเห็นด้วยเลยนะ

ส่วนที่เพื่อนๆเสนอมา ไม่ว่าจะ C-coupe , CT-200 หรือ CRZ ที่ท่าน จขกท ยกมาเปรียบนั้นมันรถคนละแนวกัน
สำหรับ scirocco ถึงแม้ feel จะแนวๆใกล้ๆกัน และดูเหมือนคุ้มกว่าเมื่อดูจากวัสดุและแบรนด์ แต่รถพวกนี้อย่าได้ให้เก่านะครับ
ยาวๆ 6-7 ปีขึ้นไปผมว่า scirocco นอกจากจะซ่อมจุกแล้ว ท่านยังต้องรออะไหล่ หาศูนย์ยาก เสีย ตจว.ยกสถานเดียว ฯลฯ
Toyota เขารู้ว่าลูกค้าต้องเอาส่วนนี้มาชั่งน้ำหนักด้วย เขาถึงกล้าตั้งราคานี้ครับ 

86 กับ BRZ ผมว่ามันมีจุดขายของมันอยู่ครับ อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจอะไรไป รอดูท่าทีไปอีกซักระยะ

ซื้อของถ้าไม่เทียบราคา เป็นหลัก จะให้เทียบอะไรครับ

ต้องคิดก่อนว่ามีเงินเท่าไหร่ ในงบนี้ซื้อ อะไรได้บ้าง ถึงจะมาคิดว่าัคันไหนโอเค หรือไม่ ด้วยปัจจัยอะไร

เรื่องศูนย์ ก็สำคัญจริง แต่ศูนย์เยอะ ไม่ได้หมายความว่าเข้าได้ทุกศูนย์  และถ้ามีปัญหา ผมก็ยกรถสถานเีดียว ไปศูนย์ที่พอใจอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นเรื่อง ยี่ห้อตรงนี้ ตัดทิ้งไปเลย เพราะทุกคัน จะประสบปัญหาใกล้เคียงกันแน่นอน

ที่เหลือ คงเป็นเรื่องของ รายละเีอียด ว่าจ่ายเท่าไหร่ พอใจเท่าไหร่ เ่ท่านั้นเอง

และในความเห็นผม 86 จ่ายเท่านี้ พอใจน้อยสุด เท่านั้นเอง  ขออย่าให้หลุดประเด็นที่ต้องการคุยเลยครับ ;D ;D ;D

ผมแค่แสดงความเห็นของผมครับ ขอโทษถ้ามุมมองของผมผิด ขอโทษจริงๆครับ

อืม ตรงนี้ผมไม่ได้ไปตำหนิว่า ใครผิดใครถูกนะครับ   ไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไร  เพียงแต่กลัวกระทู้กลายพันธุ์์ไปเป็นเถียงว่าคันไหนดีกว่าเพียงเท่านั้นครับ

ส่วนที่เอามา quote เพราะอยากจะเน้นว่า ซื้อรถ ราคาสำคัญมากครับ มองข้ามไม่ได้หรอก เราไม่ได้ร่ำรวยจากไหน ก็ทำงานแลกมาทั้งนั้นครับ ขอเพียงแลกมาแล้ว เรามองในมุมเราว่าคุ้มค่า ก็โอเคครับ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BRiGHT< ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:00:28
ผมว่าราคาขนาดนี้คงต้องความชอบส่วนตัวจริงๆ


 
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: gttle ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:02:11
ผมว่า 86 กับ vw และ benz ที่เทียบๆกันมามันคนละอย่างกันเลยนะ 86  นี่คือมันเป็นรถ sport นะครับปกติรถประเภทนี้จะเอาหรูขนาดไหนในเมื่อหัวใจมันคือขับสนุก น้ำหนักเบา balance ดีแล้วได้พวกหรูๆน่ะจะใส่มาให้หนักทำไมครับ? ยิ่งถ้ามันเป็นรถที่ทำมาเพื่อเอาไปโมต่อง่ายมันก็ต้องถอดต้องเปลี่ยนกันอยู่แล้ว

vw เป็น hothatch  benz ก็เป็น coupe เฉยๆ ไม่ได้เน้นความเป็น sport ขนาดนั้น concept มันห่างกันเยอะนะครับ

ลองหารถแบบเดียวกับ 86 มาเทียบสิครับราคานี้มียี่ห้อไหนบ้าง

ถ้าจะเทียบกันผมว่ามันต้องเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ก่อนนะว่ามันเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Despinaauto ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:15:16
    ผมเห็นด้วยอย่างมากกับ จขกท.  ผมรับไม่ได้กับ 86 ที่ดุคุณภาพอย่างที่เห็นๆ  การขับขี่ไม่รุ้เพราะไม่ได้ลอง  เครื่องแค่ 200 แรงม้า จะทำได้ดีแค่ไหน

    กับการที่ต้องขับขี่ในทางหลวง  ไม่ใช่สนามแข่ง

    สำหรับผม  การเลือกของต้องมองที่ความคุ้มค่า  เทียบกับประสิทธิภาพ  และคุณภาพที่จะได้กลับมา

    เพื่อนผมที่รวยบ้านมีเป็นร้อย เป็นพันล้าน ทุกคนเวลาซื้อของพิจารณาอย่างดี  เหนียวกว่าคนจนกว่าอีก  หรือจะเป็นสิ่งที่สอนกันมา

    แต่บางครั้งการเลือกของบางชิ้น  ก็จะมีคนที่เลือกได้แบบใช้อารมณ์เหนือเหตุผล  ก็ไม่ผิดครับ  เพราะเป็นสิ่งที่สร้างมูลค่าทางจิตใจให้เรา

    สรุป ก็คือแล้วแต่มุมมองแต่ละบุคคล และเหตุผลแต่ละคนครับ  ไม่งั้นคงมีรถแบบเดียวกันขับเต็มถนน    
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nuuhamster ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:20:56
ผมชอบมาก ภายใน sport ดี

เรื่องอย่างอื่นไม่สนแล้วรถแบบนี้
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:24:45
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเรามองหาอะไรจากรถคันนึง
การที่แต่ละคนมองหาสิ่งอย่างจากรถในคนละมุมกัน ทำให้แต่ละคนรู้สึกกับรถแต่ละคันไม่เหมือนกัน

การซื้อ 86 คนอยากจะซื้อเพราะอะไร
1. เพราะรูปทรง -> ความชอบส่วนตัว
2. เพราะต้องการรถขับเคลื่อนล้อหลัง ที่สไลด์ท้ายเล่นได้ -> มีรถอะไรบ้างที่ราคาถูกกว่ามัน..ป้ายแดง..แล้วขับหลัง
3. เพราะต้องการรถเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่ขับหลัง -> อันนี้ลองนึกดูว่ามีรถอะไรที่ทำแบบนี้ได้บ้าง
4. เพราะมั่นใจว่ารถญี่ปุ่นยังไงก็ไม่จุกจิกเท่ารถยุโรป

ถ้าเข้าข่าย 4 ข้อนี้ 86 ต่อให้แพงอย่างไรก็มีคนซื้อ
แต่ถ้าไม่ใช่ใน 3 ข้อนี้ 86 ก็ไม่ค่อยเหลืออะไรให้พูดแล้ว
CR-Z เองก็แพงในสายตาผม เพราะสัมผัสตัวจริงมาแล้ว ก็รู้สึกว่ามันเป็นรถที่ต้องทำต่อ..ช่วงล่างมันไม่ใช่
แรงเครื่องก็ไม่ใช่ เงินส่วนต่างราว 5 แสนบาทมันเริ่มน่าสนขึ้นตรงนี้ เพราะมีแนวโน้มที่จะเอาไปปรับจน
เป็นรถที่วิ่งได้เร็วมาก และขับได้คล่องมาก

แต่คุณก็ Power-oversteer ไม่ได้ในรถขับหน้า..ว่าแต่คุณรู้จัก Oversteer กันหรือเปล่า
ถ้ารู้จัก และ ชอบ..คุณจะทำมันได้ที่ไหนบ้าง..บนถนนหลวง? ทุกที่? หรือในสนามแข่ง
ถ้าบอกว่านิสัยดี ทำเฉพาะในสนามแข่ง...เดือนนึงไปสนามกี่ครั้ง? ถ้าไปเดือนละ 2 ครั้ง
ปีนึง 24 ครั้ง..คุ้มไหม?

คุณแค่ต้องการรถที่กระทืบแล้วสนุก มีชีวิตชีวาจากแรงกระชากไปข้างหน้า
เบรกสั่งได้ เลี้ยวคม ..หรือคุณสนุกกับการเล่นกับคันเร่งและบริหารท้ายรถ?

ผมเป็นคนประเภทอย่างแรก แต่การมาของ 86 ที่ได้ยินราคาลือตอนแรกทำให้ผมสนใจมัน
เพราะถึงแม้ตัวรถจะไม่ใช่สเป็คผม แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น..หากราคา 1.9 ล้าน
ส่วนต่างกับ VW GTi หลายแสน ผมเอาไปเสกให้มันขับสนุกยังไงก็ได้

แต่เปิดราคานี้มา ผมแทบบ้าเลย เพราะถ้าราคาเท่ากัน กับคนอย่างผม
ที่ไม่ได้รักอะไรก็รถขับเคลื่อนล้อหลังขนาดนั้น เหลือเหตุผลดีๆเพียงแค่ว่า
ผมยังได้มีโอกาสเหยียบคลัทช์และสับเกียร์เอง

เรื่องแรงผมมองว่า VW ชนะ..ในแบบสแตนดาร์ดอาจไม่ต่างกันมาก แต่ VW
สามารถจูนกล่อง ปรับบูสท์และเพิ่มแรงอีก 50 ตัวได้ แล้ว 86 ล่ะ? เพิ่มม้า
อีก 50 ตัวในงบ 5-8 หมื่นได้ไหม ได้! แต่ต้องทำ Turbo set up เอง
ดันพลังเอาเอง ถ้าดันมากไป เครื่องโบ๊ะตั้งแต่ยังป้ายแดง..ยอมเสี่ยงไหม

ที่สำคัญ..ไอ้ 5-8 หมื่นนี่คือการทำแบบเลือกของ หาของ ออกแบบระบบ
และทำเองทั้งหมด..ถ้าใช้ชุด Kit นำเข้าจากญี่ปุ่น ไม่มีทางอยู่ในงบนี้แน่


โปรดสังเกตว่าผมให้มุมมองส่วนตัว ในแง่ของความสนุกจากแรงดึง
คนที่ไม่สนแรงดึง แต่ชอบ Balance และ RWD ก็คงมอง VW ว่ามันไม่ใช่
รถสำหรับเขาอยู่แล้ว ผมแค่ชี้ให้เห็นแต่ละจุดว่าใครทำอะไรต่ออย่างไรได้บ้าง

แต่บอกตรงๆว่ายังไงๆก็รู้สึกไม่คุ้มกับราคาที่จ่าย สำหรับ 86 ครับ
เป็นรถที่ผมไม่ได้เกลียดที่ตัวรถ ผมนั่งมาแล้ว ผมนั่งได้ และตำแหน่งต่างๆเป๊ะมาก
สำหรับผม แต่ถ้ามันถูกกว่านี้สัก 500,000 บาท ผมว่ามันจะเป็นสปอร์ตมหาชนได้ไม่ยาก

แต่พอเปิดมา 2.5 ล้าน..ผมว่าถ้าต้องการ enjoyment จากการขับหลัง ผมไปหา Silvia เก่าๆ
มาบูรณะทำใหม่ก็ได้ครับ (แต่ก็เหอะนะ..ไอ้ Silvia S15 ก็เป็นรถเก่าที่ถูกปั่นราคาจนไม่น่าคบเลยจริงๆ)




เหอๆ จริงๆ กระทู้นี้ แอบดักคุณแพนนิดหน่อย ว่าจะคิดเห็นอย่างไร คิดว่าตั้งหัวข้อกระทู้ 86 น่าจะมาแน่

คุณแพนเป็นคนที่ผมชื่นชอบแนวการตอบคำถามเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมเห็นด้วยกับที่พูดว่า   ซื้อ 86 เพราะอะไร ใน 4 ข้อนี้

1.สวย เกือบใช่เพราะมันไม่ถึงกับสวย ถ้านับว่าสวย รถผมก็สวยพอ ไม่จำเป็นต้องเปลียนแต่งต่อนิดหน่อยก็พอ
2.ต้องการขับหลังไปสไลด์  ไม่มีโอกาสเลยครับ วิ่งไปทำงาน กลับบ้านต่างจังหวัด คิดจะไปลองวิ่งในสนาม จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไป
3.เกียร์ manual ขับเข้ากรุงเทพไม่ไหวละครับ เคยเอา civic dimension คันเก่ามาวิ่ง ปวดขา
4.มั่นใจใน toyota อันนี้เข้าวิน คิดว่าน่าจะไม่จุกจิก มันไม่ได้มีระบบอะไรซับซ้อน

สรุป 4 ข้อ ได้ 1.5 แต้ม แถม 1 แต้มดันมาจากความเป็น toyota ไม่ใช่ความเป็น 86  ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผมจะซื้อ 86 ในราคาเท่านี้  ถ้า 2.2 M ผมโดดจับเลย ถือว่าราคาสมเหตุผล"สำหรับผม"

ส่วน CRZ แพง แต่ก็ยังดูสมเหตุผลสำหรับผม เพราะเคยหาซื้อเกรย์แล้วไม่ต่ำกว่าสองล้านเลยบริการก็ยังเสียวๆว่าจะซ่อมไฮบริดได้ปรือเปล่า  เรียกว่าเปิดมาราคานี้ อมยิ้มเลยทีเดียว ทำช่วงล่างซักนิด ทำเครื่องซักหน่อย ก็ขับสนุกได้พอตัว

เงินส่วนต่าง เติมน้ำมัน แต่ง ช่วงล่าง เที่ยว แล้วยังเหลืออีกเยอะเลย   ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:28:36
ผมว่า 86 กับ vw และ benz ที่เทียบๆกันมามันคนละอย่างกันเลยนะ 86  นี่คือมันเป็นรถ sport นะครับปกติรถประเภทนี้จะเอาหรูขนาดไหนในเมื่อหัวใจมันคือขับสนุก น้ำหนักเบา balance ดีแล้วได้พวกหรูๆน่ะจะใส่มาให้หนักทำไมครับ? ยิ่งถ้ามันเป็นรถที่ทำมาเพื่อเอาไปโมต่อง่ายมันก็ต้องถอดต้องเปลี่ยนกันอยู่แล้ว

vw เป็น hothatch  benz ก็เป็น coupe เฉยๆ ไม่ได้เน้นความเป็น sport ขนาดนั้น concept มันห่างกันเยอะนะครับ

ลองหารถแบบเดียวกับ 86 มาเทียบสิครับราคานี้มียี่ห้อไหนบ้าง

ถ้าจะเทียบกันผมว่ามันต้องเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ก่อนนะว่ามันเป็นยังไง

ผมเข้าใจดีครับว่ารถแต่ละคันเป็นอย่างไร เงินขนาดนี้ผมศึกษาหาข้อมูลเป็นปีๆ กว่ารถจะออก ทดลองขับคันแล้วคันเล่า แล้วคุณล่ะเข้าใจผมรึเปล่า เขียนอธิบายมาตั้งมากมายแล้ว ::)
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Nirvash ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:36:11
ความคุ้มของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันจริงๆ
KTM-X Bow หลังคายังไม่มีให้เลย ขับในเมืองโคตรอันตราย ราคาเฉียด 9 ล้านบาท ผมเห็นมีคนซื้อด้วย  :P

แต่ก็นะ รถสปอร์ทขับหลัง มีเกียร์ธรรมดา  
ในไทยป้ายแดงราคาเท่านี้ นึกออกแค่ MX-5 (สั่งเกียร์ธรรมดาจากเกรย์ได้อยู่แล้ว ราคาคงไม่หนี 86 )
ถ้าไม่ได้คลั่งไคล้ว่าต้องเป็นรถขับหลัง ของแต่งเยอะ ผมว่าคนคงมองผ่าน 86 ไปอยู่แล้ว มันค่อนข้างเฉพาะกลุ่มจริงๆ
RCZ ยังดูหล่อกว่าเลย

สำหรับผม ราคา 86 พอไปเทียบกับรถที่ดูแล้วโคตรจะไม่คุ้มแต่ขายดีอย่าง Mini
ก็ดูไม่แพงเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:36:23
86 ตัวนี้เขาทำมากรุยทางเพื่อเป็นตำนานครับ
ใครว่าไม่แรง เดี๋ยวมีรุ่นแรงกว่านี้ออกมาแน่ๆ ใจเย็นๆ
แต่ราคาก็เตรียมขายบ้านซื้อรถกันได้เลย

ไอ้พวกเรื่องรวยแต่เหนียวไม่เหนียว หรือบอกว่าเป็นสิ่งที่สอนกันมา
อันนี้คงไม่ขอเอาเป็นประเด็น เดี๋ยวจะมีคนใจร้อนเอามาเป็นประเด็นเป็นกระทู้กลายพันธ์อีก 5555555

แต่ผมขอเอาแต่ใจตัวเอง จากที่ผมได้มีโอกาสได้ขับรถสปอตร์หลายๆยี่ห้อ มีเพื่อนที่มีรถดีๆขับ
และมีญาติพี่น้องที่ชอบรถสปอตร์ ผมฟันธงว่า ราคานี้แพงไปนิด แต่ก็เหมาะสมครับ ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากมาย
ถ้าเพื่อนๆถามว่าเอาอะไรมาวัด ผมก็ต้องขอบอกว่า จากการที่ได้ขับรถเป็นสิบๆรุ่น
ทั้งสปอตร์พันแท้ พันทาง ทั้งกระบะ ทั้งรถบรรทุก และอื่นๆ นั่งยัน นอนยันว่า ราคานี้ในเมืองไทยรวมภาษี
พอรับไหวครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าให้เลือกผมก็ไปเอา Golf GTI ดีกว่า ถึงแม้จะไม่ได้อารมณ์สปอตร์
แต่ก็พอหน้าม้านๆไปแจมกับเขาได้ครับ และราคาถูกมากจนผมคิดว่ามันจะเอากำไรตรงไหนฟระ
แต่เชื่อเถอะไอ้เพื่อนๆผมที่มันบ้ารถ มันต้องซื้อแน่ๆ
เพราะราคาระดับนี้ เทียบตัวต่อตัว รถเสป็กเดียวกันจังๆ 86 ยังถือเป็นหนึ่งในตองอูครับ ฟังธง...
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:39:26
Lotus ที่มามันเป็นรถดิบอยู่แล้วนี่ครับในสนามมันไม่เป็นรองใครเลยมีเอกลักษณ์ของมันว่ามันคือรถที่พร้อมลงสนามแต่เจ้านี่มันไม่ใช่เลยล่ะ ดังนั้นเรื่อวัสดุคงมาเทียบโลตัสไม่ได้ คนละชั้น
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:48:19
ถ้ามันไม่เกิน 2.5 ล้านผมว่าน่าจะไม่มีใครบ่นอะไร :P
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:50:18
ถ้ามันไม่เกิน 2.5 ล้านผมว่าน่าจะไม่มีใครบ่นอะไร :P

that's right!!!
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 18:56:23
Lotus ที่มามันเป็นรถดิบอยู่แล้วนี่ครับในสนามมันไม่เป็นรองใครเลยมีเอกลักษณ์ของมันว่า
มันคือรถที่พร้อมลงสนามแต่เจ้านี่มันไม่ใช่เลยล่ะ ดังนั้นเรื่อวัสดุคงมาเทียบโลตัสไม่ได้ คนละชั้น

ถูกต้องครับ อย่าง lotus ไม่นับ evora ที่เริ่มกลายพันธ์
เขามี position ของเขาอยู่แล้ว แต่ 86 ถึงไม่ใช่แต่ก็ไม่หนีกันมาก
อาจจะไม่ได้เอาไว้ลงสนามโดยตรง แต่ก็ทำไว้ให้คนชอบรถ ชอบความเร็ว
ได้มีความสุขทุกเวลาที่ได้ขับมัน

ผมนะโคดเกลียด Golf GTI  Audi TT Boxster Mini จังเลย
ปุ่มอะไรฟระเต็มไปหมด ใช้งานทีก็ลำบาก จะขับรถนะเฟ้ยไม่ใช่ขับเรือบิน
เอาแบบง่ายๆโง่ๆได้ไหม ปุ่มน้อยๆใช้ง่ายๆ คลำก็เจอ ไม่ต้องเพ่งแล้วเพ่งอีก
มองแล้วมองอีกก็ยังดูไม่ออกเลยว่ามันปุ่มอะไร

ผมชอบรถ ผมชอบการขับขี่ ชอบเสียงเครื่องยนต์ ชอบฟิลลิ่งในการขับรถ
ผมไม่ชอบอุปกรณ์อิเลคโทรนิคบ้าบอมากมาย เครื่องเสียงไฮเอนด์ ที่ไม่เคยเปิดฟัง
ถ้าผมมีรถที่บ้านอยู่้แล้ว แล้วผมอยากได้อีกสักคันใช้ขับไปซิ่งกับเพื่อนๆวันอาทิตย์
เอาไปลงสนามบ้าง เดินทาง ตจว บ้าง ขับเวลาเครียดๆจากงานบ้าง ผมก็คงหันมามอง 86 บ้าง

แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนประเภทนี้ รถอื่นๆมีให้คุณเลือกมากมาย ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดครับ

สุดท้ายก่อนที่เพื่อนๆจะวิจารณ์อะไรเลยเถิด
ผมขอข้อคิดสักอย่างนะครับว่า

รถมันเลือกคน ไม่ใช่คนเลือกรถ

โดยเฉพาะรถสปอตร์ รถมันถูกทำไว้ก่อนให้ลูกค้าจะมาเลือกมันอีก
คนที่เขาทำรถเขาคิดไว้แล้วว่าจะให้คนแบบไหนมาขับ
เพราะฉะนั้น 86 มันเลือกคนขับว่าควรจะเป็นใคร อุปนิสัยอย่างไร
ชอบรถขนาดไหน เข้าไส้ขนาดไหน
มีตังขนาดไหน พอค่าเลี้ยงดูไหม และอื่นๆ
ซึ่งถ้าไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ อยู่กันไม่นานแน่ๆ เดี๋ยวก็พาลจะขายรถทิ้งเปล่าๆ


แต่ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้และคนอื่นๆที่ผิดหวังกับ 86 นะครับ
ผมเองก็ผิดหวังเหมือนกัน เพราะข่าววงในมันแว่วมาว่าชัวร์ 100 เปอร์เซ็นกะราคา
กะจะกัดฟันผ่อนสัก 7 ปี แต่มาเจอราคาแบบนี้ ถอยไปตั้งหลักก่อน
คิดได้แล้วจะหาสินสอดมาแต่ง คิดไม่ได้ก็ไปหาน้องนางที่ลีลาไม่สะเด่า หุ่นไม่เพียวเท่า
แค่พอปลุกใจชายวัยกลางคนได้ก็พอ เช่น GTI นั่นเอง....

GTI โคดคุ้ม..... ถูก และดี หาได้ที่ไหน
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:04:34
ลองดูราคาที่เมืองนอกแล้วกันครับแล้วลองเทียบกับรถคันอื่นดู

ถ้าสมมติว่า 86 ตัวท้อปในตลาดอื่น ราคาถูกกว่า Golf GTi
ถูกกว่า WRX Std. แล้วพอมาประเทศไทย ราคาเท่ากัน อันนี้ก็คงต้องคิดแล้วครับ
ว่ามันแพง เพราะมันแพงในการสร้าง หรือมันแพงเพราะใครบางกลุ่ม
แค่อยากจะขูดเลือดคนไทย มันอาจเป็นไปได้ทั้งสองอย่างนะ

ปกติ ผมจะไม่เงยหน้าดูเกรย์หรอกครับว่าเขาจะตั้งราคากันเท่าไหร่
แต่ 86 จะเป็นคันแรกที่ผมจะรอดูเลยว่าเกรย์จะตั้งราคากันเท่าไหร่
และ BR-Z จะตั้งราคาเท่าไหร่

บางทีรู้ก็รู้ครับว่าของมันน่าจะดีที่สุดในคลาสกับราคานี้
แต่ในใจอยากรู้เหมือนกันว่ามันค่าของล้วนๆหรือค่ากำไร..
ต่อให้เราเข้าใจในรูปแบบและประเภทของรถ หรือเจอข้อเสียแต่รับได้
แต่ถ้าเราได้ราคาที่ถูกลง ผมว่าพวกเราก็ชอบมากกว่าอยู่ดี

รอดูราคาเมืองนอกครับ อังกฤษ เดือนมิถุนา ออสเตรเลียเดือนมิถุนา
ญี่ปุ่น เดือนหน้า แล้วเทียบราคากับรถรุ่นอื่นในตลาดเขาดูกัน
ถึงตอนนั้นผมค่อยคิดว่าตกลงมันแพงเพราะต้นทุน หรือแพงเพราะกำไร


หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Nirvash ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:08:04
Lotus ที่มามันเป็นรถดิบอยู่แล้วนี่ครับในสนามมันไม่เป็นรองใครเลยมีเอกลักษณ์ของมันว่ามันคือรถที่พร้อมลงสนามแต่เจ้านี่มันไม่ใช่เลยล่ะ ดังนั้นเรื่อวัสดุคงมาเทียบโลตัสไม่ได้ คนละชั้น
อ้อ เป็นโลตัส ถึงจะขายแพงโดยที่วัสดุห่วยและไม่มีออปชั่นได้?

ถ้าหมายถึง รถที่เน้นการขับขี่ พับเบาะหลังแล้วแบก อุปกรณ์ ล้อพร้อมยางไปได้ 4 วง เพื่อใช้วิ่งแล่นในเทรค
86 ก็เป็นรถแบบนั้นครับ และมันก็มีตัวที่จะลงสนามแข่งแล้วด้วย
รถ Type R ของฮอนด้าส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น รื้อของ ก็พร้อมลงแทรค

โตโยต้าน่าจะทำให้ 86 เป็นรถดิบๆแบบโลตัสดีกว่าแหะ กระจกมือหมุน แชสซีใช้กาวติด ตัวถังไฟเบอร์
จะได้ไม่มีคนบ่นเรื่องวัสดุห่วย
 :-*


หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:13:04
Lotus ที่มามันเป็นรถดิบอยู่แล้วนี่ครับในสนามมันไม่เป็นรองใครเลยมีเอกลักษณ์ของมันว่ามันคือรถที่พร้อมลงสนามแต่เจ้านี่มันไม่ใช่เลยล่ะ ดังนั้นเรื่อวัสดุคงมาเทียบโลตัสไม่ได้ คนละชั้น
อ้อ เป็นโลตัส ถึงจะขายแพงโดยที่วัสดุห่วยและไม่มีออปชั่นได้?



โตโยต้าน่าจะทำให้ 86 เป็นรถดิบๆแบบโลตัสดีกว่าแหะ กระจกมือหมุน แชสซีใช้กาวติด ตัวถังไฟเบอร์
จะได้ไม่มีคนบ่นเรื่องวัสดุห่วย
 :-*




ถ้าทำแบบนั้นแล้วใครจะไปซื้อล่ะครับ คนบ้าๆแบบนี้มีหยิบมือเดียวในโลก
ไอ้ lotus บริษัทมันถึงได้เจ๊งไงครับ 55555555
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:14:46
อืม  ยอมรับเลยว่า ไม่ได้คิดถึง lotus elise เลย เรื่องวัสดุ

ส่วนนึงเพราะคิดว่ามันเป็นรถแข่ง เอาไว้ขับเล่นสนุกในสนาม มากกว่าเอามาวิ่งบนถนนรถติดอากาศร้อน จะให้แฟนใส่กระโปรงสั้นนั่ง คงไม่ไหว

แต่ผมก็คิดว่า niche car ตั้งราคาไว้ 3900000 บาท กลับคุ้มค่า เพราะสิ่งที่ได้จากมัน หากขับลงสนามคงสนุกสุดๆ ไม่ได้คิดเรื่อง ภายในอะไรเลย

แต่ 86 ยังคิดว่า มันเอามาเป็นรถวิ่งจ่ายกับข้าวได้ ขับไปทำงานได้ แฟนขับให้บ้าง แล้วอย่าลืมว่า มันเป็น coupe 2+2 ที่นั่งนะครับ toyota ก็ทำเผื่อไว้ให้ใช้ขับทั่วไปเหมือนกัน ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Nirvash ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:21:32
อืม  ยอมรับเลยว่า ไม่ได้คิดถึง lotus elise เลย เรื่องวัสดุ

ส่วนนึงเพราะคิดว่ามันเป็นรถแข่ง เอาไว้ขับเล่นสนุกในสนาม มากกว่าเอามาวิ่งบนถนนรถติดอากาศร้อน จะให้แฟนใส่กระโปรงสั้นนั่ง คงไม่ไหว

แต่ผมก็คิดว่า niche car ตั้งราคาไว้ 3900000 บาท กลับคุ้มค่า เพราะสิ่งที่ได้จากมัน หากขับลงสนามคงสนุกสุดๆ ไม่ได้คิดเรื่อง ภายในอะไรเลย

แต่ 86 ยังคิดว่า มันเอามาเป็นรถวิ่งจ่ายกับข้าวได้ ขับไปทำงานได้ แฟนขับให้บ้าง แล้วอย่าลืมว่า มันเป็น coupe 2+2 ที่นั่งนะครับ toyota ก็ทำเผื่อไว้ให้ใช้ขับทั่วไปเหมือนกัน ;D ;D ;D

คุ้มค่างั้นก็ซื้อ Elise เลยค้าบ เชียร์  :D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:28:22

แต่ผมก็คิดว่า niche car ตั้งราคาไว้ 3900000 บาท กลับคุ้มค่า เพราะสิ่งที่ได้จากมัน หากขับลงสนามคงสนุกสุดๆ ไม่ได้คิดเรื่อง ภายในอะไรเลย


หุหุ ไม่คุ้มอย่างแรง เครื่อง 1600 cc ราคาเมืองนอก 2 หมื่นกว่าปอนด์ ตกเงินไทย ล้านนิดๆ
แรงม้า 120 แรงม้า ภาษีถูกโคดๆ อย่าเอาไปเทียบกับ 86 ครับ 86 ภาษีแพงกว่าเยอะ ผมถึงบอกว่า 86 ราคาไม่ได้เวอร์มากมายเท่าไหร่ครับ

ดูมินิ เกรย์ถูกกว่าศูนย์เกือบล้าน ปอร์ชเกรย์ถูกว่าศูนย์ 2 ล้าน
R8 เกรย์ถูกกว่าศูนย์ 3 ล้าน

พวกเกรย์นี่ตีหัวเข้าบ้านครับ โฆษณาก็ไม่มี โชว์รูมก็ไม่มี ศูนย์ซ่อมบางทียังไม่มีเลย
แล้วคุณซื้อศูนย์คุณก็ต้องให้กำไรเขา ถ้าทำแล้วขาดทุนหรือไม่คุ้ม จะทำไปทำไมครับ
นอกจากยนต์ตระกละที่เขาทำเพื่อชื่อเสียง เพื่อกู้ภาพลักษณ์จริงๆ และทางบริษัทแม่ก็ช่วยด้วย
ทำให้ทำราคา GTI Fabia และอีกหลายๆตัวได้ถูกเร้าใจจริงๆ แต่หลายตัวแกก็รอฟันหัวแบะเหมือนกัน

Elise S ราคา 3.9 ล้าน กำไรอิ๊บอ๊าย....
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:37:52
ลองดูราคาเกรย์มาเก็ตด้วยนะครับอย่าลืมซิ !! ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:39:04
อืม  ยอมรับเลยว่า ไม่ได้คิดถึง lotus elise เลย เรื่องวัสดุ

ส่วนนึงเพราะคิดว่ามันเป็นรถแข่ง เอาไว้ขับเล่นสนุกในสนาม มากกว่าเอามาวิ่งบนถนนรถติดอากาศร้อน จะให้แฟนใส่กระโปรงสั้นนั่ง คงไม่ไหว

แต่ผมก็คิดว่า niche car ตั้งราคาไว้ 3900000 บาท กลับคุ้มค่า เพราะสิ่งที่ได้จากมัน หากขับลงสนามคงสนุกสุดๆ ไม่ได้คิดเรื่อง ภายในอะไรเลย

แต่ 86 ยังคิดว่า มันเอามาเป็นรถวิ่งจ่ายกับข้าวได้ ขับไปทำงานได้ แฟนขับให้บ้าง แล้วอย่าลืมว่า มันเป็น coupe 2+2 ที่นั่งนะครับ toyota ก็ทำเผื่อไว้ให้ใช้ขับทั่วไปเหมือนกัน ;D ;D ;D

คุ้มค่างั้นก็ซื้อ Elise เลยค้าบ เชียร์  :D

ง่า... คุ้มกรณีเงินเหลือ และอยากได้รถซักคันไว้ขับเล่นในสนามครับ  ตอนนี้ ม่ายไหวๆๆ :-* :-* :-*


แต่ผมก็คิดว่า niche car ตั้งราคาไว้ 3900000 บาท กลับคุ้มค่า เพราะสิ่งที่ได้จากมัน หากขับลงสนามคงสนุกสุดๆ ไม่ได้คิดเรื่อง ภายในอะไรเลย


หุหุ ไม่คุ้มอย่างแรง เครื่อง 1600 cc ราคาเมืองนอก 2 หมื่นกว่าปอนด์ ตกเงินไทย ล้านนิดๆ
แรงม้า 120 แรงม้า ภาษีถูกโคดๆ อย่าเอาไปเทียบกับ 86 ครับ 86 ภาษีแพงกว่าเยอะ ผมถึงบอกว่า 86 ราคาไม่ได้เวอร์มากมายเท่าไหร่ครับ

ดูมินิ เกรย์ถูกกว่าศูนย์เกือบล้าน ปอร์ชเกรย์ถูกว่าศูนย์ 2 ล้าน
R8 เกรย์ถูกกว่าศูนย์ 3 ล้าน

พวกเกรย์นี่ตีหัวเข้าบ้านครับ โฆษณาก็ไม่มี โชว์รูมก็ไม่มี ศูนย์ซ่อมบางทียังไม่มีเลย
แล้วคุณซื้อศูนย์คุณก็ต้องให้กำไรเขา ถ้าทำแล้วขาดทุนหรือไม่คุ้ม จะทำไปทำไมครับ
นอกจากยนต์ตระกละที่เขาทำเพื่อชื่อเสียง เพื่อกู้ภาพลักษณ์จริงๆ และทางบริษัทแม่ก็ช่วยด้วย
ทำให้ทำราคา GTI Fabia และอีกหลายๆตัวได้ถูกเร้าใจจริงๆ แต่หลายตัวแกก็รอฟันหัวแบะเหมือนกัน

Elise S ราคา 3.9 ล้าน กำไรอิ๊บอ๊าย....


เห? ผมตีค่ามันสูงมากเลยนะ อืม ไม่เคยสัมผัสจริงๆซะด้วยสิ :D :D :D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: icezan ที่ มีนาคม 30, 2012, 19:50:03
ราคาแพงเกินไปแฮะ ขับเร้าใจซื้อโลตัสดีกว่า ดูมีระดับกว่า :P

ถ้ามัน 2.1 ล้านยังพอรับได้โอเคน่าจ้างคนออกแบบ นิสสันมาออกแบบให้จิงๆ แค่ชุดแต่งเห็นก็เพลียแล้ว >:( หวังว่า ชุดแต่งเจ้าอื่นจะไม่คิดสั้นแบบนี้ :-[
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Diavolo ที่ มีนาคม 30, 2012, 20:45:12
ตัวถูกสุดในญี่ปุ่นคือรุ่น RC ไม่มีอะไรเลย คงสำหรับทำรถแข่ง ราคา 1,990,000 เยน
ราคาตัวท็อป GT ltd เกียร์ AT จากเวปโตโยต้าญี่ปุ่น 3,050,000 เยน
ราคานี้รู้สึกว่าจะยังไม่ได้ชุดสปอยเลอร์แบบบ้านเราครับ ราคาของแต่งรอบคันศูนย์ เห็นแถว 1 แสนเยนทีเดียว แต่ไม่มีหางหลังสูงๆนั่นนะ

ลองคิดเล่นๆ ก่อนนี้ค่าเงินเยนซัดไป 40 กว่าบาทต่อ 100 เยน
ช่วงนี้เงินเยนลงมาหน่อย ตัวท็อป GT ก็ตก 1,159,900 บาท
ภาษีบ้านเรา เครื่อง 2.0 ไม่เกิน 220 แรงม้า โดนแถว 200 % มั้ง รวมแล้วก็ 3 ล้านบาท

เห็นใน EVO บอก พิษเงินเยน ราคาขายในอังกฤษอาจขึ้นไป 25 - 28K ปอนด์

ว่าแต่ใครมีไอโฟน ลองดูนี่สิครับ มันคืออะไรหว่า
http://toyota.jp/86/app/index.html (http://toyota.jp/86/app/index.html)



หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ มีนาคม 30, 2012, 20:46:58
^
^
ใช้ไอโฟนเล่น
แต่เข้าไม่ได้ครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ มีนาคม 30, 2012, 20:49:13
App นั่นเป็นตัว Simulator ครับ

ใช้กล้องถ่ายรูปเป็นตัวช่วย โดยการเขย่าๆๆๆๆ
(เพื่อให้เหมือนว่ากำลังขับรถอยู่บริเวณนั้นๆ ครับ)
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Diavolo ที่ มีนาคม 30, 2012, 20:57:14
ดูเหมือนในญีปุ่นสีแดงไลท์นิ่งเรดจะมาแรง
แต่ผมกด like สีเทาเข้มไปละคับ

แอปโหลดไม่ได้แหะ :o
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: HIGHSEA ที่ มีนาคม 30, 2012, 21:08:44
86 ยังคิดว่า มันเอามาเป็นรถวิ่งจ่ายกับข้าวได้ ขับไปทำงานได้ แฟนขับให้บ้าง แล้วอย่าลืมว่า มันเป็น coupe 2+2 ที่นั่งนะครับ toyota ก็ทำเผื่อไว้ให้ใช้ขับทั่วไปเหมือนกัน
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่จะซื้อมันด้วยเหตุผลนี้ครับ ไม่ได้จะไปแข่งในสนามหรือไปแข่งกับใคร คืออย่างใช้ทุกวัน และถ้าซื้อมามันคงเป็นรถคันเดียว
ที่จะใช้มันแทนคันอื่นๆในบ้าน ผมมีความสุขในการขับรถมาก ผมสงสัยนะครับว่าหลายๆคนมีความคิดเห็นตรงกันว่าถ้าสัก 2M นิดๆหลายคน
พร้อมที่จะยอมเอามันเข้ามาอยู่ในบ้านแบบ ไม่มีปัญหาเลย ต่อให้เป็นสภาพนี้ก็ตาม เครื่องเสียงกับวัสดุภายในผมให้ความสำคัญเพราะ
การติดเครื่องทุกครั้งไม่ใช่หมายความว่าต้องเหยียๆๆและเหยียบไปข้างหน้าอย่างเดียว แต่การใด้ขับแบบช้าๆมันก็ให้ความรู้สึกที่ดีกับเราครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ มีนาคม 30, 2012, 21:18:39
86 ยังคิดว่า มันเอามาเป็นรถวิ่งจ่ายกับข้าวได้ ขับไปทำงานได้ แฟนขับให้บ้าง แล้วอย่าลืมว่า มันเป็น coupe 2+2 ที่นั่งนะครับ toyota ก็ทำเผื่อไว้ให้ใช้ขับทั่วไปเหมือนกัน
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่จะซื้อมันด้วยเหตุผลนี้ครับ ไม่ได้จะไปแข่งในสนามหรือไปแข่งกับใคร คืออย่างใช้ทุกวัน และถ้าซื้อมามันคงเป็นรถคันเดียว
ที่จะใช้มันแทนคันอื่นๆในบ้าน ผมมีความสุขในการขับรถมาก ผมสงสัยนะครับว่าหลายๆคนมีความคิดเห็นตรงกันว่าถ้าสัก 2M นิดๆหลายคน
พร้อมที่จะยอมเอามันเข้ามาอยู่ในบ้านแบบ ไม่มีปัญหาเลย ต่อให้เป็นสภาพนี้ก็ตาม เครื่องเสียงกับวัสดุภายในผมให้ความสำคัญเพราะ
การติดเครื่องทุกครั้งไม่ใช่หมายความว่าต้องเหยียๆๆและเหยียบไปข้างหน้าอย่างเดียว แต่การใด้ขับแบบช้าๆมันก็ให้ความรู้สึกที่ดีกับเราครับ

ความเห็นตรงกันครับ ขอบคุณครับ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jump ที่ มีนาคม 30, 2012, 21:39:01
ตั้งราคามาให้เกรย์ยิ้ม ครับ แบบนี้ อิอิ
เรารักทุนนิยม วะฮะๆๆ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 21:44:28
86 ยังคิดว่า มันเอามาเป็นรถวิ่งจ่ายกับข้าวได้ ขับไปทำงานได้ แฟนขับให้บ้าง แล้วอย่าลืมว่า มันเป็น coupe 2+2 ที่นั่งนะครับ toyota ก็ทำเผื่อไว้ให้ใช้ขับทั่วไปเหมือนกัน
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่จะซื้อมันด้วยเหตุผลนี้ครับ ไม่ได้จะไปแข่งในสนามหรือไปแข่งกับใคร คืออย่างใช้ทุกวัน และถ้าซื้อมามันคงเป็นรถคันเดียว
ที่จะใช้มันแทนคันอื่นๆในบ้าน ผมมีความสุขในการขับรถมาก ผมสงสัยนะครับว่าหลายๆคนมีความคิดเห็นตรงกันว่าถ้าสัก 2M นิดๆหลายคน
พร้อมที่จะยอมเอามันเข้ามาอยู่ในบ้านแบบ ไม่มีปัญหาเลย ต่อให้เป็นสภาพนี้ก็ตาม เครื่องเสียงกับวัสดุภายในผมให้ความสำคัญเพราะ
การติดเครื่องทุกครั้งไม่ใช่หมายความว่าต้องเหยียๆๆและเหยียบไปข้างหน้าอย่างเดียว แต่การใด้ขับแบบช้าๆมันก็ให้ความรู้สึกที่ดีกับเราครับ

เพราะฉะนั้นมันถึงไม่ตรงวัตถุประสงค์โดยตรงของ 86 ไงครับ
อาจจะตรงแค่ 60-70% ทำให้คุณมีตัวเลือกอื่นแทนอีกมากมายเช่น GTI เป็นต้น


แต่ถ้าคนที่โสด ชอบขับรถ ชอบขับหลัง ชอบฟิลลิ่งการขับ ชอบอัดรถ ชอบลงสนาม
หรือคนที่ไม่โสดแต่มีรถบ้านอยู่แล้ว อยากได้รถแบบนี้ราคาไม่แพงมาก เขาคงจะโดนแบบจังๆ
และอาจจะโงหัวไม่ขึ้น เพราะไม่มีตัวเทียบ

อย่างที่ผมเคยย้ำว่า รถมันเลือกคนครับ

งบจำกัด ใช้เป็นรถประจำ ให้แฟนขับบ้าง ขับช้าขับเร็วไม่เกี่ยว ให้คนขับเฟอร์รารี่
ยังไม่ได้ขับเร็วตลอดเวลาเลย ผมแนะนำว่าอย่าเอา 86 ลองไปดูตัวเลือกอื่นๆครับ
แต่ถ้ายังไงก็ถูกใจมากๆ ลองดูราคาเกรย์ครับ อาจจะมี surprise....


หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: udis ที่ มีนาคม 30, 2012, 21:54:05
86 ยังคิดว่า มันเอามาเป็นรถวิ่งจ่ายกับข้าวได้ ขับไปทำงานได้ แฟนขับให้บ้าง แล้วอย่าลืมว่า มันเป็น coupe 2+2 ที่นั่งนะครับ toyota ก็ทำเผื่อไว้ให้ใช้ขับทั่วไปเหมือนกัน
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่จะซื้อมันด้วยเหตุผลนี้ครับ ไม่ได้จะไปแข่งในสนามหรือไปแข่งกับใคร คืออย่างใช้ทุกวัน และถ้าซื้อมามันคงเป็นรถคันเดียว
ที่จะใช้มันแทนคันอื่นๆในบ้าน ผมมีความสุขในการขับรถมาก ผมสงสัยนะครับว่าหลายๆคนมีความคิดเห็นตรงกันว่าถ้าสัก 2M นิดๆหลายคน
พร้อมที่จะยอมเอามันเข้ามาอยู่ในบ้านแบบ ไม่มีปัญหาเลย ต่อให้เป็นสภาพนี้ก็ตาม เครื่องเสียงกับวัสดุภายในผมให้ความสำคัญเพราะ
การติดเครื่องทุกครั้งไม่ใช่หมายความว่าต้องเหยียๆๆและเหยียบไปข้างหน้าอย่างเดียว แต่การใด้ขับแบบช้าๆมันก็ให้ความรู้สึกที่ดีกับเราครับ

เพราะฉะนั้นมันถึงไม่ตรงวัตถุประสงค์โดยตรงของ 86 ไงครับ
อาจจะตรงแค่ 60-70% ทำให้คุณมีตัวเลือกอื่นแทนอีกมากมายเช่น GTI เป็นต้น


แต่ถ้าคนที่โสด ชอบขับรถ ชอบขับหลัง ชอบฟิลลิ่งการขับ ชอบอัดรถ ชอบลงสนาม
หรือคนที่ไม่โสดแต่มีรถบ้านอยู่แล้ว อยากได้รถแบบนี้ราคาไม่แพงมาก เขาคงจะโดนแบบจังๆ
และอาจจะโงหัวไม่ขึ้น เพราะไม่มีตัวเทียบ

อย่างที่ผมเคยย้ำว่า รถมันเลือกคนครับ

งบจำกัด ใช้เป็นรถประจำ ให้แฟนขับบ้าง ขับช้าขับเร็วไม่เกี่ยว ให้คนขับเฟอร์รารี่
ยังไม่ได้ขับเร็วตลอดเวลาเลย ผมแนะนำว่าอย่าเอา 86 ลองไปดูตัวเลือกอื่นๆครับ
แต่ถ้ายังไงก็ถูกใจมากๆ ลองดูราคาเกรย์ครับ อาจจะมี surprise....




ราคาเกรย์น่าจะประมาณเท่าไหร่ครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 22:16:26
น่าจะถูกกว่าสองสามแสนครับ เดาล้วนๆ 5555
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: joufo ที่ มีนาคม 30, 2012, 22:34:41
ผมไม่ซื้อแน่นอนครับ
ยังไงก็ไม่ซื้อครับ เจ้า 86 เนี่ย


เพราะอ่านข่าวแล้ว
ผมรอ BRZ ตัวขับ 4 ดีกว่า  ;D


(เอามาขายเมืองไทย สงสัยราคาพุ่งไป 4 ล้านต้นๆ เลยมั้งนั่น :P )
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BrownCony ที่ มีนาคม 30, 2012, 22:43:14
หลังจากไปลองนั่งสำรวจในงาน
ผมไม่ประทับใจใดๆเลย เกี่ยวกับภายใน ไม่มีวัสดุใดๆที่จับแล้วรู้สึกดีน่าสัมผัส
พลาสติกแข็งๆ เยอะมาก

เรื่องว่าขับดีขับสนุก ที่ใครๆพูด
ผมยังไม่เชื่อจนกว่าได้จะลองขับ
แล้วค่อยมาตัดสินใจ ถ้าจะซื้อครับ

หรือไม่ก็รอ BRZ แต่อย่างว่า motor image ขายแพงเสมอๆ

หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: gorilla ที่ มีนาคม 30, 2012, 23:02:11
ราคา 86 ที่ออสตามที่สื่อคาดการณ์ น่าจะประมาณ $40000  ซึ่งอยู่ระดับเดียวกับ GTi, Scirocco, WRX, Mitsu Lancer RallyArt, รวมถึง Prius, CT200h, CRZ

เปิดราคามาได้แรงทีเดียว จึงทำให้สมควรได้รับคำวิพากวิจารณ์   ;D ;D ;D

GTi, Scirocco, WRX, Mitsu Lancer RallyArt   รถทั้ง 4 คันนี้แรงม้าพอๆกัน ราคาพอๆกัน  แต่ค่ายยุโรปได้วัสดุที่ดีกว่ามาก  มันก็เป็นเรื่องที่น่าคบคิดว่าทำไมฝั่งยุโรปทำได้ในจุดนั้นทั้งๆที่ความแรงก็พอๆกัน  แล้วรถญี่ปุ่นทำไม่ได้  หรือว่ารถญี่ปุ่นฟันกำไรมากกว่า?  

ส่วนตัวแล้วถ้ามีเงิน 2.7 ล้านบาท ผมคงไม่เอา 86 แน่ๆ เพราะ หน้าตาล้วนๆ มันไม่ใช่เลย  ดูล้าหลังไปประมาณ 10 ปี แทบจะคิดว่ามันเป็นรถยุคเดียวกันกับ Supra ด้วยซ้ำ   ใจผมคงเอนไปหา  GTi หรือ Scirocco มากกว่าในกรณีรถใหม่    หรือไม่ก็ไป R34 ที่ราคามันบร้ามากๆ แต่ใจผมมันหยุดรักไม่ได้เลยจริงๆ ผมคิดแค่ว่ามันเกิดมาเผื่อผม
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: methus zaa ที่ มีนาคม 30, 2012, 23:07:45
ตอนแรกนึกว่าเป็นราคา 1.9 ล้านอย่างที่เป็นข่าวอยู่ก่อนหน้านี้ แต่พอประกาศในงานว่าราคา 2.49 ล้าน ผมแทบหงายหน้าเงิบเลยครับ
ผมก็ไม่ซื้อครับ ถ้าจะเอาจริงๆผมไปเล่น 350z มือสองดีกว่า
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: simcity ที่ มีนาคม 30, 2012, 23:48:02
อ่านกระทู้นี้แล้วสนุกดีครับ

ได้อ่านมุมมองความคิดเห็นที่หลากหลายดี

ส่วนตัวผม คิดว่า 86 คงขายได้  แต่ไม่ถึงกับขายดี

และ Toyota เองคงไม่ได้หวังกับยอดขายของมันซักเท่าไหร่


หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 30, 2012, 23:53:34
เรื่องขับสนุกไม่สนุกไม่ต้องคิดมาก สื่อและนักวิจารณฟันธงไปแล้วว่าดีจริง
ไอ้พวกเราอย่างผมมันชั้นปลายแถว
บางทีรถดีๆอาจจะบอกว่าขับไม่ได้เรื่องก็ได้นะครับ

หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ มีนาคม 30, 2012, 23:54:25
น่าจะเป็นการตั้งราคามาให้ขายไม่ดีมากนักให้มันดูมีคุณค่าในตัวมันเองอะครับ

ถ้ารถสปอร์ทราคารถบ้านมันก็คงจะดูแย่หละมั้งครับ คนที่ซื้อมาคงไม่ปลื้มนักที่จะมีฝาแฝดกันทั่วบ้านทั่วเมือง

สำหรับคนที่ต้องการเล่นรถสปอร์ทจริงๆ ถ้ามาราคานั้นเด๋วก็จะเหมือน E-Coupe ที่เห็นมากกว่า E-Sedan ซะอีก :P
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Zx-III ที่ มีนาคม 31, 2012, 00:07:38
ตัว86จริงในหลักการมันผลิตมาเพื่อสู้กับmx-5แล้วก็ใช้เครื่องboxer ขับหลัง ประหยัดน้ำมัน ราคาคบได้ (เมืองนอกนะครับ). แต่พอมาเมืองไทย ลองคำนวนดูละกัน เจอภาษี กำไร ผลเลยออกมาราคาอย่างที่เห็น. Usปล่อยประมาณ25k $ jp2-3m yen ลองคำนวนกันดูว่าทำไมเมืองนอกคันละแค่1m มาเมืองไทย ล่อไป2.5-2.7m ภาษีเเหละส่วนหนึ่ง กำไรละ เท่าไรลองคิดดู. อยากรู้ราคาgreyจะเอามาตัดหน้าเท่าไร อีกอย่าง ราคานี้ผมคงไปรอมือ2ดีกว่า แพงเกิน ราคาขนาดนี้ตัวเลือกเยอะมาก ทั้งมือ1  มือ2. เท่าที่ดู86มันก็คือcelica ขับหลังใช้เครื่องboxerเพราะราคาus ก็พอๆกับตอนที่ออกgen7เมืองนอกเลย แพงกว่สหน่อย แต่พอมาเมืองไทย เท่าที่จำได้celica gen7 tmtเคยเอาเข้ามาขาย 2.2-2.3ถ้าผิดขออภัย ปัจจุบันยังราคา 900k-1mเลย รถปี2001 ลองคิดค่าเสื่อมดูละกัน ตกน้อยมาก แต่ของเล้นก็น้อยตาม ส่วนตัวราคา86เปิดมาขนาดนี้ ผมรออีก5ปีซอยมือ2ก็ยังทันนะครับ ไม่รีบ ราคาโหดเกินเอื้อม
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: gttle ที่ มีนาคม 31, 2012, 00:17:08
คงวางตำแหน่งเหมือน MX-5 มั้งครับคล้ายกันหลายๆอย่างทั้งราคาวัสดุภายใน MX-5 ก็โดนว่ามาตลอดว่าวัสดุภายใน+การตกแต่งเหมือนรถถูก แต่มันก็ยังเป็น roadster ที่ขายดีที่สุดในโลกเพราะเค้าเน้นที่ feeling และการขับขี่ซึ่งไม่มีใครสู้ได้ในพิกัดนี้ เรื่องการขับขี่ยังดีกว่า slk หรือ z4 ซึ่งอยู่ชั้นสูงกว่าด้วยซ้ำไปซึ่งคนที่เลือกซื้อเค้าก็เลือกที่ feeling และการขับขี่นี่แหละ

86 คงคิดจะทำเหมือนๆกันคือรถแบบนี้ในพิกัดนี้ยังไงก็มีัตัวเดียวถ้าทำดีจริงยังไงคนก็ต้องซื้อครับเพราะไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว

รถประเภทนี้ผมว่ามันไม่ใช่รถที่ประณีประนอมกับคนใช้มากนักนะคือถ้าจะเอามาใช้อเนกประสงค์คงไม่ไหวเพราะรถพวกนี้มันทำมาเพื่อคนชอบขับจริงๆอย่างอื่นไม่สนคนที่ซื้อรถประเภทนี้ก็เป็นคนที่เข้าใจในสิ่งที่มันเป็นและรับได้ครับ

ถ้าจะเอากลางๆก็ GTi, Scirocco,c coupe อย่างที่ว่าล่ะครับแต่สำหรับคนที่ชอบรถแบบ 86 จริงตัวเลือกเหล่านั้นมันก็เกือบแต่ไม่ใช่อยู่ดียังไงก็ไม่ใช่
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BrownCony ที่ มีนาคม 31, 2012, 00:29:26
เรื่องขับสนุกไม่สนุกไม่ต้องคิดมาก สื่อและนักวิจารณฟันธงไปแล้วว่าดีจริง
ไอ้พวกเราอย่างผมมันชั้นปลายแถว
บางทีรถดีๆอาจจะบอกว่าขับไม่ได้เรื่องก็ได้นะครับ

ผมค่อนข้างไม่เห็นด้วยนะครับ
รถที่ผลิตขึ้นมาขาย ไม่ได้ขายให้ประชาชนทั่วไป? แต่ขายให้สื่อหรือนักวิจารณ์? นักวิจารณืชมว่าดีก็ต้องดี?
 
ผมเคยให้ความเห็นอยู่เสมอ คุณไปลองขับรถหรือยังก่อนจะซื้อ หรืออ่านแต่คำวิจารณ์ของคุณจิมมี่แล้วเชื่อ?
สุดท้ายซื้อมาแล้ว ปรากฎว่ามันไม่เหมาะกับคุณเลยสักนิดเดียวนะครับ
แล้วที่นี้จะโทษใครล่ะครับ ผมอยากให้ข้อสังเกตไว้
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Lecter the Ripper ที่ มีนาคม 31, 2012, 01:55:23
บางคนก็คิดว่าโลกหมุนรอบตัวเค้า...
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ มีนาคม 31, 2012, 02:36:39
แพงไปนิด แต่ก็ยังพอรับได้

ราคา 2.7 ล้าน มันก็พอๆ กับ MX-5 มั้งครับ

ส่วนเรื่องวัสดุ ผมดูไม่ออก แต่มันก็ไม่ได้สวยอะไรละนะครับ

แต่ก็อย่าลืมว่า ในแง่การตลาดแล้ว มันก็คือ Toyota ธรรมดาๆ ไม่ใช่รถ premium อย่าง Lexus ดังนั้นการจะคาดหวังวัสดุดีๆ คงจะยากหน่อย (ให้ตายก็คงไม่ดีไปกว่า VW ละมั้งครับ เพราะ VW ปัจจุบัน segment เริ่มสูงขึ้นนิดๆ แล้ว ไม่ได้จับฉ่ายแบบ 20 ปีที่แล้ว)

reaction แบบนี้ น่ากลัวจะเป็นแบบ MR-2 SW20 นะเนี่ย

Toyota พยายามทำรถให้ดิบ (ประมาณ F355 ของคนจน) แต่กลายเป็นว่ารถมันดิบไปสำหรับคนจนที่คาดหวังเงินระดับนี้จะได้เท่านี้ (ที่สำคัญขับยากสำหรับคนไม่เคบขับรถดิบๆ มาก่อน)

แต่รถมันก็ไม่มีดีเด่ขนาดที่คนมีกระตังค์มากๆ จะซื้อเหมือนกัน

แต่ถ้าผมมีตังค์ ตอนนี้ผมคงรอ Veloster ละครับ ภาวนา นะโมๆๆๆ ขอให้มันมาไม่เกิน 1.8 ล้าน

เพราะยังไงสำหรับผม Sport Hatch ก็น่าจะยังเหมาะกับผมมากกว่า Sport Coupe ดิบๆ ที่ไม่เหมาะจะขับทุกวันครับ (ตำแหน่งนั่งแบบนี้ นั่งทีไม่ต้องลุกเลย เผลอๆ แย่กว่า MX-5 อีก)

แต่ถ้าคนที่ชอบอะไรที่ใกล้เคียงกับ pure sport ผมว่า 86 ก็ไม่เลวร้ายนะครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ มีนาคม 31, 2012, 03:05:02
Lotus มันมีจุดยืนของมันชัดเจนครับ ว่าเป็นรถสนาม รถเบา
รถที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อให้สมรรถนะในสนามดีเยี่ยม และสื่อสารกับคนขับได้เกินร้อย

มันไม่ใช่ว่า Lotus ใช้วัสดุห่วยแล้วตั้งราคาแพงได้ไม่เป็นอะไร
เพียงแต่รถมันมี Character ชัดเจน ถ้าเคยนั่งเคยขับ ก็จะทราบว่าคำว่า Character ที่พูดนี่หมายถึงอะไร
ก็เหมือนที่ท่านข้างบนบอกว่า KTM X-Bow คันละ 9 ล้านบาทก็มีคนซื้อ ก็เพราะความชัดเจนในตัวเองเหมือนกัน
ลองเอา X-Bow มาใส่หลังคา ยกให้พื้นรถสูง ติดแอร์ มาประกบโลตัสในคราบผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์
ต่อให้ตั้งราคา 9 ล้านบาท ก็คงไม่มีใครซื้อ เพราะมันขาดความชัดเจนในตัวมันไปแล้ว

ในขณะที่ GT-86 ของโตโยต้า มันมีจุดเด่นอย่างนั้นหรือเปล่า สำหรับผม ผมว่ายังขาดอีกมาก
เพราะสิ่งที่ผมเห็น ก็คือการพยายามจะทำ Roadster มีหลังคาสักคัน เพื่อกลับมาปลุกกระแสของตัวเองในตลาด
หลังจากที่ MR2, Celica, MR-S อวสานไปนานมากแล้ว จนใครใครเค้าคิดว่า Toyota คงทำรถสปอร์ตไม่เป็นไปแล้ว

กับค่าตัว 2.7 ล้าน สำหรับรถที่เรียกไม่ได้เต็มคำว่าสวยสุดยอด สมรรถนะที่ไม่ได้แรงอะไรมากมาย
ภายในที่ไม่ได้มีคุณภาพ การขับขี่ยังไม่รู้ว่าจะขนาดไหน นอกจากตำแหน่งการนั่งที่มีแต่คนพร่ำบอกว่าสุดแสนจะ perfect
ผมยังหาเหตุผลอื่นมาหักล้างกับราคาบ้าคลั่งเท่านี้ได้ และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเซ็งที่สุดก็คือ
โตโยต้าเหมือนจะพยายามบอกทุกคนว่านี่คือ Everyone's sport car แต่พอตั้งราคามาแบบนี้ แล้วจะยังไงกันครับ

ส่วนราคา MX-5 ไม่ต้องพูดถึงครับ ผมคิดว่ามัน Overprice มหาศาลไปนานมากแล้ว
ตั้งแต่ออก NC มาแล้วราคากระโดดไป 2.4 ล้านบาท จากรุ่นเดิม NB ที่แค่ 1.8 ล้านบาท
แล้วสมัยก่อน NA คันละ 9 แสนบาท เท่าเท่ากับ Celica เท่านั้น

หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ มีนาคม 31, 2012, 04:05:05
เรื่องขับสนุกไม่สนุกไม่ต้องคิดมาก สื่อและนักวิจารณฟันธงไปแล้วว่าดีจริง
ไอ้พวกเราอย่างผมมันชั้นปลายแถว
บางทีรถดีๆอาจจะบอกว่าขับไม่ได้เรื่องก็ได้นะครับ

ผมค่อนข้างไม่เห็นด้วยนะครับ
รถที่ผลิตขึ้นมาขาย ไม่ได้ขายให้ประชาชนทั่วไป? แต่ขายให้สื่อหรือนักวิจารณ์? นักวิจารณืชมว่าดีก็ต้องดี?
 
ผมเคยให้ความเห็นอยู่เสมอ คุณไปลองขับรถหรือยังก่อนจะซื้อ หรืออ่านแต่คำวิจารณ์ของคุณจิมมี่แล้วเชื่อ?
สุดท้ายซื้อมาแล้ว ปรากฎว่ามันไม่เหมาะกับคุณเลยสักนิดเดียวนะครับ
แล้วที่นี้จะโทษใครล่ะครับ ผมอยากให้ข้อสังเกตไว้
+1 เลยครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ มีนาคม 31, 2012, 04:10:51
สงสัยสมัยนี้ข้าวของแพงมั้งครับ

เคยได้ยินว่า ตอนแรก FT86 Project ต้องการทำรถ sport ที่คนทั่วไปซื้อขายได้ง่าย แต่ทำไปทำมา เกิดคุมงบไม่อยู่ ราคาขายสูงเกินที่ตั้งเป้าหมายไว้แต่แรก เลยเบนเข็มหาลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ ที่เคยขับ Celica หรือ Trueno/Levin ที่พอจะมีตังค์แทน

ประมาณว่า "ซื้อมาขับมาระลึกความหลัง"

ว่า....

ครั้งหนึ่ง Toyota ก็เคยทำรถ sport!
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: HIGHSEA ที่ มีนาคม 31, 2012, 08:34:51
86 ยังคิดว่า มันเอามาเป็นรถวิ่งจ่ายกับข้าวได้ ขับไปทำงานได้ แฟนขับให้บ้าง แล้วอย่าลืมว่า มันเป็น coupe 2+2 ที่นั่งนะครับ toyota ก็ทำเผื่อไว้ให้ใช้ขับทั่วไปเหมือนกัน
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่จะซื้อมันด้วยเหตุผลนี้ครับ ไม่ได้จะไปแข่งในสนามหรือไปแข่งกับใคร คืออย่างใช้ทุกวัน และถ้าซื้อมามันคงเป็นรถคันเดียว
ที่จะใช้มันแทนคันอื่นๆในบ้าน ผมมีความสุขในการขับรถมาก ผมสงสัยนะครับว่าหลายๆคนมีความคิดเห็นตรงกันว่าถ้าสัก 2M นิดๆหลายคน
พร้อมที่จะยอมเอามันเข้ามาอยู่ในบ้านแบบ ไม่มีปัญหาเลย ต่อให้เป็นสภาพนี้ก็ตาม เครื่องเสียงกับวัสดุภายในผมให้ความสำคัญเพราะ
การติดเครื่องทุกครั้งไม่ใช่หมายความว่าต้องเหยียๆๆและเหยียบไปข้างหน้าอย่างเดียว แต่การใด้ขับแบบช้าๆมันก็ให้ความรู้สึกที่ดีกับเราครับ
เพราะฉะนั้นมันถึงไม่ตรงวัตถุประสงค์โดยตรงของ 86 ไงครับ อาจจะตรงแค่ 60-70% ทำให้คุณมีตัวเลือกอื่นแทนอีกมากมายเช่น GTI เป็นต้น
แต่ถ้าคนที่โสด ชอบขับรถ ชอบขับหลัง ชอบฟิลลิ่งการขับ ชอบอัดรถ ชอบลงสนาม หรือคนที่ไม่โสดแต่มีรถบ้านอยู่แล้ว อยากได้รถแบบนี้ราคาไม่แพงมาก เขาคงจะโดนแบบจังๆและอาจจะโงหัวไม่ขึ้น เพราะไม่มีตัวเทียบ
อย่างที่ผมเคยย้ำว่า รถมันเลือกคนครับ
งบจำกัด ใช้เป็นรถประจำ ให้แฟนขับบ้าง ขับช้าขับเร็วไม่เกี่ยว ให้คนขับเฟอร์รารี่ยังไม่ได้ขับเร็วตลอดเวลาเลย ผมแนะนำว่าอย่าเอา 86 ลองไปดูตัวเลือกอื่นๆครับแต่ถ้ายังไงก็ถูกใจมากๆ ลองดูราคาเกรย์ครับ อาจจะมี surprise....
ที่แรกผมคิดว่ารถคันนี้เจตนาสร้างขึ้นมาเพื่อการใช้งานทั่วไปมีสนุกบ้างบางครั้ง  แต่ผมคิดผิด จริงแล้วมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการอัด หรือลงสนาม
น่าเสียดายครับ ที่แรกคิดว่าอยากได้รถสักคันมือ1 มาแต่งและโมไปเรื่อยๆ และน่าจะสนุกกับมันได้นานๆ เนื่องจากมีปัญจัยหลายๆอย่าง
ที่น่าโมมากกว่ายี่ห้ออื่นที่ไกล้เคียงกัน แต่ถ้าจะเอา 86 เดิมๆไปอัดกับรุ่นที่เทียบกัน ผมว่า86ไม่ได้แรงขนาดนั้นต่อให้โมก็ตาม แต่ที่หลายๆคนอยากได้
มีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องมากจนทำให้มันเป็นรถที่น่าเอามาเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ขับสนุกอย่างเดียว
เสียดายมากครับ ผมเลือกรถ แต่รถไม่เลือกผม :(
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: PJ" ที่ มีนาคม 31, 2012, 09:44:14
toyota ออกแบบภายในกี็งี้แหละครับ ผมว่าเห่ยทุกรุ่นเลย คหสต
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: NineKlao ที่ มีนาคม 31, 2012, 10:02:29
รอ MX 5 ตัวใหม่ที่จะกลับไม่สู่สามัญดีกว่าครับ ราคาน่าจะถูกกว่าเพราะ cc ลดลง

86 เมื่อวานผมลืมไปดูมัน ซ่ะงั้น เพลินอยู่กับการแย้งเข้าไปนั้งใน Camry ใหม่ อยู่ จนลืมมันไปเลย  ;D

แต่ที่ประทับใจจนอยากได้ มากกว่าก็คือ CR-Z ครับ ราคานี้ กลับไปดูรีวิวคุณจิมมี่แล้ว เจ้านั้น ขายสองล้านกลางๆเลย

แล้วนี้เปิดราคามาไม่ถึง 2 ล้าน ได้รถคูเป้ที่ขับสนุก ใช้ได้ทุกวัน แต่งแรงได้แต่มันไม่ใช้รถไว้ทำแรงม้ามากๆ

มันแค่รถคูเป้ที่ขับสนุก นั้นคือมันตอบโจย์ของลูกค้าที่ใช้รถประเภทเพื่อขับสนุกๆ ได้ทุกวันอยากเราๆ ครับ  ;D

 
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ มีนาคม 31, 2012, 10:19:19
ผมว่าราคามัน สมเหตสมผลดีแล้ว

การตั้งราคาก็เป็นกลยุทการขายรูปแบบหนึ่งที่ต้องสะท้อนไปถึงนโยบายการตลาดเค้าด้วย

รถแบบนี้ในตลาดเมืองไทยไม่ว่าเจ้าไหนเอามาทำตลาดเค้าไม่ได้หวังยอดขายอะไรมากมายหรอกครับ
เค้าจะเอามาใช้ทางการสร้างอิมเมจมากกว่า ทำให้ตลาดมัน นิช ให้ตัวโปรดักมันมีราคามีคุณค่า มากที่สุด เพื่อให้ไปดึงภาพลักษณ์ของโปรดักอื่นๆขึ้นมา
จำได้ว่าตอนแรกมีข่าวว่ารถรุ่นนี้จะผลิตจำกัดจำนวนด้วยซ้ำ เพราะกำลังการผลิตไม่พอ ยิ่งทำให้ต้องตั้งราคาไว้สูงๆ
เกิดตั้งราคาไว้ถูก คนซื้ออกมาขับเยอะแยะเกลื่อนถนน กลายเป็นรถทั่วๆไปคันหนึ่ง ภาพลักษณ์มันก็ไม่ได้แถมกำไรยังน้อยเผลอๆอาจจะขาดทุนค่าสต๊อกอะไหล่ด้วย แถมโดนด่าเรื่องผลิตไม่ทัน

และผมเชื่อว่าต่อให้ตั้งถูกลงไปที่ล้านเก้าตามข่าวจริง คนที่บอกจะซื้อๆถึงเวลาก็ไม่ได้ซื้อจริงหรอก มันมีปัจจัยมากมายที่คนจะไม่ซื้อ
สู้ตั้งราคาไว้สูงก่อน เอาคนที่อยากได้จริงๆ มาซื้อ ค่อยๆขาย ค่อยๆทยอยปล่อยของ ตามกำลังผลิตที่ทำได้ด้วย ภาพลักษณ์ก็ไม่เสียด้วย
มีช่องว่างให้ไปเล่นกับตลาด กับมาร์จิ้นที่สูงด้วย คุ้มกว่าเห็นๆ

เค้าคงไม่ฆ่าโปรดักตัวเองด้วยการเอามาขายให้เกร่อ หรอกครับ

ไปเทียบกับ CR-Z นั่นมันรถไฮบริดคง งง งง เพราะนั่น เน้นกลุ่มลูกค้าคนละแบบ กับกลุ่ม สปอร์ตแท้ๆขับหลัง
คนที่จะซื้อมันไม่ทับไลน์กันหรอกครับ  ไม่ใช่ CRZ มันไม่ดีไม่เร็วนะ แต่มันจับกลุ่มคนอยากรู้อยากลองเทคโนโลยีอยากเล่นกับอะไรแปลก
แต่ถ้าจะเอาแบบสปอร์ต จริงๆผมยังคิดว่า ถอดเอา ระบบไฮบริดออกลดน้ำหนักแล้วลงเครื่องจี๊ดๆยังไงก็มันส์กว่า

ผมชอบคอมเม้นที่เขียนว่า รถมันเลือกคนขับ

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ เพราะการออกแบบรถพวกนี้ มันมีการตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้ชัดเจน
มันไม่ คอมโพรไมส์หรอก ฉะนั้นคนที่ไม่ใช่จริงๆยังไงเค้าก็ไม่ซื้อ คนที่ใช่ถ้ามันตอบโจทย์เค้าได้ ยังไงเค้าก็ซื้อ
คนซื้อรถสปอร์ต นอกจากมีเงินแล้วมันต้องมีปัจจัยอื่นๆประกอบด้วยถึงจะซื้อสำเร็จนะครับ ไหนจะด่านครอบครัวยอมไม่ยอมให้ซื้อ บางคนอยู่จุดที่มีเงินซื้อได้ แต่เมียไม่ยอม แม่ไม่ให้ ภาพลักษณ์การงานไม่เหมาะสม  ด้านอื่นๆอีก มีที่จอดให้รถคันนึงที่อาจจะไม่ได้ขับไปไหนเลย สองเดือนทิ้งไว้เล่นๆหรือเปล่า อยากสนุกจริงๆต้องมีรถขนมันเอาไปต้องมีค่าสนาม มีค่ายางค่าซ่อมบำรุง ไหวจริงหรือเปล่าถ้าคนไม่เคยเล่นจริงๆให้กำเงินมาซื้อสปอร์ตในฝันผมเชื่อเลยว่าส่วนใหญ่ก็ไม่เอา ไปซื้ออย่างอื่นดีกว่าคุ้มกว่าเหมาะสมกว่า
เพราะสำหรับเมืองไทย รถยนต์มันเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูงเกินไป เทียบกับค่าครองชีพคนส่วนใหญ่ สำหรับคนส่วนน้อยที่มีเงินเหลือๆก็คง มีคำตอบชัดเจนในแนวทางอยู่แล้ว

และอีกเรื่องนึงผมว่ามีคนกลุ่มใหญ่มาก ที่รอซื้อมือสอง
เพราะกะเอารถมายำมาแต่ง คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยซื้อมือหนึ่งเท่าไหร่หรอกครับ
เมื่อถึงเวลานั้น ราคามือสองจะเป็นราคาที่ตลาดให้มูลค่ารถมันจาก ดีมานด์จริงๆ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ มีนาคม 31, 2012, 10:22:48
รอ MX 5 ตัวใหม่ที่จะกลับไม่สู่สามัญดีกว่าครับ ราคาน่าจะถูกกว่าเพราะ cc ลดลง

86 เมื่อวานผมลืมไปดูมัน ซ่ะงั้น เพลินอยู่กับการแย้งเข้าไปนั้งใน Camry ใหม่ อยู่ จนลืมมันไปเลย  ;D

แต่ที่ประทับใจจนอยากได้ มากกว่าก็คือ CR-Z ครับ ราคานี้ กลับไปดูรีวิวคุณจิมมี่แล้ว เจ้านั้น ขายสองล้านกลางๆเลย

แล้วนี้เปิดราคามาไม่ถึง 2 ล้าน ได้รถคูเป้ที่ขับสนุก ใช้ได้ทุกวัน แต่งแรงได้แต่มันไม่ใช้รถไว้ทำแรงม้ามากๆ

มันแค่รถคูเป้ที่ขับสนุก นั้นคือมันตอบโจย์ของลูกค้าที่ใช้รถประเภทเพื่อขับสนุกๆ ได้ทุกวันอยากเราๆ ครับ  ;D

 

รอลุ้นNDอยู่เหมือนกันครับ แต่คาดว่าราคาคงไม่ถูกลงไปเท่าไหร่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: burutrad ที่ มีนาคม 31, 2012, 10:31:36
 ไปดูคันจริงมาแล้วยอมรับว่าข้างในมันไม่สมราคาจริงๆแต่ก็เป็นแบบนี้แหละครับถ้ารักรถและตังค์เยอะก็น่าสนใจนะ :) :)
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: VenusF ที่ มีนาคม 31, 2012, 11:08:07
Lotus ที่มามันเป็นรถดิบอยู่แล้วนี่ครับในสนามมันไม่เป็นรองใครเลยมีเอกลักษณ์ของมันว่า
มันคือรถที่พร้อมลงสนามแต่เจ้านี่มันไม่ใช่เลยล่ะ ดังนั้นเรื่อวัสดุคงมาเทียบโลตัสไม่ได้ คนละชั้น

ถูกต้องครับ อย่าง lotus ไม่นับ evora ที่เริ่มกลายพันธ์
เขามี position ของเขาอยู่แล้ว แต่ 86 ถึงไม่ใช่แต่ก็ไม่หนีกันมาก
อาจจะไม่ได้เอาไว้ลงสนามโดยตรง แต่ก็ทำไว้ให้คนชอบรถ ชอบความเร็ว
ได้มีความสุขทุกเวลาที่ได้ขับมัน

ผมนะโคดเกลียด Golf GTI  Audi TT Boxster Mini จังเลย
ปุ่มอะไรฟระเต็มไปหมด ใช้งานทีก็ลำบาก จะขับรถนะเฟ้ยไม่ใช่ขับเรือบิน
เอาแบบง่ายๆโง่ๆได้ไหม ปุ่มน้อยๆใช้ง่ายๆ คลำก็เจอ ไม่ต้องเพ่งแล้วเพ่งอีก
มองแล้วมองอีกก็ยังดูไม่ออกเลยว่ามันปุ่มอะไร

ผมชอบรถ ผมชอบการขับขี่ ชอบเสียงเครื่องยนต์ ชอบฟิลลิ่งในการขับรถ
ผมไม่ชอบอุปกรณ์อิเลคโทรนิคบ้าบอมากมาย เครื่องเสียงไฮเอนด์ ที่ไม่เคยเปิดฟัง
ถ้าผมมีรถที่บ้านอยู่้แล้ว แล้วผมอยากได้อีกสักคันใช้ขับไปซิ่งกับเพื่อนๆวันอาทิตย์
เอาไปลงสนามบ้าง เดินทาง ตจว บ้าง ขับเวลาเครียดๆจากงานบ้าง ผมก็คงหันมามอง 86 บ้าง

แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนประเภทนี้ รถอื่นๆมีให้คุณเลือกมากมาย ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดครับ

สุดท้ายก่อนที่เพื่อนๆจะวิจารณ์อะไรเลยเถิด
ผมขอข้อคิดสักอย่างนะครับว่า

รถมันเลือกคน ไม่ใช่คนเลือกรถ

โดยเฉพาะรถสปอตร์ รถมันถูกทำไว้ก่อนให้ลูกค้าจะมาเลือกมันอีก
คนที่เขาทำรถเขาคิดไว้แล้วว่าจะให้คนแบบไหนมาขับ
เพราะฉะนั้น 86 มันเลือกคนขับว่าควรจะเป็นใคร อุปนิสัยอย่างไร
ชอบรถขนาดไหน เข้าไส้ขนาดไหน
มีตังขนาดไหน พอค่าเลี้ยงดูไหม และอื่นๆ
ซึ่งถ้าไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ อยู่กันไม่นานแน่ๆ เดี๋ยวก็พาลจะขายรถทิ้งเปล่าๆ


แต่ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้และคนอื่นๆที่ผิดหวังกับ 86 นะครับ
ผมเองก็ผิดหวังเหมือนกัน เพราะข่าววงในมันแว่วมาว่าชัวร์ 100 เปอร์เซ็นกะราคา
กะจะกัดฟันผ่อนสัก 7 ปี แต่มาเจอราคาแบบนี้ ถอยไปตั้งหลักก่อน
คิดได้แล้วจะหาสินสอดมาแต่ง คิดไม่ได้ก็ไปหาน้องนางที่ลีลาไม่สะเด่า หุ่นไม่เพียวเท่า
แค่พอปลุกใจชายวัยกลางคนได้ก็พอ เช่น GTI นั่นเอง....

GTI โคดคุ้ม..... ถูก และดี หาได้ที่ไหน

+1ถูกใจมากครับ

ใช่ครับรถแบบนี้รถมันเลือกคนมิใช่คนเลือกรถครับ 86 ทำมาให้เราบังคับรถไม่ให้รถบังคับคน
เดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่คงเคยชินขับแต่รถขับหน้า  รถรุ่นใหม่ๆก็มีแต่ปุ่มยุบยับเต็มไปหมด
ซึ่งบางอย่างฟีลที่รถขับหลังมีให้ตูดดีดนิดๆแต่ควบคุมได้ ที่ไม่สามารถหาได้จากขับหน้าได้
ส่วนใหญ่เดี๋ยวยางลั่นสักนิดก็ถอนกันหมดแล้ว
ผมว่ามันลงตัวแล้วนะครับสำหรับ 86 ถึงแม้ว่าราคาเปิดตัวจะสูงไปสักนิด
แต่นั่นก็เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของเขานี่ครับเดี๋ยวสักพักก็คงมีการปรับ
ตามสไตด์ของพี่โตเขา ส่วนตัวผมรอของแต่งมาเต็มๆอีกสักหน่อยค่อยสอยครับ


หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ichok ที่ มีนาคม 31, 2012, 11:49:29
สุดท้ายรถสปอร์ตก็คือรถของคนรวย(สำหรับเมืองไทย) สรุปGT86ไม่ใช่สโลแกนรถสปอร์ตมหาชนอย่างที่ได้ยินมา (ไม่ใช่รวยแล้วโง่นะครับ หมายถึงรวยแล้วชอบจริงๆ งบถึง ไม่คิดมาก)
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: gttle ที่ มีนาคม 31, 2012, 12:02:53
สุดท้ายรถสปอร์ตก็คือรถของคนรวย(สำหรับเมืองไทย) สรุปGT86ไม่ใช่สโลแกนรถสปอร์ตมหาชนอย่างที่ได้ยินมา (ไม่ใช่รวยแล้วโง่นะครับ หมายถึงรวยแล้วชอบจริงๆ งบถึง ไม่คิดมาก)
แม่นแร้วครับ ของอย่างนี้มันเป็นของฟุ่มเฟือยที่เล่นกับกิเลสของคนครับไม่ได้ตัดสินที่คุ้มหรือไม่คุ้มมันอยู่ที่ชอบหรือไม่ชอบครับคนที่ซื้อรถประเภทนี้คงไม่ได้คิดถึงเรื่องคุ้มเป็นอย่างแรก เหมือนคนเล่นเครื่องเสียงล่ะครับสายไฟเมตรละเป็นหมื่นเครื่องเล่น cd อย่างเดียวเครื่องละเป็นแสนยังซื้อกันเลยไม่คิดด้วยทั้งที่มีของที่ถูกกว่าเล่นได้เหมือนกันเสียงต่างกันบางทีไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำเพราะพอใจ

ตอบคนที่ 100 พอดีกระทู้นี้ hot
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: HYDE-- ที่ มีนาคม 31, 2012, 12:24:53
พวก Elise, Exige เนี่ย รถคันละหลายล้าน แต่ข้างในไม่มีอะไรเลย ยังกะรถโกคาร์ท
คือ มีไว้ซิ่ง อย่างเดียว เพราะฉะนั้น GT-86 ก็ไม่น่าเกลียดแล้วแหล่ะ

แต่ถ้าเรื่องวัสดุ กะ การประกอบ หูย Scirocco สุดยอดมากๆ การเย็บ ผิวสัมผัส ดีมากๆ

งานนี้ GT-86 คงเหนื่อยแล้วแหล่ะ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ugly... ที่ มีนาคม 31, 2012, 19:55:31
ผมเชื่อว่าให้สิบคนไม่เกินสามคน ที่ขับแล้วรู้สึกถึงข้อดีข้อเสียของรถ
ไม่มีทางที่จะรู้ว่าเวลาไสลด์ในสนามแล้วมันมีความสุขอย่างไร
ไม่เคยรู้ว่าการสไลด์แล้วคอนโทรลได้เชื่องเป็นอย่างไร
พวกนักวิจารณ์ระดับเซียนเมืองนอก ขับรถแต่ละคันเป็นวันๆ บางคันขับกันเป็นอาทิตย์
ขับมาทุกยี่ห้อ ตั้งแต่รถสากกะเบือยันรถที่แพงกว่าเครื่องบินอีก เพราะฉะนั้นคุณไม่ชอบรถแบบนี้
หรือคุณไม่ได้ต้องการเอารถมาขับแบบนี้ คุณถึงได้ลังเลว่าจะเอาอะไรดีในงบขนาดนี้

แต่ถ้าคุณชอบการขับแบบที่ผมว่ามาข้างบน
86 เทียบกับรถมือหนึ่ง อย่าไปอ้างราคามือสอง
ผมว่าหาตัวเทียบยังไม่เจอ แล้วเขาก็ทำการบ้านมาดี ว่าไม่มีรถอะไรที่ถูกขนาดนี้แล้ว
เขาถึงได้ทำราคานี้ไงครับ
แต่ถ้ามีรถแบบ 86 ชนกันแบบตรงๆสักสี่ห้ายี่ห้อ
เขาก็ต้องตั้งราคามาบี้กันกับยี่ห้ออื่นๆ ให้เราน้ำลายไหล

รถทั่วๆไปออกแบบมาให้ตนปกติใช้งานไม่เถียง แต่รถประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้เป็นตำนาน
เขาต้องคิดแล้วคิดอีก คิดค้นจนทะลุปรุโปร่ง และคิดว่าคนที่สละความสะดวกสบายและเงินทอง
เพื่อที่จะซื้อ 86 เขาต้องมีดีระดับนึงถึงจะเข้าใจในแก่นแท้ของมัน
อาจจะไม่เสมอไปเพราะหลายคนที่ขับรถสปอตร์แต่ไม่เคยขับเร็ว ไม่เคยสไลด์ ไม่เคยมุดมีอยู่ถมถืด
แต่เชื่อว่าคนที่รักและชอบ 86 จริงๆเท่านั้นถึงจะรู้ว่ามันมีดีอย่างไร

บอกไปคนที่ไม่เคยสัมผัสคงไม่รู้จริงๆครับ ผมคนนึงละเชื่อว่ามันมีดีเกินตัวแน่ๆ
แต่ข้อดีของมัน อาจจะดีสำหรับบางคนเท่านั้นครับ ไม่ใช่สำหรับทุกคน
เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องการขับขี่ผมว่ามันไม่แพ้ใครในคลาสเดียวกัน

แต่ถ้าเรื่องวัสดุ เรื่องหน้าตา เรื่องราคา อันนี้ผมไม่รู้
เรื่องขับสนุกไม่สนุกไม่ต้องคิดมาก สื่อและนักวิจารณฟันธงไปแล้วว่าดีจริง
ไอ้พวกเราอย่างผมมันชั้นปลายแถว
บางทีรถดีๆอาจจะบอกว่าขับไม่ได้เรื่องก็ได้นะครับ

ผมค่อนข้างไม่เห็นด้วยนะครับ
รถที่ผลิตขึ้นมาขาย ไม่ได้ขายให้ประชาชนทั่วไป? แต่ขายให้สื่อหรือนักวิจารณ์? นักวิจารณืชมว่าดีก็ต้องดี?
 
ผมเคยให้ความเห็นอยู่เสมอ คุณไปลองขับรถหรือยังก่อนจะซื้อ หรืออ่านแต่คำวิจารณ์ของคุณจิมมี่แล้วเชื่อ?
สุดท้ายซื้อมาแล้ว ปรากฎว่ามันไม่เหมาะกับคุณเลยสักนิดเดียวนะครับ
แล้วที่นี้จะโทษใครล่ะครับ ผมอยากให้ข้อสังเกตไว้
+1 เลยครับ

ผมอาจจะไม่ได้เซียนรถตัวตจริง แต่ผมก็เคยไปหมุน ไปสไลด์ในสนามมานิดหน่อย
ผมรู้ดีว่าไอ้รถขับหลังมันสนุกยังไง ไม่ต้องแรงมากขนาดร้อยกว่าม้ายังสไลด์ได้เลย
เขาทำมาเพื่อขับสนุก ไม่ใช่ทำมาเพื่อความแรง ไอ้เรื่องรถแรงน่ะทำได้ แต่ไอ้เรื่องขับสนุกนี่ทำยากครับ

ผมยกตัวอย่าง lotus มีนักวิจารณ์ระดับเซียนสักคนไหมที่บอกว่ามันขับไม่ได้เรื่อง....
....ไม่มีเลยสักคน

ยกเว้นนักวิจาร์ขี้นกที่ไม่มีปัญญาได้ขับรถระดับนี้
เคยได้แต่วิจารร์รถบ้านๆถึงจะบอกว่ามันขับห่วย ไม่สนุก

แต่ถามนักวิจารณ์ว่าถ้าเป็นเงินตัวเองจะซื้อไหม
เขาก็บอกว่าแพงขนาดนี้ไม่ซื้อ
เอาตังไปซื้ออย่างอื่นดีกว่า นอกจากบ้ารถจริงๆ

ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง
ไม่ใช่โลกในความฝันมันมีน้อยคนจริงๆที่จะบ้าเข้าไส้ขนาดนี้
86 ก็เป็นรถที่ประณีประนอมลงมากว่า lotus มาก
เอาใจตลาดพอประมาณ
แต่ก็ไม่เอาใจจนตัว 86 เองเสียบุคลิคส่วนตัวไป

ผมอยากให้มองตรงนี้นะครับ เป็นประเด็นที่ผมพูดถึง

ผมไม่ว่าใครผิดใครถูก เพราะแต่ละคนมีตรรกะของตัวเองทุกคน
ทุกคนถูกในความคิดของตัวเองทุกคน แต่ดันไม่ถูกในความคิดคนอื่น

หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Tuna ที่ เมษายน 01, 2012, 23:30:33
น่าจะถูกกว่าสองสามแสนครับ เดาล้วนๆ 5555
ประมาณนี้หล่ะครับ
ปลายเดือนก็มาแล้วครับ  ;D
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Tuna ที่ เมษายน 01, 2012, 23:34:24
สุดท้ายรถสปอร์ตก็คือรถของคนรวย(สำหรับเมืองไทย) สรุปGT86ไม่ใช่สโลแกนรถสปอร์ตมหาชนอย่างที่ได้ยินมา (ไม่ใช่รวยแล้วโง่นะครับ หมายถึงรวยแล้วชอบจริงๆ งบถึง ไม่คิดมาก)
แม่นแร้วครับ ของอย่างนี้มันเป็นของฟุ่มเฟือยที่เล่นกับกิเลสของคนครับไม่ได้ตัดสินที่คุ้มหรือไม่คุ้มมันอยู่ที่ชอบหรือไม่ชอบครับคนที่ซื้อรถประเภทนี้คงไม่ได้คิดถึงเรื่องคุ้มเป็นอย่างแรก เหมือนคนเล่นเครื่องเสียงล่ะครับสายไฟเมตรละเป็นหมื่นเครื่องเล่น cd อย่างเดียวเครื่องละเป็นแสนยังซื้อกันเลยไม่คิดด้วยทั้งที่มีของที่ถูกกว่าเล่นได้เหมือนกันเสียงต่างกันบางทีไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำเพราะพอใจ

ตอบคนที่ 100 พอดีกระทู้นี้ hot
+1
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BaSkInElItEgUyS ที่ เมษายน 02, 2012, 14:39:56
ราคามันแรงไป ถ้าโตโยต้าเล็งเห็นว่ามันยังไงก็ขายได้
ทุ่มทุนเอามาประกอบใน แล้วทำราคาแค่ 1.2-1.5 ล้านบาท
จะขายได้แบบเทน้ำเทท่าเลยครับ
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: adminope ที่ กรกฎาคม 30, 2012, 12:40:08
เทียบกะที่uk แล้ว ยุโรปบ้างคันยังเอากำไรน้อยกว่าเลย เลิกเหอเมื่อไรลดหวบแน่นอน

หรือว่าตั้งราคาเอาไว้ให้ต่อ?
หัวข้อ: Re: เหนื่อยใจกับ GT 86 จริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: kasuya ที่ สิงหาคม 31, 2014, 10:00:49
ตอนนี้หาซื้อยังต้องรอข้ามปี แต่ละปีมีโคว์ต้าจำกัด

ประหนึ่งดุจองุ่นเปรี้ยวเข้าปาก