Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ กันยายน 18, 2013, 08:33:41
-
ผมยอมรับว่าผมอิจฉาคนอินโด (อินเดีย) ที่ได้ใช้รถราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับบ้านเรา อีกทั้งอินโดยังมีเกียร์ AT ด้วย
:D
แต่มาคิดดูอีกที ถ้าผลิตในบ้านเรา ทั้งค่าแรง ค่าภาษีอันซับซ้อน (เก็บ Vat ท้องถิ่น สรรพสามิตและอื่นๆ ที่ไร้สาระ)
ยังไงต่อให้เอามา ก็คงไม่มีทางต่ำกว่า 3.5 แสนแน่ๆ
:D
ผมมาคิดดู บ้านเราก็ยังมีข้อดี คือ อย่างน้อยสินค้าที่เราผลิต เราเน้น Global เน้นการส่งออกไปต่างประเทศ ดังนั้นการสร้างมาตราฐานสูงๆ เช่น ถุงลมข้าง ม่าน ESP co2 ต่ำกว่า 100 ก็น่าจะดีกว่า ผมว่าเฟส 2 คนบ้านเราคงซื้อกันแน่ๆ และส่งออกก็น่าจะพอไปได้ เพราะมันเป็นสินค้าสากล
ดีกว่าการไปชนกับอินโด ที่เขายอมลด spec ความปลอดภัย (ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะโครงสร้างความปลอดภัย) และมลพิษ แต่ไปเน้นราคา เน้นขายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าเราทำแบบเขา ก็คงไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้เพราะ บ้านเราคนไม่ชอบรถแบบอินโด และค่าใช้จ่ายในการผลิตสูงกว่า ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเรียนในวิชาสาย Safety อินโดเขาค่อนข้างใช้แรงงานคนในการประกอบมาก(แบบเดียวกับอินเดีย) แต่บ้านเราใช้คนน้อยกว่า คุณภาพดีกว่า
อีกอย่าง ผมว่าถ้ารถราคาถูกมาขายมากเกินไปในบ้านเรา คนก็จะเปลี่ยนรถกันบ่อยขึ้น ราคามือสอง คงแย่ลงมากๆ ไม่สมดุล อย่างน้อย เฟส 2 ราคาคงไม่ถูกลง แต่ปลอดภัยขึ้น ประหยัดขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ ราคามือสอง ไม่ทรุดไปมากกว่านี้ แต่ถ้าทำรถราคาแบบ Green car มือสองคงเน่าหนัก
คิดอย่างไรกันครับ ขอความเห็นจากทุกท่านครับ ขอบคุณครับ
-
ผมว่ามันคนละโจทย์กันนะครับ
ของไทย
1. เน้นการส่งออก (ต้องผลิตเกิน 100,000 คัน/ปี) -> สินค้าเลยต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยหลายๆ ตัว
2. เน้นการลงทุน (ต้องผลิตชิ้นส่วนหลักๆ หลายๆ ตัวในประเทศ)
3. ไม่ได้เน้นกระตุ้นตลาดในประเทศ แต่ต้องลดภาษีเพื่อจูงใจ
ของอินโด
1. ดึงการลงทุน -> มีสิทธิประโยชน์มาแข่งกันไทย
2. ทดแทนการนำเข้า -> ให้ผลิตในประเทศแทนที่จะต้องนำเข้าบางรายการจากไทย
3. ให้ประชาชนมีรถราคาถูกใช้ ในการพัฒนาประเทศ -> ตลาดในประเทศยังเยอะ คนยังไม่มีรถเยอะ เลยมีรถถูกๆ ให้ใช้
เอามาเทียบกันลำบากน่ะครับ
ปล.ผมไม่ทราบโครงสร้างภาษีในอินโดเหมือนกันครับ แต่ Eco car บ้านเราเสียภาษีคันไม่ถึง 8 หมื่นนะ
-
เอาให้ safety spec ดีๆก็พอ ซึ่งดูแล้ว ก็คงเลือกฝ่ายเราครับ
-
ประเด็นคือ
ถุงลม คู่หน้านี่ ต่างประเทศที่เค้าเจริญแล้วบังคับนานแล้ว
มีกันทุกคัน ในราคาที่ไม่แพง
แถมยังมี SAB ถุงลม ด้านข้างอีก
บ้านเราเอาออกใช่ว่าจะลดราคารถลง นะครับ
ขายต้นทุนเท่าที่ ขายต่างประเทศนะเหลาะ
เค้าเรียก VAVE ตัด option เพิ่มกำไร ลดต้นทุน ไม่ได้ลดราคารถให้ User เลย 555
จริง ๆ แอร์ bag ราคา ทุนที่ส่งเข้าโรงประกอบมันหลัก 100 ด้วยนะครับ เต็มที่ไม่ถึง 2000 หรอก
แต่ พอ user ซื้อเองโดนเป็น 10000 บ้าชมัด
ลองคิด คร่าว ๆ Side Airbag ราคา 1000 ในรถมีสอง คือ 2000
หนึ่งคันลดไป 2000
100000 คัน ได้ ลดต้นทุนไป 200,000,000 ล้านบาท ขายรถราคาเดิม
-
ถ้าหากรัฐบาลให้ลดสเปคความปลอดภัยลง ผมว่าเราคงได้รถถูกลง แต่ความเสี่ยงคงเพิ่มขึ้น และรถที่ผลิตในไทยคงไม่เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ ผมว่าดีแล้วที่เราไม่เลียนแบบอินโดฯ แต่ ถ้ารัฐบาลจะให้ผลิตรถตำกว่า1000 ซีซี ภาษีถูกลง ผมว่าน่าจะมี หลายบริษัท อยากทำนะ โดยเฉพาะอีก5ปีข้างหน้า เมืองใหญ่หลายแห่งจะรถติดเพิ่ม รถคันเล็กๆน่าจะเป็นที่ต้องการมากเลย
-
ประเด็นรถถูกและคุ้มของคุณเต้มาอีกแล้ว
ขอผ่านประเด็นกระทู้นี้แต่ขอพูดถึงแนวกระทู้สักนิดนะครับ
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่แนวคิดครับแต่อยู่ที่การนำเสนอมากกว่า
-หัวกระทู้อวยสุดลิ่มทิ่มประตู เนื้อหาขยายความอีกนิดหน่อย
-ภาษาแสดงการอวยตรงๆชอบนี้ อยากได้อันนั้น แต่ความชอบมันไม่คงที่นี่สิ
สรุปแล้วควันหลงกระทู้ยาริสยังไม่จางกระทู้นี้ผมก็งงต้องการสื่ออะไร ?
อยากได้รถถูกแบบอินโดแต่งานประกอบคุณภาพแบบไทย?
-
คือ ผมอยากจะบอกบอกว่าไอ้อุปกรณ์ ความปลอดภัย หากเพิ่มเข้ามานะ ต้นทุนราคารถมันเพิ่มไม่ถึง 10000 หลอกครับ จริงๆ นะ
-
ประเด็นรถถูกและคุ้มของคุณเต้มาอีกแล้ว
ขอผ่านประเด็นกระทู้นี้แต่ขอพูดถึงแนวกระทู้สักนิดนะครับ
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่แนวคิดครับแต่อยู่ที่การนำเสนอมากกว่า
-หัวกระทู้อวยสุดลิ่มทิ่มประตู เนื้อหาขยายความอีกนิดหน่อย
-ภาษาแสดงการอวยตรงๆชอบนี้ อยากได้อันนั้น แต่ความชอบมันไม่คงที่นี่สิ
สรุปแล้วควันหลงกระทู้ยาริสยังไม่จางกระทู้นี้ผมก็งงต้องการสื่ออะไร ?
อยากได้รถถูกแบบอินโดแต่งานประกอบคุณภาพแบบไทย?
ผมว่า อย่างน้อยเราก็มีข้อดีนะครับ ถึงแพง แต่ก็มีคุณภาพ (มองในภาพรวม) ยังไงเราก็ส่งออกได้ครับ
-
ตอนนี้นะครับดัสสันเปีดตัวในอินโดแล้วนะครับแต่ราคาคง3แสนต้นๆครับ
-
ส่งเสริมการผลิต แล้วก้น่าจะมีการส่งเสริมการ รีไซเคิลบ้างนะ
-
ส่งเสริมการผลิต แล้วก้น่าจะมีการส่งเสริมการ รีไซเคิลบ้างนะ
คิดเหมือนกันครับ :D
-
ส่งเสริมการผลิต แล้วก้น่าจะมีการส่งเสริมการ รีไซเคิลบ้างนะ
คนไทยรับกันได้แล้วเหรอครับ กับการใช้รถ 5 ปีเปลี่ยนคัน
-
ส่วนโครงการรถอินโด
เทียบกับบ้านเราไม่ได้ครับ
ตลาดอินโด คล้ายอินเดีย เน้นความคุ้มค่า เอาแค่รถขนคน ขนทุกสิ่งอย่าง จ่ายในงบที่น้อยที่สุด แค่ได้รถไว้ใช้
แต่ตลาดไทย คล้ายจีน มากกว่า เน้นหน้าตา ภาพลักษณ์ คุ้มเงินจ่ายแพงได้ ถ้าคุ้มค่า
แต่ต้องกลายเป็นคู่แข่งโดยตรง เพราะแย่งกำลังการผลิตกัน
คงต้องรอให้เปิดเสรีอาเซียนเต็มร้อย จะเห็นอะไรชัดเจนขึ้น
-
บ้านเรา เจอภาษีรถ มันเลยแพงครับ
จริงๆ รถ มันไม่ได้แพงอะไร
แต่พอเจอภาษีแพง รถเลยแพง
แถมค่าครองชีพเราถูกอีก ซ้ำเติมไป
พอมันแพงรถจึงกลายมาเป็น ของมีค่า มีราคา มีหน้ามีตาขึ้นมาทั้นที
รถหลายรุ่น ส่งอกไปขาย ต่างประเทศ Spec สูงกว่า แต่ราคาถุกกว่า คนไทยซื้อ อีกนะครับ
ยกตัวอย่าง ง่ายๆ ครับ
lancer แคนนาดา
รุ่น DE ต่ำสุด เครื่อง 2.0 Airbag 4 ลูก ราคา 15000 USD = 480,000 บาทครับ
Lancer EX 2.0 ไทย Airbag 2 ลูก กากมาก ราคา 1 , 040,000 บาทครับ
ต่างกัน 550,000 ทั้งที่ Spec กากกว่ามากครับ
คิดแล้วสงสารคนไทยจังครับ ต้องมาเจอ ภาษีรถแพง แต่ ดันให้กู้ซื้อได้
สุดท้าย เราทำงาน ใช้หนี้ ผ่อนรถ หัวโต
-
ผมกลัวอย่างเดียวว่าเฟส 2 มันจะเป็นพวกรถเล็กที่ได้ 3 ดาว ncap มาใส่ถุงลม 6 ใบ ซึ่งชนเมื่อไหร่ผมว่ามันเจ็บกว่าเดิมแหงๆ
-
บ้านเรา เจอภาษีรถ มันเลยแพงครับ
จริงๆ รถ มันไม่ได้แพงอะไร
แต่พอเจอภาษีแพง รถเลยแพง
แถมค่าครองชีพเราถูกอีก ซ้ำเติมไป
พอมันแพงรถจึงกลายมาเป็น ของมีค่า มีราคา มีหน้ามีตาขึ้นมาทั้นที
รถหลายรุ่น ส่งอกไปขาย ต่างประเทศ Spec สูงกว่า แต่ราคาถุกกว่า คนไทยซื้อ อีกนะครับ
ยกตัวอย่าง ง่ายๆ ครับ
lancer แคนนาดา
รุ่น DE ต่ำสุด เครื่อง 2.0 Airbag 4 ลูก ราคา 15000 USD = 480,000 บาทครับ
Lancer EX 2.0 ไทย Airbag 2 ลูก กากมาก ราคา 1 , 040,000 บาทครับ
ต่างกัน 550,000 ทั้งที่ Spec กากกว่ามากครับ
คิดแล้วสงสารคนไทยจังครับ ต้องมาเจอ ภาษีรถแพง แต่ ดันให้กู้ซื้อได้
สุดท้าย เราทำงาน ใช้หนี้ ผ่อนรถ หัวโต
ใช่ครับ เห็นด้วยมาก
-
ผมกลัวอย่างเดียวว่าเฟส 2 มันจะเป็นพวกรถเล็กที่ได้ 3 ดาว ncap มาใส่ถุงลม 6 ใบ ซึ่งชนเมื่อไหร่ผมว่ามันเจ็บกว่าเดิมแหงๆ
หวังว่าจะไม่นะครับ :D
-
ผมกลัวอย่างเดียวว่าเฟส 2 มันจะเป็นพวกรถเล็กที่ได้ 3 ดาว ncap มาใส่ถุงลม 6 ใบ ซึ่งชนเมื่อไหร่ผมว่ามันเจ็บกว่าเดิมแหงๆ
ถ้า euroncap อาจจะได้ 4 ดาวครึ่งเลย ถ้าใส่ถุงขนาดนั้นครับ
-
ผมเพิ่งกลับจากพม่า เจอกระทู้แบบนี้อีกแบ้ว....
อยากพา จขกท. ทัวร์เพื่อนบ้านจังเลย จะได้ไม่ต้องเปรียบเทียบแบบห่าง ๆ อย่างนี้อีก
-
ผมกลัวอย่างเดียวว่าเฟส 2 มันจะเป็นพวกรถเล็กที่ได้ 3 ดาว ncap มาใส่ถุงลม 6 ใบ ซึ่งชนเมื่อไหร่ผมว่ามันเจ็บกว่าเดิมแหงๆ
ถ้า euroncap อาจจะได้ 4 ดาวครึ่งเลย ถ้าใส่ถุงขนาดนั้นครับ
อยากได้ถุงๆ
ผมเพิ่งกลับจากพม่า เจอกระทู้แบบนี้อีกแบ้ว....
อยากพา จขกท. ทัวร์เพื่อนบ้านจังเลย จะได้ไม่ต้องเปรียบเทียบแบบห่าง ๆ อย่างนี้อีก
อย่างน้อยเราก็มีข้อดีนะครับ ผมคิดว่า :D