ผมยอมรับว่าผมอิจฉาคนอินโด (อินเดีย) ที่ได้ใช้รถราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับบ้านเรา อีกทั้งอินโดยังมีเกียร์ AT ด้วย
![:D](https://community.headlightmag.com/Smileys/flat_emoji/cheesy.gif)
แต่มาคิดดูอีกที ถ้าผลิตในบ้านเรา ทั้งค่าแรง ค่าภาษีอันซับซ้อน (เก็บ Vat ท้องถิ่น สรรพสามิตและอื่นๆ ที่ไร้สาระ)
ยังไงต่อให้เอามา ก็คงไม่มีทางต่ำกว่า 3.5 แสนแน่ๆ
![:D](https://community.headlightmag.com/Smileys/flat_emoji/cheesy.gif)
ผมมาคิดดู บ้านเราก็ยังมีข้อดี คือ อย่างน้อยสินค้าที่เราผลิต เราเน้น Global เน้นการส่งออกไปต่างประเทศ ดังนั้นการสร้างมาตราฐานสูงๆ เช่น ถุงลมข้าง ม่าน ESP co2 ต่ำกว่า 100 ก็น่าจะดีกว่า ผมว่าเฟส 2 คนบ้านเราคงซื้อกันแน่ๆ และส่งออกก็น่าจะพอไปได้ เพราะมันเป็นสินค้าสากล
ดีกว่าการไปชนกับอินโด ที่เขายอมลด spec ความปลอดภัย (ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะโครงสร้างความปลอดภัย) และมลพิษ แต่ไปเน้นราคา เน้นขายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าเราทำแบบเขา ก็คงไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้เพราะ บ้านเราคนไม่ชอบรถแบบอินโด และค่าใช้จ่ายในการผลิตสูงกว่า ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเรียนในวิชาสาย Safety อินโดเขาค่อนข้างใช้แรงงานคนในการประกอบมาก(แบบเดียวกับอินเดีย) แต่บ้านเราใช้คนน้อยกว่า คุณภาพดีกว่า
อีกอย่าง ผมว่าถ้ารถราคาถูกมาขายมากเกินไปในบ้านเรา คนก็จะเปลี่ยนรถกันบ่อยขึ้น ราคามือสอง คงแย่ลงมากๆ ไม่สมดุล อย่างน้อย เฟส 2 ราคาคงไม่ถูกลง แต่ปลอดภัยขึ้น ประหยัดขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ ราคามือสอง ไม่ทรุดไปมากกว่านี้ แต่ถ้าทำรถราคาแบบ Green car มือสองคงเน่าหนัก
คิดอย่างไรกันครับ ขอความเห็นจากทุกท่านครับ ขอบคุณครับ