Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mamaman ที่ กันยายน 18, 2013, 23:07:03
-
ลบกระทู้ได้นะครับ ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสม
พอดี เห็น มีแต่กระทู้ชอบ บ่น ชอบว่าผู้ผลิตรถยนต์ รวมถึง ปตท
เวลา เราต้องซื้อรถไม่มี ไม่มีความปลอดภัย กั๊ก option ไม่มี แอร์แบ๊ค
แต่จะมีสักกี่คน ที่รู้ว่า รถเก๋ง กับ SUV
จริงๆ นะ ราคาจากทางผู้ผลิตรถยนต์ รวมถึง ผู้ผลิต น้ำมันนะ มันไม่ได้แพงอะไรเลย
มันแพงเพราะ ภาษี แต่แปลกดีนะ รัฐบาลสนับสนุน ให้ เรากู้ซื้อได้ 555
น้ำมันก็เช่นกัน น้ำมันขึ้น ราคา เราด่าแต่ ปตท ปตท
มีใครเคยไปดูโครงสร้างราคา น้ำมันบ้างแพงเพราะอะไร
ไทยน่าจะเป้นประเทศเดียวในโลกที่ขาย ดีเซล ถูกกว่า เบนซิน มากถึง 30 %
คงไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ รถเก๋ง ขนาดกลางและเล้ก ราคาแพงกว่า รถ กะบะ สี่ประตู
สนับสนุนให้สามารถกู้ซื้อรถ
จริง ๆ ผม อยากให้โทษ .......และพวกเราเอง ที่ยอมให้มันเป็นแบบนี้ครับ
ที่ต่างประเทศเค้าต้องยัด ถุงลมนิรภัยเข้าไปเยอะๆ เพราะ กฏหมายเค้าบังคับกันครับ ผมเคยบอกแล้วว่า airbag ต้นทุนนะไม่กี่บาทหรอก
ลองรัฐบาลบังคับสิครับ อย่างต่ำ 4 ลูก ขี้คร้าน ราคารถ มันก็ไม่ต้่างจากเดิมหรอกครับ
พอมองภาพออกไหม ว่า ประเทศไทยเราเป้นยังไง
ขนาดรถผลิตในบ้านเรา ยังเก็บ ภาษียังกับนำเข้า
เอเชี่ยน NCAP มีแล้ว ข้าราชการไทย หน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง มัวไป ดูงานต่างประเทศที่ไหนครับ พี่น้อง
ความแปลกแยกทางสังคม สะท้อนได้จาก การตั้งภาษีแปลก ของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง
-
.
.
.
ผมมองว่าขนาดภาษีมันขนาดนี้ คนยังบ้าซื้อรถอย่างที่เป็นอยู่
ถ้ามันถูกกว่านี้ ไม่อยากจะคิดครับ
-
แปลกใจไหมครับ ที่การซื้อส่วนใหญ่คือการกู้ แบบข้ามชาติ ซื้อรถผ่อนข้ามชาติ นี่ก็เป็นเรื่องแปลกของบ้านเรา คือ ตั้งภาษีสูง แต่ กลับ ปล่อยกู้ ง่ายๆ เป็นอะไรที่แปลก จริงๆ ตั้งภาษีสูง หากได้ผลคือ คนใช้รถน้อยลง แต่ กลับกันเลย บ้านเรา ดาวน์ 0 ผ่อน 0
-
เอาจริงๆนะครับ รถแพง แต่อย่างอื่นถูกครับ น้ำมัน ภาษี ค่าทางด่วน
ที่สำคัญ ''ค่าจอดรถ'' จอดไหนก็ไม่เสียเงินสักบาท อยากจอดสัก10ปีก็ไม่เสียตัง
เดี๋ยวพอปรับระบบแบบตปท. เดี๋ยวมีคนบ่นอีกครับ
ดีเซล เค้าเอาไว้ช่วยภาคเกษตรนะรู้สึก แต่พวกรถหรูดีเซลก็ได้รับประโยชน์ไป
ลองมองต่างมุมบ้างครับ Pros Cons เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย
-
ภาษีคือเงินที่เก็บไปใช้เป็นงบประมาณบริหารบ้านเมือง
ถ้ามันราคาสูงเพราะภาษีไม่เป็นไรหรอก ที่เค้าตั้งข้อสังเกต
คือ มันใช่ราคาที่ควรเป็นไหม? ต้นทุน+ภาษี+กำไร
ที่ว่าแพงนี่คือเอากำไรมากเกินไปไหม ตรงนี้ต่างหาก :-\
-
แปลกใจไหมครับ ที่การซื้อส่วนใหญ่คือการกู้ แบบข้ามชาติ ซื้อรถผ่อนข้ามชาติ นี่ก็เป็นเรื่องแปลกของบ้านเรา คือ ตั้งภาษีสูง แต่ กลับ ปล่อยกู้ ง่ายๆ เป็นอะไรที่แปลก จริงๆ ตั้งภาษีสูง หากได้ผลคือ คนใช้รถน้อยลง แต่ กลับกันเลย บ้านเรา ดาวน์ 0 ผ่อน 0
อันนี้ก็น่าคิด เป็นอีกมุมที่ต้องมองให้ลึกๆเหมือนกัน
ผมอาจจะมองแบบแง่ร้าย แต่การเป็นหนี้ หรือถูกหลอกให้เป็นหนี้ เกิน หรือ ไม่จำเป็น นั้น
ทำให้ถูกควบคุมได้ง่าย ทั้งภาพรวม และ ภาพย่อยๆ ลงมา
กู้ --------ผ่อน ----------ใช้ --------หมด ----------ยังตั้งหลักไม่ได้ ---------พักหนี้ ---------กู้---------ผ่อน
เป็นวังวนที่น่ากลัวมาก
สรุป เห็นด้วยกับพี่ จขกท. ตรงที่ ประชาชน ต้องไม่โดนการตลาด ของระบบทุนหลอกให้จมปลักอยู่กับหนี้ครับ
-
้่้่ทำไมหลายคนเข้าใจว่าหนี้คือสิ่งไม่ดีล่ะ
ถ้าเรา กู้ แล้วเอาเงินกู้ไปลงทุนทำอะไรบางอย่างให้มันเป็นผลกำไรได้ แล้วเอาเงินมาใช้หนี้
ผมมองว่าการกู้เป็นการเปิดโอกาสมากกว่า แต่ต้องลงทุนอย่างฉลาด
-
รถบ้านเรามันเยอะ รถติดมาก ก็ปรับราคาภาษีให้แพงเพื่อให้คนซื้อรถน้อยลง ลดปริมาณรถยนตร์ที่จะเพิ่มต่อปี มันก็ถูกแล้วหนิครับ
น้ำมันแพงอันนี้คิดว่าราคาต้นทุนมันก็มาแพงกว่าประเทศอื่นแล้วนะ เทียบกับค่าครองชีพของประเทศเรา + ภาษีน้ำมันอีกเลยกลายเป็นแพงมาก
ส่วนรถดีเซลหรูได้ผลพลอยได้จากราคาน้ำมันดีเซล อันนี้ผมว่าทุกคนมีสิทธิ์เลือกนะ เก๋งดีเซลอาจจะราคาแพงหน่อย แต่ถ้ามองกระบะดีเซลมันก็ถูกลงมาหน่อย
ถ้างบไม่พอเล่นมือสองก็ได้ ไม่มีใครห้ามไม่ให้ใช้รถดีเซล อันนี้ผมว่าแย้งไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิ์เลือก
เรื่องแอร์แบ็ค ผมว่าเค้าก็มีให้เลือกแต่ต้องเพิ่มเงินหน่อยสำหรับเจ้าตลาด แต่ถ้ายี่ห้ออื่นได้แอร์แบ็คในราคาถูกกว่า ถ้าบอกว่าเค้ากั๊กออพชั่นคุณก็ไม่ต้องซื้อ
รถมีให้เลือกตั้งหลายยี่ห้อ คุณก็เลือกเองได้อีกอะแหละ อยากได้ออพชั่นแบบไหนก็เลือกรุ่นนั้น แต่ถ้าติดแบรนต้องยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำไมยี่ห้อนี้ไม่มีออพชั่นนี้
อันนี้จะไปว่าเค้าก็ไม่ได้
-
น้ำมัน ถ้าเอาราคาหน้าโรงกลั่น มันก็พอกับที่มาเลย์แหละครับ โดนภาษีไป มันก็เป็นอย่างที่เห็น
ส่วนเรื่องของแพงหรือถูก เราจะอยู่ได้ หรือไม่ดี เดือดร้อนไม่เดือดร้อน มันอยู่ที่วิธีคิด วิธีใช้ประโยชน์จากระบบครับ
สังเกตุว่า คนที่ชีวิตไม่ค่อยเจริญ คือคนที่เอาแต่โทษคนอื่น โทษรัฐ โทษเพื่อน โทษสังคม โทษ ฯลฯ แต่ "ไม่โทษตัวเอง"
บางคน เป็นหนี้ไปโทษ ภาษี โทษนโยบายรัฐ ขับรถไปทำงาน เงินไม่พอใช้ โทษน้ำมันแพง แก๊สแพง อาหารแพง เล่นหุ้นขาดทุน โทษเจ้ามือ (ถึงมันจะจริงก็ตาม)
อยากก้าวหน้า ต้องหัดโทษตัวเองครับ เราโง่เอง เราพลาดเอง เราขี้เกียจเอง เราตื่นสายเอง เราไม่ศึกษาเอง เรารีบเกินไปเอง
เราอยากนอนเอง เราอยากไปหาแฟนเอง เราอยาก....เอง
นักการเมืองโกงกิน ก็เราเลือกแม่งมาเอง เราไม่พยายามแก้ไขกันเอง เราดีแต่เก่งอยู่หน้าคอมเอง ฯลฯ
ถ้าคิดได้แบบนี้ คุณจะมองหาวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงมันไปในทางที่ดีขึ้น และคุณจะไม่กลับไปสู่วังวนแย่ๆอีกครับ (เป็นคำพูดของใครไม่รู้ ผมจำไม่ได้ ขออภัยด้วยครับ)
ส่วนเรื่องหนี้ ผมคิดเหมือนคุณ Alcatraz ครับ คนไม่มีหนี้ อาจรวยได้เต็มที่หลักล้าน แต่คนที่จะรวยเป็นสิบ ร้อย พันล้านได้ ก็เคยมีหนี้ทั้งนั้นแหละครับ อยู่ที่ว่า หนี้ที่ก่อมานั้น เอาไปบริหารยังไง
เหมือนบัตรเครดิตนั่นแหละครับ ดาบสองคม ใช้ไม่เป็นก็ยิ่งแย่ ใช้เป็นก็ประโยชน์มหาศาล มากกว่าใช้แต่เงินสดแน่นอน
-
น้ำมัน ถ้าเอาราคาหน้าโรงกลั่น มันก็พอกับที่มาเลย์แหละครับ โดนภาษีไป มันก็เป็นอย่างที่เห็น
ส่วนเรื่องของแพงหรือถูก เราจะอยู่ได้ หรือไม่ดี เดือดร้อนไม่เดือดร้อน มันอยู่ที่วิธีคิด วิธีใช้ประโยชน์จากระบบครับ
สังเกตุว่า คนที่ชีวิตไม่ค่อยเจริญ คือคนที่เอาแต่โทษคนอื่น โทษรัฐ โทษเพื่อน โทษสังคม โทษ ฯลฯ แต่ "ไม่โทษตัวเอง"
บางคน เป็นหนี้ไปโทษ ภาษี โทษนโยบายรัฐ ขับรถไปทำงาน เงินไม่พอใช้ โทษน้ำมันแพง แก๊สแพง อาหารแพง เล่นหุ้นขาดทุน โทษเจ้ามือ (ถึงมันจะจริงก็ตาม)
อยากก้าวหน้า ต้องหัดโทษตัวเองครับ เราโง่เอง เราพลาดเอง เราขี้เกียจเอง เราตื่นสายเอง เราไม่ศึกษาเอง เรารีบเกินไปเอง
เราอยากนอนเอง เราอยากไปหาแฟนเอง เราอยาก....เอง
นักการเมืองโกงกิน ก็เราเลือกแม่งมาเอง เราไม่พยายามแก้ไขกันเอง เราดีแต่เก่งอยู่หน้าคอมเอง ฯลฯ
ถ้าคิดได้แบบนี้ คุณจะมองหาวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงมันไปในทางที่ดีขึ้น และคุณจะไม่กลับไปสู่วังวนแย่ๆอีกครับ (เป็นคำพูดของใครไม่รู้ ผมจำไม่ได้ ขออภัยด้วยครับ)
ส่วนเรื่องหนี้ ผมคิดเหมือนคุณ Alcatraz ครับ คนไม่มีหนี้ อาจรวยได้เต็มที่หลักล้าน แต่คนที่จะรวยเป็นสิบ ร้อย พันล้านได้ ก็เคยมีหนี้ทั้งนั้นแหละครับ อยู่ที่ว่า หนี้ที่ก่อมานั้น เอาไปบริหารยังไง
เหมือนบัตรเครดิตนั่นแหละครับ ดาบสองคม ใช้ไม่เป็นก็ยิ่งแย่ ใช้เป็นก็ประโยชน์มหาศาล มากกว่าใช้แต่เงินสดแน่นอน
บวกล้านครับ คนไทยสมัยนี้เอาแต่โทษอย่างอื่นไม่หันมามองที่ตัวเอง
ในเมื่อไม่เคยมองที่ตัวเอง แล้วตัวเองจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นได้ยังไง
แบบนี้ก็ได้แต่ตินู่นตินี่ ไม่พอใจอะไรก็บ่น ไปชอบใจอะไรก็ด่า โบ่ยไปที่คนอื่นหมด โดยที่ไม่คิดที่จะแก้ไขหรือลงมือทำอะไรในสิ่งที่เราพอจะทำได้
ยังดีนะครับที่ประเทศเราอย่างน้อยก็เป็นประเทศที่เสรีระดับนึง(อาจจะมากไปนิดในบางกรณี)
เรามีสิทธิเลือกที่จะซื้อ ไม่ซื้อ ใช้ ไม่ใช้ ทำ ไม่ทำ อะไรที่ไม่ชอบใจก็อย่าไปซื้อ อันไหนเลี่ยงไม่ได้ก็ใช้แต่น้อย ให้คุ้มค่า ก็จะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบากนักแล้วล่ะครับ
-
ส่วนเรื่องหนี้ ถึงแม้ว่าผมจะเคยมีประสบการณ์ที่เลวร้ายกับการเป็นหนี้ของคนในครอบครัวมาก่อน แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าการเป็นหนี้จะเป็นสิ่งที่เลวร้ายและควรหลีกเลี่ยงเสมอไป ของทุกอย่างถ้าเราใช้มันอย่างมีสติและรอบคอบ เราจะไม่มีทางเป็นทาสของมันอย่างแน่นอนครับ อย่างผมซึ่งมีประสบการณ์เลวร้ายมา พอผ่านมันมาได้ก็ทำให้เรามีสติมากขึ้นรู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ให้ความโลภความอยากได้มาครอบงำความเป็นจริง
ส่วนอีกเรื่องนึง ผมมักจะรู้สึกตะหงิดใจเสมอ เวลามีคนพูดว่า ประชาชนโง่ ถูกมอมเมา ถูกหลอกให้อยู่ในวังวนของสิ่งที่แย่ ๆ ทั้งหลายแหล่ ผมว่าแต่ละคนมี factor ในชีวิตไม่เหมือนกัน อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรและอย่าดูถูกคนอื่นที่ไม่เหมือนเราจากการมองกันในด้านเดียวนักเลยครับ
-
คือ ผมไม่ได้บอกว่าหนี้ไม่ดีนะครับ มันมีหนี้หลายประเภท แต่หนี้ซื้อรถในราคาไม่สมเหตุสมผล นี่นะ ...
เช่นบางคนที่ไม่พร้อมจะเป็นหนี้ ก็สามารถเป็นหนี้กับการเช่าซื้อกันได้ง่ายๆ
แต่ผมมองว่า ประเทศเรา มัน สองมาตรฐานเกินไปนะครับ
รถไม่แพง ทำให้แพงได้ รถแพงทำให้ถูก
น้ำมัน ก็ ต้นทุนเท่ากันแท้ๆ อันนึงถูก อันนึงแพง
ส่วนข้อดีบ้านเรา ก็รู้ๆ กันอยู่ ไม่ได้ขอพูดถึง
-
ชอบกระทู้นี้ครับ
คนเราส่วนใหญ่ชอบโทษคนอื่น ไม่โทษตัวเองอยู่แล้วครับ
ส่วนหนึ้ ของคนไทยเป็นนี้ที่เป็นภาระนะสิครับ รถ บ้าน โทรศัพท์ ทีวี มอเตอร์ไซด้ เป็นต้นครับ
ส่วนหนี้ที่เป็นโอกาสก็มีแต่คนที่รวย หรือพอมีฐานะ นะสิครับ. แต่ส่วนใหญ่ก็มีหนี้ แต่ไม่สำเร็จด้วยเหมือนกันครับ
-
เคยคุยเรื่องคล้ายๆนี้กับเพื่อน เพื่อนคนนี้ด่านักการเมืองซะป่นปี้เลยผมก็เลยบอกว่านักการเมืองก็มาจากการเลือกตั้ง การเลือกตั้งมาจากประชาชน ดังนั้นคุณภาพของนักการเมืองก็มาจากคุณภาพของประชาชน ถ้าเห็นว่านักการเมืองแย่แสดงว่าคุณภาพของประชาชนก็แย่ต่อให้นักการเมืองที่อยู่ในสภาตอนนี้โดนระเบิดตายกันหมดแล้วมีการเลือกตั้งใหม่หมดก็ได้แต่เดิมๆแต่หน้าใหม่มา ดังนั้นอย่าหวังพึ่งพานักการเมืองหรือรัฐบาลอะไรนักเลย พึ่งตัวเองดีที่สุด
-
ที่รถมันเยอะเพราะ
การคมนาคม การจัดการผังเมือง การวางแผนผังเมืองมันแย่มากๆครับ
รถจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ที่ยุโรป อเมริกา รถถูกมาก ก็ไม่เห็นคนจะบอกว่ารถถูกเลยทำให้รถติด มันอยู่ที่โครงสร้างบ้านเมือง ระเบียบวินัยด้วย
ถ้าบ้านผมมีรถประจำทาง มีรถไฟฟาผ่าน เดินไปทำงานได้ ศูนย์ราขการ บริษัทกระจายไปอยู่ตามนอกเมือง ผมก็ไม่ซื้อรถครับ
-
คือผม แอบ งอน รัฐบาลนิดนึงนะครับ :-\
ทำไมให้สิทธิ ภาษีถูกเฉพาะ ECO CAR ถามว่าออกมา วิ่ง บนถนน มันก็รถหนึ่งคันเหมือนกัน
ทำไม ช่วยเฉพาะ ดีเซล
ผมผิดเหรอ ที่ผม อยากได้ รถเก๋งขนาดกลาง อัตรเร่งที่ดี ช่วงล่างนิ่ม
แต่สิ่งที่ผมอยากได้ กลับ ราคาแพงกว่า ECO CAR สองเท่า ทั้งที่ ต้นทุนการผลิต ราคาจริงมันต่างกันหลักแสน สองแสน
แต่นี้ ต่างกัน ฟ้า กับ เหว นรกเลยนะ
ในขณะที่ รถ กะบะ ดีเซล ควันดำ คันใหญ่ กินพื่นที่ถนน กลับภาษีและราคาถูกกว่า ราคาน่าดึงดูด
จากที่ผมมอง
เหมือน นโยบายภาษี มันแบ่ง ชนชั้นวรรณะ ไม่ต่าง จากการเลือกปฏิบัติ
เราทำให้ รถ กลายเป็น เครื่อง บ่งบอกฐานะไป ด้วย ราคาอันแสนโอเวอร์ของมัน
โดยกำหนด ราคา แบบ ฟ้ากับเหว ขึ้นมา ทั้งนั้น
-
ที่รถมันเยอะเพราะ
การคมนาคม การจัดการผังเมือง การวางแผนผังเมืองมันแย่มากๆครับ
รถจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ที่ยุโรป อเมริกา รถถูกมาก ก็ไม่เห็นคนจะบอกว่ารถถูกเลยทำให้รถติด มันอยู่ที่โครงสร้างบ้านเมือง ระเบียบวินัยด้วย
ถ้าบ้านผมมีรถประจำทาง มีรถไฟฟาผ่าน เดินไปทำงานได้ ศูนย์ราขการ บริษัทกระจายไปอยู่ตามนอกเมือง ผมก็ไม่ซื้อรถครับ
ตจว ชานเมือง สบาย ๆ ครับ
เราไปกระจุกอยู่กันเองนะ ผมว่า
กทม สาย ๆ เที่ยง ๆ ก็ใช่ว่าจะติด
-
ถ้าบริการสาธารณะมีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ตรงเวลา ก็น่าจะช่วยได้บ้าง
-
ชอบกระทู้นี้ครับ
คนเราส่วนใหญ่ชอบโทษคนอื่น ไม่โทษตัวเองอยู่แล้วครับ
ส่วนหนึ้ ของคนไทยเป็นนี้ที่เป็นภาระนะสิครับ รถ บ้าน โทรศัพท์ ทีวี มอเตอร์ไซด้ เป็นต้นครับ
ส่วนหนี้ที่เป็นโอกาสก็มีแต่คนที่รวย หรือพอมีฐานะ นะสิครับ. แต่ส่วนใหญ่ก็มีหนี้ แต่ไม่สำเร็จด้วยเหมือนกันครับ
ผมก็ชอบที่พี่ตอบเหมือนกันครับ.....
คนที่สามารถเป็นหนี้ จากการกู้เงิน แล้วนำมาใช้เพื่อต่อยอดความมั่งคั่งได้ ก็มีแต่คนที่มีเงินแล้วเท่านั้น
การเข้าถึงแหล่งเงิน ที่อัตราดอกเบี้ยถูก หรือแข่งขันได้ ประชาชนตาดำๆ ไม่มีสิทธิ์หรอกครับ
บ้านเราวันนี้ กู้ง่ายๆ ดอกต่ำๆ มีอะไรครับ มือถือ ทีวี มอเตอร์ไซด์ เอามาทำอะไรครับ เกินครึ่งก็เพื่อความสะดวกสบาย
กู้ทำธุรกิจขนาดหลักแค่ สิบล้านขึ้น ดอกเท่าไหร่ กระอักทั้งนั้น
-
รถเก๋ง ขนาดกลางและเล็ก ราคาแพงกว่า รถ กะบะ สี่ประตู
ในขณะที่ รถ กะบะ ดีเซล ควันดำ คันใหญ่ กินพื่นที่ถนน กลับภาษีและราคาถูกกว่า ราคาน่าดึงดูด
เอ...ผมไม่แน่ใจว่า รถเก๋งขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่พี่ว่า ขนาดเล็ก คือ B-segment ใช่มั้ยครับ??
ถ้างั้นผมว่า B-segment ถูกกว่ากระบะ 4 ประตูนะครับ
B-segment เริ่มต้น 550,000 มี ABS,Airbagคู่หน้า ครบ
กระบะ 4 ประตู เริ่มต้น 650,000 ABS,Airbag อะไรไม่มีเลย
ส่วนทำไมกระบะถึงต้องราคาไม่แพง ภาษีสรรพสามิตถูกกว่า
ในมุมมองของผมมองว่า รถกระบะตอนเดียว, กระบะแค็ป เป็นรถพื้นฐานของการขนส่งสินค้า
รถของพ่อค้า แม่ค้า รถของวงการก่อสร้าง ผู้รับเหมา ช่างแทบจะทุกประเภท
ชาวสวน ชาวไร่ ช่างไฟ ช่างสวน ช่างประปา ช่างติดตั้งโทรศัพท์ ช่างก่อสร้าง
รถขนผัก ขนผลไม้ รถขนเนื้อสัตว์ รถขนน้ำแข็ง รถขนส่งน้ำดื่ม
รถพ่อค้าแม่ขายอาหารตามตลาด
ถ้าหากโครงสร้างภาษีของรถกลุ่มนี้ปรับขึ้น ส่งผลให้ราคาขายแพงขึ้น
ผมคิดว่าต้นทุนของสินค้าและบริการแทบทุกชนิด ราคาจะปรับแพงขึ้นหมด
ส่งผลให้ค่าครองชีพก็สูงขึ้น ในขณะที่ฐานเงินเดือน และรายรับของทุกคนจะเท่าเดิม
เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างภาษีรถกระบะแต่อย่างใด แบบนี้จะดีหรอครับ?
ในแง่ของรถกระบะ 4 ประตู ราคาอาจจะดึงดูดก็จริง แต่ภาษีป้ายจดทะเบียน
ก็สูงกว่ารถ Ecocar,B,C-segment ถึง 3-6 เท่าตัว
ภาษีรถเก๋ง 1.2 ลิตร 1,000 ต้นๆ
ภาษีรถเก๋ง 1.5 ลิตร 1,000 กลางๆ
ภาษีกระบะ 4 ประตู 2.2-2.5 ลิตร อยู่ 3,000 ปลายๆ
ภาษีกระบะ 4 ประตู 3.0-3.2 ลิตร อยู่ประมาณ 7,000 บาท
อีกทั้งค่าบำรุงรักษากระบะทั้งหลายทั้งตอนเดียว แค็ป 4 ประตู ก็แพงกว่า
น้ำมันเครื่องใช้ 6-9 ลิตร ค่ายางรถกระบะก็แพงกว่ารถเก๋ง 2 เท่าตัว
ไหนจะอัตราสิ้นเปลืองที่ด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะรถใหญ่ ต้านลม เครื่องใหญ่กว่า
นั่นก็น่าจะสมเหตุสมผลแล้วครับ เพราะกระบะ 4 ประตูก็ต้องเป็นผู้มีฐานะปานกลาง
เรื่องน้ำมันดีเซลก็เช่นกันครับ ถ้าจะบอกว่าเดี๋ยวนี้ขนส่งเปลี่ยนไปใช้ก๊าซ NGV กันหมดแล้ว
นั่นก็ถูกต้องครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็น Logistic ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ใช้ในรถบรรทุกซะมากกว่า
แต่กลุ่มรถที่ผมบอกข้างต้น
พ่อค้าแม่ขาย ช่างต่างๆ ก็ยังคงใช้ดีเซลอยู่ เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของเค้าคือใช้ในการขนของ
ระยะทางไม่ได้มาก แต่ของเยอะ หรือออกไปติดตั้ง หรือขนของไปตาม site งานต่างๆ
ไม่ใช่ขนส่งระยะทางไกลๆแบบกลุ่ม logistic จะไปใช้ ก๊าซ NGV ก็ไม่คุ้มค่าติดตั้ง
ส่วนใหญ่เท่าที่สำรวจดูกลุ่มรถกระบะ 1 ตันที่วิ่งบนท้องถนน
ใช้น้ำมันดีเซล 75-80%
10-15% ก๊าซ LPG
5% ก๊าซ NGV
ถ้าน้ำมันดีเซลขึ้น เหตุการณ์ก็คงคล้ายๆกับที่ปรับโครงสร้างภาษีรถกระบะแหละครับ
ส่วนรถหรูที่เป็นเครื่องดีเซล แต่ได้ใช้น้ำมันดีเซลราคาถูก นั่นก็เป็นผลพลอยได้
ถ้าพูดถึงจำนวนปริมาณสัดส่วน รถหรู ดีเซลก็ไม่น่าจะมีสัดส่วนที่เยอะซักเท่าไหร่
ผมยังเคยเห็นกระทู้เปรียบเทียบ BMW 320i กับ 320d เลยครับว่า
จริงๆแล้วซื้อ 320i ราคาส่วนต่างกับการซื้อ 320d เอาส่วนต่างที่ถูกกว่านั้น
ไปเติมน้ำมันยังคุ้มค่ากว่าเลย
เพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว กลุ่มรถหรูดีเซล ก็ได้อย่างเสียอย่างครับ
จ่ายแพงกว่า แต่ใช้น้ำมันถูกกว่า เพราะรถแบบนี้ผมเห็นทุกคันที่เป็นเครื่้องดีเซล
แพงกว่าเครื่องเบนซินทั้งนั้นครับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความเห็นของผมครับ อาจจะผิดถูกยังไงก็ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ครับ
-
เมื่อก่อนผมก็เคยคิดว่ารถ กระบะ 4 ประตู PPV ทำไมเติมน้ำถูก ดีเซล 29 บาท หรือตัว CNG
แต่มาดูอีกที ค่าดูแล ค่าประกัน ค่าภาษีแพงมากๆ
ผมยอมจ่ายใน Eco car ดีกว่าประหยัดน้ำมัน ค่าดูแลไม่แพงครับ
เติมน้ำมัน E20 ไม่ต้องไปแย่งกับภาคขนส่ง รถ Taxi รถตู้ ในการเติมแก๊ซ
ไม่ต้องไปโดนคนตำหนิ ว่ารถแพง แต่เติมดีเซล ไปแย่งน้ำมันจากรถกระบะธรรมดา แบบรถหรูๆ
จริงๆ ผมอยากให้ออกกฎหมายไปเลยว่ารถหรู ราคา สองบ้านขึ้นไปต้องเบนซินเท่านั้น แต่คงยาก
-
จริงๆ มันไม่ควรมี
ทั้ง ภาษี น้ำมัน และ รถ ที่มันไม่เท่าเทียมกัน ตั้งแต่แรกแล้วนะครับ
มันก็กลับมา จุดเริ่มต้นตรงที่
ทำไม ECO CAR ถูก ได้้ สิทธิพิเศษ ภาษีถูกมาก
ทำไม B C Segment แพงกว่าเยอะมาก
โดย เฉพาะ C Segment ราคายิ่งแพงกว่า Eco car สองเท่า
ทำไม กะบะ ได้อัตราภาษี พิเศษ
คนใช้ เบนซิน ผิดอะไร ทำไมเราต้อง จ่ายแพง
-
จริงๆ มันไม่ควรมี
ทั้ง ภาษี น้ำมัน และ รถ ที่มันไม่เท่าเทียมกัน ตั้งแต่แรกแล้วนะครับ
มันก็กลับมา จุดเริ่มต้นตรงที่
ทำไม ECO CAR ถูก ได้้ สิทธิพิเศษ ภาษีถูกมาก
ทำไม B C Segment แพงกว่าเยอะมาก
โดย เฉพาะ C Segment ราคายิ่งแพงกว่า Eco car สองเท่า
ทำไม กะบะ ได้อัตราภาษี พิเศษ
คนใช้ เบนซิน ผิดอะไร ทำไมเราต้อง จ่ายแพง
ไม่มีภาษีแล้วประเทศจะเอาอะไรใช้ เค้าก็เก็บภาษีตามประเภทรถก็ถูกแล้ว eco เป็นรถประหยัดพลังงานปล่อยมลพิษต่ำ ก็สนับสนุนให้ได้ภาษีเรทพิเศษ
จะให้ d seg ภาษีเท่า eco หรอ ตลกละ
ให้รัฐเว้นภาษีรถดีๆก็ได้ แต่ใช้ถนน ลูกลัง หลุมดวงจันทร์ เอาไหม ให้ราคาเบนซิน ดีเซลเท่าๆกันก็ได้ แต่กินข้าวแกงจานละ 150 เอาไหม
แล้วบางคนไม่ต้องมาบอกว่า เก็บภาษีไปนักการเมืองก็โกงไปหมด อันนั้นคนละเรื่องแยกให้ถูก หน่วยงานตรวจสอบมี ฝ่ายค้านมีก็ทำหน้าที่ตัวเองไป ประชาชนพบเห็นทุจจริตก็มีให้แจ้งได้
-
คนใช้ เบนซิน ผิดอะไร ทำไมเราต้อง จ่ายแพง
ชอบตรงนี้แหละ
-
จริงๆ มันไม่ควรมี
ทั้ง ภาษี น้ำมัน และ รถ ที่มันไม่เท่าเทียมกัน ตั้งแต่แรกแล้วนะครับ
มันก็กลับมา จุดเริ่มต้นตรงที่
ทำไม ECO CAR ถูก ได้้ สิทธิพิเศษ ภาษีถูกมาก
ทำไม B C Segment แพงกว่าเยอะมาก
โดย เฉพาะ C Segment ราคายิ่งแพงกว่า Eco car สองเท่า
ทำไม กะบะ ได้อัตราภาษี พิเศษ
คนใช้ เบนซิน ผิดอะไร ทำไมเราต้อง จ่ายแพง
ไม่มีภาษีแล้วประเทศจะเอาอะไรใช้ เค้าก็เก็บภาษีตามประเภทรถก็ถูกแล้ว eco เป็นรถประหยัดพลังงานปล่อยมลพิษต่ำ ก็สนับสนุนให้ได้ภาษีเรทพิเศษ
จะให้ d seg ภาษีเท่า eco หรอ ตลกละ
ให้รัฐเว้นภาษีรถดีๆก็ได้ แต่ใช้ถนน ลูกลัง หลุมดวงจันทร์ เอาไหม ให้ราคาเบนซิน ดีเซลเท่าๆกันก็ได้ แต่กินข้าวแกงจานละ 150 เอาไหม
แล้วบางคนไม่ต้องมาบอกว่า เก็บภาษีไปนักการเมืองก็โกงไปหมด อันนั้นคนละเรื่องแยกให้ถูก หน่วยงานตรวจสอบมี ฝ่ายค้านมีก็ทำหน้าที่ตัวเองไป ประชาชนพบเห็นทุจจริตก็มีให้แจ้งได้
ข้าว ก็ ข้าว รถ ก็ รถ เถอะ ครับ อย่าเอามาปนกันเลย
รถ ก็เหมือนคน ๆ นะครับ ทำไมแยกปฎิบัติ
คุณ พูดถูกนะครับ d seg ควรภาษีเท่า eco ครับ หรือไม่จริง
ด้วย ตัวรถ ราคา ต่างกันแล้ว
หากเก็บภาษี ตาม มลพิษ จริง ไม่ว่าจะรถอะไร ก็ควรได้รับ ความยุติธรรมครับ
ประเด็น ที่ผม ต้องการ สื่อ คือ ความแตกต่าง ของ ภาษี ไม่ใช่ เรื่อง ไม่อยากจ่ายภาษีครับ
-
จริงๆ มันไม่ควรมี
ทั้ง ภาษี น้ำมัน และ รถ ที่มันไม่เท่าเทียมกัน ตั้งแต่แรกแล้วนะครับ
มันก็กลับมา จุดเริ่มต้นตรงที่
ทำไม ECO CAR ถูก ได้้ สิทธิพิเศษ ภาษีถูกมาก
ทำไม B C Segment แพงกว่าเยอะมาก
โดย เฉพาะ C Segment ราคายิ่งแพงกว่า Eco car สองเท่า
ทำไม กะบะ ได้อัตราภาษี พิเศษ
คนใช้ เบนซิน ผิดอะไร ทำไมเราต้อง จ่ายแพง
ไม่มีภาษีแล้วประเทศจะเอาอะไรใช้ เค้าก็เก็บภาษีตามประเภทรถก็ถูกแล้ว eco เป็นรถประหยัดพลังงานปล่อยมลพิษต่ำ ก็สนับสนุนให้ได้ภาษีเรทพิเศษ
จะให้ d seg ภาษีเท่า eco หรอ ตลกละ
ให้รัฐเว้นภาษีรถดีๆก็ได้ แต่ใช้ถนน ลูกลัง หลุมดวงจันทร์ เอาไหม ให้ราคาเบนซิน ดีเซลเท่าๆกันก็ได้ แต่กินข้าวแกงจานละ 150 เอาไหม
แล้วบางคนไม่ต้องมาบอกว่า เก็บภาษีไปนักการเมืองก็โกงไปหมด อันนั้นคนละเรื่องแยกให้ถูก หน่วยงานตรวจสอบมี ฝ่ายค้านมีก็ทำหน้าที่ตัวเองไป ประชาชนพบเห็นทุจจริตก็มีให้แจ้งได้
ข้าว ก็ ข้าว รถ ก็ รถ เถอะ ครับ อย่าเอามาปนกันเลย
รถ ก็เหมือนคน ๆ นะครับ ทำไมแยกปฎิบัติ
คุณ พูดถูกนะครับ d seg ควรภาษีเท่า eco ครับ หรือไม่จริง
ด้วย ตัวรถ ราคา ต่างกันแล้ว
หากเก็บภาษี ตาม มลพิษ จริง ไม่ว่าจะรถอะไร ก็ควรได้รับ ความยุติธรรมครับ
ประเด็น ที่ผม ต้องการ สื่อ คือ ความแตกต่าง ของ ภาษี ไม่ใช่ เรื่อง ไม่อยากจ่ายภาษีครับ
ปี 59 จะมาแล้วแหละครับ รออีกนิดนึง :D
-
ข้าว ก็ ข้าว รถ ก็ รถ เถอะ ครับ อย่าเอามาปนกันเลย
รถ ก็เหมือนคน ๆ นะครับ ทำไมแยกปฎิบัติ
ข้าวแกงก็ข้าวแกง รถก็รถ คนละอย่างก็จริง แต่มันเป็นเหตุผลที่เกี่ยวกัน
แปรผันกันน่ะครับ ได้ลองอธิบายไปแล้วเหตุผลข้างบน
เรื่องแยกปฏิบัติ คนก็โดนแยกปฏิบัตินะครับ ไม่เฉพาะรถ
พี่จะให้คนรายได้ เดือนละ 30,000 บาท เสียอัตราภาษีเท่ากับคนรายได้เดือนละ 3,000,000 หรอครับ
เพราะทุกวันนี้ก็เป็นแบบนี้อยู่ อัตราภาษีก็ไม่เท่ากัน ต้องปรับโครงสร้างภาษีเงินได้ด้วยรึเปล่าครับ? ถึงจะเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ
บางอย่างมันก็เป็นเหตุเป็นผลกันนะครับ เหมือนกับมีมากช่วยมาก มีน้อยช่วยน้อย
-
เข้าใจความคิดของ จขกท มองว่า เป็นรถเหมือนกันทำไมภาษีไม่เท่ากัน
แต่มันยากนะครับ ถ้าเราทำให้เท่ากัน คนคงไปซื้อ Camry Prius กันหมด ไม่มีใครถ่อมมาซื้อกระบะ Eco car ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เขาเน้นการลงทุนแน่ๆ
ก็ต้องยอมนะครับ เพื่อภาพรวม กระตุ้นการผลิต ส่งออก เอาเงินเข้าประเทศ
บ้านเราเป็นประเทศยากจน รถผ่อนได้ มีมือสองราคาไม่ตกมาก(เมื่อก่อนนะครับ) ก็พอใจแล้วครับ :D
-
จริงๆ มันไม่ควรมี
ทั้ง ภาษี น้ำมัน และ รถ ที่มันไม่เท่าเทียมกัน ตั้งแต่แรกแล้วนะครับ
มันก็กลับมา จุดเริ่มต้นตรงที่
ทำไม ECO CAR ถูก ได้้ สิทธิพิเศษ ภาษีถูกมาก
ทำไม B C Segment แพงกว่าเยอะมาก
โดย เฉพาะ C Segment ราคายิ่งแพงกว่า Eco car สองเท่า
ทำไม กะบะ ได้อัตราภาษี พิเศษ
คนใช้ เบนซิน ผิดอะไร ทำไมเราต้อง จ่ายแพง
ข้าว ก็ ข้าว รถ ก็ รถ เถอะ ครับ อย่าเอามาปนกันเลย
รถ ก็เหมือนคน ๆ นะครับ ทำไมแยกปฎิบัติ
คุณ พูดถูกนะครับ d seg ควรภาษีเท่า eco ครับ หรือไม่จริง
ด้วย ตัวรถ ราคา ต่างกันแล้ว
ถ้าปล่อยให้ดีเซลมันขึ้นราคามากกว่านี้ ของทุกอย่างก็ราคาแพงขึ้น เพราะมันใ้ช้ในภาคขนส่งมากกว่า ทุกอย่างมันมีเหตุผลครับ
ส่วน eco car ก็ ภาษีถูกกว่าเพราะเครื่องเล็ก ปล่อยมลภาวะน้อยกว่า จะให้เก็บภาษีเท่ารถ d-segment ได้ยังไง
แล้วก็ไม่มีใครห้ามไม่ให้ใช้รถดีเซล ถ้ารู้ว่าน้ำมันมันถูกกว่าทำไมไม่ใช้รถดีเซลหละ ทุกคนมีทางเลือกเท่ากัน (ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้รถดีเซลนะครับ)
-
โดย พื้นฐาน
ราคา รถ แต่ละ ชนิด มัน ต่างกันอยู่แล้วครับ
แต่บ้านเรา ยิ่งไปตอก ย้ำ และ สร้าง ความห่างของ ราคา รถลงไปอีก ด้วย Rate ภาษี แปลกๆ ครับ
ขอแปะซ้ำ
(http://www.uppic.com/uploads/13559202841.jpg)
(http://www.prachachat.net/news-photo/prachachat/2012/12/car04241255p1.jpg)
แต่ถึงยังไง ผมก็ยัง คิดว่า เราโชคดีแล้วครับ
ที่ ยังมี ECO CAR เป็นทางเลือก อาจจะเป็นรถที่ซื้อได้ในราคาสมเหตุสมผล
-
จริงๆ มันไม่ควรมี
ทั้ง ภาษี น้ำมัน และ รถ ที่มันไม่เท่าเทียมกัน ตั้งแต่แรกแล้วนะครับ
มันก็กลับมา จุดเริ่มต้นตรงที่
ทำไม ECO CAR ถูก ได้้ สิทธิพิเศษ ภาษีถูกมาก
ทำไม B C Segment แพงกว่าเยอะมาก
โดย เฉพาะ C Segment ราคายิ่งแพงกว่า Eco car สองเท่า
ทำไม กะบะ ได้อัตราภาษี พิเศษ
คนใช้ เบนซิน ผิดอะไร ทำไมเราต้อง จ่ายแพง
ข้าว ก็ ข้าว รถ ก็ รถ เถอะ ครับ อย่าเอามาปนกันเลย
รถ ก็เหมือนคน ๆ นะครับ ทำไมแยกปฎิบัติ
คุณ พูดถูกนะครับ d seg ควรภาษีเท่า eco ครับ หรือไม่จริง
ด้วย ตัวรถ ราคา ต่างกันแล้ว
ถ้าปล่อยให้ดีเซลมันขึ้นราคามากกว่านี้ ของทุกอย่างก็ราคาแพงขึ้น เพราะมันใ้ช้ในภาคขนส่งมากกว่า ทุกอย่างมันมีเหตุผลครับ
ส่วน eco car ก็ ภาษีถูกกว่าเพราะเครื่องเล็ก ปล่อยมลภาวะน้อยกว่า จะให้เก็บภาษีเท่ารถ d-segment ได้ยังไง
แล้วก็ไม่มีใครห้ามไม่ให้ใช้รถดีเซล ถ้ารู้ว่าน้ำมันมันถูกกว่าทำไมไม่ใช้รถดีเซลหละ ทุกคนมีทางเลือกเท่ากัน (ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้รถดีเซลนะครับ)
จริงๆ แล้ว เราไม่ควร ที่จะอุ้มอะไรทั้งสิ้นไว้นะครับ
อะไรสมควรแพง ก็ควรปล่อยมันไปตามกลไก การตลาด และ ความเป็นจริง
เรามัวแต่ อุ้มดีเซล แล้วมาเชือดเนื้อ คนใช้เบนซิน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกซะทีเดียว
เราต้องอุ้มไปถึงเมื่อไหร่ เหรอ แล้ว พอถึงเวลาน้ำมันขึ้นมาจริงๆแล้ว ก็ออกมาโวยวาย ปิดถนนเหรอ
ดังนั้นผมกล้าพูดได้เต็ม ปากเลยว่า คนที่ใช้ดีเซล เป็นหนี้ คนใช้เบนซิน ใช่ไหม และ เราคือกลุ่มคนที่เสียสละแบกรับค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่น้อยเลย
ครั้นจะหนีไปเติมแก็ส พวกก็จะขึ้นราคา NGV ก็ ไม่มีปั๊ม ขายมา 10 ปีแล้ว
-
จริงๆ มันไม่ควรมี
ทั้ง ภาษี น้ำมัน และ รถ ที่มันไม่เท่าเทียมกัน ตั้งแต่แรกแล้วนะครับ
มันก็กลับมา จุดเริ่มต้นตรงที่
ทำไม ECO CAR ถูก ได้้ สิทธิพิเศษ ภาษีถูกมาก
ทำไม B C Segment แพงกว่าเยอะมาก
โดย เฉพาะ C Segment ราคายิ่งแพงกว่า Eco car สองเท่า
ทำไม กะบะ ได้อัตราภาษี พิเศษ
คนใช้ เบนซิน ผิดอะไร ทำไมเราต้อง จ่ายแพง
ข้าว ก็ ข้าว รถ ก็ รถ เถอะ ครับ อย่าเอามาปนกันเลย
รถ ก็เหมือนคน ๆ นะครับ ทำไมแยกปฎิบัติ
คุณ พูดถูกนะครับ d seg ควรภาษีเท่า eco ครับ หรือไม่จริง
ด้วย ตัวรถ ราคา ต่างกันแล้ว
ถ้าปล่อยให้ดีเซลมันขึ้นราคามากกว่านี้ ของทุกอย่างก็ราคาแพงขึ้น เพราะมันใ้ช้ในภาคขนส่งมากกว่า ทุกอย่างมันมีเหตุผลครับ
ส่วน eco car ก็ ภาษีถูกกว่าเพราะเครื่องเล็ก ปล่อยมลภาวะน้อยกว่า จะให้เก็บภาษีเท่ารถ d-segment ได้ยังไง
แล้วก็ไม่มีใครห้ามไม่ให้ใช้รถดีเซล ถ้ารู้ว่าน้ำมันมันถูกกว่าทำไมไม่ใช้รถดีเซลหละ ทุกคนมีทางเลือกเท่ากัน (ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้รถดีเซลนะครับ)
จริงๆ แล้ว เราไม่ควร ที่จะอุ้มอะไรทั้งสิ้นไว้นะครับ
อะไรสมควรแพง ก็ควรปล่อยมันไปตามกลไก การตลาด และ ความเป็นจริง
เรามัวแต่ อุ้มดีเซล แล้วมาเชือดเนื้อ คนใช้เบนซิน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกซะทีเดียว
เราต้องอุ้มไปถึงเมื่อไหร่ เหรอ แล้ว พอถึงเวลาน้ำมันขึ้นมาจริงๆแล้ว ก็ออกมาโวยวาย ปิดถนนเหรอ
ดังนั้นผมกล้าพูดได้เต็ม ปากเลยว่า คนที่ใช้ดีเซล เป็นหนี้ คนใช้เบนซิน ใช่ไหม และ เราคือกลุ่มคนที่เสียสละแบกรับค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่น้อยเลย
ครั้นจะหนีไปเติมแก็ส พวกก็จะขึ้นราคา NGV ก็ ไม่มีปั๊ม ขายมา 10 ปีแล้ว
ผมว่าเรื่องนี้มีคนตั้งกระทู้ไปตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,29118.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,29118.0.html) ลองอ่านดูไม่มีใครอุ้มราคาน้ำมันดีเซล มีแต่อุ้มราคา E20 E85 กับ LPG
แล้วถ้าไม่อยากไปอุ้มใครก็ไปใช้ E20 E85 หรือ LPG เถอะครับ ดีเซลไม่ได้แย่อย่างที่คิด แล้วถ้าจำไม่ผิดมีคนบอกว่ารถดีเซลปล่อยค่าไอเสียน้อยกว่าเบนซินอีกนะ
-
ขนาดภาษีแพง รถยังเต็มถนนเลย
-
ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ
ผมว่าระบบบ้านเรามันไม่ได้ดีมาก แต่มันก็ไม่ได้แย่หรอกครับ เอาแบบมองกลางๆเลยนะครับ ผมเคยมีรถสมัยเรียนเมกา ขับที่ยุโรป(ทำงาน)บ่อยๆ ในหลายๆประเทศ
มันไม่มีประเทศไหนที่ระบบมันดี มันถูก ในทุกๆด้านหรอกครับ จะบอกว่าอันนี้ไม่ควรมีอันนี้ควรมี มันยากครับ ทุกความเห็นคงจะ bias พอควร
บ้านเรา
รถโคดแพง
น้ำมันโคดถูก ดีเซลถูก(อันนี้ผมก็ว่าแปลก)
public transportation ห่วย แต่ถูก(รึเปล่า?)
ในระหว่างที่ค่าแรงก็ถูก คนมีคนขับรถเป็นเรื่องปรกติ
ค่าจอดไม่มี
ในระหว่างที่ เมืองนอกทั้ง US ทั้ง EU
รถถูก
ประกันแพง(บังคับด้วย)
น้ำมันแพง
คนขับอย่าไปหวังเลย
ที่จอดรถก็แพง (เดียวนี้ NYC จอดวันละ50 USD สบายๆ)
อาหารแพงลิ้ว
และ อื่นๆอีกมากมาย
ถ้าจะบ่นคนทุกประเทศก็บ่นหมดละครับ บ้านเรารถก็ไม่ได้แพงที่สุด(ลองดูสิงคโปร์)
ถ้าจะหาทางให้ทุกอย่างมันถูกหมดคงทำไม่ได้ ไม่มีที่ไหนที่น่าจะทำได้ด้วยครับ อยากให้รถถูกเหมือนเมกา ก็ต้องทำใจว่าอีกหน่อยค่าน้ำมันหรือค่าอาหารค่ากินอยู่อาจจะเท่าๆกับเค้า ผมว่าบ้านเราก็รับไม่ไหวครับ
ผมว่าตอนนี้มันก็เป็นระบบที่มีเหตุผลพอควร ถ้ามองว่าแนวทางที่ประเทศเราเดินทางมานะครับ
ถ้าจะบ่นอย่างเดียวก็เรื่องที่มันแดรกกกันนี้ละครับ จะเก็บภาษีเท่าไรก็เก็บไปขอให้เอาที่เก็บไปทำงานอื่น จะไปอุ้มอะไรก็อุ้มไปอย่าเข้าปากตัวเองพอ
-
ผมอ่าน กระทู้ แล้วครับ ยังไง เบนซินก็อุ้ม ดีเซลอยู่ดี รวมถึง LPG ก็จ่ายเงินเข้ากองทุน
คนใช้ เบนซิน และ LPG อุ้ม ดีเซลทางอ้อมครับ
เพราะ ดีเซล ไม่ต้องจ่าย TAX ครับ แต่มาเก็บภาษี TAX โหด ๆ กับ เบนซิน แทนนะครับ
ตอนนี้เราต้องพูดถึง ปัจจุบันครับ ไม่ได้พูดถึงปี 2552
ทุกวันนี้ เบนซินต้องจ่าย TAX มหาโหด เพื่อ ชดเชยรายได้ ที่ไม่ได้เก็บจาก ดีเซล
E15 จ่าย TAX 6.3+0.63 จ่ายกองทุน 0.6
E20 จ่าย TAX 5.6+0.56 ได้ชดเชยกองทุน -2.1
E85 จ่าย TAX 1.05+0.15 ได้ชดเชยกองทุน -12.2
ดีเซล จ่าย TAX 0.005+0.0005 จ่ายกองทุน 0.2
LPG รถยนต์ จ่าย TAX 2.17+0.217 จ่ายกองทุน 0.7+3.03
ลองดู โครงสร้างราคาน้ำมันได้ครับ
(http://upic.me/i/3y/oilprice.jpg) (http://upic.me/show/47141317)
จากภาพ
แปลกแต่จริง ขาย LPG ได้กำไรมากกว่าขายน้ำมัน ทั้งที่ รัฐ อ้างต้องนำเข้า แต่ ปตท เปิดปั้มเพียบ
LPG ในกลุ่มรถยนต์ จ่าย เงินเข้ากองทุนน้ำมัน มากกว่า ดีเซล
นี่ถ้า บ้านเรา มีน้ำมันชนิดเดียวให้เติม คงดีนะครับ จะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงกัน 555
อันนี้ผมฝาก link
โครงสร้าง ราคาน้ำมันให้เพื่อนๆ ได้ดูกันครับ
http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html (http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html)
-
ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ
ผมว่าระบบบ้านเรามันไม่ได้ดีมาก แต่มันก็ไม่ได้แย่หรอกครับ เอาแบบมองกลางๆเลยนะครับ ผมเคยมีรถสมัยเรียนเมกา ขับที่ยุโรป(ทำงาน)บ่อยๆ ในหลายๆประเทศ
มันไม่มีประเทศไหนที่ระบบมันดี มันถูก ในทุกๆด้านหรอกครับ จะบอกว่าอันนี้ไม่ควรมีอันนี้ควรมี มันยากครับ ทุกความเห็นคงจะ bias พอควร
บ้านเรา
รถโคดแพง
น้ำมันโคดถูก ดีเซลถูก(อันนี้ผมก็ว่าแปลก)
public transportation ห่วย แต่ถูก(รึเปล่า?)
ในระหว่างที่ค่าแรงก็ถูก คนมีคนขับรถเป็นเรื่องปรกติ
ค่าจอดไม่มี
ในระหว่างที่ เมืองนอกทั้ง US ทั้ง EU
รถถูก
ประกันแพง(บังคับด้วย)
น้ำมันแพง
คนขับอย่าไปหวังเลย
ที่จอดรถก็แพง (เดียวนี้ NYC จอดวันละ50 USD สบายๆ)
อาหารแพงลิ้ว
และ อื่นๆอีกมากมาย
ถ้าจะบ่นคนทุกประเทศก็บ่นหมดละครับ บ้านเรารถก็ไม่ได้แพงที่สุด(ลองดูสิงคโปร์)
ถ้าจะหาทางให้ทุกอย่างมันถูกหมดคงทำไม่ได้ ไม่มีที่ไหนที่น่าจะทำได้ด้วยครับ อยากให้รถถูกเหมือนเมกา ก็ต้องทำใจว่าอีกหน่อยค่าน้ำมันหรือค่าอาหารค่ากินอยู่อาจจะเท่าๆกับเค้า ผมว่าบ้านเราก็รับไม่ไหวครับ
ผมว่าตอนนี้มันก็เป็นระบบที่มีเหตุผลพอควร ถ้ามองว่าแนวทางที่ประเทศเราเดินทางมานะครับ
ถ้าจะบ่นอย่างเดียวก็เรื่องที่มันแดรกกกันนี้ละครับ จะเก็บภาษีเท่าไรก็เก็บไปขอให้เอาที่เก็บไปทำงานอื่น จะไปอุ้มอะไรก็อุ้มไปอย่าเข้าปากตัวเองพอ
ตามนั้นครับผม
โดยรวมบ้านเราถือว่า ดีอยู่ครับ
รถมันไม่ได้แพงไปซะทุกคัน จอดรถง่าย น้ำมันก็ถือว่าไม่แพงมาก ตอนนี้นะ
แค้นตรงภาษ๊ นี่เหลาะ จ่ายแพงไปเพื่อ ๆๆๆๆๆ
บ้านเมืองเจริญ ขึ้นจะไม่ว่าซักคำ
-
อ่านแล้วเพลีย
แว็บมาดูนิดนึง ไปนอนต่อละ
-
จากภาพของคุณ mamaman
แสดงว่าเบนซินกับดีเซลอุ้ม E85 อยู่ แต่แค่เก็บจากดีเซลน้อยกว่าเบนซิน แบบนี้จะหาว่าคนใช้เบนซินอุ้มดีเซลมันก็ไม่ถูก
-
จากภาพของคุณ mamaman
แสดงว่าเบนซินกับดีเซลอุ้ม E85 อยู่ แต่แค่เก็บจากดีเซลน้อยกว่าเบนซิน แบบนี้จะหาว่าคนใช้เบนซินอุ้มดีเซลมันก็ไม่ถูก
E85 มีรถใช้ได้เทียบเป็น % แค่ไม่กี่คันเองนะครับ เงินที่มาลงตรง E85 นะ ไม่กี่บาทหรอกครับ
แต่ ภาษี TAX ที่หายไปจากการที่ รัฐบาล ไม่เก็บกับ ดีเซลนะ มหาศาล
-
ผมคิดเลยครับว่า รายได้คนไทยต่างหากที่ต่ำ เงินเดือนสองหมื่นไม่พอยาไส้ เพราะมีทั้งบ้านและรถที่ผ่อน ถ้าไม่มีบ้านแก่มาจะอยู่ไหน
ถ้าไม่มีรถจะไปทำงานยังไง ก็บ้านผมกว่าจะไปถึงที่ทำงานต้องต่อรถสองต่อสามต่อ รวมๆแล้วเสียค่าโดยสารไปกลับ70บาทต่อวัน สองคนกับภรรยาเสียไป140 บาท แต่อีโค่คาร์ วิ่งไปกลับ หมดน้ำมันไปสามลิตรต่อวัน เท่ากับเสียเงินไป110 บาทต่อวัน มันประหยัดกว่านั่งรถโดยสารอีก แวะไหนก็ได้ ฝนตกก็ไม่เปียก ไม่ต้องรอรถ สนุกกับกากรขับรถด้วย
ดังนั้นผมโทษเงินเดือนน้อยๆที่ได้มากกว่า จบ ป.โท เงินเดือน2หมื่นต้นๆ ทำงาน(ที่ปัจจุบัน)มาหกปี ทั้งๆที่อายุผมใกล้40แล้วขาดอีกสามปีเอง
น้ำมัน ราคารถ ในไทย ผมว่าไม่แพงแล้ว แต่รายได้คนไทยต่ำมาก คนแบบผม ในวัยเท่าๆผมมีอีกเยอะ ผมว่านะ
-
โดย พื้นฐาน
ราคา รถ แต่ละ ชนิด มัน ต่างกันอยู่แล้วครับ
แต่บ้านเรา ยิ่งไปตอก ย้ำ และ สร้าง ความห่างของ ราคา รถลงไปอีก ด้วย Rate ภาษี แปลกๆ ครับ
ขอแปะซ้ำ
(http://www.uppic.com/uploads/13559202841.jpg)
(http://www.prachachat.net/news-photo/prachachat/2012/12/car04241255p1.jpg)
แต่ถึงยังไง ผมก็ยัง คิดว่า เราโชคดีแล้วครับ
ที่ ยังมี ECO CAR เป็นทางเลือก อาจจะเป็นรถที่ซื้อได้ในราคาสมเหตุสมผล
จากภาษีแบบแปลกๆที่ท่านว่า เห็นได้ชัดว่า รัฐพยายามส่งเสริมให้คนใช้อีโค่ คาร์ และจะมีอีโค่ คาร์เฟส 2 มาด้วย ตอกย้ำว่า รัฐบาลลต้องการให้คนใช้รถใน ซีซีต่ำ ประหยัดน้ำมัน และปล่อยมมลพิษต่ำ
ส่วยขนาดตัวรถ ความแรง ช่วงล่าง ราคา อันนั้นผมว่าขึ้นอยู่กับฝีมือของ บริษัทผู้ผลิตนะ อย่างสวิฟ สวย คนชมว่าดี ดูแล้วไม่เล็ก(ทั้งๆที่ภายในแคบ) และ ประหยัดด้วย มันก็ขายได้ดี
ดังนั้นผมชอบนะภาษีแบบนี้ ผมเล็งรถเล็กอย่างเดียวเลย
-
ผมคิดเลยครับว่า รายได้คนไทยต่างหากที่ต่ำ เงินเดือนสองหมื่นไม่พอยาไส้ เพราะมีทั้งบ้านและรถที่ผ่อน ถ้าไม่มีบ้านแก่มาจะอยู่ไหน
ถ้าไม่มีรถจะไปทำงานยังไง ก็บ้านผมกว่าจะไปถึงที่ทำงานต้องต่อรถสองต่อสามต่อ รวมๆแล้วเสียค่าโดยสารไปกลับ70บาทต่อวัน สองคนกับภรรยาเสียไป140 บาท แต่อีโค่คาร์ วิ่งไปกลับ หมดน้ำมันไปสามลิตรต่อวัน เท่ากับเสียเงินไป110 บาทต่อวัน มันประหยัดกว่านั่งรถโดยสารอีก แวะไหนก็ได้ ฝนตกก็ไม่เปียก ไม่ต้องรอรถ สนุกกับกากรขับรถด้วย
ดังนั้นผมโทษเงินเดือนน้อยๆที่ได้มากกว่า จบ ป.โท เงินเดือน2หมื่นต้นๆ ทำงาน(ที่ปัจจุบัน)มาหกปี ทั้งๆที่อายุผมใกล้40แล้วขาดอีกสามปีเอง
น้ำมัน ราคารถ ในไทย ผมว่าไม่แพงแล้ว แต่รายได้คนไทยต่ำมาก คนแบบผม ในวัยเท่าๆผมมีอีกเยอะ ผมว่านะ
และนี่คือสิ่งที่ผมต้องการสื่อ ออกไป
รายเราเฉลี่ย ต่อหัวเราต่ำครับ
แต่เรากลับ ถีบราคารถขึ้นไปอีกเกือบสองเท่า รถยนต์เมื่อเทียบกับรายได้ที่ต่ำ ถูกตอกย้ำด้วยการบวกราคารถไปอีก รถยนต์ดีๆ จึงกลายเป็นสิ่งที่เอื้อมถึงยาก รถธรรมดากลายเป็น รถไฮโซในทันใด
ซคางหากต้องการควบคุม ให้ใช้รถเหมาะสมกับฐสนะ ควรมีการ ควบคุมไฟแนนซ์
แต่กลับกัน รถซื้อง่าย ผ่อนได้ง่าย ทั้งที่มันแพง
ก็ยังดีครับ ที่รัฐบาล ปล่อย ECO CAR ไว้ในราคาที่เหมาะสม
-
ดราม่า!
-
ผมคิดเลยครับว่า รายได้คนไทยต่างหากที่ต่ำ เงินเดือนสองหมื่นไม่พอยาไส้ เพราะมีทั้งบ้านและรถที่ผ่อน ถ้าไม่มีบ้านแก่มาจะอยู่ไหน
ถ้าไม่มีรถจะไปทำงานยังไง ก็บ้านผมกว่าจะไปถึงที่ทำงานต้องต่อรถสองต่อสามต่อ รวมๆแล้วเสียค่าโดยสารไปกลับ70บาทต่อวัน สองคนกับภรรยาเสียไป140 บาท แต่อีโค่คาร์ วิ่งไปกลับ หมดน้ำมันไปสามลิตรต่อวัน เท่ากับเสียเงินไป110 บาทต่อวัน มันประหยัดกว่านั่งรถโดยสารอีก แวะไหนก็ได้ ฝนตกก็ไม่เปียก ไม่ต้องรอรถ สนุกกับกากรขับรถด้วย
ดังนั้นผมโทษเงินเดือนน้อยๆที่ได้มากกว่า จบ ป.โท เงินเดือน2หมื่นต้นๆ ทำงาน(ที่ปัจจุบัน)มาหกปี ทั้งๆที่อายุผมใกล้40แล้วขาดอีกสามปีเอง
น้ำมัน ราคารถ ในไทย ผมว่าไม่แพงแล้ว แต่รายได้คนไทยต่ำมาก คนแบบผม ในวัยเท่าๆผมมีอีกเยอะ ผมว่านะ
และนี่คือสิ่งที่ผมต้องการสื่อ ออกไป
รายเราเฉลี่ย ต่อหัวเราต่ำครับ
แต่เรากลับ ถีบราคารถขึ้นไปอีกเกือบสองเท่า รถยนต์เมื่อเทียบกับรายได้ที่ต่ำ ถูกตอกย้ำด้วยการบวกราคารถไปอีก รถยนต์ดีๆ จึงกลายเป็นสิ่งที่เอื้อมถึงยาก รถธรรมดากลายเป็น รถไฮโซในทันใด
ซคางหากต้องการควบคุม ให้ใช้รถเหมาะสมกับฐสนะ ควรมีการ ควบคุมไฟแนนซ์
แต่กลับกัน รถซื้อง่าย ผ่อนได้ง่าย ทั้งที่มันแพง
ก็ยังดีครับ ที่รัฐบาล ปล่อย ECO CAR ไว้ในราคาที่เหมาะสม
ขอบคุณครับ รัฐบาลที่ยังให้เรามี Eco car ขับกัน
-
มาเต็ม !!!