Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 07, 2013, 01:37:38
-
สวัสดีครับสมาชิคทุกท่าน
ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่านี่เป็นกระทู้แรกของผม(ปกติจะเข้ามาอ่านเท่านั้นครับ) ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ
ผมเป็นคนนึงที่ไม่ได้รวยมากมายนัก อายุ 32 และกำลังจะมีรถเป็นของตัวเองคันแรก(จริงๆมี Honda Jazz 2009 มาก่อนหน้านี้ แต่นั่นเงินแม่ช่วยครับ อิอิ)
ผมกำลังจะมีงบฯที่จะพอซื้อรถ(หรือรวมแต่งรถ)ในราคาสนธิแล้ว 1,500,000 บาท ครับ และแน่นอนรถที่จะเข้าข่ายราคานี้ก็คงจะหนีไม่พ้นรถญี่ปุ่นหรือ USA C - Segment รุ่น Top หรือไม่ก็รถญี่ปุ่น D-Segment รุ่นต่ำ - กลางๆ
แต่ว่า!!! ผมค้นหาข้อมูลอยู่นานทีเดียว(จาก Internet ล้วนๆ) ก็ไปเจอเจ้า Peugeot 408 1.6 turbo ซึ่งน่าจะเป็นรถยุโรปรุ่นเดียวที่ราคาอยู่ในกลุ่มนี้ครับ
ดังนั้นตามหัวข้อเลยครับ ผมอยากขอรบกวนผู้รู้ทั้งหลายช่วยให้ข้อแนะนำหน่อยครับว่าผมควรจะเลือกอย่างไหนดีครับ ซึ่งผมมีเงื่อนไขในการช่วยพจารณาดังนี้ครับ
1. ปกติผมขับคนเดียว มีแฟนนั่งไปด้วยบ้าง
2. เดินทางทางไกลบ่อย บ่อยมากๆ
3. ชอบเข้าห้าง
4. ผมไม่ได้รวยมากพอที่จะเปลี่ยนรถได้บ่อยๆ
5. ผมไม่ใช่คนศึกษาเรื่องรถ แต่เป็นคนชอบขับรถครับ
6. ผมเป็นพวก Hi-Tech ชอบอะไรล้ำๆ
7. แต่ผมก็ชอบรถที่แน่นๆดูคุ้มค่า และปลอดภัย(อันนี้สำคัญมาก)
8. ผมไม่เคยไปลองรถที่ไหนเลยครับ ไม่เคยสักรุ่นที่อยู่ในข่ายที่จะซื้อครับ
9. ผมมีประสพการณ์ในการเปลี่ยนรถขับไม่มากนัก เลยไม่ค่อยจะมีตัวเปรียบเทียบ แต่ที่แน่ๆผมเคยขับ Benz เก่าๆของหัวหน้า(แกจะซื้อแต่แบบนี้) ผมก็พอเข้าใจแกเลย เพราะถึงจะเก่าแต่มันก็แน่มากๆ ถ้าย้อนยุคไปตอนนั้นมันก็คงถือเป็นรถที่ Hi-Tech มากๆ เรียกว่ารถยี่ปุ่นใหม่ๆตอนนี้ยังไม่ Hi-Tech เท่าเลย ยังรวมถึงเรื่องของช่วงล่างและตัวถังที่ยังดีอยู่แข็งแรงสุดยอด ถ้าเป็นญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันคงสนิมขึ้นไปแล้ว
จากข้อที่ 9 เนี่ยแหละครับทำให้ผมเริ่มหันมามองรถยุโรป แต่เนื่องจากเงินน้อยครับจะไฝ่สูงคงไม่ไหวและแม่ผมยังไงก็ไม่ยอมให้ซื้อรถมือ 2 ครับ เห็น 408 มันราคาขนาดนี้ ผมเลยลังเลครับ เพราะตอนแรกจะเอา Lancer EX GT 2013 แล้วใสแต่งเพิ่ม(เพราะผมชอบ EVO เป็นทุน และเพื่อรักของผมเป็นเซลล์ครับ อิอิ)
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับผม
ปล.ผมไม่มีคนใกล้ๆตัวคนไหนที่เป็นเซียนรถให้ถามเลยครับ :'(
ผมขอเพิ่มเติมโดยอ้างอิงจากที่หลายๆท่านได้ตอบมานะครับ
1. มีคนมาเสนอขาย VW Passat 2009 ราคา 1,650,000 บาท คุ้มไหมครับ?
2. มันมีข้อขัดแย้งกันอยู่ในคำตอบของหลายๆท่านเรื่องการใช้รถนานๆแล้วหาที่ซ่อม แล้วรถญี่ปุ่นมันจะอยู่ถึง 10 ปี แบบยังแข็งแรงอยู่หรือครับ? แต่ที่แน่ๆรถยุโรปถึงแน่นอน
3. แล้วถ้าในงบฯเดียวกันมีรถพวก BMW, AUDI, BENZ หรือ Volkswagen มือ 2 ปีหลังจาก 2009 (2009 - ปัจจุบัน) มาให้เปรียบเทียบเอาอย่างไหนครับผม?
จากข้อสุดท้ายเนี่ยแหละครับผมเริ่มลังเล เริ่มจะไม่เชื่อแม่ละที่ให้ซื้อมือ 1 เท่านั้น เพราะพวกหัวหน้างานผม ทหารระดับสูงที่ผมรู้จัก มักจะชอบเล่นรถยุโรปมือสองกันจังเลยครับ
ขอบคุณมากๆล่วงหน้าครับผม
-
ขอเสนอvolvo v40 ราว1.68 mb เกินงบไปนิดเเต่
สอดคล้องกับเงื่อนไขข้อ
1 ,4, 6 ,7, 8 ชัดเจนครับ
เพิ่มงบอีกนิด หรือ รอ promotionอีกหน่อยครับ
-
ขอเสนอvolvo v40 ราว1.68 mb เกินงบไปนิดเเต่
สอดคล้องกับเงื่อนไขข้อ
1 ,4, 6 ,7, 8 ชัดเจนครับ
เพิ่มงบอีกนิด หรือ รอ promotionอีกหน่อยครับ
ขอบคุณครับผม
ตอนแรกผมก็เล็งอยู่นานมากครับเจ้า V40 แต่ถ้าผมจะซื้อผมจะซื้อตัว TOP เท่านั้นครับ ซึ่ง 1,780,000 บาท เกินงบฯไปพอสมควรครับ เสียดายเงิน เพราะส่วนต่างกับหัวข้อที่ผมตั้ง(เฉพาะตัวรถที่มีขายจริงๆ)ก็เกิน 500,000 แหนะครับ ผมเลยตัด V40 ทิ้งไปครับ(ทั้งๆที่โดนใจ) เพราะผมไม่อยากเป็นหนี้ผ่อนรถอีกแล้วครับ ซือก็ซื้อสดครับผม
ผมซึ้งและเข้าใจคำว่า "การไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" เลยครับตอนนี้
-
เนื่องจาก จขกท มีแนวโน้มที่จะใช้รถนาน จะใช้รถยุโรป ผมคิดว่าควรจะคำนึงถึงการซ่อมบำรุงด้วยนะครับ
เรื่องการดูแลลูกค้าหลังการขายผมไม่ทราบครับ แต่เรื่องอะไหล่อาจจะลำบากหน่อยเวลารถเก่านะครับ
ซึ่งพูดถึงรถยุโรปบ้านเรา MB กับ BM คงจะสบายใจกว่าเรื่องอะไหล่ครับ
ว่าแต่รถญี่ปุ่น d-seg เดี๋ยวนี้ผมว่ามันก้อโอนะ
-
ถ้าใช้รถนาน ผมขอเเนะนำ เเคมรี่acv50 เครื่อง 2.5 ผมไม่รู้ตัวเลขของเปอโย408 เเต่ เเคมรี่นี่ 0-100 8.9 80-120 6.8 ผมว่าเพียงพอเลยนะครับ หรือไม่ก็ เเอคคอร์ด g9 2.4 el ออฟชั่นเพียบ เเค่ตัวนี้ไม่มีซันรูฟเเล้วก้เน ราคาสองตัวนี้ ล้านห้านิดๆ เเต่เเคมรี่ส่วนลดเยอะครับ ถ้าม่ายแอนตี้ d-segment ญี่ปุ่น ดูก่อน ทดลองขับก่อนเถอะครับ ผมให้จขกท ใช้รถ 10 ผมว่า มานคงม่ายซ่อมเเพงเหมือนรถยุโรปหรอกครับ คิดจะประหยัดเงินค่าน้ำมันก็ติดเเก๊ส สบายๆ ลองดูครับ ประหยัดเงินไปเยอะครับ ยิ่งเป้นเปอโยด้วยเเล้ว ถ้าเกิดสักหลายปีผ่านไป เสียกลางทางนี่ยุ่งนะครับ กว่าจะตามช่างที่ซ่อมเป็น ลองดูก่อนครับ ค่อยๆเลือกครับไม่เสียหลาย ถ้าเกิดอยากเปลี่ยนรถต่อไป ก็คงม่ายเจ้บมาก ระหว่างใช้ก็เก้บเงินคอยซื้อ d-segment ยุโรเลยครับ ขอให้โชคดีครับ ^^
-
ยังไม่กล้าแนะนำ แต่อยากบอกว่า ไหนๆก็รอแล้ว รองานปลายปี ดีกว่าครับ ทั้งโปรโมชั่น จัดเต็ม รถทีกำลังจะมาก็อีกหลายคัน มี First Impression ในเดือน พฤศจิกายนอีกเพียบ คิดว่า เพียงพอให้ตัดสินใจ
ผมเข้าใจครับว่า ช่วงล่างยุโรปมันดีมาก แต่ศูนย์บริการก็สำคัญ และราคาค่าบำรุงรักษา จะเป็นปัจจัยหลักในอีก 5 ปีข้างหน้า เมื่อหมดประกันแล้ว ยิ่งจขกท จะไม่เปลี่ยนรถบ่อยควรคำนึงถึงจุดนี้ด้วยครับ
รอ Teana, City Yaris มาก่อนครับ
ที่สำคัญ อยากให้ลองขับดูก่อนครับ จะได้ตัดสินใจอีกครั้ง
ถ้าเป็นผม คงแนะนำเก็บเงินเพิ่ม 116i จะฟินมากเลย (รออีกนิดนึง)
ช่วงล่างดีในรถญี่ปุ่น มาสด้า 3 ปีหน้าคับ(หวังว่า ดีเหมือนเดิม ^_^ )
ยังไงก็อยากให้รอ ปลายปีอีกทีครับ โปรฯแรงแน่นอน
-
all new Ford Focus 2L ตัวTop ครับ ให้ทั้งหมดครับ สมรรถนะ การขับขี่บังคับควบคุม ระบบช่วงล่าง ความเงียบการเก็บเสียง วัสดุภายในและความไฮเทค ระบบความปลอดภัยเยี่ยม ที่มีตำหนิกันก็เรื่องศูนย์บริการ แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายครับ
และจะมีเงินเหลืออีก 4 แสนกว่าบาทเก็บไว้ทำอย่างอื่น ลองไปทดสอบขับดูก่อนครับ
-
ถ้างบมากกว่านี้ไม่ได้แล้วก็เห็นมีแต่ ford focus ที่พอจะได้ครับ จริงๆอยากให้ลอง Volvo V40 น่าจะตอบโจทย์ได้เหลือแค่งบขาดไปนิดหนึ่งเท่านั้น
-
เป็นผมเอาแค่ EX2.0 ก็พอครับ แค่นี้ก็เหลือๆ แล้ว focus ผมว่ามันแคบไปหน่อย เลยไม่เชียร์
ส่วน peugeot 408 รู้สึกมันพัฒนาจากรุ่น 307 ไม่ได้มาจาก 406 407
กลัวว่ามิติและวัสดุของตัวรถอาจจะ down ลงไปจากรุ่นเดิมครับ
-
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
ผมมองว่าไอ้คำว่ารถยุโรปในความหมายของคนเล่นรถ มันคงหมายถึงแค่ เยอรมัน อังกฤษ อิตาลี น่ะครับ
เปอร์โยต์ ผมคิดว่าเป็นยุโรปชั้นรอง ส่วนตัวที่ได้สัมผัสมาคิดว่าเปอร์โยต์ในปัจจบุันเผลอๆสู้รถญี่ปุ่นไม่ได้
มันไม่ใช่เปอร์โยต์ 505 ในอดีตที่เทียบกับรถญี่ปุ่นในสมัยนั้น
ปัจจุบันผมคิดว่าแบรนด์เปอร์โยต์มันดาวน์ลงไปเยอะมาก การพัฒนาจากอดีตสู่ปัจจบุันก็น้อย ในขณะที่รถญี่ปุ่นก้าวกระโดดขึ้นมาจนห่างจากรถเยอรมันอยู่ไม่เกิน2-3ช่วงตัว
การที่คุณหลงใหลในเเบนซ์ และคิดว่าเปอร์โยต์จะเป็นแบบนั้น ผมมองว่าคุณอาจจะผิดหวัง
อ่านจากที่คุณเล่ามา ดูเหมือนว่าคุณจะให้ความสำคัญไปที่ "การขับขี่" เหนือสิ่งอื่นใด
ดังนั้นในงบ 1.5 ล้าน ผมแนะนำให้คุณไปลองขับ โฟกัสตัวท็อป2.0ครับ ราคาแค่1ล้านกับอีกแค่หลักหมื่น
ผมคิดว่ามันขับดีกว่า D-segment ทุกตัวในตลาด ทั้งช่วงล่าง และ พวงมาลัย การเก็บเสียงก็ถือว่าน่าพอใจมาก อัตราเร่งเพียงพอแน่นอน ที่ความเร็ว150ผมคิดว่ารถยังนิ่ง การซับแรงสะเทือนจากพื้นถนนทำได้ดีมาก
ต้องไปลองขับดูครับ ข้อเสียมีแค่มันจะแคบไปหน่อย และ ต้องทำใจเรื่องศูนย์บริการ รวมทั้งเซลล์ที่แมร่งโคดห่วยแตก
-
ถ้าถามผมๆ อยากให้ดูพวก D segment ที่กำลังจะเปิดตัวอย่าง Teana เอารุ่นกลางๆพอ เนื่องจากเราไม่เปลี่ยนรถบ่อย และออกต่างจังหวัดพอสมควร ควรหารถที่ซ่อมไม่ยากและมีศูนย์บริการพอสมควร
-
ถ้าจะใช้ยาวๆดูการซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งานด้วยดีกว่า ถ้าใช้ 4 ปี แล้วการดูแลรักษายุ่งยากแถมมีคันนี้เป็นรถใช้งานประจำด้วย ยิ่งลำบากกันไปใหญ่
-
ไม่ควรเป็นรถหลัก
-
เชียร์ฟอกัสอีกเสียง ราคาค่าตัวกับสิ่งที่ได้เกินคุ้ม เหลือเงินเก็บไว้กันเหนียวอีกต่างหาก
-
ไปลองดู volvo v40 ครับ อาจจะใช่ก้อได้ครับ ;D
-
โอ้... ดีใจจังครับ ตื่นขึ้นมา มีผู้สนใจดีมาตอบเพียบเลย ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
เห็นเชียร์ Focus หลายคนเลย ซึ้งผมเองก็สนใจอยู่ไม่น้อยครับในตอนแรก แต่ก็เพราะผมอ่านกระทู้เยอะแยะ รวมทั้งรีวิวของที่นี่แหละครับทำให้ใจมันหวิวๆเรื่องของศูนย์บริการว่ามันไม่ดีขนาดนั้นจริงๆเหรอ ผมเป็นคนถ้ารถมีอะไรเข้าศูนย์ตลอดครับไม่เคยซ่อมนอกเลย(จริงๆก็เคยใช้แค่ Jazz มาคันเดียวอะนะครับ อิอิ)
ประเด็ดอีกอันนึง กว่าผมจะมีเงินก็คือช่วงสิ้นปี 2013 นี้ ครับ ผมควรจะรอไหม และมันจะเป็นการรอนานเกินไปไหม ที่สำคัญครับ มันจะเป็นการรอที่ผิดหวังไหมถ้าหากจะรอ Mazda 3 ที่จะมาเมษา 2014 หรือ Mazda 6 ที่พี่ J!MMY บอกไว้ว่าจะมาต่อจาก Mazda 3 อีกไม่กี่เดือน(คำว่าไม่กี่เดือนของคนรอนี่... นานมาก... ยิ่งต้องขับมอไซด์ตากแดดตากฝนทุกวันอีก :'( ) อ่อ... ผมแอบไปเห็นเมืองนอกเขารีวิว Mazda 3 2014 เขาบอกว่ามันมีดีที่แค่สวย!!! อันนี้ไม่รู้เป็นคำชมหรือคำด่านะครับ อิอิ แต่มันสวยจริง
ผมไม่รู้หรอกครับว่าคำว่า "แย่" ของทุกๆคนมันแปลความหมายได้ขนาดไหน อย่างที่บอกครับ ผมขับมาแค่ Jazz 2009 ครับ มันก็ขับได้นะครับ ไม่ได้เลวร้าย แต่อืดจริง เพราะผมกดแซงไม่ได้ดั่งใจนึก
ขอบคุณทุกๆท่านมากๆครับ ใครใจดีมาให้ความรู้ผมเพิ่มได้อีกนะครับ ;D
-
เชียร์ Teana ตัวใหม่เปิดตัวเดือนนี้ รอก่อนดีกว่าครับ
D segment ยังไงก็นั่งสบายกว่าแน่นอน เอา2.0ก็พอครับ
-
ถ้ามีคนนั่งไปด้วยไม่เยอะ ผมว่าโฟกัสใหม่ค่อนข้างตอบโจทย์ได้พอสมควรครับ เรื่องศูนย์ถ้าคุณตีซี้ช่าง หัวหน้าช่าง เด็กรับรถ ไปได้สักพัก ก็จะดีขึ้นครับ อย่างน้อยจะเคลมอะไรๆมันก็ง่าย ผมมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนศูนย์เข้าบริการบ่อยเพราะเวลาเปลี่ยนที่ทีไรต้องหงุดหงิดทุกทีกับเจ้านี้ ตัวรถเองก็มีของเล่นของแต่งจุกจิกให้พอเสียเงินได้พอควรครับ แม้จะไม่เท่ากับรถยุ่น แต่ของแต่งทั่วไปก็มีครบไม่ว่าจะ ล้อ ช่วงล่าง บอดี้พาร์ทตัวนอก(สั่งใหม่จากอังกฤษก็ได้ ก๊อบบ้านเราก็มี จีนแดงก็มีให้เห็น) สมรรถณะตัวมันเองก็ไม่ชี้เหร่ เครื่องไม่ถึงกับแรงแต่ก็เหลือเฟือ(มาก) ในชีวิตประจำวันแล้ว
แต่อย่างรถยี่ห้อที่มีวิ่งกันน้อยในบ้านเราอย่างเจ้าสิงห์ตะกายขาที่คุณสนใจ ในความคิดผมมันออกจะเป็นรถเฉพาะกลุ่ม สำหรับคนใจรักนิดนึง ถ้าแบบตกหลุมรัก มีเวลาให้เค้าแล้ว ผมว่าคนใช้เองจะมีความสุขมากกว่า ;D
-
peugeot ผมว่าตัดทิ้งเลยดีไหม หากไม่ค่อยเปลี่ยนรถ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถ ใช้รถพวกนี้ควรมีอู่ประจำ และควรมีสำรอง หรือไม่ก็อย่างน้อยมีทางออก ยิ่งบอกออกต่างจังหวัดบ่อยมากๆ ยิ่งไม่แนะนำนะครับ
จากทั้งหมด ผมว่า D segment เข้าทางสุด ได้รุ่นกลางๆ เลย ไม่ใช่ต่ำสุด และหากมองเลยยาวไป ถึงแต่งงาน มีลูก D segment ก็ตอบโจทย์ได้สบายๆ ใช้ยาวๆ
แต่ก็นะ เห็นชอบอะไรทันสมัย ชอบขับรถดีๆ ผมอยากให้ไปลองขับ ยุโรปดูครับ ชอบ volvo ลอง volvo ชอบ benz ไปลอง benz ชอบ BMW ไปลอง BMW ตอนนี้โปรเยอะแยะมากมาย คุณเลือกได้เลย บางที เราไปจำกัดนิยามการเป็นหนี้มากเกินไปไหมครับ เพราะรถอยู่กับเรานาน เราใช้มันบ่อย เป็นหนี้อีกนิด ได้รถที่ชอบ ที่ถูกใจ คุ้มกว่านะ รถใหม่ ดอกสูงสุดไม่เกิน 3% ถือว่าต่ำสุดในการเป็นหนี้นะครับ ยิ่งบางยี่ห้อ มี 0% กี่เดือนก็ว่าไป ลองไปคุยดู คุณมี 1500000 เบื้องต้น ถ้าได้โปร 0% มา ยังไงคุณก็หาเงินทันแน่ๆ เอา 1500000 ฝากไว้กินดอกได้อีก แล้วก็ผ่อนไป เพราะ 0% = ซื้อสด แต่ไม่จ่ายทีเดียว มีเงินเหลือไปทำอย่างอื่นก่อน ในขณะที่หาเงินเก็บต่อไปได้ด้วยครับ
ลองดูนะครับ
-
โฟกัสช่วงล่างแน่นเงียบ
แต่สองสามวันก่อนขับ อัลตีสตัวปัจจุบัน1.8 E85 ป้ายแดง ของพ่อตามา มันก็นิ่ง อัตราเร่งใช้ได้ดีทีเดียวครับ เร่งเป็นมา (ขนาดติดแก๊สนะเนี้ย) ได้ลดราคาแสนนึง จากแปดแสนสองเหลือเจ็ดแสนสองเนี้ยคุ้มเลยครับ ศูนย์เพียบ ซ่อมได้
-
เป็นผมเลือก prius top option ครับ
-
ออกต่างจังหวัดบ่อย เชียร์D เซกเม้นท์ญี่ปุ่นใช้ยาวเผื่อมีครอบครัว หรือจะเพิ่มงบอีกนิด volvo ตามความเห็นข้าบนครับ แต่ถ้าเป้นผมจะกันเงินไว้ลงทุนสักห้าแสน แล้วก้อผ่อนชิวๆเอา เลือกรถที่อยากได้ดีกว่าครับเกินงบนิดหน่อยแต่มันจะอยากใช้ไปยาวๆ แบบไม่มาเสียดายทีหลังว่ารุ้งี้เพิ่มอีกหน่อยเอานี่ดีกว่า
-
ผมแนะนำAccord G9 ครับตอบโจทย์ได้หมดทั้งศูนย์บริการ ช่วงล่าง ระบบความปลอดภัยที่ใส่มาให้ เติมE85 ได้ จะใช้ 2.0 หรือ 2.4 ก็ได้ไม่ต่างกันมาก
และที่สำคัญเผื่ออนาคตเวลามีลูกหรือรับพ่อแม่ไปเที่ยวได้ด้วยครับ ใช้ยาว
-
Peugeot เป็นรถที่ผมชอบนะ แต่ถ้าให้ซื้อผมขอบายด้วยเหมือนกัน
ถ้าจะซื้อ ไปพวก MB BM ดีกว่า
จบที่ D seg ครับ
-
ยังไม่กล้าแนะนำ แต่อยากบอกว่า ไหนๆก็รอแล้ว รองานปลายปี ดีกว่าครับ ทั้งโปรโมชั่น จัดเต็ม รถทีกำลังจะมาก็อีกหลายคัน มี First Impression ในเดือน พฤศจิกายนอีกเพียบ คิดว่า เพียงพอให้ตัดสินใจ
ผมเข้าใจครับว่า ช่วงล่างยุโรปมันดีมาก แต่ศูนย์บริการก็สำคัญ และราคาค่าบำรุงรักษา จะเป็นปัจจัยหลักในอีก 5 ปีข้างหน้า เมื่อหมดประกันแล้ว ยิ่งจขกท จะไม่เปลี่ยนรถบ่อยควรคำนึงถึงจุดนี้ด้วยครับ
รอ Teana, City Yaris มาก่อนครับ
ที่สำคัญ อยากให้ลองขับดูก่อนครับ จะได้ตัดสินใจอีกครั้ง
ถ้าเป็นผม คงแนะนำเก็บเงินเพิ่ม 116i จะฟินมากเลย (รออีกนิดนึง)
ช่วงล่างดีในรถญี่ปุ่น มาสด้า 3 ปีหน้าคับ(หวังว่า ดีเหมือนเดิม ^_^ )
ยังไงก็อยากให้รอ ปลายปีอีกทีครับ โปรฯแรงแน่นอน
BMW 116i เห็นเพื่อนผมบอกแรงมากๆเลยครับแถมได้ประกัน 5 ปี/ 1 แสนโลด้วย
-
ถ้าเป็นผมนะ Volvo S60,Ford Focus 2.0GDI,All new Honda Accord
-
โจทย์คือ รถญี่ปุ่น และชอบแบบล้ำๆหน่อย ไม่ Mazda 3 2014 ก็จับ Accord ปัจจุบันก็ได้
ปล. usa ขออนุญาติไม่เอามานับครับ
-
เชียร์ Mazda6 ครับ ฮ่าฮ่าฮิฮิ
-
ซื้อ civic 1.8E มาขับเล่น แล้วเอาเงินที่เหลือแบ่งไปซื้อหวย ธกส. หรือ ออมสิน ดีกว่ามั้ง ;D
-
เชียร์ All new accord 2013 อีกเสียง ตอบโจทย์เลยครับ ;D
-
ตอบในฐานะคนใช้รถคันเดิมๆมา 12 ปี แล้วรถเกิดต้องซ่อมหนักตอนปีที่ 12
ถ้าไม่ใช่รถตลาด ต้องหาอะไหล่ซ่อม ถ้าโชคไม่ดีจริง รอนานครับ
-
เชียร์ Teana
สดๆซิงๆ ...
-
ตอบในฐานะคนใช้รถคันเดิมๆมา 12 ปี แล้วรถเกิดต้องซ่อมหนักตอนปีที่ 12
ถ้าไม่ใช่รถตลาด ต้องหาอะไหล่ซ่อม ถ้าโชคไม่ดีจริง รอนานครับ
แล้วรถตลาดญี่ปุ่นมันจะยังอยู่ดีถึง 12 ปีเหรอครับ? แต่รถที่หัวหน้าผมใช้เป็น Benz รุ่นเก่า เป็น 10 ปีแล้ว ยังดีอยู่เลยครับ แต่ก็ต้องซ่อมบ้างจริงๆครับ
-
accord ครับ 0 ก็ดีด้วย(ถึงรถจะมีปัญหาบางแต่ 0 ก็โอเคอยู่) ส่วน Peugeot ถ้ารถเสียขึ้นมาไม่รู้อะไหล่จะหายากมั้ย
-
accord ครับ 0 ก็ดีด้วย(ถึงรถจะมีปัญหาบางแต่ 0 ก็โอเคอยู่) ส่วน Peugeot ถ้ารถเสียขึ้นมาไม่รู้อะไหล่จะหายากมั้ย
เห็นคนเชีบร์ Accord กับ Teana กันหลายคนเลยครับ แต่คำถามที่ผมติดใจคือ ถ้าในงบต่ำกว่า 1,500,000 มันจะยังดูดีเทียบเคียงกับตัว TOP ของพวกมันได้ไหมครับ หรือ.... ถ้าหากจะไปเอาตัว TOP ซึ่งก็าคากว่า 1,700,000 บาท เราไปซื้อ Volvo V40 T5 S หรือ Benz A180 จะดีกว่าไหมครับ หรือ....แม้กระทั้งไปเอาพวก Series 3 - 5 มือ 2 หรือแม้แต่ Passat CC มือ 2 ช่วงประมาณปี 2009 - 2012 จะดีกว่าหรือไม่ครับ?
นี่เป็นเพียงแค่ทัศนคติที่ผมติดค้างอยู่ในหัวเท่านั้นนะครับ ผมเองก็ไม่ไม่เคยรู้หรอกครับว่าไอ้พวกรถที่ผมกล่าวมาข้างบนมันจะสู้กันไหมได้ไหมครับ เห็นราคามันใกล้ๆกัน และก็เห็นผู้ใหญ่ของผมหลายคนไม่ลังเลที่จะซื้อรถยุโรปพวกนั้นมือ 2 เลยครับ แต่กลับไม่เคยจะเลือกรถยี่ปุ่นมือ 1 เลยครับ ถ้าราคามันเท่ากัน
ขอบคุณมากๆครับ
-
accord ครับ 0 ก็ดีด้วย(ถึงรถจะมีปัญหาบางแต่ 0 ก็โอเคอยู่) ส่วน Peugeot ถ้ารถเสียขึ้นมาไม่รู้อะไหล่จะหายากมั้ย
เห็นคนเชีบร์ Accord กับ Teana กันหลายคนเลยครับ แต่คำถามที่ผมติดใจคือ ถ้าในงบต่ำกว่า 1,500,000 มันจะยังดูดีเทียบเคียงกับตัว TOP ของพวกมันได้ไหมครับ หรือ.... ถ้าหากจะไปเอาตัว TOP ซึ่งก็าคากว่า 1,700,000 บาท เราไปซื้อ Volvo V40 T5 S หรือ Benz A180 จะดีกว่าไหมครับ หรือ....แม้กระทั้งไปเอาพวก Series 3 - 5 มือ 2 หรือแม้แต่ Passat CC มือ 2 ช่วงประมาณปี 2009 - 2012 จะดีกว่าหรือไม่ครับ?
นี่เป็นเพียงแค่ทัศนคติที่ผมติดค้างอยู่ในหัวเท่านั้นนะครับ ผมเองก็ไม่ไม่เคยรู้หรอกครับว่าไอ้พวกรถที่ผมกล่าวมาข้างบนมันจะสู้กันไหมได้ไหมครับ เห็นราคามันใกล้ๆกัน และก็เห็นผู้ใหญ่ของผมหลายคนไม่ลังเลที่จะซื้อรถยุโรปพวกนั้นมือ 2 เลยครับ แต่กลับไม่เคยจะเลือกรถยี่ปุ่นมือ 1 เลยครับ ถ้าราคามันเท่ากัน
ขอบคุณมากๆครับ
คือผมเห็น จขกท. บอกว่าใช้รถยาวๆอ่ะครับ ก็เลยแนะนำมือนึง ถ้ามือสองอยากให้มันอยู่ยาวต้องมีเงินซ่อมนิดนึง ผมว่าในราคาต่ำกว่า 1,500,000 มันก็ดูดีเหมือนตัวท๊อปแหละครับ(สำหรับคนส่วนมากที่ไม่รู้เรื่องรถ) คือจริงอยากแนะนำ Accord 2.0 el เงินที่เหลือเปลี่ยนไฟเป็นหลอด Xenon หรือ ไม่ก็รอดู Teana ครับ
ปล.แต่ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ ก็เอาพวก Series 3-5 มือสองก็ได้ครับ
-
accord ครับ 0 ก็ดีด้วย(ถึงรถจะมีปัญหาบางแต่ 0 ก็โอเคอยู่) ส่วน Peugeot ถ้ารถเสียขึ้นมาไม่รู้อะไหล่จะหายากมั้ย
เห็นคนเชีบร์ Accord กับ Teana กันหลายคนเลยครับ แต่คำถามที่ผมติดใจคือ ถ้าในงบต่ำกว่า 1,500,000 มันจะยังดูดีเทียบเคียงกับตัว TOP ของพวกมันได้ไหมครับ หรือ.... ถ้าหากจะไปเอาตัว TOP ซึ่งก็าคากว่า 1,700,000 บาท เราไปซื้อ Volvo V40 T5 S หรือ Benz A180 จะดีกว่าไหมครับ หรือ....แม้กระทั้งไปเอาพวก Series 3 - 5 มือ 2 หรือแม้แต่ Passat CC มือ 2 ช่วงประมาณปี 2009 - 2012 จะดีกว่าหรือไม่ครับ?
นี่เป็นเพียงแค่ทัศนคติที่ผมติดค้างอยู่ในหัวเท่านั้นนะครับ ผมเองก็ไม่ไม่เคยรู้หรอกครับว่าไอ้พวกรถที่ผมกล่าวมาข้างบนมันจะสู้กันไหมได้ไหมครับ เห็นราคามันใกล้ๆกัน และก็เห็นผู้ใหญ่ของผมหลายคนไม่ลังเลที่จะซื้อรถยุโรปพวกนั้นมือ 2 เลยครับ แต่กลับไม่เคยจะเลือกรถยี่ปุ่นมือ 1 เลยครับ ถ้าราคามันเท่ากัน
ขอบคุณมากๆครับ
คือผมเห็น จขกท. บอกว่าใช้รถยาวๆอ่ะครับ ก็เลยแนะนำมือนึง ถ้ามือสองอยากให้มันอยู่ยาวต้องมีเงินซ่อมนิดนึง ผมว่าในราคาต่ำกว่า 1,500,000 มันก็ดูดีเหมือนตัวท๊อปแหละครับ(สำหรับคนส่วนมากที่ไม่รู้เรื่องรถ) คือจริงอยากแนะนำ Accord 2.0 el เงินที่เหลือเปลี่ยนไฟเป็นหลอด Xenon หรือ ไม่ก็รอดู Teana ครับ
ปล.แต่ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ ก็เอาพวก Series 3-5 มือสองก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ น่าสนใจมากๆครับ
ที่ผมถามก็เพราะว่าเห็นว่า Accord 2.0 ทั้ง 2 รุ่น(หรือแม้แต่ Camry, Teana ในรุ่นที่ราคาเท่าๆกัน) นั้น Options มันน้อยกว่าตัว TOP เอาเรื่องอยู่เลยครับ ทั้งเครื่องเสียง, Paddle Shift, Sunroof และระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ผมไม่ค่อยแคร์เรื่องหน้าตาที่มันต่างกันเล็กน้อยสักเท่าไหร่นัก แต่แคร์เรื่อง Options มากกว่าครับ(เพราะหน้าตา พอเราเข้ามานั่งข้างในเราก็ไม่เห็น) มันให้มาน้อยกว่ากันจน....... ผมตั้งคำถามว่าทำไมมันให้น้อยกว่า C-Segment รุ่น TOP ทั้งหลาย ทั้งๆที่แพงกว่าน่ะครับ
แล้วมันจะคุ้มไหมครับ
-
accord ครับ 0 ก็ดีด้วย(ถึงรถจะมีปัญหาบางแต่ 0 ก็โอเคอยู่) ส่วน Peugeot ถ้ารถเสียขึ้นมาไม่รู้อะไหล่จะหายากมั้ย
เห็นคนเชีบร์ Accord กับ Teana กันหลายคนเลยครับ แต่คำถามที่ผมติดใจคือ ถ้าในงบต่ำกว่า 1,500,000 มันจะยังดูดีเทียบเคียงกับตัว TOP ของพวกมันได้ไหมครับ หรือ.... ถ้าหากจะไปเอาตัว TOP ซึ่งก็าคากว่า 1,700,000 บาท เราไปซื้อ Volvo V40 T5 S หรือ Benz A180 จะดีกว่าไหมครับ หรือ....แม้กระทั้งไปเอาพวก Series 3 - 5 มือ 2 หรือแม้แต่ Passat CC มือ 2 ช่วงประมาณปี 2009 - 2012 จะดีกว่าหรือไม่ครับ?
นี่เป็นเพียงแค่ทัศนคติที่ผมติดค้างอยู่ในหัวเท่านั้นนะครับ ผมเองก็ไม่ไม่เคยรู้หรอกครับว่าไอ้พวกรถที่ผมกล่าวมาข้างบนมันจะสู้กันไหมได้ไหมครับ เห็นราคามันใกล้ๆกัน และก็เห็นผู้ใหญ่ของผมหลายคนไม่ลังเลที่จะซื้อรถยุโรปพวกนั้นมือ 2 เลยครับ แต่กลับไม่เคยจะเลือกรถยี่ปุ่นมือ 1 เลยครับ ถ้าราคามันเท่ากัน
ขอบคุณมากๆครับ
คือผมเห็น จขกท. บอกว่าใช้รถยาวๆอ่ะครับ ก็เลยแนะนำมือนึง ถ้ามือสองอยากให้มันอยู่ยาวต้องมีเงินซ่อมนิดนึง ผมว่าในราคาต่ำกว่า 1,500,000 มันก็ดูดีเหมือนตัวท๊อปแหละครับ(สำหรับคนส่วนมากที่ไม่รู้เรื่องรถ) คือจริงอยากแนะนำ Accord 2.0 el เงินที่เหลือเปลี่ยนไฟเป็นหลอด Xenon หรือ ไม่ก็รอดู Teana ครับ
ปล.แต่ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ ก็เอาพวก Series 3-5 มือสองก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ น่าสนใจมากๆครับ
ที่ผมถามก็เพราะว่าเห็นว่า Accord 2.0 ทั้ง 2 รุ่น(หรือแม้แต่ Camry, Teana ในรุ่นที่ราคาเท่าๆกัน) นั้น Options มันน้อยกว่าตัว TOP เอาเรื่องอยู่เลยครับ ทั้งเครื่องเสียง, Paddle Shift, Sunroof และระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ผมไม่ค่อยแคร์เรื่องหน้าตาที่มันต่างกันเล็กน้อยสักเท่าไหร่นัก แต่แคร์เรื่อง Options มากกว่าครับ(เพราะหน้าตา พอเราเข้ามานั่งข้างในเราก็ไม่เห็น) มันให้มาน้อยกว่ากันจน....... ผมตั้งคำถามว่าทำไมมันให้น้อยกว่า C-Segment รุ่น TOP ทั้งหลาย ทั้งๆที่แพงกว่าน่ะครับ
แล้วมันจะคุ้มไหมครับ
ผมว่าที่คนเชียร์ ญี่ปุ่นมือหนึ่งมากกว่า เพราะอย่างที่ผมได้บอกไว้บ้างแล้ว ว่าเล่นยุโรป คุณต้องมีช่างมีอู่ ที่ไว้ใจได้ ซ่อมจบครับ เกินเจอคันรวน ช่างไม่เก่ง หาชิ้นส่วนเปลี่ยนไปเรื่อย ซ่อมไม่จบ งานนี้ 1500000 คุณก็ไม่พอครับ บางทีซ่อมกัน สองสามแสนก็มีนะ ยุโรป หากเจออู่ไม่ดี แค่ แร็คพวงมาลัย เกียร์ เครื่อง แต่ละตัว เกือบแสนทั้งนั้นครับ หาก จขกท ออกตัวแล้ว ขับอย่างเดียว ไม่ได้ศึกษารถ ก็เลิกมองยุโรปมือสองเลยครับ ไม่ก็ต้องถามหัวหน้าว่า ซ่อมที่ไหน จบไหม ก็ทำตามก็ได้ แต่ผมเห็นคนออกมาโวยวายเยอะ ยุโรปจุกจิก ซ่อมเยอะ ส่วนใหญ่คือช่างไม่เก่งครับ รถมันฉลาด มีไรก็ถามหาช่าง มันจะไม่ให้เราฝืนใช้มันเลยครับ จ้างรถยกเท่านั้นเลยเวลางอแง พวกนี้ จขกท รับได้ไหม เกิดวันดีคืนดี นอนอู่ 3 วัน 7 วัน หุหุ ป่าวขู่นะ ผมก็ใช้อยู่ แม่ก็ใช้อยู่ เสียขึ้นมา ก็ taxi ยาวครับ อิอิ
-
รถ C-seg หรือ D-seg 2.0 ก็พอเหลือๆ ครับ
-
accord ครับ 0 ก็ดีด้วย(ถึงรถจะมีปัญหาบางแต่ 0 ก็โอเคอยู่) ส่วน Peugeot ถ้ารถเสียขึ้นมาไม่รู้อะไหล่จะหายากมั้ย
เห็นคนเชีบร์ Accord กับ Teana กันหลายคนเลยครับ แต่คำถามที่ผมติดใจคือ ถ้าในงบต่ำกว่า 1,500,000 มันจะยังดูดีเทียบเคียงกับตัว TOP ของพวกมันได้ไหมครับ หรือ.... ถ้าหากจะไปเอาตัว TOP ซึ่งก็าคากว่า 1,700,000 บาท เราไปซื้อ Volvo V40 T5 S หรือ Benz A180 จะดีกว่าไหมครับ หรือ....แม้กระทั้งไปเอาพวก Series 3 - 5 มือ 2 หรือแม้แต่ Passat CC มือ 2 ช่วงประมาณปี 2009 - 2012 จะดีกว่าหรือไม่ครับ?
นี่เป็นเพียงแค่ทัศนคติที่ผมติดค้างอยู่ในหัวเท่านั้นนะครับ ผมเองก็ไม่ไม่เคยรู้หรอกครับว่าไอ้พวกรถที่ผมกล่าวมาข้างบนมันจะสู้กันไหมได้ไหมครับ เห็นราคามันใกล้ๆกัน และก็เห็นผู้ใหญ่ของผมหลายคนไม่ลังเลที่จะซื้อรถยุโรปพวกนั้นมือ 2 เลยครับ แต่กลับไม่เคยจะเลือกรถยี่ปุ่นมือ 1 เลยครับ ถ้าราคามันเท่ากัน
ขอบคุณมากๆครับ
คือผมเห็น จขกท. บอกว่าใช้รถยาวๆอ่ะครับ ก็เลยแนะนำมือนึง ถ้ามือสองอยากให้มันอยู่ยาวต้องมีเงินซ่อมนิดนึง ผมว่าในราคาต่ำกว่า 1,500,000 มันก็ดูดีเหมือนตัวท๊อปแหละครับ(สำหรับคนส่วนมากที่ไม่รู้เรื่องรถ) คือจริงอยากแนะนำ Accord 2.0 el เงินที่เหลือเปลี่ยนไฟเป็นหลอด Xenon หรือ ไม่ก็รอดู Teana ครับ
ปล.แต่ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ ก็เอาพวก Series 3-5 มือสองก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ น่าสนใจมากๆครับ
ที่ผมถามก็เพราะว่าเห็นว่า Accord 2.0 ทั้ง 2 รุ่น(หรือแม้แต่ Camry, Teana ในรุ่นที่ราคาเท่าๆกัน) นั้น Options มันน้อยกว่าตัว TOP เอาเรื่องอยู่เลยครับ ทั้งเครื่องเสียง, Paddle Shift, Sunroof และระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ผมไม่ค่อยแคร์เรื่องหน้าตาที่มันต่างกันเล็กน้อยสักเท่าไหร่นัก แต่แคร์เรื่อง Options มากกว่าครับ(เพราะหน้าตา พอเราเข้ามานั่งข้างในเราก็ไม่เห็น) มันให้มาน้อยกว่ากันจน....... ผมตั้งคำถามว่าทำไมมันให้น้อยกว่า C-Segment รุ่น TOP ทั้งหลาย ทั้งๆที่แพงกว่าน่ะครับ
แล้วมันจะคุ้มไหมครับ
ผมว่าที่คนเชียร์ ญี่ปุ่นมือหนึ่งมากกว่า เพราะอย่างที่ผมได้บอกไว้บ้างแล้ว ว่าเล่นยุโรป คุณต้องมีช่างมีอู่ ที่ไว้ใจได้ ซ่อมจบครับ เกินเจอคันรวน ช่างไม่เก่ง หาชิ้นส่วนเปลี่ยนไปเรื่อย ซ่อมไม่จบ งานนี้ 1500000 คุณก็ไม่พอครับ บางทีซ่อมกัน สองสามแสนก็มีนะ ยุโรป หากเจออู่ไม่ดี แค่ แร็คพวงมาลัย เกียร์ เครื่อง แต่ละตัว เกือบแสนทั้งนั้นครับ หาก จขกท ออกตัวแล้ว ขับอย่างเดียว ไม่ได้ศึกษารถ ก็เลิกมองยุโรปมือสองเลยครับ ไม่ก็ต้องถามหัวหน้าว่า ซ่อมที่ไหน จบไหม ก็ทำตามก็ได้ แต่ผมเห็นคนออกมาโวยวายเยอะ ยุโรปจุกจิก ซ่อมเยอะ ส่วนใหญ่คือช่างไม่เก่งครับ รถมันฉลาด มีไรก็ถามหาช่าง มันจะไม่ให้เราฝืนใช้มันเลยครับ จ้างรถยกเท่านั้นเลยเวลางอแง พวกนี้ จขกท รับได้ไหม เกิดวันดีคืนดี นอนอู่ 3 วัน 7 วัน หุหุ ป่าวขู่นะ ผมก็ใช้อยู่ แม่ก็ใช้อยู่ เสียขึ้นมา ก็ taxi ยาวครับ อิอิ
เป็นคำตอบที่สมเหตุสมผลและเห็นภาพชัดเจนมากๆครับ ขอบคุณมากๆครับ และก็ขอขอบคุณทุกๆคำแนะนำด้วยครับผม :) ;)
-
accord ครับ 0 ก็ดีด้วย(ถึงรถจะมีปัญหาบางแต่ 0 ก็โอเคอยู่) ส่วน Peugeot ถ้ารถเสียขึ้นมาไม่รู้อะไหล่จะหายากมั้ย
เห็นคนเชีบร์ Accord กับ Teana กันหลายคนเลยครับ แต่คำถามที่ผมติดใจคือ ถ้าในงบต่ำกว่า 1,500,000 มันจะยังดูดีเทียบเคียงกับตัว TOP ของพวกมันได้ไหมครับ หรือ.... ถ้าหากจะไปเอาตัว TOP ซึ่งก็าคากว่า 1,700,000 บาท เราไปซื้อ Volvo V40 T5 S หรือ Benz A180 จะดีกว่าไหมครับ หรือ....แม้กระทั้งไปเอาพวก Series 3 - 5 มือ 2 หรือแม้แต่ Passat CC มือ 2 ช่วงประมาณปี 2009 - 2012 จะดีกว่าหรือไม่ครับ?
นี่เป็นเพียงแค่ทัศนคติที่ผมติดค้างอยู่ในหัวเท่านั้นนะครับ ผมเองก็ไม่ไม่เคยรู้หรอกครับว่าไอ้พวกรถที่ผมกล่าวมาข้างบนมันจะสู้กันไหมได้ไหมครับ เห็นราคามันใกล้ๆกัน และก็เห็นผู้ใหญ่ของผมหลายคนไม่ลังเลที่จะซื้อรถยุโรปพวกนั้นมือ 2 เลยครับ แต่กลับไม่เคยจะเลือกรถยี่ปุ่นมือ 1 เลยครับ ถ้าราคามันเท่ากัน
ขอบคุณมากๆครับ
คือผมเห็น จขกท. บอกว่าใช้รถยาวๆอ่ะครับ ก็เลยแนะนำมือนึง ถ้ามือสองอยากให้มันอยู่ยาวต้องมีเงินซ่อมนิดนึง ผมว่าในราคาต่ำกว่า 1,500,000 มันก็ดูดีเหมือนตัวท๊อปแหละครับ(สำหรับคนส่วนมากที่ไม่รู้เรื่องรถ) คือจริงอยากแนะนำ Accord 2.0 el เงินที่เหลือเปลี่ยนไฟเป็นหลอด Xenon หรือ ไม่ก็รอดู Teana ครับ
ปล.แต่ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ ก็เอาพวก Series 3-5 มือสองก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ น่าสนใจมากๆครับ
ที่ผมถามก็เพราะว่าเห็นว่า Accord 2.0 ทั้ง 2 รุ่น(หรือแม้แต่ Camry, Teana ในรุ่นที่ราคาเท่าๆกัน) นั้น Options มันน้อยกว่าตัว TOP เอาเรื่องอยู่เลยครับ ทั้งเครื่องเสียง, Paddle Shift, Sunroof และระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ผมไม่ค่อยแคร์เรื่องหน้าตาที่มันต่างกันเล็กน้อยสักเท่าไหร่นัก แต่แคร์เรื่อง Options มากกว่าครับ(เพราะหน้าตา พอเราเข้ามานั่งข้างในเราก็ไม่เห็น) มันให้มาน้อยกว่ากันจน....... ผมตั้งคำถามว่าทำไมมันให้น้อยกว่า C-Segment รุ่น TOP ทั้งหลาย ทั้งๆที่แพงกว่าน่ะครับ
แล้วมันจะคุ้มไหมครับ
นิดนึงนะครับ ปรกติแล้วตัวผมเวลาซื้อรถไม่เคยมองรุ่นท๊อปก่อนเลยครับ เพราะส่วนมากออฟชั่นที่อัดมาแน่นๆนะ เป็นออฟชั่นหาเงินเข้ากระเป๋าของบริษัทรถทั้งนั้นนะครับ หากคนมีเงินเหลือกินใช้ หรือแคร์คนรอบข้างค่อนแคะว่าไม่มีปัญญาออกรุ่นท๊อป เพราะหลายๆครั้งเราแทบไม่มีโอกาสใช้มันเลยครับ ยกเว้นดูแล้วเราจะได้ใช้ออฟชั่นเหล่านั้นแน่ๆ ยกตัวอย่างเช่นผมอยากรู้จริงๆว่ารถที่มีซันรูฟนะ นอกจากไว้อวดแล้วเปิดกันบ่อยแค่ไหน คือเวลาเลือกรถ เลือกออฟชั่นอยากให้ดูว่าออฟชั่นนั้นเราจะได้ใช้ไหม แต่หากเป็นพวกออฟชั่นความปลอดภัยก็ควรจัดเต็มนะครับ ตัวอย่างชัดๆอีกอย่างเช่นคัมรี่ไฮบริดรุ่น dvd กับตัวท๊อป ราคาห่างกันเกือบสองแสนมั้ง (ขอโทษด้วยจำราคาไม่ได้จริงๆ) ได้เบาะหลังเอนได้กันเนวิเกเตอร์ เป็นผมๆเลือกตัวdvd เพราะเนวิเกเตอร์ติดกระจกเอาหรือไปเปลี่ยนวิทยุที่มีเนก็ได้ ส่วนเบาะหลังเอนได้ ก็แทบไม่ได้ใช้เพราะไม่ค่อยมีคนนั่ง สรุปว่าเลือกที่เราต้องการใช้จริงๆเถอะครับ ส่วนรถที่ จขกท ต้องการ หากเป็นรถยุโรปมือหนี่งก็ควรเป็นเบนซ์ บีเอ็ม หรือ วอลโว่ก็ได้ สองยี่ห้อหลังมีฟรีค่าบำรุงรักษา ก็ทุ่นไปได้เยอะ นอกจากนี้แล้วผมว่าก็เป็นโฟกัสนะ ออฟชั่นเยอะอย่างที่ต้องการ ศูนย์ก็พอมี ยุโรปมือสองก็ควรเป็นเบนซ์หรือบีเอ็มครับ อะไหล่หาง่าย ช่างหาไม่ยาก นอกนั้นหากไม่ได้เป็นคนที่พอรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไก หรือชอบยี่ห้อนั้นเป็นพิเศษก็อย่าลองเลยครับ เจ็บตัวกันมาเยอะแล้ว ที่แนะนำแบบนี้เพราะเห็นว่าจะมีคันเดียวและใช้ยาว แถมผมว่า จขกท ยังไม่ค่อยเชี่ยวเรื่องกลไกเท่าไหร่เลยมาเตือนไว้ก่อนครับ แต่หากไม่ได้เป็นตามนี้ก็ขออภัยนะครับ
-
แคมรี่ไฮบริด หักส่วนลด 1.5 ล้านหน้าจะเอาอยู่ครับ คุ้มประหยัด
-
accord ครับ 0 ก็ดีด้วย(ถึงรถจะมีปัญหาบางแต่ 0 ก็โอเคอยู่) ส่วน Peugeot ถ้ารถเสียขึ้นมาไม่รู้อะไหล่จะหายากมั้ย
เห็นคนเชีบร์ Accord กับ Teana กันหลายคนเลยครับ แต่คำถามที่ผมติดใจคือ ถ้าในงบต่ำกว่า 1,500,000 มันจะยังดูดีเทียบเคียงกับตัว TOP ของพวกมันได้ไหมครับ หรือ.... ถ้าหากจะไปเอาตัว TOP ซึ่งก็าคากว่า 1,700,000 บาท เราไปซื้อ Volvo V40 T5 S หรือ Benz A180 จะดีกว่าไหมครับ หรือ....แม้กระทั้งไปเอาพวก Series 3 - 5 มือ 2 หรือแม้แต่ Passat CC มือ 2 ช่วงประมาณปี 2009 - 2012 จะดีกว่าหรือไม่ครับ?
นี่เป็นเพียงแค่ทัศนคติที่ผมติดค้างอยู่ในหัวเท่านั้นนะครับ ผมเองก็ไม่ไม่เคยรู้หรอกครับว่าไอ้พวกรถที่ผมกล่าวมาข้างบนมันจะสู้กันไหมได้ไหมครับ เห็นราคามันใกล้ๆกัน และก็เห็นผู้ใหญ่ของผมหลายคนไม่ลังเลที่จะซื้อรถยุโรปพวกนั้นมือ 2 เลยครับ แต่กลับไม่เคยจะเลือกรถยี่ปุ่นมือ 1 เลยครับ ถ้าราคามันเท่ากัน
ขอบคุณมากๆครับ
คือผมเห็น จขกท. บอกว่าใช้รถยาวๆอ่ะครับ ก็เลยแนะนำมือนึง ถ้ามือสองอยากให้มันอยู่ยาวต้องมีเงินซ่อมนิดนึง ผมว่าในราคาต่ำกว่า 1,500,000 มันก็ดูดีเหมือนตัวท๊อปแหละครับ(สำหรับคนส่วนมากที่ไม่รู้เรื่องรถ) คือจริงอยากแนะนำ Accord 2.0 el เงินที่เหลือเปลี่ยนไฟเป็นหลอด Xenon หรือ ไม่ก็รอดู Teana ครับ
ปล.แต่ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ ก็เอาพวก Series 3-5 มือสองก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ น่าสนใจมากๆครับ
ที่ผมถามก็เพราะว่าเห็นว่า Accord 2.0 ทั้ง 2 รุ่น(หรือแม้แต่ Camry, Teana ในรุ่นที่ราคาเท่าๆกัน) นั้น Options มันน้อยกว่าตัว TOP เอาเรื่องอยู่เลยครับ ทั้งเครื่องเสียง, Paddle Shift, Sunroof และระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ผมไม่ค่อยแคร์เรื่องหน้าตาที่มันต่างกันเล็กน้อยสักเท่าไหร่นัก แต่แคร์เรื่อง Options มากกว่าครับ(เพราะหน้าตา พอเราเข้ามานั่งข้างในเราก็ไม่เห็น) มันให้มาน้อยกว่ากันจน....... ผมตั้งคำถามว่าทำไมมันให้น้อยกว่า C-Segment รุ่น TOP ทั้งหลาย ทั้งๆที่แพงกว่าน่ะครับ
แล้วมันจะคุ้มไหมครับ
นิดนึงนะครับ ปรกติแล้วตัวผมเวลาซื้อรถไม่เคยมองรุ่นท๊อปก่อนเลยครับ เพราะส่วนมากออฟชั่นที่อัดมาแน่นๆนะ เป็นออฟชั่นหาเงินเข้ากระเป๋าของบริษัทรถทั้งนั้นนะครับ หากคนมีเงินเหลือกินใช้ หรือแคร์คนรอบข้างค่อนแคะว่าไม่มีปัญญาออกรุ่นท๊อป เพราะหลายๆครั้งเราแทบไม่มีโอกาสใช้มันเลยครับ ยกเว้นดูแล้วเราจะได้ใช้ออฟชั่นเหล่านั้นแน่ๆ ยกตัวอย่างเช่นผมอยากรู้จริงๆว่ารถที่มีซันรูฟนะ นอกจากไว้อวดแล้วเปิดกันบ่อยแค่ไหน คือเวลาเลือกรถ เลือกออฟชั่นอยากให้ดูว่าออฟชั่นนั้นเราจะได้ใช้ไหม แต่หากเป็นพวกออฟชั่นความปลอดภัยก็ควรจัดเต็มนะครับ ตัวอย่างชัดๆอีกอย่างเช่นคัมรี่ไฮบริดรุ่น dvd กับตัวท๊อป ราคาห่างกันเกือบสองแสนมั้ง (ขอโทษด้วยจำราคาไม่ได้จริงๆ) ได้เบาะหลังเอนได้กันเนวิเกเตอร์ เป็นผมๆเลือกตัวdvd เพราะเนวิเกเตอร์ติดกระจกเอาหรือไปเปลี่ยนวิทยุที่มีเนก็ได้ ส่วนเบาะหลังเอนได้ ก็แทบไม่ได้ใช้เพราะไม่ค่อยมีคนนั่ง สรุปว่าเลือกที่เราต้องการใช้จริงๆเถอะครับ ส่วนรถที่ จขกท ต้องการ หากเป็นรถยุโรปมือหนี่งก็ควรเป็นเบนซ์ บีเอ็ม หรือ วอลโว่ก็ได้ สองยี่ห้อหลังมีฟรีค่าบำรุงรักษา ก็ทุ่นไปได้เยอะ นอกจากนี้แล้วผมว่าก็เป็นโฟกัสนะ ออฟชั่นเยอะอย่างที่ต้องการ ศูนย์ก็พอมี ยุโรปมือสองก็ควรเป็นเบนซ์หรือบีเอ็มครับ อะไหล่หาง่าย ช่างหาไม่ยาก นอกนั้นหากไม่ได้เป็นคนที่พอรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไก หรือชอบยี่ห้อนั้นเป็นพิเศษก็อย่าลองเลยครับ เจ็บตัวกันมาเยอะแล้ว ที่แนะนำแบบนี้เพราะเห็นว่าจะมีคันเดียวและใช้ยาว แถมผมว่า จขกท ยังไม่ค่อยเชี่ยวเรื่องกลไกเท่าไหร่เลยมาเตือนไว้ก่อนครับ แต่หากไม่ได้เป็นตามนี้ก็ขออภัยนะครับ
ขอคุณในคำแนะนำมากๆครับ พอจะทำให้ผมตาสว่างขึ้นมาได้บ้างครับ อิอิ
เห็นว่าท่านแนะนำได้อย่างมีหลัการและเหตุผลน่าสนใจมากๆครับ เลยอยากจะถามอีกสักนิดครับ ว่าถ้าหากเป็นท่าน ท่านจะเลือกอะไรครับระหว่าง Accord, Teana, Camry ที่รุ่นราคาป้วนเปี้ยน 1,500,000 บาท กับ BMW Series 3-5 ปี 2009 - 2012 กับ Volkswagen Passat CC 2010 มือสองราคาใกล้ๆกันครับ
อ่อๆ D-Segment ตัวถังใหญ่ หนัก เครือง 2000 ไม่มี Turbo ในรถญี่ปุ่นทั้งหลาย มันจะอืดไหมครับ ถ้าเทียบกับ C-Segment แล้ว.... ทำไมถึงไม่เลือก C-Segment กันครับ ผมว่ามันน่าจะคล่องตัวกว่า? แต่ถ้า D-Segment เครื่อง 2.4 - 3.5 อันนี้ผมเข้าใจครับว่ามันแรงดูดีเชียว แต่ว่าราคามันก็เอาเรื่องอยู่เนาะ เพราะพี่ชายขับ Camry Hybrid อยู่ครับผม
ทำไมถึงเลือก ดี-ด้อย ความคุ้มค่า ต่างกันอย่างไรครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับผม :)
-
1.5 ล้านนี่ ตึงงบหรือยังครับ?
ถ้าตึงแล้ว ญี่ปุ่นป้ายแดง D seg เถอะครับ
รถยุโรปมือสอง ซื้อมายังไงก็ต้องเตรียมค่าซ่อมเผื่อไว้ครับ 1-2 แสนต้องมี (เปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งคัน, ยาง, ช่วงล่าง ถ้าเกิน 5 ปี ก็มีสายพาน timing ลูกรอก, สายพายแอร์, etc) หากโชคไม่ดีอาจไหลไปอีก (ถ้าคุณโชคดี ก็เหลือเงินเก็บไงครับ อิ..อิ..)
ถ้าไม่ได้จะมีครอบครัว ไม่ได้ต้องใช้รถขนาดใหญ่ C ยุโรป ก็จะคล่องตัวกว่า D ญี่ปุ่น แต่ขับทางไกลแบบ 200 km ขึ้นไปผมชอบ D ญี่ปุ่นมากกว่า
ความคุ้มค่ามีหลายแง่มุม ทั้งแบบเหตุผลและความคุ้มค่าทางอารมณ์ อันนี้แล้วแต่ตัวคุณครับ
เท่าที่อ่านดู เดาว่าเหมือนอยากใช้รถยุโรปมือสองมากกว่า (ถ้าผิดขออภัยครับ) และถ้างบเต็มที่ที่ 1.5 ล้าน แนะนำให้หายุโรปที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านครับ
ประเด็นสำคัญอันนึงคือค่าบำรุงรักษาครับ ค่าตัวรถที่สูงกว่า อะไหล่อะไรก็จะแพงกว่าเป็นธรรมดา จะใช้รถยุโรปอย่าลืมพิจารณาตรงนี้ด้วยครับ
คงเคยได้ยินคนใช้ benz อายุเกิน 10 ปี อย่าง W124 พูดว่า อะไหล่ หาง่าย ราคาไม่แพง จริงครับ แต่คงได้ยินคนบ่น W203 ปีแรกๆเช่นกันว่าอะไหล่แพง และจุกจิก
ปล. ญี่ปุ่น หรือยุโรป maintenance ดีๆ ก็ใช้ได้เกิน 10 ปีทั้งนั้นแหละครับ
-
ในงบประมาณนี้ หากไม่ได้ต้องการคันใหญ่มากผมเลือกBMW 320d e90 รุ่นไมเนอร์เชนแล้ว แรงประหยัด คล่องตัว ภาพลักษณ์ดีเยี่ยม อาจต้องใช้ระยะเวลาหาสักนิดนะครับ เพราะรถดีๆจะไปไวมาก
-
1.5 ล้านนี่ ตึงงบหรือยังครับ?
ถ้าตึงแล้ว ญี่ปุ่นป้ายแดง D seg เถอะครับ
รถยุโรปมือสอง ซื้อมายังไงก็ต้องเตรียมค่าซ่อมเผื่อไว้ครับ 1-2 แสนต้องมี (เปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งคัน, ยาง, ช่วงล่าง ถ้าเกิน 5 ปี ก็มีสายพาน timing ลูกรอก, สายพายแอร์, etc) หากโชคไม่ดีอาจไหลไปอีก (ถ้าคุณโชคดี ก็เหลือเงินเก็บไงครับ อิ..อิ..)
ถ้าไม่ได้จะมีครอบครัว ไม่ได้ต้องใช้รถขนาดใหญ่ C ยุโรป ก็จะคล่องตัวกว่า D ญี่ปุ่น แต่ขับทางไกลแบบ 200 km ขึ้นไปผมชอบ D ญี่ปุ่นมากกว่า
ความคุ้มค่ามีหลายแง่มุม ทั้งแบบเหตุผลและความคุ้มค่าทางอารมณ์ อันนี้แล้วแต่ตัวคุณครับ
เท่าที่อ่านดู เดาว่าเหมือนอยากใช้รถยุโรปมือสองมากกว่า (ถ้าผิดขออภัยครับ) และถ้างบเต็มที่ที่ 1.5 ล้าน แนะนำให้หายุโรปที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านครับ
ประเด็นสำคัญอันนึงคือค่าบำรุงรักษาครับ ค่าตัวรถที่สูงกว่า อะไหล่อะไรก็จะแพงกว่าเป็นธรรมดา จะใช้รถยุโรปอย่าลืมพิจารณาตรงนี้ด้วยครับ
คงเคยได้ยินคนใช้ benz อายุเกิน 10 ปี อย่าง W124 พูดว่า อะไหล่ หาง่าย ราคาไม่แพง จริงครับ แต่คงได้ยินคนบ่น W203 ปีแรกๆเช่นกันว่าอะไหล่แพง และจุกจิก
ปล. ญี่ปุ่น หรือยุโรป maintenance ดีๆ ก็ใช้ได้เกิน 10 ปีทั้งนั้นแหละครับ
1.5 ล้าน ยังไม่ตึงครับ จริงๆมี 2 ล้าน แต่... ไม่อยากจ่ายขนาดนั้นครับ 1.7 -1.8 ก็ยังคิดหนักหัวแทบแตกแล้วครับ อิอิ แอบงก แหะๆ
เดาไม่ผิดครับ ผมออกตัวเลยว่าอยากได้รถยุโรปมากกว่าญี่ปุ่นแน่นอนครับ เพราะ
1. ผมเห็น Spec ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว(ราคาก็ต่างกันเช่นกันครับ ถึงถามหามือ 2 ไงครับ)
2. ถ้าใกล้ๆกันก็ Volvo V40 T5 S 1.78 ล้าน พอ Accord กับ Teana ตัว TOP เลย ตาม Logic ของผมแล้วมันควรที่ทุกคนจะมุ่งไปหา V40 แต่... ทำไมมันตรงกันข้าม? อันนี้ทำให้ลังเลครับ
3. ผมเห็นรถ Benz, BM เก่าๆเป็น 15 ปี ยังแข็งแรงอยู่เยอะแยะ แต่... รถญี่ปุ่น 10 ปีขึ้นยังแข็งแรงอยู่นี่..... อืม.... ไม่ค่อยเห็นนะครับ(15 ปีขึ้นไป ญี่ปุ่นนี่กระจกน่าจะยังเป็นหมุนมืออยู่มั้งครับ แต่ Benz นี่เค้าไฟฟ้าทั้งคัน และก็ยังใช้ได้อยู่)
จะเห็นได้ว่าตอนนี้เหตุผลทุกอย่างมันขัดแย้งอยู่ในหัวของผมไปหมดครับ เพราะผมไม่เห็นว่ารถญี่ปุ่นมันจะดีกว่าตรงไหน ยกเว้นราคาและการที่มันมีศูนย์เยอะ แต่ทำไมถึงยังถึงมีคนซื้อใช้มากมายนัก หรือ... ถ้ารถญี่ปุ่นมันดีจริงแถมราคาถูก ทำไมรถยุโรป(ที่ไม่ใช่ Benz, BM)ถึงยังขายได้และมีคนบางกลุ่มที่ยอมซื้อรถยุโรปมือสอง ถึงแม้ว่าทุกๆท่านจะบอกว่าถ้าเสียขึ้นมากลางทางจะทำไง? ถ้าไม่มีศูนย์จะทำไง? คือ...มันจะเสียอะไรง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ รถราคาเป็นล้านๆ แล้วถ้ามันแย่ขนาดนั้นทำไมมันถึงยังอยู่ได้ครับ?
ทั้งหมดนี้ มันจึงเกิดคำถามเหล่านี้ขึ้นมาครับผม อย่าพึ่งรำคาญผมนะครับ แหะๆ ;D
ขอบคุณครับผม
-
ในงบประมาณนี้ หากไม่ได้ต้องการคันใหญ่มากผมเลือกBMW 320d e90 รุ่นไมเนอร์เชนแล้ว แรงประหยัด คล่องตัว ภาพลักษณ์ดีเยี่ยม อาจต้องใช้ระยะเวลาหาสักนิดนะครับ เพราะรถดีๆจะไปไวมาก
มันกำลังอยู่ในใจผมเลยครับตอนนี้ แหะๆ
-
ฐานะ คนขายอะไหล่รถนะครับ
รถญี่ปุ่น ใช้งาน 12 ปี มีเยอะมาก ถ้าดูแลดีๆ การซ่อมบำรุงมีแค่เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ตามระยะทางเท่านั้น เรื่องซ่อมหนักๆนั้น ไม่มีครับ
ตัวอย่าง รถแท็กซี่นี่แหละ
ขับต่างจังหวัดบ่อยๆ แนะนำดูเรื่องศูนย์บริการ และอู่ข้างนอกด้วยครับ เผื่อฉุกเฉิน เปอร์โย ศูนย์น้อยกว่าฟอร์ด แน่ๆครับ
รถยุโรป ศูนย์เยอะก็ต้อง เบนซ์ บีเอ็ม ผมว่า มากกว่า วอลโว่ (ศูนย์แท้ๆนะ) ถ้าเป็นอู่ ผมให้เบนซ์ ตามด้วยบีเอ็มครับ
ถ้าคิดใช้รถนานเป็น 10 ปี ผมว่าใจเย็นๆ รออีกนิดนึง
ปีหน้าถึงกลางปี ได้เห็น Mazda6 ด้วยนะ ช่วงล่างคิดว่า น่าจะขับสนุก ตามสไตล์ แถมมีตัวเลือกให้เลือกเยอะ Accord Teana Camry CX5
ความคิดเห็นส่วนตัวผม
ถ้านั่งแค่ 2 คน ไม่สนว่าภายในจะเล็กกระชับเกินไป 116i อยู่ในใจผมนี่แหละ บำรุงรักษา 5ปีแสนโล แถม ตัวนี้เป็นตัวนำเข้าด้วย (ล็อตต่อไปประกอบไทย) งานค่อนข้างโอเค ใช้ได้จนมีลูก 10ขวบเลยล่ะ (เผื่อค่าบำรุงรักษา หลังจากแสนโลละกัน ^_^ )
แต่ถ้าไม่อยากเสียค่าบำรุงรักษาเยอะ ไปลองรถญี่ปุ่นเลยครับ แน่นอนสุด อะไหล่นอกศูนย์เยอะ (ปัจจัยที่เขาบอกกันว่า อะไหล่ถูก)
ที่สำคัญถ้ารีบแต่ไม่มาก รองานเทศกาลขายรถปลายปี โปรฯตรึมแน่ๆเลย 555+
ส่วนตัว ผมไม่อยากให้เล่นมือ2 มันเสียเวลาในการซ่อมบำรุงรักษา (เวลารถเข้าอู่อ่ะ)
-
เป็นผม ผมเลือกรถใหม่อะครับ
408 ขับดีกว่า ปลายไหลกว่า เร่งติดเท้ากว่า หนักแน่นกว่า
คำถามคือ ขั้นกว่าทั้งหมด กว่าแค่ไหน
เทียบกับรถบ้านๆนะ อัลติส 1.6 ซีวิค 1.8 รถพวกนี้ไม่ได้ขี้เหร่เลย
แต่ได้ความไว้วางใจ นอนบ้านไป 6-7 ปี ไม่ต้องนั่งหัวเสียวิ่งหาอะไหล่ หาอู่
บางคน ขับ 960 W124 หรือ E39 อยู่ดีๆ
ปัจจุบัน ขับเทียน่า ขับแคมรี่ ขับแอคคอร์ดกันเพียบครับ
ถ้าไม่คิดไรมาก รถบ้านแดง แอคคอร์ด 2.0 ก็ได้ วิ่งสบายๆหายห่วง
โอเค เทียบๆกันแล้ว 408 ขับดีกว่า แน่นกว่า เล่นโค้งมันส์กว่า แต่จะกว่าซัีกแค่ไหน
รถใหม่ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ ยกเว้นชอบรถเก่าจริงๆ อันนี้ก็เป็นข้อยกเว้น
-
1.5 ล้านนี่ ตึงงบหรือยังครับ?
ถ้าตึงแล้ว ญี่ปุ่นป้ายแดง D seg เถอะครับ
รถยุโรปมือสอง ซื้อมายังไงก็ต้องเตรียมค่าซ่อมเผื่อไว้ครับ 1-2 แสนต้องมี (เปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งคัน, ยาง, ช่วงล่าง ถ้าเกิน 5 ปี ก็มีสายพาน timing ลูกรอก, สายพายแอร์, etc) หากโชคไม่ดีอาจไหลไปอีก (ถ้าคุณโชคดี ก็เหลือเงินเก็บไงครับ อิ..อิ..)
ถ้าไม่ได้จะมีครอบครัว ไม่ได้ต้องใช้รถขนาดใหญ่ C ยุโรป ก็จะคล่องตัวกว่า D ญี่ปุ่น แต่ขับทางไกลแบบ 200 km ขึ้นไปผมชอบ D ญี่ปุ่นมากกว่า
ความคุ้มค่ามีหลายแง่มุม ทั้งแบบเหตุผลและความคุ้มค่าทางอารมณ์ อันนี้แล้วแต่ตัวคุณครับ
เท่าที่อ่านดู เดาว่าเหมือนอยากใช้รถยุโรปมือสองมากกว่า (ถ้าผิดขออภัยครับ) และถ้างบเต็มที่ที่ 1.5 ล้าน แนะนำให้หายุโรปที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านครับ
ประเด็นสำคัญอันนึงคือค่าบำรุงรักษาครับ ค่าตัวรถที่สูงกว่า อะไหล่อะไรก็จะแพงกว่าเป็นธรรมดา จะใช้รถยุโรปอย่าลืมพิจารณาตรงนี้ด้วยครับ
คงเคยได้ยินคนใช้ benz อายุเกิน 10 ปี อย่าง W124 พูดว่า อะไหล่ หาง่าย ราคาไม่แพง จริงครับ แต่คงได้ยินคนบ่น W203 ปีแรกๆเช่นกันว่าอะไหล่แพง และจุกจิก
ปล. ญี่ปุ่น หรือยุโรป maintenance ดีๆ ก็ใช้ได้เกิน 10 ปีทั้งนั้นแหละครับ
1.5 ล้าน ยังไม่ตึงครับ จริงๆมี 2 ล้าน แต่... ไม่อยากจ่ายขนาดนั้นครับ 1.7 -1.8 ก็ยังคิดหนักหัวแทบแตกแล้วครับ อิอิ แอบงก แหะๆ
เดาไม่ผิดครับ ผมออกตัวเลยว่าอยากได้รถยุโรปมากกว่าญี่ปุ่นแน่นอนครับ เพราะ
1. ผมเห็น Spec ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว(ราคาก็ต่างกันเช่นกันครับ ถึงถามหามือ 2 ไงครับ)
2. ถ้าใกล้ๆกันก็ Volvo V40 T5 S 1.78 ล้าน พอ Accord กับ Teana ตัว TOP เลย ตาม Logic ของผมแล้วมันควรที่ทุกคนจะมุ่งไปหา V40 แต่... ทำไมมันตรงกันข้าม? อันนี้ทำให้ลังเลครับ
3. ผมเห็นรถ Benz, BM เก่าๆเป็น 15 ปี ยังแข็งแรงอยู่เยอะแยะ แต่... รถญี่ปุ่น 10 ปีขึ้นยังแข็งแรงอยู่นี่..... อืม.... ไม่ค่อยเห็นนะครับ(15 ปีขึ้นไป ญี่ปุ่นนี่กระจกน่าจะยังเป็นหมุนมืออยู่มั้งครับ แต่ Benz นี่เค้าไฟฟ้าทั้งคัน และก็ยังใช้ได้อยู่)
จะเห็นได้ว่าตอนนี้เหตุผลทุกอย่างมันขัดแย้งอยู่ในหัวของผมไปหมดครับ เพราะผมไม่เห็นว่ารถญี่ปุ่นมันจะดีกว่าตรงไหน ยกเว้นราคาและการที่มันมีศูนย์เยอะ แต่ทำไมถึงยังถึงมีคนซื้อใช้มากมายนัก หรือ... ถ้ารถญี่ปุ่นมันดีจริงแถมราคาถูก ทำไมรถยุโรป(ที่ไม่ใช่ Benz, BM)ถึงยังขายได้และมีคนบางกลุ่มที่ยอมซื้อรถยุโรปมือสอง ถึงแม้ว่าทุกๆท่านจะบอกว่าถ้าเสียขึ้นมากลางทางจะทำไง? ถ้าไม่มีศูนย์จะทำไง? คือ...มันจะเสียอะไรง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ รถราคาเป็นล้านๆ แล้วถ้ามันแย่ขนาดนั้นทำไมมันถึงยังอยู่ได้ครับ?
ทั้งหมดนี้ มันจึงเกิดคำถามเหล่านี้ขึ้นมาครับผม อย่าพึ่งรำคาญผมนะครับ แหะๆ ;D
ขอบคุณครับผม
1) ถ้าเอาราคาปัจจุบันมาดู โดยไม่คำนึงถึงขนาดรถ ก็จะเป็นอย่างที่คุณว่ามาครับ ยุโรปมือหนึ่ง size เล็ก จะได้ option จัดเต็ม กว่าพวก D ญี่ปุ่นบางเจ้า
2) ขนาดรถต่างกันเยอะครับ ถ้าเป็นรถครอบครัว มีงบประมาณนี้ ป้ายแดง D ญี่่ปุ่น หรือมือสองยุโรปครับ (ในรถที่ size/seg เดียวกัน)
3) ลองดูซูบารุหรือ lexus อย่าง es300, Aristo ที่อายุเกิน 10 ปีหรือยังครับ?
ไม่ใช่จะบอกว่ายุโรปหรือญี่ปุ่น อันไหนดีกว่านะครับ แต่อยากให้เอารถที่ราคาตอนออกป้ายแดงใกล้ๆกัน class เดียวกันมาเทียบกันมากกว่า จะได้ภาพที่ชัดเจน
เช่น series 3 ต้องเทียบกับ Lexus IS อะไรอย่างนี้
ชอบยุโรปไปยุโรปครับ ซื้อรถที่เราขับแล้วมีความสุข จากงบที่บอก ไป 320D E90 ครับ ถ้าได้ตัว minor sport version จะจบมากครับ แรง ขับดีมาก ประหยัดน้ำมันดี ถ้าวิ่งทางไกล
-
งบประมาณนี้ลองดูpriusตัวท๊อปดูครับ อาจจะมีเหลือเก็บหรือค่าmaintenance ประจำรอบการเปลี่ยนอะไหล่ก้อได้ ส่วนเรื่องประหยัดนี่ก้อไม่เป็นสองรองใคร ลองเสนอดูครับ
-
ผมคิดว่าถ้าไม่กลัวเรื่องศูนย์น้อย ราคาขายต่อน้อย ใช้นาน ๆ จนเก่าเฒ่าโดยไม่ค่อยกังวลเรื่องค่าบำรุงรักษามากกว่ารถญี่ปุ่นหน่อย อีกอย่างต้องไปลองขับลองนั่งดูครับ ถ้าทั้งหมดพอใจแล้วก็จัดไปเลยครับ ลองชขับคันอื่นด้วยนะครับ อาจจะติดใจเครื่องเทอร์โบก็เป็นไปได้นะครับ อิอิ
-
งบประมาณนี้ลองดูpriusตัวท๊อปดูครับ อาจจะมีเหลือเก็บหรือค่าmaintenance ประจำรอบการเปลี่ยนอะไหล่ก้อได้ ส่วนเรื่องประหยัดนี่ก้อไม่เป็นสองรองใคร ลองเสนอดูครับ
Pirus เป็นตัวนึงที่ผมเคยสนใจมากๆเลยครับ ทั้งเคยลองขับ ทั้งเห็นอัตราการประหยัดน้ำมันของมัน แต่... ผมไม่ปลื้มกับนิสัยรถญี่ปุ่นอยู่อย่างนึง คือชอบตกแต่งภายในด้วยของบอบบาง เกรดต่ำ คือ...รถราคาล้านสามลองเคาะหรือกดที่บุประตูด้านในรวมไปถึงคอนโซลดูเหอะครับ มันไม่สมกับเงินที่จ่ายไปเลย แต่รถยุโรปส่วนใหญ่กดแล้วแน่นไม่ยุบ เคาะดังปังๆแน่นหนา มันคงเหมือนคนไปซื้อน็อทมาขันติดรถ น็อทก็มีตั้งแต่ตัวละไม่ถึง 5 บาท ยันตัวละเป็นร้อย แน่นอนว่ามันขันยึดได้เหมือนกัน แต่ทำไมราคามันต่างกันมากมายนัก ก็ต้องเป็นเพราะความทนทานและแข็งแรงที่ต่างกัน แต่มันจะวัดค่ากันไม่ได้เลยถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรที่จะมาทดสอบความแข็งแรงของมันเลย จริงไหมครับ? ผมวัดค่าความคุ้มค่าของสินค้าจากปัจจัยพวกนี้แหละครับ
และอีกอย่างนึกที่ทำให้ผมคิดถึงความคุ้มค่าของราคารถยุโรปเลยก็คือข่าวที่ไม่นานมานี้มีรถเบนส์เก่าคันนึงขับตกทางด่วน รถหน้าพังแต่คนขับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ผมว่านี่คือความแตกต่างของเงินที่เสียไปอย่างมีนัยยะสำคัญเลยนะครับ
-
ผมคิดว่าถ้าไม่กลัวเรื่องศูนย์น้อย ราคาขายต่อน้อย ใช้นาน ๆ จนเก่าเฒ่าโดยไม่ค่อยกังวลเรื่องค่าบำรุงรักษามากกว่ารถญี่ปุ่นหน่อย อีกอย่างต้องไปลองขับลองนั่งดูครับ ถ้าทั้งหมดพอใจแล้วก็จัดไปเลยครับ ลองชขับคันอื่นด้วยนะครับ อาจจะติดใจเครื่องเทอร์โบก็เป็นไปได้นะครับ อิอิ
ผมชอบเครื่อง Turbo ครับ ผมไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ชอบใส่ Turbo มากับรถ ทั้งๆที่มันแพง แม้แต่ Lexus รุ่นแพงๆก็ไม่ใส่ ไปเลือกทำเครื่องกระบอกสูปใหญ่ๆแทน กว่าม้าจะถึงจุดสูงสุดรอบก็ปาเข้าไป 6000 แล้ว มันก็กินน้ำมันสิครับ(หรีอไม่กินหว่า?) ส่วนรถยุโรปนี่คันไหนก็ติด Turbo ซะเป็นส่วนใหญ่ทั้งนั้น รอบ 1500 - 2000 ม้าก็มาเต็มๆละ มันดี/ไม่ดี ต่างกันยังไงครับ อยากจะได้เป็นวิทยาทานจังเลยครับ ทำไมคนจาก 2 ทวีปถถึงคิดต่างกันเช่นนี้ครับ
-
1.5 ล้าน ยังไม่ตึงครับ จริงๆมี 2 ล้าน แต่... ไม่อยากจ่ายขนาดนั้นครับ 1.7 -1.8 ก็ยังคิดหนักหัวแทบแตกแล้วครับ อิอิ แอบงก แหะๆ
เดาไม่ผิดครับ ผมออกตัวเลยว่าอยากได้รถยุโรปมากกว่าญี่ปุ่นแน่นอนครับ เพราะ
1. ผมเห็น Spec ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว(ราคาก็ต่างกันเช่นกันครับ ถึงถามหามือ 2 ไงครับ)
2. ถ้าใกล้ๆกันก็ Volvo V40 T5 S 1.78 ล้าน พอ Accord กับ Teana ตัว TOP เลย ตาม Logic ของผมแล้วมันควรที่ทุกคนจะมุ่งไปหา V40 แต่... ทำไมมันตรงกันข้าม? อันนี้ทำให้ลังเลครับ
3. ผมเห็นรถ Benz, BM เก่าๆเป็น 15 ปี ยังแข็งแรงอยู่เยอะแยะ แต่... รถญี่ปุ่น 10 ปีขึ้นยังแข็งแรงอยู่นี่..... อืม.... ไม่ค่อยเห็นนะครับ(15 ปีขึ้นไป ญี่ปุ่นนี่กระจกน่าจะยังเป็นหมุนมืออยู่มั้งครับ แต่ Benz นี่เค้าไฟฟ้าทั้งคัน และก็ยังใช้ได้อยู่)
จะเห็นได้ว่าตอนนี้เหตุผลทุกอย่างมันขัดแย้งอยู่ในหัวของผมไปหมดครับ เพราะผมไม่เห็นว่ารถญี่ปุ่นมันจะดีกว่าตรงไหน ยกเว้นราคาและการที่มันมีศูนย์เยอะ แต่ทำไมถึงยังถึงมีคนซื้อใช้มากมายนัก หรือ... ถ้ารถญี่ปุ่นมันดีจริงแถมราคาถูก ทำไมรถยุโรป(ที่ไม่ใช่ Benz, BM)ถึงยังขายได้และมีคนบางกลุ่มที่ยอมซื้อรถยุโรปมือสอง ถึงแม้ว่าทุกๆท่านจะบอกว่าถ้าเสียขึ้นมากลางทางจะทำไง? ถ้าไม่มีศูนย์จะทำไง? คือ...มันจะเสียอะไรง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ รถราคาเป็นล้านๆ แล้วถ้ามันแย่ขนาดนั้นทำไมมันถึงยังอยู่ได้ครับ?
ทั้งหมดนี้ มันจึงเกิดคำถามเหล่านี้ขึ้นมาครับผม อย่าพึ่งรำคาญผมนะครับ แหะๆ ;D
ขอบคุณครับผม
รถญี่ปุ่นเกิน10ปีสภาพดีก็มีอยู่เยอะครับ จริงๆแล้ว40ปีที่แล้วโตโยต้าคราวก็มีกระจกไฟฟ้าแล้วนะครับ หรือ20ปีที่แล้วโตโยต้าโคโรน่าก็มีกระจกไฟฟ้าแล้ว
ถ้ามีตังซ่อมอะไรมันก็ใช้ได้ทั้งนั้นหละครับ ไม่เกี่ยวว่าเป็นญี่ปุ่น หรือ ยุโรป
ส่วนเรื่องที่รถญี่ปุ่นที่บอกว่ามีดีกว่าแค่รถญี่ปุ่นแ่ค่ราคา กับ ศูนย์บริการ จริงๆไม่ได้มีแค่นั้น จากรีวิวพี่จิมมี่ก็บอกอยู่ว่า Benz W212 E200 CGi ในช่วงความเร็วสูง
จำไม่ได้ว่าในช่วงความเร็ว 160-170 ยังไงนี่ ช่วงล่างไม่ได้ดีเท่าแอคคอด หรือ เทียน่า ซึ่งผมไม่เคยลองแอคคอท หรือ เทียน่า แต่ได้ลอง E200 CGI แล้ว
ไม่ชอบในช่วงล่าง รู้สึกว่ามันแย่กว่ารุ่นก่อนของE-Classจริงๆ แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่ารถญี่ปุ่นD-Segmentมันดีกว่ารถยุโรปอย่างbenz หรือ bmw
อยากให้มองว่ารถมันมีข้อดี และ ข้อเสียในตัวมันเอง แล้วhonda toyota nissan ไรพวกนี้มันก็อยู่คนละระดับกับ benz bmw
หรือถ้าจะให้เทียบต้องเทียบกับ lexus acura infiniti ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ benz และ bmw
ส่วนรถมือสองยุโรปมันคุ้มค่าครับ แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนเล่นรถ ศึกษารถ มันก็ไม่เหมาะ เพราะถ้าคุณเอารถเข้าศูนย์อย่างเดียวราคามันก็แพง ค่าซ่อมมันแพง
แต่ถ้าซ่อมอู่นอกก็คงโดนช่างฟันหัวแบะ เพราะความไม่รู้(มันมีโอกาสที่จะเกิด)
ส่วนตัวผม ใ้ช้ทั้งรถยุโรปและญี่ปุ่น ผมมองว่าถ้าเทียบราคามือสองรถยุโรปมือสองคุ้มค่ากว่ามือหนึ่งญี่ปุ่น แต่คุณต้องเอาใจใส่ในรถมากกว่า
เพราะยิ่งรถออพชั่นดีออพชั่นเยอะ พอถึงเวลามันก็จะเสียพร้อมๆกัน และมันก็จะจุกจิกเดี๋ยวนี่เสีย เดี๋ยวนู่นเสีย คนก็เลยเบื่อรถยุโรปกัน
เอาจริงผมว่าแคมรี่ ไฮบริด พอรถเกิน10ปีเดี๋ยวมันก็จุกจิกเหมือนกันแหละ
ถ้าผมเป็นคุณผมเลือกรถใหม่ป้ายแดงดีกว่า เพราะเป็นรถคันเดียว ไม่อยากให้เสีย รถใหม่โอกาสเสียน้อย ถ้าจะเล่นยุโรปมือสองค่อยให้เป็นรถคันที่สองของบ้านจะดีกว่า
-
1.5 ล้าน ยังไม่ตึงครับ จริงๆมี 2 ล้าน แต่... ไม่อยากจ่ายขนาดนั้นครับ 1.7 -1.8 ก็ยังคิดหนักหัวแทบแตกแล้วครับ อิอิ แอบงก แหะๆ
เดาไม่ผิดครับ ผมออกตัวเลยว่าอยากได้รถยุโรปมากกว่าญี่ปุ่นแน่นอนครับ เพราะ
1. ผมเห็น Spec ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว(ราคาก็ต่างกันเช่นกันครับ ถึงถามหามือ 2 ไงครับ)
2. ถ้าใกล้ๆกันก็ Volvo V40 T5 S 1.78 ล้าน พอ Accord กับ Teana ตัว TOP เลย ตาม Logic ของผมแล้วมันควรที่ทุกคนจะมุ่งไปหา V40 แต่... ทำไมมันตรงกันข้าม? อันนี้ทำให้ลังเลครับ
3. ผมเห็นรถ Benz, BM เก่าๆเป็น 15 ปี ยังแข็งแรงอยู่เยอะแยะ แต่... รถญี่ปุ่น 10 ปีขึ้นยังแข็งแรงอยู่นี่..... อืม.... ไม่ค่อยเห็นนะครับ(15 ปีขึ้นไป ญี่ปุ่นนี่กระจกน่าจะยังเป็นหมุนมืออยู่มั้งครับ แต่ Benz นี่เค้าไฟฟ้าทั้งคัน และก็ยังใช้ได้อยู่)
จะเห็นได้ว่าตอนนี้เหตุผลทุกอย่างมันขัดแย้งอยู่ในหัวของผมไปหมดครับ เพราะผมไม่เห็นว่ารถญี่ปุ่นมันจะดีกว่าตรงไหน ยกเว้นราคาและการที่มันมีศูนย์เยอะ แต่ทำไมถึงยังถึงมีคนซื้อใช้มากมายนัก หรือ... ถ้ารถญี่ปุ่นมันดีจริงแถมราคาถูก ทำไมรถยุโรป(ที่ไม่ใช่ Benz, BM)ถึงยังขายได้และมีคนบางกลุ่มที่ยอมซื้อรถยุโรปมือสอง ถึงแม้ว่าทุกๆท่านจะบอกว่าถ้าเสียขึ้นมากลางทางจะทำไง? ถ้าไม่มีศูนย์จะทำไง? คือ...มันจะเสียอะไรง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ รถราคาเป็นล้านๆ แล้วถ้ามันแย่ขนาดนั้นทำไมมันถึงยังอยู่ได้ครับ?
ทั้งหมดนี้ มันจึงเกิดคำถามเหล่านี้ขึ้นมาครับผม อย่าพึ่งรำคาญผมนะครับ แหะๆ ;D
ขอบคุณครับผม
รถญี่ปุ่นเกิน10ปีสภาพดีก็มีอยู่เยอะครับ จริงๆแล้ว40ปีที่แล้วโตโยต้าคราวก็มีกระจกไฟฟ้าแล้วนะครับ หรือ20ปีที่แล้วโตโยต้าโคโรน่าก็มีกระจกไฟฟ้าแล้ว
ถ้ามีตังซ่อมอะไรมันก็ใช้ได้ทั้งนั้นหละครับ ไม่เกี่ยวว่าเป็นญี่ปุ่น หรือ ยุโรป
ส่วนเรื่องที่รถญี่ปุ่นที่บอกว่ามีดีกว่าแค่รถญี่ปุ่นแ่ค่ราคา กับ ศูนย์บริการ จริงๆไม่ได้มีแค่นั้น จากรีวิวพี่จิมมี่ก็บอกอยู่ว่า Benz W212 E200 CGi ในช่วงความเร็วสูง
จำไม่ได้ว่าในช่วงความเร็ว 160-170 ยังไงนี่ ช่วงล่างไม่ได้ดีเท่าแอคคอด หรือ เทียน่า ซึ่งผมไม่เคยลองแอคคอท หรือ เทียน่า แต่ได้ลอง E200 CGI แล้ว
ไม่ชอบในช่วงล่าง รู้สึกว่ามันแย่กว่ารุ่นก่อนของE-Classจริงๆ แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่ารถญี่ปุ่นD-Segmentมันดีกว่ารถยุโรปอย่างbenz หรือ bmw
อยากให้มองว่ารถมันมีข้อดี และ ข้อเสียในตัวมันเอง แล้วhonda toyota nissan ไรพวกนี้มันก็อยู่คนละระดับกับ benz bmw
หรือถ้าจะให้เทียบต้องเทียบกับ lexus acura infiniti ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ benz และ bmw
ส่วนรถมือสองยุโรปมันคุ้มค่าครับ แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนเล่นรถ ศึกษารถ มันก็ไม่เหมาะ เพราะถ้าคุณเอารถเข้าศูนย์อย่างเดียวราคามันก็แพง ค่าซ่อมมันแพง
แต่ถ้าซ่อมอู่นอกก็คงโดนช่างฟันหัวแบะ เพราะความไม่รู้(มันมีโอกาสที่จะเกิด)
ส่วนตัวผม ใ้ช้ทั้งรถยุโรปและญี่ปุ่น ผมมองว่าถ้าเทียบราคามือสองรถยุโรปมือสองคุ้มค่ากว่ามือหนึ่งญี่ปุ่น แต่คุณต้องเอาใจใส่ในรถมากกว่า
เพราะยิ่งรถออพชั่นดีออพชั่นเยอะ พอถึงเวลามันก็จะเสียพร้อมๆกัน และมันก็จะจุกจิกเดี๋ยวนี่เสีย เดี๋ยวนู่นเสีย คนก็เลยเบื่อรถยุโรปกัน
เอาจริงผมว่าแคมรี่ ไฮบริด พอรถเกิน10ปีเดี๋ยวมันก็จุกจิกเหมือนกันแหละ
ถ้าผมเป็นคุณผมเลือกรถใหม่ป้ายแดงดีกว่า เพราะเป็นรถคันเดียว ไม่อยากให้เสีย รถใหม่โอกาสเสียน้อย ถ้าจะเล่นยุโรปมือสองค่อยให้เป็นรถคันที่สองของบ้านจะดีกว่า
ขอบคุณมากๆครับผม เห็นด้วยครับ
ดังนั้นถ้าผมจะเล่นรถยุโรปมือ 2 ผมควรจะไปหัดซ่อมรถสินะครับ อิอิ ถ้ามีจริงๆก็คงต้องหัดจริงๆแหละไม่ว่าจะเป็นณี่ปุ่นหรือยุโรป มันก็ไม่น่ายากเนอะครับ ;D
-
2. เดินทางทางไกลบ่อย บ่อยมากๆ
5. ผมไม่ใช่คนศึกษาเรื่องรถ แต่เป็นคนชอบขับรถครับ
6. ผมเป็นพวก Hi-Tech ชอบอะไรล้ำๆ
3ข้อนี้คนส่วนใหญ่เลยแนะนำรถญี่ปุ่นD-segment เพราะกลัวคุณเอารถยุโรปไปต่างจังหวัดละตายกลางทางนี่แหละครับ รถวิ่งเยอะ,ออพชั่นเยอะก็พังบ่อย
แต่ถ้าคุณซ่อมเองเป็น (แบบพื้นฐานทั่วไป) เรื่องพวกนี้ก็หมดห่วงครับ
ขอให้ได้รถที่ถูกใจนะครับ
-
เคยลองขับเจ้า 408 Turbo หรือยังหล่ะครับ? ถ้ายังไปลองขับก่อน แล้วไปลองขับรถรุ่นอื่นๆเปรียบเทียบแล้วจะค้นพบอะไรบางอย่างเอง
ผมเองเคยเล่นเปอโยต์ทั้ง 305 - 405 มา ได้ลองเจ้า 408Turbo แล้วด้วย จะบอกว่ามันเซ็ทติ้งมาห่วยลงอย่างเห็นได้ชัด
และ 1.6Turbo ของมันก็ไม่ได้มีแรงดึงอะไรมากมายเลยครับ นั่งสามคนกดเต็มมันยังไม่ค่อยจะยอมไปเลยด้วยซ้ำ
ไปลองก่อน ไปเจอของจริงก่อน แล้วค่อยคิดว่าอะไรน่าสนใจที่สุดอีกที
ผมว่า วอลโว เครื่อง 1.6Turbo ขับมันส์กว่ามากครับ
-
เคยลองขับเจ้า 408 Turbo หรือยังหล่ะครับ? ถ้ายังไปลองขับก่อน แล้วไปลองขับรถรุ่นอื่นๆเปรียบเทียบแล้วจะค้นพบอะไรบางอย่างเอง
ผมเองเคยเล่นเปอโยต์ทั้ง 305 - 405 มา ได้ลองเจ้า 408Turbo แล้วด้วย จะบอกว่ามันเซ็ทติ้งมาห่วยลงอย่างเห็นได้ชัด
และ 1.6Turbo ของมันก็ไม่ได้มีแรงดึงอะไรมากมายเลยครับ นั่งสามคนกดเต็มมันยังไม่ค่อยจะยอมไปเลยด้วยซ้ำ
ไปลองก่อน ไปเจอของจริงก่อน แล้วค่อยคิดว่าอะไรน่าสนใจที่สุดอีกที
ผมว่า วอลโว เครื่อง 1.6Turbo ขับมันส์กว่ามากครับ
แหม...พูดมาซะขนาดนี้ครับ แต่ก็นะ ถ้าผมไปลองอาจจะไม่รู้สึกอะไรก็ได้ ผมถึงอยากได้คำตอบอะไรประมาณนี้แหละครับ ก็เพราะผมไม่เคยขับมาสักคันนี้ครับ ตอนนี้ขับ Honda PCX-150 อยู่ครับ 555+ ;D
เอาเป็นว่าคิดว่ามันคุ้มไหมครับ? หรือผมมีอีกตัวเลือกในใจคือ Lexus IS250 ปี 2009 ราคาประมาณ 1.5 ล้าน +- นิดหน่อย เป็นมือ 2 อันไหนน่าจะคุ้มกว่ากันครับ แล้ว Lexus ค่าซ่อมแพงไหม?
-
เคยลองขับเจ้า 408 Turbo หรือยังหล่ะครับ? ถ้ายังไปลองขับก่อน แล้วไปลองขับรถรุ่นอื่นๆเปรียบเทียบแล้วจะค้นพบอะไรบางอย่างเอง
ผมเองเคยเล่นเปอโยต์ทั้ง 305 - 405 มา ได้ลองเจ้า 408Turbo แล้วด้วย จะบอกว่ามันเซ็ทติ้งมาห่วยลงอย่างเห็นได้ชัด
และ 1.6Turbo ของมันก็ไม่ได้มีแรงดึงอะไรมากมายเลยครับ นั่งสามคนกดเต็มมันยังไม่ค่อยจะยอมไปเลยด้วยซ้ำ
ไปลองก่อน ไปเจอของจริงก่อน แล้วค่อยคิดว่าอะไรน่าสนใจที่สุดอีกที
ผมว่า วอลโว เครื่อง 1.6Turbo ขับมันส์กว่ามากครับ
แหม...พูดมาซะขนาดนี้ครับ แต่ก็นะ ถ้าผมไปลองอาจจะไม่รู้สึกอะไรก็ได้ ผมถึงอยากได้คำตอบอะไรประมาณนี้แหละครับ ก็เพราะผมไม่เคยขับมาสักคันนี้ครับ ตอนนี้ขับ Honda PCX-150 อยู่ครับ 555+ ;D
เอาเป็นว่าคิดว่ามันคุ้มไหมครับ? หรือผมมีอีกตัวเลือกในใจคือ Lexus IS250 ปี 2009 ราคาประมาณ 1.5 ล้าน +- นิดหน่อย เป็นมือ 2 อันไหนน่าจะคุ้มกว่ากันครับ แล้ว Lexus ค่าซ่อมแพงไหม?
ไม่เคยเล่น Lexus ตอบไม่ได้ครับ ผมว่าไปหาพวกรถตลาดขับดีกว่า ผมกลัวว่าเจอราคาอะไหล่ Lexus อาจจะมีหนาวๆกันบ้างนะครับ
ปัญหามันไม่ใช่ว่าคุณมาถามแล้วจะได้คำตอบที่ถูกต้องนะครับ คุณต้องไปลองหลายๆรุ่นที่หลายๆคนเชียร์ ไปลองให้หมด แล้วค่อย
ตอบกับตัวเองว่า เฮ๊ยอันไหนเหมาะกับเราที่สุด วิธีที่ดีที่สุดคือ ไปลองครับ แล้วยิ่งลองมากๆยิ่งสามารถเปรียบเทียบได้มาก
พอเปรียบเทียบได้มาก คุณก็จะค้นพบว่า สิ่งที่คุณชอบคือจุดไหน
ดังนั้นผมไม่สามารถให้คำตอบใดๆได้ทั้งนั้น นอกจากเชียร์ให้คุณไปลองรถในทุกๆรุ่นที่ ทุกๆคอมเม้นต์เชียร์ครับ
สังเกตุมั๊ยว่า ยิ่งลองรถมาก ก็จะยิ่งรู้จุดดีจุดด้อยมาก เช่น จิมมี่ หรือ แพน เป็นต้นครับ
ดังนั้น เลิกถาม และ ออกไปลุยเลยครับ!!!
ไม่มีเซลล์คนไหนที่ไม่อยากให้ลูกค้าลองรถหรอกครับ ทุกคนอยากขายของทั้งนั้น โดยเฉพาะช่วงเวลาแบบนี้น่ะ
-
เคยลองขับเจ้า 408 Turbo หรือยังหล่ะครับ? ถ้ายังไปลองขับก่อน แล้วไปลองขับรถรุ่นอื่นๆเปรียบเทียบแล้วจะค้นพบอะไรบางอย่างเอง
ผมเองเคยเล่นเปอโยต์ทั้ง 305 - 405 มา ได้ลองเจ้า 408Turbo แล้วด้วย จะบอกว่ามันเซ็ทติ้งมาห่วยลงอย่างเห็นได้ชัด
และ 1.6Turbo ของมันก็ไม่ได้มีแรงดึงอะไรมากมายเลยครับ นั่งสามคนกดเต็มมันยังไม่ค่อยจะยอมไปเลยด้วยซ้ำ
ไปลองก่อน ไปเจอของจริงก่อน แล้วค่อยคิดว่าอะไรน่าสนใจที่สุดอีกที
ผมว่า วอลโว เครื่อง 1.6Turbo ขับมันส์กว่ามากครับ
แหม...พูดมาซะขนาดนี้ครับ แต่ก็นะ ถ้าผมไปลองอาจจะไม่รู้สึกอะไรก็ได้ ผมถึงอยากได้คำตอบอะไรประมาณนี้แหละครับ ก็เพราะผมไม่เคยขับมาสักคันนี้ครับ ตอนนี้ขับ Honda PCX-150 อยู่ครับ 555+ ;D
เอาเป็นว่าคิดว่ามันคุ้มไหมครับ? หรือผมมีอีกตัวเลือกในใจคือ Lexus IS250 ปี 2009 ราคาประมาณ 1.5 ล้าน +- นิดหน่อย เป็นมือ 2 อันไหนน่าจะคุ้มกว่ากันครับ แล้ว Lexus ค่าซ่อมแพงไหม?
ไม่เคยเล่น Lexus ตอบไม่ได้ครับ ผมว่าไปหาพวกรถตลาดขับดีกว่า ผมกลัวว่าเจอราคาอะไหล่ Lexus อาจจะมีหนาวๆกันบ้างนะครับ
ปัญหามันไม่ใช่ว่าคุณมาถามแล้วจะได้คำตอบที่ถูกต้องนะครับ คุณต้องไปลองหลายๆรุ่นที่หลายๆคนเชียร์ ไปลองให้หมด แล้วค่อย
ตอบกับตัวเองว่า เฮ๊ยอันไหนเหมาะกับเราที่สุด วิธีที่ดีที่สุดคือ ไปลองครับ แล้วยิ่งลองมากๆยิ่งสามารถเปรียบเทียบได้มาก
พอเปรียบเทียบได้มาก คุณก็จะค้นพบว่า สิ่งที่คุณชอบคือจุดไหน
ดังนั้นผมไม่สามารถให้คำตอบใดๆได้ทั้งนั้น นอกจากเชียร์ให้คุณไปลองรถในทุกๆรุ่นที่ ทุกๆคอมเม้นต์เชียร์ครับ
สังเกตุมั๊ยว่า ยิ่งลองรถมาก ก็จะยิ่งรู้จุดดีจุดด้อยมาก เช่น จิมมี่ หรือ แพน เป็นต้นครับ
ดังนั้น เลิกถาม และ ออกไปลุยเลยครับ!!!
ไม่มีเซลล์คนไหนที่ไม่อยากให้ลูกค้าลองรถหรอกครับ ทุกคนอยากขายของทั้งนั้น โดยเฉพาะช่วงเวลาแบบนี้น่ะ
จริงดิครับ ขอบคุณมากๆครับ ที่ผมถามมาก ก็เพราะผมไม่กล้าไปลองรถเนี่ยแหละครับ แกรงใจเขา เดี๋ยวจะหาว่าไปลองแล้วไม่ซื้อ อะไรประมาณนี้ครับ และที่สำคัญนิสัยเสียของผมคือใจอ่อน เจอลูกอ้อนเมื่อไหร่เสียเงินซื้อของเขาทุกที..... :'( เคยไปลองรถ 2 ครั้งก่อนออก Jazz คันเก่า เต็มที่ก็ได้แค่ขับในโชว์รูม มันไม่รู้อะไรเลย
แล้วเหตุผลที่ซื้อ Jazz ไม่ใช่เพราะว่าดีครับ เพราะเดาล้วนๆ อิอิ ถามว่าชอบไหม ณ ตอนนั้นซื้อยังไม่รู้เลยครับว่าชอบไหม แหะๆ ไม่ได้ลองเลยด้ววยซ้ำครับ
ครั้งนี้จะเสียเงินก้อนใหญ่กว่า ผมเลยอยากหาข้อมูลเยอะๆน่ะครับ ยิ่งถ้าได้การจัดลำดับทำเป็น Rating ของรถรุ่นที่ราคาใกล้ๆกัน ณ ห้วงเวลาเดียวกัน ก็จะเป็ฯเร่องง่ายและดีมากๆครับ
ขอบคุณครับ
-
เคยลองขับเจ้า 408 Turbo หรือยังหล่ะครับ? ถ้ายังไปลองขับก่อน แล้วไปลองขับรถรุ่นอื่นๆเปรียบเทียบแล้วจะค้นพบอะไรบางอย่างเอง
ผมเองเคยเล่นเปอโยต์ทั้ง 305 - 405 มา ได้ลองเจ้า 408Turbo แล้วด้วย จะบอกว่ามันเซ็ทติ้งมาห่วยลงอย่างเห็นได้ชัด
และ 1.6Turbo ของมันก็ไม่ได้มีแรงดึงอะไรมากมายเลยครับ นั่งสามคนกดเต็มมันยังไม่ค่อยจะยอมไปเลยด้วยซ้ำ
ไปลองก่อน ไปเจอของจริงก่อน แล้วค่อยคิดว่าอะไรน่าสนใจที่สุดอีกที
ผมว่า วอลโว เครื่อง 1.6Turbo ขับมันส์กว่ามากครับ
สำหรับผมที่ปกติผมขับ 406 อยู่นะครับ พอได้ลองเหยียบดูแล้วมันต่างกับ 406 ของผมชัดเจนเลย พุ่งออกไปอย่างน่าสนใจมาก แต่ได้ลองแค่สั้น ๆ อะครับเลยอธิบายไม่ได้ว่าด้านอื่น ๆ แล้วเป็นไงบ้าง
ผมได้ถ่ายสติกเกอร์ที่ติดรถมา แต่ไม่แน่ใจว่ามันคือเลขน้ำหนักตัวถังหรือเปล่า ? ถ้าใช่ น้ำหนักขนาดนี้ แรงบิด peak แค่ 240 มันก็แค่พอเพียงสินะครับ จริง ๆ แล้ว ผมก็แอบตกใจเรื่องน้ำหนักเหมือนกันครับ ว่าจะหนักอะไรถึงเพียงนี้
ปล. Toyota Camry 2.5G น้ำหนักแค่ 1470 (จากเว็บ) แต่แรงบิด peak 231 แหนะ 5555 ส่วน 2.0 1445 แรงบิด 191 ก็ยังชิล ๆ อยู่ดี
-
ถึงท่าน จขกท.
จากความคิดส่วนตัวผม ผมคิดว่าถ้าจะเล่น Accord ให้เล่น 2.4 ไปเลยครับแรงกว่ามากพอสมควรเลยหล่ะ
แต่ใจจริงผมคิดว่าถ้าท่านชอบภายในล้ำๆ อยากให้ไปมอง 320d e90 lci มือสองครับ ผมก็เพิ่งได้มาในราคา 1.6 ครับปี 11 ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นรถที่ภายในสวยมากที่สุดคันนึงเลยครับออฟชั่นเยอะจนใช้ไม่หมดครับ
ฟรือถ้ากลัวรถมือสองก็ไปเล่น 116i เลยครับ ตอนนี้ได้ชุดแต่ง Msport ด้วยครับ ภายในผมว่า BMW ทำได้ล้ำที่สุดแล้วในราคาประมาณนี้ครับ
อาจจะฟังดูเชียร์ BMW มากไปหน่อยนะครับแต่ผมคิดว่ามันโอเคสุดจิงๆครับ
-
ถึงท่าน จขกท.
จากความคิดส่วนตัวผม ผมคิดว่าถ้าจะเล่น Accord ให้เล่น 2.4 ไปเลยครับแรงกว่ามากพอสมควรเลยหล่ะ
แต่ใจจริงผมคิดว่าถ้าท่านชอบภายในล้ำๆ อยากให้ไปมอง 320d e90 lci มือสองครับ ผมก็เพิ่งได้มาในราคา 1.6 ครับปี 11 ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นรถที่ภายในสวยมากที่สุดคันนึงเลยครับออฟชั่นเยอะจนใช้ไม่หมดครับ
ฟรือถ้ากลัวรถมือสองก็ไปเล่น 116i เลยครับ ตอนนี้ได้ชุดแต่ง Msport ด้วยครับ ภายในผมว่า BMW ทำได้ล้ำที่สุดแล้วในราคาประมาณนี้ครับ
อาจจะฟังดูเชียร์ BMW มากไปหน่อยนะครับแต่ผมคิดว่ามันโอเคสุดจิงๆครับ
ขอบคุณมากๆครับที่แนะนำ ติดอยู่อย่างเดียวครับ คือผมไม่อยากจ่ายเฉัยดๆ 2 ล้าน 116i 1.9 ล้าน Accord 2.4 1.7 ล้าน หนักเกินไปครับผม ผมอยากได้ที่ 1.5 ล้าน + ไม่เกินแสนครับ
BMW 320d E90 ผมก็เล็งไว้อยู่เหมือนกันครับ แต่เห็นว่าค่าซ่อมมันแสนสาหัสเหลือเกิน(ถ้าเป็นมือ 1 ผมจะไม่ห่วงเรื่องนี้ครับ) ผมคงจะสู้ไม่ค่อยไหวครับ ตอนแรกก็เล็งไว้ชอบมากๆครับ ยังไงช่วนแนะนำต่อได้นะครับหากว่าผมคิดผิดครับ
อีกตัวผมเล็งรถตามความชอบล้วนๆเลยครับ ถ้าหากจะว่ากัรเรื่องมือ 2 นะครับ ก็คือ VW Scirocco กับ Lexus IS250 ทั้ง 2 ตัวนี้ราคาอยู่ราวๆ 1.5 ล้านตามเป้าเลยครับ ไม่รู้ว่าคิดเห็นเป็นอย่างไรครับ(เผอิญว่าผมเห็นที่ทำงานผมใช้ VW เก่าๆ หลายคันครับผม)
ถ้าไม่ได้ตามนี้ก็เห็นทีต้องมองมือ 1 ล่ะครับผม ;D
-
ถึงท่าน จขกท.
จากความคิดส่วนตัวผม ผมคิดว่าถ้าจะเล่น Accord ให้เล่น 2.4 ไปเลยครับแรงกว่ามากพอสมควรเลยหล่ะ
แต่ใจจริงผมคิดว่าถ้าท่านชอบภายในล้ำๆ อยากให้ไปมอง 320d e90 lci มือสองครับ ผมก็เพิ่งได้มาในราคา 1.6 ครับปี 11 ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นรถที่ภายในสวยมากที่สุดคันนึงเลยครับออฟชั่นเยอะจนใช้ไม่หมดครับ
ฟรือถ้ากลัวรถมือสองก็ไปเล่น 116i เลยครับ ตอนนี้ได้ชุดแต่ง Msport ด้วยครับ ภายในผมว่า BMW ทำได้ล้ำที่สุดแล้วในราคาประมาณนี้ครับ
อาจจะฟังดูเชียร์ BMW มากไปหน่อยนะครับแต่ผมคิดว่ามันโอเคสุดจิงๆครับ
ขอบคุณมากๆครับที่แนะนำ ติดอยู่อย่างเดียวครับ คือผมไม่อยากจ่ายเฉัยดๆ 2 ล้าน 116i 1.9 ล้าน Accord 2.4 1.7 ล้าน หนักเกินไปครับผม ผมอยากได้ที่ 1.5 ล้าน + ไม่เกินแสนครับ
BMW 320d E90 ผมก็เล็งไว้อยู่เหมือนกันครับ แต่เห็นว่าค่าซ่อมมันแสนสาหัสเหลือเกิน(ถ้าเป็นมือ 1 ผมจะไม่ห่วงเรื่องนี้ครับ) ผมคงจะสู้ไม่ค่อยไหวครับ ตอนแรกก็เล็งไว้ชอบมากๆครับ ยังไงช่วนแนะนำต่อได้นะครับหากว่าผมคิดผิดครับ
อีกตัวผมเล็งรถตามความชอบล้วนๆเลยครับ ถ้าหากจะว่ากัรเรื่องมือ 2 นะครับ ก็คือ VW Scirocco กับ Lexus IS250 ทั้ง 2 ตัวนี้ราคาอยู่ราวๆ 1.5 ล้านตามเป้าเลยครับ ไม่รู้ว่าคิดเห็นเป็นอย่างไรครับ(เผอิญว่าผมเห็นที่ทำงานผมใช้ VW เก่าๆ หลายคันครับผม)
ถ้าไม่ได้ตามนี้ก็เห็นทีต้องมองมือ 1 ล่ะครับผม ;D
320d หาสวยๆมีประกันเหลือสิครับ ผมได้มาวิ่งไปเก้าหมื่นต่อกประกันเป็นหกปีหรือ 120000 โล ผมอุ่นใจแล้วครับเครมแหลก 555 ตอนซื้อแนะนำให้นัดเจอที่ศูนย์เลยครับ จะได้เช็คค่า faults เลยแถมมีประวัติครบ ตัว E90 นี้ช่วงล่างกินมันยากครับ ปีกนกสองชั้นหน้าหลังค้ำโชคกันโครงก็มีครับไม่ค่อยน่ากลัวส่วน sirocco กับ Lexus ผมไม่แนะนำครับน้ำมันแพงด้วยครับ ขับดีเซล N47 สบายใจกว่าไม่ค่อยจุกจิกครับ(ช่างทุกคนบอกแบบนี้ครับ) มีที่น่าเป็นห่วงคือเกียร์ครับแต่ถ้าเราถ่ายน้ำมันเกียร์รักษามันดีๆก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ
-
320d หาสวยๆมีประกันเหลือสิครับ ผมได้มาวิ่งไปเก้าหมื่นต่อกประกันเป็นหกปีหรือ 120000 โล ผมอุ่นใจแล้วครับเครมแหลก 555 ตอนซื้อแนะนำให้นัดเจอที่ศูนย์เลยครับ จะได้เช็คค่า faults เลยแถมมีประวัติครบ ตัว E90 นี้ช่วงล่างกินมันยากครับ ปีกนกสองชั้นหน้าหลังค้ำโชคกันโครงก็มีครับไม่ค่อยน่ากลัวส่วน sirocco กับ Lexus ผมไม่แนะนำครับน้ำมันแพงด้วยครับ ขับดีเซล N47 สบายใจกว่าไม่ค่อยจุกจิกครับ(ช่างทุกคนบอกแบบนี้ครับ) มีที่น่าเป็นห่วงคือเกียร์ครับแต่ถ้าเราถ่ายน้ำมันเกียร์รักษามันดีๆก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ
ขอบคุณมากๆครับที่แนะนำ แล้ว.... พอจะแนะนำได้ไหมครับว่าจะไปหาสวยๆประกันเหลือๆได้จากไหนครับ ตอนนี้ผมก็มองๆหาจากพวกเวปรถมือ 2 อยู่ครับผม ;D แต่ไม่เคยซื้อของจากเวปแบบนี้เลย ไว้ใจได้ไหมครับ ???
-
320d หาสวยๆมีประกันเหลือสิครับ ผมได้มาวิ่งไปเก้าหมื่นต่อกประกันเป็นหกปีหรือ 120000 โล ผมอุ่นใจแล้วครับเครมแหลก 555 ตอนซื้อแนะนำให้นัดเจอที่ศูนย์เลยครับ จะได้เช็คค่า faults เลยแถมมีประวัติครบ ตัว E90 นี้ช่วงล่างกินมันยากครับ ปีกนกสองชั้นหน้าหลังค้ำโชคกันโครงก็มีครับไม่ค่อยน่ากลัวส่วน sirocco กับ Lexus ผมไม่แนะนำครับน้ำมันแพงด้วยครับ ขับดีเซล N47 สบายใจกว่าไม่ค่อยจุกจิกครับ(ช่างทุกคนบอกแบบนี้ครับ) มีที่น่าเป็นห่วงคือเกียร์ครับแต่ถ้าเราถ่ายน้ำมันเกียร์รักษามันดีๆก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ
ขอบคุณมากๆครับที่แนะนำ แล้ว.... พอจะแนะนำได้ไหมครับว่าจะไปหาสวยๆประกันเหลือๆได้จากไหนครับ ตอนนี้ผมก็มองๆหาจากพวกเวปรถมือ 2 อยู่ครับผม ;D แต่ไม่เคยซื้อของจากเวปแบบนี้เลย ไว้ใจได้ไหมครับ ???
ผมได้มาขอบอกไว้ก่อนเลยครับว่า ดวงล้วนๆครับผมให้ทั้งรุ่นพี่ที่ทำเต้นหาให้และหาในเว็บครับ สุดท้ายไปลงเอยที่ในเว็บตลาดรถครับ รถไม่มีชนหนักเคยเกบสีกันชนเป็นปรกติ ผมเลยรับไว้ครับปี 2011 บอกเลยว่าขับมันมากครับ :D ลองดูครับถามเต้นส่วนใหญ่บอกตัวนี้ไปไวมากครับ
-
ลองขับครับ ต่างคนต่างความคิด คุณไปลองขับจะได้คำตอบที่สุด
มาตรฐานคนเราต่างกันครับ รถคันเดียวกัน บางคนบอกเกาะ บางคนบอกยวบ บางคนดูที่แบรน แล้วก็เบือนหน้าหนีแล้ว
อย่าซื้อตามคำบอกเล่าของใคร ซื้อตามใจตามสิ่งที่คุณได้สัมผัสครับ
ถ้าผมบอกว่าช่วงล่างเปอร์โย 406 เหนือกว่ารถขับหลังอย่าง BMW E46 คุณจะเชื่อผมหรือเปล่า
แบรนมันต่างกันแบบนี้. อย่าเชื่อผม จนกว่าจะได้สัมผัสครับ
ผมว่ามีหลายคนที่ตามหาสัมผัสเดิมๆในอดีตกับบอดี้รถปัจจุบัน
และผมคนหนึ่งที่ตอนนี้ตามหารถที่ถูกใจ ในสมรรถนะช่วงล่าง ปลอดถัย แต่ไม่สนอิมเมจ เหมือนแต่ก่อนที่เลือก e46 ไมใช่ว่ารถไม่ดีนะครับ
แค่ผมหวังกับมันมากไป ความเห็นส่วนตัวนะครับ
แต่ผมก็หลงรัก ดีเซล bmw นะครับ 555 ประหยัดได้ใจ
แต่ตอนนี้เล็งๆ subaru legacy ปี05 ขับสี่ เทอร์โบ มูนรูฟ เครื่องเสียงแมคอินทอร์ช 55555
-
เชียร์ V40 ละครับ องค์รวมแล้ว เจมส์ จิ เลย ผมว่ากำเงิน 1.5m เพิ่มอีก 200k ไม่น่าจะเป็นประเด็น หากแต่รออีกสัก2เดือน มีโปรหนักๆแน่ อาจอยู่ในงบก็ได้นะ แล้วอย่าลืมมารีวิวให้ดูกันละครับ
-
ลองขับครับ ต่างคนต่างความคิด คุณไปลองขับจะได้คำตอบที่สุด
มาตรฐานคนเราต่างกันครับ รถคันเดียวกัน บางคนบอกเกาะ บางคนบอกยวบ บางคนดูที่แบรน แล้วก็เบือนหน้าหนีแล้ว
อย่าซื้อตามคำบอกเล่าของใคร ซื้อตามใจตามสิ่งที่คุณได้สัมผัสครับ
ถ้าผมบอกว่าช่วงล่างเปอร์โย 406 เหนือกว่ารถขับหลังอย่าง BMW E46 คุณจะเชื่อผมหรือเปล่า
แบรนมันต่างกันแบบนี้. อย่าเชื่อผม จนกว่าจะได้สัมผัสครับ
ผมว่ามีหลายคนที่ตามหาสัมผัสเดิมๆในอดีตกับบอดี้รถปัจจุบัน
และผมคนหนึ่งที่ตอนนี้ตามหารถที่ถูกใจ ในสมรรถนะช่วงล่าง ปลอดถัย แต่ไม่สนอิมเมจ เหมือนแต่ก่อนที่เลือก e46 ไมใช่ว่ารถไม่ดีนะครับ
แค่ผมหวังกับมันมากไป ความเห็นส่วนตัวนะครับ
แต่ผมก็หลงรัก ดีเซล bmw นะครับ 555 ประหยัดได้ใจ
แต่ตอนนี้เล็งๆ subaru legacy ปี05 ขับสี่ เทอร์โบ มูนรูฟ เครื่องเสียงแมคอินทอร์ช 55555
ผมเชื่อว่าช่วงล่างเปอร์โย แม่นมากจริง แต่ติว่าศูนย์บริการน้อยไปนิดครับ ถ้าใช้ในเมืองก็คงไม่มีปัญหาอะไร น้องผมใช้ตัว408 1.6Turbo ตอนซื้อส่วนลด80,000 เหลือ1.29ล้าน (2ปีที่แล้วนะครับ)กินน้ำมัน12-14กม/ล กทม-พัทยา ในเมืองรถติดๆ9-10กม/ล ครับ