Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mamaman ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2016, 21:37:58
-
คือ ปวดหัว กับ จูนเนอร์ ที่ Flash ECU รถจนระบบรวน
เอา ROM ของ อีก เครื่อง มาใส่อีกเครื่อง จน ระบบ เพี้ยนไปหมด
เลยเกิด อาการ เข็ด การ Flash Ecu ไม่ไว้ใจ จูนเนอร์อีกต่อไป
จนต้อง ค้นหาวิธีมาแก้ไข ค่า ECU รถตัวเอง เป็น DIY Flash ECU ไปซะ
จนได้มารู้ ว่า Lancer Ex 1.8 ที่มันอืดแสนอืด เพราะอะไร
ตามรูป คือ
Fuel map ของ Open Loop
ด้านบน คือ Fuel map ของเดิม ค่า โรงงาน รุ่นขายในไทย หรือ TDM
ด้านล่าง คือ Fuel map ของเดิม ค่า โรงงาน รุ่นขายในญี่ปุ่น หรือ JDM
จะเห็น ว่า บ้านเรา set มา มันจะเอาเผาไหม้สมบูรณ์ไปไหน 14.7 เต็มกระดาน แทบจะเท่าขับ Close Loop ตลอดเวลาเลย
สุดท้าย ผมไม่ต้องคิดอะไรมาก Copy JDM Fuel map ทับไปใน Map เดิมของ ไทย อัตราเร่ง ดีขึ้นมาก ไม่ต้องเหยียบลึก
-
เยี่ยมครับ ;)
ว่าจะเอาของตัวเองมาเล่นมั่งเหมือนกัน แต่ยังใจไม่กล้าพอ :-X
-
โอโห้
-
ชัดเจนครับ
-
ค่าการชดเชยน้อยจริง ๆ....
ว่าแต่เวลาวิ่ง อี85 แล้ว แตกต่างกับโซฮอล์มากแค่ไหนครับ...
-
ค่าการชดเชยน้อยจริง ๆ....
ว่าแต่เวลาวิ่ง อี85 แล้ว แตกต่างกับโซฮอล์มากแค่ไหนครับ...
ECU ของ Lancer EX 1.8 เป็น FFV น่าจะที่เดียวในโลกครับ ประเทศอื่น Lancer ไม่ใช่ FFV ครับ
Map ที่เห็นคือ Base Map ซึ่ง ผมเข้าใจว่า ECU จะชดเชย Offset จากค่า Base Map นี้ออกไปตาม ปริมาณของ เอทานอล ในเชื้อเพลิง
คลายกับ การ ปรับ Map เดียว พ่วงไปถึง Map 85
พอวิ่งด้วย E85 ค่าที่เห็น 14.7 คงถูก ECU Offset ให้ต่ำลงเท่าค่า Ideal 9.8 ครับ ไม่งั้น มีน๊อค
การวิ่ง E85 ก็ปกติครับ ไม่มี ไฟ Engine หรืออะไรมารบกวน
-
เอาแล้ว EX 1.8 ไม่ต้องทนอืดดดแว้ววว
เจ๋งครับผม
-
เปลืองขึ้นเยอะไหม รายงานด้วยนะครับ
-
เปลืองขึ้นเยอะไหม รายงานด้วยนะครับ
ไม่ใช่เจ้าของนะคุณแมว...
แต่มองจากแมพ ปรับชดเชยแล้ว รถวิ่งดีขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย (ผลพลอยได้)...
เหมือนรถผม ปรับม้าขึ้นไปอีกระดับ ปรากฎว่า มันประหยัดขึ้นอีก (เมื่อวิ่งเรื่อย ๆ เหมือนเดิม)
-
เปลืองขึ้นเยอะไหม รายงานด้วยนะครับ
ไม่ใช่เจ้าของนะคุณแมว...
แต่มองจากแมพ ปรับชดเชยแล้ว รถวิ่งดีขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย (ผลพลอยได้)...
เหมือนรถผม ปรับม้าขึ้นไปอีกระดับ ปรากฎว่า มันประหยัดขึ้นอีก (เมื่อวิ่งเรื่อย ๆ เหมือนเดิม)
อืดน้อยลงเร่งแซงเสร๊จเร็วขึ้น ก็น่าจะกินน้อยลงนะ ผมว่า :-\ :-\
-
ไม่ใช่เจ้าของนะคุณแมว...
แต่มองจากแมพ ปรับชดเชยแล้ว รถวิ่งดีขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย (ผลพลอยได้)...
เหมือนรถผม ปรับม้าขึ้นไปอีกระดับ ปรากฎว่า มันประหยัดขึ้นอีก (เมื่อวิ่งเรื่อย ๆ เหมือนเดิม)
นั่นสิครับ
เจ้าคันเล็กผม เปลี่ยนหัวฉีดจากเดิม 170 > 270 ซีซี
แรงต้นมาเยอะดี ตามหลักน่าจะกิน เหยียบยาวๆ ประหยัดขึ้นเฉย - -a
-
ไม่ใช่เจ้าของนะคุณแมว...
แต่มองจากแมพ ปรับชดเชยแล้ว รถวิ่งดีขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย (ผลพลอยได้)...
เหมือนรถผม ปรับม้าขึ้นไปอีกระดับ ปรากฎว่า มันประหยัดขึ้นอีก (เมื่อวิ่งเรื่อย ๆ เหมือนเดิม)
นั่นสิครับ
เจ้าคันเล็กผม เปลี่ยนหัวฉีดจากเดิม 170 > 270 ซีซี
แรงต้นมาเยอะดี ตามหลักน่าจะกิน เหยียบยาวๆ ประหยัดขึ้นเฉย - -a
กำลัง เก็บข้อมูล ความสิ้นเปลืองครับ
ระวังเรื่องปลี่ยนหัวฉีดนิดนึงครับ
หลังจาก ศึกษา ECU รถมาซักพัก
พบว่า
ECU จะมี Scale ของขนาด หัวฉีด บันทึกไว้ เช่น Lancer EX 250 cc/min ก็จะ Scale ใน ECU เป็น 230
ความถึง ระยะ Fuel Injector Lag Time ที่แตกต่างกัน ต้งมีการ ปรับใหม่ครับ
ถ้าเปลี่ยนหัวฉีด จะต้องปรับ Scale และ Lag Time ให้ตรงตาม หัวฉีดนั้นๆ ครับ
ช่างคนไหน จับเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้น ไม่ Re-Map ค่า ใน ECU นี่ ..... ถือว่า ช่างคนนั้น ไม่เข้าใจ ระบบ ECU รถจริงๆ
-
ทำแบบนี้เอง
ใส่ค่า af เข้าไปเองได้ไหม ครับ
ใช้เครื่องมือแบบไหนถึงทำแบบนี้ได้
-
เห็นด้วยเลยครับเปลี่ยนหัวฉีดที่ไม่ใช่ของเดิม ต้องจูนใหม่
หลักๆก็ต้องจูน scaling กับ latency กันใหม่ เพราะ ECU มันไม่รู้ว่าาเราเปลี่ยนใหม่แล้ว ปกติ ecu จะคุมหัวฉีดเป็นรอบการปิด-เปิด เรียก duty cycle ถ้าไม่จูนใหม่จ่ายด้วย duty cycle เดิมก็จะหนาไป ... ซึ่งใน close loop มันคงพอจะเอา feedback จาก o2 sensor มาปรับลด duty cycle ได้อยู่บ้าง แต่คงไม่ดีนัก
ส่วนที่ว่าต้องใช้เครื่องมือแบบไหน เอาที่ผมรู้
1. cable odb2 บางยี่ห้อใช้ของทั่วไปไม่ได้ ต้องใช้ยี่ห้อเฉพาะ เช่น ของซูใช้ของ tactrix (ประมาณ 6000 บาท ไม่รวม shipping+ภาษี)
2. Laptop
3. Software ของซูจะใช้ 2 ตัว คือ RomRaider สำหรับอ่านและ edit ตารางต่างๆ ... อีกอันคือ ECUFlash เอาไว้เขียน file ที่เสร็จแล้วลงกล่องรถ (ฟรี)
Optional ก็พวกมิเตอร์วัดค่าต่างๆที่นอกเหนือจากที่ ECU อ่านได้ (RomRaider มันอ่านข้อมูลจากกล่องได้ realtime เลยต้องมีมิเตอร์เพิ่มเฉพาะที่กล่องอ่านไม่ได้/ที่อยาก doublecheck กล่อง)
สำคัญสุดคือ "ใจ" ครับ ใจถึงๆ กล้าลอง (กล้าพัง) ... ผมอยากลองเล่นเหมือนกันแต่ใจยังไม่ถึงพอ เลยยังไม่ได้สั่ง cable มาลองสักที แหะๆ
-
ตามข้างบนครับ
ผม ต้องมาเสี่ยง Flash เองเพราะ เจอ จูนเนอร์ มั่วให้
ใช้ เวลา ศึกษา จนมั่นใจ ขนาดลงทุนซื้ออุปกรณ์ ราคา 6,000 พอๆ ค่าจูนเลย 5555
ที่เหลือ คือใจนี่ละ
ตอนโหลด ROM กับ Flash ครั้งแรก นี่ใจไปอยู่ตาตุ่ม เพราะพึ่โทรไปถาม อะไหล่ ECU ใหม่จากศูนย์บริการ แทบช๊อคกับ ราคากล่อง ECU
-
หัวฉีดเป็นเรื่องลูกทุ่งครับ
ตอนนี้ติด Piggyback คุมไปละ ผลก็เนียนกว่าเดิม ดีกว่าเดิม อัตราสิ้นเปลืองดีกว่าของเดิมๆ ติดรถอีก
ของเดิมกึ่งๆ หลอกให้มันเติม E85 อัดน้ำมันได้มากขึ้นเฉยๆ แต่ความแม่นยำเหรอ มันมีสองทาง คือ ไม่เน่าก็กินสะบัดเวลาเร่งรอบ
ของผมเป็นอย่างหลัง
-
ไม่ใช่เจ้าของนะคุณแมว...
แต่มองจากแมพ ปรับชดเชยแล้ว รถวิ่งดีขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย (ผลพลอยได้)...
เหมือนรถผม ปรับม้าขึ้นไปอีกระดับ ปรากฎว่า มันประหยัดขึ้นอีก (เมื่อวิ่งเรื่อย ๆ เหมือนเดิม)
นั่นสิครับ
เจ้าคันเล็กผม เปลี่ยนหัวฉีดจากเดิม 170 > 270 ซีซี
แรงต้นมาเยอะดี ตามหลักน่าจะกิน เหยียบยาวๆ ประหยัดขึ้นเฉย - -a
กำลัง เก็บข้อมูล ความสิ้นเปลืองครับ
ระวังเรื่องปลี่ยนหัวฉีดนิดนึงครับ
หลังจาก ศึกษา ECU รถมาซักพัก
พบว่า
ECU จะมี Scale ของขนาด หัวฉีด บันทึกไว้ เช่น Lancer EX 250 cc/min ก็จะ Scale ใน ECU เป็น 230
ความถึง ระยะ Fuel Injector Lag Time ที่แตกต่างกัน ต้งมีการ ปรับใหม่ครับ
ถ้าเปลี่ยนหัวฉีด จะต้องปรับ Scale และ Lag Time ให้ตรงตาม หัวฉีดนั้นๆ ครับ
ช่างคนไหน จับเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้น ไม่ Re-Map ค่า ใน ECU นี่ ..... ถือว่า ช่างคนนั้น ไม่เข้าใจ ระบบ ECU รถจริงๆ
...รถผมเปลี่ยนหัวฉีดเป็น 630 ซี.ซี. แมปใช้แมปเดิมไม่ต้องเปลี่ยน เปลี่ยนเฉพาะค่าหัวฉีด แค่นั้นครับ..
-
...รถผมเปลี่ยนหัวฉีดเป็น 630 ซี.ซี. แมปใช้แมปเดิมไม่ต้องเปลี่ยน เปลี่ยนเฉพาะค่าหัวฉีด แค่นั้นครับ..
ถูกแล้วครับ เปลี่ยน แค่ ค่า Scale และ Lag time
Re-map ที่ผมพูดหมายถึง Re-Flash ค่า หัวฉีดใหม่นั่นเหลาะครับ
-
ตามข้างบนครับ
ผม ต้องมาเสี่ยง Flash เองเพราะ เจอ จูนเนอร์ มั่วให้
ใช้ เวลา ศึกษา จนมั่นใจ ขนาดลงทุนซื้ออุปกรณ์ ราคา 6,000 พอๆ ค่าจูนเลย 5555
ที่เหลือ คือใจนี่ละ
ตอนโหลด ROM กับ Flash ครั้งแรก นี่ใจไปอยู่ตาตุ่ม เพราะพึ่โทรไปถาม อะไหล่ ECU ใหม่จากศูนย์บริการ แทบช๊อคกับ ราคากล่อง ECU
"ใจ" มากครับ .... ไว้วันไหนผมทำใจสั่ง tactrix มาแล้ว อาจรบกวนขอความรู้นะครับ ;)
-
ยินดีครับ
-
ที่ต่างกันเพราะว่าเรื่องกฎหมายมลพิษมั้งครับ จำได้ว่าบ้านเราอิงทาง EURO เลยค่อยข้างจะสะอาดกว่าที่ญี่ปุ่น Map เลยต้องออกมาทาง 14.7 มากหน่อยมั้ง
-
แบบนี้รึเปล่าครับที่เขาเรียกตอนม้าไม่ให้ออกคอก
-
เข้ามาคาราวะครับ ใจกล้าสุดๆ เชื่อว่าจขกทมาถึงจุดนี้แล้วคงไม่หยุดอยู่ที่ JDM Map
;)
-
ถ้าเอาไปใช้ กับ nissan จะใช้ tactrix ได้ไหมครับ
-
ถ้าเอาไปใช้ กับ nissan จะใช้ tactrix ได้ไหมครับ
ตัว openport 2.0 (หัวต่อ odb2) เหมือนจะไม่ได้นะครับ ยังไงลองถามผู้ผลิตดูดีกว่าครับ
-
ไป step ต่อไปเลยครับ อ่าน O2 วิ่งจูน 555
-
ไป step ต่อไปเลยครับ อ่าน O2 วิ่งจูน 555
พอแล้วครับ คันนี้รถภรรยาขับ เน้น สมรรถแบบรถบ้าน
AFR คุมโดย ECU อยู่แล้วไม่มีความจำเป็น ต้องอ่าน หรือ จูน
O2 ของรถ มันจะฟ้องเองถ้า ส่วนผสม ผิดจากค่าที่ควบคุม
ใช้มือถือวัด อัตราเร่ง และ แรงม้ส ในช่วงไม่เกิน 160 km เพราะเป็นคนขับรถไม่เร็วครับ ขอพุ่งๆ พอ
-
กลับ มารายงานผลครับ
รถอัตราเร่งดีขึ้น ใช้คันเร่งน้อยลง แต่ไม่ได้ สิ้นเปลืองขึ้นแต่อย่างใดครับ
เพราะ Map ที่เห็น คือ Open Loop ครับ
จะทำงานช่วงออกตัว หรือ เวลาที่เราใช้ความเณ้ว สูง หรือไม่คงที
ความประหยัด ไม่ได้ประหยัดขึ้น หรือ สิ้นเปลืองขึ้น ด้วยเหตุผล ข้างบน คือ พอเราขับปกติ เลี้ยงรอบ ความเร็วงคงที่ รถก็กลับมา Close Loop เหมือนเดิม
แต่ สิ่งที่ น่าสนใจ ที่ สามารถเรียกพละกำลัง ได้ชัดเจนกว่า Map น้ำมัน คือ
Map MIVEC ครับ ตัวนี้ คือ ปริศนาความแรง เลย
คือเราเข้าใจว่า MIVEC มันเปิดที 2500 รอบ มาพร้อมเสียง ลั่นของมัน
แต่จริงๆ แล้ว มัน สามารถปรับได้ ตอนนี้ ผมก็จัดไปแล้ว
เอา JDM ซึ่ง Set ไว้ แรงกว่า MIVEC เริ่มทำงานตั้งแต่ 1500 รอบเลยด้วย เหยียบหัวทิ่มเลย
-
สุดยอดเลยครับ ไม่ทราบว่าอัตราเร่ง0-100เป็นยังไงบ้างครับ มีclipมั้ยเอ่ย :)
-
สุดยอดเลยครับ ไม่ทราบว่าอัตราเร่ง0-100เป็นยังไงบ้างครับ มีclipมั้ยเอ่ย :)
ได้เท่านี้ครับ ไก้ล ตัว 2.0