Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Fong ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 11:34:10

หัวข้อ: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 11:34:10
** มีการแก้ไขข้อความครับ ขอบคุณทุกความเห็นครับ **  :) :) :)

คิดเล่นๆ แต่ถ้าทำจริงจะดูน่าสนไหมครับ

ถ้ามีรถไฟฟ้าขนาดประมาณ B-Segment (สมมุติว่าเป็น Nissan Leaf  แต่อาจจะต้องเป็นรุ่นใหม่ที่ราคาถูกลง)
ประมาณว่าให้เช่าใช้เดือนละ 10,000 - 15,000 บาท เป็นเวลา 4-5 ปี (ค่าเช่าผมคิดเองนะครับ ไม่ได้อิงอะไร)
ชาร์ตไฟครั้งหนึ่ง (ชาร์ตที่บ้านตอนกลางคืน) วิ่งได้ 150 - 200 กม.
เน้นใช้ในเมือง ขับไปกลับที่ทำงาน
ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุง ค่าต่อทะเบียน ประกันภัยชั้น 1 ตลอดระยะเวลาสัญญา 4 ปี
ครบสัญญา เอารถคันใหม่ รุ่นใหม่ มาให้ใช้ คืนคันเก่าไป

เข้าใจว่าระบบนี้มีอยู่แล้วสำหรับ นิติบุคคล บริษัทต่างๆ
แต่ในแง่ผู้บริโภค ถ้าเราไม่ยึดติดกับความเป็นเจ้าของ และกังวลเรื่องราคาขายต่อ
ใช้รถเดิมๆ ไม่แต่ง เน้นความสะดวกในการเดินทาง

ท่านคิดเห็นอย่างไรครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 5 ปี ท่านคิดว่าจะ work ในไทยไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 11:39:08
ไม่เอาครับ เพราะ รถที่ผมใช้ต้องวิ่งได้ 400 กิโลเมตรขึ้นไป

ถ้าวิ่งไม่ถึง แต่ มีที่ ชาร์ทไฟเร็วๆ แค่ 15 นาที เต็ม ถึงจะ OK
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 5 ปี ท่านคิดว่าจะ work ในไทยไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 11:44:06
ไม่เอาครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 5 ปี ท่านคิดว่าจะ work ในไทยไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: wildstocks ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 12:15:31
ผมเอา แต่ต้องจ่ายค่าเช่าแล้วฟรีค่าใช้จ่ายจริงๆ แล้วไม่จำกัดไมล์กับรัศมีเดินทางด้วย
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 5 ปี ท่านคิดว่าจะ work ในไทยไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iamnobody ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 12:17:13
เอาครับ ทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกับเช่าใช้อยู่แล้ว
แต่อยากได้ระยะทางต่อการชาร์จ1ครั้งเพิ่มอีกสักหน่อยครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 5 ปี ท่านคิดว่าจะ work ในไทยไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TrentXWB ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 12:39:04
คิดเล่นๆ แต่ถ้าทำจริงจะดูน่าสนไหมครับ

ถ้ามีรถไฟฟ้าขนาดประมาณ B-Segment (สมมุติว่าเป็น Nissan Leaf  แต่อาจจะต้องเป็นรุ่นใหม่ที่ราคาถูกลง)
ประมาณว่าให้เช่าใช้เดือนละ 10,000 - 15,000 บาท เป็นเวลา 4 ปี (ค่าเช่าผมคิดเองนะครับ ไม่ได้อิงอะไร)
ชาร์ตไฟครั้งหนึ่ง (ชาร์ตที่บ้านตอนกลางคืน) วิ่งได้ 150 - 200 กม.
ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุง ค่าต่อทะเบียน ประกันภัยชั้น 1 ตลอดระยะเวลาสัญญา 4 ปี
ครบ 4 ปี เอารถคันใหม่ รุ่นใหม่ มาให้ใช้ คืนคันเก่าไป

เข้าใจว่าระบบนี้มีอยู่แล้วสำหรับ นิติบุคคล บริษัทต่างๆ
แต่ในแง่ผู้บริโภค ถ้าเราไม่ยึดติดกับความเป็นเจ้าของ และกังวลเรื่องราคาขายต่อ
ใช้รถเดิมๆ ไม่แต่ง เน้นความสะดวกในการเดินทาง

ท่านคิดเห็นอย่างไรครับ

ชาร์ตไฟครั้งหนึ่ง (ชาร์ตที่บ้านตอนกลางคืน) วิ่งได้ 150 - 200 กม.
ถ้าชาร์จ 8 ชั่วโมง ได้ระยะประมาณนี้และความจุแบตประมาณ 30 - 40 kWh
ใช้ในเมืองรถติดๆ มากๆ ระยะทางจากบ้านไปออฟฟิศ 20 - 40 กม. อาจจะพอครับ (ผมไม่รู้ว่าแอร์รถกินไฟจากแบตหนักหนาขนาดไหน เลยอาจต้องเผื่อระยะรถออกมาอีกประมาณนึง) ตอนเช้าพอมาถึงออฟฟิศแล้วชาร์จกลับเผื่อไว้
ใช้ในเมือง ราคาประมาณ 6000 - 10000 ต่อเดือน อาจมีคนหันมาใช้มากขึ้น

แต่ถ้าเดินทางไกล ออกตจว ผมคิดว่าขายยาก เพราะระยะทางน้อยเกินไป และระยะเวลาในการชาร์จกลับช้าเกินไปครับ ไม่สะดวกมากๆ
แม้แต่ Supercharger ของ Tesla ที่ 30 นาที ได้ระยะทาง 170 ไมล์ (273 กม.) ผมก็ยังคิดว่ายังช้าเกินไป ถ้าจะให้คนหันมาใช้จริงๆ
Supercharger ต้องทำได้ 300 - 500 กม. ต่อการชาร์จ 10 นาที จะยอดเยี่ยมมากถ้าได้ภายใน 5 นาที (ชาร์จกลับแค่ 80 เปอร์เซ็นต์)
เวลาที่ใช้ในการชาร์จกลับมันควรจะพอๆ กับ การเติมน้ำมันที่ปกติ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที
ถ้าชาร์จไม่เร็วทันใจก็ต้องเอาคอนเซ็ปต์สถานีเปลี่ยนแบตของ Tesla มาใช้ แต่นั่นก็ต้องออกแบบระบบชาร์จ จัดเก็บอื่นๆ อีก
ผมนึกภาพช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ คนแห่กันเดินทางและปริมาณรถไปกองกระจุกกันที่สถานีชาร์จไฟ ที่ชาร์จได้ไม่เร็วพอ มันจะต้องโกลาหลมากแน่ๆ

พูดมาซะยืดยาว เอาเป็นว่าถ้าใช้ในเมือง และราคาถูกลงมาหน่อย จะน่าสนใจมากครับ เพราะการเช่าจะผลักภาระในเรื่องของการดูแลแบตออกไป แต่ถ้าต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ไม่เหมาะเอามากๆ ด้วยข้อจำกัดที่กล่าวไปครับ  ;D

ปล. ผมก็อยากได้ Leaf ตัว 30 kWh มาใช้ในเมืองนะครับ หรือจะเป็น Twizy หรือ Zoe ก็น่าลองใช้ดีครับ
แนบลิ้งค์สำหรับคอนเซ็ปต์นี้แต่เป็นของอังกฤษครับ http://www.drive-electric.co.uk/electric-car-leasing/


หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 5 ปี ท่านคิดว่าจะ work ในไทยไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 13:13:07
ขอขอบคุณทุกท่านนะครับ

จริงๆ อยากให้เน้นใช้ในเมืองครับ ลืมเขียนในรายละเอียด
ถ้าขับไกลคงต้องเป็นแบบ e-Power ของ Nissan Note น่าจะเหมาะกว่าครับ

ขอบคุณท่าน TrentXWB ด้วยครับ สำหรับข้อมูลครับ  :) :)
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 5 ปี ท่านคิดว่าจะ work ในไทยไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 13:22:14
คิดเล่นๆ แต่ถ้าทำจริงจะดูน่าสนไหมครับ

ถ้ามีรถไฟฟ้าขนาดประมาณ B-Segment (สมมุติว่าเป็น Nissan Leaf  แต่อาจจะต้องเป็นรุ่นใหม่ที่ราคาถูกลง)
ประมาณว่าให้เช่าใช้เดือนละ 10,000 - 15,000 บาท เป็นเวลา 4 ปี (ค่าเช่าผมคิดเองนะครับ ไม่ได้อิงอะไร)
ชาร์ตไฟครั้งหนึ่ง (ชาร์ตที่บ้านตอนกลางคืน) วิ่งได้ 150 - 200 กม.
ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุง ค่าต่อทะเบียน ประกันภัยชั้น 1 ตลอดระยะเวลาสัญญา 4 ปี
ครบ 4 ปี เอารถคันใหม่ รุ่นใหม่ มาให้ใช้ คืนคันเก่าไป

เข้าใจว่าระบบนี้มีอยู่แล้วสำหรับ นิติบุคคล บริษัทต่างๆ
แต่ในแง่ผู้บริโภค ถ้าเราไม่ยึดติดกับความเป็นเจ้าของ และกังวลเรื่องราคาขายต่อ
ใช้รถเดิมๆ ไม่แต่ง เน้นความสะดวกในการเดินทาง

ท่านคิดเห็นอย่างไรครับ

ชาร์ตไฟครั้งหนึ่ง (ชาร์ตที่บ้านตอนกลางคืน) วิ่งได้ 150 - 200 กม.
ถ้าชาร์จ 8 ชั่วโมง ได้ระยะประมาณนี้และความจุแบตประมาณ 30 - 40 kWh
ใช้ในเมืองรถติดๆ มากๆ ระยะทางจากบ้านไปออฟฟิศ 20 - 40 กม. อาจจะพอครับ (ผมไม่รู้ว่าแอร์รถกินไฟจากแบตหนักหนาขนาดไหน เลยอาจต้องเผื่อระยะรถออกมาอีกประมาณนึง) ตอนเช้าพอมาถึงออฟฟิศแล้วชาร์จกลับเผื่อไว้
ใช้ในเมือง ราคาประมาณ 6000 - 10000 ต่อเดือน อาจมีคนหันมาใช้มากขึ้น

แต่ถ้าเดินทางไกล ออกตจว ผมคิดว่าขายยาก เพราะระยะทางน้อยเกินไป และระยะเวลาในการชาร์จกลับช้าเกินไปครับ ไม่สะดวกมากๆ
แม้แต่ Supercharger ของ Tesla ที่ 30 นาที ได้ระยะทาง 170 ไมล์ (273 กม.) ผมก็ยังคิดว่ายังช้าเกินไป ถ้าจะให้คนหันมาใช้จริงๆ
Supercharger ต้องทำได้ 300 - 500 กม. ต่อการชาร์จ 10 นาที จะยอดเยี่ยมมากถ้าได้ภายใน 5 นาที (ชาร์จกลับแค่ 80 เปอร์เซ็นต์)
เวลาที่ใช้ในการชาร์จกลับมันควรจะพอๆ กับ การเติมน้ำมันที่ปกติ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที
ถ้าชาร์จไม่เร็วทันใจก็ต้องเอาคอนเซ็ปต์สถานีเปลี่ยนแบตของ Tesla มาใช้ แต่นั่นก็ต้องออกแบบระบบชาร์จ จัดเก็บอื่นๆ อีก
ผมนึกภาพช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ คนแห่กันเดินทางและปริมาณรถไปกองกระจุกกันที่สถานีชาร์จไฟ ที่ชาร์จได้ไม่เร็วพอ มันจะต้องโกลาหลมากแน่ๆ

พูดมาซะยืดยาว เอาเป็นว่าถ้าใช้ในเมือง และราคาถูกลงมาหน่อย จะน่าสนใจมากครับ เพราะการเช่าจะผลักภาระในเรื่องของการดูแลแบตออกไป แต่ถ้าต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ไม่เหมาะเอามากๆ ด้วยข้อจำกัดที่กล่าวไปครับ  ;D

ปล. ผมก็อยากได้ Leaf ตัว 30 kWh มาใช้ในเมืองนะครับ หรือจะเป็น Twizy หรือ Zoe ก็น่าลองใช้ดีครับ
แนบลิ้งค์สำหรับคอนเซ็ปต์นี้แต่เป็นของอังกฤษครับ http://www.drive-electric.co.uk/electric-car-leasing/

ขอบคุณครับ ไม่แน่ใจว่าที่อังกฤษ สำหรับ BMW i3 แล้วถือว่าคุ้มค่าไหมครับ (แต่สัญญาแค่ 2 ปีเอง)
Nissan Leaf และ Kia Saul ราคาต่ำว่ามากจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 13:28:22
สิทธิการเช่า กับความเป็นเจ้าของ

ผมมองว่าคนไทยยังต้องการความเป็นเจ้าของอยู่ กรณีขายต่อ มันดูได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า
อีกประเด็นคือระยะทาง ถ้าซัก 400 กิโลถึงโอเคครับ ตีว่าใช้รถวันละ 60 โล 5 วัน
ให้บัพเฟอร์เล็กน้อยซัก 100 โล เผื่อออกนอกลู่นอกทาง
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 13:54:47
สิทธิการเช่า กับความเป็นเจ้าของ

ผมมองว่าคนไทยยังต้องการความเป็นเจ้าของอยู่ กรณีขายต่อ มันดูได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า
อีกประเด็นคือระยะทาง ถ้าซัก 400 กิโลถึงโอเคครับ ตีว่าใช้รถวันละ 60 โล 5 วัน
ให้บัพเฟอร์เล็กน้อยซัก 100 โล เผื่อออกนอกลู่นอกทาง

แสดงว่าถ้าได้ระยะทางแค่ 200กม. ต่อวัน (ชาร์ตทุกวัน) แม่บ้านน่าจะอยากให้พ่อบ้านใช้สินะครับ  ::) ::) ::)
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: Sacrifice ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 14:35:08
อ่านดูน่าเอามาเป็น รถบริษัท หรือหน่วยงานรัฐมากกว่า   อาจไม่ประหยัดเท่าไหร่ แต่ได้ภาพลักษณ์ รักโลกไปเต็มๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 15:23:54
ไม่เอาครับ ซื้อของตัวเองเลยดีกว่า
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 17:03:47

ลองคิด กรณี ค่าไฟ และ Solar cell ที่ไม่ใช้ น้ำมัน เล่นๆ ดู

สมมุติ
รถไฟฟ้า B-Car  EV ขนาด
100 HP = 80 kw/ชม  = 80,000 w
ถ้าขับรถ 80KW เป็น เวลา 5 ชม 
จะ ใช้ พลังงาน = 80KwX5 = 400Kw = 400,000 W

ค่าไฟบ้านหน่วยละ 1kw/ชม = 2.5  บาท
คิดค่าไฟจะเสีย =  1,000 บาท

หากไม่เสียค่าไฟ
จะติด Solar เอง
มาหาขนาด แผง Solar ที่ต้องการ ต่อวัน
ปริมาณแสงอาทิตย์ สูงสุด คิดที่ 1 วัน = 5  ชม  ( แดดไม่ได้ออกตลอด 8 ชม และ มีความแรงของแดดไม่ถึง 100 % ตลอดทั้งวัน )
เอา พลังงานที่ใช้ต่อวัน หาร ด้วย จำนวน 5 ชม

ขนาด Solar cell ที่ต้องการ = 400,000 W/5
= 80000W หรือ 80 Kw
ราคา Solar Cell ขนาดใหญ่ าคา  40,000 บาท/kw (ราคา มือสอง พร้อม Invertor ของใหม่แพงกว่านี้ )
ต้องใช้เงิน  = 40,000 X 80
= 3.2 ล้านบาท เพื่อ ลงทุน ซื้อ ระบบ  Solar cell

ยังไม่รวม ระบบ แบตสำรองไฟไว้ใช้ ตอนไม่ได้ จอดชาร์ท อีก ราคา มหาศาลกันทีเดียว

ปล ถ้าใช้รถต่อวันน้อยกว่านี้ก็จะลดค่า Solar ลงได้อีก
แต่ยังไง ก็หลัก ล้านขึ้น แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: Mr. RO ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 17:54:19
ผมมองว่าถ้านับ B-Car EV อย่าง nissan leaf ก็น่าจะอยู่ในระดับที่นะจะอยู่ใน segment นี้ได้นะ
โดย nissan leaf มีขนาด 30 kWh มี range ราวๆ 170 km
ซึ่งถ้าจะใช้ solar cell ขนาดก็จะเล็กลงมาครับซึ่งผมไปตรวจสอบจากเว็บนี้นะครับ
http://tarad.in.th/product/detail/1230/1230.pnc  ราคาก็ 1.3 ล้าน
หรือ
http://www.kjsolars.com/product-th-1082609-6409932-%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94+10KW+++%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%87+SunSolar++250w+40%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%87+++Growatt+5000MTL+10+**+%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2.html ถ้าติด3ชุดเพื่อให้ได้ 30 kWh ก็คงราคาราวๆ 850,000 บาทนะครับ และแบบล่างนี้ต้องใช้แผงถึง 120 แผง แต่ละแผงใช้พื้นที่ราวๆ 2 ตรม หมายความว่าต้องมีหลังคา หรือ พื้นที่ 240 ตรม ที่โล่งๆ เพื่อติดตั้งเซลแสงอาทิตย์ หรือ ใหญ่กว่าครึ่งสนามบาสอยู่ราวๆ 30 ตรม เลยนะครับ เพื่อจะมีพื้นที่เพียงพอจะใช้แสงอาทิตย์ที่ชาร์ตไฟลงแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าขนาด 30 kWh นะครับ

ข้อมูลข้างต้นในเว็บ เป็นพวกระบบ ไฟฟ้าแบบ On-Grid นะครับ
แต่ถ้าเป็น Off-Grid อย่างน้อยก็ต้องมี ระบบแบบเตอรี่สำรองด้วยอย่างที่คุณ mamaman บอกไว้ และตัวระบบอื่นๆอาจต้องมีปรับให้เข้าด้วย เพราะอย่างอุปกรณ์ที่เราใช้ตามบ้านเป็น กระแสสลับ แต่ ถ้าทำระบบที่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ เป็นกระแสตรง อุปกรณ์ก็ต้องเป็นอุปกรณ์ที่รับไฟกระแสตรง
ผมยังไม่แน่ใจว่า best practice สำหรับระบบที่จะมี Solar cell ที่จะเป็น Off-Grid เพรียวๆ ควรจะเป็นไงนะครับ ต้องหาอุปกรณ์ที่ใช้กับไฟตรงไปเลยหรือ หรือตัวแปลงให้เป็นไฟกระแสสลับเพื่อใช้กับอุปกรณ์ทั่วไปได้แบบไหนจะดีกว่ากัน ครับ
แต่ตอนนี้อย่างน้อยมีระบบแบบเตอรี่ที่อาจใช้เป็นตัวอ้างอิง อย่าง Power wall ที่ราคา 5500 US$ และมีความจุ 14 kWh แล้ว และจ่ายไฟได้ 5 kw ต่อเนื่องและ peak ที่ 7 kw
แต่ว่าถ้ามี powerwall 2 เพียงตัวเดียวก็ชาร์ตไฟขนาด 30 kWh ไม่พอแน่ๆครับ ซึ่งต้องมีอย่างน้อยกี่ตัวละ ผมเดาเอานะ ว่าน่าจะซัก 3 ตัวเป็นอย่างน้อย คือ จากสมมติฐานดังนี้นะครับ ความจุ 14 kWh * 3 ตัว และเพื่อ การสุญเสียพลังงานจากการแปลงกำลังไฟฟ้าสัก 30% นะครับ = 14*3*.7 = 29.4 kW ซึ่งเกือบพอสำหรับการชาร์ตแบตเตอรี่ขนาด 30 kWh ที่บรรจุใน Nissan leaf ในโมเดลที่ใช้เป็นตัวอ้างอิงนี้ แต่ว่า แบบนั้น powerwall 2 ที่ซื้อมาไม่ต้องใช้ไฟอื่นๆกันเลยนะครับเพราะต้องให้ไฟชาร์ตเต็มไว้เพื่อชาร์ตรถยนต์กันอย่างเดียวแต่ถ้าอยากใช้งานอื่นในบ้านด้วยคงต้องมี powerwall 2 สัก 4 ตัวคือ 22,000 US$ ยังไม่นับค่าติดตั้งและค่าภาษีเลยนะครับ
แค่ค่าของระบบแบตเตอรี่นี้ก็อีก 700,000 บาทแล้วค่าภาษีน้ำเข้า ค่าขนส่งและค่าภาษี VAT อีก 30% ก็เกือบล้านแหละ
สรุปค่าระบบเซลแสงอาทิตย์ เพื่อทำ off-grid เพื่อจะเพียงพอชาร์ตรถไฟฟ้าขนาด 30 kWh ก็ต้องใช้เงินราว 2 ล้าน เลยนะ สำหรับวันนี้
คงต้องรอให้มีการใช้งานกันแพร่หลาย หรือ ราคาต่างๆลงกว่านี้สัก 5-10 เท่านะครับ ผมว่าถึงนะจะเหมาะจะใช้งานจริงๆสำหรับคนทั่วไป
ผมว่าคงต้องรออีกเกือบ 10 ปีอย่างเร็วแต่ผมคาดว่าน่าจะเป็น 15-20 ปีมากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 18:45:25
เรียนท่าน mamaman และท่าน Mr.RO

หมายถึงทำระบบ Solar Cell ที่บ้านและชาร์ตไฟลงแบตเตอรี่เก็บไว้ตอนกลางวัน
และชาร์ตจากแบตเตอรี่ Solar Cell ลงในแบตเตอรี่รถตอนกลางคืน หรือเปล่าครับ

ถ้าใช่นี่หากผู้ให้เช่าให้ระบบ Solar Cell นี้มาพร้อมรถด้วย ก็สามารถประหยัดไฟบ้านไปได้อีกสินะครับ

หรือถ้าติด Solar Cell ที่หลังคารถก็จอดตากแดดชาร์ตไฟก็ได้สินะครับ
 ;D ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 21:41:24
เรียนท่าน mamaman และท่าน Mr.RO

หมายถึงทำระบบ Solar Cell ที่บ้านและชาร์ตไฟลงแบตเตอรี่เก็บไว้ตอนกลางวัน
และชาร์ตจากแบตเตอรี่ Solar Cell ลงในแบตเตอรี่รถตอนกลางคืน หรือเปล่าครับ

ถ้าใช่นี่หากผู้ให้เช่าให้ระบบ Solar Cell นี้มาพร้อมรถด้วย ก็สามารถประหยัดไฟบ้านไปได้อีกสินะครับ

หรือถ้าติด Solar Cell ที่หลังคารถก็จอดตากแดดชาร์ตไฟก็ได้สินะครับ
 ;D ;D ;D ;D ;D

ราคา ไม่รวม แบต ก็ตามที่ผมบอกละครับ เป็นของมือสอง
40,000 บาท/kw รวม Invertor  แล้ว ชาร์ทเข้าอุปกรณ์โดยตรง

หากรวมแบตกับระบบ สำรองไฟ งบจะเพิ่มอีกหนัก หนาสาหัสกว่านี้เยอะมากๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 23:14:15
น่าสนใจนะครับ แต่ไม่รุจะมีคนกล้าทำมั๊ย
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: DriveOnly ที่ พฤศจิกายน 14, 2016, 23:39:54
น่าสนใจ แต่ถ้าระยะวิ่งเคลมได้แค่ 150-200 กม คงไม่เอา (ใช้จริงคงน้อยกว่านั้นมาก) อีกอย่าง ขากลับบ้าน วันดีคืนดีเจอรถติดนรก 2-3 ชั่วโมง ผมกลัวจะกลับไม่ถึงบ้าน :'(
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: TrentXWB ที่ พฤศจิกายน 15, 2016, 08:34:37
คิดเล่นๆ แต่ถ้าทำจริงจะดูน่าสนไหมครับ

ถ้ามีรถไฟฟ้าขนาดประมาณ B-Segment (สมมุติว่าเป็น Nissan Leaf  แต่อาจจะต้องเป็นรุ่นใหม่ที่ราคาถูกลง)
ประมาณว่าให้เช่าใช้เดือนละ 10,000 - 15,000 บาท เป็นเวลา 4 ปี (ค่าเช่าผมคิดเองนะครับ ไม่ได้อิงอะไร)
ชาร์ตไฟครั้งหนึ่ง (ชาร์ตที่บ้านตอนกลางคืน) วิ่งได้ 150 - 200 กม.
ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุง ค่าต่อทะเบียน ประกันภัยชั้น 1 ตลอดระยะเวลาสัญญา 4 ปี
ครบ 4 ปี เอารถคันใหม่ รุ่นใหม่ มาให้ใช้ คืนคันเก่าไป

เข้าใจว่าระบบนี้มีอยู่แล้วสำหรับ นิติบุคคล บริษัทต่างๆ
แต่ในแง่ผู้บริโภค ถ้าเราไม่ยึดติดกับความเป็นเจ้าของ และกังวลเรื่องราคาขายต่อ
ใช้รถเดิมๆ ไม่แต่ง เน้นความสะดวกในการเดินทาง

ท่านคิดเห็นอย่างไรครับ

ชาร์ตไฟครั้งหนึ่ง (ชาร์ตที่บ้านตอนกลางคืน) วิ่งได้ 150 - 200 กม.
ถ้าชาร์จ 8 ชั่วโมง ได้ระยะประมาณนี้และความจุแบตประมาณ 30 - 40 kWh
ใช้ในเมืองรถติดๆ มากๆ ระยะทางจากบ้านไปออฟฟิศ 20 - 40 กม. อาจจะพอครับ (ผมไม่รู้ว่าแอร์รถกินไฟจากแบตหนักหนาขนาดไหน เลยอาจต้องเผื่อระยะรถออกมาอีกประมาณนึง) ตอนเช้าพอมาถึงออฟฟิศแล้วชาร์จกลับเผื่อไว้
ใช้ในเมือง ราคาประมาณ 6000 - 10000 ต่อเดือน อาจมีคนหันมาใช้มากขึ้น

แต่ถ้าเดินทางไกล ออกตจว ผมคิดว่าขายยาก เพราะระยะทางน้อยเกินไป และระยะเวลาในการชาร์จกลับช้าเกินไปครับ ไม่สะดวกมากๆ
แม้แต่ Supercharger ของ Tesla ที่ 30 นาที ได้ระยะทาง 170 ไมล์ (273 กม.) ผมก็ยังคิดว่ายังช้าเกินไป ถ้าจะให้คนหันมาใช้จริงๆ
Supercharger ต้องทำได้ 300 - 500 กม. ต่อการชาร์จ 10 นาที จะยอดเยี่ยมมากถ้าได้ภายใน 5 นาที (ชาร์จกลับแค่ 80 เปอร์เซ็นต์)
เวลาที่ใช้ในการชาร์จกลับมันควรจะพอๆ กับ การเติมน้ำมันที่ปกติ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที
ถ้าชาร์จไม่เร็วทันใจก็ต้องเอาคอนเซ็ปต์สถานีเปลี่ยนแบตของ Tesla มาใช้ แต่นั่นก็ต้องออกแบบระบบชาร์จ จัดเก็บอื่นๆ อีก
ผมนึกภาพช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ คนแห่กันเดินทางและปริมาณรถไปกองกระจุกกันที่สถานีชาร์จไฟ ที่ชาร์จได้ไม่เร็วพอ มันจะต้องโกลาหลมากแน่ๆ

พูดมาซะยืดยาว เอาเป็นว่าถ้าใช้ในเมือง และราคาถูกลงมาหน่อย จะน่าสนใจมากครับ เพราะการเช่าจะผลักภาระในเรื่องของการดูแลแบตออกไป แต่ถ้าต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ไม่เหมาะเอามากๆ ด้วยข้อจำกัดที่กล่าวไปครับ  ;D

ปล. ผมก็อยากได้ Leaf ตัว 30 kWh มาใช้ในเมืองนะครับ หรือจะเป็น Twizy หรือ Zoe ก็น่าลองใช้ดีครับ
แนบลิ้งค์สำหรับคอนเซ็ปต์นี้แต่เป็นของอังกฤษครับ http://www.drive-electric.co.uk/electric-car-leasing/

ขอบคุณครับ ไม่แน่ใจว่าที่อังกฤษ สำหรับ BMW i3 แล้วถือว่าคุ้มค่าไหมครับ (แต่สัญญาแค่ 2 ปีเอง)
Nissan Leaf และ Kia Saul ราคาต่ำว่ามากจริงๆครับ

ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ ไม่เคยเช่า  ::) แต่เห็นเขาจะใช้ตัว i3 Range extender กันมากกว่า เพราะสะดวกกว่า ในท้ายรถมีแกลลอนน้ำมันเล็กๆ ด้วยมั้งครับถ้าจำไม่ผิด ส่วน leaf คนใช้เยอะราคาเลยไม่ค่อยแรงครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ พฤศจิกายน 15, 2016, 09:39:45


ผมว่า ตลาดกลุ่ม นี้ คงเป็น City car ในเมือง ที่ การจราจรไม่ติด  ซะมากกว่าครับ และ ใช้แทน มอเตอร์ไซด์ ซะมากกว่า
วิ่งแป๊บๆ ก็ถึงที่ทำงาน ไปกลับ ไม่เกิน 100 โล แต่ก็เสี่ยงนะหากรถติด เปิดแอร์นี่ บ้านเราคงมีแบตหมดกลางทางได้
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ พฤศจิกายน 15, 2016, 10:14:13
Tech ฝั่ง BEV พัฒนาต่อเนื่องตลอดครับ อย่างLeaf next gen แบตดีขึ้น ขนาดเล็กลง แต่ได้ระยะทางไกลมากขึ้น (+200miles ในปีสองปีเมื่อเทียบกับ คู่แข่งขยับตัวช้าๆ หยิ่งๆ ไม่มี R&D เท่าไร แต่ภูมิใจกับระยะทางแค่ 168 miles ในปี 2020)

ส่วน Solar panel เป็นทางเลือกสำหรับคนชอบ off the grid หรือสำหรับการใช้รถ ต้องการ energy independence ได้ระดับนึง ไม่ต้องการเป็นทาสพวก Carbon industry (ซึ่งระบบ FCEV จะลากคุณเข้าไปทางนั้น โดนเล่นกลไกราคาอ่วม เนื่องจากโมเดล supply chainของแก๊สไฮโดรเจน เหมือนกับ petroleum, NGV,LPG) 

อย่างไรก็ตาม ของเล่นพวกนี้พวกโลกที่หนึ่ง บวกจีน เค้าได้ใช้ก่อน ส่วนบ้านเราถ้ายัง bootlicking กันอย่างที่ทำมาตลอด 40 กว่าปีนี้คง     อีกนานนนครับ  8)

http://www.autoblog.com/2016/06/20/nissan-200-mile-leaf-coming/
https://www.cnet.com/roadshow/news/the-magic-number-nissans-next-generation-leaf-will-achieve-a-200-mile-range/
http://insideevs.com/nissan-provides-details-next-generation-leaf-luxury-infiniti-ev-back-track-2017-debut/
หัวข้อ: Re: ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นให้เช่าใช้รถไฟฟ้า 4-5 ปี ใช้ในเมืองท่านคิดว่าจะเวิร์คในไทยไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: Lancer ที่ พฤศจิกายน 15, 2016, 14:53:12
แล้วถ้าเจอน้ำท่วม รถติดไปห้าชั่วโมง  จะขับกลับบ้านได้ไหมครับ   ;D ถ้ายังได้ ก็น่ารับไว้พิจารณาครับ