ผมมองว่าถ้านับ B-Car EV อย่าง nissan leaf ก็น่าจะอยู่ในระดับที่นะจะอยู่ใน segment นี้ได้นะ
โดย nissan leaf มีขนาด 30 kWh มี range ราวๆ 170 km
ซึ่งถ้าจะใช้ solar cell ขนาดก็จะเล็กลงมาครับซึ่งผมไปตรวจสอบจากเว็บนี้นะครับ
http://tarad.in.th/product/detail/1230/1230.pnc ราคาก็ 1.3 ล้าน
หรือ
http://www.kjsolars.com/product-th-1082609-6409932-%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94+10KW+++%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%87+SunSolar++250w+40%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%87+++Growatt+5000MTL+10+**+%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2.html ถ้าติด3ชุดเพื่อให้ได้ 30 kWh ก็คงราคาราวๆ 850,000 บาทนะครับ และแบบล่างนี้ต้องใช้แผงถึง 120 แผง แต่ละแผงใช้พื้นที่ราวๆ 2 ตรม หมายความว่าต้องมีหลังคา หรือ พื้นที่ 240 ตรม ที่โล่งๆ เพื่อติดตั้งเซลแสงอาทิตย์ หรือ ใหญ่กว่าครึ่งสนามบาสอยู่ราวๆ 30 ตรม เลยนะครับ เพื่อจะมีพื้นที่เพียงพอจะใช้แสงอาทิตย์ที่ชาร์ตไฟลงแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าขนาด 30 kWh นะครับ
ข้อมูลข้างต้นในเว็บ เป็นพวกระบบ ไฟฟ้าแบบ On-Grid นะครับ
แต่ถ้าเป็น Off-Grid อย่างน้อยก็ต้องมี ระบบแบบเตอรี่สำรองด้วยอย่างที่คุณ mamaman บอกไว้ และตัวระบบอื่นๆอาจต้องมีปรับให้เข้าด้วย เพราะอย่างอุปกรณ์ที่เราใช้ตามบ้านเป็น กระแสสลับ แต่ ถ้าทำระบบที่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ เป็นกระแสตรง อุปกรณ์ก็ต้องเป็นอุปกรณ์ที่รับไฟกระแสตรง
ผมยังไม่แน่ใจว่า best practice สำหรับระบบที่จะมี Solar cell ที่จะเป็น Off-Grid เพรียวๆ ควรจะเป็นไงนะครับ ต้องหาอุปกรณ์ที่ใช้กับไฟตรงไปเลยหรือ หรือตัวแปลงให้เป็นไฟกระแสสลับเพื่อใช้กับอุปกรณ์ทั่วไปได้แบบไหนจะดีกว่ากัน ครับ
แต่ตอนนี้อย่างน้อยมีระบบแบบเตอรี่ที่อาจใช้เป็นตัวอ้างอิง อย่าง Power wall ที่ราคา 5500 US$ และมีความจุ 14 kWh แล้ว และจ่ายไฟได้ 5 kw ต่อเนื่องและ peak ที่ 7 kw
แต่ว่าถ้ามี powerwall 2 เพียงตัวเดียวก็ชาร์ตไฟขนาด 30 kWh ไม่พอแน่ๆครับ ซึ่งต้องมีอย่างน้อยกี่ตัวละ ผมเดาเอานะ ว่าน่าจะซัก 3 ตัวเป็นอย่างน้อย คือ จากสมมติฐานดังนี้นะครับ ความจุ 14 kWh * 3 ตัว และเพื่อ การสุญเสียพลังงานจากการแปลงกำลังไฟฟ้าสัก 30% นะครับ = 14*3*.7 = 29.4 kW ซึ่งเกือบพอสำหรับการชาร์ตแบตเตอรี่ขนาด 30 kWh ที่บรรจุใน Nissan leaf ในโมเดลที่ใช้เป็นตัวอ้างอิงนี้ แต่ว่า แบบนั้น powerwall 2 ที่ซื้อมาไม่ต้องใช้ไฟอื่นๆกันเลยนะครับเพราะต้องให้ไฟชาร์ตเต็มไว้เพื่อชาร์ตรถยนต์กันอย่างเดียวแต่ถ้าอยากใช้งานอื่นในบ้านด้วยคงต้องมี powerwall 2 สัก 4 ตัวคือ 22,000 US$ ยังไม่นับค่าติดตั้งและค่าภาษีเลยนะครับ
แค่ค่าของระบบแบตเตอรี่นี้ก็อีก 700,000 บาทแล้วค่าภาษีน้ำเข้า ค่าขนส่งและค่าภาษี VAT อีก 30% ก็เกือบล้านแหละ
สรุปค่าระบบเซลแสงอาทิตย์ เพื่อทำ off-grid เพื่อจะเพียงพอชาร์ตรถไฟฟ้าขนาด 30 kWh ก็ต้องใช้เงินราว 2 ล้าน เลยนะ สำหรับวันนี้
คงต้องรอให้มีการใช้งานกันแพร่หลาย หรือ ราคาต่างๆลงกว่านี้สัก 5-10 เท่านะครับ ผมว่าถึงนะจะเหมาะจะใช้งานจริงๆสำหรับคนทั่วไป
ผมว่าคงต้องรออีกเกือบ 10 ปีอย่างเร็วแต่ผมคาดว่าน่าจะเป็น 15-20 ปีมากกว่าครับ