Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ww ที่ พฤศจิกายน 29, 2016, 17:09:14
-
เครื่อง 1.5 N/A กับ 1.5 turbo เบนซิลทั้งคู่ วิ่งในเมืองรถติดบ้าง วิ่งความเร็วต่ำไม่เกิน 60 km/hr เครื่องยนต์ไหนประกยัดน้ำมันกว่ากัน ในบอดี้ เกียร์ ขนาดแม็กและอื่นๆเท่ากันต่างกันที่มีturbo กับไม่มี turbo
-
เทียบยากนะครับ
เพราะไม่มียี่ห้อไหน ทำบอดี้เดียวกัน 1.5 โบ กับไม่โบ
แต่ผมเดาว่า N/A ประหยัดกว่าครับ
-
ถ้าเอาตามหลักเทอร์โมไดนามิก ก็ต้องตอบว่า1.5เทอร์โบประหยัดกว่า เพราะมีแรงเหลือมาช่วยนำอากาศเข้า ลดPumping loss ครับ
พอเอาเข้าจริงๆ รถแรงเหยียบเพลิน กระทืบๆเอาแบบนี้ เทอร์โบจะกินกว่าครับ
-
อืม น่าคิด แต่ผมว่า ซีวิค 1.5 Turbo น่าเล่น
-
ถ้าความเร็วไม่เกิน 60km/h
- แบบ ช้า สลับ เร็ว ไปเรื่อยๆ น่าจะพอๆ กัน เพราะเทอร์โบเองจะติดบูสก็ต้องรอบประมาณนึง(แล้วแต่รุ่น แล้วแต่ยี่ห้อ แล้วแต่รูปแบบเทอร์โบ)
- แบบ หยุดนิ่ง บ่อยๆ น่าจะ NA ประหยัดกว่า เพราะอาจจะต้องเร่งเครื่องยนต์ เพื่อให้รถเคลื่อนตัว ใช้รอบประมาณนึง เทอร์โบก็จะทำงานบ่อย
-
รอบเดินเบา Turbo ไม่ทำงาน ถ้าตั้งอัตราส่วนน้ำมัน อากาศเท่ากันก็น่าจะไม่ต่างนะครับ
ช่วงเร่งหากมี Turbo จะอัดอากาศได้มากกว่า จึงเติมเชื้อเพลิงได้มากขึ้น ทำให้ได้แรงมากขึ้น
แต่พอลอยแล้วคงความเร็วไว้ น่าจะมีโอกาสเผาไหม้ได้สมบูรณ์กว่า N/A ใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพกว่า
ถ้าวิ่งยาวๆ Turbo น่าจะประหยัดกว่า N/A (ถ้าน้ำหนักรถเท่ากัน)
แต่ถ้ารถติดคิดว่า N/A น่าจะประหยัดไม่ต่างจาก Turbo นะครับ (ถ้าน้ำหนักรถเท่ากัน)
รอฟังด้วยคนครับ
-
1.5 แบบไหนละ
Jazz 1.5 เดิม vs Jazz 1.5 เซตโบ
Vios 1.5 เดิม vs Vios 1.5 เซตโบ
ถ้าตามข้างต้น รถติด ปล่อยไหล ไม่กดกระชาก วิ่งความเร็วต่ำไม่เกิน 60
ต่างไม่เยอะ เพราะความเร็วไม่เกิน 60 รอบไม่เกิน2000 บูสติดหรือยังไม่รู้เลย หรือบูสยังไม่มาด้วยซ้ำ
ถ้าเทียบเป็นตัวเลข
1.5 N/A ------- 8-9 โล/ลิตร
1.5 เซตโบ ----- 7.5-8.5 โล/ลิตร
ถ้าซัดกันหนักๆ ต่างแน่นอน รอบ 5000+ กดคันเร่งจม
-
ผมแฟน โบ...
ไม่ผิดแน่ครับ
โบเปลืองกว่าในเมือง ยิ่งรถติดมากยิ่งออกตัวบ่อยยิ่งเปลือง....
แต่วิ่งนอกเมืองแบบไม่เค้นแรง วิ่งนุ่ม ๆเนิบ ๆ 110-120 โบ ประหยัดกว่า
-
มันขึ้นอยู่กับว่า เป็น direct injection หรือเปล่า
ถ้าเทียบ 1.5 หัวฉีดธรรมดา มาเทียบกับ 1.5 Turbo หัวฉีดตรง
เป็นแบบนี้ 1.5 Turbo ต้องกินน้อยกว่าอยู่แล้ว
แต่ถ้าเป็น direct injection ทั้งคู่ ซีซีเท่ากัน 1.5 ไม่มีโบ ก็กินน้อยกว่า
-
Sylphy 1.6 กับ 1.6 DIG Turbo ตัวเทอร์โบกินกว่าชัดเจน 1.5 กับ 1.5 เทอร์โบ คงเหมือนกัน
-
โบยังไม่ติดบูทแต่มันก็ยังหมุนอยู่ตลอดน้ะครับ
ซึ่งย่อมเสียพลังงานไอเสียไปปั่นใบพัดอยู่ดี และ loss ไปกับท่อทางเดินอากาศอีกเยอะ
เพราะฉะนั้นในเมืองโบกินกว่าแน่นอน ;D
การถ่ายเทพลังงานไปในเครื่องที่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวมากกว่า
ย่อมต้องใช้พลังงานมากกว่า ถ้าเทคโนโลยี่ไม่ต่างกันน้ะ
-
ผมว่าติด Turbo กินกว่าในขณะที่ CC รถเท่ากัน
-
เทียบยากนะครับ
เพราะไม่มียี่ห้อไหน ทำบอดี้เดียวกัน 1.5 โบ กับไม่โบ
แต่ผมเดาว่า N/A ประหยัดกว่าครับ
Vios ไงครับ แต่ไม่เคยเจอผลทดสอบของรุ่น 1.5T
-
เทียบยากนะครับ
เพราะไม่มียี่ห้อไหน ทำบอดี้เดียวกัน 1.5 โบ กับไม่โบ
แต่ผมเดาว่า N/A ประหยัดกว่าครับ
Vios ไงครับ แต่ไม่เคยเจอผลทดสอบของรุ่น 1.5Tต
MG5 ตัว 1.5 กับตัว turbo เลยคับ
-
จขกท คงหมายถึง NA vs Turbo(โรงงาน) ใช่ไหมครับ ไม่ใช่ เอาเครื่อง 1.5มาเซ็ทโบเอง
ผมจิ้มไปที่ 1.5 Turbo โรงงานประหยัดกว่าครับ
ปล. เงื่อนไขคืออยู่ในบอดี้เดียวกัน
-
Sylphy 1.6 กับ 1.6 DIG Turbo ตัวเทอร์โบกินกว่าชัดเจน 1.5 กับ 1.5 เทอร์โบ คงเหมือนกัน
ตัว Turbo(โรงงานนะครับ) น่าจะกินกว่าครับ(นิดหน่อย) ในชีวิตจริงๆ ทั้งนี้ขึ้นกับการขับขี่ ลักษณะการเติมคันเร่งครับ
ตัว 1.6 DIG ถ้าขับและปรับตัวเราได้ให้ วิ่งที่รอบเครื่องไม่เกิน 1500-1700 รอบ คือ ไม่ให้ติดบูสต์บ่อยๆ ซึ่งมันทำได้ ปรับตัวเราให้เข้ากับรถ ก็จะกินไม่มากครับ ซึ่งทำได้ทั้ง กรณีที่ 1 คือ ไหลๆ และ 2 แบบเคลื่อนตัวสลับหยุด
ถ้าเราไม่ปรับไม่ทำความคุ้นเคยกับเกียร์ กดให้ติดบูสต์บ่อยๆ ก็จะสูบน้ำมันมากมาย
DIG ที่ใช้วิ่งมา 3.15 หมื่น กม. ตจว.90% + ในเมือง กทม.ชั้นใน 10-15% ของระยะทาง สิ้นเปลืองเฉลี่ยทั้งหมด 14.678 กม./ลิตร ครับ (E10) จดทุกถังตั้งแต่ออกรถ และกินกว่า L33-2.5(วิ่ง 3.5 หมื่น กม.)ซึ่งคันนั้นวิ่งเหมือนกันเปี๊ยบ กิน 14.956 กม/ลิตร และเป็น (E20) เป็นจริงตามความรู้สึก ว่า DIG กินกว่า N/A 2.5 แต่ตัวเลขทดสอบ L33-2.5 กลับกินกว่า DIG มาก ***
คำตอบคือ อยู่ที่เราขับครับ ถ้าขับเรื่อยๆ เลี้ยงรอบไว้ไม่ให้ติดบุสต์บ่อยๆ ก็ไม่ค่อยกิน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าเรากับรถ เกียร์ ปรับเข้ากันได้มากแค่ไหน CVT ไม่เลวร้ายนะครับ ขับๆแล้วชอบ ปรับการเติมคันเร่งดีนี่ประหยัดสุดยอด บทจะเร็วไปเร็วๆไม่มีรอยต่อไปยาวๆ
รวมๆกินกว่าแน่นิดหน่อย แต่ข้อดีคือ ขับเรื่อยๆก็กินไม่มาก แต่มีแรงสำรองให้ใช้เหลือเฟือยามต้องการ ถ้าไม่ได้ชอบแนวรุนแรง ไปเร็วๆ ก็เลือก N/A ครับ
-
Sylphy 1.6 กับ 1.6 DIG Turbo ตัวเทอร์โบกินกว่าชัดเจน 1.5 กับ 1.5 เทอร์โบ คงเหมือนกัน
ตัว Turbo(โรงงานนะครับ) น่าจะกินกว่าครับ(นิดหน่อย) ในชีวิตจริงๆ ทั้งนี้ขึ้นกับการขับขี่ ลักษณะการเติมคันเร่งครับ
ตัว 1.6 DIG ถ้าขับและปรับตัวเราได้ให้ วิ่งที่รอบเครื่องไม่เกิน 1500-1700 รอบ คือ ไม่ให้ติดบูสต์บ่อยๆ ซึ่งมันทำได้ ปรับตัวเราให้เข้ากับรถ ก็จะกินไม่มากครับ ซึ่งทำได้ทั้ง กรณีที่ 1 คือ ไหลๆ และ 2 แบบเคลื่อนตัวสลับหยุด
ถ้าเราไม่ปรับไม่ทำความคุ้นเคยกับเกียร์ กดให้ติดบูสต์บ่อยๆ ก็จะสูบน้ำมันมากมาย
DIG ที่ใช้วิ่งมา 3.15 หมื่น กม. ตจว.90% + ในเมือง กทม.ชั้นใน 10-15% ของระยะทาง สิ้นเปลืองเฉลี่ยทั้งหมด 14.678 กม./ลิตร ครับ จดทุกถังตั้งแต่ออกรถ
คำตอบคือ อยู่ที่เราขับครับ ถ้าขับเรื่อยๆ เลี้ยงรอบไว้ไม่ให้ติดบุสต์บ่อยๆ ก็ไม่ค่อยกิน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าเรากับรถ เกียร์ ปรับเข้ากันได้มากแค่ไหน CVT ไม่เลวร้ายนะครับ ขับๆแล้วชอบ ปรับการเติมคันเร่งดีนี่ประหยัดสุดยอด บทจะเร็วไปเร็วๆไม่มีรอยต่อไปยาวๆ
รวมๆกินกว่าแน่นิดหน่อย แต่ข้อดีคือ ขับเรื่อยๆก็กินไม่มาก แต่มีแรงสำรองให้ใช้เหลือเฟือยามต้องการ ถ้าไม่ได้ชอบแนวรุนแรง ไปเร็วๆ ก็เลือก N/A ครับ
ละเอียดมากครับ จดตลอด และขับรถเก่งมาก
...ส่วนมากคนที่มีโบ มักอดไม่ได้ พอมันหงุดหงิดรถติด พอขยับได้ก็ กด ๆ แล้วก็เบรค มันเลยเปลือง ถ้าวิ่งแบบคุณ ไม่เปลืองครับ...
-
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมหมายถึงเทอร์โบเซ็ตจากโรงงานครับ ขอโทษที่ระบุไม่ละเอียด ถ้ากระทู้หน้าจะระบุให้ละเอียดกว่านี้ครับ