Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:14:04

หัวข้อ: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Red Bicycle ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:14:04
 :) :) :) จากโครงการรถคันแรกที่ผ่านมา ปลดล็อค 5 ปีไปแล้ว ผลที่เกิดกับประชาชนผู้ซื้อรถ และ ค่ายรถยนต์ที่ร่วมโครงการ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว 

 :) :) โครงการรถคันแรกยังจะมีได้อีกไหมครับ ถ้ามีประชาชน และ ค่ายรถต่างๆ ยังอยากเข้าร่วมอยู่ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:17:52
ประชาชนอยากร่วมอยู่แล้วครับ
ผมก็อยากออกรถให้ภรรยาอยู่พอดี

แต่รัฐคงไม่เอาด้วย เพราะเค้าอยากได้ภาษีพวกเราจนตัวสั่น
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:26:21
ส่วนลด หรือ ได้เงินคืน ใครบ้างไม่เอา  ::)

ปัญหาคือ CC เกิน 555
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: alpha14 ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:29:28
ผมว่าคนยังต้องการอยู่นะ โดยเฉพาะวัยเรียนมหาลัยพ่อแม่ซื้อให้ วัยทำงานเริ่มสร้างตัว
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tnp_super ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:33:20
อยากได้แต่ขอเป็นทุกรุ่นที่ผลิตในไทยได้ไหม(ไม่รวมบรรทุก)
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:45:33
เอาครับเอาเงิน 100,000 ไปทำอย่างอื่นเพิ่มได้ดีกว่าเอาให้รัฐไปลงทุนกับโครงการอะไรไม่รู้
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:49:06
คิดว่าคงไม่มีอีกแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Messe ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:49:25
เอาไปทำไมจะขายก็ต้องรอ 5 ปี  ซื้อในโครงการลดไม่กี่หมื่นไม่มีของแถมสักอย่าง ซื้อตอนมีโปรงานมอเตอร์โชว์ได้ลดแสนกว่าของแถมเพียบ แค่รอจังหวะหน่อยแค่นั้น
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:51:07
คิดว่าอย่าเลยครับผลเสียมันมีมากกว่าผลได้เยอะเลย แต่ถ้ามาจริงก็คงเอาแหละครับเพราะถึงเวลาที่จำต้องออกรถใหม่แล้วตอนนี้เหลือแค่เอาช่วงนี้หรือปลายปี ซึ่งถ้าผมจะซื้อไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคืนภาษีแต่เพราะต้องการใช้
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มีนาคม 22, 2017, 09:59:00

พอเถอะ ครับ จะบิดเบื่อน เพี้ยนอะไรนักหนา
ระบบ รวนหมด จะเก็บแพงๆ ก็ รับผิดชอบ ยอดขายโดยรวมไป

ยั่งยืน ไม่ใช่ ฉาบฉวย เบื่อครับ น่ารำคาญ ปัญญาอ่อน
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ มีนาคม 22, 2017, 10:11:45
วิเคราะห์สถานการณ์จริง ถึง รบ. นี้อยากจะทำ แต่คงทำไม่ได้  8)
แต่ส่วนตัวผมคิดว่าไม่มีดีแล้ว  ตั้งแต่มีรถคันแรก เขียงใหม่รถติดนรกมาก
ถนนก็แคบ ขนส่งมวลชนไม่มี (รถแดงไม่นับเป็นขนส่งมวลชน)
ช่วงมีโปร ค่ายรถหยิ่งกันทุกยี่ห้อ ของแถมน้อยมาก
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Impulse ที่ มีนาคม 22, 2017, 10:14:52
ค่ายรถ และ Supplier .... คงคิดในใจว่าพวกฉันปิดบริษัทแล้วไปขายเต้าฮวยดีกว่า
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ มีนาคม 22, 2017, 10:26:48
ฝันว่า เฟียสต้าใหม่ เอาดีเซลเข้าร่วม จะได้สอยมาแต่งขำๆ
ไม่เน้นแรง. เน้นเหมือนสวยเหมือนคันของพี่เคนพอ
(https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRBD-6hlSnER7cJ1mm9ALSgVHoE66aEFrCrWmWYw2HEU3mNPimwLfX_XFs88g)
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oppa ที่ มีนาคม 22, 2017, 11:40:26
ถ้ามีโครงการ ยังไงก็มีคนร่วม  ผมเชื่อแบบนั้น  ขนาดผมเองไม่อยากให้เกิดโครงการนี้ แต่พอมันเกิดแล้วเราก็ต้องใช้สิทธิ เงิน แสน ไม่ใช่น้อย สำหรับคนชั้นกลาง ถึงล่าง 
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: citrinecw ที่ มีนาคม 22, 2017, 13:19:32
55555 คราวที่แล้วทำตลาดบิดเบี้ยวไปหลายปี ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเป็นปรกติ คิดว่าคงไม่นา่จะมีรัฐบาลไหนกล้าลองอะไรแบบนี้ไปอีกนานเลยครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ มีนาคม 22, 2017, 13:53:53
คงจะยากละตอนนี้
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มีนาคม 22, 2017, 14:56:46
คนซื้อ เอาครับ

ไฟแนนซ์ คงเอา แต่คงเข้มงวดขึ้น เพราะที่ผ่านมา หนี้เสียเยอะมาก
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CookiE ที่ มีนาคม 22, 2017, 15:22:53
อย่านำพาความหายนะมาอีกเลยครับ ไม่ว่าจะการจราจร ที่จอดรถ (บางท่านซื้อมาไม่ได้ขับด้วยซ้ำ จอดไว้ข้างทางบ้าง อะไรบ้าง) มลภาวะ สู้เพิ่มภาษีรถแล้วนำเงินไปพัฒนาระบบคมนาคมและขนส่งสาธารณะให้มันดี มีมาตรฐานจะดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ มีนาคม 22, 2017, 15:49:05
คิดว่าไม่มีแล้ว ผมคิดว่ารัฐควรเอาเงินไปพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทั่วประเทศ ดีกว่าเอาเงินมาทำแบบนี้ ไม่เกิดประโยชน์ แก้ปัญหาอะไรก็ไม่ได้

แต่ถ้ามียังไงก็เข้าร่วมหมดทั้งค่ายรถทั้งคนซื้อ ค่ายรถก็หวังยอดขายและกำไร คนซื้อก็หวังส่วนลด ไม่น่ายากที่จะคาดเดาครับ และมีฝ่ายต่อต้านโครงการนี้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Anvers30 ที่ มีนาคม 22, 2017, 16:10:24
ลองพิจารณาดีดีจะเข้าใจว่าทำไมรัฐบาล (ณ เวลานั้น) ต้องออกโครงการทำนองนี้มา มันมีเหตุจำเป็นล่ะครับ แต่ถ้าตอนนี้ออกมา ก็มาซ้ำเติมกำลังซื้อประชาชนที่ถดถอยลงเรื่อยๆ ป่วยการจะออก
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มีนาคม 22, 2017, 17:26:31
ลองพิจารณาดีดีจะเข้าใจว่าทำไมรัฐบาล (ณ เวลานั้น) ต้องออกโครงการทำนองนี้มา มันมีเหตุจำเป็นล่ะครับ แต่ถ้าตอนนี้ออกมา ก็มาซ้ำเติมกำลังซื้อประชาชนที่ถดถอยลงเรื่อยๆ ป่วยการจะออก

เหตุจำเป็นคืออะไรครับ ผมอยากทราบครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jztang ที่ มีนาคม 22, 2017, 18:57:01
ออกมาก็ดีสิครับ แบรนด์รถยนต์ก็ชอบ ผู้บริโภคก็ชอบ ชาวต่างชาติก็อยากมาลงทุนเพิ่ม ประเทศก็ได้ประโยชน์ทั้งหมดจากส่วนนี้
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ มีนาคม 22, 2017, 19:52:16
ลองพิจารณาดีดีจะเข้าใจว่าทำไมรัฐบาล (ณ เวลานั้น) ต้องออกโครงการทำนองนี้มา มันมีเหตุจำเป็นล่ะครับ แต่ถ้าตอนนี้ออกมา ก็มาซ้ำเติมกำลังซื้อประชาชนที่ถดถอยลงเรื่อยๆ ป่วยการจะออก

เหตุจำเป็นคืออะไรครับ ผมอยากทราบครับ

ช่วยตอบครับ ช่วงนั้นน้ำท่วมใหญ่ โรงงานรถยนต์โดนน้ำท่วมกระจาย แทบจะปิดโรงงานหนี

ถ้าญี่ปุ่นถอนทุน ไปตั้งโรงงานประเทศเพื่อบ้านแทน จะเกิดอะไรขึ้น คนตกงานมากแค่ไหน?

รัฐบาลเลยต้องเยียวยาด้วยการออกนโยบายรถคันแรก ซึ่งได้ผลสองเด้ง คือได้ช่วยทั้งผู้ผลิต

และผู้บริโภคหน้าใหม่ ที่เพิ่งมีรถคันแรก มีงบน้อยได้เป็นเจ้าของรถยนต์กันง่ายขึ้น

แต่พวกคนมีตัวค์ไม่ถูกใจ เพราะคนออกรถง่ายขึ้น คนจนมาแย่งถนนเขาใช้ แถมคนพวกนี้คงมีหุ้นในไฟแนนซ์

เลยชอบบ่นเดือดร้อนแทนไฟแนนซ์ว่าสร้างหนี้เสีย รถยึดเยอะ บลาๆๆ

แต่พอรถเมืองไทย ราคาแพงกว่าเมืองนอก เพราะภาษีแพงกว่ามาก ก็ด่าอีก ว่าเมืองไทยขายรถแพง

สรุปจะเอาไงกันครับ 555
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มีนาคม 22, 2017, 19:58:14
ตาม time line
นโยบายหาเสียงรถคันแรกเกิดก่อนน้ำท่วมใหญ่ครับ
ลองไปหาข้อมูลดูก่อน เวลาเราจะเชื่อใคร เราต้องคิดก่อนครับ
เรื่องนี้มันแค่บังเอิญล้วนๆครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: recycleman ที่ มีนาคม 22, 2017, 20:10:23
ความต้องการซื้อรถของประชากรไทยมันมีเรื่องๆตลอดแหละครับ ไม่ใช่แค่ช่วงนั้นที่ไหน

ถามว่ามีตอนนี้ถ้ามีโครงการแบบนี้อีกคนก็แห่ไปซื้อกันอยู่ดีนั้นแหละ

สำหรับผมมันไม่ใช่โครงการที่แย่อะไรน่ะ แต่ปัญหามันคือคนไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงว่าประโยชน์ของโครงการนี้คืออะไร

และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือคนที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้รถก็อยากมีอยากซื้อไว้ เพราะกลัวตัวเองจะเสียสิทธิ์ในนโยบายตรงนี้ไป
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 22, 2017, 20:26:30
โครงการประชานิยม ของแจก ของถูก ของฟรี พรรคไหนใช้เป็นนโยบายหาเสียง พรรคนั้นก็นอนมา ฟันธง

แต่ถามว่าผมเห็นด้วยมั๊ย ไม่เห็นด้วยแน่นอน

ถ้าส่งเสริมให้คนซื้อบ้าน ผมสนับสนุนเต็มที่ จะบ้านหลังแรก หลังที่ 2 จะกี่ล้านก็ตามแต่

แต่รถยนต์ นอกจากไม่ควรสนับสนุน ควรจะกีดกันเล็กๆ ด้วยซ้ำ ผมเข้าใจว่าทุกคนอยากมีรถ อยากเดินทางสะดวกสบาย

แต่รัฐควรจะส่งเสริมขนส่งมวลชนมากกว่าครับ

หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มีนาคม 22, 2017, 20:53:53
ได้หมด ถ้าสดชื่น

แต่ถ้ามองถึงสังคมโดยรวม รู้อยู่แล้วครับว่ากระทบอะไรบ้าง เกือบจะไม่มีผลดีต่อคนไทยเลย
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Anvers30 ที่ มีนาคม 22, 2017, 21:08:30
ลองพิจารณาดีดีจะเข้าใจว่าทำไมรัฐบาล (ณ เวลานั้น) ต้องออกโครงการทำนองนี้มา มันมีเหตุจำเป็นล่ะครับ แต่ถ้าตอนนี้ออกมา ก็มาซ้ำเติมกำลังซื้อประชาชนที่ถดถอยลงเรื่อยๆ ป่วยการจะออก

เหตุจำเป็นคืออะไรครับ ผมอยากทราบครับ

ช่วยตอบครับ ช่วงนั้นน้ำท่วมใหญ่ โรงงานรถยนต์โดนน้ำท่วมกระจาย แทบจะปิดโรงงานหนี

ถ้าญี่ปุ่นถอนทุน ไปตั้งโรงงานประเทศเพื่อบ้านแทน จะเกิดอะไรขึ้น คนตกงานมากแค่ไหน?

รัฐบาลเลยต้องเยียวยาด้วยการออกนโยบายรถคันแรก ซึ่งได้ผลสองเด้ง คือได้ช่วยทั้งผู้ผลิต

และผู้บริโภคหน้าใหม่ ที่เพิ่งมีรถคันแรก มีงบน้อยได้เป็นเจ้าของรถยนต์กันง่ายขึ้น

แต่พวกคนมีตัวค์ไม่ถูกใจ เพราะคนออกรถง่ายขึ้น คนจนมาแย่งถนนเขาใช้ แถมคนพวกนี้คงมีหุ้นในไฟแนนซ์

เลยชอบบ่นเดือดร้อนแทนไฟแนนซ์ว่าสร้างหนี้เสีย รถยึดเยอะ บลาๆๆ

แต่พอรถเมืองไทย ราคาแพงกว่าเมืองนอก เพราะภาษีแพงกว่ามาก ก็ด่าอีก ว่าเมืองไทยขายรถแพง

สรุปจะเอาไงกันครับ 555

ขอบคุณที่ท่าน Whoami ช่วยตอบให้นะครับ

ส่วนใครจะเลือกเสพย์ข้อมูลแบบไหน สนับสนุนใคร นั่นเป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ความเห็นผมต่อโครงการนี้ ณ เวลาปัจจุบัน ไม่มีความจำเป็นต้องทำอีกต่อไป นอกจากจะบิดเบือน demand-supply แล้ว กำลังซื้อประชาชนโดยรวมก็ไม่พร้อม และผมเชื่อว่ารัฐก็คงไม่ทำ เอาเวลาไปจัดเก็บภาษีเต็มอัตราศึกน่าจะดีกว่า จะได้มีเงินมาจับจ่าย จริงมั๊ย ;)
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มีนาคม 22, 2017, 22:00:29
ไม่เอาครับ

ไม่เอารถ ?

ไม่เอา... 555+
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AboveGod ที่ มีนาคม 22, 2017, 22:19:05
ขอให้มาอีก มาอีกก็ซื้ออีก  8)
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: J_Serie5 ที่ มีนาคม 22, 2017, 22:42:37
ลองพิจารณาดีดีจะเข้าใจว่าทำไมรัฐบาล (ณ เวลานั้น) ต้องออกโครงการทำนองนี้มา มันมีเหตุจำเป็นล่ะครับ แต่ถ้าตอนนี้ออกมา ก็มาซ้ำเติมกำลังซื้อประชาชนที่ถดถอยลงเรื่อยๆ ป่วยการจะออก

เหตุจำเป็นคืออะไรครับ ผมอยากทราบครับ

ช่วยตอบครับ ช่วงนั้นน้ำท่วมใหญ่ โรงงานรถยนต์โดนน้ำท่วมกระจาย แทบจะปิดโรงงานหนี

ถ้าญี่ปุ่นถอนทุน ไปตั้งโรงงานประเทศเพื่อบ้านแทน จะเกิดอะไรขึ้น คนตกงานมากแค่ไหน?

รัฐบาลเลยต้องเยียวยาด้วยการออกนโยบายรถคันแรก ซึ่งได้ผลสองเด้ง คือได้ช่วยทั้งผู้ผลิต

และผู้บริโภคหน้าใหม่ ที่เพิ่งมีรถคันแรก มีงบน้อยได้เป็นเจ้าของรถยนต์กันง่ายขึ้น

แต่พวกคนมีตัวค์ไม่ถูกใจ เพราะคนออกรถง่ายขึ้น คนจนมาแย่งถนนเขาใช้ แถมคนพวกนี้คงมีหุ้นในไฟแนนซ์

เลยชอบบ่นเดือดร้อนแทนไฟแนนซ์ว่าสร้างหนี้เสีย รถยึดเยอะ บลาๆๆ

แต่พอรถเมืองไทย ราคาแพงกว่าเมืองนอก เพราะภาษีแพงกว่ามาก ก็ด่าอีก ว่าเมืองไทยขายรถแพง

สรุปจะเอาไงกันครับ 555

นั่นคือปลายเหตุครับ ต้นเหตุจริงๆคือทำเพื่อ " ประชานิยม " ส่วนเรื่องโรงงานย้ายไปประเทศเพื่อนบ้าน มาจาก
1.การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ประเทศเพื่อนบ้านมีต้นทุนค่าแรงที่ถูกกว่ามาก เลยย้ายฐานผลิต ถึงไทยจะสาธารณูปโภคดีกว่าเพื่อนบ้านก็ตาม แต่ก็ฉุดไม่อยู่
2.ทหารยึดประเทศ ใครๆก็ไม่อยากเสี่ยงค้าขายบนความไม่แน่นอน
3.เศรษฐกิจพังเพราะคนกลุ่มเดียว เรื่องนี้รู้กันทั่วโลก

บอกได้แค่นี้ มากกว่านี้โปรดหาวงใน  ;D
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Darkart ที่ มีนาคม 23, 2017, 08:32:31
ณ ตอนนี้ก็ไม่เอาด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Untouchable ที่ มีนาคม 23, 2017, 08:43:31
โครงการนี้เป็นผลดีกับคนที่พร้อมออกรถอยู่แล้วได้จากส่วนนี้มาช่วยลดค่าใช้จ่าย   ส่วนคนไม่พร้อมก็กระเสือกกระสนหาเงินมาออกจนได้และทำให้ตัวเองชักหน้าไม่ถึงหลังเกิดปัญหาด้านการเงินอีก ลูกน้องผมไงตัวอย่างใกล้ตัวดันทุรังออกจนได้สุดท้ายโดนยึดเพราะไปต่อไม่ไหว
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kreaninw ที่ มีนาคม 23, 2017, 09:28:05
โครงการนี้ผมว่าดีครับ ถึงรถจะถูกจะแพง คนจำเป็นใช้ยังไงก็ต้องซื้ออยู่ดี ประโยชน์มีแน่ จับต้องได้ด้วย จับต้องได้มากกว่าการขึ้นภาษีบลาๆ เพื่อนู่นนี่นั่นสารพัดจะบอก ตามนั้นแล้วกัน

ปัญหาที่แท้จริงจากโครงการนี้ คือ ความโลภของไฟแนนซ์ครับ มูมมามซะจนไม่ดูตาม้าตาเรือ ใครมาก็เอาหมดโดยไม่ดูว่าคนที่มาหน้าตาเป็นยังไง มีปัญญาผ่อนชำระหรือเปล่า เพราะคิดว่าเป็นจังหวะโกยไงครับ ฟันหักกลับบ้าน ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TNP ที่ มีนาคม 23, 2017, 10:08:27
" ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ "

ไม่เข้าใจเลยว่า ...  คำถามแบบนี้ จะถามทำไม ?

ถ้าเค้าจะมีให้จริงๆ  ใครจะไม่เอา 

เพราะสุดท้าย คนที่ไม่เอา เค้าไม่ใช่ " ไม่เอา " 


แต่เพราะ " เค้าเอาไม่ได้ " ต่างหาก

หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ มีนาคม 23, 2017, 10:29:26
สรุป “โครงการรถคันแรก” ครอบคลุมรถ 1.2 ล้านคัน ศก.ขยายตัวตลอดโครงการ 0.97% ต่อปี https://www.matichonweekly.com/intrend/article_17458 (https://www.matichonweekly.com/intrend/article_17458)
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ มีนาคม 23, 2017, 10:41:41
เข้ามาเพิ่มเติมว่ามันบิดเบือน Demand - Supply จริงแต่เรื่องพวกนี้ค่ายรถเค้าคิดมาเรียบร้อยแล้วครับ มันมี Sale Forecast(Demand) แล้วค่ายรถก็ต้องผลิต (Supply) ให้ได้ตาม ส่วนเรื่องเงินได้คืน รัฐบาลยังเก็บได้อยู่ตาม multiplier effect แต่จะได้เต็มรึป่าวผมไม่รู้นะเพราะตัวแปรเยอะเช่น คนซื้อรถแล้วต้องเติมน้ำมันรัฐก็จะได้ภาษีจากตรงนี้ หรือเงินที่ได้คืนเอาไปซื้ออย่างอื่นก็ได้ Vat ดีกว่าเอาเงินไปจบกับรถอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 23, 2017, 14:02:57
โครงการนี้ผมว่าดีครับ ถึงรถจะถูกจะแพง คนจำเป็นใช้ยังไงก็ต้องซื้ออยู่ดี ประโยชน์มีแน่ จับต้องได้ด้วย จับต้องได้มากกว่าการขึ้นภาษีบลาๆ เพื่อนู่นนี่นั่นสารพัดจะบอก ตามนั้นแล้วกัน

ปัญหาที่แท้จริงจากโครงการนี้ คือ ความโลภของไฟแนนซ์ครับ มูมมามซะจนไม่ดูตาม้าตาเรือ ใครมาก็เอาหมดโดยไม่ดูว่าคนที่มาหน้าตาเป็นยังไง มีปัญญาผ่อนชำระหรือเปล่า เพราะคิดว่าเป็นจังหวะโกยไงครับ ฟันหักกลับบ้าน ;D ;D ;D

มันใช่เหรอครับ

ไฟแนนซ์ เขาทำการค้าหากำไร ถ้าผ่อนไม่ไหว เขาก็ยึด ฟ้องผู้ซื้อ ฟ้องผู้ค้ำ คนที่ฟันหักไม่ใช่ไฟแนนซ์แน่

 "ใครมาก็เอาหมดโดยไม่ดูว่าคนที่มาหน้าตาเป็นยังไง" ตรงนี้ก็ไม่จริงนะ ลูกน้องผมและอีกหลายคน ก็กู้ไม่ผ่าน จนต้องหาวิธียืมใช้ชื่อญาติกันวุ่นวายไปหมด ไฟแนนซ์เขาก็คัดกรองในระดับนึงนะครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kreaninw ที่ มีนาคม 23, 2017, 14:33:06
โครงการนี้ผมว่าดีครับ ถึงรถจะถูกจะแพง คนจำเป็นใช้ยังไงก็ต้องซื้ออยู่ดี ประโยชน์มีแน่ จับต้องได้ด้วย จับต้องได้มากกว่าการขึ้นภาษีบลาๆ เพื่อนู่นนี่นั่นสารพัดจะบอก ตามนั้นแล้วกัน

ปัญหาที่แท้จริงจากโครงการนี้ คือ ความโลภของไฟแนนซ์ครับ มูมมามซะจนไม่ดูตาม้าตาเรือ ใครมาก็เอาหมดโดยไม่ดูว่าคนที่มาหน้าตาเป็นยังไง มีปัญญาผ่อนชำระหรือเปล่า เพราะคิดว่าเป็นจังหวะโกยไงครับ ฟันหักกลับบ้าน ;D ;D ;D

มันใช่เหรอครับ

ไฟแนนซ์ เขาทำการค้าหากำไร ถ้าผ่อนไม่ไหว เขาก็ยึด ฟ้องผู้ซื้อ ฟ้องผู้ค้ำ คนที่ฟันหักไม่ใช่ไฟแนนซ์แน่

 "ใครมาก็เอาหมดโดยไม่ดูว่าคนที่มาหน้าตาเป็นยังไง" ตรงนี้ก็ไม่จริงนะ ลูกน้องผมและอีกหลายคน ก็กู้ไม่ผ่าน จนต้องหาวิธียืมใช้ชื่อญาติกันวุ่นวายไปหมด ไฟแนนซ์เขาก็คัดกรองในระดับนึงนะครับ

ที่คุณพูดมา มันก็ยังเป็นความผิดของไฟแนนซ์อยู่ดีใช่ไหมครับ?  ;D ;D ;D ผมหมายถึงที่ยังคัดกรองคนได้ไม่ดีพอ จนปล่อยให้ตัวเองโดนหลอกอย่างที่คุณว่าได้

คือที่ผมบอกว่า ฟันหักเนี่ย คุณไปย้อนดูนะครับ ว่าหนี้เสียไฟแนนซ์จากโครงการนี้เท่าไหร่ (ก็รับดะมาอย่างนี้ ฟ้องได้ฟ้องไป ยึดได้ยึดไป แต่ไม่มีจ่าย) ถ้าจะบอกว่าฟันไม่หักก็แล้วแต่จะคิดครับ  :D

คือ ถ้าจะเคาน์เตอร์ประเด็นผม คุณควรจะเชื่อมโยงว่า นโยบายนี้ หรือ รัฐบาลในขณะนั้น ทำผิดพลาดอย่างไรในโครงการนี้ ซึ้งถ้าว่ากันจริงๆ แล้ว มันไม่มีทางเชื่อมโยงไปสู่จุดนั้นได้เลย เพราะสุดท้ายไฟแนนซ์ต้องเป็นคนคัดกรองว่าจะให้ใครกู้ ไม่ให้ใครกู้ ไม่ใช่ทำตัวมูมมามเสร็จแล้วโทษปี่โทษกลอง อย่าว่าแต่ลดคันละแสนเลยครับ ต่อให้เหลือคันละแสนถ้าไฟแนนซ์ไม่ผ่านให้มันก็เท่านั้น  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 23, 2017, 15:12:58
โครงการนี้ผมว่าดีครับ ถึงรถจะถูกจะแพง คนจำเป็นใช้ยังไงก็ต้องซื้ออยู่ดี ประโยชน์มีแน่ จับต้องได้ด้วย จับต้องได้มากกว่าการขึ้นภาษีบลาๆ เพื่อนู่นนี่นั่นสารพัดจะบอก ตามนั้นแล้วกัน

ปัญหาที่แท้จริงจากโครงการนี้ คือ ความโลภของไฟแนนซ์ครับ มูมมามซะจนไม่ดูตาม้าตาเรือ ใครมาก็เอาหมดโดยไม่ดูว่าคนที่มาหน้าตาเป็นยังไง มีปัญญาผ่อนชำระหรือเปล่า เพราะคิดว่าเป็นจังหวะโกยไงครับ ฟันหักกลับบ้าน ;D ;D ;D

มันใช่เหรอครับ

ไฟแนนซ์ เขาทำการค้าหากำไร ถ้าผ่อนไม่ไหว เขาก็ยึด ฟ้องผู้ซื้อ ฟ้องผู้ค้ำ คนที่ฟันหักไม่ใช่ไฟแนนซ์แน่

 "ใครมาก็เอาหมดโดยไม่ดูว่าคนที่มาหน้าตาเป็นยังไง" ตรงนี้ก็ไม่จริงนะ ลูกน้องผมและอีกหลายคน ก็กู้ไม่ผ่าน จนต้องหาวิธียืมใช้ชื่อญาติกันวุ่นวายไปหมด ไฟแนนซ์เขาก็คัดกรองในระดับนึงนะครับ

ที่คุณพูดมา มันก็ยังเป็นความผิดของไฟแนนซ์อยู่ดีใช่ไหมครับ?  ;D ;D ;D ผมหมายถึงที่ยังคัดกรองคนได้ไม่ดีพอ จนปล่อยให้ตัวเองโดนหลอกอย่างที่คุณว่าได้

คือที่ผมบอกว่า ฟันหักเนี่ย คุณไปย้อนดูนะครับ ว่าหนี้เสียไฟแนนซ์จากโครงการนี้เท่าไหร่ (ก็รับดะมาอย่างนี้ ฟ้องได้ฟ้องไป ยึดได้ยึดไป แต่ไม่มีจ่าย) ถ้าจะบอกว่าฟันไม่หักก็แล้วแต่จะคิดครับ  :D

คือ ถ้าจะเคาน์เตอร์ประเด็นผม คุณควรจะเชื่อมโยงว่า นโยบายนี้ หรือ รัฐบาลในขณะนั้น ทำผิดพลาดอย่างไรในโครงการนี้ ซึ้งถ้าว่ากันจริงๆ แล้ว มันไม่มีทางเชื่อมโยงไปสู่จุดนั้นได้เลย เพราะสุดท้ายไฟแนนซ์ต้องเป็นคนคัดกรองว่าจะให้ใครกู้ ไม่ให้ใครกู้ ไม่ใช่ทำตัวมูมมามเสร็จแล้วโทษปี่โทษกลอง อย่าว่าแต่ลดคันละแสนเลยครับ ต่อให้เหลือคันละแสนถ้าไฟแนนซ์ไม่ผ่านให้มันก็เท่านั้น  ;D ;D ;D

การปล่อยกู้ ของสถาบันการเงินทุกรูปแบบ มีการคัดกรองในระดับนึง
แต่ก็มีคนที่ผ่อนไม่ไหว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เช่น
-กู้ซื้อบ้าน ก็มีคนที่โดนยึดบ้าน
-กู้เพื่อขยายกิจการ ก็มีคนที่ปิดกิจการ
ไม่เห็นจะเกี่ยวกับความมูมมามเลย

หนี้เสียของไฟแนนซ์ มีก่อนที่จะมีโครงการรถคันแรก
โครงการรถคันแรก ทำให้หนี้เสียเพิ่มขึ้นเยอะ ก็เพราะมีคนมากู้เยอะขึ้น และมันมีการใช้ชื่อกู้แทนกันไง เพราะต้องซื้อให้ทันโครงกันไงครับ
คนกู้บางคนไม่ใช่คนผ่อน คนผ่อนบางคนไม่ใช่คนกู้
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโครงการรถยนต์คันแรกอีกครั้ง ผู้คนยังจะเอาด้วยอยู่ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tongtom ที่ มีนาคม 23, 2017, 15:20:12
ตอนนี้ อยากให้ .............. กระตุ้นให้ "เก็บภาษีรถยนต์" ที่บ้านไหนมันไม่มีที่จอดแล้ว เอามาจอดหน้าบ้านหรือพื้นที่สาธารณะ แบบอัตราก้าวหน้าเหมือนภาษีมรดก ... เริ่มจาก ร้อยละ 50ของราคาใน 3ปีแรก(โดยเก็บแบบรวดเดียว3ปี)  แล้วก็ตามด้วยปีที่4 อัตรา2เท่าของ3ปีแรก แล้วเก็บเป็น 2เท่าของอัตราล่าสุดในปีที่4 และต่อๆ ไป เริ่มเก็บอัตรา 5เท่า ของราคาซื้อ...

ดูซิ ปัญหา จอดรถหน้าบ้าน ในซอย หรือหน้าบ้านตัวเองแต่คนอื่นๆ เข้าออกลำบาก จะยังอยู่อีกไหม ....

 ทำไปทำไม รถคันแรก สู้ .. "รถคันสุดท้าย" ไม่ได้หรอก 5555555555...