Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: siwakorn ที่ เมษายน 14, 2017, 00:07:53
-
จากกระทู้ข้างล่างที่รถผม(Altis 1.8e ปี 2012)ได้เกิดอุบัติเหตุไปนะครับ คงจะต้องได้หารถใหม่มาแทน ไม่ทราบว่าระหว่า Camry 2.0G กับ Altis 1.8 esport ต่างกันมากไหมครับทั้งเรื่องช่วงล่างที่ให้ความมั่นคงมั่นใจในการขับขี่ เรื่องอัตราเร่งที่อาจไม่รวดเร็วเท่าคันเดิมที่ผมใช้คงไม่มีปัญหาเพราะคงจะขับเรียบร้อยขึ้น เรื่องอื่นๆขอไม่เทียบเพราะน่าจะดีกว่าทุกอย่างอยู่แล้ว แล้วจะคุ้มไหมกับเงินกว่า 400000 ที่เพิ่มขึ้นไปครับ
ที่เทียบข้ามรุ่นเอา esport มาเทียบเพราะเห็นในรีวิวว่ามันดีกว่าตัวที่ผมใช้พอสมควรแล้ว แต่อีกใจก็ ยากได้รถใหญ่ไปเลยเพราะที่บ้านก็เล็งมานานแล้วครับ การใช้งานปกติก็วิ่งไกลๆทีนึงอย่างต่ำ 200-300 กม.ครับ แนวการขับก็ไม่ได้จ้องจะมุดอะไรครับ แต่ถ้าวิ่ง ตจว ถ้ารถหน้าช้าแล้วเห็นซ้ายว่างข้างหน้ามีช่องเข้าก็จะออกแต่จะไม่พยายามยัดครับ
-
เรื่องอื่นๆขอไม่เทียบเพราะน่าจะดีกว่าทุกอย่างอยู่แล้ว แล้วจะคุ้มไหมกับเงินกว่า 400000 ที่เพิ่มขึ้นไปครับ
ถามเอง ตอบเองไปหมดแล้ว
อยู่ที่ว่าเพิ่มอีก 400,000 ได้รถที่ใหญ่กว่า มันเป็นภาระ สำหรับคุณหรือไม่ นี้คือความคุ้มของคุณ
-
น่าเสียดายว่างานมอเตอร์โชว์จบไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณสามารถไปทดลองขับในสนามของเค้าได้ ทดสอบจังหวะการสลาล่อมแล้วคุณจะตอบได้เองว่าคันไหนคือแบบที่คุณต้องการ ผมเองไม่ได้ทดสอบทั้ง 2 รุ่นนี้จึงตอบไม่ได้ว่าคันไหนดีกว่าในจังหวะวิกฤต ถ้าดูตามสเปคแคมรี่เหนือกว่าตรงที่เป็นช่วงล่างอิสระ
-
ผมเชียร์ไปทาง esport ครับ เพราะรถเดิมที่คุณใช้ก็เป็น altis อยู่แล้ว แปลว่ารถตอบโจทย์คุณอยู่แล้ว
แถมคุณน่าจ่ะคุ้นเคยมิติของรถมากกว่าด้วย ขับ camry ดีไม่ดีจ่ะเอาไปเบียดเสาแทนด้วยความเคยชินระยะของ altis
ทั้งหมดทั้งมวลผมว่าข้อดีที่เพิ่มขึ้นมายังไม่คุ้มเงิน 4แสนครับ
ยกเว้นแต่คุณหาเรื่องอยากเปลี่ยนเป็น camry อยู่แล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นก็เอาเลยครับ เพราะเป็นรถที่ดี ผมใช้ส่วนตัวชอบมาก
-
ส่วนต่างของราคา
ไม่ใช่น้อย
-
ผมเชียร์ไปทาง esport ครับ เพราะรถเดิมที่คุณใช้ก็เป็น altis อยู่แล้ว แปลว่ารถตอบโจทย์คุณอยู่แล้ว
แถมคุณน่าจ่ะคุ้นเคยมิติของรถมากกว่าด้วย ขับ camry ดีไม่ดีจ่ะเอาไปเบียดเสาแทนด้วยความเคยชินระยะของ altis
ผมก็เป็นตามนี้เลย ปกติขับแจ๊ส แต่เวลากลับบ้านที่ตจว.จะใช้รถcamry ผมกะระยะไม่ถูก อย่างกับคนขับรถไม่เป็นเลย
ส่วนเรื่องช่วงล่าง esport โดยส่วนตัวผมไม่เคยขับ แต่ผมเคยขับวีออสตามๆบนทางด่วน รถผมใส่สตรัท h drive เข้าโค้งที่ประมาณ 140 แต่ esport ไปได้เร็วกว่า หรืออาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยชินกับรถด้วย
ผมว่าช่วงล่างยังไง esport ก็กิน เขาเซ็ทมาให้ดีกว่าตัวธรรมดา ส่วนแคมรี่เน้นไปทางขับสบายๆ มุดไม่ค่อยได้
-
สามารถเข้าไปขอทดลองขับที่ศูนย์โตโยต้าตรงบางนาได้นะครับ โทรไปหรือลงทะเบียนจองหน้าเวบได้ครับ
ผมใช้ 2.0 g 2016 เรื่องช่วงล่างหนึบครับถ้าเทียบกับ vios 2.12 อีกคันที่ใช้อยู่ก็เหมือนนรกกับสวรรค์เลย แต่ปัญหาคือรถใหญ่ เวลาหาที่จอดรถลำบาก เวลาเร่งแซงที่ความเร็วต่ำทำได้ไม่ดี ถ้าขับคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ และไม่เป็นภาระมาก อันที่จริงผมอยากแนะนำข้ามไป 320d แต่ถ้าที่บ้านยังไม่มีรถใหญ่เลยก็ camry เพราะเทียบเท่า E class หรือซีรีย์ 5 ส่วนเจ้า 320d จะขนาดไล่เลี่ยกับ altis
ป.ล. ตอนซื้อ 2.0 เบ็ดเสร็จจ่ายไป 1.35 แต่ถ้าเป็น 320d ที่เคยถามตอนเดือนธันวาได้ส่วนลดประมาณ 1 แสนครับ แล้วสงกราต์นี้อย่าลืมไปทำบุญนะครับ ผมดูคลิปแล้วคุณรอดตัวได้ก็ถือว่าบุญแล้วครับ
-
Camry ปลายอายุแล้วครับ
ซื้อตอนนี้อีกไม่นานก็ตกรุ่น
อยากเชียร์ให้รอ new Camry 2018
แต่คิดว่าคงรีบใช้รถ
Camry น่าจะเหมาะกับ จขกท.
D seg. ขับดีกว่า C. แทบทุกด้าน
ต่อรองราคาดีๆน่าจะมีส่วนลดพอ
ควรครับ
-
ต้องถามว่า เงินที่ต่างกัน มีผลกับชีวิต จขกท มากแค่ไหนครับ ถ้ามีผลมาก ก็อย่าเสียเงินเยอะเลยครับ
-
ดูเหมือนจขกท.ตั้งใจจะถามว่า ถ้าซื้อคันใหม่การขับขี่จะปลอดภัยกว่าตัวเก่ามั้ย เพราะ altis เพิ่งเกิดอุบัติเหตุ - altis esport ช่วงล่างดีขึ้นกว่า altis เดิม หรือจะข้ามไปแคมรี่ดี ?
อันนี้ตอบยาก ต้องลองขับเองดีกว่า รถคนละ seg ก็อาจไม่ชิน แต่ชินแล้วอาจชอบก็ได้
ปล.ถ้าบอกรายละเอียดว่าคันเดิมเกิดอุบัติเหตุได้ยังไง น่าจะวิเคราะห์ง่ายกว่า
-
ผมอยู่ในแนวเน้นความปลอดภัยครับ
ที่ถามถึงสองตัวนี้ แสดงถึงความมั่นใจจ่ายเพิ่มได้ 400,000 จากคันถูกกว่า
เรื่องเงินจึงตัดไปได้อย่าให้กลับมาไขว้เขว (ถ้าไม่มั่นใจ/ไม่พร้อม ต้องไม่เลือกเข้ามาตั้งแต่แรก)
ลองตั้งคำถามในใจใหม่สิครับ"..การใช้งานปกติก็วิ่งไกลๆทีนึงอย่างต่ำ 200-300 กม.ครับ.."
ดูการใช้รถแล้ว จะเลือกคันไหนระหว่างสองคันนี้
คำตอบในใจก็น่าจะง่ายนะครับ
แล้วไปลองทดสอบขับ เพื่อยืนยันความมั่นใจ
-
1.8 esport มีระบบความปลอดภัยที่อยากได้รึเป่าครับ ไม่เคยขับ altis นะครับ แต่ที่บ้านมีตัว 2.0g ยุคันนึงก็ถือว่าขับดีครับไม่นุ่มย้วยนั่งหลังยิ่งฟิน ไปเรื่อยๆรถซื้อแกงจะแรงได้ไง เครื่องเกียร์ใหม่แล้ว ขับถือว่าดีไม่เลวร้าย vsc ระบบเตือนรถด้านข้าง มาครบ ถ้าจะเอาคุ้มคงสุ้ esport ไม่ได้หรอกครับ
-
ขอบคุณทุกท่านมากครับจะนำไปพิจารณาพร้อมกดเครื่องคิดเลขอีกทีครับผม
-
ตอบในฐานะคนที่ใช้ 1.8 esport 2014 (ก่อน mc ไม่มี vsc) เทียบกับหน้าแบน 2.0 ของญาติที่ขับบ่อยๆ 1.8 esport ช่วงล่างหนึบ เกาะถนนดีกว่าเยอะ หักหลบฉุกเฉินแบบในคลิบผมก็เจอมาหลายครั้ง แต่ไม่เกิดอาการใดๆ ภายใต้เงื่อนไขสภาพยางที่ดี มันก็ไปของมันได้ อัตราเร่งออกตัว 0-100 1.8 vs 2.0 กินกันไม่ลง แต่ความเร็วปลาย 120 ไปแล้ว 1.8 esport ไหลดีกว่าหน้าแบน 2.0 ด้วยซ้ำ ข้อเสียที่ 1.8 esport ด้อยกว่าหน้าแบน คือความตึงตัง แข็ง กระด้างของช่วงล่าง คร่าวๆ แนะนำได้แค่นี้ครับ
-
ใช้อัลติสต่อไปครับ รุ่นใหม่ขับดีกว่าหน้าแบนเยอะ
แคมรี่ใกล้ตกรุ่นเต็มแก่ ซี้อไปกลัวเจ็บใจเปล่าครับๆ
-
Camry ได้ฟีลใหญ่ๆ หนักๆ ครับ เหมือนขับรถคนละประเภทกับ C segment
ทั้งๆ ที่มันก็เป็นเก๋งเหมือนกัน ฟีลแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับผมสมัยตอนเปลี่ยนจากเก๋งเล็กไปเป็น
Fortuner
ทำไมตอบแบบนี้ ที่ผมต้องการจะสื่อคือ มันเหมือนได้อะไรใหม่ๆ ที่ได้ลองเรียนรู้
และจะเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ คราวนี้ถ้าติดเรื่องโมเดลมันจะเก่าตกรุ่น ผมว่าให้รอ Camry ตัวใหม่
ไปเลยครับ ส่วนเรื่องเปลี่ยนเป็น Altis ใหม่ ผมว่า มันไม่ได้ต่างกันเยอะ มันแทบจะเหมือนเดิม option ก็น้อยเหมือนเดิม
แค่ความรู้สึกในการขับขี่ดีขึ้น แต่มันก็ยังเป็นรถขนาดเดิม สมรรถนะอยู่ใน range เท่าๆ เดิม
ดังนั้นผมเชียร์ Camry ตัวเก่าหรือตัวใหม่ก็ได้ครับ
-
เดิมขับอัลติสโฉมที่แล้ว ขึ้นมาขับโฉมนี้ อารมณ์เดิมๆมาหมดครับ
แค่สมรรถนะดีขึ้น เกาะถนนขึ้น เร่งติดเท้าขึ้น และภายในสวยขึ้น
พอมองเป็น ESport ก็อัพเกรดขึ้นไปอีกเลเวล เฟริม์ขึ้นนิดหน่อย
คำถามคือ "เงิน"
เอาจริงๆ แคมรี่ ต่อให้เป็น 2.0 ดีกว่าอัลติสแน่นอน
ส่วนต่างที่เกิดขึ้น คิดว่า 4 แสนเป็นเรื่องใหญ่มั้ย ถ้าชิลๆก็แคมรี่ครับ
แต่ถ้าต้องกัดฟันสู้ ขับ Esport ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
-
เวลาหักหลบแรงๆ แคมรี่จะอุ้ยอ้าย ท้ายโยน พร้อมเสียอาการได้เหมือนกันครับ แต่ VSC จะรักษาอาการรถให้ไม่เสียการทรงตัว ที่ทราบเพราะผมเคยใช้แคมรี่ ACV50 ทั้ง 2.0G ออพชั่นโล้น ไม่มี VSC กับตัวไฮบริดรุ่นท้อป ออพชั่นเต็ม และเคยใช้อัลติสรุ่นเดียวกับจขกท.มาก่อนด้วยครับ
ตัว 2.0 ช่วงล่างจะเซทมาเฟิร์มกว่า พวงมาลัยหนักในความเร็วต่ำ ไม่คล่องแคล่ว แต่ความเร็วสูงก็ยังหน่วงมือใช้ได้ จะว่าไปน้ำหนักคล้ายๆ 5er F10 อยู่เหมือนกัน บุคลิกก็แอบคล้าย รวมถึงความไม่คมด้วย ไปเอาของเค้ามาหมด เพียงแต่ระยะฟรีจะเยอะกว่า เฉื่อยกว่า (แทนที่จะคล้าย GS ดันไปคล้าย 5er แปลกใจอยู่เหมือนกัน) แต่หักหลบแรงๆ อาการมา เข้าโค้งแรงมากไม่ได้ มุดไม่เหมาะ อัลติสจะคล่องกว่า เบากว่า เทียบกันแล้วเจ้านี่จะเหมาะกับครูซยาวๆ สบายๆ ในแง่นี้ดีกว่าโคโรลล่าชัดเจนครับ นิ่งกว่าเยอะ
ส่วนรุ่นไฮบริด ผ่านมือมาสองคัน เป็นรถฟลีททั้งคู่ ช่วงล่างจะเบาๆ ลอยๆ ขับเร็วไม่มั่นใจ นึกว่าขับอัลติสหน้าหมู พวงมาลัยเบากว่ารุ่น 2.0 ชัดเจน มุดไม่ได้เด็ดขาด เหมือนโล้เรือสำเภา ถ้าขับเกิน 100 แล้วมุดไปมา อาการก็ตามนี้ครับ เจอโค้งเบาไว้ก่อน สรุปไฮบริด ขับไม่ได้เรื่อง ได้แค่เรื่องอัตราเร่งดีช่วงแบตเลย 3 ขีดอย่างเดียว บุคลิกของ ACV30-40 ตามมาหลอกหลอนครบถ้วน
ลองเอาไปประกอบการตัดสินใจดูครับ :)
-
ตกลงช่วงล่างแคมรี่มั่นใจกว่า esport มั้ยครับ หรือสรุปแล้วพอๆกัน รถใหญ่กว่า หนักกว่า แต่ไม่ช่วยให้มั่นใจกว่า (สรุปแบบนี้ได้มั้ย อ่านแล้วงงๆ)
-
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ ตอนนี้เริ่มงงๆเหมือนคุณ Jacob 555 ยังไงจะหาลองอีกทีครับ จริงๆ Altis คันที่เกิดเหตุไปนั้นเป็น Altis คันที่ 2ในบ้านแล้วครับ แต่ก่อนใช้ตัวหน้าหมูอยู่ครับ ตอนนี้ที่บ้านก็ยังใช้อยู่ครับ
-
ตกลงช่วงล่างแคมรี่มั่นใจกว่า esport มั้ยครับ หรือสรุปแล้วพอๆกัน รถใหญ่กว่า หนักกว่า แต่ไม่ช่วยให้มั่นใจกว่า (สรุปแบบนี้ได้มั้ย อ่านแล้วงงๆ)
หมายถึงที่ผมตอบรึเปล่าครับ ถ้าใช่ ผมสรุปแบบนี้แล้วกันครับ
Altis หน้าแบน = พวงมาลัยเบาหวิว โยน ขับเร็วไม่มั่นใจ ได้แค่ความคล่องตัว รุ่นที่ไม่มี VSC สุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุถ้าหักหลบรุนแรง แย่สุดแล้ว แย่กว่าแคมรี่ทุกรุ่น ยกเว้นเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง รถมันเล็ก จะได้ความคล่องแคล่วมาแทน
Altis ESport = เท่าที่ลองขับ ไม่ได้ดีกว่าหน้าแบนอะไรนัก เพียงแต่เข้าโค้งยาวๆ ได้เนียนขึ้น พวงมาลัยหน่วงมือขึ้น ระยะฟรีลดลง แต่ยังต้องสาวมือเป็นลิง ถ้าสลาลอมแรงๆ บุคลิกเดิมๆ ยังคงอยู่ครบ วิ่งเร็วยังมั่นใจสู้แคมรี่ไม่ได้
Camry Hybrid = ไม่ได้มั่นใจกว่าอัลติสทั้งสองรุ่นข้างต้นเท่าไหร่นัก แต่รถมันหนัก ก็ช่วยให้ทรงตัวความเร็วสูงมั่นคงกว่านิดหน่อย ขับเกิน 120 ไม่เกิน 150 พอไหวอยู่แต่แพ้ C-Segment อย่าง โฟกัส มาสด้า 3 ครูซ EX แน่นอน เนื่องจากสปริงระยะยุบยืดเยอะ ทำให้เด้งดึ๋ง โคลงเคลง เปลี่ยนเลนโยน เปลี่ยนไม่แรงก็โยน ถ้าเปลี่ยนโช้คสปริงซักชุด น่าจะดีขึ้น แต่ก็แพ้พวกท้อปๆ C-Segment อยู่ดี ขับบู๊นี่ห้ามทำเลย
Camry 2.0 = เซทช่วงล่างมาดีสุดในแคมรี่ เซทมาเหมือนตัว 2.5 เลยครับ คือออกแนวแน่นเฟิร์ม ไม่ถึงขนาด L33 แต่ขับเร็วมั่นใจแบบ D-Segment ควรจะเป็นครับ เพียงแต่จะขับบู๊ต้องระวังความใหญ่ของตัวถังทำพิษครับ เพราะช่วงล่างไม่ได้เซทมาดีขนาด F10 GS หรือ XF พวกนั้นบู๊ โยกเปลี่ยนเลนโหดได้ สาดโค้งก็ทำได้ ก้าวข้ามข้อจำกัดขนาดตัวถังไป ต่างจากรถตลาดญี่ปุ่นครับ
ผมสรุปง่ายๆ คือ C-Segment ขับบู๊คล่องแคล่วกว่า เข้าโค้งมั่นใจกว่า แต่ D-Segment ขับทางตรง ไฮเวย์นิ่งกว่า (ยกเว้นโฟกัสวิ่งทางตรงนิ่งพอๆ กับ L33 เลยทีเดียว)
-
เน้นขับไกล ลองแคมรี่ดูสักครั้งครับ เพราะมันนิ่มสบายกผ่อนคลายกว่ากันเยอะ
ข้อเสียคือมันจะตกรุ่นแล้วนั่นแหละ ถ้ารอได้ก็รอตัวใหม่
-
ตกลงช่วงล่างแคมรี่มั่นใจกว่า esport มั้ยครับ หรือสรุปแล้วพอๆกัน รถใหญ่กว่า หนักกว่า แต่ไม่ช่วยให้มั่นใจกว่า (สรุปแบบนี้ได้มั้ย อ่านแล้วงงๆ)
หมายถึงที่ผมตอบรึเปล่าครับ ถ้าใช่ ผมสรุปแบบนี้แล้วกันครับ
Altis หน้าแบน = พวงมาลัยเบาหวิว โยน ขับเร็วไม่มั่นใจ ได้แค่ความคล่องตัว รุ่นที่ไม่มี VSC สุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุถ้าหักหลบรุนแรง แย่สุดแล้ว แย่กว่าแคมรี่ทุกรุ่น ยกเว้นเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง รถมันเล็ก จะได้ความคล่องแคล่วมาแทน
Altis ESport = เท่าที่ลองขับ ไม่ได้ดีกว่าหน้าแบนอะไรนัก เพียงแต่เข้าโค้งยาวๆ ได้เนียนขึ้น พวงมาลัยหน่วงมือขึ้น ระยะฟรีลดลง แต่ยังต้องสาวมือเป็นลิง ถ้าสลาลอมแรงๆ บุคลิกเดิมๆ ยังคงอยู่ครบ วิ่งเร็วยังมั่นใจสู้แคมรี่ไม่ได้
Camry Hybrid = ไม่ได้มั่นใจกว่าอัลติสทั้งสองรุ่นข้างต้นเท่าไหร่นัก แต่รถมันหนัก ก็ช่วยให้ทรงตัวความเร็วสูงมั่นคงกว่านิดหน่อย ขับเกิน 120 ไม่เกิน 150 พอไหวอยู่แต่แพ้ C-Segment อย่าง โฟกัส มาสด้า 3 ครูซ EX แน่นอน เนื่องจากสปริงระยะยุบยืดเยอะ ทำให้เด้งดึ๋ง โคลงเคลง เปลี่ยนเลนโยน เปลี่ยนไม่แรงก็โยน ถ้าเปลี่ยนโช้คสปริงซักชุด น่าจะดีขึ้น แต่ก็แพ้พวกท้อปๆ C-Segment อยู่ดี ขับบู๊นี่ห้ามทำเลย
Camry 2.0 = เซทช่วงล่างมาดีสุดในแคมรี่ เซทมาเหมือนตัว 2.5 เลยครับ คือออกแนวแน่นเฟิร์ม ไม่ถึงขนาด L33 แต่ขับเร็วมั่นใจแบบ D-Segment ควรจะเป็นครับ เพียงแต่จะขับบู๊ต้องระวังความใหญ่ของตัวถังทำพิษครับ เพราะช่วงล่างไม่ได้เซทมาดีขนาด F10 GS หรือ XF พวกนั้นบู๊ โยกเปลี่ยนเลนโหดได้ สาดโค้งก็ทำได้ ก้าวข้ามข้อจำกัดขนาดตัวถังไป ต่างจากรถตลาดญี่ปุ่นครับ
ผมสรุปง่ายๆ คือ C-Segment ขับบู๊คล่องแคล่วกว่า เข้าโค้งมั่นใจกว่า แต่ D-Segment ขับทางตรง ไฮเวย์นิ่งกว่า (ยกเว้นโฟกัสวิ่งทางตรงนิ่งพอๆ กับ L33 เลยทีเดียว)
ขอบคุณครับ นักทดสอบตัวจริงเลย วิ่งเร็วมากด้วย
ถ้าพูดถึงว่าขับไม่เกิน 120-150 Camry Hybrid ถือว่าช่วงล่างดีมั้ยครับ เห็นคนชอบเยอะ
แต่ผมยังไม่เคยขับครับ
-
ขับ 2.0g เวลาขับจะรู้สึกว่ามันหนึบๆ feel ที่คล้ายแบบนี้ก็คือ E220 คันเก่าที่บ้านผมเคยใช้ เพียงแต่ benzจะได้ นุ่ม หนึบ และเก็บเสียงดีกว่า ถ้ารออีกเกือบ 2 ปี เจ้าของกระทู้รอได้มั้ย อย่างผมตอนซื้อก็รู้ว่าจะมีรุ่นใหม่ แต่ผมรอไม่ได้ และรุ่นใหม่ตัวล่างสุด คงมีรายการตัดเสป็คแน่นอนตามนิสัยพี่โต
-
ตกลงช่วงล่างแคมรี่มั่นใจกว่า esport มั้ยครับ หรือสรุปแล้วพอๆกัน รถใหญ่กว่า หนักกว่า แต่ไม่ช่วยให้มั่นใจกว่า (สรุปแบบนี้ได้มั้ย อ่านแล้วงงๆ)
หมายถึงที่ผมตอบรึเปล่าครับ ถ้าใช่ ผมสรุปแบบนี้แล้วกันครับ
Altis หน้าแบน = พวงมาลัยเบาหวิว โยน ขับเร็วไม่มั่นใจ ได้แค่ความคล่องตัว รุ่นที่ไม่มี VSC สุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุถ้าหักหลบรุนแรง แย่สุดแล้ว แย่กว่าแคมรี่ทุกรุ่น ยกเว้นเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง รถมันเล็ก จะได้ความคล่องแคล่วมาแทน
Altis ESport = เท่าที่ลองขับ ไม่ได้ดีกว่าหน้าแบนอะไรนัก เพียงแต่เข้าโค้งยาวๆ ได้เนียนขึ้น พวงมาลัยหน่วงมือขึ้น ระยะฟรีลดลง แต่ยังต้องสาวมือเป็นลิง ถ้าสลาลอมแรงๆ บุคลิกเดิมๆ ยังคงอยู่ครบ วิ่งเร็วยังมั่นใจสู้แคมรี่ไม่ได้
Camry Hybrid = ไม่ได้มั่นใจกว่าอัลติสทั้งสองรุ่นข้างต้นเท่าไหร่นัก แต่รถมันหนัก ก็ช่วยให้ทรงตัวความเร็วสูงมั่นคงกว่านิดหน่อย ขับเกิน 120 ไม่เกิน 150 พอไหวอยู่แต่แพ้ C-Segment อย่าง โฟกัส มาสด้า 3 ครูซ EX แน่นอน เนื่องจากสปริงระยะยุบยืดเยอะ ทำให้เด้งดึ๋ง โคลงเคลง เปลี่ยนเลนโยน เปลี่ยนไม่แรงก็โยน ถ้าเปลี่ยนโช้คสปริงซักชุด น่าจะดีขึ้น แต่ก็แพ้พวกท้อปๆ C-Segment อยู่ดี ขับบู๊นี่ห้ามทำเลย
Camry 2.0 = เซทช่วงล่างมาดีสุดในแคมรี่ เซทมาเหมือนตัว 2.5 เลยครับ คือออกแนวแน่นเฟิร์ม ไม่ถึงขนาด L33 แต่ขับเร็วมั่นใจแบบ D-Segment ควรจะเป็นครับ เพียงแต่จะขับบู๊ต้องระวังความใหญ่ของตัวถังทำพิษครับ เพราะช่วงล่างไม่ได้เซทมาดีขนาด F10 GS หรือ XF พวกนั้นบู๊ โยกเปลี่ยนเลนโหดได้ สาดโค้งก็ทำได้ ก้าวข้ามข้อจำกัดขนาดตัวถังไป ต่างจากรถตลาดญี่ปุ่นครับ
ผมสรุปง่ายๆ คือ C-Segment ขับบู๊คล่องแคล่วกว่า เข้าโค้งมั่นใจกว่า แต่ D-Segment ขับทางตรง ไฮเวย์นิ่งกว่า (ยกเว้นโฟกัสวิ่งทางตรงนิ่งพอๆ กับ L33 เลยทีเดียว)
ขอบคุณครับ นักทดสอบตัวจริงเลย วิ่งเร็วมากด้วย
ถ้าพูดถึงว่าขับไม่เกิน 120-150 Camry Hybrid ถือว่าช่วงล่างดีมั้ยครับ เห็นคนชอบเยอะ
แต่ผมยังไม่เคยขับครับ
ไม่ถึงขนาดนั้นครับ 55 พอดีมีโอกาสใช้โตโยต้าเยอะ ช่วงคุณพ่อยังไม่เกษียณ แกอยู่เครือปูนครับ ดีลรถโตโยต้าใช้ทั้งเครือ ผมก็มีโอกาสขับบ่อย หลายรุ่น ได้ขับตั้งแต่รุ่นโดเรม่อน สมัยหัดขับใหม่ๆ พวกสามห่วง Exsior หน้าหมู หน้าแบน แคมรี่ ACV40-50 ผ่านมือมาหมดแล้วครับ มีซื้อใช้เองในครอบครัวด้วย มีโอกาสคุยกับคนขับรถพ่อบ่อยๆ ทำให้เข้าใจโตโยต้าขึ้นอีกเยอะ นอกใจฮอนด้ากันไปเลย เพราะก่อกรรมทำเข็ญกับผมไว้มาก
พอหลังเกษียณ พ่ออยากได้รถพรีเมี่ยม ให้รางวัลตัวเอง ตั้งงบไว้ออกได้ถึงพวก 5er E-Class สบายๆ เพราะผมช่วยสมทบทุนด้วย เลยสละเวลาลองหมดครับ พวก E-Segment ที่มีขายในไทย ไม่เกี่ยงยี่ห้อ จะเยอรมัน ญี่ปุ่น หรือถ้ามีอเมริกันขายในไทย ก็จะอยู่ในตัวเลือกครับ สุดท้ายมาจบที่ Lexus GS ได้ภายใน ทั้งวัสดุที่ดี แทบไม่มีวัสดุแข็งสากมือ ที่นั่ง หย่อนก้นแล้วสบายที่สุด และได้การขับขี่ที่ถูกใจที่สุดครับ ลองมาหมดแล้ว ไส้กรอกเยอรมันให้ไม่ได้ซักเจ้าจริงๆ ขับขี่ไม่ถูกใจ นั่งไม่สบายเท่า เลยลองชิมบะหมี่จักรพรรดิดู ไม่ผิดหวังครับ ติแค่เก็บเสียงไม่ค่อยดีนัก ถ้าเทียบกับ 5er
ปล. แม้แต่ Audi A5 Quattro ที่ไปลองล่าสุด การขับขี่ดีกว่าสองเจ้านั้นก็จริง แต่มาตายที่เบาะและภายใน เบาะเล็ก นึกว่านั่งอยู่ในเฟียสต้า กลิ่นก็ฉุนจมูก จะอาเจียนเอา -*-
ส่วนแคมรี่ไฮบริด ช่วงล่างยังไงก็ไม่ผ่านครับ คนรถที่บริษัทก็พูดตรงกันทุกคนว่า ไฮบริดช่วงล่างไม่โอเค ขับเร็วไม่มั่นใจ แต่ตัว 2.0-2.5 เซทมาได้ดีสมราคาแล้ว ลองไปขับดูก็ได้ครับ ว่าต่างกันอย่างที่ผมบอกรึเปล่า เอาจริงๆ ตัวไฮบริดเกิน 110 ขึ้นทางด่วนผมก็เริ่มเกร็งแล้ว ต่างกับ GS Hybrid ผมเคยขับที่ท้อปสปีด 198 ยังชิลๆ เปลี่ยนเลนสบายเลยครับ ข้ออ้างเรื่องน้ำหนักแบตถ่วงท้ายตกไป ผมว่ารุ่นถัดไป รุ่นไฮบริดต้องปรับปรุงอีกเยอะเลย อย่างน้อยให้เสมอตัว 2.0/2.5 ก็ยังดี ไม่ต้องให้ลูกค้าไปเสียเงินทำเพิ่มโดยไม่จำเป็น
-
ตกลงช่วงล่างแคมรี่มั่นใจกว่า esport มั้ยครับ หรือสรุปแล้วพอๆกัน รถใหญ่กว่า หนักกว่า แต่ไม่ช่วยให้มั่นใจกว่า (สรุปแบบนี้ได้มั้ย อ่านแล้วงงๆ)
หมายถึงที่ผมตอบรึเปล่าครับ ถ้าใช่ ผมสรุปแบบนี้แล้วกันครับ
Altis หน้าแบน = พวงมาลัยเบาหวิว โยน ขับเร็วไม่มั่นใจ ได้แค่ความคล่องตัว รุ่นที่ไม่มี VSC สุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุถ้าหักหลบรุนแรง แย่สุดแล้ว แย่กว่าแคมรี่ทุกรุ่น ยกเว้นเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง รถมันเล็ก จะได้ความคล่องแคล่วมาแทน
Altis ESport = เท่าที่ลองขับ ไม่ได้ดีกว่าหน้าแบนอะไรนัก เพียงแต่เข้าโค้งยาวๆ ได้เนียนขึ้น พวงมาลัยหน่วงมือขึ้น ระยะฟรีลดลง แต่ยังต้องสาวมือเป็นลิง ถ้าสลาลอมแรงๆ บุคลิกเดิมๆ ยังคงอยู่ครบ วิ่งเร็วยังมั่นใจสู้แคมรี่ไม่ได้
Camry Hybrid = ไม่ได้มั่นใจกว่าอัลติสทั้งสองรุ่นข้างต้นเท่าไหร่นัก แต่รถมันหนัก ก็ช่วยให้ทรงตัวความเร็วสูงมั่นคงกว่านิดหน่อย ขับเกิน 120 ไม่เกิน 150 พอไหวอยู่แต่แพ้ C-Segment อย่าง โฟกัส มาสด้า 3 ครูซ EX แน่นอน เนื่องจากสปริงระยะยุบยืดเยอะ ทำให้เด้งดึ๋ง โคลงเคลง เปลี่ยนเลนโยน เปลี่ยนไม่แรงก็โยน ถ้าเปลี่ยนโช้คสปริงซักชุด น่าจะดีขึ้น แต่ก็แพ้พวกท้อปๆ C-Segment อยู่ดี ขับบู๊นี่ห้ามทำเลย
Camry 2.0 = เซทช่วงล่างมาดีสุดในแคมรี่ เซทมาเหมือนตัว 2.5 เลยครับ คือออกแนวแน่นเฟิร์ม ไม่ถึงขนาด L33 แต่ขับเร็วมั่นใจแบบ D-Segment ควรจะเป็นครับ เพียงแต่จะขับบู๊ต้องระวังความใหญ่ของตัวถังทำพิษครับ เพราะช่วงล่างไม่ได้เซทมาดีขนาด F10 GS หรือ XF พวกนั้นบู๊ โยกเปลี่ยนเลนโหดได้ สาดโค้งก็ทำได้ ก้าวข้ามข้อจำกัดขนาดตัวถังไป ต่างจากรถตลาดญี่ปุ่นครับ
ผมสรุปง่ายๆ คือ C-Segment ขับบู๊คล่องแคล่วกว่า เข้าโค้งมั่นใจกว่า แต่ D-Segment ขับทางตรง ไฮเวย์นิ่งกว่า (ยกเว้นโฟกัสวิ่งทางตรงนิ่งพอๆ กับ L33 เลยทีเดียว)
ขอบคุณครับ นักทดสอบตัวจริงเลย วิ่งเร็วมากด้วย
ถ้าพูดถึงว่าขับไม่เกิน 120-150 Camry Hybrid ถือว่าช่วงล่างดีมั้ยครับ เห็นคนชอบเยอะ
แต่ผมยังไม่เคยขับครับ
ไม่ถึงขนาดนั้นครับ 55 พอดีมีโอกาสใช้โตโยต้าเยอะ ช่วงคุณพ่อยังไม่เกษียณ แกอยู่เครือปูนครับ ดีลรถโตโยต้าใช้ทั้งเครือ ผมก็มีโอกาสขับบ่อย หลายรุ่น ได้ขับตั้งแต่รุ่นโดเรม่อน สมัยหัดขับใหม่ๆ พวกสามห่วง Exsior หน้าหมู หน้าแบน แคมรี่ ACV40-50 ผ่านมือมาหมดแล้วครับ มีซื้อใช้เองในครอบครัวด้วย มีโอกาสคุยกับคนขับรถพ่อบ่อยๆ ทำให้เข้าใจโตโยต้าขึ้นอีกเยอะ นอกใจฮอนด้ากันไปเลย เพราะก่อกรรมทำเข็ญกับผมไว้มาก
พอหลังเกษียณ พ่ออยากได้รถพรีเมี่ยม ให้รางวัลตัวเอง ตั้งงบไว้ออกได้ถึงพวก 5er E-Class สบายๆ เพราะผมช่วยสมทบทุนด้วย เลยสละเวลาลองหมดครับ พวก E-Segment ที่มีขายในไทย ไม่เกี่ยงยี่ห้อ จะเยอรมัน ญี่ปุ่น หรือถ้ามีอเมริกันขายในไทย ก็จะอยู่ในตัวเลือกครับ สุดท้ายมาจบที่ Lexus GS ได้ภายใน ทั้งวัสดุที่ดี แทบไม่มีวัสดุแข็งสากมือ ที่นั่ง หย่อนก้นแล้วสบายที่สุด และได้การขับขี่ที่ถูกใจที่สุดครับ ลองมาหมดแล้ว ไส้กรอกเยอรมันให้ไม่ได้ซักเจ้าจริงๆ ขับขี่ไม่ถูกใจ นั่งไม่สบายเท่า เลยลองชิมบะหมี่จักรพรรดิดู ไม่ผิดหวังครับ ติแค่เก็บเสียงไม่ค่อยดีนัก ถ้าเทียบกับ 5er
ปล. แม้แต่ Audi A5 Quattro ที่ไปลองล่าสุด การขับขี่ดีกว่าสองเจ้านั้นก็จริง แต่มาตายที่เบาะและภายใน เบาะเล็ก นึกว่านั่งอยู่ในเฟียสต้า กลิ่นก็ฉุนจมูก จะอาเจียนเอา -*-
ส่วนแคมรี่ไฮบริด ช่วงล่างยังไงก็ไม่ผ่านครับ คนรถที่บริษัทก็พูดตรงกันทุกคนว่า ไฮบริดช่วงล่างไม่โอเค ขับเร็วไม่มั่นใจ แต่ตัว 2.0-2.5 เซทมาได้ดีสมราคาแล้ว ลองไปขับดูก็ได้ครับ ว่าต่างกันอย่างที่ผมบอกรึเปล่า เอาจริงๆ ตัวไฮบริดเกิน 110 ขึ้นทางด่วนผมก็เริ่มเกร็งแล้ว ต่างกับ GS Hybrid ผมเคยขับที่ท้อปสปีด 198 ยังชิลๆ เปลี่ยนเลนสบายเลยครับ ข้ออ้างเรื่องน้ำหนักแบตถ่วงท้ายตกไป ผมว่ารุ่นถัดไป รุ่นไฮบริดต้องปรับปรุงอีกเยอะเลย อย่างน้อยให้เสมอตัว 2.0/2.5 ก็ยังดี ไม่ต้องให้ลูกค้าไปเสียเงินทำเพิ่มโดยไม่จำเป็น
ขอบคุณมากครับ ชอบสไตล์การวิจารณ์ครับชัดเจนดี
-
แนะนำให้ซื้อ Camry ครับ แต่ควรรอ Camry ตัวใหม่ออกปีหน้าครับ
-
ต่างกันมาก ต่างกันชัดเจน ต่างมากกว่า วีออส ไป อัลติส เยอะครับ
ถ้ามีโอกาสลองขับทางไกลยาวๆ จะทราบเอง ชัดเจนครับ
-
รอแคมรี่ใหม่ดีกว่า ได้แพลทฟอร์มใหม่ TNGA
ซึ่งไม่ธรรมดา ขับสปอร์ตขึ้นแน่นอน
-
ตกลงช่วงล่างแคมรี่มั่นใจกว่า esport มั้ยครับ หรือสรุปแล้วพอๆกัน รถใหญ่กว่า หนักกว่า แต่ไม่ช่วยให้มั่นใจกว่า (สรุปแบบนี้ได้มั้ย อ่านแล้วงงๆ)
หมายถึงที่ผมตอบรึเปล่าครับ ถ้าใช่ ผมสรุปแบบนี้แล้วกันครับ
Altis หน้าแบน = พวงมาลัยเบาหวิว โยน ขับเร็วไม่มั่นใจ ได้แค่ความคล่องตัว รุ่นที่ไม่มี VSC สุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุถ้าหักหลบรุนแรง แย่สุดแล้ว แย่กว่าแคมรี่ทุกรุ่น ยกเว้นเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง รถมันเล็ก จะได้ความคล่องแคล่วมาแทน
Altis ESport = เท่าที่ลองขับ ไม่ได้ดีกว่าหน้าแบนอะไรนัก เพียงแต่เข้าโค้งยาวๆ ได้เนียนขึ้น พวงมาลัยหน่วงมือขึ้น ระยะฟรีลดลง แต่ยังต้องสาวมือเป็นลิง ถ้าสลาลอมแรงๆ บุคลิกเดิมๆ ยังคงอยู่ครบ วิ่งเร็วยังมั่นใจสู้แคมรี่ไม่ได้
Camry Hybrid = ไม่ได้มั่นใจกว่าอัลติสทั้งสองรุ่นข้างต้นเท่าไหร่นัก แต่รถมันหนัก ก็ช่วยให้ทรงตัวความเร็วสูงมั่นคงกว่านิดหน่อย ขับเกิน 120 ไม่เกิน 150 พอไหวอยู่แต่แพ้ C-Segment อย่าง โฟกัส มาสด้า 3 ครูซ EX แน่นอน เนื่องจากสปริงระยะยุบยืดเยอะ ทำให้เด้งดึ๋ง โคลงเคลง เปลี่ยนเลนโยน เปลี่ยนไม่แรงก็โยน ถ้าเปลี่ยนโช้คสปริงซักชุด น่าจะดีขึ้น แต่ก็แพ้พวกท้อปๆ C-Segment อยู่ดี ขับบู๊นี่ห้ามทำเลย
Camry 2.0 = เซทช่วงล่างมาดีสุดในแคมรี่ เซทมาเหมือนตัว 2.5 เลยครับ คือออกแนวแน่นเฟิร์ม ไม่ถึงขนาด L33 แต่ขับเร็วมั่นใจแบบ D-Segment ควรจะเป็นครับ เพียงแต่จะขับบู๊ต้องระวังความใหญ่ของตัวถังทำพิษครับ เพราะช่วงล่างไม่ได้เซทมาดีขนาด F10 GS หรือ XF พวกนั้นบู๊ โยกเปลี่ยนเลนโหดได้ สาดโค้งก็ทำได้ ก้าวข้ามข้อจำกัดขนาดตัวถังไป ต่างจากรถตลาดญี่ปุ่นครับ
ผมสรุปง่ายๆ คือ C-Segment ขับบู๊คล่องแคล่วกว่า เข้าโค้งมั่นใจกว่า แต่ D-Segment ขับทางตรง ไฮเวย์นิ่งกว่า (ยกเว้นโฟกัสวิ่งทางตรงนิ่งพอๆ กับ L33 เลยทีเดียว)
ขอบคุณครับ นักทดสอบตัวจริงเลย วิ่งเร็วมากด้วย
ถ้าพูดถึงว่าขับไม่เกิน 120-150 Camry Hybrid ถือว่าช่วงล่างดีมั้ยครับ เห็นคนชอบเยอะ
แต่ผมยังไม่เคยขับครับ
ไม่ถึงขนาดนั้นครับ 55 พอดีมีโอกาสใช้โตโยต้าเยอะ ช่วงคุณพ่อยังไม่เกษียณ แกอยู่เครือปูนครับ ดีลรถโตโยต้าใช้ทั้งเครือ ผมก็มีโอกาสขับบ่อย หลายรุ่น ได้ขับตั้งแต่รุ่นโดเรม่อน สมัยหัดขับใหม่ๆ พวกสามห่วง Exsior หน้าหมู หน้าแบน แคมรี่ ACV40-50 ผ่านมือมาหมดแล้วครับ มีซื้อใช้เองในครอบครัวด้วย มีโอกาสคุยกับคนขับรถพ่อบ่อยๆ ทำให้เข้าใจโตโยต้าขึ้นอีกเยอะ นอกใจฮอนด้ากันไปเลย เพราะก่อกรรมทำเข็ญกับผมไว้มาก
พอหลังเกษียณ พ่ออยากได้รถพรีเมี่ยม ให้รางวัลตัวเอง ตั้งงบไว้ออกได้ถึงพวก 5er E-Class สบายๆ เพราะผมช่วยสมทบทุนด้วย เลยสละเวลาลองหมดครับ พวก E-Segment ที่มีขายในไทย ไม่เกี่ยงยี่ห้อ จะเยอรมัน ญี่ปุ่น หรือถ้ามีอเมริกันขายในไทย ก็จะอยู่ในตัวเลือกครับ สุดท้ายมาจบที่ Lexus GS ได้ภายใน ทั้งวัสดุที่ดี แทบไม่มีวัสดุแข็งสากมือ ที่นั่ง หย่อนก้นแล้วสบายที่สุด และได้การขับขี่ที่ถูกใจที่สุดครับ ลองมาหมดแล้ว ไส้กรอกเยอรมันให้ไม่ได้ซักเจ้าจริงๆ ขับขี่ไม่ถูกใจ นั่งไม่สบายเท่า เลยลองชิมบะหมี่จักรพรรดิดู ไม่ผิดหวังครับ ติแค่เก็บเสียงไม่ค่อยดีนัก ถ้าเทียบกับ 5er
ปล. แม้แต่ Audi A5 Quattro ที่ไปลองล่าสุด การขับขี่ดีกว่าสองเจ้านั้นก็จริง แต่มาตายที่เบาะและภายใน เบาะเล็ก นึกว่านั่งอยู่ในเฟียสต้า กลิ่นก็ฉุนจมูก จะอาเจียนเอา -*-
ส่วนแคมรี่ไฮบริด ช่วงล่างยังไงก็ไม่ผ่านครับ คนรถที่บริษัทก็พูดตรงกันทุกคนว่า ไฮบริดช่วงล่างไม่โอเค ขับเร็วไม่มั่นใจ แต่ตัว 2.0-2.5 เซทมาได้ดีสมราคาแล้ว ลองไปขับดูก็ได้ครับ ว่าต่างกันอย่างที่ผมบอกรึเปล่า เอาจริงๆ ตัวไฮบริดเกิน 110 ขึ้นทางด่วนผมก็เริ่มเกร็งแล้ว ต่างกับ GS Hybrid ผมเคยขับที่ท้อปสปีด 198 ยังชิลๆ เปลี่ยนเลนสบายเลยครับ ข้ออ้างเรื่องน้ำหนักแบตถ่วงท้ายตกไป ผมว่ารุ่นถัดไป รุ่นไฮบริดต้องปรับปรุงอีกเยอะเลย อย่างน้อยให้เสมอตัว 2.0/2.5 ก็ยังดี ไม่ต้องให้ลูกค้าไปเสียเงินทำเพิ่มโดยไม่จำเป็น
เห็นด้วยอย่างรุนแรงครับ
เพื่อนสนิทผมใช้ 2.5 มีโอกาสได้ขับและนั่งอยู่ 5 ปี คลุกคลีตลอด
จนผมเพ้อ ว่ารถอะไร รูดถนนเห้ๆของเมืองไทย ได้เนียนกว่า SUV PPV มากกกกก
จนอยากจะขาย Accord G9 ทิ้ง(และก็ขายจริงๆ) ต่อมาก็ได้ออก Camry HV มาเติมเต็ม
แต่ดันเติมไม่เต็ม ช่วงล่าง การขับขี่ ระบบเบรค ทำไมมันคนละโลกกับรถเพื่อนผม 2.5 เยี่ยงนี้
เหมือนแฝดคนละฝา!
ปกติผมขับ Accord G9 และ Camry 2.5 ที่ 150-170 ได้ชิลมากกกกกกก
แต่พอได้ขับ Camry HV แค่ 120-140 มุดไปมุดมา เหงื่อนี่ชุ่มมือเลยครับ ไม่มั่นใจเอามากๆๆๆๆๆ
พอขึ้นไป 170+ นี่ ตระคริวจะกิน ทั้งมือทั้งลูกตา พวงมลัยเบามากกกกกก Accord ว่าเบาแล้ว เจออีนี่ไป หวิวแบบสยองเลย เป็นถ D-Seg คันแรกในชีวิต ที่ฝากชีวิตไว้แล้วหลับไม่ลง ยิ่งให้แฟนขับ ผมนี่ตาแข็งตลอดทุกเส้นสายการเดินทาง
ดีอย่างเดียว "สบาย"
ขอใช้ไปสัก 10 ปี ขายแล้วไปซื้อ 2.5 รุ่นที่อัดออฟชั่นเต็มๆแบบตัวปัจจุบันก็พอ เบาะเอนไม่ได้ช่างมัน ::)
-
ล่าสุด ทริป พิษณุโลก-กระบี่ 2400 กม.! ช่วงสงกรานต์
ขาไปจากพิจิตร ยิงยาว 1200 กม. ใช้เวลาเดินทาง 15 ชม! (รถติดมากกกกก)
แต่เหนื่อยน้อยกว่า เอา City ขับไปกลับ พิษณุโลก-กทม มากเลยครับ
ทริปนี้ผมเอา Pajero ไปด้วย
ผู้โดยสารที่นั่งใน Camry บอกว่า "ไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนนั่งโซฟาที่บ้านเฉยๆ 15 ชม.!"
ผู้โดยสารใน Pajero มีเพลียบ้างนิดหน่อย (แต่ดีกว่า Accord มากโข)
ปล. ผมไม่เคยขับ Altis เลยครับ
-
ตกลงช่วงล่างแคมรี่มั่นใจกว่า esport มั้ยครับ หรือสรุปแล้วพอๆกัน รถใหญ่กว่า หนักกว่า แต่ไม่ช่วยให้มั่นใจกว่า (สรุปแบบนี้ได้มั้ย อ่านแล้วงงๆ)
หมายถึงที่ผมตอบรึเปล่าครับ ถ้าใช่ ผมสรุปแบบนี้แล้วกันครับ
Altis หน้าแบน = พวงมาลัยเบาหวิว โยน ขับเร็วไม่มั่นใจ ได้แค่ความคล่องตัว รุ่นที่ไม่มี VSC สุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุถ้าหักหลบรุนแรง แย่สุดแล้ว แย่กว่าแคมรี่ทุกรุ่น ยกเว้นเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง รถมันเล็ก จะได้ความคล่องแคล่วมาแทน
Altis ESport = เท่าที่ลองขับ ไม่ได้ดีกว่าหน้าแบนอะไรนัก เพียงแต่เข้าโค้งยาวๆ ได้เนียนขึ้น พวงมาลัยหน่วงมือขึ้น ระยะฟรีลดลง แต่ยังต้องสาวมือเป็นลิง ถ้าสลาลอมแรงๆ บุคลิกเดิมๆ ยังคงอยู่ครบ วิ่งเร็วยังมั่นใจสู้แคมรี่ไม่ได้
Camry Hybrid = ไม่ได้มั่นใจกว่าอัลติสทั้งสองรุ่นข้างต้นเท่าไหร่นัก แต่รถมันหนัก ก็ช่วยให้ทรงตัวความเร็วสูงมั่นคงกว่านิดหน่อย ขับเกิน 120 ไม่เกิน 150 พอไหวอยู่แต่แพ้ C-Segment อย่าง โฟกัส มาสด้า 3 ครูซ EX แน่นอน เนื่องจากสปริงระยะยุบยืดเยอะ ทำให้เด้งดึ๋ง โคลงเคลง เปลี่ยนเลนโยน เปลี่ยนไม่แรงก็โยน ถ้าเปลี่ยนโช้คสปริงซักชุด น่าจะดีขึ้น แต่ก็แพ้พวกท้อปๆ C-Segment อยู่ดี ขับบู๊นี่ห้ามทำเลย
Camry 2.0 = เซทช่วงล่างมาดีสุดในแคมรี่ เซทมาเหมือนตัว 2.5 เลยครับ คือออกแนวแน่นเฟิร์ม ไม่ถึงขนาด L33 แต่ขับเร็วมั่นใจแบบ D-Segment ควรจะเป็นครับ เพียงแต่จะขับบู๊ต้องระวังความใหญ่ของตัวถังทำพิษครับ เพราะช่วงล่างไม่ได้เซทมาดีขนาด F10 GS หรือ XF พวกนั้นบู๊ โยกเปลี่ยนเลนโหดได้ สาดโค้งก็ทำได้ ก้าวข้ามข้อจำกัดขนาดตัวถังไป ต่างจากรถตลาดญี่ปุ่นครับ
ผมสรุปง่ายๆ คือ C-Segment ขับบู๊คล่องแคล่วกว่า เข้าโค้งมั่นใจกว่า แต่ D-Segment ขับทางตรง ไฮเวย์นิ่งกว่า (ยกเว้นโฟกัสวิ่งทางตรงนิ่งพอๆ กับ L33 เลยทีเดียว)
ขอบคุณครับ นักทดสอบตัวจริงเลย วิ่งเร็วมากด้วย
ถ้าพูดถึงว่าขับไม่เกิน 120-150 Camry Hybrid ถือว่าช่วงล่างดีมั้ยครับ เห็นคนชอบเยอะ
แต่ผมยังไม่เคยขับครับ
ไม่ถึงขนาดนั้นครับ 55 พอดีมีโอกาสใช้โตโยต้าเยอะ ช่วงคุณพ่อยังไม่เกษียณ แกอยู่เครือปูนครับ ดีลรถโตโยต้าใช้ทั้งเครือ ผมก็มีโอกาสขับบ่อย หลายรุ่น ได้ขับตั้งแต่รุ่นโดเรม่อน สมัยหัดขับใหม่ๆ พวกสามห่วง Exsior หน้าหมู หน้าแบน แคมรี่ ACV40-50 ผ่านมือมาหมดแล้วครับ มีซื้อใช้เองในครอบครัวด้วย มีโอกาสคุยกับคนขับรถพ่อบ่อยๆ ทำให้เข้าใจโตโยต้าขึ้นอีกเยอะ นอกใจฮอนด้ากันไปเลย เพราะก่อกรรมทำเข็ญกับผมไว้มาก
พอหลังเกษียณ พ่ออยากได้รถพรีเมี่ยม ให้รางวัลตัวเอง ตั้งงบไว้ออกได้ถึงพวก 5er E-Class สบายๆ เพราะผมช่วยสมทบทุนด้วย เลยสละเวลาลองหมดครับ พวก E-Segment ที่มีขายในไทย ไม่เกี่ยงยี่ห้อ จะเยอรมัน ญี่ปุ่น หรือถ้ามีอเมริกันขายในไทย ก็จะอยู่ในตัวเลือกครับ สุดท้ายมาจบที่ Lexus GS ได้ภายใน ทั้งวัสดุที่ดี แทบไม่มีวัสดุแข็งสากมือ ที่นั่ง หย่อนก้นแล้วสบายที่สุด และได้การขับขี่ที่ถูกใจที่สุดครับ ลองมาหมดแล้ว ไส้กรอกเยอรมันให้ไม่ได้ซักเจ้าจริงๆ ขับขี่ไม่ถูกใจ นั่งไม่สบายเท่า เลยลองชิมบะหมี่จักรพรรดิดู ไม่ผิดหวังครับ ติแค่เก็บเสียงไม่ค่อยดีนัก ถ้าเทียบกับ 5er
ปล. แม้แต่ Audi A5 Quattro ที่ไปลองล่าสุด การขับขี่ดีกว่าสองเจ้านั้นก็จริง แต่มาตายที่เบาะและภายใน เบาะเล็ก นึกว่านั่งอยู่ในเฟียสต้า กลิ่นก็ฉุนจมูก จะอาเจียนเอา -*-
ส่วนแคมรี่ไฮบริด ช่วงล่างยังไงก็ไม่ผ่านครับ คนรถที่บริษัทก็พูดตรงกันทุกคนว่า ไฮบริดช่วงล่างไม่โอเค ขับเร็วไม่มั่นใจ แต่ตัว 2.0-2.5 เซทมาได้ดีสมราคาแล้ว ลองไปขับดูก็ได้ครับ ว่าต่างกันอย่างที่ผมบอกรึเปล่า เอาจริงๆ ตัวไฮบริดเกิน 110 ขึ้นทางด่วนผมก็เริ่มเกร็งแล้ว ต่างกับ GS Hybrid ผมเคยขับที่ท้อปสปีด 198 ยังชิลๆ เปลี่ยนเลนสบายเลยครับ ข้ออ้างเรื่องน้ำหนักแบตถ่วงท้ายตกไป ผมว่ารุ่นถัดไป รุ่นไฮบริดต้องปรับปรุงอีกเยอะเลย อย่างน้อยให้เสมอตัว 2.0/2.5 ก็ยังดี ไม่ต้องให้ลูกค้าไปเสียเงินทำเพิ่มโดยไม่จำเป็น
เห็นด้วยอย่างรุนแรงครับ
เพื่อนสนิทผมใช้ 2.5 มีโอกาสได้ขับและนั่งอยู่ 5 ปี คลุกคลีตลอด
จนผมเพ้อ ว่ารถอะไร รูดถนนเห้ๆของเมืองไทย ได้เนียนกว่า SUV PPV มากกกกก
จนอยากจะขาย Accord G9 ทิ้ง(และก็ขายจริงๆ) ต่อมาก็ได้ออก Camry HV มาเติมเต็ม
แต่ดันเติมไม่เต็ม ช่วงล่าง การขับขี่ ระบบเบรค ทำไมมันคนละโลกกับรถเพื่อนผม 2.5 เยี่ยงนี้
เหมือนแฝดคนละฝา!
ปกติผมขับ Accord G9 และ Camry 2.5 ที่ 150-170 ได้ชิลมากกกกกกก
แต่พอได้ขับ Camry HV แค่ 120-140 มุดไปมุดมา เหงื่อนี่ชุ่มมือเลยครับ ไม่มั่นใจเอามากๆๆๆๆๆ
พอขึ้นไป 170+ นี่ ตระคริวจะกิน ทั้งมือทั้งลูกตา พวงมลัยเบามากกกกกก Accord ว่าเบาแล้ว เจออีนี่ไป หวิวแบบสยองเลย เป็นถ D-Seg คันแรกในชีวิต ที่ฝากชีวิตไว้แล้วหลับไม่ลง ยิ่งให้แฟนขับ ผมนี่ตาแข็งตลอดทุกเส้นสายการเดินทาง
ดีอย่างเดียว "สบาย"
ขอใช้ไปสัก 10 ปี ขายแล้วไปซื้อ 2.5 รุ่นที่อัดออฟชั่นเต็มๆแบบตัวปัจจุบันก็พอ เบาะเอนไม่ได้ช่างมัน ::)
เห็นภาพเลยครับ อ่านแล้วหน้าตาตัว 2.0, 2.5 ดูหล่อขึ้นมาทันที
-
ถ้าไม่เกี่ยงว่า Camry จะตกรุ่น รอแป๊ปนึงส่วนลด+ของแถมจะเพิ่มมาอีก ทำให้ส่วนต่างไม่น่าจะถึง 4 แสนแล้ว
รุ่น 2.0 ใช้ดี วิ่งทางยาวช่วงล่างเกาะพอเหมาะ นุ่มพอดี กว้างขวางเหลือเฟือ ...
ไม่ต้องกลัวว่ารถจะใหญ่ขับลำบาก ใช้ไปเดือนสองเดือนก็ชินแล้ว เชื่ิอผม ใช้อยู่ครับ
ยิ่งบอกว่ากลัวจะกะระยะไม่ถูกยิ่งดี จะได้ไม่ต้องขับเร็วเกิน อิอิ