Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: eak_na ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 09:44:47
-
มีข้อสงสัยครับ ระบบเบรคหลังดิส กับ ดรัมเบรค ในแง่ของการใช้งาน แตกต่างกันยังไงครับ แล้วสำคัญมากขนาดไหนครับ
-
ตอบเท่าที่ผมรู้นะครับ ที่บ้านมี civic fd ดิส 4 ล้อ กับ fiesta 1.6 หน้าดิสหลังดรัม ประสิทธิภาพตามความน่าจะเป็นดิสน่าจะดีกว่า
แต่ความจริง ออกจากโรงงานผ้าเบรคเดิมๆทั้งสอง fd สู้เฟียสต้าไม่ได้ครับ เฟียสต้าตามเท้าและเอาอยู่กว่า ถัดมาเปลี่ยนผ้าเบรคทั้งสองเป็น
n sport mu spec เปลี่ยน fd ทั้งสี่ล้อ เปลี่ยนเฟียสต้าแค่ล้อหน้า ผลเหมือนเดิมครับ สู้เฟียสต้าหลังดรัมไม่ได้เลย คงต้องตอบว่าอยู่ที่การเซทครับผม :)
ดรัมเบรคดีกว่าดิสเบรคก็มี แต่ความสวยงามต้องยกให้ดิสไปครับผม แต่ถ้าเบรคแต่งอันนั้นผมไม่มีประสบการณ์ รอท่านถัดไปครับ :) :)
-
ตามหลักการแล้ว ดิสค์เบรค ต้องดีกว่า ดรัมเบรคแน่นอน ทั้งเรื่องการระบายความร้อน, ความคมในการเบรค, การบำรุงรักษา และ ปสภ.ในการเบรค
แต่ถ้าดรัมเบรคใช้ผ้าเบรคที่ดีกว่า ดิสค์เบรคมากๆ ดรัมเบรคก็จะให้ระยะในการเบรคที่สั้นกว่า แต่ก็ไม่นานเพราะความร้อนสะสมเพิ่มขึ้นมาก
และถ้าใช้ผ้าเบรคที่ดีเหมือนกัน ยังไงดิสค์ก็ดีกว่าอยู่เสมอ
สรุป ดิสค์เบรค ยังไง ก็ดีกว่า ดรัมเบรค ดูตัวอย่างรถชั้นดี รถชั้นนำ รถรุ่น TOP ในปัจจุบัน (หรือตั้งแต่อดีตที่ผ่านการคิดค้นดิสค์เบรคขึ้นมาได้)
มีแต่ดิสค์ 4 ล้อ ไม่มี หน้าดิสค์-หลังดรัม แม้แต่คันเดียว
-
มีข้อสงสัยครับ ระบบเบรคหลังดิส กับ ดรัมเบรค ในแง่ของการใช้งาน แตกต่างกันยังไงครับ แล้วสำคัญมากขนาดไหนครับ
ดร้มหน้าสัมผัสเยอะ เบรคหยุดดีกว่า แต่เวลาเบรคลึกอาจล็อคจนล้อตาย มีปัญหาถ้าเบรคบ่อย จะเบรคไม่อยู่
เพราะระบายความร้อนไม่ดี อุณหภูมิผ้าเบรคสูงเกินจุดทำงาน นิยมในรถบรรทุกขนาดใหญ่ ราคาถูกกว่าดิส
ดิส หน้าสัมผัสเล็ก ระบายความร้อนดี เบรคได้บ่อย สามารถควบคุมผ้าเบรค ให้ปล่อยจับๆ กับจานเบรคได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ทำให้ถ้าเบรคแบบ ABS ถึงระยะเบรคจะสู้เบรคล็อคไม่ได้ แต่ล้อไม่ตาย สามารถบังคับทิศทางได้ขระเบรค
ปล. รถเก๋งถ้าขับไม่เร็ว เบรคไม่บ่อย ใส่ดรัมเบรคหลังก็ไม่เสียหายอะไร
-
นั่นหมายความว่า ในรถรุ่นเดียวกันตัวล่างเป็นหน้าดิสหลังดรัม แต่ตัวบนได้ดิส 4 ล้อ ในเรื่องของระบบเบรค ดิส 4 ล้อย่อมดีกว่าใช่ไหมครับ
แล้วมันดีกว่ากันมาก จนเป็นปัจจัย 1 ในการพิจารณาตัดสินใจเลือกได้ไหมครับ คือถ้าไม่แตกต่างกันมากแบบมีนัยยะ ผมจะได้ไม่ต้องนำมาพิจารณาครับ
-
เบรกดรัมมีกำลังเบรกมากกว่าระบบดิสท์ แต่ก็หนักกว่าเนื่องจากน้ำหนักจานดรัม และระบายความร้อนได้
ห่วยกว่าเพราะจานดรัมบังลมหมด
ดังนั้นรถแรงๆถึงใช้ดิสท์ 4 ล้อเพราะน้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดีเพื่อไม่ให้เบรกเฟดจากการซิ่ง
ส่วนระบบดรัมเหมาะกับงานหนักๆเช่นงานรถบรรทุก
-
ดรัมเบรกอายุการใช้งานทนทานครับ
FIESTA ผม ไมล์194,xxx
ล้อหน้าดิสก์ เปลี่ยนผ้่าเบรก4ชุด
ล้อหลังดรัม ถอดเช็คตอน 180,000ยังเหลือเยอะครับ
-
รถเก๋งบ้านๆ เวลาเบรค ล้อหลังมันเบรคน้อยกว่าอยู่แล้ว
ดรัมหลังไม่ค่อยรับภาระอะไร ถึงรับ มันก็ทำงานของมันได้สบายๆ
-
ถ้าขับเร็ว ขับจี้ เบรคแรงๆ บ่อยๆ ผมว่าต่างแน่นอน
แต่ถ้าขับเรื่อยๆ ไม่ได้เบรคบ่อย ผมว่าดรัมหลังก็เพียงพอ
แต่ถ้าเรื่องความสวยยังไงดิสเบรคก็งามกว่าครับ
-
Fortuner 2015 หน้าดิส/หลังดรัม
แต่ดิสเบรคหน้าเห็นว่ามี 4 พอท ไม่รู้เจ้าอื่นให้มากี่พอทสำหรับเบรคหน้า
ถ้าเป็นมอไซค์เบรคหน้า/หลัง รับภาระ 70:30
เบรคหน้าสำคัญกว่า
-
ดรัมเบรกอายุการใช้งานทนทานครับ
FIESTA ผม ไมล์194,xxx
ล้อหน้าดิสก์ เปลี่ยนผ้่าเบรก4ชุด
ล้อหลังดรัม ถอดเช็คตอน 180,000ยังเหลือเยอะครับ
มันเป็น แบบนั้น เพราะไปทำงานหนัก ล้อหน้าเพราะ เบรคหลังมันห่วยมากกว่า
หากดิส ทั้ง หน้า หลัง คงไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยขนาดนั้นครับ
-
ตามหลักการแล้ว ดิสก์ยังไงก็ดีกว่าดรัมครับ แต่นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่เรามองเห็น
กล่าวคือ หากมองว่าคันนี้เป็นดิสก์ 4 อีกคันเป็นคู่หลังดรัม เราจะไปเหมาเลยทันทีว่าคันแรกเบรกดีกว่าฟันธงเลยไม่ได้ มันยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีก
อย่างผม มีรถอยู่ 2 คัน คือ H-1 และ Fortuner ตัวปัจจุบัน
คัน h1 เป็น 4 disks
4tuna เป็น 2 drums
ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่ากดเบรกหนักๆพร้อมกัน คัน fortuner จะหยุดก่อนครับ
เลยลองมาวิเคราะห์ดู ก็ถึงบางอ้อ ว่า ขนาดปั๊มเบรก และจานหน้ามีขนาดใหญ่กว่า h1 พอสมควร
แต่ ฟิลลิ่งตอนเบรก ยังไงรถที่เป็น 4 disks ก็รู้สึกกระชับกว่า (กระชับกว่าไม่ได้หมายถึงระยะเบรกสั้นกว่าหยุดเร็วกว่านะ)
ดรัมมีข้อดีที่ ในราคาที่เท่ากันคุณจะได้กำลังเบรกที่มากกว่าดิสก์ครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันมักอยู่ในรุ่นล่างๆ
ปล. คันต่อไปผมก็อยากได้ดิสก์ 4 แหละครับ
ไม่ทราบว่า จขกท กำลังเทียบตัวใหนอยู่หรือเปล่าครับถึงเกิดคำถามนี้ขึ้นมา
ของผม เมื่อปี 2015 ก็คิดหัวแทบแตกเหมือนกัน จนสุดท้ายได้รถมาใช้มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่มันคาใจครับ และคงจะคาใจไปตลอดจนกว่าผมจะขายรถนั่นแหละ
-
เคยเห็นพวกจิมคาน่า เค้าชอบใช้หลังดรัมกันนะ น่าจะมีข้อดีข้อเสีย
-
เห็นด้วยกับคุณ HHHsung และ คุณ rapee001 ครับ
ถ้าเอาเฉพาะพลังเบรกสูงสุดเมื่อสภาพสมบูรณ์ต่อขนาด นี่ยังไงก็ดรัมกินขาด
แล้วแถมในขนาดล้อเท่ากันเช่นล้อ 15 นิ้ว เราสามารถยัดดรัม 14 นิ้วได้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นดิสก์ไม่มีทางแน่นอน
แต่...ข้อดีดรัมก็มีแค่ตอนที่มันสมบูรณ์เท่านั้น ถ้าร้อนก็แย่เลย
-
ถ้าเบรคแบบฉุกเฉิน ทางตรงระยะเบรกอยู่ที่การเซต
ถ้าเบรคฉุกเฺฉินทางโค้ง+abs ทำงานด้วย ดิส ดีกว่า ดรัม ครับ เพราะดรัมความเร็วการจับปล่อยช้ากว่าเยอะ
:D :D :D
-
ต้องเข้าใจก่อนว่า เบรคมีหน้าที่เปลี่ยนพลังงานจลน์เป็นพลังงานความร้อน
ทีนี้ดรัมเบรคมันแย่กว่าดิสค์หลักๆก็คือเรื่องการระบายความร้อน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าระยะเบรคจะแย่กว่าดิสค์ เพราะในแง่แรงเสียดทานมันดีเหมือนกัน
คือถ้าเบรคครั้งเดียว ระยะเบรคไม่ต่างกัน แน่เพราะสามารถทำล้อล็อคได้เหมือนกัน(ถ้าไม่มีabs)
แต่จะมีผลชัดตอนที่เบรคหนักๆซ้ำๆ บางสถานการณ์เช่น ลงเขา, ขับซิ่งๆมุด, ข้บแข่งในสนาม พวกนี้จะมีความร้อนสะสมมากจนเบรคจะเฟดได้
ทีนี้ถ้าเป็นรถบ้านทั่วไปไม่ใช่รถสปอร์ต รถแข่ง พวกนี้ความร้อนที่จานเบรคหลังจะน้อยมาก จนสามารถใช้ดรัมเบรคได้ เพราะเวลาเบรคน้ำหนักจะตกลงด้านหน้า60-90% ทำให้ความร้อนด้านหน้าสูงกว่าตามไปด้วย
จึงเป็นที่มาว่ารถบ้าน เบาๆ หน้าดิสค์หลังดรัม จึงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป
จากประสบการณ์ที่ผมเอารถลงแทรคเดย์ เรื่องผ้าเบรคไหม้ หรือจานเบรคคดก็จะเจอแต่คู่หน้าเท่านั้น ซึ่งน่าจะพอบอกได้คร่าวๆว่า ความร้อนจากการเบรคคู่หลัง น้อยกว่าด้านหน้ามาก ทุกวันนี้คู่หลังก็ใช้เบรคเดิมอยู่พอเหลือๆ
ดังนั้นตอบ จขกท ว่า ถ้าไม่ซิ่งมากไม่ลงเขาประจำ ดรัมหลังก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องดิสค์กับดรัมเบรค อ่านได้ตามลิงค์นี้ครับ
https://www.edmunds.com/car-technology/brakes-drum-vs-disc.html
-
ดรัมดีกว่าแน่นอน
เห็นพวกรถแต่งทั้งหลาย ไม่ว่า เก๋ง หรือ กระบะ ด้านหน้าเปลี่ยน เบรค brembo แต่ด้านหลังยังเป็น ดรัม อยู่เลย ;D ;D ;D
-
ไม่มีอะไรดีกว่ากัน มีแต่ อะไรเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่ากัน
-
ที่แน่ๆ มีเจ้าตลาดคนนึงที่ arrogant สุดๆ บอกเมืองไทยไม่เหมาะกับ disc brake ครับ LOL
-
ส่วนรถบรรทุกเริ่มเห็นดิสหลังเยอะขึ้นแล้วนะครับ เมื่อก่อนดรัมหลังทั้งนั้นเลย
-
รถกระบะ light duty pick up เช่น vw amarok , และรถส่งของที่วิ่งในยุโรป
รวมไปถึงพวก tundra(toyota) และ titan (nissan) กลุ่มนี้ตัวรถใหญ่กว่าปิคอัพบ้านเรา ก็เป็นดิสก์ 4 ล้อครับ
รถบรรทุก
รถบัส
พวกนี้มีแบบดิสก์เบรกมานานแล้วครับ ในหลายๆประเทศ กลุ่มรถบัส รถบรรทุกคู่หน้าแทบจะเป็นดิสก์กันหมดแล้ว แต่ล้อคู่อื่นๆ เห็นหลายยี่ห้อก็ยังมีให้เลือกว่าจะเอาเบรกแบบไหน ที่เจอบนถนนส่องไม่เห็นครับว่าเป็นดิสก์หรือดรัม
จะบอกว่าดรัมเหมาะกับรถใหญ่บรรทุกหนักน่ะใช่ แต่เขาบอกไม่หมด ต้องบอกว่าเหมาะกับรถใหญ่บรรทุกหนัก (ที่ผมต้องการลดต้นทุน ฟันกำไร)
ก็คงไม่มีผู้ผลิตคนไหนออกมาพูดโทงๆจริงมั้ย
-
Disc Brake ปรับเพิ่มประสิทธิภาพได้จากคุณภาพของผ้าเบรคที่หลากหลายครับ
ยังสามารถปรับได้จากการขยายขนาดจาน / เพิ่มความหนาของจาน (บางรุ่นใช้วิธีอัพเกรดรุ่นที่แรงกว่าแบบนี้)
รูระบายความร้อนทั้งแบบ Slotted และ Cross Drill หรือร่องระบายแกสที่ผิวหน้าจาน / เจาะตัวโครงของจานเพื่อลดน้ำหนัก
วัสดุที่ใช้ทำจาน ฯลฯ จะเห็นว่า ซนได้เยอะมาก
Drum Brake คุณภาพของผ้าเบรคส่วนใหญ่ อยู่ในเกรดกลาง ๆ
ตัว Drum ก็ได้แค่เพิ่มครีบระบายความร้อน
-
ดรัมเบรค
เจอน้ำท่วมเบรคลื่นง่าย รอดมาได้ต้องย้ำเบรคถี่กว่าจะแห้ง ถ้าลุยโคลนยิ่งแย่เบรคร้อน
ลงเขายาวๆต้องคอยจอด ฉีดน้ำช่วย ทน ถึก อึด อะไหล่ถูก โอกาสเบรคจนไหม้ยาก
นิยมเป็นเบรคมือ ในดุมดิสเบรค ม้า กบ นิยมมาก ออกแบบง่ายไม่เกะกะ
ดุมเบรคคดยากมาก จานสึกหมดดุมยังเฉยๆ แต่ต้องถอดมาล้างขี้เบรคบ่อยกว่าดิส
เวลาดริฟ ดรัมเบรคดีกว่า จับได้เต็มวงดุมล้อ คล้ายเบรคจักรยาน แยกซ้ายขวาคุมง่ายกว่า
ดิสเบรค
หยุดนิ่มกว่า ย้ำเบรคง่ายกว่า ลุยน้ำท่วมลื่นยากกว่า
ลงเขายาวๆจานร้อน ควรปล่อยให้เย็นเอง ฉีดน้ำช่วยจานคดได้ เบรคมากไหม้ได้
ห้ามฉีดน้ำไม่งั้นแม๊กแตก หาทรายหรือผ้ามาครอบให้ดับ
จานเหล็กเรียบดูแลง่ายสุด ทนสุด มีร่องระบายความร้อน แต่จานโตหนักมากเกินสิบโล
จานเหล็กเจาะรู กินผ้าเบรค แต่ลื่นยากกว่า ถ้าหล่อไม่ดี เจาะไม่ดี จานคดง่าย(ต้องหล่อเย็นตอนเจาะ)
จานเซรามิค,คาร์บอน เปราะกระแทกแรงแตก เจียรยาก แพงจานหนึงเป็นแสน แต่เบาและแดงยาก
ก้ามปูต้องเปลี่ยนชุดลูกยาง ไม่แพงแต่เบิกห้างยาก มักให้ซื้อยกก้ามโดยเฉพาะรถหรูๆ แพงๆ
ถ้าไม่เปลี่ยนเบรคแตกได้ จะลามไปปั้มabs และหม้อลมให้พังเร็วขึ้น
เบรคมือไม่นิยม ชิ้นส่วนมากกว่า นน.มากกว่า ใช้แรงมากกว่าต้องมีตัวช่วย
แป้นเบรคแยกซ้าย ขวาคุมยากกว่า เพราะระยะเลียต้องพึ่งหม้อลม ใช้สายออกแรงเยอะกว่า
-
ตามหลักการแล้ว ดิสก์ยังไงก็ดีกว่าดรัมครับ แต่นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่เรามองเห็น
กล่าวคือ หากมองว่าคันนี้เป็นดิสก์ 4 อีกคันเป็นคู่หลังดรัม เราจะไปเหมาเลยทันทีว่าคันแรกเบรกดีกว่าฟันธงเลยไม่ได้ มันยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีก
อย่างผม มีรถอยู่ 2 คัน คือ H-1 และ Fortuner ตัวปัจจุบัน
คัน h1 เป็น 4 disks
4tuna เป็น 2 drums
ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่ากดเบรกหนักๆพร้อมกัน คัน fortuner จะหยุดก่อนครับ
เลยลองมาวิเคราะห์ดู ก็ถึงบางอ้อ ว่า ขนาดปั๊มเบรก และจานหน้ามีขนาดใหญ่กว่า h1 พอสมควร
แต่ ฟิลลิ่งตอนเบรก ยังไงรถที่เป็น 4 disks ก็รู้สึกกระชับกว่า (กระชับกว่าไม่ได้หมายถึงระยะเบรกสั้นกว่าหยุดเร็วกว่านะ)
ดรัมมีข้อดีที่ ในราคาที่เท่ากันคุณจะได้กำลังเบรกที่มากกว่าดิสก์ครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันมักอยู่ในรุ่นล่างๆ
ปล. คันต่อไปผมก็อยากได้ดิสก์ 4 แหละครับ
ไม่ทราบว่า จขกท กำลังเทียบตัวใหนอยู่หรือเปล่าครับถึงเกิดคำถามนี้ขึ้นมา
ของผม เมื่อปี 2015 ก็คิดหัวแทบแตกเหมือนกัน จนสุดท้ายได้รถมาใช้มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่มันคาใจครับ และคงจะคาใจไปตลอดจนกว่าผมจะขายรถนั่นแหละ
มองมาสด้า 2 ดีเซลตัวล่างสุด กับตัวรองท็อปครับ เนื่องจากจองตัวล่างไว้ แต่เซลแจ้งมาว่ารถผลิตมาน้อยมากต้องรอนาน เลยกำลังคิดว่าจะอัพไปตัวกลางดีกว่ารึป่าวครับ
-
ดีกว่ามั้ย มันก็ดีกว่าแน่นอนตามที่ข้างบนแนะนำกันมาครับ
แต่กรณีของ mazda 2 ตัวรถเล็ก น้ำหนักไม่ได้เยอะมาก สิ่งที่ได้มาก็จะเป็นฟิลลิ่งการเบรกที่กระชับกว่า ถามว่าดรัมพอมั้ยกับรถพิกัดนี้คือเหลือๆเลยครับ
ผมไม่แน่ใจว่ารุ่นดรัมหลัง เบรกหน้าขนาดเล็กกว่ารุ่นที่เป็นดิสก์หลังหรือเปล่า ลองหาเทียบดูก่อนถ้าต่างขนาดเบรกต่างกันแน่
แต่เอาจริงๆคือ ถ้าเป็นเคส mazda 2 นี่จุดลังเลไม่น่าใช่เบรกครับ
ถ้าใจอยากได้ตัวล่าง ที่ผมมองว่าก็คุ้มอยู่ ก็ยืนยันตัวล่าง ที่เซลบอกแบบนั้นเพราะตัวนี้ margin น้อยกว่าตัวกลาง หรือไม่เขามี stock ตัวกลางอยู่เลยหาทางปล่อยครับ
-
ดีกว่า ในแง่ไหน??
ถุกกว่า. แปลว่าดีกว่า?
เบรกได้สั้นกว่า. แปลว่าดีกว่า?
เหมาะกับการลุยน้ำกว่า. แปลว่าดีกว่า?
หากโดยรวมนะ. ดรัมดีกว่า. เพราะถุกกว่า. ไม่ได้ขับลุยน้ำ ลุยฝน. เบรกปกติเน้นข้างหน้า ป้าดโถ้ววว
-
ถ้าเป็นรถ PPV SUV เบรคหลังดรัมเบรค ดิสค์เบรคฟิลลิ่งต่างกันชัดเจนครับ คนขับฟอร์จูเนอร์ถ้าเอาไปเปลี่ยนดิสค์เบรคหลังมาจะรู้ได้เลยว่าแตกต่างกันมากมายครับ
-
ดรัมเบรกอายุการใช้งานทนทานครับ
FIESTA ผม ไมล์194,xxx
ล้อหน้าดิสก์ เปลี่ยนผ้่าเบรก4ชุด
ล้อหลังดรัม ถอดเช็คตอน 180,000ยังเหลือเยอะครับ
เบรคหน้าเขาออกแบบมาให้ทำงานมากกว่าข้างหลังครับ ไม่เกี่ยวกับดิสค์หรือดรัม
-
นอกจากราคาที่อาจถูกกว่า..
ยังมีอะไรบ้างอีกที่ทำให้ ดรัมเบรก เหนือกว่า ดิสก์เบรก !!
(อย่าไปเชื่อเซลขายบางคนที่อาจพูดให้เข้าใจผิดไปได้)
แค่ดูประสิทธิภาพจากกลไกหลักการทำงาน ดิสก์เบรกก็เหนือกว่าแล้ว (ไม่ขอกล่าวถึงวัสดุที่นำมาทำผ้าเบรก/จาน)
/ ดิสก์เบรกใช้แรงไฮโดรลิกกดผ้าเบรกให้บีบเข้าแนวด้านข้างของแผ่นจานเบรกทั้งสองฝั่ง
/ ส่วนดรัมเบรกใช้แรงไฮโดรลิกกดผ้าเบรกแผ่นยาวๆโค้งๆ ไปกดผิวด้านในของจาน
ต้านทิศทางการหมุนของจาน/ล้อ ผิวปลายหนึ่งของผ้าเบรกจะจิกกดกับเนื้อโลหะของผิวจาน
แต่ปลายอีกด้านจะมีแนวโน้มเผยอออกจากผิวจาน ทำให้เสมือนผ้าเบรกไม่ได้กดลงบนผิวจานทั่วทีั่งแผ่น
ประสิทธิภาพในการกดสู้ดิสก์เบรกไม่ได้ ถ้าสังเกตุผ้าเบรกที่ใช้นานๆจะสีกมากอยู่ปลายด้านหนึ่ง
การระบายความร้อน/การระบายความชื้นเมื่อเปียก..
จากลักษญะรูปร่างโครงสร้าง เปิดโล่ง ดิสก์เบรกประสิทธิภาพดีกว่า
อย่างไรก็ตามเวลาเบรก จะเกิดแรงกดถ่ายน้ำหนักมาที่ล้อหน้า
จึงต้องเน้นประสิทธิภาพของล้อหน้ามากกว่าล้อหลัง
(ไม่แน่ใจว่า มีการออกแบบให้เบรกล้อหน้าทำงานก่อนล้อหลังเล็กน้อยหรือไม่ ??)
ผ้าเบรกล้อหน้าจึงสึกหรอเร็วกว่าล้อหลัง
รถที่กำลังไม่มาก เบรกหลังอาจไม่จำเป็นต้องใช้ดิสก์เบรก เพื่อเป็นการลดต้นทุนลง
วิศวกรผู้ผลิตรถคงเลือกใช้ตามความเหมาะสมครับ
-
นอกจากราคาที่อาจถูกกว่า..
ยังมีอะไรบ้างอีกที่ทำให้ ดรัมเบรก เหนือกว่า ดิสก์เบรก !!
(อย่าไปเชื่อเซลขายบางคนที่อาจพูดให้เข้าใจผิดไปได้)
แค่ดูประสิทธิภาพจากกลไกหลักการทำงาน ดิสก์เบรกก็เหนือกว่าแล้ว (ไม่ขอกล่าวถึงวัสดุที่นำมาทำผ้าเบรก/จาน)
/ ดิสก์เบรกใช้แรงไฮโดรลิกกดผ้าเบรกให้บีบเข้าแนวด้านข้างของแผ่นจานเบรกทั้งสองฝั่ง
/ ส่วนดรัมเบรกใช้แรงไฮโดรลิกกดผ้าเบรกแผ่นยาวๆโค้งๆ ไปกดผิวด้านในของจาน
ต้านทิศทางการหมุนของจาน/ล้อ ผิวปลายหนึ่งของผ้าเบรกจะจิกกดกับเนื้อโลหะของผิวจาน
แต่ปลายอีกด้านจะมีแนวโน้มเผยอออกจากผิวจาน ทำให้เสมือนผ้าเบรกไม่ได้กดลงบนผิวจานทั่วทีั่งแผ่น
ประสิทธิภาพในการกดสู้ดิสก์เบรกไม่ได้ ถ้าสังเกตุผ้าเบรกที่ใช้นานๆจะสีกมากอยู่ปลายด้านหนึ่ง
การระบายความร้อน/การระบายความชื้นเมื่อเปียก..
จากลักษญะรูปร่างโครงสร้าง เปิดโล่ง ดิสก์เบรกประสิทธิภาพดีกว่า
อย่างไรก็ตามเวลาเบรก จะเกิดแรงกดถ่ายน้ำหนักมาที่ล้อหน้า
จึงต้องเน้นประสิทธิภาพของล้อหน้ามากกว่าล้อหลัง
(ไม่แน่ใจว่า มีการออกแบบให้เบรกล้อหน้าทำงานก่อนล้อหลังเล็กน้อยหรือไม่ ??)
ผ้าเบรกล้อหน้าจึงสึกหรอเร็วกว่าล้อหลัง
รถที่กำลังไม่มาก เบรกหลังอาจไม่จำเป็นต้องใช้ดิสก์เบรก เพื่อเป็นการลดต้นทุนลง
วิศวกรผู้ผลิตรถคงเลือกใช้ตามความเหมาะสมครับ
ท่านก้ออธิบายแทนเซลไปบ้างเหมือนกันนะ555
-
รถกระบะ light duty pick up เช่น vw amarok , และรถส่งของที่วิ่งในยุโรป
รวมไปถึงพวก tundra(toyota) และ titan (nissan) กลุ่มนี้ตัวรถใหญ่กว่าปิคอัพบ้านเรา ก็เป็นดิสก์ 4 ล้อครับ
รถบรรทุก
รถบัส
พวกนี้มีแบบดิสก์เบรกมานานแล้วครับ ในหลายๆประเทศ กลุ่มรถบัส รถบรรทุกคู่หน้าแทบจะเป็นดิสก์กันหมดแล้ว แต่ล้อคู่อื่นๆ เห็นหลายยี่ห้อก็ยังมีให้เลือกว่าจะเอาเบรกแบบไหน ที่เจอบนถนนส่องไม่เห็นครับว่าเป็นดิสก์หรือดรัม
จะบอกว่าดรัมเหมาะกับรถใหญ่บรรทุกหนักน่ะใช่ แต่เขาบอกไม่หมด ต้องบอกว่าเหมาะกับรถใหญ่บรรทุกหนัก (ที่ผมต้องการลดต้นทุน ฟันกำไร)
ก็คงไม่มีผู้ผลิตคนไหนออกมาพูดโทงๆจริงมั้ย
รถบรรทุก,รถบัสถ้าไม่ใช่รุ่นท็อปก็เป็นดรัมเบรคทุกล้อครับแม้แต่พวกรถยุโรปก็ตาม ดิสก์เบรคส่วนไหนจะอยู่ในรุ่นที่ราคาแพงหน่อยครับ และจานดิสก์รถพวกนี้ใหญ่มากๆชนิดถอดออกมาเป็นเตาปิ้งหมูกระทะได้เลย และรถพวกนี้มีระบบเบรคเสริมช่วยครับ ขับลงเขาถ้าเซียนจริงๆใช้เบรคเสริมอย่างเดียวไม่แตะเบรคเท้าเลยก็ยังได้ครับ ดังนั้นการใช้ดรัมเบรคหมดทุกล้อก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่
-
เห็นมีหลายท่านบอกดิสเบรคดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ถ้าในแง่ของประสิทธิภาพระยะการเบรคอันนี้บอกเลยเห็นหลายท่านคงทราบกันดี แต่ในแง่ของการใช้งานมันมีข้อจำกัดอยู่มากมาย อย่างเช่น เวลาในการเบรคแช่ เป็นข้อจำกัดล่ะของดิสเบรค คุณลองแช่เบรคสักสามโค้งทางลงภูทับเบิกสิครับ คุณได้ลงไปนอนในเหวแน่นอน อันนี้เป็นข้อจำกัดของดิสเลยครับ ถามว่าดัมเป็นไหม เป็นครับ แต่ระยะอาจจะได้มากกว่า สามโค้งเพราะอะไร เพราะขนาดของผ้าเบรคที่ใหญ่กว่าได้พื้นที่ระบายความร้อนที่มากกว่า และอีกปัญหาของดิสที่เจอบ่อย ถ้าคุณใช้อย่างหนักหมายถึงเบรคอย่างแรงบ่อยๆ จะทำให้ลูกปืนล้อแตกเร็วกว่าปกติ อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัว เนื่องจากช่างเค้าให้เหตุผลว่าเป็นผลจากการออกแบบดิสเบรค เนื่องเวลาเราเหยียบเบรคผ้าเบรคจะจับที่ตัวจานเบรค ทำให้เกิดแรงฝืนส่งไปที่ลูกปืนล้อทำให้ลูกปืนล้อสึกหรอเร็วกว่าปกติ ซึ่งดรัมเบรคไม่เป็น และอีกเรื่องที่เป็นข้อเสียของดิสเบรคคือข้อจำกัดเรื่องของน้ำหนักการบรรทุกครับ ถ้าจะเอาดิสเบรคไปใส่รถสิบล้อ จานเบรคคงต้องใหญ่กว่า สิบนิ้วล่ะครับ ผมสรุปนะครับ ดิสเบรคไม่ใช่เบรคเทพครับ ถ้าใช้มันในทางที่ถูกต้องมันจะให้ประสิทธิภาพที่ดี แต่ถ้าใช้ในทางที่มันไม่ถูกต้องมันจะอันตรายมากเหมือนกันครับ
-
ใช่ครับ เพราะดิสเบรค ผ้าจับด้านเดียวไม่สมมาตร
ดรัมจับคนละทาง แรงขืนสมมาตร
ดรัมทนทานกวาาเยอะครับ สิบล้อขับเดือนละหมื่นโล ปีนึงทำเบรคครั้งเดียว
-
สำหรับรถบรรทุก เอาข้อมูลฝากแล้วกันครับ
Still, despite all of the advantages, change isn't always embraced by the masses. In the United States, no regulation demands the use of air disc brakes, which are viewed as a high-end item because they're about twice the cost of drum brakes. Currently, about 95 percent of the U.S. heavy-duty truck market relies on drum brakes. In Europe, more than 80 percent of commercial trucks already use air disc brakes. The complete shift to air disc brakes may require 10 to 15 years.
จาก http://auto.howstuffworks.com/auto-parts/brakes/brake-types/truck-brakes3.htm
แนวโน้มของการใช้ และเหตุผลที่ US ยังนิยมดรัมเบรกในรถบรรทุก
http://www.truckinginfo.com/article/story/2014/07/brake-trends-drums-vs-discs.aspx
สรุปเรื่องสำคัญสุดคือ...ราคา
-
เห็นมีหลายท่านบอกดิสเบรคดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ถ้าในแง่ของประสิทธิภาพระยะการเบรคอันนี้บอกเลยเห็นหลายท่านคงทราบกันดี แต่ในแง่ของการใช้งานมันมีข้อจำกัดอยู่มากมาย อย่างเช่น เวลาในการเบรคแช่ เป็นข้อจำกัดล่ะของดิสเบรค คุณลองแช่เบรคสักสามโค้งทางลงภูทับเบิกสิครับ คุณได้ลงไปนอนในเหวแน่นอน อันนี้เป็นข้อจำกัดของดิสเลยครับ ถามว่าดัมเป็นไหม เป็นครับ แต่ระยะอาจจะได้มากกว่า สามโค้งเพราะอะไร เพราะขนาดของผ้าเบรคที่ใหญ่กว่าได้พื้นที่ระบายความร้อนที่มากกว่า และอีกปัญหาของดิสที่เจอบ่อย ถ้าคุณใช้อย่างหนักหมายถึงเบรคอย่างแรงบ่อยๆ จะทำให้ลูกปืนล้อแตกเร็วกว่าปกติ อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัว เนื่องจากช่างเค้าให้เหตุผลว่าเป็นผลจากการออกแบบดิสเบรค เนื่องเวลาเราเหยียบเบรคผ้าเบรคจะจับที่ตัวจานเบรค ทำให้เกิดแรงฝืนส่งไปที่ลูกปืนล้อทำให้ลูกปืนล้อสึกหรอเร็วกว่าปกติ ซึ่งดรัมเบรคไม่เป็น และอีกเรื่องที่เป็นข้อเสียของดิสเบรคคือข้อจำกัดเรื่องของน้ำหนักการบรรทุกครับ ถ้าจะเอาดิสเบรคไปใส่รถสิบล้อ จานเบรคคงต้องใหญ่กว่า สิบนิ้วล่ะครับ ผมสรุปนะครับ ดิสเบรคไม่ใช่เบรคเทพครับ ถ้าใช้มันในทางที่ถูกต้องมันจะให้ประสิทธิภาพที่ดี แต่ถ้าใช้ในทางที่มันไม่ถูกต้องมันจะอันตรายมากเหมือนกันครับ
ดิสก์เบรก ออกแบบมาที่จะลดอาการเฟด ไม่ใช่หรอครับ
ถ้าแบบ แช่เบรค เลียเบรค เบรคบ่อยๆ
งั้นพวกในสนามแข่งที่มีแต่โค้งเยอะ คงมีแต่ดรัมเบรคแล้วครับ
-
ลืมนึกถึงระบบ retard ไป เป็นที่ถูกใจของชาวรถบรรทุกนักแล (ไม่ทราบว่า DAC นี่ได้ไอเดียจากระบบนี้หรือเปล่าครับ)
ส่วนเรื่องดิสก์ ก็ตามนั้นครับส่วนใหญ่มันยังอยู่ในรุ่นแพงๆ ตามที่ความเห็นก่อนหน้าว่า ...high-end items...
และสำคัญคือ ทำตลาดในประเทศไหนด้วย
มีให้เลือกหมดครับ ว่าจะเอาเบรกแบบไหน อันนี้ไม่ทราบว่าที่ไทยเรามีให้เลือกได้ขนาดนั้นมั้ย
และแน่นอนดิสก์ก็มากับ cost ที่แพงกว่า
quote author=Arado_kung link=topic=58975.msg1036931#msg1036931 date=1495198377]
รถกระบะ light duty pick up เช่น vw amarok , และรถส่งของที่วิ่งในยุโรป
รวมไปถึงพวก tundra(toyota) และ titan (nissan) กลุ่มนี้ตัวรถใหญ่กว่าปิคอัพบ้านเรา ก็เป็นดิสก์ 4 ล้อครับ
รถบรรทุก
รถบัส
พวกนี้มีแบบดิสก์เบรกมานานแล้วครับ ในหลายๆประเทศ กลุ่มรถบัส รถบรรทุกคู่หน้าแทบจะเป็นดิสก์กันหมดแล้ว แต่ล้อคู่อื่นๆ เห็นหลายยี่ห้อก็ยังมีให้เลือกว่าจะเอาเบรกแบบไหน ที่เจอบนถนนส่องไม่เห็นครับว่าเป็นดิสก์หรือดรัม
จะบอกว่าดรัมเหมาะกับรถใหญ่บรรทุกหนักน่ะใช่ แต่เขาบอกไม่หมด ต้องบอกว่าเหมาะกับรถใหญ่บรรทุกหนัก (ที่ผมต้องการลดต้นทุน ฟันกำไร)
ก็คงไม่มีผู้ผลิตคนไหนออกมาพูดโทงๆจริงมั้ย
รถบรรทุก,รถบัสถ้าไม่ใช่รุ่นท็อปก็เป็นดรัมเบรคทุกล้อครับแม้แต่พวกรถยุโรปก็ตาม ดิสก์เบรคส่วนไหนจะอยู่ในรุ่นที่ราคาแพงหน่อยครับ และจานดิสก์รถพวกนี้ใหญ่มากๆชนิดถอดออกมาเป็นเตาปิ้งหมูกระทะได้เลย และรถพวกนี้มีระบบเบรคเสริมช่วยครับ ขับลงเขาถ้าเซียนจริงๆใช้เบรคเสริมอย่างเดียวไม่แตะเบรคเท้าเลยก็ยังได้ครับ ดังนั้นการใช้ดรัมเบรคหมดทุกล้อก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่
[/quote]
-
เห็นมีหลายท่านบอกดิสเบรคดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ถ้าในแง่ของประสิทธิภาพระยะการเบรคอันนี้บอกเลยเห็นหลายท่านคงทราบกันดี แต่ในแง่ของการใช้งานมันมีข้อจำกัดอยู่มากมาย อย่างเช่น เวลาในการเบรคแช่ เป็นข้อจำกัดล่ะของดิสเบรค คุณลองแช่เบรคสักสามโค้งทางลงภูทับเบิกสิครับ คุณได้ลงไปนอนในเหวแน่นอน อันนี้เป็นข้อจำกัดของดิสเลยครับ ถามว่าดัมเป็นไหม เป็นครับ แต่ระยะอาจจะได้มากกว่า สามโค้งเพราะอะไร เพราะขนาดของผ้าเบรคที่ใหญ่กว่าได้พื้นที่ระบายความร้อนที่มากกว่า และอีกปัญหาของดิสที่เจอบ่อย ถ้าคุณใช้อย่างหนักหมายถึงเบรคอย่างแรงบ่อยๆ จะทำให้ลูกปืนล้อแตกเร็วกว่าปกติ อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัว เนื่องจากช่างเค้าให้เหตุผลว่าเป็นผลจากการออกแบบดิสเบรค เนื่องเวลาเราเหยียบเบรคผ้าเบรคจะจับที่ตัวจานเบรค ทำให้เกิดแรงฝืนส่งไปที่ลูกปืนล้อทำให้ลูกปืนล้อสึกหรอเร็วกว่าปกติ ซึ่งดรัมเบรคไม่เป็น และอีกเรื่องที่เป็นข้อเสียของดิสเบรคคือข้อจำกัดเรื่องของน้ำหนักการบรรทุกครับ ถ้าจะเอาดิสเบรคไปใส่รถสิบล้อ จานเบรคคงต้องใหญ่กว่า สิบนิ้วล่ะครับ ผมสรุปนะครับ ดิสเบรคไม่ใช่เบรคเทพครับ ถ้าใช้มันในทางที่ถูกต้องมันจะให้ประสิทธิภาพที่ดี แต่ถ้าใช้ในทางที่มันไม่ถูกต้องมันจะอันตรายมากเหมือนกันครับ
ดิสก์เบรก ออกแบบมาที่จะลดอาการเฟด ไม่ใช่หรอครับ
ถ้าแบบ แช่เบรค เลียเบรค เบรคบ่อยๆ
งั้นพวกในสนามแข่งที่มีแต่โค้งเยอะ คงมีแต่ดรัมเบรคแล้วครับ
ดิสเบรค ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อลดอาการเฟคนะครับอย่าเข้าใจผิดว่าผ้าเบรคเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้กันในสนามแข่งครับ คนละเกรดคนละราคากันเลย ผ้าเบรคที่ใช้กันในรถแข่งเป็นผ้าเบรคชนิดพิเศษ มีส่วนผสมของพวกคาร์บอน-เซรามิคซึ่งสามารถทนความร้อนได้มากกว่า แต่ราคาแพงมากผมเคยได้ยินว่าถ้าเปลี่ยนทั้ง 4 ล้อปาเข้าไปสองสามแสนแล้ว ผ้าดิสเบรคที่เราใช้กันอยู่ในตลาดปัจจุบันราคาหลักพันกว่าบาท คุณภาพไม่ได้ดีเท่าพวกนั้นนะครับอย่า ไปทำให้มันเฟดนะครับอันตรายครับ