Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Dark Overlord ที่ กรกฎาคม 10, 2017, 19:15:04
-
จากข่าวนี้ครับ
http://www.headlightmag.com/nissan-low-price-ev-news/ (http://www.headlightmag.com/nissan-low-price-ev-news/)
อ่านแล้วอิจฉาครับที่รัฐบาลเขาวางแผนจับเทรนด์ตรงนี้ไว
แต่ของเราค่อนข้างจะช้ามาก และยังไม่มีเป้าที่ชัดเจน
คือถ้าทำได้ มันก็จะพาเศรษฐกิจเจริญก้าวหน้าไปด้วยครับ
แต่มันต้องผ่านกำแพงแบริเออร์ไปให้ได้ก่อน
ผมว่า ตัวเราเองจะใช้หรือไม่ใช้มันก็เรื่องหนึ่งครับ
แต่เรื่องที่ไม่ควรอคติกับมันๆ ก็อีกเรื่องนึง คือเราไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปต้านมัน
โดยเฉพาะภาครัฐที่ควรจะมีวิสัยทัศน์
ผมว่าเราเลยผ่านยุคที่เถียงกันเรื่อง คุ้มไม่คุ้มกับเรื่องกำจัดขยะสารพิษจากแบตไปไกลแล้ว
ตอนนี้มาถึงเฟสที่ว่าจะช่วยกันคิดยังไง ให้มันสามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศ
เพราะถ้ามันผ่านจุดที่หนึ่งไปได้ ถัดไปคือชิ้นส่วนพวกนี้มันจะถูกลงเรื่อยๆ
แต่ใจนึงผมก็ยังคิดว่าไม่ไหวนะ ที่จะต้องมาคอยคำนวนระยะทาง
ระยะเวลาที่ต้องชาร์จไฟ เผื่อเวลาชาร์จไฟนานๆ และต้องวางแผนการเดินทางตลอด
ผมถึงคิดว่าถ้ารถยังคงเติมน้ำมันได้อยู่ก็คงจะดีนะ
ถ้า e-power มาก็คงเข้าใกล้ความเป็นจริงที่สุดมั้ง จนกว่าจะมีแท่นชาร์จ
ไปทั่วแบบปั้มน้ำมัน และอีกอย่างที่ยังยากคือ เราจะหาไฟ้ามากมายมาใช้เติมให้รถจากไหน
ซึ่งหลายคนบ่นถึงจุดนี้ ดังนั้นอนาคตอันใกล้ที่น่าจะเป็นไปได้ในทันทีก็คงเป็นรถ
ที่เป็นแนวๆ ปั่นไฟเพิ่มในตัวเองจากกำลังของเครื่องยนต์สันดาปไปก่อนอีกนานเลยทีเดียว
คิดว่ายังไงบ้างครับ
-
ไทยเราสงเสริมเรื่องโรงงานผลิตแบตไงครับ ผลิตเยอะมากขนาดมีคนออกมาวิจารณ์ว่าจะขายให้ใคร
ความต้องการแบตไม่ได้เยอะขนาดนั้น
สรุปว่าดีหรือไม่ดี ไม่เชี่ยวชาญพอรอดูกันต่อไป ^^
-
บ้านเรา รถเก่าๆไอเสียเหม็นๆ รถกระบะพ่นหมึก รถพวกนี้ยังมีวิ่งตามท้องถนน
ถ้าจัดการรถพวกนี้ไม่ได้ รถไฟฟ้าเลิกหวังครับ
จิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมต่ำมาก ต่ำเกินไป รถไฟฟ้าจะดันยอดได้ซักเท่าไหร่
ถ้าขายได้ ต้องเป็นชนชั้นกลางขึ้นไปที่พอมีกำลังซื้อ หรือเปลี่ยนรถทุกๆ 6-8 ปี
อันนี้พอมีลุ้น
บางทีก็คิดนะ ว่าชาวบ้านใช้รถกัน 15-20 ปี โอกาสที่รถไฟฟ้าจะขายได้ก็น้อยตาม
เชื่อว่าอนาคตยังไงก็มาแน่ๆครับ แต่อาจจะนานหน่อย
-
ไม่ดราม่า การเมืองนะครับ
เอาจริงๆ ตอนนี้รัฐ ก็พยายามดัน อยู่นะครับ เท่าที่ทราบตอนนี้เน้นไปทางพัฒนา บริษัทย่อยให้ส่งชิ้นส่วนให้เจ้าใหญ่ได้
ออก boi ใหม่ มาหลายอย่างเลย .. พวก อุตสาหกรรมไฮเทคทั้งหลาย ได้สิทธิ์ boi เพียบครับ
และ อุตสาหกรรมเก่า อย่าง สิ่งทอ .. ก็ต้องลาจากไป ให้ประเทศที่ค่าแรงถูกกว่าบ้านเรา เช่น กัมพูขา พม่า บังคลาเทศ ครับ
-
บ้านเรา ถ้าตั้งโรงงานผลิตแบตใหญ่โต ได้มีข่าวประท้วงกันก่อนแน่ๆ กว่าจะจบเรื่องนี้ ก็มี 3-5 ปี แล้ว
-
ผมเพี่งกลับจากเสิ่นหยาง
เมืองนี้ไม่อนุญาตให้มอเตอร์ไซค์วิ่งนะครับ ให้ใช้ได้เฉพาะรถ Scooter ไฟฟ้าเท่านั้น
ถ้าจะต้องใช้มอเตอร์ไซค์จริงๆ ต้องขอเป็นรายบุคคลไปครับ
-
ผมเพี่งกลับจากเสิ่นหยาง
เมืองนี้ไม่อนุญาตให้มอเตอร์ไซค์วิ่งนะครับ ให้ใช้ได้เฉพาะรถ Scooter ไฟฟ้าเท่านั้น
ถ้าจะต้องใช้มอเตอร์ไซค์จริงๆ ต้องขอเป็นรายบุคคลไปครับ
เขาบังคับกันดีนะครับ
จริงๆ เวลาจะอ้างเพื่อบังคับ รัฐสามารถใช้ข้ออ้างเรื่องสิ่งแวดล้อมมาบังคับได้เลย
แต่ที่ยังไม่ง้าง หรือไม่คิดจะทำเพราะเกรงว่าจะมีอิทธิพลอะไรค้ำคอเอาไว้
อยากให้หลุดไปจากภาวะแบบนี้จังเลยครับ
-
ไทยเราบังคับอะไรมากแบบจีนไม่ได้หรอกครับ คนไทย ประเทศไทยก็แยกแยะอะไรไม่ค่อยเก่ง อันไหนประโยชน์ส่วนรวมอะไรไม่ค่อยรู้จักหรอกครับ ไปจำกัดออกกฎหมายบังคับ เดี๋ยวก็โดนหาว่า ขัดสิทธิ เสรีภาพ ไม่ประชาธิปไตย เผด็จการ บลาๆๆๆ
เอาจริงๆ ทำเป็นนโยบายส่งเสริมแบบปัจจุบันก็โอเค ลดภาษีนำเข้า หรือสนับสนุนผู้ประกอบการ หรือให้สิทธิพิเศษส่วนลดพิเศษกับผู้ใช้รถไฟฟ้า ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกับบ้านเรามากกว่า
-
ผมเพี่งกลับจากเสิ่นหยาง
เมืองนี้ไม่อนุญาตให้มอเตอร์ไซค์วิ่งนะครับ ให้ใช้ได้เฉพาะรถ Scooter ไฟฟ้าเท่านั้น
ถ้าจะต้องใช้มอเตอร์ไซค์จริงๆ ต้องขอเป็นรายบุคคลไปครับ
ประเทศไทยกฎหมู่มาก่อนกฎหมายคงบังคับกันยาก ขนาดห้ามนั่งแค็ปยังดรามากันอย่างหนักจนทนกระแสต้านไม่ไหวต้องอนุโลม..
-
ไม่ดราม่า การเมืองนะครับ
เอาจริงๆ ตอนนี้รัฐ ก็พยายามดัน อยู่นะครับ เท่าที่ทราบตอนนี้เน้นไปทางพัฒนา บริษัทย่อยให้ส่งชิ้นส่วนให้เจ้าใหญ่ได้
ออก boi ใหม่ มาหลายอย่างเลย .. พวก อุตสาหกรรมไฮเทคทั้งหลาย ได้สิทธิ์ boi เพียบครับ
และ อุตสาหกรรมเก่า อย่าง สิ่งทอ .. ก็ต้องลาจากไป ให้ประเทศที่ค่าแรงถูกกว่าบ้านเรา เช่น กัมพูขา พม่า บังคลาเทศ ครับ
+1 เลยครับ
รัฐทำหลายอย่างเท่าที่ประเทศแบบเราจะทำได้แล้วนะ ตลาดเราไม่ได้เป็นผู้บริโภครายใหญ่ เป็นเพียงฐานการผลิตที่มีความพร้อม
กว่าประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ เท่าที่ตามข่าวดู รัฐก็กำหนดอัตราภาษีที่เอื้อต่อรถ EV แล้ว แม้ผู้ผลิตหลายรายจะยังเดินไปทาง
Hybrid ก่อนก็ยังมีอัตราพิเศษอยู่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการพยายามดึงการผลิตแบตฯ มอเตอร์ พวกนี้เข้ามาในบ้านเรา แล้วมันจะต่อยอดไปทาง
EV ได้ในภายหลัง ตรงนี้ผมเห็นว่ารัฐบาลเราค่อนข้างมองการณ์ไกลกว่าประเทศเพื่อนบ้านนะ อีกอย่างช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็มีผู้บริหารต่างชาติ
ของหลายบริษัทรถยนต์เข้าปรึกษารัฐมนตรีอยู่ ผลการพูดคุยคงออกมาในลักษณะนี้นี่แหละ
แต่ทั้งนี้ถ้าจะหวังให้ประกาศไม่มีการผลิต ไม่มีการใช้รถน้ำมันภายในปีนั้นปีนี้แบบบางประเทศนั่น ผมว่าตอนนี้ยังไม่เหมาะครับ
-
จีนดัน EV เพราะ สามารถ ผลิตเองได้ ด้วย บริบัท รถยนต์ในประเทศ เป็นการเลิกง้อ ต่างชาติครับ
กลายเป็น มีแต่ ต่างชาติ เข้าไป ตั้งโรงงาน กันใหญ่เลย
แต่ ลองดู ดีๆ ครับ
EV ที่จีน ก็มีปัญหาเยอะ เป็นได้ แค่ รถวิ่งระยะ สั้นๆ ขนาดเล็กอยู่เลย
แต่ ก็พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ
บ้านเรา ก็เริ่มแล้ว
ดีไม่ดี เมื่อตัดความ ซับซ้อน ของเครื่องยนต์ออกไป
อาจได้เห็น แบรน รถไฟฟ้าไทย ที่ใช้งานจริง
เอาแค่ ความเร็วสูงสุด 140 ก็พอละ
-
เท่าที่ผมอ่านในบอร์ดนี้อย่างเดียวทุกวัน ผมก็พอจะทราบว่ารัฐก็พยายามดันอยู่นะครับ มีหลายหัวข้อเลยที่มีข่าวเกี่ยวกับการพยายามที่จะเริ่มผลักดันรถยนต์ที่ขับเคลื่อนไฟฟ้าในไทย จะให้เร็วทันใจแบบจีนก็คงไม่ใช่ ประเทศเราเป็นยังไงก็รู้ๆกันอยู่ครับ ยิ่งดูบนท้องถนนยิ่งเศร้า พวกท่อดังๆหรือพ่นควันดำๆ เพิ่มขึ้นเยอะมากทั้งรถยนต์ทั้งมอไซเล็กใหญ่เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เหมือนถอยหลังลงคลองจริงๆ
-
ผมว่ายังไงคนไทยก็ได้ใช้รถ EV ครับ เพียงแต่อาจจะช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านเค้าหน่อยเท่านั้นเอง
-
ล่าสุดก็ออกภาษีใหม่เพื่อรถไฟฟ้าเก็บน้อยมาก ไหนจะ boi ที่สนับสนุนรถไฟฟ้าอีก ผมว่ารถไฟฟ้าเกิดแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ใน 2-3ปีนี้ อย่างต่ำต้อง 4-5ปีถึงพอหัดเดินได้ในตลาดเมืองไทย
-
ผมว่าคนไทยเอง ที่ไม่พร้อมจะใช้รถไฟ้า
มันจะมีคำถามและเสียงบ่นออกมามากมายออกมาเช่น
ชาร์ตไฟนานวิ่งได้ระยะแค่นี้ใช้รถน้ำมันดีกว่า
ราคาแพง ซื้อรถน้ำมันแล้วเอาส่วนต่างไปเติมน้ำมันเอาดีกว่า
มันเป็นยี่ห้อนี้ ถ้าเป็นยี่ห้อนั้นจะซื้อ
ค่าบำรุงรักษาจะแพงมั้ย แบตราคาเท่าไหร่
แต่งให้เร็วได้มั้ย (นึกถึงสมัยเล่นรถ ทามิย่า เอามอเตอร์แรงๆมาลง)
อะไรประมาณนี้
-
ที่จริงรัฐบาลเรามีนโยบายเรื่องการลดใช้น้ำมันมาตั้งแต่ ปี 2015 แล้ว เมื่อตอนที่นายกคนปัจจุบันของเรากล่าวในที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 (COP-21) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า " ไทยจะลดก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 20 ถึงร้อยละ 25 ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยมุ่งลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล หันมาใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมผลักดันเรื่องการลดการขนส่งทางถนนเปลี่ยนเป็นการขนส่งทางราง ผลักดันใช้พลังงานทดแทนในแผนพลงงานพีดีพีของไทยให้มากขึ้น " ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มผลักดันเรื่องรถไฟฟ้ากันในหลายด้าน บริษัทรถยนต์ในไทยเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนกันบ้างแล้ว และพร้อมที่จะลงทุนกับระบบไฟฟ้ากันมากขึ้น ถ้ารัฐบาลมีความชัดเจนในนโยบายมากขึ้น แม้แต่บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ก็มีความสนใจที่จะเข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่านับจากนี้ไป ถ้านโยบายของรัฐไม่เปลี่ยน เราจะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนถนนเมืองไทยมากขึ้นเป็นลำดับ
-
เอาแค่เฉพาะในนี้ มีกี่คนที่ไม่ต่อต้านไฮบริดครับ ;D
บางคนก้อ ยี้.ทั้งที่ยังไม่เคยลองใช้ด้วยซ้ำไป (ผมก้อยังไม่เคยลองนะครับ)
ลองคิดเล่นๆ ถ้ารถไฟฟ้าเข้าไปอยู่ในใจของคนส่วนมาก. และได้ใช้มันจริงๆจังๆ
อากาศคงดีขึ้นอีกมหาศาล ไม่ต้องเห็นฝรั่งใส่ที่ปิดปากตอนนั่งตุ๊กๆ :-*
-
ขนาดแบตไฮบริดทุกวันนี้ยังบ่นกันจะตาย ผมว่าเกิดยากครับ จะตั้งโรงงานแบตในไทย ก็คงไม่แคล้วขอผูกขาด สุดท้ายผู้บริโภคก็ได้ใช้ของราคาแพง ที่จีนใหญ่ทั้งตลาดผู้บริโภค และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตแบต
.... ไม่นับการการกีดกันจากผุ้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เดิมในไทยอีกนะ คุณลองคิดดูคนตกงานอีกเท่าไหร่
โดยส่วนตัวผมชอบเทคโนโลยีไฮบริดและไฟฟ้า มันมีส่วนทำให้อากาศดีขึ้น ลดมลพิษทั้งทางอากาศและเสียง
-
ที่ทำงานก็จะมีป้าย และ มีระเบียบ ห้ามพนักงานชาร์จแบตรถ !!!!!
-
ที่ทำงานก็จะมีป้าย และ มีระเบียบ ห้ามพนักงานชาร์จแบตรถ !!!!!
ครับ 555
จริงๆ ผมไม่ชอบการรอชาร์จไฟเลยครับ ผมชอบเติมน้ำมันแล้วไปเลยฟิ้ว
ทุกวันนี้ก็ขี้เกียจคอยชาร์จไอแพดกับโทรศัพท์
แต่รถแรงๆ แบบไฟฟ้าก็อยากใช้ ก็เลยรอ e-power อยู่ ไม่งั้นก็ใช้ hybrid ไป
แต่ก็หวังว่าราคาชิ้นส่วนจะถูกลงกว่านี้อีกสักครึ่งนึงหรือมากกว่านั้น
-
การเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างกับคนหมู่มาก คงต้องใช้เวลา ส่วนจะนานแค่ไหนก้อคงแล้วแต่ความเหมาะสมของคนแต่ละประเทศด้วยครับ
เพราะเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งก้อต้องมี กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์และกลุ่มคนที่เสียประโยชน์
คนที่ริเริ่มเปลี่ยนแปลงก้อต้องโดนทั้งคนชม และโดนคนด่า.. ;D
-
ตอนนี้ขยับแค่ภาษีครับ
-
เอาจริงๆรถ EV ถ้าใช้งานเยอะๆไฟบ้านเราไม่น่าพอครับ
ยังจำได้ไหมปีไหนหว่าน่าจะปี 54นี้หละ ที่ว่าช่วงหน้าร้อนขอให้ช่วยกันลดการใช้ไฟเพราะพม่าส่งแก๊สให้เราปั่นไฟไม่ได้
จะใช้รถ EV ได้ไฟบ้านเราต้องมั่นคงกว่านี้
เอาง่ายๆคือให้พวก NGO ngo ngo เลิกค้านก่อนเถอะ
-
เอาจริงๆรถ EV ถ้าใช้งานเยอะๆไฟบ้านเราไม่น่าพอครับ
ยังจำได้ไหมปีไหนหว่าน่าจะปี 54นี้หละ ที่ว่าช่วงหน้าร้อนขอให้ช่วยกันลดการใช้ไฟเพราะพม่าส่งแก๊สให้เราปั่นไฟไม่ได้
จะใช้รถ EV ได้ไฟบ้านเราต้องมั่นคงกว่านี้
เอาง่ายๆคือให้พวก NGO ngo ngo เลิกค้านก่อนเถอะ
มีประเทศไหนที่มีไฟพอโดยไม่ต้องพึ่งพลังงานนิวเคลียร์มั้ยครับ
แล้วเขาหาพลังานมาจากไหนได้เพียงพอ สงสัยครับ
เพราะบ้านเราดูวิกฤตเรื่องพลังงานจริงๆ
-
ถ้าจะให้ทุกคนใช้รถ EV ทั้งประเทศ สิ่งที่ต้องแก้ไขก่อนก็คือ ราคาแบต และ ความเร็วในการชาร์จ
ถ้าปัญหา 2 อย่างนี้สามารถแก้ไขได้ ผมว่าปัญหาอื่นๆก็จะค่อยๆหมดไปเอง
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจนมากขึ้น
-
ดันแบบจำใจ กับดันแบบสุดๆ รัฐบาลดันแบบไหนก็คิดเอาครับ ดันเพราะกลุ่ม.... ส่วนเรื่องผลักดันให้ใช้ในวงกว้าง ต้องรออีกนานหลายปีครับ จีนกับไทยวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศต่างกันมากแบบเทียบกันไม่ได้ครับ
-
ดันแบบจำใจ กับดันแบบสุดๆ รัฐบาลดันแบบไหนก็คิดเอาครับ ดันเพราะกลุ่ม.... ส่วนเรื่องผลักดันให้ใช้ในวงกว้าง ต้องรออีกนานหลายปีครับ จีนกับไทยวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศต่างกันมากแบบเทียบกันไม่ได้ครับ
เห็นด้วยครับ
มีคำกล่าวที่ว่า คนระดับสูงที่เป็นคนมีฐานะอยู่กินกันสบาย ไม่ต้องการให้ประเทศพัฒนาครับ
เพราะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เขาก็สบายมากอยู่แล้ว คนจนก็ปล่อยให้จนต่อไป อย่าได้คิดนโยบาย
ใดๆ ที่ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของตัวเองในปัจจุบันได้รับผลกระทบครับ