Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: superest ที่ พฤศจิกายน 07, 2017, 13:22:48
-
เครื่อง มี เทอร์โบ จากโรงงาน ในปัจจุบันนี้ ก่อนดับเครื่อง ทุกครั้ง ยังจำเป็นต้อง รอ อีกไหมครับ เมื่อก่อน เคยอ่านเจอว่า ต้องรอ ให้ อะไรสักอย่างก่อน แล้วค่อยดับ สมัยนี้ ยังจำเป็นไหม ครับ พอดี เป็นคนรุ่นเก่า ครับ ไม่เคยใช้ เครื่องเทอร์โบ แต่กำลัง จะมี ขอบคุณครับ
-
จริงๆก็ควรเดินเบาไว้บ้างก่อนดับนิดนึงนะครับ ไม่ใช่ซัดๆมาเข้าปั้มจอดละดับเลยแบบนั้นคงไม่ดี (ถึงแม้เป็นรถโรงงานก็ตาม) ถ้าวิ่งไกล เข้าเมืองผ่านสี่แยกติดไฟแดง ผ่านการเดินเบาหรือขับคลานๆมาแล้ว ก็ดับได้เลยครับ เพราะวิศวกรโรงงานคงคิดมาไว้แล้วแหละครับ อย่างสมัยก่อน รถกระบะ Ford ซักรุ่นผมจำไม่ได้มีไทม์เมอร์มาจากโรงงานเลย นั่นก็คงคิดมาแล้วเช่นกัน
สรุป ให้คิดว่ากรณีเดียวที่ต้องรอ คือขับทางไกลแล้วแวะเข้าปั้ม ดับเลยทันทีไม่ดีครับ หรือกรณีใกล้เคียงนั้นก็เช่นกันครับ
-
รถสมัยใหม่ที่มีกระบวนการcool down มาให้ดับเครื่องได้เลยครับ มันมีน้ำและพัดลมมาเลี้ยงหลังดับเครื่อง
-
อย่างบ้านผม จากถนนใหญ่ ต้องเข้าซอยแคบๆ 2 โล ทำให้ คูลดาวน์ไปในตัว
พวกรถซิ่งเค้าติด เทอร์โบไทเมอร์ครับ
-
รอฮอลคูลครับ ;D ล้อเล่น
เทอร์โบมันต้องอาศัยน้ำมันเครื่องไปหล่อเย็นครับ
มันจะร้อนจัดๆ แล้วถ้าดับเครื่องเลยมันก็ไม่มีอะไรไปลดความร้อนมันละ
ที่นี้ก็ แกนคดโข่งโบร้าวใบเปราะก็จะตามมา
ต้องศึกษาระบบดูครับ เห็นมีท่านนึงด้านบนว่าหลังดับเครื่องมีระบบคูลดาวต่อด้วยอันนี้ผมก็เพิ่งรู้ ;)
เอาง่ายๆผมทำประจำเวลาอัดมา เรารู้จุดหมายอยู่แล้ว ก็วางแผนไปเลยครับ ถึงที่ก็ดับเครื่องได้ปกติสบายๆ
รถผมไม่มีโบก็ทำครับ
-
ขับในเมืองไม่ต้องรอครับ ดับได้เลย
แต่ถ้าวิ่งทางไกลมา ควรรอซัก 1-2 นาที จะดีกว่าครับ
เป็นการถนอมเทอร์โบ ลูกนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ
-
รถยุโรปใหม่ๆน่าจะไม่ต้องแล้วมั้งครับ แต่รถยุ่น รถกระบะ น่าจะยังต้องทำอยู่
รอท่านอื่นมาเสริมอีกทีนะ
ส่วนตัวผมเวลาขับไกลจะเข้าปั้มหรือเติมน้ำมันก็ชะลอวิ่งไปเรื่อยๆ
จนถึงปั้มถ้าปวดหนักก็ให้คนเฝ้ารถไว้ ถ้าไม่ก็รอสัก3นาทีหรือคนอื่นกลับมาที่รถค่อยดับ
แต่ปกติไม่ดับเลย ยกเว้นเด็กปั้มบางคนให้ดับตอนเติมน้ำมัน
-
ผมติด turbo timer เดินทางไกล ดึงกุญแจออกล๊อครถ เข้าห้องน้ำได้เลยปล่อยให้ turbo timer ทำงานไป..
-
ส่วนตัว เหมือนหลายๆ ท่านในนี้ ขับมาทำงาน ขับใกล้ๆ ถึงบ้านดับเครื่องเลย
แต่หากวิ่งไกลจะ รอ 2-3 นาทีแล้วค่อยดับ ครับ
-
ยังติดใจกับคำถามนี้อยู่เหมือนกันครับ เพราะรถใหม่ๆสมัยนี้จะมี auto start-stop พอขับทางยาวๆมา จอดรถติดไฟแดง ลองกดเบรกสุดให้เข้าเงื่อนไขอยากรู้ว่าระบบจะดับเครื่องให้มั้ย หรือจะหน่วงเวลาไว้สักแปปเพราะเราเพิ่งวิ่งยาวๆมา ความเร็ว 100+ ปรากฎว่าระบบมันก็ดับเครื่องไปตามปกติครับ
ถ้างั้นก็ดูเหมือนว่าการ cool down นี้ไม่จำเป็นแล้วใช่มั้ย
ช้าก่อน คู่มือรถคันเดียวกันนี่แหละครับมีบอกเป็นตารางเลยว่า
1.ขับในเมือง ไม่จำเป็น จอดแล้วก็ดับได้เลยตามปกติ
2. ขับความเร็วประมาณ 80 ให้ cooldown อย่างน้อย 1 นาที
3. 100 km/hr ขึ้นไป cooldown 2 นาที
เล่นเอามึนล่ะครับ เหมือนมัน contrast กันเอง
-
ยังติดใจกับคำถามนี้อยู่เหมือนกันครับ เพราะรถใหม่ๆสมัยนี้จะมี auto start-stop พอขับทางยาวๆมา จอดรถติดไฟแดง ลองกดเบรกสุดให้เข้าเงื่อนไขอยากรู้ว่าระบบจะดับเครื่องให้มั้ย หรือจะหน่วงเวลาไว้สักแปปเพราะเราเพิ่งวิ่งยาวๆมา ความเร็ว 100+ ปรากฎว่าระบบมันก็ดับเครื่องไปตามปกติครับ
ถ้างั้นก็ดูเหมือนว่าการ cool down นี้ไม่จำเป็นแล้วใช่มั้ย
ช้าก่อน คู่มือรถคันเดียวกันนี่แหละครับมีบอกเป็นตารางเลยว่า
1.ขับในเมือง ไม่จำเป็น จอดแล้วก็ดับได้เลยตามปกติ
2. ขับความเร็วประมาณ 80 ให้ cooldown อย่างน้อย 1 นาที
3. 100 km/hr ขึ้นไป cooldown 2 นาที
เล่นเอามึนล่ะครับ เหมือนมัน contrast กันเอง
อั้ยหยะ!
คราวนี้ระบบออโต้ Start-Stop ไม่ทำให้เครื่องพังเหรอครับ :o
-
ใช้ปกติก้ไม่ต้องทำไรมากหรอกครับ ระบบก็ออกแบบมารองรับระดับนึงแล้ว บางคันดับเครื่อง ล็อครถ เดินออกมา เครื่องยังทำงานอยู่เลยครับ ผมว่าแค่ cool down 1-2 นาที ก็น่าจะพอแล้วครับ
-
ทุกวันนี้ดับได้เลยครับ..
แต่ถ้าเอาสบายใจ จะคูลด์ดาวน์ก็ได้ ไม่เสียหายอะไร
แต่ผมเมื่อใกล้ถึงจุดหมายผมมักจะขับช้า เดินรอบต่ำๆ เมื่อจอดก็ดับได้เลย
ตอนนี้คันนั้นวิ่งมาสองแสนกว่าล่ะ ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย
-
คือปกติรถที่มี ass (ตัวย่อนะ 555) พวกปั๊มน้ำ ปั๊มน้ำมันเกียร์ต่างๆจะต่างจากรถที่ไม่มี คือจะเป็นระบบไฟฟ้า ซึ่งพอเครื่องดับลงไปด้วยระบบ ass แล้ว ของเหลวเหล่านั้นจะยัง flow อยู่ ผมเคยค้นข้อมูลนี้เจอจากพวกรถยุโรป และรถไฮบริดทั้งหลายครับ
แต่ระบบ ass ใน eco car และ ปิคอัพ รวมถึง ppv บางตัวในไทยนี่หาไม่เจอจริงๆ จึงยังคาใจอยู่ครับว่า พี่ดับผลัวะลงไปดื้อๆเลย หรือทำระบบมาพร้อมรองรับเรียบร้อยแล้ว
ยังเสียวๆอยู่ไม่ใช่ว่าพอหมดประกันปุ๊ป ถ้าเจอค่า turbo เหยียบๆแสนนี่ก็ไม่น่าไหวเหมือนกันครับ
ยังติดใจกับคำถามนี้อยู่เหมือนกันครับ เพราะรถใหม่ๆสมัยนี้จะมี auto start-stop พอขับทางยาวๆมา จอดรถติดไฟแดง ลองกดเบรกสุดให้เข้าเงื่อนไขอยากรู้ว่าระบบจะดับเครื่องให้มั้ย หรือจะหน่วงเวลาไว้สักแปปเพราะเราเพิ่งวิ่งยาวๆมา ความเร็ว 100+ ปรากฎว่าระบบมันก็ดับเครื่องไปตามปกติครับ
ถ้างั้นก็ดูเหมือนว่าการ cool down นี้ไม่จำเป็นแล้วใช่มั้ย
ช้าก่อน คู่มือรถคันเดียวกันนี่แหละครับมีบอกเป็นตารางเลยว่า
1.ขับในเมือง ไม่จำเป็น จอดแล้วก็ดับได้เลยตามปกติ
2. ขับความเร็วประมาณ 80 ให้ cooldown อย่างน้อย 1 นาที
3. 100 km/hr ขึ้นไป cooldown 2 นาที
เล่นเอามึนล่ะครับ เหมือนมัน contrast กันเอง
อั้ยหยะ!
คราวนี้ระบบออโต้ Start-Stop ไม่ทำให้เครื่องพังเหรอครับ :o
-
จริงๆ ไม่ต้อง cooldown แล้ว
โบสมัยใหม่เป็น ครีบแปรผัน ทำงานเป็น flat torque ในรอบต่ำๆ
โบสมัยก่อน กว่าบูสจะมา รอบเครื่องก็ปาไป 4000+
รอบสูงความร้อนสูง เลยต้อง cooldown
ถ้าเอาสบายใจจริงๆ ขับในเมือง ความเร็วไม่มาก ไม่จำเป็นต้อง cooldown
ขับทางไกล เล่นรอบสูง cooldown ก็ดี เพื่อความสบายใจ
-
ในเมือง ดับได้เลย
ทางไกล ถ้าขับปกติ แล้วรู้ว่า ต้องแวะปั๊ม ก็เบารถลงมาหน่อย พอจอดแล้วก็ดับได้เลย หรือ ถ้าซัดมาแล้วจอดเลย อันนี้สมควร cool down ครับ
-
ดีเซลเทอร์โบ นับด้วยมั้ยครับ. ของผมทั้งเก๋งและกระบะ ไม่เคยระวังอะไรพวกนี้เลย แต่ก้อไม่เคยมีปัญหา
-
สำหรับรถเทอร์โบโรงงาน การคูลดาวน์ turbo จริงๆ ไม่จำเป็นต้องจอดสตาร์ทเครื่องทิ้ง เดินเบา ไว้ก็ได้ครับ
ก่อนถึงบ้าน หรือ ถึงโรงจอดรถ ก็ขับสบายๆ เบาๆ เข้าซอย ก่อนถึงบ้าน ก็พอแล้วครับ
ยกเว้นรถซิ่ง รถทำ หรือ รถแข่ง แล้วซัดมาใหม่ๆ ต้องมีจอดเดินเบาไว้ ขนาดนั้นก็ยังไม่พอ มีลากสายยางฉีดน้ำเข้า intercooler ด้วยซิ 555 ;D ;D
-
ยังติดใจกับคำถามนี้อยู่เหมือนกันครับ เพราะรถใหม่ๆสมัยนี้จะมี auto start-stop พอขับทางยาวๆมา จอดรถติดไฟแดง ลองกดเบรกสุดให้เข้าเงื่อนไขอยากรู้ว่าระบบจะดับเครื่องให้มั้ย หรือจะหน่วงเวลาไว้สักแปปเพราะเราเพิ่งวิ่งยาวๆมา ความเร็ว 100+ ปรากฎว่าระบบมันก็ดับเครื่องไปตามปกติครับ
ถ้างั้นก็ดูเหมือนว่าการ cool down นี้ไม่จำเป็นแล้วใช่มั้ย
ช้าก่อน คู่มือรถคันเดียวกันนี่แหละครับมีบอกเป็นตารางเลยว่า
1.ขับในเมือง ไม่จำเป็น จอดแล้วก็ดับได้เลยตามปกติ
2. ขับความเร็วประมาณ 80 ให้ cooldown อย่างน้อย 1 นาที
3. 100 km/hr ขึ้นไป cooldown 2 นาที
เล่นเอามึนล่ะครับ เหมือนมัน contrast กันเอง
อั้ยหยะ!
คราวนี้ระบบออโต้ Start-Stop ไม่ทำให้เครื่องพังเหรอครับ :o
ถ้าวิ่งทางไกล ก็ควรจะปิดระบบ
ผมวิ่งในเมือง ถ้าแดดแรงๆ ผมก็ปิดระบบ Start-Stop
เพราะดับเครื่องได้แป๊ปเดียว พออุณหภูมิในห้องโดยสารสูง มันก็ Start อีกแล้วครับ
-
ความเห็นส่วนตัวนะครับวิ่งในเมืองดับเลยครับออกต่างจังหวัดก็คูลดาวน์สัก1-2นาทีก็ดับเลย.แต่น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ของผมใช้กึ่งสังเคราะห์นะครับนานๆก็สลับใช้สังเคราะห์สักครั้งครับ
-
ผมวิ่งทางไกล พอจอดปุ๊บ ผมจะดูที่ Smart Gauge
รอให้อุณหภูมิหม้อน้ำลดลงเหลือง 85-86 องศา ( วาล์วน้ำรถผมเปิดที่ 85 องศา ) แล้วจึงจะดับเครื่องครับ
-
จากที่เจอกลับตัวเองsylphy turbo เคยเจอ2กรณี
1.ขับ 120-130ประมาณ 60กม ก่อนจอดปั๊มประมาณ 7กม ขับ80-90(ช่วงเทอร์โบไม่ทำงาน) เมื่อจอดระบบพัดลมยังทำงานอยู่ก็สัก5นาทีได้ เจอมา2-3รอบแล้ว
2.ขับ 120-130ประมาณ 60กม ก่อนจอดปั๊มประมาณ 7กม ขับ80-90จอดสัก5-10นาที ระบบพัดลมกลับมาทำงาน อันนี้คิดว่าเพราะอุณหภูมิสูงขึ้นจากการจอด
ถ้าจอดคูลดาวน์สัก3-5นาที ไม่เคยเจอระบบพัดลมทำงานเองครับ
-
ผมคนรุ่นเก่าเหมือนเจ้าของกระทู้ :D
เห็นกระทู้นี้แล้ว นึกถึงวันก่อน ผมจอดในปั๊มดับเครื่อง แต่ยังอยู่ในรถ
มีปาเจโร่สปอร์ต ขับเข้ามาจอดเลนข้างๆ คนขับรีบเปิดประตูวิ่งออกไปเข้าห้องน้ำเลย เครื่องไม่ได้ดับ ในรถไม่มีคนอยู่ รถสตาร์ทอยู่อย่างนั้น อีกซักห้านาทีคนขับก็ออกมาจากห้องน้ำ ขึ้นรถขับออกไป (อันนี้คงรีบ)
อีกซักพักนึง มีรถในภาพขับมาจอด (nissan silvia s15 ?) เสียงเครื่องเสียงท่อมาเต็ม คนขับก็ออกไปเข้าห้องน้ำเช่นกัน รถสตาทอยู่อย่างนั้น ผมก็มองว่ารถสวย ล้อสวย
ซักนาทีนึง รถมันดับเอง (อันนี้ไม่ได้รีบไปเข้าห้องน้ำแบบคันแรก แต่เป็น turbo timer )
เลยนึกถึงรถที่บ้านสมัยก่อน สมัยที่รถส่วนใหญ่เป็น NA กัน , turbo จุดประสงค์หลักที่ติดกันก็เพื่อความแรงขึ้น ไม่ใช่เพื่อประหยัดน้ำมันโดยลดซีซีลงแต่แรงเท่าก่อนลดซีซีแบบสมัยนี้ รถที่บ้านก็ไปติดเทอร์โบมาคันนึง แล้วก็ติด turbo timer อย่างนี้
สมัยนั้นพอเข้าบ้าน บิดกุญแจออก ล็อครถ อีก 2 นาทีเครื่องถึงจะดับเช่นกัน
พอมาตอนนี้ ตอนที่รถเป็น turbo กันเยอะๆ ผมกลับมาชอบ NA ตอนนี้หากขับเร็วๆใช้รอบเครื่องสูงๆมา แม้จะเป็น NA ก่อนถึงจุดหมายซักระยะผมก็จะขับเรื่อยๆให้ความร้อนเครื่องลดลง หากสมัยนี้ผมขับรถ turbo ก็คงจะทำแบบนี้เช่นกัน
-
มันแล้วแต่รุ่น แต่คิดว่าไม่จำเป็นครับ รถ phev ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือทางไกลถ้าใช้โหมด e ไม่ใช่โหมดสปอร์ต เครื่องก็ติดๆดับๆตลอด พอความเร็วคงที่หรือเบรคเครื่องดับทันที ก็กังวลอยู่ เพราะมันมีโบด้วยแต่เหมือนเค้าออกแบบไว้อยู่แล้ว
-
แป่ว แล้วรถผมที่เป็น โบ เบนซิล พร้อมauto start stop จะไปไวไหมนี่
เหยียบมา150-160 ลากยาว60กม เข้าไฟแดง เหยีบเบรคแน่น ดับทันที :'(
-
เดินทางไม่ไกล และ ขับในเมือง ดับเครื่องยนต์ได้เลย
วิ่งทางไกลๆ ออกต่างจังหวัด แวะปั้ม แวะกินข้าว ปล่อยเครื่องยนต์+เทอร์โบ Cooldown 1-3 นาที ก่อนดับเครื่องยนต์
รถที่มีระบบ Start-Stop ปิด แล้วดับเครื่องยนต์ตามใจฉันดีกว่าครับ
-
ดูเหมือนจะไม่เข้าใจกันนะ ว่าเค้า คลูดาวน์กันทำไม ....
เอาหลักการง่ายๆครับว่า ทำไมต้องคลูดาวน์ในรถเทอร์โบยุคก่อน แต่รถยุคนี้บอกเลยว่าไม่ต้องไปคลูดาวน์แล้วครับ เสียเวลา
สมัยก่อนที่เครื่องยนต์เทคโนโลยี ยังไม่พัฒนาเหมือนเครื่องยนต์เทอร์โบสมัยนี้คือ บูชที่แกนเทอร์โบจะเป็นแบบบูชทองเหลือง (ตามภาพ)
(http://www.mx7.com/i/233/nqs8nz.jpg) (http://www.mx7.com/view2/Aebgqb6tBPrJMmGH)
ทีนี้เนี่ย ที่แกนเทอร์โบจะมีท่อทางเดินน้ำมันเครื่องที่หล่อลื่นให้กับแกนเทอร์โบอยู่ ปัญหาเก่าๆคือ เมื่อขับรถมา ด้วยความเร็วคือใช้รอบสุงต่อเนื่องมา จะเกิดความร้อนสะสมที่ใบพัดฝั่งไอเสีย ไปจนถึงแกนเทอร์โบ เมื่อผู้ขับขี่ จอดรถทันที และดับเครื่องแกนเทอร์โบที่ร้อนสะสมด้วยแล้ว จะทำให้น้ำมันเครื่องที่หล่อลื่นที่แกน ไหม้ แข็งติดจนเป็นคราบเหนียวทำให้แกนเทอร์โบตาย ถ้าดับเครื่องยนต์ จนเครื่องยนต์เย็นตัว แล้วกลับมาสต๊าด ทำแบบนี้บ่อยๆก็จะเกิดผลเสียกับเทอร์โบได้ ...
แต่ถ้า เราขับมาด้วยความเร็วสูง มาจอดปั๊ม ดับเครื่อง แล้วลงไป เข้าห้องน้ำหรือซื้อของ ที่ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาทีก็ไม่จำเป็นต้องคลูดาวน์ก็ได้เพราะ น้ำมันเครื่องที่แกนเทอร์โบมันจะยังไม่โดนความร้อนที่สะสมจนแห้งติดแกน ในเวลาเท่านี้
ดังนั้นสรุปได้ว่า เทอร์โบ ยุคเก่า ไล่มาตั้งแต่เครื่อง JZ ,7M, หรือ RB ล้วนแล้วให้แกนเทอร์โบเป็นบูชทองเหลืองทั้งสิ้น ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องคลูดาวน์ ...
ทีนี้ตัดกลับมาที่ เทอร์โบในรถยุค ปัจจุบันที่ใช้เป็น บอลแบริ่งกันหมด แถมมีน้ำมาหล่อเย็นให้ และด้วยเทคโนโลยีน้ำมันเครื่องที่ก้าวหน้าขึ้น ดังนั้น การวอมเครื่องจึงไม่มีความจำเป็นแล้วในสมัยนี้ครับ
คลูดาวน์ไปเสียเวลาครับ ดับเครื่องแล้วลงไปซื้อกาแฟเย็นๆกินดีกว่า ....
-
แปลกใจว่า ในคู่มือยังบอกให้ cool down อยู่เนี่ยสิครับ
cap มาจากคู่มือรถปี 2015 ครับ
-
ในคู่มือของ ford ranger ก็มีเขียนไว้ครับ ว่าให้ทำการ cooldown ก่อนดับเครื่องถ้าขับมาด้วยความเร็วสูง ครับ
ถ้าคู่มือเขียนเอาไว้ก็ควรต้องทำตามครับ
-
ขอบอก กระบะเจ้าตลาด ก็บู๊ชทองเหลือง