Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Zachary C ที่ ตุลาคม 29, 2018, 23:12:00
-
อาจจะฟังดูตลก สำหรับกระทู้แนวนี้ (อีกแล้ว) นะครับ
แต่สำหรับผม การได้คำแนะนำ จากคนที่ เล่นรถ ถือเป็นสิ่งที่มีค่า
ประเด็น คือ ผมเป็นคนขับรถช้าครับ ประมาณว่า...
ดอนเมือง โทลเวย์ ขับชิดซ้าย ที่ 60
วิภาวดี ทางหลัก ขับเลนกลาง ที่ 60
มอเตอร์เวย์ ขับเลนที่สอง จากขวาสุด ที่ 80
เลียบคลองประปา ที่ 40...
ผมอยากขับเร็วขึ้น โดยที่ยังรู้สึก ไม่กดดัน ครับ แต่ ณ ปัจจุบัน ยังทำไม่ได้!
สาเหตุที่อยากขับเร็วขึ้น เพราะ แอบรู้สึกเกรงใจรถคันหลัง โดยเฉพาะในเส้นทางที่สวนกัน ฝั่งละ 1 เลน
หรือ เส้นที่สวนกัน ฝั่งละ 2 เลน ... ซึ่งกรณีหลัง ผมมักไม่ขับเลนซ้าย :'( เพราะท่อ และสภาพถนนในเมืองกรุง ที่ค่อนข้างแย่
เพื่อนๆมีวิธีฝึก ให้ขับได้เร็วขึ้น และยังรู้สึกปลอดภัยด้วย ไหมครับ?
ขอบพระคุณครับ
-
1. มองไกลๆครับ จะได้ประโยชน์ในแง่ ถ้าเจอหลุม เจออะไรจะเบรกได้ทัน และไม่กดดันด้วยเหมือนเราหลอกสมองว่าเป้าหมายมันอยู่ไกล จะเร่งให้เร็วไปเอง
2. เปิดเพลงให้ดังขึ้น บางครั้ง เสียงยางเสียงลม จะมีผลทางจิตวิทยา ว่าเราขับเร็วแล้ว เลยเปิดเสียงเพลงกลบมันซะเลย แล้วอย่าไปเหลือบมองเข็มไมล์บ่อยๆ
3. ไปทบทวนว่าเคยมีอดีตในใจอะไรกับ เรื่องนั่งหรือขับรถเร็วหรือเปล่า เช่น อุบัติเหตุ ถ้ามีก็ต้อง ปล่อยวางมันซะ
4. ลองเริ่มขับเร็วบนถนนทึ่กว้างๆ จะสบายใจกว่าเพราะความรู้สึกมันจะไม่ค่อยเร็ว
5. สุดท้ายคือเรื่องของความมั่นใจเช่น ถ้าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุโดยที่เราเป็นฝ่ายผิดเลย แปลว่าเราขับเก่งมากแล้ว ดังนั้นขับเร็วขึ้นอีกนิดตามที่ กฏหมายกำหนดก็ย่อมได้ครับ
-
หารถเกาะครับ ห่างๆตามไป ผมใช้วิธีนี้ตลอดถ้าจะขับเร็วแต่ไม่อยากขับคันเดียวเร็ว อย่างน้อยเรารู้ว่าข้างหน้ามีอะไรต้องหลบมั้ย เห็นเค้าเบรกก็มีการเตรียมตัวได้
แต่ถ้าขับเร็วคนเดียวผมจะดูรถทั่วไปว่าแน่นหรือดูอันตรายต่อการขับเร็วมั้ย เช่นรถเยอะ มีมอเตอร์ไซ ชุมชน แบบนี้ขับเร็วแล้วเครียดมาก อย่าเร็วดีกว่า เอาแค่พอแซงคนอื่นพอ
แต่ถ้าโล่งจริงๆแล้วอยากเร็ว ผมว่าขับให้เร็วกว่าจราจรรอบตัวไม่เกิน 20-40 km/h ก็พอละ (จริงๆ 20 ก็มากละ) อย่าให้เร็วเกินจราจรรอบตัวมากไป และคิดเสมอว่าเค้ามองไม่เห็นรถเรา ไฟสูง ไฟเลี้ยว แตร อย่างก ไม่แน่ใจก็ถอนคันเร่งเตรียมเบรก คิดเสมอว่าเค้าตัดมาแน่ๆ เค้าเปลี่ยนเลนมาแน่ๆ อย่าเพิ่มความเร็วถ้าไม่ชัวร์
-
เวลาวิ่งบนทางด่วน หรือโทเว ตอนรถโล่งๆ ลองเพิ่มความเร็วสัก 100 นึงก่อนครับ ให้ชิน แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ พอเราเคยขับที่ความเร็วสูงๆ เราจะรู้ว่าต้องความคุมมันยังไง
แต่รถที่ใช้อยู่ก็ทีส่วนนะครับ ผมขับรถยุโรปที่มี 200 ม้าขึ้น รู้ว่าการขับ 80-100 เป็นอะไรที่ช้ามากๆ เหมือนรถมันจะไปต่อให้ได้
-
- ขับเยอะขึ้นคับ เช่น เปลี่ยนงาน
- เปลี่ยนรถที่สมรรถนะสูงขึ้น เเบบมีนัยสำคัญ
- เปลี่ยนมุมมอง ของความเร็วที่ คิดว่าปลอดภัยที่สุด ตามบริบทนั้นๆ สำหรับตัวเราคับ
-
1. มองไกลๆครับ จะได้ประโยชน์ในแง่ ถ้าเจอหลุม เจออะไรจะเบรกได้ทัน และไม่กดดันด้วยเหมือนเราหลอกสมองว่าเป้าหมายมันอยู่ไกล จะเร่งให้เร็วไปเอง
2. เปิดเพลงให้ดังขึ้น บางครั้ง เสียงยางเสียงลม จะมีผลทางจิตวิทยา ว่าเราขับเร็วแล้ว เลยเปิดเสียงเพลงกลบมันซะเลย แล้วอย่าไปเหลือบมองเข็มไมล์บ่อยๆ
3. ไปทบทวนว่าเคยมีอดีตในใจอะไรกับ เรื่องนั่งหรือขับรถเร็วหรือเปล่า เช่น อุบัติเหตุ ถ้ามีก็ต้อง ปล่อยวางมันซะ
4. ลองเริ่มขับเร็วบนถนนทึ่กว้างๆ จะสบายใจกว่าเพราะความรู้สึกมันจะไม่ค่อยเร็ว
5. สุดท้ายคือเรื่องของความมั่นใจเช่น ถ้าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุโดยที่เราเป็นฝ่ายผิดเลย แปลว่าเราขับเก่งมากแล้ว ดังนั้นขับเร็วขึ้นอีกนิดตามที่ กฏหมายกำหนดก็ย่อมได้ครับ
ข้อ 1 และ 4 วันพรุ่งนี้ ช่วงดึกๆ จะลองเส้นวิภาวดีดูครับ ตามวิธีที่คุณ Koko แนะนำ
ข้อ 2 ปกติ ผมเป็นคนชอบความเงียบ ทำให้ได้คิด และตรึกตรองหลายๆอย่าง ... ยังไง จะลองดูครับ
ข้อ 3 และ 5 ผมไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหนัก ทางรถยนต์ และ ไม่เคยเป็นฝ่ายผิดครับ
** เวลาเร่งความเร็วขึ้นมากๆ ใจมักจะคิดว่า จะเจ็บแค่ไหน ถ้าเกิดเหตุขึ้น .... ผมก็ไม่ทราบจริงๆครับ ว่าเพราะอะไร ถึงมัก มโน ไปแบบนี้
ขอบคุณครับคุณ Koko
-
ลองค่อยๆเพิ่มเป็น 70 80 90 ดูครับ ค่อยๆเพิ่มทีละนิด เพื่อสร้างความคุ้นเคยครับ
-
หารถเกาะครับ ห่างๆตามไป ผมใช้วิธีนี้ตลอดถ้าจะขับเร็วแต่ไม่อยากขับคันเดียวเร็ว อย่างน้อยเรารู้ว่าข้างหน้ามีอะไรต้องหลบมั้ย เห็นเค้าเบรกก็มีการเตรียมตัวได้
แต่ถ้าขับเร็วคนเดียวผมจะดูรถทั่วไปว่าแน่นหรือดูอันตรายต่อการขับเร็วมั้ย เช่นรถเยอะ มีมอเตอร์ไซ ชุมชน แบบนี้ขับเร็วแล้วเครียดมาก อย่าเร็วดีกว่า เอาแค่พอแซงคนอื่นพอ
แต่ถ้าโล่งจริงๆแล้วอยากเร็ว ผมว่าขับให้เร็วกว่าจราจรรอบตัวไม่เกิน 20-40 km/h ก็พอละ (จริงๆ 20 ก็มากละ) อย่าให้เร็วเกินจราจรรอบตัวมากไป และคิดเสมอว่าเค้ามองไม่เห็นรถเรา ไฟสูง ไฟเลี้ยว แตร อย่างก ไม่แน่ใจก็ถอนคันเร่งเตรียมเบรก คิดเสมอว่าเค้าตัดมาแน่ๆ เค้าเปลี่ยนเลนมาแน่ๆ อย่าเพิ่มความเร็วถ้าไม่ชัวร์
ในที่ชุมชน ผมคลานเป็นเต่าเลยครับ มอเตอร์ไซค์ คน เด็ก ฯลฯ แยกประสาทแทบไม่ทัน :-X
โอเคครับ คุณ Fly to Dream ผมจะลองหารถเกาะดู เส้นวิภาวดี พรุ่งนี้ ดึกๆ น่าจะหาได้ไม่ยากนัก
-
เวลาวิ่งบนทางด่วน หรือโทเว ตอนรถโล่งๆ ลองเพิ่มความเร็วสัก 100 นึงก่อนครับ ให้ชิน แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ พอเราเคยขับที่ความเร็วสูงๆ เราจะรู้ว่าต้องความคุมมันยังไง
แต่รถที่ใช้อยู่ก็ทีส่วนนะครับ ผมขับรถยุโรปที่มี 200 ม้าขึ้น รู้ว่าการขับ 80-100 เป็นอะไรที่ช้ามากๆ เหมือนรถมันจะไปต่อให้ได้
555 ผมมีแต่รถญี่ปุ่น B Seg และ CRV G1 ที่ทำเก็บไว้ นะครับ
ไม่มีรถยุโรปอะจิ :-[
-
- ขับเยอะขึ้นคับ เช่น เปลี่ยนงาน
- เปลี่ยนรถที่สมรรถนะสูงขึ้น เเบบมีนัยสำคัญ
- เปลี่ยนมุมมอง ของความเร็วที่ คิดว่าปลอดภัยที่สุด ตามบริบทนั้นๆ สำหรับตัวเราคับ
จะให้เปลี่ยนงานเลยหรือครับ? 555... ::)
ส่วนรถที่มีสมรรถนะสูงขึ้น ประมาณว่า อัพจาก B Seg เป็น C Seg อะไรแบบนี้ ใช้ไหมครับ? ถ้าอย่างนั้น คงต้องรออีกสักปีครับผม
-
ลองค่อยๆเพิ่มเป็น 70 80 90 ดูครับ ค่อยๆเพิ่มทีละนิด เพื่อสร้างความคุ้นเคยครับ
เคยลองทำอยู่บ้าง แต่เวลากลับถึงบ้าน เหมือนมันเพลียมากเลยครับ ... ประสาทดูตึงๆ
อาจจะเป็นเพราะ ชั่วโมงฝึกขับเร็ว ยังน้อย
จะลองฝึกให้บ่อยขึ้นครับ คุณ Led
-
ผมเจอแต่คนขับเร็วที่อยากให้ขับช้าลงหน่อย ทำกันไม่ได้สักคนเลย
-
จาก 60 บน tollway วันไหนโล่งๆลองแช่เป็น 70-80 ไปยาวๆดูครับ สร้างความคุ้นเคย
เอาที่ผมสันนิษฐานอาจจะเป็นไปได้ว่า..
-กลัวความเร็ว
-ไม่มั่นใจในทักษะการควบคุมรถของตนเอง หากต้องเพิ่มความเร็วมากกว่าที่เคยขับ
-ตัวรถอาจจะไม่ได้สร้างความมั่นใจในการขับในด้านสมรรถนะหรืออัตราเร่ง
-รู้สึกว่าเหยียบเยอะก็เปลืองน้ำมันเยอะ เอาง่ายๆก็คือนิสัยประหยัด
(เป็นข้อไหนก็ลองแก้ให้มันตรงข้ามกับที่เป็นอยู่ครับ)
อย่างไรก็ดี ผมว่าถ้าเพิ่มความเร็วแล้วรู้สึกไม่ใช่ตัวเอง ก็ขับแบบเดิมไปก็ได้ครับ แต่ขอร้องว่าให้ใช้ความเร็วกันเลนที่เหมาะสม ไม่ให้เพื่อนร่วมถนนเดือดร้อนหรือทำให้การจราจรมันไม่ flow ตามแบบที่มันควรจะเป็นก็พอแล้วครับ
-
เปลี่ยนรถครับ หรือทำใ้ห้รถคันเดิมช่วงล่างดีขึ้นเก็บเสียงดีขึ้น
ผมขับ Vios 80 100 ก็กลัวๆละ ให้ผมขับเกิน 110 กับรถที่มีหน้ายางแค่ 190 ผมบอกตรงๆว่าไม่กล้า พลาดมาลงข้างทางทีมันไม่คุ้ม
พอมาขับพวก Altis 110 120 หรือบางช่วงอาจจะมากกว่านั้นบ้าง เป็นเรื่องปกติครับ เพราะ เสียงเครื่อง
เสียงรบกวน และฟีลลิ่ง ช่วงล่าง พวงมาลัย มันนิ่งจนรู้สึกว่ารถมันไม่เร็ว เรามั่นใจในสมรรถนะของรถเพิ่มในระดับนึง
แต่ Altis ผมเอาไป Diy ทำให้เก็บเสียงเพิ่มนิดหน่อย
ถ้าขับพวก BMW LEXUS นี่ต้องคอยระวัง มันนิ่ง เงียบมาก ขับ 140 เหมือนขับคันอื่นแถวๆ 80 ขับเพลินๆ จะโดนกล้องจับความเร็วยิงเล่นอีก
-
โทลเวย์ขับ60เองหรอครับ ผมว่า80-90นี่สุดๆละนะ ตามกม.กำหนดด้วย
-
ต้องขับตามสถานการณ์ที่เป็น ณ ตอนนั้นครับ
ถ้าขับแบบเดิมได้ โดยไม่มีใครตามหลังไม่เดือดร้อนใคร ก็ขับตามเดิมเหอะ ปลอดภัยสำหรับตัวคุณเอง
แต่ถ้าแบบมีอะไรกดดันให้ขับเร็วขึ้น(ไม่เร็วเกินเว่อเกิน) ก็ขับๆไปเหอะครับ แปบเดียว ค่อยผ่อนคืนเท่าเดิม
-
ผมเดาว่าน่าจะเครียดถ้าเร็วแล้วกลัวรถมาชนหรือเปล่าครับ
ถ้าแนะนำอยากให้ฝึกมองกระจกข้างซ้าย กลาง ขวา แบบใช้หางตามองซักเสี้ยววิให้คุ้นเคย แม้จะขับทางตรงยาวก็ตาม แล้วกะความเร็วของรถคันที่แซงเราไปว่าอย่างพุ่งมาในกระจกประมาณนี้จะถึงตัวเรานานไหม
แล้วพยายามฝึกแซงรถที่ความเร็ว 60 - 100 บ่อยๆดูจะได้รู้สึกว่าเราคุมรถได้ครับ
-
เวลาวิ่งบนทางด่วน หรือโทเว ตอนรถโล่งๆ ลองเพิ่มความเร็วสัก 100 นึงก่อนครับ ให้ชิน แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ พอเราเคยขับที่ความเร็วสูงๆ เราจะรู้ว่าต้องความคุมมันยังไง
แต่รถที่ใช้อยู่ก็ทีส่วนนะครับ ผมขับรถยุโรปที่มี 200 ม้าขึ้น รู้ว่าการขับ 80-100 เป็นอะไรที่ช้ามากๆ เหมือนรถมันจะไปต่อให้ได้
555 ผมมีแต่รถญี่ปุ่น B Seg และ CRV G1 ที่ทำเก็บไว้ นะครับ
ไม่มีรถยุโรปอะจิ :-[
บางทีรถก็ไม่เอื้อให้ขับเร็วครับ รถยุโรปก็ต้องระบุเลยว่า Audi, BMW เพราะ Benz บางรุ่นอาจจะขับแย่, Volvo ยิ่งกว่าอีก ถ้าอยากลองเปลี่ยนรถดู แนะนำลอง Subaru XV ครับ
-
ขับช้า จริงๆก็ไม่ได้เสียหายอะไรนะครับ ขับถูกที่ถูกทาง ก็ปลอดภัยดีด้วย รถก็ไม่ช้ำน้ำมันก็ไม่เปลืองอะไรมาก
แต่ถ้าอยากจะสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง แนะนำ ลองไปหาสนามโกคาร์ทขับดู ดูแถวเมืองทองที่เป็นไฟฟ้าก่อนก็ได้ เขาจะมีสถิติต่อรอบของเราเก็บไว้ให้ เวลาวิ่งก็โชว์อยู่ ลองขับทำเวลาจากในสนามพวกนี้ดูก่อน เปรียบเทียบกับคนอื่นๆเขาดู พอคล่องๆแล้วก็ไปหาพวกรถน้ำมันแรงๆ ตามพัทยา ขับอีกทีก็ได้ครับ ลองบนถนนอย่างไงก็ปลอดภัยสู้ในสนามพวกนี้ไม่ได้แน่นอน
ส่วนรถยนต์ ก็อาจจะไปเพิ่มเติมปรับเปลี่ยน โช้ค สปริง เสริมความมั่นใจอะไรเพิ่มก็ได้เหมือนกันครับ
-
ไปพัทยาบ่อย ๆครับ เดี๋ยวเร็วได้เอง
-
เหยียบคันเร่งเพิ่มครั้งละ 5km/h เป็นระยะทางจำนวนหนึ่ง ทำไปเรื่อยๆๆๆจนชินครับ แล้วค่อยเพิ่มอีก 5 km/h ทำวนลูบไปเรื่อยๆๆๆๆ พอคุ้นชินมันก็ขับด้วยความเร็วที่สูงขึ้นจากเดิมครับ
-
ขับทางไกลบ่อยๆ จะทำให้ขับเร็วขึ้นครับ ขับที่ 90 ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป
แต่ชื่นชมนะครับที่คุณเป็นคนขับรถที่ดี
-
หารถเกาะครับ ห่างๆตามไป ผมใช้วิธีนี้ตลอดถ้าจะขับเร็วแต่ไม่อยากขับคันเดียวเร็ว อย่างน้อยเรารู้ว่าข้างหน้ามีอะไรต้องหลบมั้ย เห็นเค้าเบรกก็มีการเตรียมตัวได้
แต่ถ้าขับเร็วคนเดียวผมจะดูรถทั่วไปว่าแน่นหรือดูอันตรายต่อการขับเร็วมั้ย เช่นรถเยอะ มีมอเตอร์ไซ ชุมชน แบบนี้ขับเร็วแล้วเครียดมาก อย่าเร็วดีกว่า เอาแค่พอแซงคนอื่นพอ
แต่ถ้าโล่งจริงๆแล้วอยากเร็ว ผมว่าขับให้เร็วกว่าจราจรรอบตัวไม่เกิน 20-40 km/h ก็พอละ (จริงๆ 20 ก็มากละ) อย่าให้เร็วเกินจราจรรอบตัวมากไป และคิดเสมอว่าเค้ามองไม่เห็นรถเรา ไฟสูง ไฟเลี้ยว แตร อย่างก ไม่แน่ใจก็ถอนคันเร่งเตรียมเบรก คิดเสมอว่าเค้าตัดมาแน่ๆ เค้าเปลี่ยนเลนมาแน่ๆ อย่าเพิ่มความเร็วถ้าไม่ชัวร์
ในที่ชุมชน ผมคลานเป็นเต่าเลยครับ มอเตอร์ไซค์ คน เด็ก ฯลฯ แยกประสาทแทบไม่ทัน :-X
โอเคครับ คุณ Fly to Dream ผมจะลองหารถเกาะดู เส้นวิภาวดี พรุ่งนี้ ดึกๆ น่าจะหาได้ไม่ยากนัก
เขตชุมชน ขับช้าถูกแล้วครับ
ถ้าจะขับเร็วควรเป็นทางที่โล่งอย่างชัดเจน และจะให้ดีควรเป็นทางที่คุ้นด้วยจะมั่นใจมากขึ้นครับ ทางไม่คุ้นเราไม่รู้ว่าหลุมอยู่ตรงไหน
เอาจริงๆตอนผมขับรถใหม่ๆก็ใช้ความเร็ว พอๆกับ จขกท.เลยครับ
-
เปลี่ยนรถไปขับ Fortuner
ผมใช้ Fortuner กับ Ativ สลับๆกัน รถมีผลจริงๆ
ถ้าอยากขับเร็วขึ้น อาจจะมาจากรถหรือเปล่าครับ?
เสียงลม เสียงช่วงล่าง ความเกาะถนน การบังคับควบคุม หรือเครื่องยนต์ ลองพิจารณาดูครับ
-
ทำใจสบายๆและพยายามมองไปไกลๆครับ จดจำสมรรถนะอัตราเร่งรวมถึงระยะเบรคของรถเราไว้เพื่อรักษาระยะห่างให้เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ควรจะไปลงคอร์สที่ทางค่ายรถหรือบริษัทดีๆมีจัดเรื่องการควบคุมรถในสถารการณ์ฉุกเฉินก็จะทำให้มีความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นครับ
-
ขับช้าดีแล้ว แต่ขับช้าเกินก็โดนพวกมาชนท้ายแรงๆได้ อย่างที่เคยเห็นในหลายๆคลิป
ผมว่าเพิ่มความเร็วอีก10-20 แล้วแต่ทางก็โอเคแล้ว
จริงๆจขกท.น่าอิจฉานะ เพราะหลายคนพยายามขับช้าลง แต่ติดนิสัยขับช้าลงไม่ได้
-
เปลี่ยนรถ นี่ช่วยได้จริงครับ รถเก่า เสียงดัง / สั่น / พวงมาลัยไม่กระชับ ให้ความรู้สึกไม่เกาะ ทำให้ไม่อยากขับเร็ว เมื่อก่อนผมขับช้า 80-100 ไม่เกินนี้ เปลี่ยนคันแล้วกลายเปน 100-120 แทน
-
จำได้ว่าเพิ่งได้ใบขับขี่มา
ค่อยๆไปดีแล้วครับ
ขับไปสักพัก ประสบการณ์เยอะขึ้นก็อาจจะมั่นใจที่จะใช้ความเร็วมากกขึ้น ระหว่างนี้พยายามขับให้ปลอดภัย อยู่ถูกที่ถูกทาง เช่น อย่าช้าวิ่งขวา มองกระจกให้คล่อง เดี๋ยวก็ชำนาญและมั่นใจขึ้นเอง
อย่าไปพยายามให้เร็วเลยครับ อันตรายตัวเองเปล่าๆ
-
วิภาวดี ทางหลัก / ดอนเมือง โทลเวย์ ที่ 60 km/h คือถ้าในสภาพการจราจรที่ตามๆ กันไปความเร็วนี้ก็ไม่ได้แย่นะ เพราะถนนโล่งผมใช้ความเร็วขึ้นมาเต็มที่ก็ 80-100 km/h คือจะไปถึง 100 km/h นี่ต้องช่วงถนนโล่งจริงๆ
มอเตอร์เวย์ ขับเลนที่สอง จากขวาสุด ที่ 80 km/h ก็พอไหว ถ้าถนนโล่งๆ ลองขยับขึ้นมาเป็น 100 km/h ให้คุ้นเคยจังหวะของรถทั้งคันเร่งและเบรค หรือถ้าโล่งมากๆ (ต้องรถว่างจริงๆ นะ) อาจจะวิ่งเลนซ้ายที่ 100 km/h แล้วลองจังหวะเบรคที่เรามั่นใจว่ากดเบรคเท่านี้แล้วรถหยุดแค่ไหน ฝึกความคุ้นเคยยามฉุกเฉินไปในตัว
เลียบคลองประปา ที่ 40 km/h อันนี้ผมว่าปกติแม้บางจังหวะคนขับตามหลังอาจจะแอบหงุดหงิดนิดนึง แต่ถนนมีพื้นที่จำกัดแถมคนเดินไปเดินมาในบางช่วง ถ้าถนนโล่งๆ ก็ขยับไปสัก 60 km/h หรือ 80-90 km/h เลขหลังนี่ถนนต้องโล่งว่างจริงๆ ถึงจะใช้ความเร็วได้
-
;) แล้วถ้าปวดท้อง อยากเข้าห้องน้ำ จะขับเร็วได้อีกเท่าไหร่ครับ :P
ขอโทษน้ะครับแซวเล่น
รถด้วยรึปล่าวครับ วันไหนลมล้ออ่อนลง แล้วรถมันย้วยๆ ผมก็ไม่กล้าขับเร็วเหมือนกัน
จาก 100-120 เหลือ 90 เลย :-X
-
..
มอเตอร์เวย์ ขับเลนที่สอง จากขวาสุด ที่ 80
เลียบคลองประปา ที่ 40...
ขับเร็วขึ้นอีกนิดเถอะครับ สักร้อยนึง ไม่งั้นก็เลนสองจากซ้ายเถอนะครับ ด้วยความเคารพ
-
ต้องเปลี่ยนความคิดด้วยครับไม่ใช่แค่ความเคยชิน
หลายคนไม่ไว้ใจรถตัวเอง คิดว่าเทโค้งแรงหรือขับเร็วจะทำให้รถเสียหรือเสียหลักได้ง่ายๆ แต่รถเดี่ยวนี้ขับดีกว่ารถเก่าๆมากครับ ผมยอมพนันเลยว่ารถอย่าง 320D ตอนนี้ขับดีกว่ารถsupercar30ปีที่แล้ว Fiesta ผมเทโค้งบนเขาที่100-120ยังไม่มีอาการเสียหลักอะไรเลย (ขนาด Understeer ยังไม่รู้สึก)
ถ้าคนที่ขับช้าไว้ใจรถตัวเองมากขึ้นก็จะช่วยได้เยอะครับ
อีกอย่างก็คือฝึกในเกม ก่อนผมได้ขับรถจริงๆผมเล่นเกมรถแข่งมา10ปี พอได้ขับรถใหม่ๆประกดว่าขับเร็วเกิน 5555
-
ต้องเปลี่ยนความคิดนึดนึงครับว่า ขับช้าไม่ได้ปลอดภัย เอาจริงๆ ขับช้ามากเกินยิ่งเสี่ยงโดนชนท้าย หรือปาดหน้าเวลาโดนแซงยิ่งอันตรายอีกนะครับ ไม่ได้อยากให้เร็วมากแต่ขอแค่กำลังพอดีๆ ซัก80-100 น่าจะปลอดภัยกว่า
-
ท่านั่งในการขับ การปรับกระจกมองข้าง มองหลังก็สำคัญนะครับในการขับรถ ส่วนจะปรับยังไงลองหาข้อมูลในยูทูปดูครับ แล้วก็ค่อยๆๆเพิ่มความเร็วขึ้นไปอย่างเจอทางโล่งจากเคยขับ60ก็ลองขยับไป80ดูลองขับที่ความเร็วนี้จนเราเริ่มชินเริ่มมีความรู้สึกว่าปกติกับความเร็วระดับนี้ จากนั้นก็ค่อยเพิ่มขึ้นไปเป็น100แล้วก็ทำแบบเดิมครับขับให้ชินกับความเร็วนี้ เดี๋ยวร่างกายสายตาทุกอย่างจะปรับตามความเคยชินไปเองครับ
-
จาก 60 บน tollway วันไหนโล่งๆลองแช่เป็น 70-80 ไปยาวๆดูครับ สร้างความคุ้นเคย
เอาที่ผมสันนิษฐานอาจจะเป็นไปได้ว่า..
-กลัวความเร็ว
-ไม่มั่นใจในทักษะการควบคุมรถของตนเอง หากต้องเพิ่มความเร็วมากกว่าที่เคยขับ
-ตัวรถอาจจะไม่ได้สร้างความมั่นใจในการขับในด้านสมรรถนะหรืออัตราเร่ง
-รู้สึกว่าเหยียบเยอะก็เปลืองน้ำมันเยอะ เอาง่ายๆก็คือนิสัยประหยัด
(เป็นข้อไหนก็ลองแก้ให้มันตรงข้ามกับที่เป็นอยู่ครับ)
อย่างไรก็ดี ผมว่าถ้าเพิ่มความเร็วแล้วรู้สึกไม่ใช่ตัวเอง ก็ขับแบบเดิมไปก็ได้ครับ แต่ขอร้องว่าให้ใช้ความเร็วกันเลนที่เหมาะสม ไม่ให้เพื่อนร่วมถนนเดือดร้อนหรือทำให้การจราจรมันไม่ flow ตามแบบที่มันควรจะเป็นก็พอแล้วครับ
ขอบคุณคุณ Torshi ครับผม
ทักษะการควบคุมรถ ของผม อาจจะไม่ได้ดีมาก แค่เอาตัวรอดใน กทม. ไปวันๆ
ส่วนเรื่อง 'กลัว' อาจเป็นไปได้ครับ
แต่... คงไม่ได้กลัวความเร็ว
กลัว .. เจ็บ มากกว่าครับ :-[
ป.ล. ตอนขับรถใหม่ๆ ดูคลิปอุบัติเหตุทางรถยนต์เยอะมากๆ เพื่อเตือนตนเอง
-
เปลี่ยนรถครับ หรือทำใ้ห้รถคันเดิมช่วงล่างดีขึ้นเก็บเสียงดีขึ้น
ผมขับ Vios 80 100 ก็กลัวๆละ ให้ผมขับเกิน 110 กับรถที่มีหน้ายางแค่ 190 ผมบอกตรงๆว่าไม่กล้า พลาดมาลงข้างทางทีมันไม่คุ้ม
พอมาขับพวก Altis 110 120 หรือบางช่วงอาจจะมากกว่านั้นบ้าง เป็นเรื่องปกติครับ เพราะ เสียงเครื่อง
เสียงรบกวน และฟีลลิ่ง ช่วงล่าง พวงมาลัย มันนิ่งจนรู้สึกว่ารถมันไม่เร็ว เรามั่นใจในสมรรถนะของรถเพิ่มในระดับนึง
แต่ Altis ผมเอาไป Diy ทำให้เก็บเสียงเพิ่มนิดหน่อย
ถ้าขับพวก BMW LEXUS นี่ต้องคอยระวัง มันนิ่ง เงียบมาก ขับ 140 เหมือนขับคันอื่นแถวๆ 80 ขับเพลินๆ จะโดนกล้องจับความเร็วยิงเล่นอีก
555.. ขอเก็บเงินสักนิดนะครับ
สักปีนึง อาจได้เปลี่ยนเป็น C Segment :-*
-
โทลเวย์ขับ60เองหรอครับ ผมว่า80-90นี่สุดๆละนะ ตามกม.กำหนดด้วย
ขับ 60 ซ้ายสุด สม่ำเสมอครับพ้มมมม..
ป.ล. เมื่อวาน มี Fortuner ขับ 60 ตามมา ราว 20 นาทีเลยนะครับ ดีใจ มีเพื่อน 555
-
ต้องขับตามสถานการณ์ที่เป็น ณ ตอนนั้นครับ
ถ้าขับแบบเดิมได้ โดยไม่มีใครตามหลังไม่เดือดร้อนใคร ก็ขับตามเดิมเหอะ ปลอดภัยสำหรับตัวคุณเอง
แต่ถ้าแบบมีอะไรกดดันให้ขับเร็วขึ้น(ไม่เร็วเกินเว่อเกิน) ก็ขับๆไปเหอะครับ แปบเดียว ค่อยผ่อนคืนเท่าเดิม
ณ ตอนนี้ ก็ใช้วิธีนี้ เพื่อเอาตัวรอดนะครับ
จะได้ไม่โดนใครต่อว่า 555...
-
ผมเดาว่าน่าจะเครียดถ้าเร็วแล้วกลัวรถมาชนหรือเปล่าครับ
ถ้าแนะนำอยากให้ฝึกมองกระจกข้างซ้าย กลาง ขวา แบบใช้หางตามองซักเสี้ยววิให้คุ้นเคย แม้จะขับทางตรงยาวก็ตาม แล้วกะความเร็วของรถคันที่แซงเราไปว่าอย่างพุ่งมาในกระจกประมาณนี้จะถึงตัวเรานานไหม
แล้วพยายามฝึกแซงรถที่ความเร็ว 60 - 100 บ่อยๆดูจะได้รู้สึกว่าเราคุมรถได้ครับ
จะฝึกแซง ในความเร็วช่วงกลาง-สูง ตามคุณโบตั๋น แนะนำครับ คืนนี้ จะลองที่วิภาวดีรังสิต ก่อน
ส่วนเรื่องการมองกระจก รอบตัวเป็นระยะ ทำอยู่เสมอครับ เพราะส่วนตัว เป็นคนขี้ 'panic' กลัวจะชนกัน จนทำให้เครียด
-
เวลาวิ่งบนทางด่วน หรือโทเว ตอนรถโล่งๆ ลองเพิ่มความเร็วสัก 100 นึงก่อนครับ ให้ชิน แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ พอเราเคยขับที่ความเร็วสูงๆ เราจะรู้ว่าต้องความคุมมันยังไง
แต่รถที่ใช้อยู่ก็ทีส่วนนะครับ ผมขับรถยุโรปที่มี 200 ม้าขึ้น รู้ว่าการขับ 80-100 เป็นอะไรที่ช้ามากๆ เหมือนรถมันจะไปต่อให้ได้
555 ผมมีแต่รถญี่ปุ่น B Seg และ CRV G1 ที่ทำเก็บไว้ นะครับ
ไม่มีรถยุโรปอะจิ :-[
บางทีรถก็ไม่เอื้อให้ขับเร็วครับ รถยุโรปก็ต้องระบุเลยว่า Audi, BMW เพราะ Benz บางรุ่นอาจจะขับแย่, Volvo ยิ่งกว่าอีก ถ้าอยากลองเปลี่ยนรถดู แนะนำลอง Subaru XV ครับ
แบบที่ท่านใช้อยู่ ใช่ไหมครับ?
ขอบคุณมากๆครับ ::)
-
ขับช้า จริงๆก็ไม่ได้เสียหายอะไรนะครับ ขับถูกที่ถูกทาง ก็ปลอดภัยดีด้วย รถก็ไม่ช้ำน้ำมันก็ไม่เปลืองอะไรมาก
แต่ถ้าอยากจะสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง แนะนำ ลองไปหาสนามโกคาร์ทขับดู ดูแถวเมืองทองที่เป็นไฟฟ้าก่อนก็ได้ เขาจะมีสถิติต่อรอบของเราเก็บไว้ให้ เวลาวิ่งก็โชว์อยู่ ลองขับทำเวลาจากในสนามพวกนี้ดูก่อน เปรียบเทียบกับคนอื่นๆเขาดู พอคล่องๆแล้วก็ไปหาพวกรถน้ำมันแรงๆ ตามพัทยา ขับอีกทีก็ได้ครับ ลองบนถนนอย่างไงก็ปลอดภัยสู้ในสนามพวกนี้ไม่ได้แน่นอน
ส่วนรถยนต์ ก็อาจจะไปเพิ่มเติมปรับเปลี่ยน โช้ค สปริง เสริมความมั่นใจอะไรเพิ่มก็ได้เหมือนกันครับ
แอบดีใจครับ ที่มีคนเข้าใจ คนขับรถช้า 555..
เรื่อง Go Cart เดือนหน้าไปพัทยา จะไปส่องดู .. ถ้าไหวก็จะลองเลยครับ
ป.ล. ภรรยาผม เรียกผมว่า 'Sunday driver' เพราะนางขับเร็ว และใจถึงกว่าผม :-[
-
ไปพัทยาบ่อย ๆครับ เดี๋ยวเร็วได้เอง
หมายถึงไป ... แถว Walking Street หรือครับ? 555
-
ลองคิดแค่ว่าขับตามคันหน้าให้ทัน เว้นระยะปลอดภัยซักหนึ่งช่วงรถนิดๆ พอให้เบรคกระทันหันได้ทัน และอย่าทิ้งห่างจากคันหน้ามากเกินไป ไม่งั้นจะเจอจอมเบียดปาดตามรังควาน เท่านี้ก็ขับได้เร็วตามปกติทั่วไปแล้วครับ :)
-
เหยียบคันเร่งเพิ่มครั้งละ 5km/h เป็นระยะทางจำนวนหนึ่ง ทำไปเรื่อยๆๆๆจนชินครับ แล้วค่อยเพิ่มอีก 5 km/h ทำวนลูบไปเรื่อยๆๆๆๆ พอคุ้นชินมันก็ขับด้วยความเร็วที่สูงขึ้นจากเดิมครับ
รับทราบครับพ้มมมม ..
-
ขับทางไกลบ่อยๆ จะทำให้ขับเร็วขึ้นครับ ขับที่ 90 ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป
แต่ชื่นชมนะครับที่คุณเป็นคนขับรถที่ดี
ขอบคุณมากๆครับ :-*
-
หารถที่แรงขึ้นครับ
สำหรับผม ถ้ารถไม่แรงเช่น ขับ freed ผมก็จะขับช้า 60-100 โดยปริยาย
ถ้าขับ accord hybird ผมก็จะขับเร็วขึ้น 150 - 190 แปลกดี อาจเพราะรถมันเงียบด้วย
-
ขับตามกฏหมายกำหนด มีเร็วบ้างเป็นบางครั้งครับ
เพื่อความปลอดภัยและเคารพกฏหมาย
-
ลองวิธีนี้ดูบนโทรลเวย์ หรือมอร์เตอร์เวย์ดูนะครับ
1. ขับตามคันหน้าแล้วควบคุมคันเร่งให้คงที่โดยเว้นระยะห่างใว้ 2 เส้นประ(เส้นแบ่งเลน) 3 ช่องว่าง สำหรับความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. หรืออย่างน้อย 3 เส้นประ สำหรับความเร็วเกินกว่า 80 กม./ชม.
2. มองใกลๆไปคันก่อนคันหน้าสักสอง-สามคันเพื่อสังเกตุระดับความเร็วว่าลดลงหรือเพิ่มขึันอย่างไร
3. เติมคันเร่งทีละนิดเพื่อรักษาระยะห่างจากคันหน้าให้คงที่ และถอนคันเร่งทันทีที่คันก่อนหน้าคันที่เราตามชะลอรถหรือแตะเบรค
4. แตะเบรคทันทีที่คันหน้าแตะเบรค
ถ้าทำตามนี้จะทำให้เราทำความเร็วได้ตามสภาพจราจรขณะนั้นได้ดีข้นด้วยความมั่นใจขึ้นว่ายังใงก็ไม่ชนคันหน้าแน่นอน (ถ้าเบรคไม่แตก)
การขับแบบนี้ต้องฝึกทักษะการขับเยื้องๆจากคันหน้าเพื่อที่จะมองให้ได้ใกลขึ้นและรอบๆคันของเราด้วยนะครับ อย่าไปจ้องมองแต่ท้ายคันหน้าเราอย่างเดียวซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นมันจะไม่ทันการณ์
-
ขับช้ามากไปก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป
เอาเป็นขับให้สัมพันธ์กับการจราจร และผู้ร่วมทางไปเรื่อยดีกว่าครับ
แต่ถ้าผู้ร่วมทางเป็นซุเปอร์คาร์ก็ปล่อยเขาไปนะ อย่าตามไปดันเขาล่ะ
-
ผมถามกลับ อยากได้เทคนิคขับรถช้ามากกว่าครับ 555
ผมเป็นคนขับรถไม่เร็วนัก ความเร็วส่วนใหญ่ป้วนเปี้ยนแถวไม่เกิน 120 แต่คนรอบตัวมักบอกว่าผมขับรถเร็ว เพราะผมเป็นคนขับรถคล่อง
ส่วนตัวเวลาขับรถ ถ้าถนน 4 เลน ผมมักจะวิ่งเลน 3 หรือ 4 เคยลองวิ่งเลนซ้ายสุด พบว่าขับยากกว่าวิ่งเลนขวาสุด เพราะไหนจะเจอ รถจอด รถช้า เดี๋ยวเข้า ออกจากซอยอีก ผมเลยมองว่าเลนซ้ายสุด ไม่ปลอดภัยที่สุดเสมอไปครับ
ส่วน 2 เลน ส่วนมากจะอยู่ขวา ความเร็วที่ใช้ก็ให้พอๆกับคันหน้า ตามๆกันไปครับ คันไหนช้ามากก็ค่อยหาจังหวะแซงเอา
เคยพยายามขับ 80 ตอนออกทริปทีนึง ทนได้สัก 2 ชั่วโมง รู้สึกง่วง เลยต้องเพิ่มความเร็วเป็นแถว 100 ครับ
-
หารถเกาะครับ ห่างๆตามไป ผมใช้วิธีนี้ตลอดถ้าจะขับเร็วแต่ไม่อยากขับคันเดียวเร็ว อย่างน้อยเรารู้ว่าข้างหน้ามีอะไรต้องหลบมั้ย เห็นเค้าเบรกก็มีการเตรียมตัวได้
แต่ถ้าขับเร็วคนเดียวผมจะดูรถทั่วไปว่าแน่นหรือดูอันตรายต่อการขับเร็วมั้ย เช่นรถเยอะ มีมอเตอร์ไซ ชุมชน แบบนี้ขับเร็วแล้วเครียดมาก อย่าเร็วดีกว่า เอาแค่พอแซงคนอื่นพอ
แต่ถ้าโล่งจริงๆแล้วอยากเร็ว ผมว่าขับให้เร็วกว่าจราจรรอบตัวไม่เกิน 20-40 km/h ก็พอละ (จริงๆ 20 ก็มากละ) อย่าให้เร็วเกินจราจรรอบตัวมากไป และคิดเสมอว่าเค้ามองไม่เห็นรถเรา ไฟสูง ไฟเลี้ยว แตร อย่างก ไม่แน่ใจก็ถอนคันเร่งเตรียมเบรก คิดเสมอว่าเค้าตัดมาแน่ๆ เค้าเปลี่ยนเลนมาแน่ๆ อย่าเพิ่มความเร็วถ้าไม่ชัวร์
ในที่ชุมชน ผมคลานเป็นเต่าเลยครับ มอเตอร์ไซค์ คน เด็ก ฯลฯ แยกประสาทแทบไม่ทัน :-X
โอเคครับ คุณ Fly to Dream ผมจะลองหารถเกาะดู เส้นวิภาวดี พรุ่งนี้ ดึกๆ น่าจะหาได้ไม่ยากนัก
เขตชุมชน ขับช้าถูกแล้วครับ
ถ้าจะขับเร็วควรเป็นทางที่โล่งอย่างชัดเจน และจะให้ดีควรเป็นทางที่คุ้นด้วยจะมั่นใจมากขึ้นครับ ทางไม่คุ้นเราไม่รู้ว่าหลุมอยู่ตรงไหน
เอาจริงๆตอนผมขับรถใหม่ๆก็ใช้ความเร็ว พอๆกับ จขกท.เลยครับ
555... ความต่างของคุณ Devil กับผม คือ ผมขับมาเกือบสิบปีแล้วครับ ก็ยังได้ความเร็ว ที่ ไม่กดดัน ประมาณนี้
-
เปลี่ยนรถไปขับ Fortuner
ผมใช้ Fortuner กับ Ativ สลับๆกัน รถมีผลจริงๆ
ถ้าอยากขับเร็วขึ้น อาจจะมาจากรถหรือเปล่าครับ?
เสียงลม เสียงช่วงล่าง ความเกาะถนน การบังคับควบคุม หรือเครื่องยนต์ ลองพิจารณาดูครับ
ได้ฟังความเห็นจากเพื่อนๆหลายท่าน ว่า รถเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ ขับเร็ว หรือ ขับช้า
ผมไม่เคยคิดแง่นี้ เลยครับ
การซื้อรถครั้งต่อไป จะต้องนำตรงนี้ มาพิจารณาด้วย
ขอบคุณครับ ;D
-
แล้วแต่รถด้วยนะครับ ตอนผมขับสามห่วงก็เข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นคนใจเย็นเพราะเหยียบยังไงก็ไม่ไป พอได้ขับ Civic1.7 MT เท่านั้นแหละเหมือนพลังที่ซ่อนอยู่มันปะทุออกมา (เร็วเฉยๆแต่ไม่ซิ่ง ไม่ปาด ไม่แซงอันตรายนะครับ) พอขับฟอร์จูนเนอร์ก็อีกแบบวิสัยทัศน์ดีๆทำให้ความกังวลความเครียดน้อยลงทำให้สามารถขับเร็วขึ้นได้โดยยังรู้สึกสบายๆอยู่ ทุกวันนี้ขับ BT 50 สี่ประตูก็เมื่อยๆเพราะเป็นเกียร์ธรรมดากับเครียดตอนเข้าเมืองนี่แหละครับจะจอดจะถอยก็ลำบากไปหมด
-
ทำใจสบายๆและพยายามมองไปไกลๆครับ จดจำสมรรถนะอัตราเร่งรวมถึงระยะเบรคของรถเราไว้เพื่อรักษาระยะห่างให้เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ควรจะไปลงคอร์สที่ทางค่ายรถหรือบริษัทดีๆมีจัดเรื่องการควบคุมรถในสถารการณ์ฉุกเฉินก็จะทำให้มีความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นครับ
ครับผม ... ตอนนี้ กำลังพยายามหาคอร์ส ของ Honda Automobile อยู่
เข้าใจว่า บริษัทมีอบรมขับขี่ปลอดภัย แต่เป็นของมอเตอร์ไซค์ครับ
ไม่ทราบว่า พอจะมีคอร์สอบรมเทคนิคการขับรถ ของเอกชน เปิดสอนที่ไหนบ้างไหมครับ?
ของโตโยต้าน่าจะมี ที่ บางนา ส่วน MG แถวศรีนครินทร์
-
ขับช้าดีแล้ว แต่ขับช้าเกินก็โดนพวกมาชนท้ายแรงๆได้ อย่างที่เคยเห็นในหลายๆคลิป
ผมว่าเพิ่มความเร็วอีก10-20 แล้วแต่ทางก็โอเคแล้ว
จริงๆจขกท.น่าอิจฉานะ เพราะหลายคนพยายามขับช้าลง แต่ติดนิสัยขับช้าลงไม่ได้
ช้าไป บางทีดูอันตรายมากเลยครับ คุณ Life is a Highway (ชื่อเพราะนะครับ) ;D
เคยมีรถวิ่งมุดมาเข้าเลนผม ด้านหลัง .... เขาคงไม่คิดว่าเราจะช้า เลยเบรคหนัก แล้วรีบมุดออกไปอีกทาง
ตอนนี้ เลยอยากฝึกให้ขับได้สัมพันธ์กับ traffic flow มากขึ้น
-
เปลี่ยนรถ นี่ช่วยได้จริงครับ รถเก่า เสียงดัง / สั่น / พวงมาลัยไม่กระชับ ให้ความรู้สึกไม่เกาะ ทำให้ไม่อยากขับเร็ว เมื่อก่อนผมขับช้า 80-100 ไม่เกินนี้ เปลี่ยนคันแล้วกลายเปน 100-120 แทน
:-* :-* :-*
-
จำได้ว่าเพิ่งได้ใบขับขี่มา
ค่อยๆไปดีแล้วครับ
ขับไปสักพัก ประสบการณ์เยอะขึ้นก็อาจจะมั่นใจที่จะใช้ความเร็วมากกขึ้น ระหว่างนี้พยายามขับให้ปลอดภัย อยู่ถูกที่ถูกทาง เช่น อย่าช้าวิ่งขวา มองกระจกให้คล่อง เดี๋ยวก็ชำนาญและมั่นใจขึ้นเอง
อย่าไปพยายามให้เร็วเลยครับ อันตรายตัวเองเปล่าๆ
ผมได้ใบขับขี่ มา 10 ปีแล้วครับ :-[ :-[ :-[
ก็ยังช้าแบบนี้มาตลอด
ตอนนี้ กำลังพยายามหัดให้เร็วขึ้น
-
การขับช้าหรือเร็วต้องลองดูปัจจัยพื้นฐานด้วยกันครับ
1.ปกติเป็นคนเดินเร็ว ทำอะไรคล่องตัวอยู่เสมอหรือเปล่า
ถ้าใช่ แต่ขับรถช้าแล้วอยากปรับ ให้ฝึกจิตใจ
ถ้าไม่ใช่ ให้ลองฝึกเดินเร็วๆกลางฝูงชน แต่อย่าให้ชนคน ฝึกสมาธิ มองรอบด้านให้กว้างขึ้น ไกลขึ้น
หรือว่าฝึกเล่นกีฬาอะไรที่มันเน้นแอคชั่น บอล บาส กระโดดเชือก ปิงปอง ฯลฯ
เพื่อเน้นฝึกสมาธิ ทำให้มองรอบด้านให้กว้างขึ้น ไกลขึ้น โดยที่เป็นเรื่องปกติธรรมดา
2.ถ้าคิดว่าชม.การขับยังน้อย ก็ค่อยๆฝึกไปแบบที่หลายๆท่านแนะนำ
ค่อยๆเพิ่มความเร็ว
เอาเทคนิคนักขี่จักรยานเข้าช่วย คือจะใช้การสังเกต หาคันที่เร็วกว่าเรานิดหน่อย
ขับตามเค้าไปแบบห่างๆอย่างห่วงๆ ให้เราสามารถเบรคหรือโต้ตอบสถานะการณ์ทัน
ค่อยๆเพิ่มให้ชินกับความเร็วที่เพิ่มทีละหน่อยก่อน
(นักขี่จักรยานจริงจะค่อนข้างประชิด ตามดูดผ่อนแรง
ตอนผมฟิตๆ ขี่ตามรถบรรทุก 60km/h ยืนระยะได้ แต่อย่าทำตาม ฮา )
3.ลองฝึกด้วยเกม
สมัยผมวัยรุ่น หมดไปกับ daytona USA ไปหลายพัน ขับน๊อค ขับย้อน มันส์มาก ฮา
ลองดูครับ แต่ความเร็วที่ปลอดภัยก็คือความเร็วกลางๆ ตามกระแสของถนน และไม่เกินลิมิตรถเรา
-
เข้าคอร์สขับรถระดับสูง 2 วันครับ
-
ลองหาที่ โล่งๆ แล้วเหยียบ 100+ แช่นานๆ ใจจะได้นิ่งๆครับ ลองเบรก ลองเปลียนเลน ครับ
-
ผมว่าลองขับแบบไหลๆตามคนอื่นเขาไปก็ได้ครับ
ถ้าคนอื่นเขาขับกัน 40 เราก็ขับ40 ถ้าคนอื่นขับกัน 100 เราก็ขับ 100 บ้าง
ทำแบบนี้เกาะกลุ่มเขาไปเรื่อยๆน่าจะชินไปเอง
หรือถ้าวันไหนมีโอกาสลองหาที่โล่งๆ แล้วลองเหยียบคันเร่งจนมิดสุดไปเลย
เผื่อจะได้คุ้นเคยกับรถว่ามันลิมิตเท่านี้นะ มันจะไม่พุ่งไปมากกว่านี้แล้วนะ
-
จำได้ว่าเพิ่งได้ใบขับขี่มา
ค่อยๆไปดีแล้วครับ
ขับไปสักพัก ประสบการณ์เยอะขึ้นก็อาจจะมั่นใจที่จะใช้ความเร็วมากกขึ้น ระหว่างนี้พยายามขับให้ปลอดภัย อยู่ถูกที่ถูกทาง เช่น อย่าช้าวิ่งขวา มองกระจกให้คล่อง เดี๋ยวก็ชำนาญและมั่นใจขึ้นเอง
อย่าไปพยายามให้เร็วเลยครับ อันตรายตัวเองเปล่าๆ
ขออภัยอย่างแรง
จำผิดคนครับ
__/ \__
ผมได้ใบขับขี่ มา 10 ปีแล้วครับ :-[ :-[ :-[
ก็ยังช้าแบบนี้มาตลอด
ตอนนี้ กำลังพยายามหัดให้เร็วขึ้น
-
มอเตอร์เวย์ 80 เลนนั้นช้าไปครับ ต้องขยับไปวิ่งติดสิบล้อครับเผลอๆสิบล้อแซงตั้งแต่กรุงเทพยันชลบุรี
-
มองหารถสักคันบนถนนที่ขับในความเร็วที่เราคิดว่ากำลังดี (ส่วนตัวคิดว่าประมาณ 80-90 กม/ชม) และลองรักษาระยะห่างกับเขาไปเรื่อยๆค่ะ ถ้ามีเหตุต้องแยกกัน ก็มองหาคันใหม่
ส่วนตัวเริ่มจากเป็นคนขับเร็วมากสมัยหัดขับรถใหม่ๆ จนเกิดอุบัติเหตุ เลยทำให้หลายเป็นขับรถช้าเหมือนคุณ Zachary C อยู่พักใหญ่ ทุกวันนี้ก็ยังช้า แต่เริ่ม caught up with traffic ได้มากขึ้นแล้วค่ะ :)
-
วิภาวดี ทางหลัก / ดอนเมือง โทลเวย์ ที่ 60 km/h คือถ้าในสภาพการจราจรที่ตามๆ กันไปความเร็วนี้ก็ไม่ได้แย่นะ เพราะถนนโล่งผมใช้ความเร็วขึ้นมาเต็มที่ก็ 80-100 km/h คือจะไปถึง 100 km/h นี่ต้องช่วงถนนโล่งจริงๆ
มอเตอร์เวย์ ขับเลนที่สอง จากขวาสุด ที่ 80 km/h ก็พอไหว ถ้าถนนโล่งๆ ลองขยับขึ้นมาเป็น 100 km/h ให้คุ้นเคยจังหวะของรถทั้งคันเร่งและเบรค หรือถ้าโล่งมากๆ (ต้องรถว่างจริงๆ นะ) อาจจะวิ่งเลนซ้ายที่ 100 km/h แล้วลองจังหวะเบรคที่เรามั่นใจว่ากดเบรคเท่านี้แล้วรถหยุดแค่ไหน ฝึกความคุ้นเคยยามฉุกเฉินไปในตัว
เลียบคลองประปา ที่ 40 km/h อันนี้ผมว่าปกติแม้บางจังหวะคนขับตามหลังอาจจะแอบหงุดหงิดนิดนึง แต่ถนนมีพื้นที่จำกัดแถมคนเดินไปเดินมาในบางช่วง ถ้าถนนโล่งๆ ก็ขยับไปสัก 60 km/h หรือ 80-90 km/h เลขหลังนี่ถนนต้องโล่งว่างจริงๆ ถึงจะใช้ความเร็วได้
ขอบคุณคุณ Stp สำหรับคำแนะนำเรื่อง การฝึกเบรค ที่ความเร็วสูงครับ
ผมต้องเดินทาง กทม ตราด ทุกเดือน ... ผ่าน MotorWay ออกบ้านบึง
จะลองหาจังหวะทดสอบครับ คิดว่าช่วงที่ผมวิ่งประมาณตี 4 น่าจะหาจังหวะได้ ไม่ยาก
-
;) แล้วถ้าปวดท้อง อยากเข้าห้องน้ำ จะขับเร็วได้อีกเท่าไหร่ครับ :P
ขอโทษน้ะครับแซวเล่น
รถด้วยรึปล่าวครับ วันไหนลมล้ออ่อนลง แล้วรถมันย้วยๆ ผมก็ไม่กล้าขับเร็วเหมือนกัน
จาก 100-120 เหลือ 90 เลย :-X
เคยมีครั้งหนึ่ง ภรรยาต้องรีบเข้าห้องน้ำ ระหว่างขับทางไกล
เชื่อไหมครับ ผมวิ่งทะลุ 100 เลยล่ะ 555
-
ต้องเปลี่ยนความคิดด้วยครับไม่ใช่แค่ความเคยชิน
หลายคนไม่ไว้ใจรถตัวเอง คิดว่าเทโค้งแรงหรือขับเร็วจะทำให้รถเสียหรือเสียหลักได้ง่ายๆ แต่รถเดี่ยวนี้ขับดีกว่ารถเก่าๆมากครับ ผมยอมพนันเลยว่ารถอย่าง 320D ตอนนี้ขับดีกว่ารถsupercar30ปีที่แล้ว Fiesta ผมเทโค้งบนเขาที่100-120ยังไม่มีอาการเสียหลักอะไรเลย (ขนาด Understeer ยังไม่รู้สึก)
ถ้าคนที่ขับช้าไว้ใจรถตัวเองมากขึ้นก็จะช่วยได้เยอะครับ
อีกอย่างก็คือฝึกในเกม ก่อนผมได้ขับรถจริงๆผมเล่นเกมรถแข่งมา10ปี พอได้ขับรถใหม่ๆประกดว่าขับเร็วเกิน 5555
เคยเล่น Asphalt 8 และ 9 ครับ
แต่เอาจริงๆ มันไม่เหมือนการเอาตัวรอด บนถนน กทม เลย
-
ต้องเปลี่ยนความคิดนึดนึงครับว่า ขับช้าไม่ได้ปลอดภัย เอาจริงๆ ขับช้ามากเกินยิ่งเสี่ยงโดนชนท้าย หรือปาดหน้าเวลาโดนแซงยิ่งอันตรายอีกนะครับ ไม่ได้อยากให้เร็วมากแต่ขอแค่กำลังพอดีๆ ซัก80-100 น่าจะปลอดภัยกว่า
อย่างที่ผมคุยกับสมาชิก ท่านก่อนหน้านี้ครับ ... เวลาเราขับช้ามากๆ จนผู้ขับคนอื่นไม่คาด
อาจจะ อันตราย เสียยิ่งกว่าสิ่งใด
ตอนนี้ เลยจำเป็นต้องเริ่มฝึกให้ขับเร็วขึ้นครับ
-
ท่านั่งในการขับ การปรับกระจกมองข้าง มองหลังก็สำคัญนะครับในการขับรถ ส่วนจะปรับยังไงลองหาข้อมูลในยูทูปดูครับ แล้วก็ค่อยๆๆเพิ่มความเร็วขึ้นไปอย่างเจอทางโล่งจากเคยขับ60ก็ลองขยับไป80ดูลองขับที่ความเร็วนี้จนเราเริ่มชินเริ่มมีความรู้สึกว่าปกติกับความเร็วระดับนี้ จากนั้นก็ค่อยเพิ่มขึ้นไปเป็น100แล้วก็ทำแบบเดิมครับขับให้ชินกับความเร็วนี้ เดี๋ยวร่างกายสายตาทุกอย่างจะปรับตามความเคยชินไปเองครับ
ผมมักจะนั่งเอน ครับ คุณ Mile
ส่วนกระจกข้าง มักปรับออกให้เบนออก มากที่สุด เพื่อแก้ปัญหาจุดบอด...
เคยมีประสบการณ์ไม่ดี ตอนขับใหม่ๆนะครับ เลยระมัดระวังเป็นพิเศษ
เดี๋ยวคืนนี้ ดึกๆ ลองฝึกที่เส้นวิภาวดีก่อน ;D
-
ลองคิดแค่ว่าขับตามคันหน้าให้ทัน เว้นระยะปลอดภัยซักหนึ่งช่วงรถนิดๆ พอให้เบรคกระทันหันได้ทัน และอย่าทิ้งห่างจากคันหน้ามากเกินไป ไม่งั้นจะเจอจอมเบียดปาดตามรังควาน เท่านี้ก็ขับได้เร็วตามปกติทั่วไปแล้วครับ :)
ปัญหาคือ ระยะ หนึ่งคันรถนิดๆ ผมจะตอบสนองต่อการเบรค ไม่ทันครับ!
จะลองพยายามฝึกนะครับ ???
ป.ล. ปัจจุบัน ผมจะเว้นระยะ ประมาณ สามคันครับ :-[ :-[ :-[
-
ขับตามกฏหมายกำหนด มีเร็วบ้างเป็นบางครั้งครับ
เพื่อความปลอดภัยและเคารพกฏหมาย
+1 ครับ
-
อันนี้เทคนิคมารของผม คือหาถนนตรง โล่ง แล้วอัดเต็มที่เลย ผมเคยอัดไปถึง 170 แล้วหลังจากนั้น 120 130 คือสบายๆเลย
เพราะเราสร้างความคุ้นชินกับความเร็วสูงมากๆ ได้แล้ว เราก็จะเริ่มปรับตัวได้กับความเร็วที่ต่ำกว่านั้น
แต่ไม่ได้บอกให้พี่ไปอัด 170 แบบผมนะ 55555 แค่จะบอกว่าลองหาที่ปลอดภัยๆแล้วไปให้เกินลิมิตปกติตัวเอง สักครู่ ละจะเริ่มปรับสภาพได้เอง
-
ถ้าขับแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้วก็คงยากหน่อย แต่ก็พอแก้ได้ โดยเริ่มจากเปลี่ยนความคิดว่า การขับรถช้าเกินไป บางครั้งก็ไม่ปลอดภัยทั้งกับตนเองและผู้อื่น เป็นการกีดขวางการจราจรด้วย แม้คุณจะไม่ได้อยู่เลนขวาสุด แต่เชื่อได้ว่าที่ความเร็ว 60 คุณก็ไปกีดขวาวพวกรถบรรทุกสิบล้อ รถพ่วง ทำให้พวกเค้าต้องขึ้นแซงคุณด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้การจราจรไม่ไหลลื่น ยิ่งในถนนเลนสวนยิ่งแล้วใหญ่ คุณสร้างปัญหารถติดยาวๆเลย มองในมุมนี้คุณคือบุคคลที่สร้างปัญหารถติดบนถนนเมืองไทย บางครั้งถ้าลองคิดในมุมนี้อาจทำให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ก็เป็นไปได้ครับ
-
ขับช้า ไม่เป็นอะไรหรอกครับ แต่อย่าขับให้เป็นเหตุของอุบัติเหตุแล้วกัน
-
ลองวิธีนี้ดูบนโทรลเวย์ หรือมอร์เตอร์เวย์ดูนะครับ
1. ขับตามคันหน้าแล้วควบคุมคันเร่งให้คงที่โดยเว้นระยะห่างใว้ 2 เส้นประ(เส้นแบ่งเลน) 3 ช่องว่าง สำหรับความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. หรืออย่างน้อย 3 เส้นประ สำหรับความเร็วเกินกว่า 80 กม./ชม.
2. มองใกลๆไปคันก่อนคันหน้าสักสอง-สามคันเพื่อสังเกตุระดับความเร็วว่าลดลงหรือเพิ่มขึันอย่างไร
3. เติมคันเร่งทีละนิดเพื่อรักษาระยะห่างจากคันหน้าให้คงที่ และถอนคันเร่งทันทีที่คันก่อนหน้าคันที่เราตามชะลอรถหรือแตะเบรค
4. แตะเบรคทันทีที่คันหน้าแตะเบรค
ถ้าทำตามนี้จะทำให้เราทำความเร็วได้ตามสภาพจราจรขณะนั้นได้ดีข้นด้วยความมั่นใจขึ้นว่ายังใงก็ไม่ชนคันหน้าแน่นอน (ถ้าเบรคไม่แตก)
การขับแบบนี้ต้องฝึกทักษะการขับเยื้องๆจากคันหน้าเพื่อที่จะมองให้ได้ใกลขึ้นและรอบๆคันของเราด้วยนะครับ อย่าไปจ้องมองแต่ท้ายคันหน้าเราอย่างเดียวซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นมันจะไม่ทันการณ์
ขอบคุณมากๆครับ สำหรับคำแนะนำ
ผมพยายามขับ โดยมองไกลๆ และเริ่มระวัง ตั้งแต่คันก่อนคันหน้า เบรค
อย่างไร ผมคงต้องฝึกเรื่อง ระยะเวลาในการตอบสนอง อ่ะครับ เพราะผมเป็นคน response ช้า เลยต้องขับด้วยความเร็วต่ำ และทิ้งระยะเยอะๆ
-
ขับช้ามากไปก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป
เอาเป็นขับให้สัมพันธ์กับการจราจร และผู้ร่วมทางไปเรื่อยดีกว่าครับ
แต่ถ้าผู้ร่วมทางเป็นซุเปอร์คาร์ก็ปล่อยเขาไปนะ อย่าตามไปดันเขาล่ะ
เห็นด้วยครับผม (:
-
ผมถามกลับ อยากได้เทคนิคขับรถช้ามากกว่าครับ 555
ผมเป็นคนขับรถไม่เร็วนัก ความเร็วส่วนใหญ่ป้วนเปี้ยนแถวไม่เกิน 120 แต่คนรอบตัวมักบอกว่าผมขับรถเร็ว เพราะผมเป็นคนขับรถคล่อง
ส่วนตัวเวลาขับรถ ถ้าถนน 4 เลน ผมมักจะวิ่งเลน 3 หรือ 4 เคยลองวิ่งเลนซ้ายสุด พบว่าขับยากกว่าวิ่งเลนขวาสุด เพราะไหนจะเจอ รถจอด รถช้า เดี๋ยวเข้า ออกจากซอยอีก ผมเลยมองว่าเลนซ้ายสุด ไม่ปลอดภัยที่สุดเสมอไปครับ
ส่วน 2 เลน ส่วนมากจะอยู่ขวา ความเร็วที่ใช้ก็ให้พอๆกับคันหน้า ตามๆกันไปครับ คันไหนช้ามากก็ค่อยหาจังหวะแซงเอา
เคยพยายามขับ 80 ตอนออกทริปทีนึง ทนได้สัก 2 ชั่วโมง รู้สึกง่วง เลยต้องเพิ่มความเร็วเป็นแถว 100 ครับ
ไม่ทราบจะแนะนำเทคนิค 'ขับอย่างไรให้ช้า' ยังไงเลยครับ?
เอาแบบในหัวผม คือ ...
1) มโนตลอดเวลา ว่า ถ้ารถเลยข้างๆ เค้าตัดเข้ามา เราจะทำอย่างไร
2) จะเจ็บมากไหม ถ้าเกิดอุบัติเหตุ (แค่คิด ก็รู้สึกได้เลยครับ ว่าเจ็บแน่ๆ)
3) แฟนเรา เป็นลูกคนเดียว พ่อตา-แม่ยาย จะทำอย่างไร ถ้าเขาตายไปกับเรา
4) หมาน้อย ที่นอนเบาะด้านหลัง จะลอยออกนอกกระจกไหม? เพราะไม่มี seatbelt
นี่แต่ตัวอย่าง สิ่งที่เกิดในหัวผมนะครับ 555..
-
แล้วแต่รถด้วยนะครับ ตอนผมขับสามห่วงก็เข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นคนใจเย็นเพราะเหยียบยังไงก็ไม่ไป พอได้ขับ Civic1.7 MT เท่านั้นแหละเหมือนพลังที่ซ่อนอยู่มันปะทุออกมา (เร็วเฉยๆแต่ไม่ซิ่ง ไม่ปาด ไม่แซงอันตรายนะครับ) พอขับฟอร์จูนเนอร์ก็อีกแบบวิสัยทัศน์ดีๆทำให้ความกังวลความเครียดน้อยลงทำให้สามารถขับเร็วขึ้นได้โดยยังรู้สึกสบายๆอยู่ ทุกวันนี้ขับ BT 50 สี่ประตูก็เมื่อยๆเพราะเป็นเกียร์ธรรมดากับเครียดตอนเข้าเมืองนี่แหละครับจะจอดจะถอยก็ลำบากไปหมด
+1 ปลดปล่อยพลัง ด้วยการเปลี่ยนรถ 555
-
การขับช้าหรือเร็วต้องลองดูปัจจัยพื้นฐานด้วยกันครับ
1.ปกติเป็นคนเดินเร็ว ทำอะไรคล่องตัวอยู่เสมอหรือเปล่า
ถ้าใช่ แต่ขับรถช้าแล้วอยากปรับ ให้ฝึกจิตใจ
ถ้าไม่ใช่ ให้ลองฝึกเดินเร็วๆกลางฝูงชน แต่อย่าให้ชนคน ฝึกสมาธิ มองรอบด้านให้กว้างขึ้น ไกลขึ้น
หรือว่าฝึกเล่นกีฬาอะไรที่มันเน้นแอคชั่น บอล บาส กระโดดเชือก ปิงปอง ฯลฯ
เพื่อเน้นฝึกสมาธิ ทำให้มองรอบด้านให้กว้างขึ้น ไกลขึ้น โดยที่เป็นเรื่องปกติธรรมดา
2.ถ้าคิดว่าชม.การขับยังน้อย ก็ค่อยๆฝึกไปแบบที่หลายๆท่านแนะนำ
ค่อยๆเพิ่มความเร็ว
เอาเทคนิคนักขี่จักรยานเข้าช่วย คือจะใช้การสังเกต หาคันที่เร็วกว่าเรานิดหน่อย
ขับตามเค้าไปแบบห่างๆอย่างห่วงๆ ให้เราสามารถเบรคหรือโต้ตอบสถานะการณ์ทัน
ค่อยๆเพิ่มให้ชินกับความเร็วที่เพิ่มทีละหน่อยก่อน
(นักขี่จักรยานจริงจะค่อนข้างประชิด ตามดูดผ่อนแรง
ตอนผมฟิตๆ ขี่ตามรถบรรทุก 60km/h ยืนระยะได้ แต่อย่าทำตาม ฮา )
3.ลองฝึกด้วยเกม
สมัยผมวัยรุ่น หมดไปกับ daytona USA ไปหลายพัน ขับน๊อค ขับย้อน มันส์มาก ฮา
ลองดูครับ แต่ความเร็วที่ปลอดภัยก็คือความเร็วกลางๆ ตามกระแสของถนน และไม่เกินลิมิตรถเรา
ขอบคุณครับ คุณ Punn
ยังจำกระทู้ที่คุณกรุณาตอบ เมื่อตอนต้นปี เกี่ยวกับคำถามที่ว่า 'ผมโดนรถบรรทุก ขับจี้' ขณะอยู่เลนซ้าย เส้น บ้านบึง-แกลง ทำอย่างไรดี
จนถึงวันนี้ ผมกำลังพยายามฝึก เพื่อให้ขับเร็วขึ้นได้ครับ
ข้อคิดเรื่อง mental exercises และ activities อื่นๆ มีค่ามากครับ
ผมเป็นคนช้าๆ ค่อยๆเดิน ค่อยๆคิด ... แต่แปลกที่ดันเรียนหนังสือได้ จนจบปริญญาเอก
ซึ่งข้อเสียตรงจุดนี้ อาจจะเกี่ยวพันกับวิธีการขับรถ พอควรทีเดียว
-
เข้าคอร์สขับรถระดับสูง 2 วันครับ
มีสถานที่แนะนำไหมครับ? เป็นของเอกชนก็ได้ ???
-
ลองหาที่ โล่งๆ แล้วเหยียบ 100+ แช่นานๆ ใจจะได้นิ่งๆครับ ลองเบรก ลองเปลียนเลน ครับ
มีช่วงวันที่ 5/11 นี้ จะเดินทางเส้นมอเตอร์เวย์ ตอนตีสี่ครับ
เดี๋ยวจะลองดู
ขอบคุณครับ
-
ผมว่าลองขับแบบไหลๆตามคนอื่นเขาไปก็ได้ครับ
ถ้าคนอื่นเขาขับกัน 40 เราก็ขับ40 ถ้าคนอื่นขับกัน 100 เราก็ขับ 100 บ้าง
ทำแบบนี้เกาะกลุ่มเขาไปเรื่อยๆน่าจะชินไปเอง
หรือถ้าวันไหนมีโอกาสลองหาที่โล่งๆ แล้วลองเหยียบคันเร่งจนมิดสุดไปเลย
เผื่อจะได้คุ้นเคยกับรถว่ามันลิมิตเท่านี้นะ มันจะไม่พุ่งไปมากกว่านี้แล้วนะ
ขอบคุณมากๆ ครับผม
-
มอเตอร์เวย์ 80 เลนนั้นช้าไปครับ ต้องขยับไปวิ่งติดสิบล้อครับเผลอๆสิบล้อแซงตั้งแต่กรุงเทพยันชลบุรี
ประเด็นคือ กลัวสิบล้อเบียดครับ
เพราะเวลาสิบล้อแซง เขาจะใช้เลนนั้นแหละ 555..
ดังนั้น เลยพยายามฝึกขับ ให้เร็วขึ้นครับ
-
มองหารถสักคันบนถนนที่ขับในความเร็วที่เราคิดว่ากำลังดี (ส่วนตัวคิดว่าประมาณ 80-90 กม/ชม) และลองรักษาระยะห่างกับเขาไปเรื่อยๆค่ะ ถ้ามีเหตุต้องแยกกัน ก็มองหาคันใหม่
ส่วนตัวเริ่มจากเป็นคนขับเร็วมากสมัยหัดขับรถใหม่ๆ จนเกิดอุบัติเหตุ เลยทำให้หลายเป็นขับรถช้าเหมือนคุณ Zachary C อยู่พักใหญ่ ทุกวันนี้ก็ยังช้า แต่เริ่ม caught up with traffic ได้มากขึ้นแล้วค่ะ :)
ผมไม่เคยเกิดอุบัติเหตุครับ คุณ Chanom แต่ก็ระมัดระวังตัว อยู่ตลอด
ตอนนี้ ได้ ideas จากเพื่อนๆหลายท่าน และจะค่อยๆฝึกฝนไปครับ อย่างน้อย เร็วขึ้นได้บ้างก็จะดี
-
อันนี้เทคนิคมารของผม คือหาถนนตรง โล่ง แล้วอัดเต็มที่เลย ผมเคยอัดไปถึง 170 แล้วหลังจากนั้น 120 130 คือสบายๆเลย
เพราะเราสร้างความคุ้นชินกับความเร็วสูงมากๆ ได้แล้ว เราก็จะเริ่มปรับตัวได้กับความเร็วที่ต่ำกว่านั้น
แต่ไม่ได้บอกให้พี่ไปอัด 170 แบบผมนะ 55555 แค่จะบอกว่าลองหาที่ปลอดภัยๆแล้วไปให้เกินลิมิตปกติตัวเอง สักครู่ ละจะเริ่มปรับสภาพได้เอง
รถของผม เจ้า Mobilio เขาล็อคความเร็วที่ 160+ ครับ 555..
แต่ถ้าผมต้องขับเร็วประมาณเดียวกับคุณ Tan ... ผมน่าจะเยี่ยวราด 555..
-
ถ้าขับแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้วก็คงยากหน่อย แต่ก็พอแก้ได้ โดยเริ่มจากเปลี่ยนความคิดว่า การขับรถช้าเกินไป บางครั้งก็ไม่ปลอดภัยทั้งกับตนเองและผู้อื่น เป็นการกีดขวางการจราจรด้วย แม้คุณจะไม่ได้อยู่เลนขวาสุด แต่เชื่อได้ว่าที่ความเร็ว 60 คุณก็ไปกีดขวาวพวกรถบรรทุกสิบล้อ รถพ่วง ทำให้พวกเค้าต้องขึ้นแซงคุณด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้การจราจรไม่ไหลลื่น ยิ่งในถนนเลนสวนยิ่งแล้วใหญ่ คุณสร้างปัญหารถติดยาวๆเลย มองในมุมนี้คุณคือบุคคลที่สร้างปัญหารถติดบนถนนเมืองไทย บางครั้งถ้าลองคิดในมุมนี้อาจทำให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ก็เป็นไปได้ครับ
ด้วยเหตุนี้แหละ ครับผม .. จึงพยายามจะเปลี่ยนพฤติกรรมการขับ ให้ไหลร่วมกับคนอื่นๆ ได้มากขึ้น
-
ขับช้า ไม่เป็นอะไรหรอกครับ แต่อย่าขับให้เป็นเหตุของอุบัติเหตุแล้วกัน
+1 ครับผม
-
หารถเกาะครับ ห่างๆตามไป ผมใช้วิธีนี้ตลอดถ้าจะขับเร็วแต่ไม่อยากขับคันเดียวเร็ว อย่างน้อยเรารู้ว่าข้างหน้ามีอะไรต้องหลบมั้ย เห็นเค้าเบรกก็มีการเตรียมตัวได้
แต่ถ้าขับเร็วคนเดียวผมจะดูรถทั่วไปว่าแน่นหรือดูอันตรายต่อการขับเร็วมั้ย เช่นรถเยอะ มีมอเตอร์ไซ ชุมชน แบบนี้ขับเร็วแล้วเครียดมาก อย่าเร็วดีกว่า เอาแค่พอแซงคนอื่นพอ
แต่ถ้าโล่งจริงๆแล้วอยากเร็ว ผมว่าขับให้เร็วกว่าจราจรรอบตัวไม่เกิน 20-40 km/h ก็พอละ (จริงๆ 20 ก็มากละ) อย่าให้เร็วเกินจราจรรอบตัวมากไป และคิดเสมอว่าเค้ามองไม่เห็นรถเรา ไฟสูง ไฟเลี้ยว แตร อย่างก ไม่แน่ใจก็ถอนคันเร่งเตรียมเบรก คิดเสมอว่าเค้าตัดมาแน่ๆ เค้าเปลี่ยนเลนมาแน่ๆ อย่าเพิ่มความเร็วถ้าไม่ชัวร์
โดยปกติผมเป็นคนขับรถเร็ว แต่ได้อ่านคำแนะนำของคุณแล้วรู้สึกมีประโยน์มากครับ ขอบคุณครับ
-
หารถเกาะครับ ห่างๆตามไป ผมใช้วิธีนี้ตลอดถ้าจะขับเร็วแต่ไม่อยากขับคันเดียวเร็ว อย่างน้อยเรารู้ว่าข้างหน้ามีอะไรต้องหลบมั้ย เห็นเค้าเบรกก็มีการเตรียมตัวได้
แต่ถ้าขับเร็วคนเดียวผมจะดูรถทั่วไปว่าแน่นหรือดูอันตรายต่อการขับเร็วมั้ย เช่นรถเยอะ มีมอเตอร์ไซ ชุมชน แบบนี้ขับเร็วแล้วเครียดมาก อย่าเร็วดีกว่า เอาแค่พอแซงคนอื่นพอ
แต่ถ้าโล่งจริงๆแล้วอยากเร็ว ผมว่าขับให้เร็วกว่าจราจรรอบตัวไม่เกิน 20-40 km/h ก็พอละ (จริงๆ 20 ก็มากละ) อย่าให้เร็วเกินจราจรรอบตัวมากไป และคิดเสมอว่าเค้ามองไม่เห็นรถเรา ไฟสูง ไฟเลี้ยว แตร อย่างก ไม่แน่ใจก็ถอนคันเร่งเตรียมเบรก คิดเสมอว่าเค้าตัดมาแน่ๆ เค้าเปลี่ยนเลนมาแน่ๆ อย่าเพิ่มความเร็วถ้าไม่ชัวร์
โดยปกติผมเป็นคนขับรถเร็ว แต่ได้อ่านคำแนะนำของคุณแล้วรู้สึกมีประโยน์มากครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ปกติผมก็ขับเร็วบ้าง เร็วมากบ้าง ปกติบ้าง ผมอาจไม่ใช่กูรูอะไรหรอกครับ แต่ขับเร็วของผมนั้นคือขับแบบตามคันอื่นมากกว่าจะเร็วแบบโดดๆคันเดียวทั้งถนน
เช่นเวลาผมขับทาไกล ปกติเลยผมจะวิิ่ง 110-130 ไม่ค่อยเกินนี้ เพราะเดี๋ยวนี้กล้องใหม่ๆเยอะ แถมมีแฟรช รู้สึกเบื่อเหมือนกัน แต่ถ้าช่วงไหนเจอรถที่ทำเวลาชดเชยได้ผมจะตามไปห่างๆครับ บางครั้งความเร็วจะสูงเวอร์จนผมคิดว่าพอ เลิกตามแบบนี้บ้าง แต่ส่วนใหญ่รถวิ่งทางไกลจะวิ่งกัน 130 - 160 ไม่ค่อยเกินนี้กัน และคันนำมักจะใช้ไฟเลี้ยวบอกเตือนเราก่อนด้วย ปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น มีเวลาเตรียมตัว ผมเลยใช้วิธีนี้ครับ
ส่วนถ้าขับคันเดียวเร็ว อันนี้ส่วนใหญ่คือเส้นประจำที่วิ่ง เลยเร็วได้บ้างครับ แต่แปปๆ ไม่ได้จะเร็วไปยาวๆ เห็นว่าผมขับเร็วแบบนี้โดนจับความเร็วในชีวิตแค่ครั้งเดียวครับ ไม่ตั้งใจด้วยแซงแล้วมีรถมา ต้องกดส่งให้ตามมารยาท เจอกล้องพอดีเรียบร้อย
ส่วนในชุมชนขับตามๆไปครับ ไม่ต้องแซง ผมกลัวโดนชนท้ายมากกว่า
ถ้านอกชุมชนก็เร็วได้แต่อย่าเร็วให้เร็วจนต่างจากจราจรรอบตัว เพราะมันจะเป็นจุดต่างของกระแสจราจร คนอื่น 80 เรามา 120 แบบนี้อันตรายมากครับ ถ้าเร็วก็เอาพอแซง เช่นกระแสจราจรรถเยอะ 80 เราวิ่ง 90-100 (อาจไป 110 ถ้าเป็นถนนนอกเมือง หลายเลน) แค่นี้ก็ปลอดภัยครับ
-
แบบประหยัดๆ ไม่เสียเลือดเสียเนื้อ
ลองโหลดเกมขับรถ ( ที่ค่นอข้างสมจริง) มาเล่นครับ
อย่างเช่น real racing 3 ในมือถือ
นอกจากทำให้ประสาทสัมผัสไวแล้ว ยังทำให้กะระยะเบรค จับ grip จับ balance รถได้ด้วย :-* :-* :-*
ปล จริงๆไม่อยากให้ยึดติดกับตัวเลขความเร็วบนหน้าปัดครับ
เราต้องเช็คตัวเองตลอดเวลา ถามตัวเองเป็นพักๆ
ว่ารถไหวมั้ย , ขับเร็วเท่านี้ล้อทั้ง 4 ยังแนบอยู่กับพื้นถนนรึเปล่า ( ใช้ประสาทสัมผัสทางก้น ) / ล้อแนบพื้นก็จริง แล้วพิ้นถนนลื่นมั้ย
( วิภาวดีบางช่วงถนนลื่นครับ ช่วงที่เป็นทางบีบ แล้วก็ช่วงขาเข้าเมืองที่จะขค้นทางด่วนไปบางนา )
, สติไหวมั้ย อดนอนหนังท้องตึงหนังตาหย่อนรึเปล่า
, ถ้าชนแล้วจะตายมั้ย / มีอะไรตัดหน้าหักหลบแล้วจะคว่ำมั้ย
, มุมบอด ณ ตอนนั้นมีจุดไหนมั่ง ถ้ามีอะไรโผล่ออกมาจะเบรคทันมั้ย ฯลฯ :-* :-* :-*
-
แบบประหยัดๆ ไม่เสียเลือดเสียเนื้อ
ลองโหลดเกมขับรถ ( ที่ค่นอข้างสมจริง) มาเล่นครับ
อย่างเช่น real racing 3 ในมือถือ
นอกจากทำให้ประสาทสัมผัสไวแล้ว ยังทำให้กะระยะเบรค จับ grip จับ balance รถได้ด้วย :-* :-* :-*
ปล จริงๆไม่อยากให้ยึดติดกับตัวเลขความเร็วบนหน้าปัดครับ
เราต้องเช็คตัวเองตลอดเวลา ถามตัวเองเป็นพักๆ
ว่ารถไหวมั้ย , ขับเร็วเท่านี้ล้อทั้ง 4 ยังแนบอยู่กับพื้นถนนรึเปล่า ( ใช้ประสาทสัมผัสทางก้น ) / ล้อแนบพื้นก็จริง แล้วพิ้นถนนลื่นมั้ย
( วิภาวดีบางช่วงถนนลื่นครับ ช่วงที่เป็นทางบีบ แล้วก็ช่วงขาเข้าเมืองที่จะขค้นทางด่วนไปบางนา )
, สติไหวมั้ย อดนอนหนังท้องตึงหนังตาหย่อนรึเปล่า
, ถ้าชนแล้วจะตายมั้ย / มีอะไรตัดหน้าหักหลบแล้วจะคว่ำมั้ย
, มุมบอด ณ ตอนนั้นมีจุดไหนมั่ง ถ้ามีอะไรโผล่ออกมาจะเบรคทันมั้ย ฯลฯ :-* :-* :-*
ขอบคุณครับ คุณ Supercat
-
เป็นคนขับรถช้า เหมือนกันเลย
gps 70 ยาว ยาว
-
เป็นคนขับรถช้า เหมือนกันเลย
gps 70 ยาว ยาว
??? ??? ;D ;D