Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Guy y ที่ ธันวาคม 30, 2018, 00:21:39
-
น้ำมัน E20 ของปั๊มไหนดีวิ่งสุดครับ
รบกวนขอข้อมูลด้วยครับ
-
ชอบ esso ครับ
-
จากการทดสอบอย่างจริงจังด้วย Jazz GE ป๋องแป๋งของผม ได้ผลดังนี้ครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า E20 ของ Caltex ครับ
ออกตัวลื่น กระฉับกระเฉง
ยิ่งช่วง 80-110 แทบไม่ต้องเหยียบถึงระดับครึ่งคันเร่งให้รอบเครื่องดีดเลย
ระยะทางที่ได้ต่อน้ำมัน 1 ถัง (31-32 ลิตร) เฉลี่ยที่ 450-520 ก.ม.
(เคยได้สุดๆ ที่ 562 แค่ครั้งเดียวในอายุรถทั้งหมดเกือบ 10 ปี และช่วงนั้นเป็นช่วงวิ่งยาว ไม่เจอรถติดตลอดทั้งอาทิตย์)
รองลงมาก็ E20 ของ Esso กับ ปตท.
ออกตัวพอ ๆ กับ 95E10 ของ ปตท. แต่ไม่รู้สึกลื่นเท่า E20 ของ Caltex (Esso แรงกว่า ปตท. นิดนึงจนแทบไม่รู้สึกถึงความต่าง)
ช่วงเร่ง 80-110 ต้องเพิ่มระยะเหยียบมากขึ้นอีกนิดจนรอบเครื่องดีดขึ้นบ้าง
ระยะทางที่ได้ต่อถังส่วนใหญ่จะป้วนเปี้ยนแถวๆ 420-470 ก.ม. ไม่เคยได้ถึง 500 เลย ไฟเตือนก่อนทุกที
อืดสุดก็ E20 ของ บางจาก
ช่วงออกตัวรู้สึกยังกับเติม 91E10 ของ ปตท.
ช่วงเร่ง 80-110 ต้องกดคันเร่งลึกมาก แถมรอบเครื่องไม่ยอมดีดช่วยส่งแรงอีก การไต่ระดับความเร็วทำได้ช้าจนรู้สึกได้ชัดเจน
ระยะทางที่ได้ต่อถังส่วนใหฯ่จะป้วนเปี้ยนที่ 380-420 ก.ม. ซึ่งถือว่ากินใช่ย่อยจนตกใจว่ารถเรามีปัญหาอะไรหรือป่าว
ห่วยสุดก็ E20 ของ Shell
ผมจำความรู้สึกช่วงออกตัวกับช่วงเร่ง 80-110 ไม่ได้แล้ว ระยะทางต่อถังก็ลืมไปแล้ว
จำได้แต่ว่าเมื่อจุ่มคันเร่งนิดๆ รอบเครื่องจะสวิงหน่อยๆ เป็นกับรถที่ผมใช้ทั้งสองคัน (Jazz GE + Camry ACV40)
ผมจึงลาขาดกับ E20 ของ Shell ไปเลย
ผมยอมรับว่าเมื่อก่อนผมรักบางจากเพราะ Brand Royalty มาก (ถึงขั้นถือหุ้นจิ๋ว ๆ ที่ไม่ได้เก็งกำไรอะไรไว้ด้วย) การตลาดที่มีผลต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมมีผลกับผมมาก มีโปรคะแนน x2 กับ E20 ก็ยิ่งชอบ ยิ่งมีปั๊มเติมเองได้ส่วนลด 30 สตางค์ ก็ยิ่งรัก ของแถมสนับสนุนกลุ่ม OTOP ก็ช่วยส่งเสริมประเทศดี แต่เมื่อได้ย้ายไปพักที่นึงเป็นเวลา 2 ปี ทำให้ผมห่างจากบางจากเพราะไม่มีให้เติม ผมได้ตัดความเป็น Brand Royalty ออกแล้วเปิดใจกับแบรนอื่นดู จึงรู้ว่ามันมีสิ่งที่ดีกว่าสำหรับรถผมแฮะ พอได้ย้ายกลับมาพักที่เดิม ได้กลับมาเติมบางจากเหมือนเดิม กลายเป็นว่าน้ำมันบางจากอืดสุดกินสุดจากแบรนทั้งหมดที่กล่าวมาซะงั้น (ยกเว้น Shell) ผมอยากให้บางจากปรับปรุงคุณภาพน้ำมันให้ทัดเทียมกับคู่แข่งมากขึ้น แล้วผมจะกลับไปอุดหนุนอีกครับ :)
-
ส่วนตัวผมชอบบางจากสุดครับ ....
แต่เท่าที่เคยลองมา เคยเติม E20 ทั้งบางจาก เชลล์ และ Esso เต็มถังจาก กทม. วิ่งขึ้นเชียงใหม่ด้วยความเร็วประมาณ 110-120 ตลอดทาง
จะไปเกือบหมดแถวๆ ห้างฉัตร ลำปาง แล้วพอเติมเต็มถังกลับไปเพื่อหาปริมาณน้ำมัน/ระยะทางก็พบว่าได้ค่าใกล้เคียงกันมากๆด้วย หลักทศนิยม
สรุปคือ พอๆกัน.......
ปล.ไม่เกี่ยวกับเรื่องน้ำมัน แต่ผมสังเกตุว่าหลังจากล้างรถใหม่ๆจะรู้สึกว่ารถวิ่งลื่นขึ้น เร่งดีขึ้น ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่านะครับ
-
ความรู้สึกแต่ละคน และรถแต่ละคันไม่เหมือนกัน
ตามความเห็นผม
1 คาลเท็ก ดีที่สุด แต่หาเติมยาก และของแถมไม่ค่อยมี เก็บแต้มใช้ the 1 กับ true
2 esso เติมบ่อยสุด มีเก็บแต้มและแถมน้ำ หาเติมไม่ยากสำหรับผม คุณภาพถือว่าดี จึงเติมเจ้านี้บ่อยสุด
3 บางจาก พอๆกับ esso แต่บัตรใช้ร่วมกับดีเซลไม่ได้ จะเติมเมื่อไฟน้ำมันเตือนหรือเป็นทางผ่านจริงๆ
4 ปตท อันนี้กลางๆ ห่วยกว่าบางจากอีกนิด ของแถมไม่มี อาศัยเวลาเดินทางจังหวัดไม่ไว้ใจปั้มอื่น ส่วนใหญ่จะใหญ่และได้มาตรฐานกว่าปั้มอื่น ถือโอกาสพักซื้อของเข้าห้องน้ำด้วย
5 shell ค่อนข้างห่วย เร่งไม่ออก หมดเร็ว ของแถมไม่ค่อยมี จะเติมเมื่อจำเป็นต้องเติมจริงๆ และจะเป็น e10 95 หรือ v power เท่านั้น
pt กับ susco ไม่รู้มีไหม แต่ไม่เคยคิดจะเข้าไปเหยียบ
-
ตอบจากที่เคยเติมนะครับ.
Caltex > Esso > PTT > BCP > Shell
4ยี่ห้อแรกก็ตามที่พี่ๆเล่ากันมา แต่ตัวผมเจอe20ตราหอยที่เติมแล้ว เร่งไม่ค่อยขึ้นและหนักๆก็ไฟเครื่องยนต์ขึ้น2ครั้ง ผมก็เลิกเติมเลย
-
เคยลองแล้วต่างกันไม่มาก ก็เลยเลือกเติมแบบสดวก และชอบปั๊มที่เปิดใหม่ ยี่ฮ้ออะไรก็ได้
-
Caltex จะได้ความลื่นและแรงครับ แต่เปลืองสุดในกลุ่มน้ำมัน E20 แต่ผมชอบสุดตรงที่ลื่นและแรงนี่แหละครับ เจ้านี้นานๆผมเติมที
รองลงมาผมให้เชลล์กับเอสโซ่นะครับ สองเจ้านี้กินกันไม่ลง ใจผมให้เอสโซ่มากกว่า
กลางๆไม่ดีไม่แย่เน้นหาเติมง่าย ปตท.ครับ สูตรใหม่ (บลูเอ้นนูรแวร์ชั่น) ไม่เลวร้ายกว่าเมื่อก่อนครับ ดีทีเดียว
สะอาด รักษ์โลก บางจาก E20s ครับ เห็นว่าได้มาตรฐานยูโร5 คุณภาพผมเฉยๆนะ
สรุปคหสต. ผมชอบเอสโซ่ที่สุดครับ ปรับปรุงปั้มให้ทันสมัยน่าเข้ากว่านี้หน่อยจะดีมากๆ
-
ความรู้สึกแต่ละคน และรถแต่ละคันไม่เหมือนกัน
ตามความเห็นผม
1 คาลเท็ก ดีที่สุด แต่หาเติมยาก และของแถมไม่ค่อยมี เก็บแต้มใช้ the 1 กับ true
2 esso เติมบ่อยสุด มีเก็บแต้มและแถมน้ำ หาเติมไม่ยากสำหรับผม คุณภาพถือว่าดี จึงเติมเจ้านี้บ่อยสุด
3 บางจาก พอๆกับ esso แต่บัตรใช้ร่วมกับดีเซลไม่ได้ จะเติมเมื่อไฟน้ำมันเตือนหรือเป็นทางผ่านจริงๆ
4 ปตท อันนี้กลางๆ ห่วยกว่าบางจากอีกนิด ของแถมไม่มี อาศัยเวลาเดินทางจังหวัดไม่ไว้ใจปั้มอื่น ส่วนใหญ่จะใหญ่และได้มาตรฐานกว่าปั้มอื่น ถือโอกาสพักซื้อของเข้าห้องน้ำด้วย
5 shell ค่อนข้างห่วย เร่งไม่ออก หมดเร็ว ของแถมไม่ค่อยมี จะเติมเมื่อจำเป็นต้องเติมจริงๆ และจะเป็น e10 95 หรือ v power เท่านั้น
pt กับ susco ไม่รู้มีไหม แต่ไม่เคยคิดจะเข้าไปเหยียบ
บางจากออกบัตรบัตรใหม่ เติมได้ทั้งแก๊สโซฮอลและดีเซลครับ
(http://member.bcpgreenmiles.com/images/first/kv.jpg)
-
สอบถามเพิ่มเติมครับ
ระหว่างเติม 95 กับ E20 ตัวไหนจะคุ้มกว่าในกรณีวิ่งทางไกลครับ
-
สอบถามเพิ่มเติมครับ
ระหว่างเติม 95 กับ E20 ตัวไหนจะคุ้มกว่าในกรณีวิ่งทางไกลครับ
ลองดูครับ สลับชนิดละ 2-3ถัง
ผมวิ่งงานเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย-เชียงใหม่
-E20 รถผมได้10กม./ลิตร = 2.3บาท/กม.
-E10 95 Esso Supreme 11กม./ลิตร = 2.8บาท/กม.
ผมชอบE20 เพราะตอนจ่ายถูกกว่า
-
สอบถามเพิ่มเติมครับ
ระหว่างเติม 95 กับ E20 ตัวไหนจะคุ้มกว่าในกรณีวิ่งทางไกลครับ
โซฮอล 95 ให้พลังงานความร้อน 33.44 MJ/L
E20 ให้พลังงานความร้อน 32.08 MJ/L
โซฮอล 95 ให้พลังงานความร้อนมากกว่า แต่ราคาแพงกว่า
เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันวันนี้
โซฮอล 95 เราต้องจ่ายเงิน 0.77 บาท/MJ
E20 เราต้องจ่ายเงิน 0.70 บาท/MJ
สรุป E20 ประหยัดเงินกว่าครับ
ผมชอบเติมE20 บางจาก เพราได้มาตรฐานeuro 5 ครับ
-
ถ้าตามเม้นบน ส่วนตัว ถ้าบางจาก กับ ปตท ผมไม่เชื่อ เพราะผมใช้แค่ 2 ตัวนี้
ส่วนตัวสลับกันเลย
ฉะนั้น ก็สรุปได้ว่า บางที ที่บอกมันแรงๆกว่า นั้น แต่ละคนก็อาจคิดไปเอง เพราะผมก็ใช้เหมือนกัน แต่ทำไมบางจากผม ออกตัวดีกว่า
ฉะนั้นเรื่องความแรง ผมเลยสรุปไม่ได้ เพราะอาจจะมโนเอาเอง
แต่เรื่องความประหยัดบอกเลย บางจากประหยัดกว่า อีกอันแน่นอนแบบชัดเจนไม่ได้แค่นิดหน่อย เพราะไฟขีดน้ำมันไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ
เต็มถัง ทางเดิมคนเดิม ขับเดิมๆ
บางจาก เหลือ 2 - 3 ขีด
ปตท หมดก่อนถึง 60 กม
และใช้ ปตท 2 ปี บางจาก 3 ปีกว่า จนแน่ใจว่ามันจริง
-
ตราดาว .....เท่านั้นครับ
ไม่ใช่แค่แรง....รถผม J32 V6 แก็ส นานๆ ใช้น้ำมันที แต่ก่อนมีอาการ สตาร์ทยาก สั่น เบาดับ เวลาใช้น้ำมัน....ใส่น้ำยาล้างหัวฉีดเข้าไปก็ดีขึ้นนิดหน่อย เรื้อรังมานาน.....ไม่รู้จะแก้ยังงัย
ปีที่แล้วทั้งปีเลย เติม ตราดาว E20 ตลอด ....อาการที่ว่ามาทั้งหมดหายเป็นปลิดทิ้ง ทั้ง start ยาก เบาดับ สั่น หายเป็นปลิดทิ้ง. .....รอดตัวจากการต้องเปลี่ยนหัวฉีดตั้ง 6 หัว
ทุกวันนี้จึงเติม ตราดาว ไว้เต็มถัง นึกได้ที ก็สับน้ำมันมาวิ่งที...เนียนกริบๆ
สมัยก่อน. ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว มี caltex techron ron 97 เติมใน Mazda Astina 1.8 ตัวก่อน MC ของน้า......แม้งงง ....วิ่งระเบิดระเบ้อครับ
ดังนั้นสำหรับบ้านผม รถทุกคันต้อง Caltex เท่านั้น
-
ส่วนตัวผมว่าพอๆกันนะครับ
จากที่เติมแต่ e20 มา2ปีครับ
แต่ช่วงนี้เติมของหอยบ่อยเพราะมีชิงโชคลุ้นรถครับ 55
ใช้ของตราหอยมาช่วงนี้เห็นได้ชัดว่ารอบสวิงครับ
ถ้าเสถียรสุดและวิ่งได้ไกลสุดที่จำได้คือ เสือกับดาวอ่ะครับ
***เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ***
-
สอบถามเพิ่มเติมครับ
ระหว่างเติม 95 กับ E20 ตัวไหนจะคุ้มกว่าในกรณีวิ่งทางไกลครับ
E20 คุ้มสุดครับ แต่ 95 ลื่นกว่าเยอะครับ
-
หอยกับใบไม้ผมว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่ ส่วนที่เหลือไม่เคยเติม
-
เถียงกันไม่จบหรอก
แฟ็คเตอร์รถแต่ละคันไม่เหมือนกัน มีตัวแปรมากมายในการจุดระเบิดหนึ่งครั้ง แต่ละคันออกแบบมาต่างกัน การตอบสนองย่อมไม่เหมือนกัน
ถ้าถามน้ำมันสองชนิดนี้...ผมไม่ใช้มา 4 ปีได้มั้ง ที่ใช้ อี 85+แก๊ส เท่านั้น ออกความเห็นไม่ได้ครับ...
-
ปัญหาที่จะถามคือความแตกต่างระหว่าง ปั๊ม หรือความแตกต่างระหว่าง ยี่ห้อ ล่ะ ถ้าความแตกต่างระหว่างยี่ห้อ ผมเคยใช้ของ ปตท. กับ บางจากเป็นส่วนใหญ่ ไม่เห็นความแตกต่างนะ ระยะหลังๆเลยใช้แต่บางจากเพราะมีของแถมและส่วนลด ผมคิดว่าถ้าเป็น E20 แท้ๆ ไม่ปลอมปน คุณาพไม่น่าจะแตกต่างกัน แต่ความแตกต่างระหว่าง ปั๊ม อันนี้เคยเจอครับ บางปั๊มเติมมาแล้ว รถอืด เร่งไม่ขึ้นก็มี เข้าใจว่าเจอน้ำมันปลอมปน และปั๊มนั้นตอนนี้ก็เจ๊งไปแล้ว ตอนนี้ก็เลยเลือกเติมน้ำมันปั๊มที่ดูดีหน่อย ปั๊มที่คิดว่าน่าจะค้าขายต่อไปอีกนาน ปั๊มพวกนี้คงไม่กล้าปลอมปน
-
ขึ้นอยู่กับรถด้ววครับอย่าง E20 บางจากเป็น EURO 5 เติมกับ Mazda 2 ผมว่าวิ่งลื่นกว่า Caltex และ ESSO และประหยัดกว่าด้วยแต่ช่วงนี้ Caltex เติมแล้วได้ The one Point เลยเติมบ่อยฮ่าๆ